“เย็นนี้ฉันจะมารับ”
“เอ่อ... ไม่เป็นไรค่ะ”
หล่อนทั้งแปลกใจทั้งตกใจ แต่ก็เลือกที่จะปฏิเสธออกไป
“ไลน์บอกด้วยแล้วกันว่าเลิกกี่โมง”
เขาปล่อยแขนของหล่อน และก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
น้ำตาลรู้สึกกระอักกระอ่วนใจมาก เพราะหล่อนเกรงใจเขา
“คือตาล... จะไปเยี่ยมพ่อน่ะค่ะ”
“ฉันจะไปด้วย”
“แต่ว่า...”
“ช่วงเย็นฉันว่าง ลงไปจากรถได้แล้ว ฉันจะรีบไปประชุม”
อัคเรศตัดบท และก็ทำให้น้ำตาลไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธอะไรได้อีก
“ตาล... ไปล่ะค่ะ”
หล่อนก้าวลงไปจากรถ ก่อนจะยืนรอจนรถคันงามแล่นหายไปจากสายตา
นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องพยายามสลัดภาพเร่าร้อนที่ได้กระทำร่วมกันกับน้ำตาลให้หลุดออกไปจากหัว
นับครั้งไม่ถ้วน...
เขาเบื่อกับความรู้สึกนี้มาก ไม่ชอบที่ตัวเองถูกควบคุมด้วยแรงพิศวาสของผู้หญิงที่เขาไม่เคยคิดจะจริงจังด้วย
แต่ไม่ว่าจะพยายามสักแค่ไหน แต่กลิ่นหอมละมุนของเนื้อสาวก็ยังกรุ่นอยู่ในความรู้สึก ความสวยงามของหล่อนทำให้เขาตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่ได้เสพสม สัดส่วนของน้ำตาลอวบอัด มีน้ำมีนวล และเต็มไม้ล้นมือ
เขามีความต้องการรุนแรงกับหล่อนทุกครั้ง และนั่นก็เป็นสาเหตุที่เขาไม่เคยเบามือเลยยามที่ได้ร่วมหลับนอนกับหล่อน
เขายอมรับอย่างหน้าไม่อายว่า รสรักของน้ำตาล ปลุกเร้าให้ตัณหาของเขาทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทุกค่ำคืนเขาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความหอมหวานของน้ำตาล ดื่มกินโลมเลียหล่อนอย่างตะกละตะกลาม ก่อนจะตื่นขึ้นมาในเช้าวันต่อมาด้วยการสวมบทบาทของอัคเรศคนใหม่ คนที่เย็นชา และแสดงออกให้เห็นว่าเขาไม่ได้ไยดีอะไรกับเซ็กซ์ที่ผ่านมาตลอดทั้งค่ำคืนเลย
ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบท้ายทอยของตัวเอง ก่อนจะบอกให้พนักงานที่กำลังพรีเซนต์ยอดขายของไตรมาศนี้ให้หยุดลงชั่วคราว
“พอแค่นี้ก่อน ไว้ตอนบ่ายค่อยเริ่มกันใหม่”
“ค่ะ ท่านประธาน”
อัคเรศลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเดินออกไปจากห้องประชุมหรู โดยมีเลขาฯ ก้าวตามหลังมา
“ท่านประธานไม่สบายหรือเปล่าคะ”
“ผมไม่ได้เป็นอะไร”
เขาตอบ และก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปในห้องทำงาน เลขาฯ ยังเดินตามเข้ามา และเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“แต่สีหน้าท่านประธานดูเครียดๆ นะคะ เอายาพาราฯ สักเม็ดไหมคะ”
อัคเรศหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานไม้ของตัวเอง และมองหน้าเลขาฯ
“ผมไม่ได้เป็นอะไร คุณออกไปทำงานได้แล้ว”
“เอ่อ...”
