Masuk“ความรักที่ฉันมอบให้กับคุณมันช่างไร้ค่า...ฉันเสียใจอย่างที่สุด...คนที่ฉันรัก...กลับกลายเป็นคนเหยียบย่ำหัวใจของฉันเอง...ความไม่เชื่อใจกัน...คือสิ่งที่ฉันทรมานหัวใจอย่างที่สุด...ฉันไม่อาจทนกับความเจ็บปวดนี้ได้อีกแล้ว...ความรักอันงดงามในภาพจำของฉันในวันนี้...มันจบลง...ฉันไม่สามารถทนอยู่กับความอัปยศของตัวเองได้อีกต่อไป...ฉันคงไม่โทษใคร...นอกจากตัวฉันเอง...ฝากบอกลูกน้อยทั้งสองของฉัน...ว่าแม่คนนี้รักลูกเสมอ...ขอโทษ...ธัญญ์ กับ ธารา ที่แม่ไม่อาจอยู่บนโลกนี้ได้อีกแล้ว...การจากลาเจ็บปวดเสมอหากชาติหน้ามีจริง...ฉันคนนี้...จะขอไม่รู้จักคุณอีกต่อไป...กนกรดา”
มือหนาจับกระดาษแผ่นหนึ่งด้วยอาการที่สั่นเทา ข้อความถูกอ่านซ้ำๆ เดิมๆ หลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่เจ้าของกระดาษแผ่นนี้ไม่ได้อยู่บนโลกแห่งนี้แล้ว...กนกรดาจากเขาและลูกน้อยไปไม่มีวันหวนกลับ...
“คะ-คุณผู้ชายคะ...คุณหนูธัญญ์กับคุณหนูธาราหลับแล้วค่ะ...แต่ว่าคุณหนูเอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมทานอะไรเลยค่ะ”
แววดาวเข้ามารายงานผู้เป็นนาย หลังจากที่เหตุการณ์การจากไปของคุณนายของบ้านผ่านมานับสิบวันแล้ว บรรยากาศภายในบ้านเศร้าสลดหดหู่เป็นอย่างมาก แววดาวสงสารคุณหนูทั้งสอง ภาพจำที่เลวร้ายทั้งหมดถูกบันทึกไว้ในความทรงจำที่แสนเจ็บปวดที่สุดในชีวิตของคนทั้งสอง...
“ฝากเธอช่วยดูลูกของฉันด้วย ขาดเหลืออะไรบอกฉัน”
พุฒิพงศ์เอ่ยประโยคสั้นๆ การจากไปของกนกรดายิ่งทำให้เขาดำดิ่งลึกเข้าไปอีก เขาโทษตัวเองซ้ำๆ เขาเป็นคนทำร้ายเธอ คนที่ควรจะให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างเธอควรจะเป็นเขา แต่เขากลับซ้ำเติมเธอเข้าไปอีก เธอคงผิดหวังในตัวเขา พุฒิพงศ์จมอยู่กับความคิดโทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมา...
“เอ่อ...คุณผู้ชายคะ แววขออนุญาตพูดอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
“อืม...ได้สิ”
“คุณผู้ชายได้แต่โทษตัวเองแบบนี้ นอกจากคุณผู้หญิงจะไม่กลับมาแล้ว ตอนนี้คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือคุณหนูทั้งสองคนนะคะ แววคิดว่า ตอนนี้คุณหนูบอบช้ำที่สุด และต้องการกำลังใจจากคุณผู้ชายนะคะ...ทำไมคุณผู้ชายถึงปล่อยคุณหนูแบบนี้คะ...คุณผู้หญิงจะฝากคุณผู้ชายให้ดูแลคุณหนูนะคะ”
แววดาวรู้สึกเหลืออดกับสิ่งที่เกิดขึ้นเต็มทน ไม่ว่านายจ้างของเธอจะต่อว่าหรือไล่เธอออกเพราะสิ่งนี้ล่ะก็ เธอพร้อมเสมอ...
“ฉัน...ทำไม่ได้...ตอนนี้ฉันไม่มีแรงใช้ชีวิตได้อีกต่อไปแล้ว ฉันมันคนอ่อนแอ...ฉันเป็นคนทำร้ายรดา...ฉันทำร้ายเธอ...ฉัน...”
น้ำตาลูกผู้ชายรินไหลออกมาไม่หยุด...
“แต่คุณผู้หญิงไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วนะคะ...สิ่งที่คุณผู้ชายควรจะทำ...คือการดูแลคุณหนูทั้งสอง...ถ้าคุณผู้ชายรักคุณผู้หญิงจริงๆ คุณผู้ชายต้องสู้ และเลี้ยงคุณหนูต่อไปค่ะ...”
