บทที่ 6
“ว่าไงนะคะ”
ร่างเล็กผุดลุกขึ้นนั่งบนโขดหิน หลังจากได้ยินพสุธาบอกว่าเขากำลังจะไปทำงานที่อื่น
“พี่ต้องไปนะบัว พี่จะเก็บเงินสักก้อนแล้วค่อยกลับมา”
“แต่..แล้วบัวล่ะ”
พสุธาลุกนั่งชันเข่าใช้แขนกำยำโอบเข่าของตัวเองตะแคงหน้าเอี้ยวมองคนร่างเล็ก ส่งยิ้มอ่อนแต่ไม่ถึงดวงตา เอื้อมมือออกไปปัดผมที่โดนลมพัดนำไปทัดใบหู
“บัวต้องไปเรียนต่อไง ไปเรียนที่กรุงเทพ”
“ไม่ บัวไม่เรียน บัวจะอยู่ที่บ้านนี่แล่ะ รอพี่แทน”
“ไม่ได้นะบัว! บัวต้องไปเรียนต่อ นั่นมันอนาคตของบัว”
บุษยาผวาเข้าหาร่างเกร็งของพสุธากอดหัวเข่าของเขาไว้แล้วซบหน้าลงกับท่อนแขนกำยำ เงยมองด้วยดวงตารีคมรื้นน้ำตา หัวใจเด็กหนุ่มสะท้านขึ้นเมื่อเห็น มักเป็นเช่นนี้เสมอ เขาไม่อาจใจแข็งกับเธอได้เลยและคนร่างเล็กตรงหน้าก็รู้ดี เขาลูบหัวบุษยาอย่างรักใคร่
“มันแค่ไม่นานเท่านั้น พอบัวเรียนจบพี่คงเก็บเงินได้สักก้อน จากนั้นเราก็จะแต่งงานกัน ดีไหม”
เธอดันร่างขึ้นจากท่อนแขนของพสุธาทันที ใช้มือปาดน้ำตาทิ้ง ดวงตาคมมีความหวัง เผยรอยยิ้มหวานจนเด็กหนุ่มหัวใจสั่นไหวใช้มือปัดลูกผมออกจากกรอบหน้าเบามือ
“พี่แทนพูดจริงไหม อย่าทำให้บัวดีใจเก้อนะ”
เขายิ้มอ่อนระบายทั่วใบหน้าคมเข้ม สองมือประคองดวงหน้างามไว้ช่วยเธอปาดน้ำตาทิ้ง ดวงตาสีฟ้าจัดกรอกตามองสาวน้อยไปทั่วดวงหน้าดูว่าน้ำตาของเธอหมดไปหรือยัง
“เดี๋ยวบัว!!”
ริมฝีปากกว้างเย้ายวนเผยรอยยิ้มกว้าง กระโดดขึ้นไปบนตัวของพสุธาทันที ใช้น้ำหนักของตัวเองก่ายไปบนร่างของเด็กหนุ่มแล้วโน้มใบหน้าลงจูบ
ลิ้นเล็กค่อยเผยออกแตะโดยรอบปากหนาจนพสุธาถึงกับสะท้านข้างใน มือแกร่งที่เตรียมผลักออกกลับโอบร่างน้อยไว้ลูบไปทั่วแผ่นหลัง
“บัว”
เสียงกระซิบปนกระเส่าทุ้มพร่าดังลอดในลำคอยามเธอฉกริมฝีปากกว้างเย้ายวนลงบนริมฝีปากอุ่นร้อน ผิวนุ่มนิ่มใต้มือสากนวลเนียนชวนสัมผัส ลูบเลยไปยังสะโพกผายปล่อยให้บุษยาส่งลิ้นหยอกล้ออยู่ในโพรงปาก
ใจเขาอัดแน่นร้อนรุ่มด้วยวัยหนุ่มคึกคะนอง แม้เพียรพยายามอยู่ห่างเธอแต่ไม่เคยทำได้ เฝ้าแต่คอยชะเง้อมองหาตลอดเวลา เธอเปรียบดั่งดอกบัวที่เขาอยากถนุถนอมไปตลอดชีวิต
“พี่แทน บัวรักพี่แทน บัวจะรอพี่แทนอยู่ที่นี่นะคะ”
เขาลูบศีรษะเล็กที่ซบดวงหน้างามบนแผงอกกว้าง แก่นกายชายหนุ่มคับตึงเบียดแน่นเสียดสีไปกับลำขาของเด็กสาว
“พี่แทน ทำไมบัวรู้สึกแปลก ๆ คะเวลาเราจูบกัน”
หน้าคมเข้มผงกศีรษะขึ้นมองเมื่อได้ยินคำถามพลางขมวดคิ้วไม่เข้าใจ จนเมื่อเธอดึงมือของเขาลงเบื้องล่าง เด็กหนุ่มถึงกับตะลึงงันรีบชักมือกลับ
“ทำอะไรน่ะบัว!”
