Masuk“คุณผู้ชายคะ...เอ่อ...คุณผู้หญิงไม่สบายมากนะคะ พาคุณผู้หญิงไปหาหมอเถอะค่ะ”
แววดาวผู้ซึ่งเห็นเหตุการณ์เรื่องราวทุกอย่างภายในบ้าน เธอทนเห็นความเพิกเฉยของคุณผู้ชายไม่ไหว จนต้องเอ่ยปาก ตั้งแต่เกิดเรื่อง คุณพุฒิพงศ์กับคุณกนกรดาก็ทะเลาะกันตลอดถึงเรื่องราวที่คนใจร้ายนั้นได้กระทำไว้
“โทรตามหมอมารักษาที่นี่สิ”
พุฒิพงศ์รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ความโกรธแค้นที่เพื่อนรักของเขาทำกับภรรยาที่เขารักที่สุด พุฒิพงศ์คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะทำใจให้ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ได้
“ค่ะ...แล้วคุณผู้ชายจะไม่ขึ้นไปดูคุณผู้หญิงหน่อยหรือคะ ตอนนี้แววว่าอาการของเธอค่อนข้างหนักนะคะ คุณผู้หญิงเอาแต่ร้องไห้ และไม่ยอมทานอะไรเลยค่ะ คุณผู้ชายไปขอร้องคุณผู้หญิงหน่อยได้ไหมคะ”
แววดาวพยายามจะเสนอแนะทางออก อย่างน้อยอาจจะทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นกว่าเดิมก็ได้
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยแล้ว เธอก็ไปดูแลแทนฉันแล้วกัน มีอะไรก็ค่อยมาบอกฉัน”
น้ำสีเหลืองอำพันถูกสาดเข้าไปในลำคอทันทีที่พูดจบ สิ่งนี้มันช่วยพุฒิพงศ์ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย
“ค่ะ”
ห้องนอนใหญ่...
“แม่ครับ...นี่ธัญญ์นะครับ...แม่ทานข้าวสักหน่อยนะครับ ธัญญ์ป้อนให้แม่นะครับ”
เด็กน้อยตักข้าวพร้อมจ่อเข้าปากผู้เป็นแม่ แต่ทว่าผู้เป็นแม่กลับนิ่งเฉยน้ำตาไหลพรากตลอดเวลา
“พี่ธาราเช็ดน้ำตาให้แม่หน่อยครับ”
พริษฐ์หันไปสั่งพี่สาวที่นั่งดูอยู่ไม่ห่าง เด็กทั้งสองไม่ยอมไปโรงเรียนมาหลายวัน เหตุผลเพราะห่วงบุพการีอย่างที่สุด
“คุณผู้หญิงคะ...แววโทรหาคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ เดี๋ยวคุณหมอจะเข้ามาค่ะ”
แววดาวมองผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียง ซึ่งตอนนี้ซูบผอมใบหน้าซีดเซียว ดวงตาเลื่อนลอยราวกับคนกำลังจมอยู่กับความคิดตลอดเวลา แววดาวคิดว่ากำลังใจคือสิ่งสำคัญจากคนรัก แต่คุณผู้ชายกลับนิ่งเฉยและยังคงระแวงแคลงใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ความบอบช้ำทางร่างกายมีไม่มาก แต่ความเจ็บปวดในจิตใจต่างหากที่ซ้ำเติมเธอคนนี้
คฤหาสน์หลังใหญ่...
“ถ้าเธอจะไป ก็ไปได้แค่ตัว แต่เธอห้ามเอาลูกของผมไปเด็ดขาดวดี...”