“ฉันไม่มีแรงแล้ว...ไม่มี...แม้กระทั่ง...หายใจ...”
[ถึง...ธัญญ์และธาราลูกของแม่]
“แม่ขอโทษ...ที่ไม่สามารถอยู่กับลูกได้...แม่พยายามแล้ว...แต่มันก็ไม่สำเร็จ...แม่ไม่ได้จากไปไหน...ยังคงอยู่เคียงข้างลูกเสมอ...ถ้าวันใดที่ลูกคิดถึงแม่...โปรดจงมองขึ้นไปบนฟ้า...แม่เฝ้ามองลูกอยู่เสมอ...ลูกจงเติบโตเป็นผู้ใหญ่และเป็นคนดี...แม่ภูมิใจในตัวลูกทั้งสอง...แม่จะอยู่บนฟ้ามองดูลูกทุกวัน...จำไว้เสมอ...แม่รักลูก...ธัญญ์&ธารา”
“ฮือ ฮือ ทำไมแม่ทิ้งธัญญ์ไปแบบนี้ แม่ไม่รักธัญญ์ ฮือ ฮือ”
เด็กน้อยร่ำไห้ปานใจจะขาด ในวันนี้เขาไม่เหลือสิ่งใดอีกต่อไปแล้ว
“คุณแม่อยู่บนท้องฟ้า ไม่ได้ไปไหนนะ ธาราจะดูแลธัญญ์นะ อย่าร้องไห้เลยนะ...”
ผู้เป็นพี่ดึงน้องชายฝาแฝดมากอดเอาไว้แน่น ความเจ็บปวดและความสูญเสียที่เกิดขึ้นนี้จะอยู่ในความทรงจำของเธอและเขาตลอดไปตราบนานเท่านาน..
........................
20 ปีต่อมา...
[ณ คฤหาสน์หลังใหญ่]
ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงสมาร์ทโฟนดังลั่น
“ว่าไง...” เจนภพในวัย 57 ปีรับสายโทรจากลูกน้องคนสนิททันที
“นายครับผู้จัดการโทรมารายงานครับ...ว่าตอนนี้ทางฝั่งลูกค้าไม่ยอมเซ็นสัญญากับเราครับ...อ้างว่ามีบริษัทอื่นติดต่อมาก่อนหน้าเราแล้วครับ”
มานพลูกน้องคนสนิทของเจนภพรายงานผู้เป็นนาย
“ใครที่มันกล้ามาตัดหน้าบริษัทฉันวะ!!”
เจนภพกระชากเสียงออกมาอย่างเดือดดาล ธุรกิจนำเข้าเครื่องจักรและการวางระบบอุตสาหกรรมในโรงงานของเขาต้องหยุดชะงักหลายครั้งหลายครา เพราะมีนายทุนหลายรายตัดหน้าไป จนทำให้ ณ ตอนนี้บริษัทของเขาขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนัก ส่วนการกู้ยืมเงิน เขาก็กู้มาจนเต็มเพดานของบริษัทไปแล้ว
“บริษัทอัครกิจวัฒนา ครับนาย...”
มานพรู้ว่านายจะต้องตกใจกับชื่อบริษัทที่เขาบอกอย่างแน่นอน
“บริษัทไอ่พงศ์นี่...ทำไมมันยังอยู่อีก...มันปิดกิจการและล้มละลายไปหลายปีแล้วไม่ใช่เหรอ มันยังไงกันวะ”
เจนภพตกใจกับสิ่งที่เขาได้ยิน ความย่อยยับและพังพินาศของเพื่อนรักเขา และการจากไปของกนกรดา หญิงคนรักที่อยู่ในใจของเขาตลอดกาลนั้น ช็อกความรู้สึกของเจนภพเป็นอย่างมาก เจนภพไม่คิดเลยว่ากนกรดาจะคิดสั้นขนาดนั้น การแก้แค้นของเขา แค่อยากเอาคืนเพื่อนสนิทเขาก็เท่านั้น ไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์เหล่านั้นจะบานปลายและเลวร้ายถึงเพียงนี้
“สายรายงานมาว่า ที่นายพุฒิพงศ์หายไปเมื่อห้าปีที่แล้วหลังจากบริษัทล้มละลายไป ตอนนี้มีข่าวลืออีกครับ ว่านายพุฒิพงศ์เสียชีวิตแล้วครับนาย”
“ห๊า!! อะไรนะ! ไอ่พงศ์มันตายไปแล้วเหรอ! ทำไมเรื่องนี้ฉันถึงไม่รู้มาก่อน”
หลังจากความย่อยยับและพังทลายของครอบครัวเพื่อนของเจนภพเกิดขึ้น เขาก็ได้รู้มาว่าพุฒิพงศ์เสียใจและติดสุราอย่างหนัก แต่ไม่คิดว่าเพื่อนของเขาจะเป็นเช่นนี้
“ทางนั้นน่าจะปิดข่าวครับนาย เพราะเกรงว่าบริษัทอาจจะได้รับผลกระทบ หรืออาจจะเป็นเหตุผลอื่น ผมก็ไม่ทราบครับนาย เราเฝ้าตามสืบนานหลายปีครับ แต่ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร”
“แล้วลูกของไอ่พงศ์ล่ะ อยู่ไหน”
เจนภพจำลูกของกนกรดาได้เป็นอย่างดี ความผิดที่เขาเคยก่อไว้ มันวนเวียนอยู่ในภาพจำของเขาตลอดเวลา จนคิดไว้ว่า วันหนึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะมาถึงตัวเขาได้ในสักวัน