“ออกไปได้แล้ว”
เมื่ออัคเรศย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เลขาฯ สาวจึงต้องรีบออกไปตามคำสั่งทันที
เมื่ออยู่ตามลำพังในห้องทำงาน อัคเรศก็เอนกายพิงกับพนักเก้าอี้หนังตัวใหญ่ พร้อมกับระบายลมหายใจออกมา
เขาไม่ชอบความหิวกระหายรุนแรงที่ตัวเองมีต่อน้ำตาลเลยให้ตายสิ
ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นต่อสายหาผกามาศ
บางทีการได้อยู่กับผู้หญิงคนอื่น อาจจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นบาง
“น้องผิงว่างไหมครับ มาทานกลางวันกัน”
แน่นอนว่าผกามาศไม่มีทางปฏิเสธเขาได้อยู่แล้ว เพราะหล่อนแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนใจเขา แต่เขาต่างหากที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด
“ได้เลยค่ะ งั้นผิงไปหาพี่กลางที่บริษัทนะคะ”
“ให้พี่ไปรับผิงดีกว่า”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่กลาง ผิงไปหาพี่กลางได้ค่ะ ผิงสะดวก ผิงเต็มใจ”
ผกามาศกลัวว่าอัคเรศจะเปลี่ยนใจก็เลยต้องการเป็นฝ่ายไปหาเอง
“ก็ได้ครับ”
“เย้... ดีใจจังเลยค่ะ นี่พี่กลางรู้ไหมคะว่าผิงน่ะรอให้พี่กลางโทรหามากี่เดือนแล้ว คนอะไรใจร้ายจัง ให้ผิงรอเก้อตลอด”
“พี่ขอโทษครับ”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ เพราะผิงไม่เคยโกรธพี่กลาง”
ผกามาศเหมาะสมกับเขาทุกอย่าง แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกอะไรกับผกามาศเกินเลยไปกว่าคนรู้จัก หรือน้องสาวร่วมโลกเลย
“งั้นพี่จะรอนะครับ”
“ค่ะ”
เขาตัดสายสนทนาจากผกามาศแล้ว ก็ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ
ไม่รู้ว่าตัวเองตัดสินใจถูกหรือผิดที่เลือกจะทำแบบนี้
เขาหวังว่าการได้อยู่กับผู้หญิงคนไหนสักคนหนึ่ง จะทำให้เขาสามารถขจัดผู้หญิงที่ชื่อน้ำตาลออกไปจากหัวได้ แค่สักชั่วโมงสองชั่วโมงก็ยังดี
น้ำตาลนั่งรออัคเรศอยู่หน้าตึกเรียน เพราะเขาสั่งให้รอ แต่นี่ก็เกือบจะห้าโมงเย็นอยู่แล้ว เจ้าของคำสั่งก็ยังไม่ยอมมาเสียที
“ยังไม่กลับอีกเหรอตาล”
เสียงของเพื่อนดังขึ้นข้างตัว หล่อนหันไปมอง และตอบคำถาม
“ยังจ้ะ รอเจ้านายมารับน่ะ”
“แต่นี่ก็เย็นมากแล้วนะ เจ้านายของตาลลืมหรือเปล่าเนี้ย”
“เอ่อ... คงไม่หรอกจ้ะ อีกประเดี๋ยวก็คงมา ว่าแต่กิ่งกำลังจะกลับบ้านเหรอ”
“อืม เพิ่งทำรายงานกับเพื่อนๆ เสร็จน่ะ งั้นเราไปก่อนนะ”
“จ้ะ บายจ้ะ”
น้ำตาลยิ้มและโบกมือลาส่งให้กับเพื่อนร่วมคลาส ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ตอนนี้กำลังมีฝนตั้งเค้าเขียวครึ้ม
หล่อนไม่กล้าที่จะโทรไปสอบถามอะไร
อัคเรศ ทำได้แค่เพียงนั่งรอเงียบๆ ตามที่เขาสั่งเท่านั้นตอนที่5. ข้างนอกบ้านฝนตกหนักมาก ทำให้แม่สายอดเป็นห่วงลูกสาวไม่ได้ เพราะน้ำตาลยังไม่กลับมาบ้านเลย “แม่สายมาทำอะไรตรงนี้เหรอ” อมลวรรณที่เห็นแม่สายเดินกลับไปกลับมาอยู่ใกล้ๆ กับหน้าประตูบ้านเอ่ยถาม “ตาลยังไม่กลับมาเลยค่ะคุณผู้หญิง” สีหน้าของแม่สายเต็มไปด้วยความไม่สบายใจจนอมลวรรณก็พลอยใจคอไม่ดีไปด้วย “ตายจริง ปกติแม่ตาลไม่เคยเหลวใหลไปไหนเลยนะ นี่ก็ฝนตกหนักด้วย อ้อ แล้วโทรหาดูหรือยังล่ะแม่สาย” “โทรแล้วค่ะ แต่ตาลไม่ได้รับสาย” แม่สายเป็นห่วงลูกสาวจับใจ “คงไม่มีอะไรหรอก แม่ตาลน่าจะติดฝนอยู่ที่ไหนสักที่นั่นแหละ” อมลวรรณให้กำลังใจคนรับใช้ของตัวเอง แม่สายพยายามจะคิดในแง่ดี แต่ก็อดเป็นห่วงลูกสาวไม่ได้ “อ้าว นั่นพ่อกลางกลับมาพอดี” อมลวรรณเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นลูกชายเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับผกามาศ “หนูผิงก็มาด้วย” “สวัสดีค่ะคุณป้า” ผกามาศยกมือขึ้นไหว้อมลวรรณ “สวัสดีจ้ะ หนูผิงมาก็ดีแล้ว จะได้ทานข้าวเย็นด้วยกัน” ผกามาศยิ้มกว้างอย่างดีใจ และก็เกาะแขนของอัคเรศไม่ยอมปล่อย
