Masuk“พระพายฟังพ่อก่อนนะ...คือ...มันไม่ได้เป็นอย่างที่ลูกเข้าใจนะ...”
เจนภพลำบากใจกับสิ่งที่ตัวเองจะต้องเอ่ยกับลูกสาวอย่างที่สุด เวลานี้เขาจนตรอกไปหมดแล้ว เขาไม่สามารถที่จะปิดความจริงของตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว
“แล้ว...มันคืออะไรคะพ่อ ฮือ ฮือ”
ร่างบางสะอื้นออกมา ความเจ็บปวดกับความจริงที่ได้รับกระแทกมาที่หัวใจของเธออย่างแรง
“เอาอย่างนี้แล้วกัน เวลาที่ผมให้พวกคุณเตรียมตัวทั้งหมดคือสามวัน หลังจากนี้ผมจะกลับมาใหม่ หวังว่าผมคงไม่เห็นหน้าพวกคุณอยู่ในบ้านหลังนี้นะ...ข้องใจอะไรก็ติดต่อผ่านทนายผมได้”
พูดจบพริษฐ์ไม่รอช้า ร่างสูงเดินออกไปทันที วันที่เขารอคอยมานานแสนนาน เขาทำมันสำเร็จแล้ว ‘แม่ครับ...ผมทวงคืนความยุติธรรมให้กับแม่แล้วนะครับ’
“พระพาย...ละ-ลูกฟังพ่อก่อนนะ”
มือหนาอวบอูมยื่นไปหมายจะคว้าตัวของบุตรสาวมากอด แต่ทว่าร่างบางสะบัดตัวออกอย่างแรง! หัวใจของผู้เป็นพ่อหล่นวูบ!
“ฮือ ฮือ พระพายไม่อยากฟังแล้ว...พ่อโกหกพระพายมาตลอด...พระพายเกลียดพ่อ ฮือ ฮือ ที่แม่ทิ้งพระพายไปก็เพราะพ่อเป็นแบบนี้ใช่ไหม...พ่อเป็นคนใจร้าย! พระพายเกลียดพ่อ!”
“พระพาย! ฟังพ่อก่อน! พะ-พ่อ”
ร่างของเจนภพทรุดลงกับโซฟา เมื่อบุตรสาวของเขาวิ่งร้องไห้ออกไป เจนภพไม่อาจทำอะไรได้แล้ว ทุกอย่างที่เขาปกปิดมานับ 20 ปีได้พังทลายลง สิ่งที่เขาได้เคยสร้างไว้ในอดีตนั้นมันเริ่มคืนสนองเขาแล้ว...
“พระพายอยู่ไหนครับป้าน้อย”
กวินกานต์ได้ทราบข่าวนี้จากว่าที่พ่อตาให้เขามาดูแฟนสาว
“คุณหนูอยู่ข้างบนค่ะคุณวีร์...”
ร่างสูงของกวินกานต์ก้าวพรวดขึ้นไปยังห้องของคนรักทันที ลางสังหรณ์บางอย่างเกิดขึ้นในใจของกวินกานต์ สิ่งที่เขาได้พูดกับพ่อเขาวันนี้จะเป็นจริงงั้นหรือ?
แกร๊ก!! ประตูห้องนอนถูกเปิด
“พระพาย...”
สายตาคมจ้องไปยังร่างบางบนเตียงที่กำลังสะอื้นจนตัวโยนอย่างเห็นได้ชัด
“พระพายอยากอยู่คนเดียวค่ะ พี่วีร์”
นันท์นลินยังคงช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอไม่อาจทนรับความจริงนี้ได้ คนที่เธอมองภาพดีมาตลอดกลับกลายเป็นผู้ร้ายทำลายผู้อื่นได้อย่างโหดเหี้ยม
“พี่เป็นห่วงพระพายมากนะครับ...เราจะแต่งงานกันและเรื่องทั้งหมดจะคลี่คลายลงครับ พี่จะช่วยพระพายและอยู่เคียงข้างพระพายนะครับ”
กวินกานต์รักผู้หญิงคนนี้จนหมดใจ ถ้าพ่อเขาจะทำอย่างที่ท่านพูดไว้ล่ะก็ กวินกานต์ก็ยอม เขาไม่อาจทิ้งหัวใจของตัวเองได้
“พระพายแต่งงานกับพี่วีร์ไม่ได้แล้วค่ะ”
ร่างบางผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียง สภาพของเธอตอนนี้ตาบวมแดงช้ำ ที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“ทำไมครับ...พี่รักพระพายและต้องการจะแต่งงานกับพระพาย เรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณอาเจนภพพี่ไม่คิดว่าจะทำให้พี่เปลี่ยนใจได้หรอกครับ พระพายอย่าคิดมากนะครับ พี่จะหาทางช่วยพ่อของพระพายเอง ทำใจให้สบายนะครับ”
