LOGINEp.5 ความรีบเป็นเหตุ สังเกตได้
“โอ้ยยย นี่คุณ!!!!!” ทานตะวันตกใจเป็นอย่างมาก จนต้องเบิกตาโตจนตาแทบถลักออกมาด้านนอก เธอจับปากสวยสีอมชมพูอ่อนของตัวเองเอาไว้อย่างแน่นด้วยความรู้สึกช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา จนไม่รู้จะเอาคำไหนมาบรรยาย เพราะตอนที่เธอรีบวิ่งนั้น เธอดันไปชนกับชายร่างสูงคนหนึ่งเข้าออย่างจัง โดยไม่ทีนตั้งตัว ซึ่งก็คือ มาเฟียหนุ่มอย่างสก๊อตนั้นเอง จึงทำให้เธอและเขาล้มลงไปกองที่พื้น และสิ่งที่ทำให้เธอตกใจมากก็คือ เธอล้มลงไปทับเขา แล้วปากของเธอกับเขาก็เลยปะกัน กลายเป็นว่าเธอกับเขาจูบกันงั้นหรอ? 'ไม่นะจูบแรกของฉัน!!' “…..” “ไอ้บ้า! ฉันจะฆ่าแก!” ร่างบางร้องโวยวาย รู้สึกโกรธเป็นอย่างมากที่เสียจูบแรกให้กับใครก็ไม่รู้ แต่เขาผู้นี้กลับดูไม่สะทกสะท้านอะไรเลย แล้วยังจะทำหน้าตาเรียบนิ่งใส่เธออีก ‘นี่เขาเป็นคนหรือหุ่นยนต์กันเนี้ย เธอได้แต่คิดในใจ’ “…..” “ไม่ดูหรอว่ามีคนมาทางนี้ แล้วยังบังอาจมาจูบปากฉันอีก งั้นต้องเจอนี่!” ในขณะที่ร่างบางกำลังจะปล่อยหมัดหนักๆนั้น ร่างสูงก็ใช้มือจับแขนของเธอไว้แน่น ไม่ให้เธอทำร้ายเขาได้ แล้วก็พูดประโยคสั้นๆ ออกมาว่า “ใครกันแน่ที่วิ่งไม่ดูทาง เธอคิดว่าตัวเองเป็นเด็กเล็ก? ” ถึงเวลามาที่เฟียหนุ่มได้พูดสักที น้ำเสียงอันน่าเกรงขามเอ่ยขึ้น เขาเลิกคิ้วถาม ทว่าสายตาดูเรียบนิ่ง และเย็นชา “ฉันอายุ 22 แล้ว และวันนี้แหละฉันจะเอาเลือดออกจากปากนาย!” ร่างบางที่กำลังใช้แรงอย่างมหาศาลดึงมือร่างสูงออก เพื่อที่จะปล่อยหมัดใส่เขา ทว่าดึงยังไงก็ดึงไม่ออก ทันใดนั้นเอง ร่างสูงสะบัดมือเธอทิ้งอย่างเเรง จนเเขนเเทบหลุดจากร่าง อย่างไม่ใยดีว่านี่คือผู้หญิงน่ะ แล้วก็เดินออกไปจากตรงนั้นอย่างหน้าตาเฉย โดยที่ไม่สนใจและไม่หันกลับมามองเธอเลยสักนิด สักนิดก็ไม่มี “คอยดูน่ะ ถ้าฉันเห็นหน้านายอีก ฉันจะต่อยให้หน้าแหกจนไม่มีใครคบเลย!!!” ร่างบางตะโกนอย่างดังเพื่อให้ร่างสูงได้ยิน แต่เขาก็ไม่สนใจเสียงนกเสียงกาอย่างเธอยู่ดี ไม่ชักปืนออกมาเเล้วพ่นลูกตะกั่วใส่รัวๆ ก็บุญหัวของยัยเด็กนี่มากเเล้ว เธอได้แต่คิดอยู่ในหัวว่า ไอ้บ้าหนิ เป็นหุ่นยนต์หรือไงเนี้ย คำพูดฉันไม่เข้าสมองบ้างหรือไง ร่างบางรู้สึกโมโหมาก แต่ทำได้แค่เพียงพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ณ ไร่แสงตะวัน ในขณะที่นั่งหวีผมอยู่หน้ากระจกขนาดกลางในห้องนอน ก่อนหน้านั้นที่มาถึงบ้าน ก็ถูกตากับยายซักถามจนปากเปื้อยปากแฉะ กว่าจะยอมปล่อยตัวให้เธอเข้าห้องนอน แต่คงไม่ใช่เพราะจูบนั้นแน่นอนที่ทำให้ปากเธอเปื้อยแฉะ คิดแล้วก็เจ็บใจยิ่งหนัก “บ้าชะมัดเลย!! วันนี้อุส่าห์ไปทำบุญช่วยเด็กแท้ๆ ทำไมฉันกลับต้องมาเจอไอ้บ้านั้นด้วย เห้ยยยยยย!!” ร่างบางจับปากตัวเองและก็พูดระบายกับกระจกอย่างอารมณ์หงุดหงิด อีกมุมหนึ่ง ร่างสูงที่กำลังอาบน้ำอยู่ ก็นึกไปถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ “ยัยเงอะงะ!” จากนั้นร่างสูงก็ส่ายหัวไปมาให้กับความเงอะงะของยัยเด็กตัวแสบคนที่กล้ามาลองดีกับเขา เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครหน้าไหนมาพูดและมีกริยาท่าทางกับเขาแบบนี้มาก่อน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นมันคงได้ไปเกิดใหม่นานเเล้ว ครืดๆๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ร่างสูงที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จตวัดขาเรียวยาวเดินออกมา ก็ต้องพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “ว่าไงครับ? ” (เรื่องที่ให้จัดการ ไปถึงไหนแล้ว?) “ผมจะไปจัดการให้เสร็จเร็วๆนี้ครับ” (ฉันเชื่อใจแก อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ) “ครับ” จากนั้นสายก็ตัดทิ้งไป มือหนาจับโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหามือขวาของตัวเอง (มีอะไรครับนาย?) “เตรียมเอกสารต่างๆให้ครบ กูจะไปพรุ่งนี้ตอนเช้า” ร่างสูงบอกให้ลูกน้องเตรียมเอกสารการกู้เงิน เพราะเขาจะไปจัดการกับลูกหนี้พรุ่งนี้เช้า ทุกอย่างจะต้องไม่ผิดพลาด เพราะเขาเกลียดความผิดพลาดที่สุด (ได้ครับนาย) หลังจากนั้น มาเฟียหนุ่มก็เดินไปในห้องแต่งตัว พอจัดการแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมา แต่ทว่ามีเพียงท่อนล่างที่มีเสื้อผ้าอาภรณ์ใส่อยู่ ส่วนท่อนบนเปลือยเปล่าไร้ซึ่งสิ่งปกปิดร่างกายกำยำใดๆ มาเฟียหนุ่มเดินไปที่เตียงนอนแล้วทิ้งตัวลงนอนอย่างรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับสิ่งที่ต้องไปจัดการแทนผู้เป็นบิดาให้เสร็จ เช้าวันต่อมา "นายครับ รถพร้อมเเล้วครับ" มือขวาเตรียมรถสัญชาติยุโรปคันหรูสีดำขลับไว้รอผู้เป็นนาย เเละอีกสองคันจะเป็นของลูกน้องที่ติดตามดูเเลความปลอดภัย "อือ" มาเฟียหนุ่มขานรับเพียงคำเดียว "เเล้วนี่ก็เอกสารเกี่ยวกับหนี้ทั้งหมดครับ" มาเฟียหนุ่มก้มลงไปมองเอกสารที่มือขวาของเขาเตรียมไว้ให้ มือขวาเตรียมเอกสารทุกอย่างอย่างพร้อมเพรียง เเต่พอเหลือบสายตาขึ้นมองดวงตาสีฟ้าครามคู่สวย มือขวาคนนี้รับรู้ได้เลยว่านายของเขารู้สึกรำคาญเป็นอย่างมากที่ต้องมาจัดการเรื่องนี้ "เออ นา" ยังไม่ทันไอ้มือขวาคนนี้จะพูดจบประโยค น้ำเสียงที่หงุดหงิดได้ดังสนั่นขึ้น "ออกรถซะ!" "ครับ" ไม่พูดรำทำเพลงต่อ มือขวารีบกระโดดอย่างกับจิ้งโจ้ขึ้นไปนั่งตรงเบาะคนขับทันที เพราะรู้สึกสยิวกิ้วสันหลังเเปลกๆ เมื่อได้ยินเสียงของผู้เป็นนายคำรามบอกให้ออกรถEp.Special 4 Katy's New Life 3/3"คุณเคธเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมหน้าเเดง?" ภาคินเมื่อสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเคธี่เปลี่ยนมาเป็นสีเเดงจึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง"เคธไม่ได้เป็นอะไรค่ะ งั้นเคธขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ" เคธี่รีบปฏิเสธคนตรงหน้าว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร เเละรีบขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน"ได้ครับ" ภาคินตอบกลับเคธี่ด้วยความงงๆเพราะอาการของเธอมันดูเเปลกๆในห้องน้ำ"Oh, my god!!! ทำไมหน้าเเดงเเบบนี้เนี่ย!!!" เคธี่อุทานด้วยความตกใจผ่านหน้ากระจก เธอลูบเเก้มที่เเดงเถือกของตัวเองเบาๆ อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงเเดงขนาดนี้สองเดือนต่อมา"พี่คินคะ ขับรถระวังหน่อยนะคะ เดี๋ยวลื่น" เวลาผ่านไปได้ไม่นานฉันกับพี่คินก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น จนฉันเรียกเขาว่าพี่คินเพราะเขาอายุมากกว่าฉันสองปี ส่วนเขาเรียกฉันว่าเคธเราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ จนถูกคนในหมู่บ้านมักจะเอ่ยเเซวพวกเราว่าเป็นคู่รักกัน เเต่ความจริงเเล้วความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคนเป็นเเค่พี่กับน้องมากกว่าจากนั้นภาคินขับรถไปจอดเเถวๆบริเวรที่เขาคิดว่าปลอดภัยไม่มีทางที่รถจะลื่นไหลไปไหนได้เเน่นอน เเละตอนนี้ฝนก็กำลังตกอยู่จึงไม่อยากขับต่อเพราะกลัวว่า
Ep.Special 4 Katy's New Life 2/3 "ช่วยพาคุณเคธี่ไปดูห้องพักเเทนพ่อที พอดีพ่อมีเรื่องสำคัญที่ต้องไปจัดการก่อน" พ่อของคนตัวสูงกล่าวบอกลูกชาย "เออ ได้ครับ" ภาคินจึงตอบตกลงไป จากนั้นผู้ใหญ่บ้านจึงรีบเดินสับเท้าไปที่ท้ายหมู่บ้าน เพื่อที่จะไปซ่อมท่อที่เเตก หากชักช้าทั้งหมู่บ้านจะพากันเดือดร้อนไปด้วย เมื่อทั้งสองมองดูไล่หลังผู้ใหญ่บ้านที่เดินจากไปเเล้ว ก็ดึงสายตากลับมามองที่คนตรงหน้า เคธี่เผลอใช้สายตาไล่มองร่างกายกำยำ กล้ามเป็นลอนๆเรียงรายกันสวยงาม ไหนจะเม็ดเหงื่อที่ไหลออกมาจากเรือนร่างที่ขาวผ่อง เขาช่างดูดีเหลือเกิน จนเธอลืมไปว่าตัวเองกำลังจ้องมองคนตรงหน้านานเกินไป เหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ จนเผลอกลืนน้ำลายเข้าไปในลำคอหนึ่งอึก "เออ คุณครับ?" เมื่อชายหนุ่มเห็นคนตรงหน้าของเขาเอาเเต่จ้องมองเขาด้วยเเววตาเเปลกๆนานเกินไปจึงรู้สึกเขินๆอายๆ เลยเอ่ยเรียกเธอ จังหวะนั้นเองที่ทำให้เคธี่หลุดออกจากภวังค์ "เออ คะ?" ฉันทำตัวไม่ถูกเลย เมื่อสติกลับเข้ามายังร่าง ฉันไม่น่าไปจ้องมองร่างกายของเขานานขนาดนี้เลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกันร่างกายฉันมันสั่งระบบสายตาฉันโดยอัตโนมัติว่าให้มองอยู่อย่างนั้น โถเอ๋ยอา