เจนภพตะคอกด้วยน้ำเสียงโกรธขึ้งอย่างที่สุด เมื่อภรรยาที่ตบแต่งและถูกต้องตามกฎหมายที่อยู่ด้วยกันมาสามปี วันนี้มาขอแยกทางกับเขา โดยอ้างเหตุผลว่าเจนภพไม่รักเธอ
“ลูกพึ่งจะครบขวบ...ขอวดีเถอะนะคะคุณพี่...ทรัพย์สมบัติทุกอย่างวดีไม่ขอรับ...ขอแค่ลูกเพียงอย่างเดียว”
นราวดีหญิงสาววัย 26 ปีเอ่ยร้องขอผู้เป็นสามี เธอจะตกลงแต่งงานกับเขา เพราะพ่อแม่ของเธอบอกว่าเธอกับเขาเหมาะสมกันทุกอย่าง ทั้งฐานะและความมีหน้ามีตาทางสังคม ในตอนแรกเธอก็คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่พอแต่งงานได้ไม่นาน เขากลับไม่สนใจเธอ อีกทั้งยังเพ้อเฝ้าคิดถึงแต่แฟนเก่าของเขาอยู่ตลอดเวลา นราวดีพยายามอดทนตั้งท้องลูกคนแรกและคลอดลูกสาวของเธอออกมา ในวันนี้นราวดีจะไม่ขอทนอยู่กับผู้ชายคนนี้อีกต่อไปแล้ว
“แลกกัน...เธอเอาทรัพย์สมบัติไปได้ตามที่เธอต้องการ...แต่ ‘พระพาย’ต้องอยู่กับผม ถึงแม้ผมจะเป็นสามีที่ดีให้คุณไม่ได้ แต่ผมพร้อมที่จะเป็นพ่อที่ดีได้แน่นอน...”
เจนภพมองบุตรสาวตัวน้อยที่อยู่ในเปลอย่างรักใคร่ เจนภพจะไม่ยอมเสียนางฟ้าตัวน้อยของเขาไปอย่างเด็ดขาด
“ไม่ค่ะ...วดีจะเอาลูกไปด้วย”
นราวดีตั้งใจที่จะย้ายไปอยู่ต่างประเทศตามพ่อกับแม่ของเธอไป เธออยู่กับเจนภพไม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยตบตีเธอเลยสักครั้ง แต่เขาก็ยังไม่หยุดในความมักมากในกามอารมณ์ของตัวเอง กลับทำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“งั้น...เธอก็อย่าหวังว่าจะได้ออกจากบ้านหลังนี้ไป...ไอ่นพ! ”
“ครับนาย”
“อย่าให้คุณผู้หญิงออกจากบ้านหลังนี้ไปได้เด็ดขาด ถ้าแกให้ผู้หญิงออกไปได้ล่ะก็...แกเตรียมหางานทำใหม่ได้เลย”
น้ำเสียงเผด็จการสั่งตรงถึงลูกน้องคนสนิททันที
“ไม่นะคะ...คุณจะทำแบบนี้กับวดีไม่ได้! ถ้าคุณไม่ยอมวดีจะฟ้องหย่าคุณค่ะ...คอยดู!”
นราวดีงัดไม้เด็ดครั้งสุดท้ายเพื่อมาต่อกรกับเขา เธอไม่อาจทนอยู่กับผู้ชายใจร้ายมักมากคนนี้ได้อีกแล้ว แม้แต่วินาทีเดียวก็จะไม่ทน!
“ฟ้องเลย...ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณจะทำได้ดีกว่าผม...วดี!”
แววตาดุดันอาฆาตมาดร้ายสาดไปยังหญิงสาวผู้เป็นภรรยาทันที ถ้าให้เลือกระหว่างลูกกับภรรยา ตอนนี้เขาได้เลือกไปแล้ว และไม่เคยนึกเสียใจ เพราะตัวเขาเองไม่อาจทำได้ อย่างที่ภรรยาเขาต้องการ หัวใจของเขามันไม่ได้อยู่ที่เธอ แต่มันกลับไปอยู่ที่ใครอีกคนหนึ่ง...
