Masuk“นายพุฒิพงศ์ส่งไปอยู่ต่างประเทศครับนาย พวกเราก็ทราบมาแค่นี้ครับ ข้อมูลทุกอย่างออกมาน้อยมาก ทางญาติของนายพงศ์ก็เข้ามาดูแลบ้านหลังนั้นครับ ส่วนที่บริษัทอัครกิจวัฒนาของนายพุฒิพงศ์ที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ตอนนี้ ผมพึ่งทราบเรื่องครับนาย”
“นายไปสืบเรื่องนี้มาด่วน! ฉันอยากรู้ว่ามันเป็นใครกันแน่ที่ทำแบบนี้”
“ครับนาย”
ตึ๊ด! ตึ๊ด! เสียงปลายสายถูกตัดไป
เจนภพกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องที่ลูกน้องเขารายงานเมื่อครู่ เพื่อนของเขาตายไปแล้ว...อย่างนั้นหรือ...แล้วใครกันที่ยังดำเนินการต่อจากเพื่อนของเขา หรือว่าจะเป็น...เด็กคนนั้น!
แกร๊ก! เสียงประตูบานใหญ่ถูกเปิด พร้อมกับร่างบางระหงก้าวเข้ามา
หมับ! เด็กสาวสวมกอดผู้เป็นพ่อ พร้อมกับหอมแก้มฟอดใหญ่อย่างเอาใจ ที่เธอมักทำเป็นประจำทุกวัน
“กลับมาแล้วหรือลูก...พระพาย”
“ค่ะคุณพ่อ...วันนี้พระพายเลิกเร็วค่ะ อาจารย์สอนแล้วก็สั่งงานค่ะ พระพายเลยรีบกลับมาทำงานที่บ้านต่อค่ะ”
‘นันท์นลิน’ หรือ ‘พระพาย’ บุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของเจนภพวัย 21 ปี กำลังศึกษาอยู่ปี 3 คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ ของมหาวิทยาลัยชื่อดังในเมืองไทย
“แล้วพี่วีร์ของลูกล่ะ ไม่ไปรับลูกเหรอวันนี้ พ่อเห็นเทียวส่งลูกสาวของพ่อทุกวัน”
เจนภพเอ่ยถึง ‘กวินกานต์’ ลูกชายของนักธุรกิจชื่อดังว่าที่ลูกเขยของเขา ซึ่งพึ่งจะเจรจาขอหมั้นลูกสาวของเขาไปไม่กี่วันนี้เอง
“วันนี้พระพายขอกลับคนเดียวค่ะคุณพ่อ พระพายไม่อยากรบกวนพี่วีร์ค่ะ ไหนจะต้องขับรถไปกลับบริษัทกับมหาวิทยาลัยทุกวัน...เหนื่อยแย่เลยค่ะ”
นันท์นลินสนิทกับกวินกานต์ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนมัธยม โดยทั้งสองอายุห่างกันเจ็ดปี เธอเริ่มคบหาดูใจกันตอนที่นันท์นลินเรียนอยู่ปี 1 ตอนนี้กวินกานต์ทำงานอยู่ในบริษัทพ่อของเขา
“อืม...แล้วเรื่องกำหนดการหมั้น ทางฝ่ายของวีร์เขาติดปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่าลูก”
“ตอนนี้พระพายคุยกับพี่วีร์แล้วค่ะ ขอให้พระพายเรียนจบก่อนค่ะ ไม่ต้องหมั้นแล้วค่ะ เรียนจบพระพายกับพี่วีร์ก็จะแต่งงานกันเลยค่ะคุณพ่อ เรื่องที่จะหมั้นตอนที่พี่วีร์คุยกับคุณพ่อไว้ พี่วีร์ให้พระพายมาเคลียร์กับคุณพ่อค่ะ เพราะตัวพระพายเองไม่อยากหมั้นให้เป็นพิธีอะไรมากมาย อยากให้พี่วีร์รอพระพายอีกแค่ปีเดียว เพราะพระพายเรียนจบก็พร้อมแต่งเลยค่ะคุณพ่อ”
“เอาอย่างนั้นเลยเหรอลูก...พ่อว่าก็ดีเหมือนกันนะ แต่ว่าพระพายแน่ใจนะลูก ว่าจะไม่มีสาวๆ คนไหนมาโฉบตัวพี่วีร์ของหนูไปอีก”
ส่วนลึกในใจของเจนภพนั้น เขาต้องการที่จะให้บุตรสาวรีบแต่งงานโดยเร็ว เพราะตอนนี้ฐานะทางการเงินของเขาค่อนข้างฝืดเคืองแล้ว ถ้าลูกสาวของเขาแต่งงานกับนักธุรกิจอย่างกวินกานต์ อย่างน้อยก็พอจะประคับประคองธุรกิจของเขาตามไปด้วย
“ไม่อย่างแน่นอนค่ะคุณพ่อ พี่วีร์รักพระพายขนาดนี้ ไม่มีวันหรอกค่ะที่จะทิ้งพระพายไปมีใหม่หรอกค่ะ”
“นั่นก็เพราะลูกสาวของพ่อสวยระดับท็อปเท็น ดีกรีดาวมหาวิทยาลัยขนาดนี้น่ะสิ พี่วีร์ของลูกถึงไปไหนไม่ได้”
เจนภพอดชื่นชมบุตรสาวของตัวเองไม่ได้ ใบหน้าสวยหวาน ตากลมโตถอดความงดงามผุดผ่อง แบบมาจากแม่โดยเฉพาะ รูปร่างสูงได้รูปอันนี้คงถอดโครงมาจากเขาแน่นอน เพราะลูกสาวของเขานั้นสูงถึง 174 เซนติเมตรเลยทีเดียว สัดส่วนเหมาะสมกลมกลึงสามารถสร้างแรงดึงดูดให้คนจับตามองแบบเหลียวหลังทุกครั้งที่เดินผ่าน