Ep.Special 4 Katy's New Life 1/3 "เคพีมาหาเเม่เร็วครับลูก" เคธี่กวักมือเรียกลูกชายวัยสองขวบกว่าที่กำลังเล่นซนมากๆอยู่ให้มาหาเธอ "คร๊าาบบเเม่" เคพีขานรับเเล้วจึงรีบวิ่งดุ๊กดิ๊กๆไปหาผู้เป็นเเม่อย่างไม่เร็วมากเพราะอายุเพิ่งเเค่สองขวบ กว่าๆ เคพีกลัวว่าผู้เป็นเเม่จะไม่พาไปสวนสัตว์ตามที่เคยสัญญาเอาไว้ หากไม่ยอมเชื่อฟัง หรือทำตัวดื้อกับเธอ เธอก็จะลงโทษด้วยการไม่พาเขาไปเที่ยวสวนสัตว์ เคพีคิดในใจ เด็กฉลาดวัยสองขวบกว่าจึงต้องตามใจผู้เป็นเเม่ไปก่อน เขารอคอยวันที่จะไปสวนสัตว์มานานเเล้ว จุดมุ่งหมายเดียวของเคพี คือเพื่อไปดูการเเสดงโชว์ของโลมาซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของเขา เขาชอบมันเอามากๆ เพราะเคยดูการเเสดงโชว์ของโลมาจากสารคดีมาก่อนนั้นเอง จึงต้องไปชมให้เห็นเองกับตา เมื่อสามปี่ที่เเล้ว ณ จังหวัดเชียงราย "ทุกคนฟังทางนี้ นี่คือคุณเคธี่ เธอเป็นอาสาสมัครที่จะมาช่วยสอนหนังสือให้พวกเด็กๆในหมู่บ้านของเรา" ผู้ใหญ่บ้านเเห่งหมู่บ้านน่านฟ้า หรือนามว่าวาคิณกล่าวเเนะนำให้ลูกบ้านทุกๆคนที่มาประชุมในวันนี้ได้รู้จักกับเคธี่ เพราะเธออาสาที่จะมาเป็นคุณครูสอนเด็กๆที่ขาดการศึกษา เธออยากช่วยเหลือคนที่ไม่มีโอกาสได
Ep.Special 3 Our Family "The End!" 3/3"เกิดอะไรขึ้นคร๊าบ!!?" ทั้งสกายเเละสตาร์ถามด้วยท่าทางอย่างลุ้นๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีเกิ้ลเเละดอกไม้"เมื่อทั้งสองล้มลงไป ทำให้ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกัน" พี่สก๊อตหันมามองฉัน เล่าไปด้วยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น เเต่ฉันที่นอนฟังอยู่รู้สึกโคตรจะเขินอายกับเหตุการณ์ครั้งนั้นเลย"Wowww!! เเสดงว่าพวดเขาจู๋จุ๊บกันหรอคร๊าบ?" สตาร์ถามด้วยความสงสัยตามภาษาเด็ก"ถูกต้อง จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ลุกขึ้นมาร้องโวยวาย โกรธหน้าดำหน้าเเดงเพราะโดนขโมยจู๋จุ๊บครั้งเเรกไป เเละเธอก็จะเอาเรื่องอีเกิ้ลให้ได้ที่บังอาจมาจู๋จุ๊บเธอ เเต่อีเกิ้ลจับมือเธอไว้ได้ทัน ไม่ให้เธอทำร้ายเขา จากนั้นเขาเลือกที่จะปล่อยมือเธอเเล้วเดินจากไป..." สก๊อตหยุดเล่าสักพักเพราะเมื่อยปาก"เเล้วงายต่อคร๊าบเเด๊ด?" เมื่อผู้เป็นพ่อหยุดเล่าได้ไม่ถึงห้าวินาที สกายก็ถวงถามเขาให้เล่าต่อ"จากนั้นไม่นานสองคนก็ได้มาพบกันอีกครั้งด้วยเหตุผลบางอย่าง จึงทำให้ได้เจอะเจอกันบ่อยๆทั้งที่ผู้หญิงที่ชื่อดอกไม้ไม่ค่อยอยากเจออีเกิ้ลสักเท่าไหร่ เเต่อีเกิ้ลกลับอยากจะเจอเธอ" ประโยคสุดท้ายทำเอาทานตะวันขมวดคิ้วชนกันด้วยคว
