Home / โรแมนติก / หมอขาอย่ากินดุ / chapter 2. ใครกันนะ หักอกหมออิฐได้ลง.

Share

chapter 2. ใครกันนะ หักอกหมออิฐได้ลง.

last update Last Updated: 2025-01-02 06:32:14

            แต่หมออิฐคงจำเธอไม่ได้  เขาเคยเป็นลูกค้าประจำของร้าน มานั่งดื่มและฟังเพลงเดือนละครั้งสองครั้ง เขาก็เหมือนคนอื่น มาดื่ม มาฟังเพลง มาผ่อนคลาย เธอไม่เคยเข้าไปทักเขาสักที เพราะหลายครั้งที่เขามาก็มีหญิงสาวมาด้วยเสมอ แต่คืนนั้นเธอถูกลูกค้าเมาลวนลามและบังเอิญเขาเข้ามาช่วย การันต์รู้เข้าจึงเลี้ยงเครื่องดื่มแทนคำขอบคุณ  ทำให้นับตั้งแต่นั้น เธออยากรู้จักนายแพทย์อิทธิพลหรือหมออิฐมากยิ่งขึ้น  และรู้ว่าเขามีหญิงสาวคบอยู่ด้วย เธอจึงพอใจกับการเฝ้ามองและติดตามเขาอยู่ห่างๆ จนกระทั่งการันต์ต้องปิดผับมาเปิดร้านอาหารตามเดิม และมีบริการเดลิเวอรี่ มีลูกค้าที่ทำงานที่โรงพยาบาลให้เธอนำข้าวกล่องไปส่ง ทำให้เธอได้พบหมออิฐอีกครั้ง  ซึ่งเธอก็ไม่เคยอยู่ในสายตาเขาอยู่ดี แต่ เธอใส่ใจรายการอาหารของหมออิฐเป็นพิเศษ ทำให้จำได้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร คนที่ดูเหมือนง่ายๆอะไรก็ได้จึงไม่ง่ายอย่างที่คิด

            “ตั้งแต่สั่งข้าวกล่องมา หมออิฐชอบกินข้าวกล่องร้านของหนูกะทิที่สุด แกเรื่องมากจริงๆ ผัดกระเพราต้องเป็นผัดกระเพรา ไม่ใส่ถั่วฝักยาวหรือแคร์รอต เมนูปลาต้องไม่คาว ถ้าวันไหนสั่งไข่ดาว ต้องให้ไข่ดาวเยิ้มๆ ไข่ขาวกรอบๆ ใครเป็นเมียลำบากแน่”

            นั้นเป็นเรื่องที่พยาบาลแอบนิทาลับหลัง รวมทั้งชีวิตรักของหมออิทธิพลด้วย

            เขาอกหักอีกแล้ว

            ใครกันนะ หักอกหมออิฐได้ลง.

.....

            “วันนี้ทำสถิติตรวจคนไข้หมดภายในเที่ยงวันเลยค่ะหมออิฐ”

            พยาบาลสาววัยสี่สิบโผล่หน้าเข้ามาในห้องตรวจ หมอหนุ่มกำลังพิมพ์รายงานอยู่พยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่อาจกลบความเหนื่อยล้าได้

            “ข้าวกล่องมาส่งแล้ว หมออิฐจะกินพร้อมพวกเราไหมคะ”  พยาบาลคนเดิมยังเอ่ยถามด้วยความเคยชิน

            “ถ้าไม่รบกวนพี่แวว ผมขอนั่งกินข้าวด้วยแล้วกันครับ ตอนบ่ายต้องขึ้นราวน์วอร์ด”

            “อ้าว ไม่ใช่เวรหมอก้อยหรือคะ”

            “แลกกันครับ พอดีหมอก้อยมีธุระ พาลูกไปทำอะไรสักอย่างนี่แหละ ผมลืมไปแล้ว”  เขาหัวเราะในลำคอ เป็นคนโสดนี่นะ ใครๆ ก็มองว่าว่างตลอด

