Ep.9 ยัยเด็กแสบ!
เวลา 1 ทุ่ม “ไอ้แมกซ์ มึงไปสืบประวัติของยัยเด็กแสบนั้นอย่างละเอียดมาให้กูที” ผู้เป็นนายที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานสั่งขึ้นมาอย่างงงๆ มือขวาของเขาถึงกับไม่เข้าใจว่าจะให้ไปหาประวัติเธอมาทำไม? “นายสนใจเธอหรอครับ? ” “อย่าเสือก!! กูให้มึงไปทำอะไร ก็ไปทำตามที่กูสั่งอย่างอื่นไม่ต้อง” มาเฟียหนุ่มรู้สึกเอือมระอากับไอ้มือขวาขี้เสือกนี้สะเหลือเกิน มันเหมือนกันกับไอ้มือซ้ายของเขาอีกคน และอดไม่ได้ที่จะด่ามัน เเถมมันยังทำให้เขานึกไปถึงพวกเพื่อนๆของเขาที่ชอบเสือกเรื่องของเขาอยู่บ่อยครั้ง เวลานัดพบปะกัน “เข้าใจแล้วครับนาย แฮร่ๆๆ” พอรู้ตัวว่าตัวเองเสือกเรื่องเจ้านายมากเกินไป แมกซ์ได้แต่ยิ้มแห้งๆ เอามือมาปิดปากที่ชอบพูดจาไม่รู้เรื่องรู้ราวเอาไว้ "หึๆ" “ไอ้สัส!!” ไม่ใช่เสียงใครที่ไหนที่หัวเราะเยาะเขา มันคนนี้ก็คือ ไอ้มือซ้ายที่ชื่อแซมนั้นเอง เขาล่ะอยากเอาตีน เอ้ย เท้าถีบปากมันสะจริงๆ 1 ชั่วโมงผ่านไป ”นี่ครับนาย ประวัติของเธอ” มือขวาอย่างแมกซ์ ก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับผู้ที่เป็นนาย จากนั้นมาเฟียหนุ่มก็หยิบไป “นายต้องการอะไรอีกไหมครับ? ” “ถ้ากูต้องการจะถีบปากมึงล่ะ? ” “ผมหมายถึงอย่างอื่นคร๊าบบบ แต่เท้านายผมไม่เอาน่ะ ขอแต่เงินเดือนก็พอ” ไม่วายพูดด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนกับเด็ก เเรกเกิดเพื่อให้นายเอ็นดู แต่ในสายตามาเฟียหนุ่มนั้น มันไม่เคยดูกระจกหรือไง ตัวใหญ่เท่ากับยักษ์ แต่กลับทำท่าทางเหมือนตัวเองเป็นแมวเหมียวไปได้ “ไปให้พ้นตีนกูไป” มาเฟียพูดอย่างรำคาญ “แต่ว่านา” เมื่อไหร่มันจะรู้ตัวสักทีว่าพูดมากไป “จะไปดีๆ หรือในบัญชีไม่มีแม้แต่สลึงเดียว? ” สุดจะทนกับไอ้คนหน้ามึน เขาจึงขู่จะตัดบัญชีเงินเดือนของมัน “งั้นผมลาล่ะคร๊าบบ” ไม่ลืมยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นนายอย่างอ่อนน้อมถ่อมต้น เพราะกลัวบัญชีไม่มีตังค์ใช้นั้นเอง ฟิววว!! เสียงของปากกาหลายด้ามบนโต๊ะถูกโยนมาทางที่แมกซ์ยืนอยู่ จากนั้น เสียงเท้าหนาของไอ้มือขวาวิ่งสุดชีวิต เสือชีตาร์ในแอฟริกายังต้องยกมือไหว้ให้กับมัน วิ่งเร็วฉิบหาย ถ้าเดาไม่ผิด หากเป็นนักวิ่งจะเอาเหรียญทองไปไว้ไหนหมดก่อน ส่วนไอ้มือซ้ายตามไป แต่เดินตามปกติไม่ได้รีบร้อนอะไร จากนั้นไม่นาน มาเฟียหนุ่มกลับมาสนใจกับกระดาษในมือ ที่มีประวัติของลูกหนี้ตัวแสบของเขาอยู่ สายตาสีฟ้าครามคมกริบกวาดมองชื่อของเธอเป็นอันดับแรก “ทานตะวัน วาริรินทร์” มาเฟียหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง “ยัยเด็กแสบ ฉันจะให้เธอทำอะไรดีล่ะ? ” หน้าตาของเขาตอนนี้เหมือนเสือที่พร้อมจะขย้ำเยื้อตัวน้อยๆ พอเขาอ่านประวัติของร่างบางเสร็จ ก็กลับมาอ่านเอกสารที่ค้างคาไว้ต่อ เช้าวันสดใสต่อมา ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงครึ่ง ร่างบางที่เริ่มรู้สึกตัว ได้ยินเสียงนกเสียงเสียงการ้องแต่เช้า โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งนาฬิกาปลุก ก็สามารถปลุกเธอตื่นขึ้นมาได้ ร่างบางเปิดเปลือกตาขึ้นมา หน้าตาที่ไร้ซึ่งเครื่องสำอางกลับดูน่ารักเป็นธรรมชาติ “โอ้ย เช้าแล้วหรอเนี่ย ยังง่วงอยู่เลย” ร่างบางร้องงัวเงียอยู่คนเดียวเบาๆ “เห้ย วันนี้ฉันต้องไปพบไอ้เจ้าหนี้หน้าเงินนี่หนา เกือบลืมสะแล้ว” พอคิดได้อย่างนั้น เธอก็รีบกระโจนเข้าห้องน้ำทันทีทันใด เพื่อไปขัดสีฉวีวรรณให้เรียบร้อยก่อนจะออกไปเจอไอ้คนที่เธอไม่อยากเจอเลย 30 นาทีต่อมา ร่างบางพออาบน้ำเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ก็ทำการแต่งตัว เธอเลือกที่จะสวมเสื้อยืดสีขาวธรรมดาๆตัวนี้ กางเกงยีนขายาวสีซีดขาดๆนิดๆแถวบริเวรหัวเข่า และกางเกงยีนส์มีขนาดใหญ่กว่าขาเรียวสวยของเธอ สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาดตา ส่วนผม เธอเลือกที่จะรวบผมขึ้นแล้วใช้ยางมัดผม มัดให้มันมาอยู่จุดเดียวกันคล้ายกับดอกกุหลาบที่เริ่มจะเบ่งบานอยู่บริเวรศีรษะส่วนบน ตอนนี้ร่างบางยืนมองตัวเองผ่านหน้ากระจก เธอดูน่ารักสดใสเหมือนกับคนพึ่งเข้าสู่วัยรุ่นใหม่ๆ แต่ตอนนี้ เวลาเจ็ดโมงสามสิบนาที ถึงเวลาแล้วสินะที่เธอต้องไปเจอไอ้เจ้าหนี้หน้าเงินของเธอสักที ณ บริษัทเรซเตอร์ เป็นบริษัทที่ผู้เป็นพ่อของร่างสูงได้ก่อตั้งขึ้นมานานแล้ว ทำธุรกิจมากมาย ประสบความสำเร็จไม่น้อย แต่ไม่ค่อยได้มาดูสักเท่าไหร่ เพราะบริษัทนี้ไม่ใช่บริษัทที่ใหญ่มาก นี่ขนาดไม่ใหญ่มากน่ะ เพราะบริษัทที่ประจำการอยู่ อยู่ที่อังกฤษ ส่วนของผู้เป็นลูกจะอยู่ที่กรุงเทพ เขาจะให้คนคนหนึ่งที่ไว้ใจได้ดูแลแทน แต่ไม่ใช้ผู้เป็นลูกที่รับหน้าที่นี้ แต่ตอนนี้ในเมื่อลูกของเขามาอยู่ที่นี่ชั่วคราวแล้ว ผู้เป็นพ่อเลยขอให้เขามาช่วยดูแลบริษัทอีกแรง ในระหว่างที่ยังอยู่ที่นี่เพื่อมาจัดการเรื่องหนี้แทนเขา พอทานตะวันเดินเข้ามาในบริษัท ตาของเธอถึงกับต้องลุกวาวให้กับความใหญ่โตของบริษัทของเจ้าหนี้ของเธอ ทำไมมันอลังการขนาดนี้ ทุกอย่างดูแพง และหรูไปหมด ไม่เว้นแม้แต่พรมเช็ดเท้า คงจะหลายสตางค์เลย เธอได้แต่คิดในใจ พอเธอเข้ามาได้ไม่นาน ก็มีชายชุดดำคนหนึ่งเดินเข้ามา “เชิญทางนี้ครับ” แล้วพาเธอขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นที่สูงสุด คงจะเป็นห้องของเขาคนนั้น พอมาถึงยังห้องๆหนึ่งที่มีขนาดใหญ่สุดในบริษัทนี้ ชายชุดดำคนนั้นก็ไม่พูดอะไร เดินจากไปทิ้งให้เธออยู่คนเดียว ทีนี้เธอควรทำยังไงต่อดี ทานตะวันสูดหายใจเข้าลึกๆเต็มปอด แล้วใช้มือข้างหนึ่งเคาะประตูห้องสองสามครั้งอย่างไม่ดังมาก จากนั้นประตูห้องขนาดใหญ่ถูกปลดล็อดโดยไม่มีใครมาเปิดให้ด้วยซ้ำ มือบางจึงเลือกที่จะเปิดเข้าไป ภายในห้องมีขนาดกว้างขวางมากกว่าที่เธอคิด ทุกอย่างในห้องนี้มีเพียบพร้อม นี่ที่ทำงานหรือคฤหาสน์กันแน่ “มาพบฉัน แต่งตัวแบบนี้? ” ยังไม่ทันที่ร่างบางจะสำรวจทุกอย่างภายในห้องเสร็จ เสียงเข้มก็ดังขึ้น “ก็ฉันสบายใจที่จะแต่งแบบนี้ ทำไม? ” ร่างบางยกคิ้วข้างหนึ่งใส่ร่างสูงอย่างกวนๆ “อย่ากวนให้มันมากนัก” “ใครกวน? ไม่มี๋ ไม่มี” น้ำเสียงที่เธอเปล่งออกไปนั้น มันไม่เข้าหูมาเฟียหนุ่มเอาซะเลย “ไม่งั้นเรื่องหนี้ของเธอ อาจจะทำให้ฉันเปลี่ยนใจก็ได้” มาเฟียหนุ่มพูดขึ้นมาอีกครั้งอย่างคนได้รับชัยชนะ "....." ทานตะวันพอได้ยินอย่างนั้น กลับเงียบกริบพูดอะไรไม่ออกเหมือนกับว่า ปากของเธอโดนแม่มดพ่อมดสาปไม่ให้พูดอย่างงั้นแหละ “หยอกนิด หยอกหน่อยทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ แล้วที่ให้ฉันมาเจอวันนี้ ให้มาทำไม? ” เธออดไม่ได้ที่จะถามเหตุผล “วันนี้ สิ่งที่เธอต้องทำก็คือ…” “คือไร? ” “ทำความสะอาดห้องน้ำให้ฉัน” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจากปากหยักสวยแฝงไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม “หะ???? ทำความสะอาดห้องน้ำ จะบ้าหรือไง? ให้ฉันมาพบคือให้มาทำความสะอาดห้องน้ำเนี่ยน่ะ" ฉันไม่เคยเข้าใจความคิดของไอ้คนตรงหน้านี้เลย คิดได้ยังไงให้ฉันมาทำความสะอาดห้องน้ำให้ "ทำไมไม่ให้แม่บ้านทำล่ะ หรือขี้เหนียวจนไม่กล้าจ้างแม่บ้าน? ” ฉันยกคิ้วข้างเดียวใส่เขาขณะพูดไปหนึ่งกรุบอย่างกวนๆ สงสัยจะขี้เหนียวมากสิน่ะ ถึงขนาดไม่จ้างให้คนมาทำความสะอาดให้ ‘ไอ้คนขี้เหนียว’ ฉายาที่แต่งให้เยอะจริงๆ จนแทบจะใช้เรียกไม่หมด “ก็แม่บ้านคือเธอไง จ้างทำไมในเมื่อฉันมีแล้ว และที่สำคัญจำคำพูดที่เคยพูดของตัวเองไว้ด้วย และอย่าเกี่ยงงาน ไม่งั้น…” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบประโยค เสียงเธอก็แทรกขึ้น “ก็ได้ๆ ห้องน้ำอยู่ไหน? ” มาเฟียหนุ่มไม่พูดอะไร แต่นิ้วชี้เรียวยาวสวยชี้ไปยังห้องน้ำ พอร่างบางรู้ว่าห้องน้ำอยู่ตรงนั้น ก็รีบขนย้ายตัวไปทำความสะอาดทันที “หึ” มาเฟียหนุ่มหัวเราะในลำคอ รู้สึกมีความสุขอย่างน่าประหลาดที่ได้แกล้งยัยลูกหนี้ตัวแสบคนนี้สำเร็จ... ........................................................................ มีคนอยากเเกล้งน้องค่าาา😆 เเต่ความเเสบของอีน้องนั้นเบาได้เบา ถ้าอีพี่ทนไม่ไหวเดี๋ยวมีจุก!!!