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! แก!”ในเมื่อข้อมือของเธอถูกมัดเอาไว้ รมิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียเมื่อไหร่ เท้าของเธอทำงานแทบจะทันที ทั้งเตะทั้งถีบแบบทุลักทุเลภายในรถยนต์คันหรูสีดำที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันกับแอร์เย็นฉ่ำ “เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ พับผ่าสิ!!” เสียงของภรัณยูคำรามออกมา เขาไม่คิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้ไปเขาคงหลีกหนีผู้หญิงไปสักพัก “แกก็ปล่อยฉันสิ!”เสียงหอบหายใจกระเส่า รมิตาเริ่มหมดแรงตอนนี้สภาพของเธอที่นั่งอยู่ตักของชายแปลกหน้า อกกระเพื่อมไหวภายใต้บราตัวจิ๋ว ทำให้สายตาคมจ้องมาที่เต้าใหญ่คู่นั้นทันที “ปากดีขนาดนี้โดนสักที ก็คงจะดีนะ!” ภรัณยูเริ่มมีความคิดใหม่แทรกเข้ามา สายตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างอันขาวโพลนที่อยู่บนตักของเขา ลมหายใจร้อนสะดุดเข้าที่สองเต้าขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงหายใจของเจ้าตัว “ไอ้แมงดา! อย่างแก! ฉันไม่เอาหรอก! อย่าได้แม้แต่จะคิด!” “อ่อ...ปากดีให้ตลอดล่ะกัน! ไอ่แมงดาคนนี้แหละ! จะทำให้เธอร้องไม่หยุด!”สิ้นประโยค มือหนาก็ยกร่างของเธอคร่อมกับบนตักเขาในสภาพที่เขานั่งพิงอยู
ภรัณยูเห็นด้วยกับเพื่อนหมดแล้วตอนนี้ เขามองไม่เห็นทางที่จะกลบเสียงร้องของยัยม้าพยศนี้ได้ยังไง “กรี๊ดดดด! ฉันไม่ไป! แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ธัญญ์! ธัญญ์คะ”เสียงหวีดร้องคร่ำครวญพร้อมกับความเสียใจที่มีต่อคนรักของเธอตอนนี้มันชัดเจนแล้ว พริษฐ์ไม่ได้รักเธอแล้ว คนรักของเธอเลือกอีนังผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักรมิตาอีกแล้ว... “มานี่! หยุดร้องได้แล้ว! ผมเหนื่อยแล้วนะ” “แกก็ปล่อยฉันสิ! ไอ้แมงดา!”รมิตาใช้คำพูดหยาบคายด่าทอผู้ชายที่จับเธอไว้แน่น เพื่อหวังให้ชายหนุ่มนี้หมดความอดทน “ยัยผู้หญิงปากปลาร้า! อึ่ม!”ภรัณยูพยายามนับหนึ่งถึงร้อย กลั้นความโกรธอย่างที่สุด มือหนาบีบแขนของเธอเอาไว้แน่น เกิดมาก็ไม่เคยเจอ ผู้หญิงอะไรบ้าชะมัด “รัณ! แกพาเธอเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก ไม่ไหวจริงๆ แก้วหูจะแตกแล้ว”นารารัตน์ขับรถมาจอดตรงหลังคลับ ที่ห่างไกลผู้คนพอสมควร พร้อมกับร้องเรียกเพื่อนของเธอ วิธีนี้อาจจะช่วยกลบเสียงยัยหมาบ้านี้ได้ “โอเค เส้นด้าย! แก้วหูฉันระเบิดแล้วเหมือนกัน!” “อีนังบ้า! แกเป็นเพื่อนกับอีนังหน้าด้าน พวกแกกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน! อย่
เสียงทักทายอย่างไม่เป็นมิตรแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเมื่อร่างของรมิตาเดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาเหยียดมองจ้องหาเรื่องเต็มร้อย แม้แฟนหนุ่มของเธอจะห้ามเท่าไหร่รมิตาก็ไม่ยอมฟัง เพราะภายในร่างกายของรมิตานั้นร้อนเป็นไฟ บวกกับแอลกอฮอร์ผสมอยู่พอสมควร เธอจะต้องปิดเกมบ้าบอนี้ให้ได้ “แล้วคุณคิดว่าจะเจอดิฉันที่ไหนหรือคะ...ที่นอกจากเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของคุณพริษฐ์แล้ว...ดิฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีที่ไปสักเท่าไหร่เลยค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยสิคะ”นันท์นลินก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอร์อยู่ในร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกความกล้าที่มีอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนสุมไฟเพิ่มเข้าไปอีก “แก! มันจะมากเกินไปแล้วนะ...แกคิดเหรอว่าธัญญ์เลี้ยงแกไว้และปล่อยให้อยู่สุขสบายแบบนี้...แล้วแกจะมากล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”ความโกรธแล่นปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเจอความพูดตอกกลับจากอีกฝ่าย “แล้วดิฉันจะต้องพูดแบบไหนกับคุณล่ะคะ...ในเมื่อคุณกลับไปถามแฟนของคุณแล้ว คำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น คุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ จะต้องให้ดิฉันตอบแบบไหนถึงจะตรงใจคุณคะ”ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ความมึนตึงเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มทำให้นันท์น