            อิทธิพลรัวนิ้วจิ้มคีย์บอร์ดสรุปเคสผู้ป่วยเสร็จก็ปิดคอมพิวเตอร์ เขายืดตัวแล้วบิดเอวไปมา  จริงๆ เขาเกรงใจพยาบาลอยู่บ้าง แรกทีเดียวเพราะพยาบาลสั่งข้าวกล่องมากินในแผนก ช่วงนั้นโควิด-19ระบาดหนัก โรงอาหารของโรงพบาบาลปิดปรับปรุง เขาเองก็ไม่อยากออกไปหาซื้อของกินเอง  เหล่าพยาบาลใจดีถามเขาเผื่อสั่งข้าวกล่องมากินด้วยกัน เขาจึงฝากด้วย กินได้สองสามมื้อก็ติดใจรสชาติอาหารร้านนี้ เขาจึงฝากสั่งเป็นประจำ จนช่วงหนึ่งเขาไปเป็นประจำอยู่โรงพยาบาลสนาม จึงไม่ได้กินอาหารร้านนี้อีก แต่เมื่อกลับทำงานปกติ  โรงอาหารเปิดแล้ว แต่เขายังติดใจรสชาติอาหารนั้นอยู่ พอดีกับที่พยาบาลที่นี่มักจะถามเขาเสมอหากวันไหนที่สั่งอาหารที่ร้านนี้

            “ของหมออิฐข้าวผัดปูค่ะ”   พยาบาลสาวยื่นจานข้าวให้

            “คราวหน้าใส่กล่องให้ผมก็ได้ครับ ไม่ต้องใส่จานหรอก ผมเกรงใจ”

            “เกรงใจอะไรกันค่ะ หมออิฐก็เลี้ยงพวกเราบ่อยๆ แค่นี้เรื่องเล็กน้อยค่ะ” 

พยาบาลอีกคนพูดขึ้นแล้วเลื่อนถ้วยน้ำซุปส่งให้ และขวดน้ำเสาวรส  หมอหนุ่มเงยหน้าใช้สายตาแทนคำถาม จำได้ว่าของเขามีแค่ข้าวผัดปูนี่นะ  แต่เหล่าพยาบาลพากันหัวเราะคิกคักก่อนเฉลยให้เขารู้

“ร้านที่หมออิฐสั่งข้าวกล่องเป็นประจำ แม่ค้าแถมน้ำซุปกับน้ำผลไม้มาให้ค่ะ พวกพี่ๆเลยได้อานิสงส์กันคนละขวด”

ชายหนุ่มพยักหน้ารับแต่ก็อดถามไม่ได้ “เขาจะไม่ขาดทุนแย่เหรอครับ”

“หมออิฐก็สั่งบ่อยๆ สิคะ แม่ค้าจะได้ไม่ขาดทุน”  พยาบาลสาวหัวเราะน้อยๆ

“แต่ร้านอื่นก็ไม่ถูกปากหมออิฐนี่น่า”

“เอ...ผมไม่ใช่คนกินยากขนาดนั้นเสียหน่อย”  เขาหัวเราะแก้เก้อแล้วก้มหน้ากินมื้อกลางวันของตน เขามั่นใจว่าตัวเองไม่ใช่คนเรื่องมากจริงๆ ข้าวกล่องก็ยังกินได้ ไม่ใช่ว่าต้องไปนั่งกินในร้านอาหารเสียหน่อย

“ค่ะๆ หมออิฐเป็นคนกินง่ายค่ะ” 

            คนที่นิยามตัวเองว่า ‘กินง่าย’ ไม่รู้ตัวว่าตัวเอง ‘กินยาก’ในสายตาคนอื่น แม้เจ้าตัวจะไม่แสดงออกว่า ‘ชอบ’หรือ ‘ไม่ชอบ’ อาหารมื้อนั้น แต่คนที่ทำงานด้วยกันมักสังเกตเห็น  ช่วงที่ที่ไปอยู่โรงพยาบาลสนาม อาหารการกินเลือกมากไม่ได้ นอกจากอาหารกล่องที่เจ้าหน้าที่เตรียมให้  ก็มีคนใจบุญนำข้าวกล่องของกินมามอบให้ด้วย   เขาต้องแอบซื้อขนมปังสารพัดไส้กับนมกล่องไว้กินอยู่บ่อยๆ พอได้กลับมาทำงานที่เดิม เจอร้านอาหารที่ทำกับข้าวถูกปาก เขาก็แทบไม่เคยเปลี่ยนร้านอื่นอีกเลย