😆Ep.17 สอนเพศศึกษา NC+++ เเกร้กกกๆๆๆ! "กรี๊ดดดดดดดดด!!!" สก๊อตกระชากเสื้อผ้าออกจากตัวทานตะวันออกจนหมดทุกชิ้น เผยให้เห็นทุกอย่างที่เป็นเนื้อๆ เน้นๆ มันทำให้มังกรยักษ์ของเขาตื่นตัวขึ้นมาอย่างง่ายดาย ทานตะวันรีบใช้มือทั้งสองมาปกปิดของสงวนของเธออย่างไว "จะทำอะไรฉันนนน!!!?" ทานตะวันตะโกนออกมาจนเสียงดังลั่นไปทั่วห้องขนาดใหญ่ "ระริกระหรี่ไปเอากับผู้ชายคนอื่น ทั้งที่เพิ่งโดนฉันเอาไปไม่กี่วัน เเต่ถ้าอยากนักฉันก็จะสงเคราะห์ให้!" มาเฟียหนุ่มพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว ว่าตัวเองกำลังอยู่ในอารมณ์ไม่พอใจคู่สนทนาอย่างมาก "ไอ้บ้าสก๊อต!!! พูดเรื่องบ้าอะไรของนาย!!!?" ฉันไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขากำลังสื่อ เขาพูดเรื่องอะไรกัน? ผู้ชายคนอื่น? คนไหนกัน? ฉันยังไม่เคยไปยุ่งกับผู้ชายคนไหนสักคนเลย! "Wow! จำชื่อผัวคนเเรกได้ด้วย!" สก๊อตพูดจบก็กระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ "ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้น่ะเว้ย!!" ทานตะวันไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความโกรธได้อีกต่อไป เธอตะคอกใส่คนตรงหน้าอย่างโมโห "อย่ามาสั่งฉัน เเต่ฉันจะปล่อยเเน่ เเต่ไม่ใช่ในเเบบที่เธอคิดน่ะ เดี๋ยวจะเเสดงให้ดูว่า 'ปล่อย' เเบบไหน?" จากนั้นสก๊อตรีบปลดเปลืองเสื้อ
Ep.16 คิดผิดเเล้วที่ทำเเบบนี้! ในห้องของทานตะวัน "อย่างน้อยๆวันนี้ฉันก็มีความสุข ความทุกข์จงหายไป อย่าได้หวนกลับมาอีก ชิวๆๆ" ทานตะวันปัดมือไล่ความทุกข์ออกจากชีวิตให้ออกไปจากตัวเธอ ชีวิตนี้อย่าได้เจอะเจออีก เเต่... ติ๊ง! Line หรือความทุกข์จะยังไม่จบไม่สิ้น... Eagle: พรุ่งนี้มาพบฉันที่เดิม เวลาเดิม ทานตะวันพอมองเห็นแชทที่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ ก็รู้ทันทีว่ามันคือข้อความจากใคร จะใครล่ะ เเต่เธอเลือกที่จะไม่เปิดอ่าน เเละไม่สนใจข้อความของคนที่เธอเกลียดอีกต่อไป "ฉันเกลียดนาย!! ขอให้ชาตินี้ก็อย่าได้เจอคนอย่างนายอีก!" คำพูดที่ออกมาจากปากทานตะวันนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เเละความโกรธ เช้าวันใหม่ 8:30 "ทำไมยังไม่มาว่ะ?" อารมณ์ของคนรอใครสักคนมาหาเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา มือหนากดเข้าไลน์ส่วนตัว ทว่าในเเชทกลับว่างเปล่า ไม่มีการตอบกลับใดๆ เเม้เเต่เข้าไปอ่านก็ไม่มี "เธอคิดผิดเเล้วที่ทำเเบบนี้!!" สก๊อตจ้องมองไปยังข้อความด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจ เพราะทานตะวันไม่เเม้เเต่จะเข้ามาอ่านข้อความของเขา ห้องของทานตะวัน "อือๆ" คนที่เพึ่งตื่นนอน กำลังร้องงัวเงียเหมือนเด็ก "เช้าเเล้วหรอเนี้ย?" มือบางคว
