บทที่ 7
“มากันแล้ว ทำไมช้าอย่างนี้ วันนี้นายหัวกลับมาบ้าน โน้นนั่งหน้าถมึงทึงอยู่บนบ้าน คุณบัวรีบไปเถอะค่ะ”
บุษยาหน้าเจื่อนลง วางถุงปลาบนโต๊ะในครัว รีบเดินแกมวิ่งเข้าสู่ในบ้านกระทั่งถึงห้องนั่งเล่น
ดวงตาหวานคมกวาดตามองพ่อ นายหัวบัญชรเจ้าของฟาร์มหอยนางรม รูปร่างผิวคล้ำดำผมหยิกปากหนา ตัวไม่สูงมากนักแต่ล่ำด้วยกล้ามเนื้อ เธอค่อยจรดฝีเท้าเดินเข้าไปแผ่วเบา
“มานี่บัว”
ตาหวานลอบเหลือบมองแม่ของเธอปทุมวดี ผิวขาวคงเค้าความสวยเมื่อวัยสาวเห็นได้ชัด ยังคงรักษารูปร่างให้อรชร แม่นั่งอยู่ด้านข้างโดยมีแม่น้าอีกคนนั่งอยู่ที่เก้าอี้ถัดไป น้าแขไขรูปร่างหน้าตาสะสวยกว่าแม่ของเธอ ผิวพรรณยังเต่งตึงมีน้ำมีนวล
บุษยามองน้องสาวคนละแม่นั่งอยู่ที่พื้นก้มหน้านิ่ง นึกแปลกใจว่าเหตุใดวันนี้ทุกคนถึงพร้อมใจกันมานั่งกันอยู่ในห้องนั่งเล่น
ร่างเล็กค่อยคุกเข่าลงแล้วคลานไปนั่งอยู่ตรงข้างลำขาของปทุมวดี เงยหน้าขึ้นประนมมือไหว้พ่อ หน้าตาตื่นเล็กน้อย
บรรยากาศแปลกประหลาดจนบุษยาหวั่นใจ เธอมองเห็นใบหน้าแม่ซีดเผือด นั่งนิ่งเงียบ ส่วนน้องสาวก้มหน้านิ่งกลับมีรอยยิ้มไม่น่ามองนัก
“คิดจะไปเรียนต่อที่ไหน”
จู่ ๆ นายหัวบัญชรก็พูดขึ้น เธอแหงนหน้าเรียวงามส่งน้ำเสียงขลาดกลัว พ่อไม่เคยเลี้ยงดูหรือพูดคุย นาน ๆ ครั้งจึงกลับมาบ้าน ยิ่งทำให้เธอไม่คุ้นเคยคล้ายเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้า
“ยังไม่รู้เลยค่ะ”
“ไม่ต้องไปเรียนที่ไหน ให้เรียนในจังหวัดนี่ล่ะ”
“พ่อ!!”
“คุณคะ!”
ปทุมวดีและบุษยาเอ่ยขึ้นพร้อมกันด้วยความตกใจ เธอมองหน้าแม่อย่างขอความช่วยเหลือ
“ทำไมไม่ให้ลูกไปเรียนกรุงเทพ ยายบัวหัวดี ถ้าเรียนสูง ๆ จะได้ไม่ลำบาก”
“ไม่ต้อง!! เรียนไปก็เท่านั้นอีกหน่อยก็มีผัว”
บุษยาหน้าเสีย เธอกำมือชายกางเกงของแม่แน่น มือเรียวของปทุมวดีลูบหลังเธอปรอย ๆ คล้ายปลอบใจ
“พ่อคะ หนูจะยังไม่แต่งงานค่ะ หนูจะเรียนให้จบแล้วทำงาน”
“แกอยู่ที่นี่ล่ะ เรียนในตัวจังหวัดก็พอ พวกอาชีวะหรือจะฝึกอาชีพ อีกหน่อยฉันจะหาสามีให้ ตบแต่งออกไปไม่น้อยหน้าใคร”
“พ่อ!!”