ตอนที่ 6.เขาบอกว่าจะมารับ และบังคับให้หล่อนนั่งรอ แต่พอหล่อนรอ เขาก็ไม่มา...หล่อนนั่งรอเขาจนมืดค่ำ จนกระทั่งสายฝนโปรยปรายเปียกชุ่ม“ตาลเป็นอะไรหรือเปล่าลูก ทำไมตัวสั่นๆ”“ปะ... เปล่าค่ะ ตาลแค่หนาว”“งั้นเดี๋ยวเป่าผมให้แห้งนะลูก เดี๋ยวแม่ออกไปยกข้าวเข้ามาให้”“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวตาลออกไปกินในครัวเองค่ะ”หล่อนฝืนใจเงยหน้าขึ้นสบตากับมารดา และก็ปั้นยิ้มสดใส“ขอบคุณแม่มากนะคะ”มารดายกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนแผ่วเบา มองหล่อนด้วยความรัก“ตั้งใจเรียนนะลูก เรียนจบแล้วจะได้ทำงานดีๆ ไม่ต้องมาเป็นคนรับใช้เหมือนแม่”“ค่ะแม่”รอยยิ้มที่ปั้นขึ้นมาค่อยๆ จางหายไป และก็มีหยาดน้ำตาไหลมาแทนที่อัคเรศใจร้ายกับหล่อนเหลือเกิน... น้ำตาลผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะตื่นขึ้นมาเกือบสามทุ่ม ท้องของหล่อนเริ่มร้องครวญครางด้วยความหิว ทำให้ต้องลงจากเตียง และไปยังห้องครัว เมื่อก้าวออกมานอกห้องพัก ร่างกายก็ปะทะเข้ากับความหนาวเหน็บของยามค่ำคืน หญิงสาวยกมือขึ้นกอดตัวเองเอาไว้ ขณะเร่งฝีเท้าเข้าไปในห้องครัว น้ำตาลชะงักเท้าเล็กน้อยเมื่อพบว่าในห้องครัวเปิดไฟอยู่ แต่หล่อนคิดไปว่ามารดาอาจจะลืม
ตอนที่ 7.“ตาล... หิวข้าวค่ะ”หล่อนตอบออกไป และคิดว่าจะจบ แต่อัคเรศไม่เคยให้ใครทำลายความต้องการของตัวเองได้เหมือนเคย“แต่ฉันคิดว่าเธอโกหก...”“ตาลไม่ได้โกหก อะ!”ฝ่ามือใหญ่ตะปบลงกับเต้านมอวบอัด แสดงความคุ้นเคยด้วยการตวัดนิ้วถูไถกับหัวนมที่อยู่ใต้ชุดนอนของหล่อนเขารู้ว่าหล่อนไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน และนั่นก็ทำให้เขาปลุกเร้าจนกายสาวปั่นป่วนจนยากที่จะต่อต้านความต้องการล้ำลึกที่กำลังเต้นระริกอยู่ภายในใจได้“อา... อ๊า...”อัคเรศอมยิ้มพึงพอใจ จับจ้องมองดวงหน้าหวานที่กำลังแดงระเรื่อไม่วางตา“นี่แหละเธอ... น้ำตาล... อืมมม... หัวนมเธอแข็งสู้นิ้วฉันดีจัง...”“อา... อะ... คุณกลาง... จะทำอะไรคะ”เขายกหล่อนขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนจะพาไปวางบนโต๊ะไม้ตัวยาว สองขาของหล่อนถูกแทรกกลางด้วยเรือนกายทรงพลัง“จะเอาเธอไง”“คุณกลาง... ไม่... อา... อ๊า...”“เธอก็รู้ว่าปฏิเสธฉันไม่ได้...”อัคเรศแสดงความเอาแต่ใจด้วยการช้อนใบหน้างาม และบดปากลงไปหาเรียวปากนุ่มที่เขารู้ดีว่ามันหวานแค่ไหนส่วนฝ่ามือก็ลูบไล้ไปทั่วเนินสะโพกกลมกลึง วกมาที่ขาเรียว และตรงนั้น“อืมมม...”เขาหลุดเสียงครางออกมาด้วยความพึงพอใจ เมื่อนิ้วยาวพบกับความชุ่ม