ความรู้สึกที่ได้ครอบครองหญิงอันเป็นที่รัก มันควรจะมีความสุขและสะใจที่ได้แก้แค้น แต่ทำไมเจนภพถึงไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลย จนกระทั่งบัดนี้ ภาพถ่ายโป๊ะเปลือยของกนกรดาที่ถูกตัดต่อโดยฝีมือของลูกน้องเขา ส่งตรงไปยังสมาร์ทโฟนของพุฒิพงศ์เพื่อนรักเพื่อนแค้นของเขา เพื่อการเอาคืนที่สมบูรณ์แบบและสะใจ แต่ทำไมตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกยินดีกับสิ่งที่ทำเลยสักนิด
“ดะ-ได้โปรด...คุณเจนภพ”
นราวดียกมือไหว้สามีของเธอ เพื่อร้องขอครั้งสุดท้าย
“ไปแต่ตัว...ถ้าวันหนึ่งคุณอยากกลับมาเยี่ยมลูก ผมจะไม่ห้ามหรือกีดกันคุณเลยวดี...”
“ตะ-แต่”
“คุณมีทางเลือกทางเดียว! เท่านั้น!”
......................
เช้าวันหนึ่ง...ห้องนอนใหญ่
“กรี๊ดดดดดด!!!”
เสียงกรีดร้องดังสนั่นทั่วบ้าน จนทำให้เหล่าบรรดาสาวใช้วิ่งกรูเข้ามายังต้นเหตุของเสียง รวมไปถึงเด็กน้อยลูกเจ้าของบ้านเข้ามาอย่างตื่นตระหนกตกใจ
“แม่ครับ!!!”
“คุณผู้หญิง!!!!”
“คุณแม่!!!”
เสียงร้องดังตะโกนโหวกเหวก และตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น ร่างของหญิงสาวนอนจมกองเลือดบนเตียงใหญ่
“จันทร์แรม! แกโทรเรียกรถพยาบาลเดี๋ยวนี้!”
“แม่ครับ!! ฮือ ฮือ แม่เป็นอะไรครับ...แม่ตื่นมาคุยกับธัญญ์ก่อนครับ...ฮือ ฮือ”
เด็กน้อยโผเข้ากอดร่างของผู้เป็นแม่ร่ำไห้ปานใจจะขาดแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“แม่คะ!! แม่! ฮือ ฮือ” เด็กหญิงเขย่าตัวผู้เป็นแม่พร้อมกับน้ำตาหลั่งไหลอาบสองแก้ม
“คุณหนู...ออกมาก่อนนะคะ...พี่เดช! มาเอาตัวคุณหนูออกไปก่อนค่ะพี่!”
แววดาวจัดแจงเรียกคนขับรถเข้ามาช่วย ภาพที่เห็นน่าเวทนายิ่งนัก ทำไมคุณผู้หญิงถึงคิดสั้นขนาดนี้ แววดาวมองข้อมือของผู้เป็นนายที่ถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะ
“พี่แววคะรถพยาบาลมาแล้วค่ะ...ส่วนคุณผู้ชายยังติดต่อไม่ได้ค่ะ...”
“อืม...เร็วไปช่วยพี่เดชดูคุณหนูด้วย อย่าให้คุณหนูตามไปนะ เดี๋ยวพี่จะไปกับรถพยาบาลเอง และพยายามโทรติดต่อคุณผู้ชายให้ได้นะ...จันทร์แรม”
“ค่ะ”
.....................