หน้าหวานเกยคางบนอกแกร่ง ดวงตารี่ปรือด้วยไฟปรารถนาอย่างเด็กสาวริรัก บุษยาเลียริมฝีปากแห้งผากเผยให้เห็นลิ้นเล็กสีชมพู
“ก็ตรงนั้น บัวรู้สึกเหมือนหน่วง ๆ พี่แทนเป็นอย่างบัวไหมคะ”
หน้าคมแกร่งสีเข้มมองเห็นสีแดงระเรื่อขึ้นแผ่ซ่านไปทั้งลำคอ พยายามผละลุกขึ้นแต่ร่างนุ่มนิ่มยังโถมทับไว้ เธอยืดร่างขึ้นนั่งคร่อม จับมือเขาไปตรงนั้นครางแผ่วเบา
“ทีปิ่นพี่ยังทำเลย เพื่อนบอกว่าพี่เอามือล้วงเข้าไปในกางเกงใน แบบนี้”
เด็กหนุ่มไม่ทันได้ตั้งตัวเมื่อจู่ ๆ มือเล็กจับมือเขาล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นจนปลายนิ้วสัมผัสกางเกงในผ้าฝ้าย
“บัว”
เสียงทุ้มแหบพร่าสั่นเครือยามเธอจับมือเขาไว้แล้วยกตัวเสียดสี สัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นแผ่ซึมออกมาจากกางเกงผ้าฝ้าย
“หยุดนะ!!”
ร่างแกร่งรีบดึงมือกลับ ผลักร่างเล็กออกแล้วลุกขึ้นยืน ส่งร่างสูงยืนค้ำตัวเธอไว้ ทรวงอกเด็กหนุ่มร้อนดั่งไฟเผา ยังส่วนล่างที่ถูกปลุกเร้าขึ้นมาอีก
“ถ้าขืนทำแบบนี้อีกพี่จะไม่พูดด้วยอีกเลย”
ร่างแกร่งรีบหันหลังเดินลงจากโขดหิน ป่านนี้แม่พรพิศคงก่นด่าเขาไปแล้วที่กลับบ้านช้า และยังพาคุณบุษยาเถลไถลอีกด้วย
บุษยาหน้าจ๋อยลงก่อนลุกขึ้นเดินตามร่างสูง ใจเด็กสาวเพียงต้องการรู้ว่ามือของพี่แทนให้ความรู้สึกเช่นไร มันจะเหมือนในนิยายที่เธออ่านมาหรือไม่ ยามพระเอกจับตรงเนินเนื้อของนางเอก
แต่งงาน! พี่แทนพูดว่าเขาจะเก็บเงินสักก้อนแล้วกลับมาแต่งงานกับเธอ
คนร่างเล็กค่อยยิ้มออกมาได้อีกครั้ง วิ่งไปหาพสุธาด้วยใจตั้งมั่น เธอจะเป็นภรรยาที่ดี เธอจะรักและดูแลพี่แทนของเธอตลอดไป
บทพิเศษบอดี้การ์ดร่างยักษ์และนายสาวบ้านจรัญทัดทองนอนเอนกายบนเตียงใหญ่ ปีนี้เขาอายุปาไปเกือบจะสี่สิบห้า เคยมีลูกมีเมียมาก่อนและไม่ไว้ใจใครมือคีบบุหรี่สูดอัดเข้าปอดก่อนพ่นควันขาวเป็นทาง มองไปยังด้านข้างสาวใหญ่อวบอิ่มหน้าตาคมสวยร่ำรวยของเมืองใครจะรู้ว่าแท้จริงเธอไม่ได้ช่ำชองอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ออกไร้เดียงสาด้วยซ้ำ เมื่อคืนตอนที่ชำแรกครั้งแรกเขารู้ได้เลยว่าเธอแทบไม่เคยได้ใช้งานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกยิ้มกวนอารมณ์อย่างที่พสุธาชอบแซวผุดขึ้นมุมปากหนา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนเพราะความเมาจากงานแต่งของนายหัวพสุธาร่างผิวเข้มจากการตากแดดดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบกายพร้อมกับพ่นควันยาว เขานอนอยู่ในห้องพักโรงแรมนายหัวโดยที่สาวลูกเจ้าของบริษัทดังของท้องถิ่นแนบกายเขาจะรออีกสักหน่อยเพื่อปลุกเธอมาต่อสักรอบ อันที่จริงถ้าระยะยาวเลยจะดีมาก เขาชอบหุ่นแสนทรมานใจ เสียงใสหวีดร้องขณะที่ขยับบนร่างเขา เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้สวยงามและไม่เสแสร้ง“อือ”เสียงครางแผ่วเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อหญิงสาวในอ้อมแขนขยับกาย เขาจ้องมองดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขาโน้มตัวใกล้ และเขาเห็นว
บทที่ 49**จบเปรี้ยง! ซ่า! ซ่า!บุษยารีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างช่วยป้าพรพิศในชั้นล่างก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อไล่ปิดตามห้องพสุธาหายไปเกือบอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เขาตกน้ำ หน้าหวานคมขุ่นมัว แค่จะง้อเธอยังทำไม่ได้เลยปัง! ปัง!มือเล็กกระแทกหน้าต่างปิดอย่างแรกทีละบานกระทั่งมาถึงห้องนอนของเธอ บุษยาไล่ปิดหน้าต่างไม้ แต่พอถึงบานข้างโต๊ะเขียนหนังสือมือเรียวชะงักไปท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำจนขาวโพลน ชานบ้านพักหลังเล็กกลับมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำยืนอยู่ ลมกรรโชกแรงจนพัดร่างของเขาเปียกปอน ปากเย้ายวนเม้มแน่นกระแทกบานหน้าต่างปัง!!ภาพร่างสูงใหญ่ยังติดตาจนเธอสะท้านถึงข้างในทรวง อาการเจ็บแปลบที่เป็นมาเกือบสิบวันมลายหายไป ตอนนี้หัวใจดวงน้อยกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้นเธอหันหลังให้หน้าต่างบานนั้น เสียงลมและฝนยังสาดซัดกระทบหน้าต่างเสียงดังสนั่นจนเธอต้องหันตัวกลับไป มองร่องกลางหน้าต่างบานไม้ของบ้านหลังนี้ที่สร้างมานานนับหลายสิบปีก่อนเธอจะเกิดความเก่าแก่ร่องรอยไม้ซีดจาง ที่จับหน้าต่างทำจากเหล็กสลักลายเก่าขึ้นสนิทเล็กน้อยแต่ยังใช้งานได้ดี ตอนที่ยังเด็กเตี้ยกว่านี้ เธอต้องปีนเก้าอี้เพื่อจับด้ามหน้
บทที่ 48“แม่ครับ”“อ้าวแทน มาทำอะไร ต้องพาหนูบัวไปโรงพักเหรอ”“เปล่าครับ นี่ขนมที่บัวชอบ”พรพิศยื่นมือออกไปรับถุงขนมแล้วเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา“มีแต่ของชอบ รู้ใจคุณบัวเสียจริงลูกแม่”“แล้วบัวล่ะครับ”พรพิศวางถุงขนมลงบนโต๊ะในครัวแล้วพยักหน้าไปยังทิศทางที่เห็นร่างบอบบางเดินออกไป“โน้น