มือหนาคว้าร่างบางมากอดเอาไว้แน่น กระชับอ้อมแขนเอาไว้เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดที่มีของเขาไปยังหญิงคนรัก
“เรื่องของคุณพ่อ...เป็นเรื่องใหญ่มากนะคะ พระพายไม่อาจให้พี่วีร์ต้องมารับผิดชอบเรื่องนี้ได้ บริษัทของคุณพ่อถูกเปลี่ยนมือ และบ้านหลังนี้ก็ถูกยึดค่ะ พี่วีร์จะช่วยเรื่องนี้ได้ยังไงคะ หนี้สินมากมายหลายร้อยล้าน ยังไงก็ไม่สามารถที่จะช่วยคุณพ่อได้หรอกค่ะ”
นันท์นลินมองไม่เห็นหนทางไหนเลยที่จะช่วยพ่อของเธอได้ ความเสียใจและความผิดหวังในตัวของพ่อเธอคือส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งคือหน้าที่ของเธอ นันท์นลินเป็นลูกเพียงคนเดียวของพ่อ เธอจะหาทางช่วยพ่อของเธอได้อย่างไรกัน
“พี่จะแต่งงานกับพระพาย และเราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันนะครับ พี่เองก็พอมีเงินส่วนหนึ่งที่จะช่วยพยุงทุกอย่างไว้ได้ครับ”
กวินกานต์คงจะต้องกลับไปคุยกับพ่อของเขา เพื่อขอโอกาสให้เขาได้ช่วยคนที่เขารัก กวินกานต์รักนันท์นลิน เขาไม่อาจทนดูคนรักลำบากอย่างแน่นอน
“พระพายให้พี่วีร์ช่วยขนาดนั้นไม่ได้หรอกค่ะ ครอบครัวของพี่วีร์ คุณอาภากรต้องมาเดือดร้อนเพราะช่วยครอบครัวของพระพายนะคะ...”
“เอาเป็นว่าพระพายทำใจให้สบายนะครับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่เองนะครับ พี่รักพระพายนะครับ”
ริมฝีปากหนาจุมพิตไปยังหน้าผากมนของหญิงสาวอันเป็นที่รักเพื่อถ่ายทอดความรักและความห่วงใย กวินกานต์พร้อมที่จะฝ่าฟันทุกอย่างเพื่อช่วยคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจ...
....................
[ณ สุสานแห่งหนึ่ง]
“แม่ครับ...ธัญญ์ทำวันนี้เพื่อแม่แล้วนะครับ...จากนี้ไปผู้ชายใจร้ายคนนั้นจะได้รับผลกรรมของเขาครับ...”
ช่อดอกไม้ถูกวางไว้หน้าหลุมศพของผู้เป็นแม่ พริษฐ์จะมาเคารพแม่ของเขาทุกครั้งตลอดระยะเวลา 20ปี บางทีที่เขาเหนื่อยล้า เขาก็มักจะมาสถานที่แห่งนี้ เพื่อคุยกับแม่ของเขา ระบายสิ่งที่หนักอึ้งในใจ นอกจากพี่สาวฝาแฝดของเขา พริษฐ์ก็ไม่เหลือใครแล้ว
ความเจ็บปวดที่แสนจะทรมานที่สุด คือการที่เขามองพ่อของตัวเองเศร้าเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า นอกจากจะดื่มเหล้าเมามายแล้ว พ่อของเขายังคิดทำร้ายตัวเองอยู่ตลอดเวลา พ่อโทษตัวเองซ้ำๆ จนลืมไปว่าพ่อยังมีลูกที่ต้องดูแลอีกสองคน เขาและพี่สาวเติบโตมาพร้อมกับความเจ็บปวดดั่งเข็มที่ทิ่มแทงใจ หัวใจของเขาไม่เคยสัมผัสความรักและเอาใจใส่จากบุพการีสักครั้งจากระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา...
.....................
[คฤหาสน์หลังใหญ่...]
“พวกมันดักเราไว้ทุกทางครับนาย มันเป็นแผนการของพวกมันครับ มันส่งคนมาหลอกล่อเรา ตอนนี้เราไม่สามารถที่จะทำอะไรได้แล้วครับนาย”
“เจ็บใจนัก...ลูกของไอ่พงศ์มันกลับมาเอาคืนให้แม่กับพ่อของมัน แผนการของมันคงวางไว้ตั้งแต่ต้น มิน่าล่ะพวกมันถึงเงียบ ความเป็นจริงมันเคลื่อนไหวตลอด...”
เจนภพกำลังคิดทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ความผิดพลาดอันใหญ่หลวงของเขาครั้งนี้ ไม่มีโอกาสรอดเลยแม้แต่นิดเดียว ลำพังตัวเขาคงไม่เท่าไหร่ แต่ลูกสาวสุดที่รักของเขานี่สิ จะเป็นอย่างไรบ้าง
“ทางรอดเราน่าจะยากครับนาย ส่วนเรื่องที่จะให้คุณวีร์กับคุณหนูพระพายแต่งงานเพื่อคอยพยุงเรื่องนี้ ก็เห็นจะไม่ได้แล้วครับ เพราะตอนนี้ทางคุณภากรทราบเรื่องนี้แล้ว และเตรียมการที่จะถอยครับ ผมว่าเขาน่าจะกันไม่ให้คุณวีร์แต่งงานแล้วแหละครับ”
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! แก!”ในเมื่อข้อมือของเธอถูกมัดเอาไว้ รมิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียเมื่อไหร่ เท้าของเธอทำงานแทบจะทันที ทั้งเตะทั้งถีบแบบทุลักทุเลภายในรถยนต์คันหรูสีดำที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันกับแอร์เย็นฉ่ำ “เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ พับผ่าสิ!!” เสียงของภรัณยูคำรามออกมา เขาไม่คิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้ไปเขาคงหลีกหนีผู้หญิงไปสักพัก “แกก็ปล่อยฉันสิ!”เสียงหอบหายใจกระเส่า รมิตาเริ่มหมดแรงตอนนี้สภาพของเธอที่นั่งอยู่ตักของชายแปลกหน้า อกกระเพื่อมไหวภายใต้บราตัวจิ๋ว ทำให้สายตาคมจ้องมาที่เต้าใหญ่คู่นั้นทันที “ปากดีขนาดนี้โดนสักที ก็คงจะดีนะ!” ภรัณยูเริ่มมีความคิดใหม่แทรกเข้ามา สายตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างอันขาวโพลนที่อยู่บนตักของเขา ลมหายใจร้อนสะดุดเข้าที่สองเต้าขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงหายใจของเจ้าตัว “ไอ้แมงดา! อย่างแก! ฉันไม่เอาหรอก! อย่าได้แม้แต่จะคิด!” “อ่อ...ปากดีให้ตลอดล่ะกัน! ไอ่แมงดาคนนี้แหละ! จะทำให้เธอร้องไม่หยุด!”สิ้นประโยค มือหนาก็ยกร่างของเธอคร่อมกับบนตักเขาในสภาพที่เขานั่งพิงอยู
ภรัณยูเห็นด้วยกับเพื่อนหมดแล้วตอนนี้ เขามองไม่เห็นทางที่จะกลบเสียงร้องของยัยม้าพยศนี้ได้ยังไง “กรี๊ดดดด! ฉันไม่ไป! แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ธัญญ์! ธัญญ์คะ”เสียงหวีดร้องคร่ำครวญพร้อมกับความเสียใจที่มีต่อคนรักของเธอตอนนี้มันชัดเจนแล้ว พริษฐ์ไม่ได้รักเธอแล้ว คนรักของเธอเลือกอีนังผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักรมิตาอีกแล้ว... “มานี่! หยุดร้องได้แล้ว! ผมเหนื่อยแล้วนะ” “แกก็ปล่อยฉันสิ! ไอ้แมงดา!”รมิตาใช้คำพูดหยาบคายด่าทอผู้ชายที่จับเธอไว้แน่น เพื่อหวังให้ชายหนุ่มนี้หมดความอดทน “ยัยผู้หญิงปากปลาร้า! อึ่ม!”ภรัณยูพยายามนับหนึ่งถึงร้อย กลั้นความโกรธอย่างที่สุด มือหนาบีบแขนของเธอเอาไว้แน่น เกิดมาก็ไม่เคยเจอ ผู้หญิงอะไรบ้าชะมัด “รัณ! แกพาเธอเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก ไม่ไหวจริงๆ แก้วหูจะแตกแล้ว”นารารัตน์ขับรถมาจอดตรงหลังคลับ ที่ห่างไกลผู้คนพอสมควร พร้อมกับร้องเรียกเพื่อนของเธอ วิธีนี้อาจจะช่วยกลบเสียงยัยหมาบ้านี้ได้ “โอเค เส้นด้าย! แก้วหูฉันระเบิดแล้วเหมือนกัน!” “อีนังบ้า! แกเป็นเพื่อนกับอีนังหน้าด้าน พวกแกกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน! อย่
เสียงทักทายอย่างไม่เป็นมิตรแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเมื่อร่างของรมิตาเดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาเหยียดมองจ้องหาเรื่องเต็มร้อย แม้แฟนหนุ่มของเธอจะห้ามเท่าไหร่รมิตาก็ไม่ยอมฟัง เพราะภายในร่างกายของรมิตานั้นร้อนเป็นไฟ บวกกับแอลกอฮอร์ผสมอยู่พอสมควร เธอจะต้องปิดเกมบ้าบอนี้ให้ได้ “แล้วคุณคิดว่าจะเจอดิฉันที่ไหนหรือคะ...ที่นอกจากเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของคุณพริษฐ์แล้ว...ดิฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีที่ไปสักเท่าไหร่เลยค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยสิคะ”นันท์นลินก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอร์อยู่ในร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกความกล้าที่มีอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนสุมไฟเพิ่มเข้าไปอีก “แก! มันจะมากเกินไปแล้วนะ...