“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด “ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก” “รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ” “พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ” “โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!” “นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ด
เสียงร้องครวญอย่างเจ็บปวด พรินทร์ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ในหัวของเธอก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงสุขสมและเสียวซ่าน แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด หัวใจของพรินทร์เริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการบางอย่างของเธอกำลังจะตามมา ริมฝีปากบางกัดเม้มเอาไว้เพื่ออดกลั้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น “ไม่!! โอ๊ะ! ผมก็ปวด! ธารา!”เสียงทุ้มรอดไรฟันออกมา เอวหนายกขึ้นสูงกดเน้นสะโพกกระแทกแท่งเหล็กฝ่าความคับแคบเข้าไปอย่างแรง! จนทำให้แท่งร้อนแกร่งนั้นทะลุทะลวงเยื้อกั้นเข้าลึกจนสุดลำ! สวบ! มังกรใหญ่กระแทกกระทั้นเสียงดังสนั่น! “กรี๊ดดดด! ไม่นะ! ปล่อย! ฮึก!”เสียงร้องของเธอดังพร้อมกับแท่งร้อนกระแทกเข้ามาช่องทางรักของเธอจนจุก “โอวว์ ซี๊ดดดด...อึ้มมม์ ปล่อยตัวตามสบายธารา!”เสียงหอบกระเส่าสั่งคนตัวเล็ก เมื่อเรือนร่างงามพยายามจะเด้งร่างตัวเองออก จนมือหนาต้องจับล็อคเอวบางเอาไว้แน่น! ตั่บ! เสียงมังกรใหญ่กระทุ้งกระแทกเสียงดังสนั่นจนร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน “ฮึก! แต่มันจะ- เจ็บ!”เสียงร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ช่วงล่างของเธอเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย มือบ
คำหวานถูกหยอดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นความจริง กวินกานต์ไม่ได้โกหกตรงที่เธอเป็นคนสวยและน่ารักเลย เพราะเธอคนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ ใบหน้าขาวนวลเนียนใส ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางอวบอิ่มสีชมพู มันทำให้กวินกานต์แอบหลงใหลเคลิบเคลิ้ม แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะชั่วครู่ เพราะว่า กวินกานต์นั้นรักนันท์นลินเกินกว่าที่จะมองหญิงอื่น เขารักนันท์นลินเพียงคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงตอนนี้คือการแก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ชายที่พรากคนที่รักไปจากเขา เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง... “อื้อออ...” พึมพําอย่างเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังดูดดุนปากบางอย่างดุเดือด ร่างของพรินทร์ลอยเคว้งขึ้นไปในอากาศ กลุ่มผีเสื้อน้อยใหญ่โบยบินไปทั่วช่องท้อง อันเรียบแบนของเธอ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกวัดรัดลิ้นบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังกระเพื่อมไหว “ธะ-ธารา ผะ-ผม โอววว์”เสียงทุ้มครวญครางอย่างเจ็บปวด กวินกานต์ไม่คิดว่าร่างงามจะให้ความรู้กระสันถึงเพียงนี้ ความหวานอันดูดดื่มจากเรียวปากสวย ทำให้กวินกานต์ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวามอย่างง่ายดาย “คะ?” ใ







