“อืม..ไม่ไหว หยุดไม่ไหว ตอดแน่นเหลือเกินกอหญ้า ตอดแน่นขนาดนี้จะให้หยุดไหวได้ไง อืม..”
“เสียว..มันเสียว คุณราชันย์”
ราชันย์ที่ได้ยินเสียงครางกระเส่าของเธอก็ยิ่งเร่งจังหวะเข้าไปอีกรัว ๆ ดั่งเขากำลังยิงปืนกลก็ไม่ปาน คนตัวเล็กใต้ร่างบิดเอวไปมาตามความเสียวซ่าน บ้างก็แอ่นสะโพกเพื่อรับแรงกระแทกจากราชันย์เป็นบางครั้งอย่างลืมความเจ็บปวด ช่องทางรักกระตุกเกร็งและตอดรัดท่อนเอ็นของเขาแรงขึ้น ก่อนจะกระตุกเกร็งแรง ๆ สองสามครั้ง
“อื้อ!!”
“รอด้วยสิ จะเสร็จแล้ว อืมม..”
แก่นกายของเขากระตุกสามสี่ครั้งในโพรงร่องสวาท ก่อนที่มันจะสงบแน่นิ่ง ร่างบางที่อ่อนปวกเปียกของกอหญ้าบัดนี้พร้อมจะหลับได้ทุกเมื่อ เธอปรือตาขึ้นมามองราชันย์ที่ยังอยู่ในท่าเดิม ไม่แม้แต่จะถอดถอนแก่นกายนั้นออกจากโพรงสวาทเธอด้วยซ้ำ เขาเหลือบตามองเห็นหน้าของสกุณาที่กำลังปรือตามองเขาอย่างเซ็กซี่ ท่อนเอ็นที่น่าจะหลับแล้วก็กลับผงาดขึ้นมาอีกครั้งในโพรงช่อบุปผาของเธออีกครั้ง สกุณาที่สัมผัสได้ถึงความใหญ่โตในช่องทางรักของตัวเองนั้นทำให้ดวงตาเบิกโพลงทันที
ราชันย์ไม่รอช้าเพื่อดับกระหายกิเลสเขาขยับเล็กน้อยและยกสกุณาให้ปลิวหวือขึ้นมาทันที ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนบนพื้น แขนเรียวบางของเธอตวัดรัดรอบคอของเขา เรียวขาขาวเองก็ตวัดรอบเอวสอบอย่างอัตโนมัติ ราชันย์ขยับให้สะโพกของสกุณานั้นขยับขึ้นลงเนิบนาบแต่เน้น ๆ ก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้น ขาแกร่งของเขาเองก็ขยับเดินวนไปเรื่อย ๆ เอวสอบเด้งรับแรงส่งจากสะโพกงามงอนเป็นระยะยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้กับเธอเป็นอย่างมาก
“เสียว.. คุณราชันย์ กอหญ้าเสียว.. อ๊ะ.. เบาค่ะ เบาหน่อย”
“เบาไม่ไหวแล้วกอหญ้า..อืม...อร่อย อร่อยเหลือเกิน .. ตอดแน่นชะมัด”
ราชันย์เร่งจังหวะขยับสะโพกเธอให้เร็วขึ้น เสียงครางด้วยความเสียวซ่านสุขสมของทั้งคู่ ดังกล้องอย่างลืมอายอยู่ในห้องนั้น ราชันย์เดินหยุดที่หน้าประตูห้องนอน เปิดประตูห้องแล้วขยับเดินมาหยุดที่ปลายเตียงขนาดคิงไซต์ที่เพิ่งลุกออกไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ราชันย์ยังคงส่งเอวสอบกระแทกกระทั้นช่อบุปผาช่องามนั้นอย่างไม่มีท่าทีจะลดละ
ก่อนที่จะค่อย ๆ ดันหน้าอกอวบอิ่มของเธอให้ผละออกไปเล็กน้อยและประกบเรียวปากร้อนของเขาเข้ากับยอดปทุมถันนั้น สกุณาที่โดนรุกทั้งข้างบนและข้างล่าง ความรู้สึกเสียวซ่านที่ได้สัมผัสทำให้เธอแอ่นหน้าอกหน้าใจให้ราชันย์โดยอัตโนมัติ ก่อนที่ร่างกายจะค่อย ๆ รู้สึกร้อนผ่านที่ช่องทางรักอีกครั้ง โพรงสวาทของเธอกระตุกเกร็งสองสามครั้งแรง ๆ
“อื้อ!”