“นั่นมันเมื่อตอนพระพายอยู่ปีหนึ่งนะคะคุณพ่อ ตอนนี้พระพายอยู่ปีสามแล้วค่ะ รุ่นน้องที่เข้ามาสวยๆ เยอะแยะเลยค่ะ”
“แต่ลูกพ่อก็สวยเสมอ...มีโมเดลลิ่งมาติดต่อให้ไปเป็นดารานางแบบหลายครั้ง ลูกสาวของพ่อก็ไม่สนเสียนี่”
“ไม่เอาหรอกค่ะคุณพ่อ พระพายไม่ชอบค่ะ”
“เอาล่ะ งั้นพระพายไปทำการบ้านเถอะ พ่อจะออกไปข้างนอกสักพัก”
เจนภพคงต้องออกไปหาลู่ทางแหล่งเงินทุน เพื่อนำมาประคับประคองธุรกิจของเขา เรื่องนี้บุตรสาวอันเป็นที่รักของเขาไม่ทราบเลย นันท์นลินถูกเขาเลี้ยงมาอย่างดี หลังจากที่นราวดีหย่าร้างกับเขาและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ โดยที่เขาไม่ยอมให้ผู้เป็นแม่ได้ติดต่อลูกเลยตามที่เขาได้บอกก่อนหน้า ที่เธอจะยินยอมมอบลูกให้กับเขา
“ค่ะ คุณพ่อ...งั้นพระพายไปหาป้าน้อยเพื่อหาของอร่อยในครัวก่อนนะคะ”
นันท์นลินสนิทกับแม่นมของเธอคนนี้มาก เพราะป้าน้อยคือคนที่ดูแลเธอมาตั้งแต่เล็ก และเปรียบเสมือนแม่ของเธอคนหนึ่ง ซึ่งแม่ที่แท้จริงของเธอนั้นทิ้งนันท์นลินไป
[ห้องครัว]
หมับ! นันท์นลินเดินเข้าไปสวมกอดผู้เป็นป้าจากด้านหลัง
“อุ้ย! คุณหนู ป้าตกใจหมดเลยค่ะ...น่าตีนักเชียว มาแบบเงียบๆ คนแก่หัวใจวายจะว่ายังไงคะเนี่ย”
‘กาญจนา’ หรือ ‘ป้าน้อย’ หญิงวัย 54 ปีอาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่นี้มานานนับตั้งแต่คุณหนูของเธอยังแบะเบาะ
“คนแก่ที่ไหนกันคะ...ถ้าคนนี้ไม่ใช่แน่นอนค่ะ เพราะคนนี้ยังสาวและสวยอยู่เลยค่ะ”
“แหม...ปากหวานจริงคุณหนูของป้าน้อยเนี่ย ทำไมวันนี้กลับมาเร็วล่ะคะ ป้าน้อยยังทำกับข้าวยังไม่เสร็จเลยค่ะ”
“อืม...วันนี้เลิกเรียนเร็วค่ะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพระพายช่วยป้าน้อยทำเลยล่ะกันนะคะ”
“อุ้ย! ไม่เป็นไรค่ะคุณหนู เดี๋ยวมือเลอะหมดนะคะ”
“ไม่เห็นเป็นไรนี่คะ พระพายจะได้ทำกับข้าวเป็นไงคะ เวลาพระพายแต่งงานไป จะได้เป็นแม่บ้านให้กับพี่วีร์ได้ไงคะป้าน้อย”
“แหม...ขนาดนั้นเชียว...อีกตั้งปีนะคะ คุณหนูของป้าน้อยเตรียมตัวที่จะเป็นเจ้าสาวแล้วเหรอคะ...อืม...ว่าแต่คุณพ่อทราบเรื่องนี้หรือยังคะ”
กาญจนากังวลใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า เจนภพปกปิดเรื่องทุกอย่างแก่บุตรสาว เธออยู่ที่นี่มานานนับ 20 ปี กาญจนาจะรู้ความเป็นไปภายในบ้านนี้เป็นอย่างดี ตอนนี้ฐานะทางการเงินของเจนภพค่อนข้างแย่ ถึงขั้นวิกฤติ แต่ก็พยายามเลี้ยงลูกสาวมาเป็นอย่างดี
“รู้แล้วค่ะ พระพายพึ่งคุยกับคุณพ่อเมื่อกี้นี่เอง จริงๆ แล้วพระพายอยากทำงานสักปีสองปี รอให้อายุ25ก่อนแล้วค่อยแต่งงาน แต่คุณพ่อกับพี่วีร์ เหมือนจะอยากให้พระพายแต่งงานเร็วๆ เรียนจบก็แต่งงาน...เฮ้อ...พระพายยังไม่ได้ใช้ชีวิตการทำงานเลยค่ะ”
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! แก!”ในเมื่อข้อมือของเธอถูกมัดเอาไว้ รมิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียเมื่อไหร่ เท้าของเธอทำงานแทบจะทันที ทั้งเตะทั้งถีบแบบทุลักทุเลภายในรถยนต์คันหรูสีดำที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันกับแอร์เย็นฉ่ำ “เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ พับผ่าสิ!!” เสียงของภรัณยูคำรามออกมา เขาไม่คิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้ไปเขาคงหลีกหนีผู้หญิงไปสักพัก “แกก็ปล่อยฉันสิ!”