ปทุมวดีรีบบีบแขนเธอทันที ปรามไม่ยอมให้โต้เถียง แม้ว่าสงสารลูกสาวจับใจ แต่ปทุมวดีรู้จักนายหัวบัญชรดี สามีของเธอเป็นคนหัวเก่าและวางผู้หญิงไว้เบื้องล่าง แล้วยิ่งความเป็นผู้ดีเก่าช้ามานานของเมืองยิ่งทำให้นายหัวกลายเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่างเพิ่มขึ้นมาอีก ก้มหน้ากระซิบกับลูกสาว
“แล้วแม่จะปรึกษาพ่อดูอีกทีนะบัว”
บุษยากลั้นน้ำตา แม้ว่าเธอตั้งใจจะรอพี่แทนอยู่ที่บ้าน แต่เธอเองยังอยากมีอนาคตที่ดี เธอไม่ได้อยากอยู่ที่บ้านหลังนี้ไปตลอดชีวิต ถ้าอีกหน่อยพี่แทนเก็บเงินได้มากพอ ทั้งเขาและเธอจะไปใช้ชีวิตกันที่อื่น เธอจะทำงานเงินเดือนสูง ๆ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย
“พ่อไม่ต้องให้พี่บัวไปหรอกค่ะ ให้บุหลันไปดีกว่า พี่บัวเขาเป็นพวกไวไฟ ขืนยอมให้ไปเรียนกรุงเทพ เผลอจะท้องไม่มีพ่อ”
“บุหลัน!!”
บุษยาตกตะลึงหน้าเสีย เรียกชื่อน้องสาวเสียงหลง ทั้งยังโกรธจนร่างสั่นเทิ้มที่ไม่สามารถโต้ตอบน้องสาวได้ต่อหน้าพ่อ ทำเพียงนั่งนิ่งมองไปทางน้องสาวอย่างกินเลือดกินเนื้อ
“ก็จริงนี่พี่บัว พี่ไม่ต้องแก้ตัวไปหรอก ดูอย่างพี่แทนสิ ไม่รู้ว่าป่านนี้ไปไหนถึงไหนกันแล้ว”
เพียะ!!
ร่างเล็กผวาออกจากการเกาะกุมของปทุมวดี ปราดเข้าไปตบหน้าน้องสาว ใจเด็กสาวขลาดกลัวตื่นตระหนก กลัวพสุธาเป็นฝ่ายถูกทำโทษ
“พี่บัว!!”
“หยุด!! หยุดทั้งสองคน จะบ้าตาย นี่ผมไม่ได้กลับมาบ้านนานขนาดนี้ พวกคุณสองคนไม่อบรมสั่งสอนลูกบ้างเลย”
ร่างสันทัดของนายหัวบัญชรผุดลุกขึ้นทันที ใบหน้าเขียวคล้ำด้วยโทสะ เตรียมผละออกจากบ้านเพื่อกลับเข้าเมือง เขามีเมียอีกคนที่เด็กกว่าสาวกว่า และที่สำคัญยังไม่มีลูกให้กวนใจ แค่เขาเหยียบเข้ามาก็มีเรื่อง
ร่างล่ำดำเดินลงบันไดบ้านแต่ยังได้ยินเสียงพี่น้องสองสาวทะเลาะกันดังลั่น จึงได้แต่ส่ายหน้า พลันฉุกคิดเรื่องเด็กในบ้าน พสุธา ลูกชายของพรพิศ แม่บ้านที่อยู่กับเขามานานตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ
ป่านนี้คงเป็นหนุ่มฉกรรจ์และรูปหล่อเพราะสายเลือดของชาวต่างชาติ แม้ว่าจะเป็นคนผิวสี แต่ตาสีฟ้าของมันคงทำให้สาว ๆ หลงใหล โดยเฉพาะลูกสาวของเขา
ปัง!!