อยู่แพหอย”พรพิศพูดไม่ทันจบประโยคร่างสูงใหญ่ของลูกชายพลันก้าวลงจากพื้นห้องครัววิ่งแกมเดินไปยังแพหอยกลางน้ำรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนหุบลงเมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกไปไกลมากแล้ว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณปู่ของพสุธาเมื่อวานนี้วิลเลี่ยมพ่อของพสุธาเสียชีวิตลงไม่นานนักหลังจากที่เธอจากมาด้วยอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ของวิลเลี่ยมด้วยเช่นกัน เธอไม่เคยบอกสาเหตุที่เธอทิ้งพ่อของพสุธามา แต่เธอเล่าให้ปู่ของเขาฟังวันที่วิลเลี่ยมพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น พ่อกับแม่ของวิล เลี่ยมไม่พอใจมากถึงขั้นโต้เถียงรุนแรงและลงไม้ลงมือ ไหล่พรพิศสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกภาพอดีตของคืนเลวร้าย วิลเลี่ยมถูกส่งตัวไปทำแผลในโรงพยาบาลซึ่งต้องทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับแม่ของวิลเลี่ยมชนชั้นสูงอย่างบ้านแบล็ครับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวมีภรรยาคนละฐานะกัน ต
บทที่ 47กว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งบุษยาและบุหลันเองเพลียเต็มทน ต้องไปให้ปากคำที่กองกำกับการประจำอำเภอเพราะถนนเส้นนั้นเป็นเขตของอีกอำเภอทำให้เสียเวลาเดินทาง“คุณบัว คุณบุหลัน!!”ป้าพรพิศตาโตตกใจเมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองสภาพไม่น่าดูนัก เหลือบตามองลูกชายที่ยังหน้าบึ้งเดินตามมาข้างหลัง“เดี๋ยวผมเล่าให้ครับแม่ แล้วคุณปู่ล่ะครับ”“แม่ทำความสะอาดห้องพักข้างบนให้ท่านขึ้นไปพักผ่อนแล้ว”ป้าพรพิศรีบเข้าไปช่วยเข็นรถของบุหลันแทนบุษยาแล้วพาเลี้ยวเข้าไปด้านหลังปล่อยบุษยาไว้กับพสุธาสาวร่างบางรีบก้าวเท้าขึ้นบนบ้านได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินตามหลังจึงหันไปมอง เห็นคนร่างสูงเดินขึ้นบันไดตามมาด้วย“พี่แทนกลับไปเถอะค่ะ”“พี่จะขึ้นไปหาคุณปู่”บุษยาเม้มปากสะบัดหน้ากลับก่อนแดงซ่านด้วยความอาย เพราะหลงเข้าใจผิดว่าเขาตามง้อเธอ รีบย่ำเท้าเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังห้องเล็กผลัก! พสุธาใช้มือทาบยันประตูไว้ได้ทันก่อนที่คนร่างเล็กปิดลงแทรกร่างใหญ่โตเข้าไปโดยที่เธอสู้แรงไม่ได้“พี่แทน!! นี่มันห้องบัว”“แล้วยังไง พี่แค่อยากมาดูห้องเมีย”“บัวไม่ได้เป็นเมียพี่!!”ชายร่างโตไม่โต้เถียงเพียงเดินดูรอบห้องแล้วไปหยุดที่โต๊ะเขียนหน