เมื่อเธอเสร็จสมอารมณ์หมายแล้วสกุณาก็หมดสติ ศีรษะของเธอหล่นลงมาพาดไหล่กว้างของราชันย์โดยอัตโนมัติ ราชันย์ที่เห็นว่าสกุณาเสร็จสมอารมณ์หมายและดูท่าจะหมดสติไปแล้วนั้น ก็ขยับเอวสอบให้ซอยถี่ ๆ ก่อนที่ท่อนเอ็นอุ่นนั้นจะขยายตัวพองโตเพิ่มขึ้นอีกและกระตุกสองสามครั้งในถ้ำสวาทที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำหวานของทั้งคู่
ราชันย์หยุดนิ่งเล็กน้อย และค่อย ๆ ย่อตัวเพื่อวางสกุณาลงที่เตียงขนาดคิงไซต์ โดยที่เขาเองยังไม่ได้ถอดถอนแท่งเอ็นอุ่นออกจากถ้ำ เขาเขี่ยปอยผมที่ปกใบหน้าของเธอออกเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ถอดถอนแท่งเอ็นอุ่นที่บัดนี้มันได้นอนคอพับคออ่อนไปแล้ว แต่ถึงแม้ว่าแท่งเอ็นนั้นจะหลับแล้วแต่ก็ยังคงความมโหฬารเอาไว้อย่างชัดเจน มันค่อย ๆ ออกจากถ้ำบุปผาของเธอช้า ๆ ทันทีที่แท่งเอ็นออกจากถ้ำ น้ำสวาทที่ถูกขังอยู่ในถ้ำนั้นก็ทะลักออกมาทันที มันไหลเปอะเปื้อนไปบนที่นอน และเรียวขาด้านในของสกุณา
ราชันย์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงยืนมองด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนจะเอื้อมมือหยิบผ้าห่มผืนโตมาคลุมกันหนาวให้เธอ เขาขยับร่างกายก็บิดซ้ายขวาไล่ความขบเมื่อยสองสามครั้งก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัวทันที เมื่อเขาออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ยังเห็นว่าสกุณานั้นยังนอนอยู่ที่ท่าเดิม
“สงสัยจะเพลียปล่อยให้นอนไปก่อนแล้วกัน”
ราชันย์แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ก็ลงจากคอนโดเพื่อไปบริษัทเพื่อจัดการธุระทันที
“ตกลงเรื่องนายพลคือยังไงไอ้ธัน”
ราชันย์ยิงคำถามทันทีที่ธันวาเปิดประตูห้องเข้ามา มือขวาคีบบุหรี่รสชาติโปรดแต่สายตาจับจ้องไปที่นอกหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ที่เห็นทิวทัศน์ของเมืองอย่างสุดลูกหูลูกตา อัดควันเข้าปอดแรง ๆ ก่อนจะพ่นควันสีขาวพวยพุ่งออกจากปาก อย่างอารมณ์ดี
“มันส่งลูกสาวมาขัดดอกไว้ก่อน เมื่อเช้ามันติดต่อมาแล้ว ว่าขอเวลาสองอาทิตย์”
“สองอาทิตย์?”
“เออ เชื่อได้แค่ไหนไม่รู้..ว่าแต่ลูกสาวนายพล ไม่น่าจะใช่สเปคมึง”
“ไม่ใช่”
“งั้นก็ดีเลย กูจะได้มั่นใจว่ามึงคงยังไม่ทำอะไรเขา หรือว่าเราจะให้เอาไปช่วยทำงานในกาสิโนดีวะ หุ่นแบบนั้นหน้าตาแบบนั้น กูว่าเรียกลูกค้าได้ดีเลย”
“แล้วแต่มึงเลย”
“เออ ๆ วันนี้มึงแปลก ๆ นะเนี่ย ทำไมวะเจอแมวข่วนหน้ามาหรอ”
ราชันย์ที่ได้ยินดังนั้นยกมือขึ้นมาลูบหน้าทันทีที่ธันวาพูดจบ ธันวาที่เห็นอาการแปลก ๆ ของเพื่อนก็อดหัวเราไม่ได้ แปลก วันนี้ไอ้ราชันย์มันแปลกจริง ๆ
“เป็นเอามากนะมึงไอ้ราชันย์ กูแค่เปรียบเปรย ทำไมวะ หรือแม่มาหยาฝากรอยรักไว้ให้มึงอีก”
“มึงเลิกพูดเรื่องมาหยาเหอะ จะจัดการอะไรมึงก็ไปเถอะ เดี๋ยวคืนนี้กูว่าจะไปดูที่บ่อนสักหน่อย”