Ep.15 กลิ่นที่ตราตรึง ทานตะวันที่กำลังยืนมองร่างกายตัวเองผ่านหน้ากระจกใสของห้องน้ำ บนเรือนร่างเต็มไปด้วยร่องรอยสีดอกทิวลิปแดงช้ำ จากการผ่านสนามรบที่เเสนจะปวดร้าวของเมื่อวานมา เธอไม่กล้าแม้แต่จะสัมผัสร่องรอยพวกนั้น ที่ตากับยายเธอสังเกตไม่เห็น ก็เพราะเธอใส่เสื้อคลุมปกปิดเอาไว้ "ฉันไม่ใช่คนอ่อนเเอ ฉันจะยอมให้น้ำตาไหลเพราะไอ้คนเลวคนนั้น ฉันจะลืมทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นให้หมด" ทานตะวันพูดออกมาอย่างคนเข้มเเข็ง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เธอจะไม่เก็บมาคิดให้ตัวเองเจ็บปวดอีก สิ่งที่เสียไปก็ปล่อยให้มันเป็นอดีตไป เธอจะอยู่กับปัจจุบันเท่านั้น ถือซะว่าได้ชดใช้เวรใช้กรรมไปเเล้ว ยามราตรี ครืด! ครืด! "ว่าไงเเสงเหนือ?" พอเห็นว่าเป็นเบอร์ของเเสงเหนือ ฉันจึงกดรับ "ทำไมเมื่อวานไม่ตอบเเชท ไม่รับสายฉัน รู้ไหมทั้งตายายเเก ท๊อปฟี่เเละฉันเป็นห่วงเเกขนาดไหน?" ฉันสัมผัสได้ทันทีเลย ว่าเพื่อนเป็นห่วงฉันขนาดไหน ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ "ฉันคิดว่าเเกโดนลักพาตัว เกือบไปเเจ้งตำรวจเเล้วรู้ไหม?" เสียงในสายถูกเเทรกขึ้นมาเเต่เป็นเสียงของอีกคนมาพร้อมกับเสียงของท๊อปฟี่ "ฉันขอโทษ พอดีฉันยุ่งอยู่กับ เออ ฉันต้องไปเคลียร์เรื่
Ep.14 เผลอ ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง สก๊อตเดินออกมาจากห้องน้ำส่วนตัวอีกด้านหนึ่งที่ติดกับห้องทำงาน บนร่างกายเเกร่งมีเเค่เพียงผ้าขนหนูที่ปกปิดส่วนล่างเอาไว้ สายตาคมกริบแสนเย็นชากำลังมองไปยังคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนโซฟาจากบทรักที่เขาได้มอบให้ เวลาผ่านไปนานนับหลายชั่วโมงเเล้ว เเต่ยังไม่มีท่าทีว่าเธอจะขยับตัว หรือตื่นขึ้นมาสักที สก๊อตจึงตัดสินใจเดินไปยังเธอ เเล้วทำในสิ่งที่ไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน มือมันลั่นไปเอง! "เเม่งเอ๋ย!! ทำไมตัวร้อนอย่างนี้ว่ะ!!?" สก๊อตสบถคำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ นี่เป็นครั้งเเรกที่คนอย่าง สก๊อต เรซเตอร์ ใช้หลังมือของตัวเองไปสัมผัสที่หน้าผากมนของผู้หญิงที่เพิ่งจะมีอะไรด้วย เพื่อเชคอุณหภูมิร่างกายของเธอ "อือ…อือ" จู่ๆ เสียงของคนที่หลับไปนานพอสมควรก็พึมพำในลำคอออกมา มาเฟียหนุ่มจึงผละตัวออกมาห่างๆ กลัวเธอลืมตาขึ้นมาเเล้วเห็นเขา เขาเตรียมจะก้าวเดินออกไปอย่างไม่สนใจคนที่นอนป่วยอยู่ เเละเเล้วคำพูดบางอย่างเข้ามากระทบที่โสตประสาท ทำให้เขาหยุดเดินเเล้วหันหน้ากลับมา "พ่อจ๋า เเม่จ๋า อย่าทิ้งตะวันไปน่ะ ฮือๆ" คนป่วยนอนร้องไห้ละเมอ พร้อมน้ำตาที่ไ