ตอนที่ 8.พวงแก้มแดงระเรื่อ ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องก้มหน้าซ่อนความอับอายเอาไว้เท่านั้นหล่อนไม่เคยต่อต้านอัคเรศได้เลย ไม่ว่าเขาจะต้องการเซ็กซ์ที่ไหน หล่อนก็พร้อมที่จะอ้าขาให้เขาเสมอมันน่าอดสูเหลือเกิน... เช้าวันต่อมา อัคเรศที่กำลังจะออกไปทำงานแปลกใจที่เห็นป้าสายมารดาของน้ำตาลยืนคุยอยู่กับคุณแม่ของตัวเองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “มีอะไรกันหรือครับ” “เอ่อ... ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”แม่สายหลีกเลี่ยงที่จะตอบความจริงกับอัคเรศ แต่อมลวรรณคิดต่างออกไป “พอดีแม่สายมาขอลางานน่ะ” “ป้าสายจะลาไปไหนหรือครับ” อัคเรศเอ่ยถามเพราะอยากรู้ “แม่สายจะพาแม่ตาลไปหาหมอน่ะ เห็นว่าไข้ขึ้นไม่สบายน่ะ”อมลวรรณเป็นคนตอบอีกครั้ง และก็ไม่คิดว่าคำตอบของตัวเองจะทำให้สีหน้าเรียบเฉยของลูกชายเคร่งเครียดขึ้นได้ “แต่เมื่อคืนผมก็เห็นน้ำตาลยังดีๆ อยู่นี่ครับ”ก็เมื่อคืนเขาลากน้ำตาลขึ้นเตียงต่อเนื่องตั้งหลายชั่วโมง กว่าหล่อนจะได้กลับไปห้องก็หลังเที่ยงคืน “อ้าว พ่อกลางรู้ได้ยังไงว่าเมื่อคืนแม่ตาลไม่ได้เป็นอะไร”น้ำเสียงของอมลวรรณเต็มไปด้วยความแปลกใจ
ตอนที่ 9 เขาเดินกลับมานั่งบนขอบเตียง และเอาผ้าเช็ดหน้าซับกับดวงหน้าของหล่อน “เอ่อ... คุณกลาง...” “นอนเฉยๆ เถอะน่ะ” “แต่ตาล...” “บอกให้อยู่นิ่งๆ หรือว่าต้องจูบก่อน”คำขู่ของเขาทำให้น้ำตาลนอนนิ่งยิ่งกว่าท่อนไม้เสียอีก อัคเรศกลั้นหัวเราะ ขณะซับผ้าเช็ดหน้าไปตามดวงหน้างามของน้ำตาล นี่ขนาดเขาชุบน้ำมาจนเปียก แต่ยังสัมผัสได้ถึงไอร้อนที่ผิวสาวคลายออกมาได้อย่างชัดเจน “นอนน้ำลายไหลสิท่า ดูสิมีแต่คราบน้ำลาย” น้ำเสียงของคนพูดเต็มไปด้วยความขบขัน ขณะเช็ดย้ำๆ ที่มุมปากนุ่มหลายครั้ง น้ำตาลหน้าแดงซ่าน และก็อดรู้สึกประหลาดใจกับการกระทำของอัคเรศไม่ได้ ทำไมเขาใจดีกับหล่อน... “ไม่ต้องคิดให้เยอะหรอกนะ ที่ฉันทำให้เธอ เพราะฉันรู้สึกผิดที่เอาเธอจนป่วยต่างหาก” เขาพูดออกมาอย่างรู้ทันความคิดของหล่อน น้ำตาลจำต้องเอียงหน้าหนี สองพวงแก้มยังคงแดงระเรื่อ “อ้าว เรียบร้อยแล้ว รอแปบนะ” แล้วเขาก็ลุกขึ้น เดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะเดินกลับออกมาในเวลาต่อมา และเดินเข้ามาหยุดที่ข้างเตียง ค
ตอนที่ 10. อัคเรศอมยิ้ม ชอบสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของน้ำตาลเหลือเกิน “หรือว่าเข็มเล็กไป เธอเลยไม่ชิน” “คุณกลางน่ะ... ตาลไม่พูดด้วยแล้ว” หญิงสาวรีบเดินหนีด้วยความเอียงอาย อัคเรศหัวเราะ และรีบก้าวตามไป “พี่กลาง...” อัคเรศหยุดเดิน เมื่อได้ยินเสียงเรียก ก่อนจะพบว่าเจ้าของเสียงคือผกามาศ “อ้าว ผิง มาทำอะไรที่นี่ครับ” “เพื่อนผิงคลอดลูกที่นี่น่ะค่ะ ผิงก็เลยมาเยี่ยม ว่าแต่พี่กลางเถอะ มาโรงพยาบาลทำไมคะ” ผกามาศเอ่ยถาม และก็มองไปที่น้ำตาลที่หยุดยืนอยู่ไม่ไกลจากร่างของอัคเรศนัก “นี่มันเด็กในบ้านของพี่กลางนี่คะ” “ใช่ครับ พอดีน้ำตาลไม่สบาย พี่ก็เลยพามาหาหมอ” “แหม พี่กลางนี่ใจดีเหลือเกินนะคะ ขนาดเด็กรับใช้ในบ้านก็ยังพามาหาหมอด้วย”ผกามาศพูดพร้อมกับฉีกยิ้ม แต่แววตาที่มองไปยังน้ำตาลนั้นเต็มไปด้วยการถากถาง “พี่ว่างน่ะ เช้าไม่มีงานก็เลยพามา ว่าแต่ผิงเถอะ จะกลับแล้วหรือ” “ใช่ค่ะ งั้นผิงขอติดรถพี่กลางกลับด้วยนะคะ” อัคเรศหันไปมองน้ำตาล ซึ่งเจ้าหล่อนก็ก้าวเท้าเข้ามาหา