“กลับเข้าเมือง”
เสียงต่ำอย่างชายวัยกลางคนทั้งแหบพร่าและกังวาลสั่งคนขับรถรู้ใจ เขานั่งนิ่งเงียบขณะที่รถแล่นออกจากรั้วบ้านหลังใหญ่พลันเหลือบสายตาไปเห็นเด็กหนุ่มร่างสูงชะลูดผิดไปจากมาตรฐานคนไทย
ดวงตาดำคล้ำอย่างคนสูบบุหรี่จัดหรี่ลงเพ่งพิจารณาไอ้หนุ่มลูกแม่บ้าน ลูกไม่มีพ่อที่นายหัวอย่างเขาส่งเสียเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก จนมันกำลังจะขี้รถบนหลังคา
รอยยิ้มอสูรร้ายปรากฎบนใบหน้านายหัวชื่อดังแห่งเมืองนี้ เขาทำมาแล้วหลายอย่างและหนทางที่จะให้เด็กหนุ่มหายไปจากหมู่บ้านอย่างไร้ร่องรอยมีเพียงอย่างเดียว
บทพิเศษบอดี้การ์ดร่างยักษ์และนายสาวบ้านจรัญทัดทองนอนเอนกายบนเตียงใหญ่ ปีนี้เขาอายุปาไปเกือบจะสี่สิบห้า เคยมีลูกมีเมียมาก่อนและไม่ไว้ใจใครมือคีบบุหรี่สูดอัดเข้าปอดก่อนพ่นควันขาวเป็นทาง มองไปยังด้านข้างสาวใหญ่อวบอิ่มหน้าตาคมสวยร่ำรวยของเมืองใครจะรู้ว่าแท้จริงเธอไม่ได้ช่ำชองอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ออกไร้เดียงสาด้วยซ้ำ เมื่อคืนตอนที่ชำแรกครั้งแรกเขารู้ได้เลยว่าเธอแทบไม่เคยได้ใช้งานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกยิ้มกวนอารมณ์อย่างที่พสุธาชอบแซวผุดขึ้นมุมปากหนา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนเพราะความเมาจากงานแต่งของนายหัวพสุธาร่างผิวเข้มจากการตากแดดดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบกายพร้อมกับพ่นควันยาว เขานอนอยู่ในห้องพักโรงแรมนายหัวโดยที่สาวลูกเจ้าของบริษัทดังของท้องถิ่นแนบกายเขาจะรออีกสักหน่อยเพื่อปลุกเธอมาต่อสักรอบ อันที่จริงถ้าระยะยาวเลยจะดีมาก เขาชอบหุ่นแสนทรมานใจ เสียงใสหวีดร้องขณะที่ขยับบนร่างเขา เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้สวยงามและไม่เสแสร้ง“อือ”เสียงครางแผ่วเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อหญิงสาวในอ้อมแขนขยับกาย เขาจ้องมองดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขาโน้มตัวใกล้ และเขาเห็นว
บทที่ 49**จบเปรี้ยง! ซ่า! ซ่า!บุษยารีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างช่วยป้าพรพิศในชั้นล่างก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อไล่ปิดตามห้องพสุธาหายไปเกือบอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เขาตกน้ำ หน้าหวานคมขุ่นมัว แค่จะง้อเธอยังทำไม่ได้เลยปัง! ปัง!มือเล็กกระแทกหน้าต่างปิดอย่างแรกทีละบานกระทั่งมาถึงห้องนอนของเธอ บุษยาไล่ปิดหน้าต่างไม้ แต่พอถึงบานข้างโต๊ะเขียนหนังสือมือเรียวชะงักไปท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำจนขาวโพลน ชานบ้านพักหลังเล็กกลับมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำยืนอยู่ ลมกรรโชกแรงจนพัดร่างของเขาเปียกปอน ปากเย้ายวนเม้มแน่นกระแทกบานหน้าต่างปัง!!ภาพร่างสูงใหญ่ยังติดตาจนเธอสะท้านถึงข้างในทรวง อาการเจ็บแปลบที่เป็นมาเกือบสิบวันมลายหายไป ตอนนี้หัวใจดวงน้อยกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้นเธอหันหลังให้หน้าต่างบานนั้น เสียงลมและฝนยังสาดซัดกระทบหน้าต่างเสียงดังสนั่นจนเธอต้องหันตัวกลับไป มองร่องกลางหน้าต่างบานไม้ของบ้านหลังนี้ที่สร้างมานานนับหลายสิบปีก่อนเธอจะเกิดความเก่าแก่ร่องรอยไม้ซีดจาง ที่จับหน้าต่างทำจากเหล็กสลักลายเก่าขึ้นสนิทเล็กน้อยแต่ยังใช้งานได้ดี ตอนที่ยังเด็กเตี้ยกว่านี้ เธอต้องปีนเก้าอี้เพื่อจับด้ามหน้