            นายแพทย์หนุ่มคิดอะไรเรื่อยเปื่อย กินมื้อเที่ยงเสร็จแล้วก็นึกขึ้นได้ เอ่ยถามกับพยาบาลที่สนิทสนมกัน

            “พี่แววครับ ร้านที่สั่งข้าวประจำนี้พี่สั่งที่ไหนครับ เขามีขายในแอปหรือเปล่า”

            “ร้านนี้อยู่ใกล้โรงพยาบาลเราค่ะ”  พยาบาลสาวพูดขึ้นแล้วเอี้ยวตัวไปหยิบกระดาษขนาดครึ่งA4 ที่มีรายการอาหารส่งให้คุณหมอ “ช่วงโควิดทางรัฐไม่ให้นั่งกินอาหารที่ร้าน ทางร้านก็เลยปรับมาเป็นแบบเดลิเวอรี่ แต่พวกเราไม่ได้สั่งผ่านแอปหรอกค่ะ โทรสั่งกับเจ้าของร้านแล้วน้องก็ขับรถมาส่งให้เอง ทำแบบนี้ร้านได้เต็มๆไม่หักเปอร์เซ็นต์ให้ทางแอปด้วย ถ้าหมออิฐอยากกินอะไรเป็นพิเศษก็สั่งได้นะคะ”

            “ขอบคุณครับ”

มือใหญ่ยื่นมือไปรับกระดาษแผ่นนั้นมา เป็นรายการอาหารง่ายๆ แต่มีรูปประกอบเป็นลายเส้นน่ารักจนเผลอยิ้มออก นอกจากรายการอาหารก็ยังมีชื่อร้านและช่องทางติดต่อ  คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย ที่อยู่ร้านคุ้นๆ ไม่ไกลโรงพยาบาลและใกล้คอนโดที่เขาพักอยู่ในตอนนี้   เขาอาจได้ใช้บริการมากกว่ามื้อเที่ยง

“หมออิฐวางจานไว้ตรงนั้นแหละค่ะ เดี๋ยวพวกเราจัดการเอง”

“จะดีเหรอครับ”   เขาถามอย่างเกรงใจ

“แหม หมออิฐเลี้ยงขนม เลี้ยงข้าวพวกเราบ่อยๆ แค่นี้เล็กน้อยค่ะ หมอไปพักเถอะค่ะ ประเดี๋ยวก็ต้องทำงานแล้ว”

“ขอบคุณครับ”

เขายิ้มแล้วเดินออกมาพร้อมเป้สะพายหลัง ตั้งใจเดินกลับไปที่ห้องพัก ก่อนหน้านี้ไปประจำที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด เพิ่งย้ายกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลเดิม ส่วนหนึ่งคือตามใจพ่อกับแม่ที่อยากให้เขาอยู่ใกล้ๆ ด้วย แม้มีบ้านอยู่ใจกลางกรุงแต่เขายังพาตัวเองไปอยู่คอนโดที่ซื้อไว้เองอยู่ดี

“อายุขนาดนี้แล้ว ยังหาเมียไม่ได้อีกเรอะ”  

นั้นเป็นเสียงบ่นของพ่อที่ทำให้ไม่อยากอยู่บ้านนัก ใครล่ะไม่อยากมีเมีย มีครอบครัว แต่ก็ไม่รู้ทำไม คนที่คิดว่าใช่ แต่ก็ไม่ใช่ทุกที

“พี่เอ็งสองคนมีเมียมีลูกกันแล้ว เอ็งยังจะหวงความโสดไว้ทำไม จะอยู่คนเดียวไปจนตายหรือไง”