“เออครับ ๆ แล้ววันนี้จะให้กูไปหิ้วน้องเขาที่คอนโดมึงเลยมั้ย”
“เออ”
ราชันย์ที่ตอบส่ง ๆ ก็ต้องสะดุดคำพูดตัวเองเพราะนึกขึ้นได้ว่าสภาพของสกุณานั้น ถ้าธันวาเข้าไปห้องตอนนี้ไม่น่าจะใช่เรื่องที่ดี
“เดี๋ยวไอ้ธัน พอดีกูลืมว่าวันนี้กูจะออกไปทำธุระที่ไร่มังกร เดี๋ยวไม่มีคนอยู่บริษัท เรื่องลูกนายพล ไว้ พรุ่งนี้กูจะเอาไปส่งที่กาสิโนละกัน”
กอหญ้าคลานขึ้นมาบนเตียงที่มีราชันย์นอนหน้ามุ่ยคอหักดั่งปลาทูแม่กลอง ก่อนจะมุดเข้าไปในผ้านวมผืนหนา มือเล็กลูบไล้ขาแกร่งของราชันย์อย่างเบามือ รับรู้ได้ว่าราชันย์เองก็เกร็งขาเป็นระยะ แต่ยังทำท่าทีไม่สนใจเมียเหมือนเดิมมือเล็กของกอหญ้าเลื่อนไปปลดเข็มขัดของเขาออก ปลดกระดุมกางเกงช้า ๆ รูดซิปออกก่อนจะดึงกางเกงของผู้ชายใต้ร่างของเธอออกอย่างง่ายดาย เหลือเพียงกางเกงในสีขาวแบรนด์ดังที่บัดนี้ปิดเจ้าโลกไว้ไม่มิดด้วยซ้ำ ราชันย์น้อยที่หัวเห็ดขนาดใหญ่โผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงใน ผงกหัวราวกับกำลังเชิญชวนให้เธอมาทำมิดีมิร้าย แต่เจ้าตัวกลับยังทำหน้ามุ่ยไม่สนใจ เพียงแค่ปลายนิ้วชี้ของเธอกระตุกทั้งกางเกงนอกกางเกงในของราชันย์ก็ถูกถอดออกโยนไปกองที่พื้นโดยที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างไม่ขัดแม้แต่น้อยของเขามือเล็กของเธอกำเข้ากับเจ้าโลกที่ขยายเต็มที่ หัวเห็ดบานยั่วเย้าเหล่าแมลงมีน้ำหวานผุดออกมาจากปลายหัวเห็ดให้นิ้วชี้ของกอหญ้าได้ไล้วน สร้างความเสียวซ่านกระตุกถี่ กอหญ้าใช้ลิ้นอุ่น ๆ ไล้เลียไปที่หัวเห็ดบานจนทั่วยิ่งเธอวนรอบหัวมากเท่าไหร่ น้ำหวานที่ไหลเยิ้มก็ยิ่งผลิตออกมามากเท่านั้น ไล้เลียรอบหัวจนพอใจลิ้นของเธอก็ค่อย
“ค่ะเฮีย หญ้าได้ยินแล้ว เฮียดีใจเสียงดังไปแล้วค่ะ”“คุณแม่ฝากครรภ์เลยไหมคะ”“ฝากเลยค่ะ”“ได้เลยค่ะ”คนที่ดูจะตื่นเต้นสุดเหมือนจะเป็นผู้ชายข้าง ๆ มากกว่าเธอเสียอีก กอหญ้าที่เห็นราชันย์ดีใจมากก็ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ เธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเด็กผู้หญิงที่ครอบครัวล้มละลาย จะได้มีครอบครัวที่มีความสุขขนาดนี้ ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดแต่จะรีบให้หมดเวลาสัญญา ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอตกหลุมรักเขาโดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่แม้แต่จะชายตามอง ผู้ชายที่เธอไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมายืนเคียงข้างเธอเป็นครอบครัวของเธอจริง ๆ“เฮีย”“ว่าไงจ๊ะเมียจ๋า”“หญ้ารักเฮียนะ”“เฮียก็รักหญ้า รักมาก ๆ รักที่สุดเลย”“แต่หญ้าเหม็นหน้าเฮียมากนะ”“…”“หญ้าว่าจนกว่าจะคลอด อยากให้เฮียอยู่ห่าง ๆ หญ้าหน่อยจะได้ไหมคะ”“แต่เฮียอะ..อยากอยู่กับหญ้าตลอดเวลาเลยจริง ๆ นะ”“อะแห่ม! เดี๋ยวเรื่องนั้นยังไงค่อยกลับไปตกลงกันเนอะ แต่ตอนนี้เรามาทำประวัติฝากครรภ์กันก่อนดีกว่าน๊า”ถึงแม้คุณหมอจะพูดแบบนั้น แต่แก้มหมอกลับยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นความมุ้งมิ้งของสองสามีภรรยานี้ ยิ่งทำให้หมอยิ้มแก้มแทบปริ กอหญ้าเองก็ลืมตัวว่ายังอยู่ที่โรงพยาบาล ทำ