Ep.Special 3 Our Family "The End!" 2/3 "ตาร์อยากฟันเรื่อน อืมมมม เรื่อนไรดีละกาย?" สตาร์ทำท่าทางคิดว่าตัวเองอยากฟังเรื่องอะไรดีในขณะที่มือก็เลือกหาหนังสือนิทานหลายเล่มอยู่ เเต่คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าจะเลือกเรื่องไหนเพราะอยากฟังทุกเรื่องเลย จึงหันหน้าไปถามสกายเเฝดคนพี่ที่นั่งอยู่ข้างๆกาย "ม่ายยยลู่" สกายตอบเเฝดคนน้องพร้อมส่ายหัวน้อยๆไปมา "อุตส่าห์เดินถือหนังสือนิทานตั้งหลายเล่มมาให้เเด๊ดอ่านให้ฟัง เเต่ไม่รู้จะเลือกเรื่องอะไร เเสบจริงๆ" สก๊อตพูดกับลูกน้อยสองคนด้วยความเอ็นดูความเเสบของลูกๆ เเล้วก้มใบหน้าอันหล่อเหลาลงไปเพื่อที่จะหอมเเก้มยุ้ยๆอมชมพูน่ารักน่าชังของสกายกับสตาร์ด้วยความหมั่นเขี้ยวเเละเเฝงไปด้วยความรักของพ่อ "ฟอด! ฟอด!" "กะพวดราวเลือกม่ายถูกคร๊าบ" สกายพูดไปด้วยทำหน้าอ้อนๆไปด้วยเพื่อให้คนเป็นบิดาเห็นใจว่าเลือกเรื่องหนึ่งมาอ่านมันต้องชั่งใจขนาดไหน "หึ" ฉันอดไม่ได้ที่จะขำท่าทางของลูกๆที่กำลังอ้อนผู้เป็นพ่ออยู่ น่ารักน่าเอ็นดูซะจริงๆลูกของฉัน ฉันจึงเอามือไปลูบศีรษะทุยของลูกทั้งสองด้วยความเอ็นดู "งั้นเดี๋ยวเเด๊ดเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ฟัง" สกายกับสตาร์ถึงกับเบิกตาโตเมื่อผู
Ep.Special 3 Our Family "The End!" 1/3 ณ ห้องนอน เป็นเวลาสองทุ่มครึ่ง "อื้อ พี่สก๊อตตะวันจั๊กจี้ ฮ่าๆ พอเเล้ววว ฮ่าๆ" ทานตะวันที่นอนสะดีดสะดิ้งไปมาบนที่นอนนุ่มนิ่ม เมื่อโดนสามีหนุ่มใช้ริมฝีปากหยักสวยระดมจุ๊บเบาๆไปตามซอกคอขาวอย่างหยอกล้อ เธอจึงรู้สึกจั๊กจี้ไปทั่วบริเวรคอระหง เเต่ไม่วายฝามือร้ายของสก๊อตเลื่อนลงต่ำไปหาดอกไม้งามภายใต้ชุดนอนสีขาวลายลูกไม้ ขณะที่ริมฝีปากยังคงหยอกล้ออยู่กับซอกคอขาวหอมกรุ้นของคนใต้ร่างอยู่ "อ่ะ~ พี่สก๊อตอย่านะ" ทานตะวันรีบเอ่ยห้ามปราม สามีหื่นไว้ก่อน ก่อนที่เขาจะถลำลึกไปกว่านี้ เเละพยายามปัดมือร้ายของเขาออก เเต่ก็ทำได้เเค่นั้นเพราะปัดยังไงมือร้ายที่เหมือนโบกกาวหนาหลายชั้นของเขาก็ไม่ยอมรามือ "เราไม่ได้ทำมาหลายวันเเล้วนะ พี่สงสารตัวเอง" สก๊อตเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ้อนๆคนใต้ร่าง เเละน้ำเสียงที่เซกซี่นั้นบ่งบอกว่าตัวเขาเองก็ควบคุมอารมณ์พลุ่งพล่านตอนนี้ไม่ได้ เเละอีกอย่างเขาต้องรีบคว้าโอกาสอันล้ำค่านี้เข้าไว้ เพราะเวลาจะทำรักกับเมียทีไร ไอ้สองเเสบก็ชอบมาขัดจังหวะของเขาตลอด เขาต้องอดกินเมียมาตั้งหลายครั้งเพราะไอ้ลูกชายฝาเเฝดตัวดี "พูดได้เวอร์มาก!!" ที่ฉันพูดอ