“ก็ว่าจะอยู่เกาะพ่อเกาะแม่ไปจนตายเหมือนกันครับ” 

จำได้ว่าเขาย้อนพ่อไปแบบนั้น

“บ๊ะ! ไอ้ลูกคนนี้ จะทำให้พ่อแม่เป็นห่วงไปถึงไหน”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 27. จบ

    ไม่รู้ทำไม จู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว เธอที่เฝ้ามองเขาอยู่ไกลๆ ค่อยติดตามข่าวของเขาเสมอ แม้มีโอกาสได้ใกล้ชิดก็ไม่เคยแสดงความรู้สึกข้างในออกไป จนวันนี้...เขาอยู่ตรงหน้าและบอกรักเธอ “คนดี ร้องไห้ทำไมครับ” เขายิ้มแล้วจูบซับหยดน้ำตาให้ “ไม่รู้ค่ะ สงสัยไม่สบายแน่เลย” คราวนี้เกวลินหัวเราะทั้งน้ำตา จริงสินะ เวลาแบบนี้ต้องยิ้มดีใจต่างหากล่ะ “อื้ม...ไม่สบายเหรอ งั้นหมอตรวจให้นะครับ” เขายิ้มกรุ้มกริ่ม มือไม้เริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างที่โหยหาย “พี่อิฐ! คนกำลังซึ้ง” เธอตีมือเขาแต่กลับหัวเราะร่วนจนกระทั่งเขาอุ้มเธอมาที่เตียงเล็กของเธอเอง “ก็กะทิไม่สบาย พี่จะทำให้สบายตัวไงครับ” ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียติ่งหูทำให้หญิงสาวหลุดเสียงครางออกมา มือเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาแล้วกระซิบเสียงหวาน “กะทิรักพี่อิฐค่ะ” ชายหนุ่มตอบกลับด้วยภาษากาย เขาขยับเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าและนุ่มนวลจนคนใต้ร่างได้แต่ครวญครางเรียกร้องให้เขาเติมเต็มความปรารถนาที่เอ่อล้น สองร่างแนบชิดกลายเป็นหนึ่งผสานเสียงลมหายใจและหัวใจสองดวงเต้นไปพร

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 26.  รักนะครับ

    “อยู่บ้านคนเดียวล็อกบ้านดีๆ ล่ะ” การันต์ย้ำกับน้องสาว “ทำเหมือนจะไปหลายวัน” เกวลินแลบลิ้นใส่ “ไปเถอะค่ะ ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอไม่ดีนะคะ” การันต์พยักหน้าแล้วเดินไปที่รถพร้อมวายุ เกวลินรอจนรถออกไปแล้วจึงเดินเข้ามาในบ้าน เกวลินเดินไปหยิบน้ำผลไม้ในตู้เย็นรินใส่แก้ว ยังไม่ทันยกขึ้นดื่มก็ได้ยินเสียงกดออดที่หน้าบ้าน เธอวางแก้วลงแล้วเดินมาที่ประตู “ลืมอะไรหรือคะพี่ตะโก้” เธอถามทันทีที่เปิดประตูออก ทว่าคนตรงหน้ากลับไม่ใช่พี่ชายที่เธอเข้าใจผิดคิดว่าคงลืมของจึงกลับมา “ทำไมไม่ดูให้ดีก่อนเปิดประตู ถ้าเป็นโจรขึ้นมาจะทำยังไง” คนตัวสูงดุแล้วเดินเข้าไปราวกับเป็นบ้านของตัวเองเสียงล็อกประตูทำให้เกวลินได้สติ เธอไม่คิดว่าเขาจะมายืนตรงหน้าอย่างนี้ “พี่...พี่อิฐ” “ก็พี่ไง หรือรอใครอยู่” อิทธิพลขมวดคิ้วแล้วกวาดตามอง “ตะโก้กับวายุไม่อยู่เหรอ” “ค่ะ...ออกไปข้างนอก...” “ดี...พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” “เดี๋ยวนะคะ ขอกะทิทำใจก่อน” “ทำใจอะไร” อิทธิพลขมวดคิ้ว “พี่อิฐมาบอกเลิกกะท