กอหญ้าไม่ได้พูดเล่น แต่เธอรู้สึกว่าราชันย์นั้นมีกลิ่นตัวที่ผิดจากปกติ เป็นกลิ่นที่เตะจมูกแบบแปลกกว่าที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังคงใช้แชมพูกลิ่นเดิม ครีมอาบน้ำกลิ่นเดิม และน้ำหอมก็ยังคงกลิ่นเดิม แต่สองสามวันมานี้เวลาเจอราชันย์กลับมีกลิ่นที่แปลกไป แต่เธอไม่กล้าพอที่จะบอกกับเขา กลัวว่าผู้เป็นสามีของตนจะน้อยใจแต่พอยิ่งเห็นเขา อาการเหม็นกลิ่นตัวเขาก็ยิ่งจุกในอกมากขึ้นจนบางครั้ง ก็อยากที่จะเดินหนีเขาให้พ้น ๆ ต่างกันกับราชันย์ที่มีความต้องการที่อยากจะคลอเคลียนัวเนียกับผู้เป็นภรรยาตลอดเวลา อยากอยู่ใกล้อยากเห็นหน้าตลอดเวลา อยากจะไปไหนมาไหนทำอะไรด้วย เขารู้สึกว่ากลิ่นกายของกอหญ้าหอมเป็นพิเศษ และเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่รู้สึกคลื่นไส้เวลาพบเจอและเพียงแค่เขาออดอ้อนเมียได้ไม่นานนัก ความมวนท้องก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ ยังไม่ทันที่จะได้เดินออกจากหน้าห้องน้ำ ราชันย์ก็หันหลังตรงดิ่งเจ้าไปกอดคอชักโครกสุดที่รักเช่นเดิม กอหญ้าเองถึงแม้จะเห็นความทรมานของราชันย์ก็เถอะ แต่พอเธอจะก้าวขาเข้าไปลูบหลังก็ต้องชะงัก เพราะเมื่อเห็นหน้าราชันย์เธอเองกลับรู้สึกคลื่นไส้มาเสียอย่างนั้น
พิเศษ ตอนที่ 3...“หม่ำ หม่ำ”เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเศษ ที่กำลังนั่งเก้าอี้รอกินข้าวอย่างใจจดใจจ่อ โดยที่เก้าอี้ข้างกันนั้นยังมีเด็กชายพี่น้องฝาแฝดที่ทำหน้านิ่งมองหน้าอลิซที มองหน้าผู้เป็นพ่อที และเด็กน้อยก็รอเพียงไม่นานผู้เป็นแม่อย่างกอหญ้าก็เดินมาพร้อมกับอาหารสีสันสดใสน่ารับประทานนำมาวางไว้ที่เก้าอี้ ส่งผลให้เด็กน้อยอารมณ์ดีอย่างอลิซปรบมือดีใจยกใหญ่“หม่ำ หม่ำ”“โอเค ข้าวมาแล้วลูกสาวป๊าจะได้กินข้าวแล้ว”“อาร์เดนหิวข้าวมั้ยลูก”“…”ไม่มีเสียงตอบรับจากลูกชายของเธอมีเพียงตาตาที่ดุราวกับเสือร้ายที่จดจ้องมองไปที่จานข้าวอย่างไม่ละสายตา ดูท่าทางแล้วเขาจะได้ลูกชายที่ค่อนข้างเงียบมากมาคนหนึ่งแน่นอน กอหญ้าไม่ลีลาให้ลูกต้องรอนาน เธอส่งสัญญาณให้ราชันย์เริ่มป้อนข้าวลูกได้ ถึงแม้อาร์เดนจะมีท่าทีไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่พอเธอป้อนข้าวให้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะไม่ทาน ผ่านไปเพียงไม่นานข้าวผัดสีสันสดใสก็หมดเกลี้ยงจานทั้งคู่ สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เป็นแม่เป็นอย่างมาก“หม่ำ”และยังคงเป็นเช่นนี้ อาร์เดนจะส่งเสียงร้องขอก็ต่อเมื่อเห็นจานผลไม้เท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน ลูกชายของเขาแลดูจะชอบผลไม