Ep.13 สั่งสอนเด็กแสบ NC+++ "นายจะทำอะไรของนาย?" ทานตะวันเมื่อเห็นสก๊อตกำลังปลดกระดุม เธอจึงเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที เเล้วพยายามจะลุกหนี เเต่มีหรือเขาจะรู้ไม่ทัน สก๊อตใช้เเขนกำยำกักขังทานตะวันไว้ไม่ให้เธอหนี เเล้วเขาก้มลงไปกระซิบใกล้ๆใบหูทานตะวัน ทำเอาเธอขนลุกซู่ "สั่งสอนเด็กเเสบอย่างเธอไง!" พูดจบ เขาก็เเสยะยิ้มที่มุมปากอย่างสุนัขจิ้งจอกเจ้าเลห์ ที่มองเยื้อของมันอย่างหิวโหย "สั่งสอ" ไม่ทันที่เธอจะพูดจบประโยค เขาจะสั่งสอนเรื่องอะไร มาเฟียหนุ่มก็กระชากเสื้อยืดเธอจนขาดวิ่น กรี๊ดดดดดดดดดด!! "ไอ้บ้า!! จะทำอะไรฉันนน!! ปล่อยฉันน่ะ!! ไม่งั้นฉันจะกระโดดถีบนาย!!!" เสียงทานตะวันร้องโหยหวนด้วยความตื่นตระหนก จนเม็ดเหงื่อเริ่มไหลออกมาตามกรอบหน้า "ในเมื่อเธอเป็นลูกหนี้ของฉัน ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้ งั้นวันนี้เอากายมาบำเรอออให้ฉันล่ะกัน" เขามันไม่ต่างจากเสือที่พร้อมจะขย้ำเยื่อให้เเหลกคามือ และไม่ได้กลัวแม้แต่น้อยที่ทานตะวันบอกว่าจะโดดถีบเขา เพี้ยะ!! เสียงฝามือของคนใต้ร่างตบกระทบลงบนใบหน้าอันหล่อเหลาทันทีที่มาเฟียหนุ่มพูดจบประโยค ทำให้ใบหน้าของเขาต้องหันไปตามเเรงตบของเธอ เลือดซึมออกมาที่มุม
Ep.12 กาแฟดำสูตรทานตะวัน! เช้าวันต่อมา ณ บริษัทเรซเตอร์ ตอนนี้ร่างบางที่อยู่ในชุดสไตล์เหมือนเดิมกับเมื่อวานเพิ่มเติมคือเสื้อผ้ามีรอยขาดๆหลายจุดให้ดูเท่ เธอนั่งรอมาเฟียหนุ่มอยู่ที่โซฟาขนาดใหญ่ เธอรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้ทำอะไรที่ขัดใจกับที่เจ้าหนี้เธอสั่ง แกร๊ก! ประตูถูกเปิดออกโดยมีร่างสูงเดินเข้ามา เพิ่มเติมคือสีหน้าของเขาบ่งบอกว่าไม่ค่อยสบอารมณ์คนตรงหน้าสักเท่าไหร่ “ฉันบอกเธอว่าไง? ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ย “ฉันจะใส่แบบนี้ ฉันชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้” ยังไงเธอก็ยังยืนยันจะใส่ในแบบที่เธอชอบ “แต่ฉันสั่งให้ทำยังไง เธอก็ต้องทำอย่างนั้น” เสียงเรียบนิ่งเปลี่ยนเป็นเสียงที่น่าเเกรงขามขึ้น แม้เเต่ทานตะวันก็ยังรับรู้ได้ “แต่นายไม่ใช้เจ้าชีวิตฉันน่ะ ไม่มีสิทธิ์มาสั่งว่าฉันจะต้องทำอะไร ไม่ทำอะไร” ฉันตอบเขาไปด้วยอารมณ์ไม่พอใจ ฉันไม่ชอบเลยที่มีคนมาสั่งให้ทำตามที่ใจตัวเองต้องการ นี่ชีวิตฉันน่ะไม่ใช้ของเขาสักหน่อย “มีสิ สิทธิ์ของเจ้าหนี้ไง” ไม่ทันที่ทานตะวันจะพูดอะไรออกไป ก็มีเสียงเคาะประตูจากด้านนอกเข้ามา ก๊อกๆ “เข้ามา” สก๊อตกล่าวขึ้น “ขออนุญาตครับนาย ถึงเวลาประชุมแล้วครับ” เป็นมือซ้า