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 25. พูดอะไรไม่ออก

    เกวลินโผล่หน้ามาดู แค่พี่ชายพยักหน้าให้เธอก็ผลุบกลับเข้าไปในครัว รินน้ำดื่มสองแก้วแล้วเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง แต่เธอคิดว่าคงไม่เหมาะจะนั่งฟังด้วยจึงหลบไปด้านหลัง ได้แต่ส่งยิ้มให้กำลังวายุที่ยืนหน้าซีดอยู่ และเป็นการันต์ที่กระตุกมือให้วายุนั่งลงข้างเขา “ลูก...ดูสบายดีนะ” คนเป็นแม่เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ผมสบายดี” วายุตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่สองมือบีบกันแน่น การได้พบแม่ไม่ได้ทำให้เขากังวลได้เท่ากับเห็นพ่อมาอยู่ตรงหน้าด้วย เขากลัวว่าพ่อจะทำร้ายคนที่บ้านนี้ ซึ่งเขาไม่ยอมให้มีเรื่องเลวร้ายอะไรเกิดขึ้นเด็ดขาด “พ่อรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่” “วันนี้พ่อเห็นแกไปออกบูธก็เลยให้คนตามดู” คนเป็นพ่อเอ่ยเสียงอ่อนล้า “ทำไมครับ อยากเห็นว่าผมจะใช้ชีวิตเหลวแหลกอย่างที่พ่อประณามไว้หรือเปล่านะเหรอ” น้ำเสียงวายุก็ปวดร้าวไม่แพ้กัน “เปล่าๆ....พ่อ...พ่ออยากให้แกกลับบ้าน” ถ้อยคำที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของคนตรงหน้าทำให้วายุนิ่งงันไป เขาย้ายสายตาไปมองมารดาที่หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตา “กลับบ้านเ

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 24. ทุกอย่างมันอลหม่านไปหมด

    ‘ใครเป็นฝ่ายทักกันก่อนเล่า’ เกวลินขมวดคิ้วแล้วฉีกยิ้มทักทาย “ว่าไง”“ว่าไง?” เอมอรแอบเบ้ปากในใจ “ก็ไม่มีอะไร แค่จำได้ว่าเธอออกจากโรงเรียนกลางเทอมนี่ ได้ยินว่าท้องเลยหนีตามผู้ชายไป แล้วเป็นไงบ้างล่ะ ป่านนี้ลูกคนโตแล้วสินะ มีอะไรให้เพื่อนอย่างฉันช่วยก็บอกมาได้เลยนะ”แม้เอมอรไม่ได้ใช้น้ำเสียงดังอะไรนัก แต่ถ้อยคำของเธอทำให้คนที่ได้ยินถึงกับนิ่งไป นั้นหมายถึงคุณเกริกและคุณลาวัลย์ที่อดปรายตามองทางเกวลินไม่ได้ หญิงสาวสูดลมหายใจลึกอ้าปากจะโต้เถียงแต่กลับเป็นการันต์ที่ทนไม่ไหวชิงพูดออกไปก่อน“ท้องอะไร หนีตามผู้ชายอะไร” การันต์พูดเสียงดังอย่าไม่อายใครและไม่มีอะไรให้อายด้วย “ยัยกะทิออกจากโรงเรียนตอนม.5ก็จริง แต่เพราะมาดูแลแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่ก็ไปสอบกศน.จนได้วุฒิม.ปลายไง รู้จักไหม การศึกษานอกโรงเรียนนะ แล้วถ้ายัยกะทิเรียนไม่จบม.ปลายมันจะเอาวุฒิที่ไหนไปเรียนมหาวิทยาลัยจนได้เกียรตินิยมอันดับสองเล่า! คิดจะปั้นเรื่องใส่ความคนอื่นก็ช่วยให้มันใกล้เคียงกับความจริงหน่อยเซ่!”“ตะโก้!ใจเย็นๆ” วายุรั้งแขนการันต์ไว้เพราะกลัวว่าคนรักจะเข้าไปตบตีอีกฝ่าย ถึงยังไงคู่กรณีก็เป็นผู้หญิง ทำอะไรไปก็