บทที่ 48“แม่ครับ”“อ้าวแทน มาทำอะไร ต้องพาหนูบัวไปโรงพักเหรอ”“เปล่าครับ นี่ขนมที่บัวชอบ”พรพิศยื่นมือออกไปรับถุงขนมแล้วเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา“มีแต่ของชอบ รู้ใจคุณบัวเสียจริงลูกแม่”“แล้วบัวล่ะครับ”พรพิศวางถุงขนมลงบนโต๊ะในครัวแล้วพยักหน้าไปยังทิศทางที่เห็นร่างบอบบางเดินออกไป“โน้น อยู่แพหอย”พรพิศพูดไม่ทันจบประโยคร่างสูงใหญ่ของลูกชายพลันก้าวลงจากพื้นห้องครัววิ่งแกมเดินไปยังแพหอยกลางน้ำรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนหุบลงเมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกไปไกลมากแล้ว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณปู่ของพสุธาเมื่อวานนี้วิลเลี่ยมพ่อของพสุธาเสียชีวิตลงไม่นานนักหลังจากที่เธอจากมาด้วยอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ของวิลเลี่ยมด้วยเช่นกัน เธอไม่เคยบอกสาเหตุที่เธอทิ้งพ่อของพสุธามา แต่เธอเล่าให้ปู่ของเขาฟังวันที่วิลเลี่ยมพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น พ่อกับแม่ของวิล เลี่ยมไม่พอใจมากถึงขั้นโต้เถียงรุนแรงและลงไม้ลงมือ ไหล่พรพิศสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกภาพอดีตของคืนเลวร้าย วิลเลี่ยมถูกส่งตัวไปทำแผลในโรงพยาบาลซึ่งต้องทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับแม่ของวิลเลี่ยมชนชั้นสูงอย่างบ้านแบล็ครับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวมีภรรยาคนละฐานะกัน ต
บทที่ 47กว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งบุษยาและบุหลันเองเพลียเต็มทน ต้องไปให้ปากคำที่กองกำกับการประจำอำเภอเพราะถนนเส้นนั้นเป็นเขตของอีกอำเภอทำให้เสียเวลาเดินทาง“คุณบัว คุณบุหลัน!!”ป้าพรพิศตาโตตกใจเมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองสภาพไม่น่าดูนัก เหลือบตามองลูกชายที่ยังหน้าบึ้งเดินตามมาข้างหลัง“เดี๋ยวผมเล่าให้ครับแม่ แล้วคุณปู่ล่ะครับ”“แม่ทำความสะอาดห้องพักข้างบนให้ท่านขึ้นไปพักผ่อนแล้ว”ป้าพรพิศรีบเข้าไปช่วยเข็นรถของบุหลันแทนบุษยาแล้วพาเลี้ยวเข้าไปด้านหลังปล่อยบุษยาไว้กับพสุธาสาวร่างบางรีบก้าวเท้าขึ้นบนบ้านได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินตามหลังจึงหันไปมอง เห็นคนร่างสูงเดินขึ้นบันไดตามมาด้วย“พี่แทนกลับไปเถอะค่ะ”“พี่จะขึ้นไปหาคุณปู่”บุษยาเม้มปากสะบัดหน้ากลับก่อนแดงซ่านด้วยความอาย เพราะหลงเข้าใจผิดว่าเขาตามง้อเธอ รีบย่ำเท้าเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังห้องเล็กผลัก! พสุธาใช้มือทาบยันประตูไว้ได้ทันก่อนที่คนร่างเล็กปิดลงแทรกร่างใหญ่โตเข้าไปโดยที่เธอสู้แรงไม่ได้“พี่แทน!! นี่มันห้องบัว”“แล้วยังไง พี่แค่อยากมาดูห้องเมีย”“บัวไม่ได้เป็นเมียพี่!!”ชายร่างโตไม่โต้เถียงเพียงเดินดูรอบห้องแล้วไปหยุดที่โต๊ะเขียนหน