ตอนที่ 11. “เทพ... กลับไปเถอะ เดี๋ยวตาลกลับกับคุณกลาง...” “แต่เขาอาจจะทำร้ายตาลนะ ท่าทางเขาเหมือนคนบ้า” เทพพิทักษ์เป็นห่วงน้ำตาล “มึงรีบไปให้พ้นหน้ากูเลย ก่อนที่กูจะบ้าฆ่ามึง ไอ้หน้าจืด!” “เทพไปเถอะ ตาลขอร้องล่ะ” “งั้นถ้ามีอะไรให้ช่วย ตาลรีบโทรหาเราเลยนะ เราเป็นห่วง” “มึงไม่ต้องมาห่วงคนของกู” “คุณกลางคะ... ขึ้นรถเถอะค่ะ”น้ำตาลพยายามที่จะจบสถานการณ์เลวร้ายลง ด้วยการก้าวขึ้นไปนั่งบนรถหรูของอัคเรศ “คุณกลางคะ ตาลขึ้นรถแล้วค่ะ” อัคเรศชี้หน้าเทพพิทักษ์ พร้อมกับทิ้งคำพูดข่มขู่ “อย่าให้กูเห็นว่ามึงมายุ่งกับคนของกูอีกนะ ไอ้หน้าจืด” ปัง! อัคเรศก้าวขึ้นรถ กระชากประตูปิดเต็มแรง พร้อมกับหันมาจ้องหน้าหล่อน “เดินหนีฉันมา เพื่อที่จะกลับกับมันเนี้ยนะ น้ำตาล!” “คือ... ตาลเห็นคุณกลางมีแขก...” “อย่าเอาผิงมาอ้าง เธอไม่เกี่ยวอะไรด้วย” น้ำตาของคนถูกตำหนิร่วงหล่นอาบสองพวงแก้ม จนต้องรีบป้ายทิ้ง “ตาล... ก็แค่พยายามอธิบาย...” “คำอธิบ
ตอนที่ 12. ทั้งๆ ที่ได้ระบายอารมณ์ใส่ร่างกายของน้ำตาลไปแล้ว แต่ทำไมนะ ทำไมเขายังคงรู้สึกหงุดหงิด เกรี้ยวกราดอยู่ เขาควรจะรู้สึกดีสิ... ควรจะหัวเราะให้ดังๆ กับชัยชนะที่ได้รับ... แต่กลับรู้สึกแย่... น้ำตาของน้ำตาลทำให้เขารู้สึกปวดหนึบในอกจนรวดร้าว เสียงครางที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดมากกว่าความเสียวซ่าน ยิ่งตอกย้ำให้เขามองเห็นความเลวร้ายของตัวเองชัดเจนขึ้น หล่อนไม่สบาย... แต่เขากลับกระทำย่ำยีหล่อนเพียงเพราะความโมโห โมโหที่เห็นหล่อนอยู่ใกล้กับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเขา นี่มันอะไรกัน... ทำไมเขาจะต้องรู้สึกไม่พอใจ ไม่ชอบใจ และขุ่นเคือง ยามที่น้ำตาลอยู่กับผู้ชายอีกคนด้วย มือใหญ่ยกขึ้นลูบหน้าแรงๆ พร้อมกับผ่อนลมหายใจออกมา ดวงตาคมเข้มเหลือบมองไปที่ถุงกระดาษที่ประทับตราของโรงพยาบาล หล่อนตกใจ หวาดกลัว และคงเสียขวัญมาก จนถึงขั้นลืมหิ้วถุงยาลงไปจากรถ แม้จะพยายามบอกตัวเองให้หยุดสนใจ หยุดใส่ใจน้ำตาลยังไง แต่เขาก็ทำไม่ได้ ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้หนังสีดำ และเดินอ้
ตอนที่ 21. ตอนอวสานหล่อนมองเจ้าของคำพูดอ่อนโยนผ่านม่านน้ำตา ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้ชายคนนี้จะคือคนเดียวกันกับอัคเรศ“ก็... คิดถึงนิดหน่อยค่ะ”“ใจร้าย... ทำไมคิดถึงแค่หน่อยเดียวเองล่ะ ฉันอุตส่าห์คิดถึงเธอแทบตาย...”อัคเรศตัดพ้อ แต่ก็ยังไม่หยุดเอามือลูบไล้ซุกซนไปทั่วกายสาว จนหล่อนรู้สึกร้อนผะผ่าวไปทั้งเนื้อทั้งตัว“อื้อ... คุณกลาง... อย่าค่ะ... อา...”เขารวบมือเล็กไปไว้เหนือศีรษะ ก่อนจะเอาปากบดคลึงลงมาหา“ฉันจะพิสูจน์ว่าเธอคิดถึงฉันนิดเดียวจริงหรือเปล่า...”“อา... อ๊า...”คนตัวโตสอดมือเข้าไปใต้เสื้อตัวสวย และล้วงเข้าไปบี้หัวนม“แต่เท่าที่สัมผัส... เธอคิดถึงฉันมากอยู่เหมือนกันนะ น้ำตาล... อืมมม...”เขาครางเบาๆ และก็จัดการดึงทึ้งเสื้อของหล่อนออกไปจากตัว“คิดถึงจัง...”เขาซบหน้าลงไปที่กลางหว่างอก ซุกไซ้ด้วยความลุ่มหลงหิวกระหาย บราเซียร์ตัวน้อยถูกดึงออกไปจากร่างสาว และก้อนเนื้อนุ่มก็ถูกขยำอย่างรุนแรง“อ๊า... อา... คุณกลาง... ซี๊ดดดด...”“อืมมม... ฉันคิดถึงนมใหญ่ๆ ของเธอที่สุด... พระเจ้า... หัวนมเธอสู้นิ้วฉันดีเหลือเกิน...”คนที่กำลังถูกความหื่นกระหายเข้าครอบงำแลบลิ้นออกมาเลียไปทั่วทั้งก้อนเนื