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 23. พี่เป็นแค่หมอจนๆ  

    การันต์สบตากับวายุแล้วปลดหน้ากากอนามัยออก ทั้งที่เขาบอกกับวายุไม่ต้องมาช่วยก็ได้ แต่อีกฝ่ายก็เป็นห่วงน้องสาวของเขาที่ยังเจ็บขาอยู่จึงมาช่วยงาน ทำให้เขารู้สึกว่าตนเองคิดไม่ผิดที่พาวายุเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว วายุดึงปลดหน้ากากอนามัยออกแล้วเอียงตัวไปทางการันต์เล็กน้อย มองผิวเผินเหมือนเพื่อนถ่ายรูปคู่กัน มีเพียงแววตาที่มองกันนั้นแตกต่างจากคำว่า ‘เพื่อน’โอ๊ย! พี่ชายเธอตัวใหญ่ยักษ์แต่พี่วายุก็ไม่ได้ตัวเล็กแต่เพราะสูงโปร่งเลยดูบอบบางไปเลย เกวลินกดบันทึกภาพรัวๆ นานๆ จะมีรูปถ่ายคู่กันนอกบ้านที แอบดีใจที่พี่ชายได้เจอคนรู้ใจที่เข้าอกเข้าใจกันดี ชีวิตคนเราจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้ หญิงสาวแอบถอนหายใจ บางทีเธอก็คิดว่าตัวเองฝันไปที่ได้คบกับอิทธิพล เขาดูสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง จนบางทีเธอก็คิดว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะยืนเคียงข้าง แต่เพราะเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเขายามที่อยู่ด้วยกัน ทำให้เธอคิดได้ว่า...ขอแค่ทำให้เขามีความสุขแค่นี้ก็พอแล้ว“หนูกะทิอยู่นี่เอง”เสียงทักจากด้านหลังทำให้เกวลินหันไปส่งยิ้มพร้อมยกมือไหว้ทันที “สวัสดีค่ะคุณลาวัลย์ คุณเกริก”“เรียกเสียห่างเหินเชียว” คุณเกริกหัวเร

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 22. จะดีเหรอคะ

    “จะดีเหรอคะ นานๆ เลี้ยงทีก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเลี้ยงบ่อยนักหรอก เดี๋ยวกะทินิสัยเสียเอาแต่ใจตัวเองขึ้นมา พี่อิฐจะลำบากเอานะ” ตั้งแต่เคยมีแฟนมาก็มีคนนี้ที่บ่นว่าเขาเลี้ยงเธอบ่อยเกินไป อิทธิพลไม่รู้จะทำยังไงดี บางทีทำตัวก็เป็นเด็ก แต่บางครั้งก็เป็นคนมีเหตุผล “ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ พี่ชายกะทิบอกให้พี่ไปกินข้าวเย็นที่ร้านได้ กะทิจะได้ไม่ต้องออกมาส่งข้าวให้พี่กิน นี่พี่ก็ประหยัดมื้อเย็นไปอีกหนึ่งมื้อเชียวนะ” เกวลินคิดตามแล้วก็พยักหน้ารับ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่รู้ผิดว่าตัวเองเอาเปรียบเขามากไป “พี่ถามอะไรหน่อยสิ” “ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับพลางยกน้ำขึ้นดื่ม “พี่เห็นที่บ้านมีผู้ชายอีกคน ...คนนั้นใครเหรอ” “อ้อ!พี่วายุค่ะ” “แล้ว?” “เอ่อ...” เกวลินชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ใจหนึ่งก็กลัวว่าเขาจะรังเกียจที่พี่ชายเธอเป็นเกย์ แต่อีกใจก็ไม่รู้ว่าจะปิดบังทำไม พูดไปตรงๆ ดีกว่า “พี่วายุ...เป็นแฟนของพี่ตะโก้ค่ะ” “แฟน?” “อื้ม... ก็แฟนแบบเราสองคนนี้ไง”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status