บทที่ 46พรพิศมองตามหลังสองหนุ่ม แม้ว่าเธอไม่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองมากนักว่าหายไปไหนกับใครมาหลายปี รู้แค่ว่าเขาน่าจะไปอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่ชายชราร่างใหญ่ผิวคล้ำคนนี้ไม่ใช่คนรักเก่าของเธอ“สวัสดี ผมวิลเลี่ยมเป็นปู่ของวิล ดูท่าเราอาจต้องคุยกันยาวนะ”“สวัสดีค่ะ”หญิงวัยกลางคนตรงหน้าตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างที่ชายชราเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พรพิศเดินนำชายชราเข้าไปในบ้าน เธอเองก็อยากรู้ใจแทบขาดว่าผู้ชายคนรักเก่าของเธอเป็นอย่างไรบ้าง และเรื่องราวหลังจากที่พสุธาตามหาพวกเขาจนเจอนั่นเป็นอย่างไรเอี๊ยดดด!! โครม!!“โอ๊ย!!”ร่างบอบบางศีรษะโขกกับคอนโซลหน้ารถทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ รถคันเล็กของเป็นเอกถูกกระแทกจากการปาดหน้า จนต้องหักพวงมาลัยซ้ายสุดเพื่อให้รถลงไปยังไหล่ทางก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางบุษยารีบเอี้ยวตัวไปดูน้องสาวที่นั่งด้านเบาะหลังเห็นร่างผอมบางร่วงลงไปกองกับพื้นรถแต่ไม่เป็นอะไรมากกึก! ตึ้ง! หมับ!“ออกมานี่”คนร่างโตคล้ำดำผมหยิกปิดหน้าตาด้วยผ้าคลุมโหม่งสีดำฉุดร่างของบุษยาออกมาจากรถจนร่างบอบบางเอียงถลาเกือบล้มคว่ำ“พี่เอาไงนิ เป็นตากาลักกาลุย หัวเช้าวานยังแลงว่าคนเดียว[1]”“กูรู้?
บทที่ 45พสุธานั่งไขว้ห้างบนโซฟาในห้องทำงานกระดิกเท้าอย่างร้อนรน มองคุณปู่ผิวคล้ำใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาเพียงแต่สูงวัยกว่ามากและผมขาวจนเกือบทั้งศีรษะ“ปู่มาไม่บอกล่วงหน้า”“ถ้าฉันบอก ฉันจะเจอแกไหมแทน”เขามองรอยยิ้มกวนประสาทที่อยู่บนหน้าปู่ก่อนเบือนหนีไปยังด้านอื่นเพื่อปกปิดอาการผิดสังเกตของตัวเอง แต่ไม่รอดพ้นสายตาของผู้สูงวัยที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน“เป็นอะไร! ปกติไม่เป็นแบบนี้”ชายสูงวัยหันไปถามบอดี้การ์ดคนสนิทของหลานชายรอยย่นรอบดวงตาหรี่ลงด้วยความสงสัย ตามปกติพสุธามักสงบนิ่งและควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี“ไม่มีอะไรมากหรอกครับมิสเตอร์แบล็ค แค่อาการอกหัก”“พี่ทัด!!”“ห๊า!!”เสียงตะโกนขึ้นมาพร้อมกันของปู่กับหลานทำทัดทองยิ้มกว้างกว่าเดิมหันไปมองหน้าคนปู่ที่ใบหน้าคงฉงนฉงาย“พูดมาเดี๋ยวนี้เลย ผู้หญิงคนไหนกันปฏิเสธหลานของฉัน”“ฮ่า ฮ่า มิสเตอร์ต้องไม่อยากเชื่อแน่ถ้าเล่าให้ฟัง”“พี่ทัด หุบปากไปเลยดีกว่า”เสียงคำรามกร้าวยิ่งทำให้ทัดทองยิ้มอย่างกับคนบ้า เขาอยากจะให้ไอ้หมอนี้โดนคุณปู่อบรมสั่งสอนเรื่องการทะนุถนอมผู้หญิงเสียหน่อย“โฮะโฮ้ ไอ้เสือนี่ไปทำอีท่าไหนเขาถึงทิ้งไป”เสียงปู่ยังขยี้ไม่หยุดจ้อง