แกคิดเหรอว่าธัญญ์เลี้ยงแกไว้และปล่อยให้อยู่สุขสบายแบบนี้...แล้วแกจะมากล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”ความโกรธแล่นปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเจอความพูดตอกกลับจากอีกฝ่าย “แล้วดิฉันจะต้องพูดแบบไหนกับคุณล่ะคะ...ในเมื่อคุณกลับไปถามแฟนของคุณแล้ว คำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น คุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ จะต้องให้ดิฉันตอบแบบไหนถึงจะตรงใจคุณคะ”ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ความมึนตึงเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มทำให้นันท์น
“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด “ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก” “รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ” “พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ” “โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!” “นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ด
เสียงร้องครวญอย่างเจ็บปวด พรินทร์ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ในหัวของเธอก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงสุขสมและเสียวซ่าน แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด หัวใจของพรินทร์เริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการบางอย่างของเธอกำลังจะตามมา ริมฝีปากบางกัดเม้มเอาไว้เพื่ออดกลั้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น “ไม่!! โอ๊ะ! ผมก็ปวด! ธารา!”เสียงทุ้มรอดไรฟันออกมา เอวหนายกขึ้นสูงกดเน้นสะโพกกระแทกแท่งเหล็กฝ่าความคับแคบเข้าไปอย่างแรง! จนทำให้แท่งร้อนแกร่งนั้นทะลุทะลวงเยื้อกั้นเข้าลึกจนสุดลำ! สวบ! มังกรใหญ่กระแทกกระทั้นเสียงดังสนั่น! “กรี๊ดดดด! ไม่นะ! ปล่อย! ฮึก!”เสียงร้องของเธอดังพร้อมกับแท่งร้อนกระแทกเข้ามาช่องทางรักของเธอจนจุก “โอวว์ ซี๊ดดดด...อึ้มมม์ ปล่อยตัวตามสบายธารา!”เสียงหอบกระเส่าสั่งคนตัวเล็ก เมื่อเรือนร่างงามพยายามจะเด้งร่างตัวเองออก จนมือหนาต้องจับล็อคเอวบางเอาไว้แน่น! ตั่บ! เสียงมังกรใหญ่กระทุ้งกระแทกเสียงดังสนั่นจนร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน “ฮึก! แต่มันจะ- เจ็บ!”เสียงร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ช่วงล่างของเธอเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย มือบ
คำหวานถูกหยอดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นความจริง กวินกานต์ไม่ได้โกหกตรงที่เธอเป็นคนสวยและน่ารักเลย เพราะเธอคนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ ใบหน้าขาวนวลเนียนใส ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางอวบอิ่มสีชมพู มันทำให้กวินกานต์แอบหลงใหลเคลิบเคลิ้ม แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะชั่วครู่ เพราะว่า กวินกานต์นั้นรักนันท์นลินเกินกว่าที่จะมองหญิงอื่น เขารักนันท์นลินเพียงคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงตอนนี้คือการแก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ชายที่พรากคนที่รักไปจากเขา เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง... “อื้อออ...” พึมพําอย่างเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังดูดดุนปากบางอย่างดุเดือด ร่างของพรินทร์ลอยเคว้งขึ้นไปในอากาศ กลุ่มผีเสื้อน้อยใหญ่โบยบินไปทั่วช่องท้อง อันเรียบแบนของเธอ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกวัดรัดลิ้นบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังกระเพื่อมไหว “ธะ-ธารา ผะ-ผม โอววว์”เสียงทุ้มครวญครางอย่างเจ็บปวด กวินกานต์ไม่คิดว่าร่างงามจะให้ความรู้กระสันถึงเพียงนี้ ความหวานอันดูดดื่มจากเรียวปากสวย ทำให้กวินกานต์ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวามอย่างง่ายดาย “คะ?” ใ