ตอนที่ 20. “นี่มันอะไรกัน...?” ภายในห้องนอนของอัคเรศเต็มไปด้วยลูกโป่งสีสวย และแน่นเอี้ยดไปด้วยดอกกุหลาบสีแดงทุกตารางนิ้วของห้องกว้าง แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ยังไม่น่าตกใจเท่ากับข้อความที่อยู่ติดกับลูกโป่งสีหวาน อัคเรศในชุดลำลองสีขาวสะอาดตัดกับสีสันของดอกกุหลาบได้อย่างน่ามอง เขาก้าวเข้ามาหา ในขณะที่หล่อนขาตาย ยืนนิ่งหนีไปไหนไม่รอด มือเล็กถูกดึงไปกุมเอาไว้ ก่อนที่เขาจะยกขึ้นไปพรมจูบทีละนิว “คุณกลาง...”หล่อนกำลังจะถามว่านี่มันคืออะไรกัน เขากำลังทำอะไร แต่อัคเรศก็ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ได้ถามเลย“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น... ฟังฉันอย่างเดียวก็พอน้ำตาล...”แล้วเขาก็ประกบปากลงมาหา บดคลึงอย่างอ่อนหวานและหิวกระหาย ลิ้นร้อนของเขาปลุกปั่นให้ไฟในกายลุกโชนได้อย่างง่ายดาย“อา...”หล่อนครางอย่างเสียดาย เมื่อเขาถอนปากออกไป และค่อยๆ หย่อนกายลงคุกเข่ากับพื้นห้อง“คุณ... คุณกลางจะทำอะไรคะ”หล่อนพยายามดึงเขาให้ลุกขึ้น แต่เขากลับส่ายหน้า แววตาของเขาเด็ดเดี่ยวและจริงจัง“ฉันร้ายกับเธอมาตลอด... ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว ฉันไม่ได้อยากทำให้เธอร้องไห้เลย...”นี่เขาก
ตอนที่ 19. “คงไม่ได้เกี่ยวกับแม่ตาลหรอกนะ” อมลวรรณดักคอลูกชาย “เกี่ยวครับ” อมลวรรณยกมือขึ้นทาบอก และยังไม่ทันได้ถามอะไรออกไป อัคเรศก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ผมต้องการมีครอบครัวครับ” “พ่อกลางอยากมีครอบครัว? นี่แม่หูฝาดไปหรือเปล่าเนี้ย” อมลวรรณครางออกมาอย่างเหลือเชื่อ “ผมพูดจริงๆ ครับ ผมต้องการมีครอบครัว” เมื่อลูกชายย้ำชัดออกมาอีกครั้ง คราวนี้ผู้เป็นแม่จึงรู้ว่าเป็นเรื่องจริง “หนูผิงใช่ไหม” ศรีษะทุยได้รูปของอัคเรศส่ายไปมา “อ้าว ถ้าไม่ใช่หนูผิง แล้วใครล่ะ แม่ไม่เคยเห็นพ่อกลางคบหาใครเป็นตัวเป็นตนเสียที จะมีก็แค่หนูผิงนั่นแหละที่เคยพามาบ้าน” “น้ำตาลครับ” บรรยากาศรอบตัวเงียบกริบ ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากปากของทั้งคนพูดและคนฟัง จนกระทั่งอมลวรรณตั้งสติได้จึงถามซ้ำออกมา “แม่ตาล...? นี่พ่อกลางล้อแม่เล่นใช่ไหมเนี้ย” “ผมไม่ได้ล้อเล่นครับ ผมต้องการแต่งงานกับน้ำตาลทันทีที่เธอเรียนจบ” “โอ้... แม่ไม่อยากเชื่อเลย ทำไมถึงต้องเป็นแม่ตาลล่ะ ในเมื่อพ่อกลางสามารถเ
ตอนที่ 18. หล่อนผลักไส และก็ดิ้นรน แต่จูบร้อนแรงของอัคเรศทรงอานุภาพมากเหลือเกิน เพราะไม่ช้ากายสาวก็อ่อนระทวย และยอมเปิดปากให้ลิ้นร้อนๆ บุกรุกเข้ามา หนึ่งจูบกลายเป็นหลายสิบจูบ จนกระทั่งเขาถอนจุมพิตออกไป “ฉันไม่ได้รักผิง” เขากระซิบชิดปากอิ่มที่กำลังเห่อบวม “ขึ้นรถได้แล้ว ถ้าไม่อยากให้ฉันจูบปากเธอตรงนี้อีก” แล้วเขาก็ผลักหล่อนให้ขึ้นไปบนรถ ประตูรถถูกปิดตามมาแรงๆ อัคเรศเดินอ้อมรถขึ้นมานั่งหน้าพวงมาลัยรถ และมองหล่อน “เลิกหึงหวงฉันกับผิงได้แล้ว เพราะผิงก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งในสายตาของฉันเท่านั้น” “ตาล... ไม่ได้หึงค่ะ” “ไม่ต้องปฏิเสธ เพราะฉันชอบความหึงหวงของเธอ น้ำตาล” แล้วรถคันงามก็แล่นออกจากลานจอดรถหน้าหอพัก และเคลื่อนขึ้นไปบนถนนด้วยความเร็วจนน่ากลัว บรรยากาศในรถเงียบกริบ จนกระทั่งรถคันงามแล่นมาจอดที่หน้าร้านดอกไม้แห่งหนึ่ง อัคเรศหันมามองหล่อน และพูดขึ้น “รออยู่ในนี้ล่ะ เดี๋ยวฉันมา” คนตัวโตพูดจบก็ก้าวลงไปจากรถ และเดินหายเข้าไปในร้านดอกไม้ หล่อนนั