บทที่ 46พรพิศมองตามหลังสองหนุ่ม แม้ว่าเธอไม่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองมากนักว่าหายไปไหนกับใครมาหลายปี รู้แค่ว่าเขาน่าจะไปอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่ชายชราร่างใหญ่ผิวคล้ำคนนี้ไม่ใช่คนรักเก่าของเธอ“สวัสดี ผมวิลเลี่ยมเป็นปู่ของวิล ดูท่าเราอาจต้องคุยกันยาวนะ”“สวัสดีค่ะ”หญิงวัยกลางคนตรงหน้าตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างที่ชายชราเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พรพิศเดินนำชายชราเข้าไปในบ้าน เธอเองก็อยากรู้ใจแทบขาดว่าผู้ชายคนรักเก่าของเธอเป็นอย่างไรบ้าง และเรื่องราวหลังจากที่พสุธาตามหาพวกเขาจนเจอนั่นเป็นอย่างไรเอี๊ยดดด!! โครม!!“โอ๊ย!!”ร่างบอบบางศีรษะโขกกับคอนโซลหน้ารถทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ รถคันเล็กของเป็นเอกถูกกระแทกจากการปาดหน้า จนต้องหักพวงมาลัยซ้ายสุดเพื่อให้รถลงไปยังไหล่ทางก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางบุษยารีบเอี้ยวตัวไปดูน้องสาวที่นั่งด้านเบาะหลังเห็นร่างผอมบางร่วงลงไปกองกับพื้นรถแต่ไม่เป็นอะไรมากกึก! ตึ้ง! หมับ!“ออกมานี่”คนร่างโตคล้ำดำผมหยิกปิดหน้าตาด้วยผ้าคลุมโหม่งสีดำฉุดร่างของบุษยาออกมาจากรถจนร่างบอบบางเอียงถลาเกือบล้มคว่ำ“พี่เอาไงนิ เป็นตากาลักกาลุย หัวเช้าวานยังแลงว่าคนเดียว[1]”“กูรู้?
บทที่ 45พสุธานั่งไขว้ห้างบนโซฟาในห้องทำงานกระดิกเท้าอย่างร้อนรน มองคุณปู่ผิวคล้ำใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาเพียงแต่สูงวัยกว่ามากและผมขาวจนเกือบทั้งศีรษะ“ปู่มาไม่บอกล่วงหน้า”“ถ้าฉันบอก ฉันจะเจอแกไหมแทน”เขามองรอยยิ้มกวนประสาทที่อยู่บนหน้าปู่ก่อนเบือนหนีไปยังด้านอื่นเพื่อปกปิดอาการผิดสังเกตของตัวเอง แต่ไม่รอดพ้นสายตาของผู้สูงวัยที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน“เป็นอะไร! ปกติไม่เป็นแบบนี้”ชายสูงวัยหันไปถามบอดี้การ์ดคนสนิทของหลานชายรอยย่นรอบดวงตาหรี่ลงด้วยความสงสัย ตามปกติพสุธามักสงบนิ่งและควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี“ไม่มีอะไรมากหรอกครับมิสเตอร์แบล็ค แค่อาการอกหัก”“พี่ทัด!!”“ห๊า!!”เสียงตะโกนขึ้นมาพร้อมกันของปู่กับหลานทำทัดทองยิ้มกว้างกว่าเดิมหันไปมองหน้าคนปู่ที่ใบหน้าคงฉงนฉงาย“พูดมาเดี๋ยวนี้เลย ผู้หญิงคนไหนกันปฏิเสธหลานของฉัน”“ฮ่า ฮ่า มิสเตอร์ต้องไม่อยากเชื่อแน่ถ้าเล่าให้ฟัง”“พี่ทัด หุบปากไปเลยดีกว่า”เสียงคำรามกร้าวยิ่งทำให้ทัดทองยิ้มอย่างกับคนบ้า เขาอยากจะให้ไอ้หมอนี้โดนคุณปู่อบรมสั่งสอนเรื่องการทะนุถนอมผู้หญิงเสียหน่อย“โฮะโฮ้ ไอ้เสือนี่ไปทำอีท่าไหนเขาถึงทิ้งไป”เสียงปู่ยังขยี้ไม่หยุดจ้อง