“ยังเลย”“ทำไมเธอดูตื่นเต้นขนาดนี้”“ทำอย่างกับนายไม่ตื่นเต้น”“ก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่นะ”เพียงไม่นานประตูห้องคลอดก็ถูกเปิดออกโดยมีกลุ่มคุณหมอเดินออกมาสามสี่คน ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที“คุณหมอคะ คนไข้ที่เพิ่งเข้าไปเป็นยังไงบ้างคะ คลอดหรือยังคะ”“คุณแม่ยังไม่คลอดนะคะ ปากมดลูกยังไม่เปิด”“เธอเป็นยังไงบ้างคะ”“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ แต่เบื้องต้นอายุครรภ์ยังไม่ถึงกำหนด คลอดออกมาเด็ก ๆ อาจจะต้องเข้าตู้อบก่อนนะคะ”“ขอบคุณมากค่ะ”เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมงก็ไม่มีท่าทีว่าเธอจะคลอด ทั้งธันวาและเว่ยเอินเองก็สลับกันลุกนั่ง วนอยู่หน้าห้องคลอด และไม่มีท่าทีจะคลอดง่าย ๆ ยิ่งทำให้เว่ยอินและธันวารู้สึกกังวลเพิ่มขึ้น“ไอ้ธัน”“มาสักที”“กอหญ้าเป็นไงบ้าง นานแล้วนะยังไม่คลอดอีกหรอ”“ยังเลย”“คุณเป็นใครคะ”“อ่อ..คนนี้เว่ยเอินที่เคยเล่าให้ฟัง..ส่วนนี่ราชันย์”“สวัสดีครับ”ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ทำความรู้จักกัน ก็มีกลุ่มคุณหมอสามสี่คนรีบวิ่งมาที่หน้าห้องคลอด ทำให้ราชันย์เองก็ตกใจไปด้วยเขาคว้าข้อมือของหมอผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้“เกิดอะไรขึ้นครับ”“คุณแม่มีภาวะครรภ์เป็นพิษครับ หมอขอตัวก่อนนะคร
เขาอุ้มกอหญ้าและเดินช้าๆ ให้เข้าไปนั่งรอในรถ ทางด้านเว่ยเอินเองเธอก็รีบวิ่งมาหอบหิ้วข้าวของอย่างพะรุงพะรังเข้าไปยัดไว้ในรถเช่นเดียวกัน ก่อนที่เธอกระโดดขึ้นรถด้วยความเร็วแสง เคาะเบาะรถเบา ๆ ให้ธันวานั้นขับรถออกไปอย่างรวดเร็วปลายทางคือโรงพยาบาล ถึงแม้โรงพยาบาลจะอยู่ไม่ไกลมากนักแต่ช่วงเวลานี้ รถบนท้องถนนย่อมมีมากกว่าปกติเพราะเป็นช่วงเวลาทำงานพอดีนั่นจึงทำให้รถของเขาที่กำลังจะมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลนั้นเกิดการล่าช้าอย่างช่วยไม่ได้ ธันวาที่พยายามเหยียบคันเร่งรถอย่างเต็มที่เพื่อให้ไปถึงโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด ก็ต้องฟันฝ่ากับอุปสรรคบนท้องถนน คนข้างๆ เขาเองก็ต้องฝ่าอุปสรรคความเจ็บปวดที่รู้สึกได้เลยว่ามดลูกกำลังบีบตัวลง และเวลาต่อมาก็ยิ่งทำให้เธอตกใจเข้าไปอีก เมื่อเธอรู้สึกว่าเบาะที่เธอนั่งนั้นตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน จะบอกว่าเธอฉี่แตกก็ไม่น่าจะใช่ เธอไม่รู้สึกเลยว่ามันไหลออกมาตอนไหน เมื่อรู้ตัวอีกทีมันก็เปียกชุ่มไปหมดแล้ว"น้ำเปียกเบาะหมดแล้ว""ห๊ะ! เดี๋ยวนะอย่าเพิ่งคลอดนะ บนรถอันตราย""คุณธันวาขับเร็วกว่านี้ได้ไหม เห็นไหมพี่หญ้าหน้าซีดหมดแล้ว""ฉันก็กำลังรีบอยู่"ใ