ตอนที่ 17. กระบอกตาของน้ำตาลร้อนจัด และก็พยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมาอีก “ตาลจะคุยกับแม่เองค่ะ” “ไม่ต้องคุยอะไรทั้งนั้นแหละ เก็บของ และตามฉันกลับไปเดี๋ยวนี้” “แต่ว่า...” “ไม่ต้องพูดมาก พาฉันขึ้นไปห้องเธอเลย ฉันจะช่วยเก็บของ” หล่อนไม่เคยสู้รบตบมือกับอัคเรศ แล้วชนะเลยสักครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน... หล่อนจำต้องพาคนใจร้ายมุ่งหน้าตรงไปยังห้องพักของตัวเองอย่างไม่มีทางเลือก “ห้องเล็กไปหน่อยนะ”เขาพูดขึ้น หลังจากก้าวเข้ามาในห้องพักของหล่อนแล้ว “ปิดประตูห้องด้วยสิ หรือเธอเป็นพวกชอบโชว์”อัคเรศหันมามองน้ำตาลก็พบว่าหล่อนยังคงยืนอยู่ชิดประตูทางออก และไม่ยอมปิดมันลง “เอ่อ... ตาล...” “กลัวอะไรฉัน... หรือคิดว่าฉันจะปล้ำเธอ” หน้านวลแดงระเรื่อขึ้นทันที แต่หล่อนก็ส่ายหน้าไปมา “ปะ... เปล่าหรอกค่ะ” “งั้นก็ปิดประตูสิ ฉันไม่ชอบให้คนไม่รู้จักมาจ้องมอง” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังคงลังเล อัคเรศจึงเป็นคนเดินไปดึงประตูห้องให้ปิดลงด้วยตัวเอง พร้อมกับล็อกอย่างแน่น
ตอนที่ 16. แม้จะพยายามทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการที่นางบำเรออย่างน้ำตาลหายหน้าไป แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น เขาพยายามที่จะไม่คิดถึงหล่อน แต่สามวันที่ผ่านไป มันไม่ต่างจากสามสิบปีเลยให้ตายสิ ในหัวของเขามีแต่เรื่องราวของน้ำตาล “ทำไมหมู่นี้ผมไม่เห็นลูกสาวของป้าสายมาช่วยทำงานเลยนะครับ”เขาเอ่ยขึ้นกับป้าสายซึ่งเป็นมารดาของน้ำตาล “อ้อ ตาลมันย้ายไปอยู่หอพักได้เกือบสามวันแล้วล่ะค่ะคุณกลาง” คำตอบของป้าสายทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกไม้แข็งๆ ฟาดลงมาบนกลางกบาล “อะไรนะครับ” “น้ำตาลมันย้ายไปอยู่หอพักใกล้มอหลายวันแล้วค่ะคุณกลาง” คราวนี้ชัดเจนเต็มสองหูเลยทีเดียว อัคเรศบอกไม่ได้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังรู้สึกอะไรมากกว่ากัน ระหว่างโกรธและตกใจ “แล้วทำไมป้าสายยอมให้ลูกสาวออกไปอยู่คนเดียวล่ะครับ ผู้หญิงอยู่ตามลำพังมันดีที่ไหน แล้วถ้าเกิดมีอันตรายอะไรขึ้น ป้าสายจะทำยังไงครับ”อัคเรศก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจะต้องรู้สึกไม่พอใจรุนแรงแบบนี้ “เอ่อ... ป้าก็บอกตาลมันแล้วค่ะคุณกลาง แต่ตาลมันบอกว่าจะ
ตอนที่ 15.เขาเลียหล่อนจนน้ำแห้ง ก่อนจะเลื่อนตัวขึ้นมาหา จูบหัวนมทั้งสองข้างเบาๆ ก่อนจะบดขยี้ปากนุ่มซ้ำอีกครั้งหล่อนเผยอปากตอบรับเรียวลิ้นสากอย่างเต็มใจและหิวกระหาย ยิ่งเขาดูดลิ้นของหล่อนแรงเท่าไหร่ ความเสียวซ่านระลอกใหม่ก็ยิ่งรุนแรง“อ๊า... ซี๊ดดด อ๊า... อา...”“คืนนี้เธอร้อนแรงจัง... อืมมม”เขากระซิบชิดปากนุ่ม ขณะจัดแจงท่าทางให้พร้อมกับการสอดใส่ความเป็นชายร้อนจัดและแข็งมากกำลังดุนดันอยู่ที่ความเป็นหญิง“อะ... อ๊า...”หล่อนร่อนสะโพกขึ้นหาอย่างเรียกร้อง ให้เขาสอดใส่เข้ามาโดยเร็วอัคเรศจ้องมองกลีบเนื้อนุ่มสีแดงฉ่ำด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะขยับบั้นเอวแรงๆ เพื่อดันความแข็งชันให้มุดเข้าไปข้างใน“โอ้ววว...”“อ๊า... ซี๊ดดดด...”ในที่สุดเขาก็ฝังลึกอยู่ภายในกายสาวของน้ำตาลจนมิดด้ามสวรรค์...“โอ้ววว... เสียววว น้ำตาล... เธอตอดฉันไม่หยุดเลย โอ้วววว...”เขาควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว และมันก็เป็นแบบนี้เสียทุกครั้ง หากผู้หญิงที่กำลังโอบกระชับรอบเอ็นชายคือน้ำตาลผู้หญิงที่เขาคิดเสมอว่าไม่มีค่า เป็นแค่นางบำเรอชั่วครั้งชั่วคราว แต่ยิ่งนับวัน เขาก็ยิ่งขาดหล่อนไม่ได้“โอ้ววว... เสียวว โอ้วววว... ฉันต้อง.