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! แก!”ในเมื่อข้อมือของเธอถูกมัดเอาไว้ รมิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียเมื่อไหร่ เท้าของเธอทำงานแทบจะทันที ทั้งเตะทั้งถีบแบบทุลักทุเลภายในรถยนต์คันหรูสีดำที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันกับแอร์เย็นฉ่ำ “เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ พับผ่าสิ!!” เสียงของภรัณยูคำรามออกมา เขาไม่คิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้ไปเขาคงหลีกหนีผู้หญิงไปสักพัก “แกก็ปล่อยฉันสิ!”เสียงหอบหายใจกระเส่า รมิตาเริ่มหมดแรงตอนนี้สภาพของเธอที่นั่งอยู่ตักของชายแปลกหน้า อกกระเพื่อมไหวภายใต้บราตัวจิ๋ว ทำให้สายตาคมจ้องมาที่เต้าใหญ่คู่นั้นทันที “ปากดีขนาดนี้โดนสักที ก็คงจะดีนะ!” ภรัณยูเริ่มมีความคิดใหม่แทรกเข้ามา สายตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างอันขาวโพลนที่อยู่บนตักของเขา ลมหายใจร้อนสะดุดเข้าที่สองเต้าขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงหายใจของเจ้าตัว “ไอ้แมงดา! อย่างแก! ฉันไม่เอาหรอก! อย่าได้แม้แต่จะคิด!” “อ่อ...ปากดีให้ตลอดล่ะกัน! ไอ่แมงดาคนนี้แหละ! จะทำให้เธอร้องไม่หยุด!”สิ้นประโยค มือหนาก็ยกร่างของเธอคร่อมกับบนตักเขาในสภาพที่เขานั่งพิงอยู
ภรัณยูเห็นด้วยกับเพื่อนหมดแล้วตอนนี้ เขามองไม่เห็นทางที่จะกลบเสียงร้องของยัยม้าพยศนี้ได้ยังไง “กรี๊ดดดด! ฉันไม่ไป! แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ธัญญ์! ธัญญ์คะ”เสียงหวีดร้องคร่ำครวญพร้อมกับความเสียใจที่มีต่อคนรักของเธอตอนนี้มันชัดเจนแล้ว พริษฐ์ไม่ได้รักเธอแล้ว คนรักของเธอเลือกอีนังผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักรมิตาอีกแล้ว... “มานี่! หยุดร้องได้แล้ว! ผมเหนื่อยแล้วนะ” “แกก็ปล่อยฉันสิ! ไอ้แมงดา!”รมิตาใช้คำพูดหยาบคายด่าทอผู้ชายที่จับเธอไว้แน่น เพื่อหวังให้ชายหนุ่มนี้หมดความอดทน “ยัยผู้หญิงปากปลาร้า! อึ่ม!”ภรัณยูพยายามนับหนึ่งถึงร้อย กลั้นความโกรธอย่างที่สุด มือหนาบีบแขนของเธอเอาไว้แน่น เกิดมาก็ไม่เคยเจอ ผู้หญิงอะไรบ้าชะมัด “รัณ! แกพาเธอเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก ไม่ไหวจริงๆ แก้วหูจะแตกแล้ว”นารารัตน์ขับรถมาจอดตรงหลังคลับ ที่ห่างไกลผู้คนพอสมควร พร้อมกับร้องเรียกเพื่อนของเธอ วิธีนี้อาจจะช่วยกลบเสียงยัยหมาบ้านี้ได้ “โอเค เส้นด้าย! แก้วหูฉันระเบิดแล้วเหมือนกัน!” “อีนังบ้า! แกเป็นเพื่อนกับอีนังหน้าด้าน พวกแกกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน! อย่
เสียงทักทายอย่างไม่เป็นมิตรแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเมื่อร่างของรมิตาเดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาเหยียดมองจ้องหาเรื่องเต็มร้อย แม้แฟนหนุ่มของเธอจะห้ามเท่าไหร่รมิตาก็ไม่ยอมฟัง เพราะภายในร่างกายของรมิตานั้นร้อนเป็นไฟ บวกกับแอลกอฮอร์ผสมอยู่พอสมควร เธอจะต้องปิดเกมบ้าบอนี้ให้ได้ “แล้วคุณคิดว่าจะเจอดิฉันที่ไหนหรือคะ...ที่นอกจากเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของคุณพริษฐ์แล้ว...ดิฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีที่ไปสักเท่าไหร่เลยค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยสิคะ”นันท์นลินก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอร์อยู่ในร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกความกล้าที่มีอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนสุมไฟเพิ่มเข้าไปอีก “แก! มันจะมากเกินไปแล้วนะ...แกคิดเหรอว่าธัญญ์เลี้ยงแกไว้และปล่อยให้อยู่สุขสบายแบบนี้...แล้วแกจะมากล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”ความโกรธแล่นปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเจอความพูดตอกกลับจากอีกฝ่าย “แล้วดิฉันจะต้องพูดแบบไหนกับคุณล่ะคะ...ในเมื่อคุณกลับไปถามแฟนของคุณแล้ว คำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น คุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ จะต้องให้ดิฉันตอบแบบไหนถึงจะตรงใจคุณคะ”ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ความมึนตึงเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มทำให้นันท์น