เสียงหอบหายใจกระเส่า รมิตาเริ่มหมดแรงตอนนี้สภาพของเธอที่นั่งอยู่ตักของชายแปลกหน้า อกกระเพื่อมไหวภายใต้บราตัวจิ๋ว ทำให้สายตาคมจ้องมาที่เต้าใหญ่คู่นั้นทันที “ปากดีขนาดนี้โดนสักที ก็คงจะดีนะ!” ภรัณยูเริ่มมีความคิดใหม่แทรกเข้ามา สายตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างอันขาวโพลนที่อยู่บนตักของเขา ลมหายใจร้อนสะดุดเข้าที่สองเต้าขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงหายใจของเจ้าตัว “ไอ้แมงดา! อย่างแก! ฉันไม่เอาหรอก! อย่าได้แม้แต่จะคิด!” “อ่อ...ปากดีให้ตลอดล่ะกัน! ไอ่แมงดาคนนี้แหละ! จะทำให้เธอร้องไม่หยุด!”สิ้นประโยค มือหนาก็ยกร่างของเธอคร่อมกับบนตักเขาในสภาพที่เขานั่งพิงอยู
ภรัณยูเห็นด้วยกับเพื่อนหมดแล้วตอนนี้ เขามองไม่เห็นทางที่จะกลบเสียงร้องของยัยม้าพยศนี้ได้ยังไง “กรี๊ดดดด! ฉันไม่ไป! แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ธัญญ์! ธัญญ์คะ”เสียงหวีดร้องคร่ำครวญพร้อมกับความเสียใจที่มีต่อคนรักของเธอตอนนี้มันชัดเจนแล้ว พริษฐ์ไม่ได้รักเธอแล้ว คนรักของเธอเลือกอีนังผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักรมิตาอีกแล้ว... “มานี่! หยุดร้องได้แล้ว! ผมเหนื่อยแล้วนะ” “แกก็ปล่อยฉันสิ! ไอ้แมงดา!”รมิตาใช้คำพูดหยาบคายด่าทอผู้ชายที่จับเธอไว้แน่น เพื่อหวังให้ชายหนุ่มนี้หมดความอดทน “ยัยผู้หญิงปากปลาร้า! อึ่ม!”ภรัณยูพยายามนับหนึ่งถึงร้อย กลั้นความโกรธอย่างที่สุด มือหนาบีบแขนของเธอเอาไว้แน่น เกิดมาก็ไม่เคยเจอ ผู้หญิงอะไรบ้าชะมัด “รัณ! แกพาเธอเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก ไม่ไหวจริงๆ แก้วหูจะแตกแล้ว”นารารัตน์ขับรถมาจอดตรงหลังคลับ ที่ห่างไกลผู้คนพอสมควร พร้อมกับร้องเรียกเพื่อนของเธอ วิธีนี้อาจจะช่วยกลบเสียงยัยหมาบ้านี้ได้ “โอเค เส้นด้าย! แก้วหูฉันระเบิดแล้วเหมือนกัน!” “อีนังบ้า! แกเป็นเพื่อนกับอีนังหน้าด้าน พวกแกกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน! อย่
เสียงทักทายอย่างไม่เป็นมิตรแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเมื่อร่างของรมิตาเดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาเหยียดมองจ้องหาเรื่องเต็มร้อย แม้แฟนหนุ่มของเธอจะห้ามเท่าไหร่รมิตาก็ไม่ยอมฟัง เพราะภายในร่างกายของรมิตานั้นร้อนเป็นไฟ บวกกับแอลกอฮอร์ผสมอยู่พอสมควร เธอจะต้องปิดเกมบ้าบอนี้ให้ได้ “แล้วคุณคิดว่าจะเจอดิฉันที่ไหนหรือคะ...ที่นอกจากเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของคุณพริษฐ์แล้ว...ดิฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีที่ไปสักเท่าไหร่เลยค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยสิคะ”นันท์นลินก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอร์อยู่ในร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกความกล้าที่มีอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนสุมไฟเพิ่มเข้าไปอีก “แก! มันจะมากเกินไปแล้วนะ...แกคิดเหรอว่าธัญญ์เลี้ยงแกไว้และปล่อยให้อยู่สุขสบายแบบนี้...แล้วแกจะมากล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”ความโกรธแล่นปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเจอความพูดตอกกลับจากอีกฝ่าย “แล้วดิฉันจะต้องพูดแบบไหนกับคุณล่ะคะ...ในเมื่อคุณกลับไปถามแฟนของคุณแล้ว คำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น คุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ จะต้องให้ดิฉันตอบแบบไหนถึงจะตรงใจคุณคะ”ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ความมึนตึงเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มทำให้นันท์น