ตอนที่ 14.“เลิกอิดออดได้แล้ว เปิดดูสิ” เขาเร่งด้วยน้ำเสียงดุดัน“ค่ะ”น้ำตาลเม้มปากเป็นเส้นตรง ก่อนจะเปิดถุงกระดาษออก ข้างในมีกล่องกำมะหยี่สีแดงระเรื่อขนาดเล็กบรรจุอยู่หล่อนล้วงมือเข้าไปหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงออกมา และมองหน้าคนให้ ก็พบว่าเขากำลังอมยิ้มน้อยๆ อยู่“เอ่อ... อะไรเหรอคะ”“อยากรู้ก็เปิดดูเองสิ”ด้วยความอยากรู้ ทำให้หล่อนต้องเปิดกล่องกำมะหยี่นั้นออกโอ้...แหวนทองคำขาวที่หัวของแหวนมีเพชรน้ำงามขนาดเล็กประดับอยู่ ราคาของมันแน่นอนว่าต้องแพงหูฉี่เลยทีเดียว“ชอบไหม...”อัคเรศไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นกับการรอคอยแบบนี้มาก่อนเลยเขาหวังว่าหล่อนจะชอบ...“สวยมากค่ะ”“ฉันก็แค่ชี้เลือกไปส่งๆ ไม่คิดว่ามันจะสวยจนเธอชอบ”อัคเรศอดที่จะกลบเกลื่อนความประหม่าของตัวเองด้วยการพูดปดไม่ได้“แต่ตาล... คงรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”“ทำไมจะรับไว้ไม่ได้ ในเมื่อฉันซื้อมาให้เธอ”“ตาลไม่เหมาะกับของราคาแพงแบบนี้หรอกค่ะ คุณกลางเก็บเอาไว้ให้คุณผิงน่าจะเหมาะว่านะคะ”หล่อนเกลียดตัวเองมากที่ทำสุ่มเสียงเหมือนผู้หญิงขี้หึงออกไปแบบนั้น ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะรักอัคเรศด้วยซ้ำ“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผิง ฉันซื้อมาให้
ตอนที่ 13.“จะไปไหนล่ะ หรือว่าอายที่ฉันรู้กำพรืดของเธอ”ผกามาศคว้าแขนเล็กของน้ำตาลเอาไว้ บีบแรงๆ อย่างแค้นเคือง“จำเอาไว้นะ พี่กลางน่ะเป็นของฉัน อีกไม่นานเราก็จะแต่งงานกัน ส่วนเธอน่ะ ก็เป็นได้แค่นางบำเรอชั่วคราวที่ใกล้จะถูกเฉียดหัวทิ้งร่อมร่อ”น้ำเสียงของผกามาศเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน แต่สิ่งที่หล่อนพูดออกมานั้น มันก็คือความจริงทุกอย่าง “ฉันไปได้หรือยังคะ” “ยัง ฉันยังพูดไม่จบ” ผกามาศยังไม่ยอมปล่อยแขนของน้ำตาล “ฉันจะให้เงินเธอสักก้อน เพื่อแลกกับการที่เธอจะเลิกยุ่งกับพี่กลาง” ลำคอของน้ำตาลตีบตันเจ็บปวด กระบอกตาร้อนผ่าวเจ็บร้าวกับคำพูดดูแคลนของคู่สนทนา “ฉันไม่ต้องการเงินของคุณหรอกค่ะ” “อย่ามาทำเป็นพูดดี ที่เธอนอนกับพี่กลางก็เพราะเธออยากได้เงินไม่ใช่เหรอ” น้ำตาลสะบัดแขนแรงๆ จนหลุด และถอยออกห่างผกามาศ “ความจริงคุณผิงน่าจะเอาเวลาที่มาระรานฉัน ไปตามคุณกลางดีกว่านะคะ เพราะนอกจากฉันแล้ว คุณกลางก็อาจจะมีผู้หญิงคนอื่นอีกก็ได้ค่ะ” “นี่เธอ!” “ขอตัวนะคะ” น้ำตาลรีบเดินเร็วจากไปทันที หัวใจปวดร้