“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด “ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก” “รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ” “พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ” “โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!” “นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ด
เสียงร้องครวญอย่างเจ็บปวด พรินทร์ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ในหัวของเธอก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงสุขสมและเสียวซ่าน แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด หัวใจของพรินทร์เริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการบางอย่างของเธอกำลังจะตามมา ริมฝีปากบางกัดเม้มเอาไว้เพื่ออดกลั้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น “ไม่!! โอ๊ะ! ผมก็ปวด! ธารา!”เสียงทุ้มรอดไรฟันออกมา เอวหนายกขึ้นสูงกดเน้นสะโพกกระแทกแท่งเหล็กฝ่าความคับแคบเข้าไปอย่างแรง! จนทำให้แท่งร้อนแกร่งนั้นทะลุทะลวงเยื้อกั้นเข้าลึกจนสุดลำ! สวบ! มังกรใหญ่กระแทกกระทั้นเสียงดังสนั่น! “กรี๊ดดดด! ไม่นะ! ปล่อย! ฮึก!”เสียงร้องของเธอดังพร้อมกับแท่งร้อนกระแทกเข้ามาช่องทางรักของเธอจนจุก “โอวว์ ซี๊ดดดด...อึ้มมม์ ปล่อยตัวตามสบายธารา!”เสียงหอบกระเส่าสั่งคนตัวเล็ก เมื่อเรือนร่างงามพยายามจะเด้งร่างตัวเองออก จนมือหนาต้องจับล็อคเอวบางเอาไว้แน่น! ตั่บ! เสียงมังกรใหญ่กระทุ้งกระแทกเสียงดังสนั่นจนร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน “ฮึก! แต่มันจะ- เจ็บ!”เสียงร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ช่วงล่างของเธอเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย มือบ
คำหวานถูกหยอดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นความจริง กวินกานต์ไม่ได้โกหกตรงที่เธอเป็นคนสวยและน่ารักเลย เพราะเธอคนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ ใบหน้าขาวนวลเนียนใส ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางอวบอิ่มสีชมพู มันทำให้กวินกานต์แอบหลงใหลเคลิบเคลิ้ม แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะชั่วครู่ เพราะว่า กวินกานต์นั้นรักนันท์นลินเกินกว่าที่จะมองหญิงอื่น เขารักนันท์นลินเพียงคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงตอนนี้คือการแก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ชายที่พรากคนที่รักไปจากเขา เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง... “อื้อออ...” พึมพําอย่างเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังดูดดุนปากบางอย่างดุเดือด ร่างของพรินทร์ลอยเคว้งขึ้นไปในอากาศ กลุ่มผีเสื้อน้อยใหญ่โบยบินไปทั่วช่องท้อง อันเรียบแบนของเธอ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกวัดรัดลิ้นบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังกระเพื่อมไหว “ธะ-ธารา ผะ-ผม โอววว์”เสียงทุ้มครวญครางอย่างเจ็บปวด กวินกานต์ไม่คิดว่าร่างงามจะให้ความรู้กระสันถึงเพียงนี้ ความหวานอันดูดดื่มจากเรียวปากสวย ทำให้กวินกานต์ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวามอย่างง่ายดาย “คะ?” ใ