“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด “ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก” “รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ” “พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ” “โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!” “นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ด
เสียงร้องครวญอย่างเจ็บปวด พรินทร์ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ในหัวของเธอก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงสุขสมและเสียวซ่าน แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด หัวใจของพรินทร์เริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการบางอย่างของเธอกำลังจะตามมา ริมฝีปากบางกัดเม้มเอาไว้เพื่ออดกลั้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น “ไม่!! โอ๊ะ! ผมก็ปวด! ธารา!”เสียงทุ้มรอดไรฟันออกมา เอวหนายกขึ้นสูงกดเน้นสะโพกกระแทกแท่งเหล็กฝ่าความคับแคบเข้าไปอย่างแรง! จนทำให้แท่งร้อนแกร่งนั้นทะลุทะลวงเยื้อกั้นเข้าลึกจนสุดลำ! สวบ! มังกรใหญ่กระแทกกระทั้นเสียงดังสนั่น! “กรี๊ดดดด! ไม่นะ! ปล่อย! ฮึก!”เสียงร้องของเธอดังพร้อมกับแท่งร้อนกระแทกเข้ามาช่องทางรักของเธอจนจุก “โอวว์ ซี๊ดดดด...อึ้มมม์ ปล่อยตัวตามสบายธารา!”เสียงหอบกระเส่าสั่งคนตัวเล็ก เมื่อเรือนร่างงามพยายามจะเด้งร่างตัวเองออก จนมือหนาต้องจับล็อคเอวบางเอาไว้แน่น! ตั่บ! เสียงมังกรใหญ่กระทุ้งกระแทกเสียงดังสนั่นจนร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน “ฮึก! แต่มันจะ- เจ็บ!”เสียงร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ช่วงล่างของเธอเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย มือบ
คำหวานถูกหยอดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นความจริง กวินกานต์ไม่ได้โกหกตรงที่เธอเป็นคนสวยและน่ารักเลย เพราะเธอคนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ ใบหน้าขาวนวลเนียนใส ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางอวบอิ่มสีชมพู มันทำให้กวินกานต์แอบหลงใหลเคลิบเคลิ้ม แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะชั่วครู่ เพราะว่า กวินกานต์นั้นรักนันท์นลินเกินกว่าที่จะมองหญิงอื่น เขารักนันท์นลินเพียงคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงตอนนี้คือการแก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ชายที่พรากคนที่รักไปจากเขา เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง... “อื้อออ...” พึมพําอย่างเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังดูดดุนปากบางอย่างดุเดือด ร่างของพรินทร์ลอยเคว้งขึ้นไปในอากาศ กลุ่มผีเสื้อน้อยใหญ่โบยบินไปทั่วช่องท้อง อันเรียบแบนของเธอ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกวัดรัดลิ้นบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังกระเพื่อมไหว “ธะ-ธารา ผะ-ผม โอววว์”เสียงทุ้มครวญครางอย่างเจ็บปวด กวินกานต์ไม่คิดว่าร่างงามจะให้ความรู้กระสันถึงเพียงนี้ ความหวานอันดูดดื่มจากเรียวปากสวย ทำให้กวินกานต์ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวามอย่างง่ายดาย “คะ?” ใ







