Home / โรแมนติก / หมอขาอย่ากินดุ / chapter 1. ได้ยินว่า...

Share

หมอขาอย่ากินดุ
หมอขาอย่ากินดุ
Author: เพลงมีนา

chapter 1. ได้ยินว่า...

last update Last Updated: 2025-01-02 06:31:53

            “ได้ยินว่าหมออิฐอกหักอีกแล้ว”

            “พูดเป็นเล่น เห็นหวานออกสื่อขนาดนั้น”

            “ก็ไม่รู้สินะ แต่ที่แน่ๆ หมออิฐอัพเดทสถานะโสดแล้วจ้า”

            “แต่เหมือนได้ยินว่าหมออิฐก็เพิ่งอกหักไม่ใช่เหรอ”

            “สี่ปีอกหักสามหนเลยนะ ธรรมดาที่ไหน”

            “หมออิฐก็เป็นคนดีอยู่นะ ทำไมอกหักบ่อยจัง”

            “อยากรู้ก็ไปดามอกให้หมออิฐดูสิ”

            บทสนาของบรรดาพยาบาลสาวดึงดูดความสนใจของเกวลิน  เธอไม่ได้ชอบสนใจเรื่องของคนอื่น  แต่ที่สนใจก็เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ‘หมออิฐ’ หรือ ‘นายแพทย์อิทธิพล’  ผู้ชายที่เธอแอบรักข้างเดียวมานาน

            “อ้าว น้องกะทิมาส่งข้าวเองเลยเหรอ”  พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยทักเมื่อเห็นแม่ค้าหน้าหวานเข้ามาพร้อมถุงใส่กล่องอาหารนับสิบกล่อง

            “ค่ะ  วันนี้พี่ตะโก้ต้องเอารถไปซ่อมค่ะ”  หญิงสาวยิ้มกว้าง แม้มีหน้ากากอนามัยปิดครึ่งใบหน้าก็ตาม “มีน้ำใบเตยด้วยค่ะ อันนี้แถมฟรี”

            “น่ารักจังเลย ขอให้ขายดีนะจ๊ะ”  พยาบาลสาวรับถุงอาหารมาแล้วหยิบมือถือมาโอนค่าอาหารที่สั่งไว้

            “เอ่อ... หมออิฐกลับมาจากโรงพยาบาลสนามแล้วเหรอค่ะ”

            “อ้อ! ใช่จ๊ะ โรงพยาบาลสนามปิดแล้ว หมออิฐกลับมาประจำแผนกอายุรกรรม ลำบากกะทิแล้วนะ คนนี้กินยาก ถ้าวันไหนหมออิฐสั่งข้าวกล่อง พี่จะเขียนโน้ตไว้ให้เป็นพิเศษ”

            “ไม่ลำบากเลยค่ะ พี่ ๆ สั่งมาได้เลยค่ะ”

            หญิงสาวพยายามเก็บอาการตื่นเต้นดีใจไว้ใต้หน้ากากอนามัย แต่กระนั้น ดวงตากลมโตเป็นประกายรื่นเริง ‘หมออิฐกลับมาแล้ว’  เธอลอบมองไปด้านในของอาคารอีกครั้ง แม้ไม่เห็นอะไรเลย แต่หัวใจก็เต้นรัวด้วยความดีใจ

            เกวลินหมุนตัวเดินกลับมาที่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจซึ่งเวลานี้ด้านหลังดันแปลงให้วางลังพลาสติกใบใหญ่ใส่อาหารได้  เธอหยิบหมวกกันน็อคที่ห้อยอยู่มาสวมศีรษะแล้วขับรถออมาช้าๆ ด้วยความระมัดระวัง  เพราะต้องช่วย ‘การันต์หรือตะโก้’พี่ชายคนเดียวของเธอส่งอาหารตามในละแวกใกล้เคียง ถึงจะต้องฝ่าอากาศร้อน แต่หญิงสาวก็ไม่เคยบ่นเพราะเป็นกิจการของครอบครัว

            “ปั่นจักรยานได้ ขับรถยนต์เป็น มอเตอร์ไซค์ก็ไม่ยากหรอก”

            หญิงสาวนึกถึงตอนที่พี่ชายสอนเธอขับมอเตอร์ไซค์  จะว่าไปการันต์ไม่อยากให้เธอขับมอเตอร์ไซค์นักหรอก แต่เพราะความจำเป็น หลังจากแม่ตายจาก ก็เหลือกันเพียงสองคนพี่น้อง พี่ชายรับหน้าที่เป็นพ่อครัว ส่วนเธอประจำตำแหน่งแคชเชียร์  พี่ชายลองปรับปรุงร้านเป็น ร้านอาหารกึ่งผับ เพิ่มรายได้ด้วยการขายเครื่องดื่มยามค่ำคืน ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับดีที่เดียว ทุกอย่างมันเหมือนจะไปได้ดีแล้วแท้ๆ แต่สถานการณ์โควิด-19ทำให้ผับของการันต์ต้องปิดร้านอย่างไม่มีกำหนด มาตราการของรัฐไม่ได้ช่วยอะไรคนทำงานกลางคืนนัก ไม่ว่าจะนักร้องนักดนตรี พนักงานในร้าน การันต์พยายามเต็มที่แล้ว แต่ไม่อาจช่วยทุกคนหรือแม้แต่ตัวเองได้ เงินเก็บร่อยหรอลงไปที่ละน้อย เพราะต้องลดต้นทุนลง ทำให้เหลือแค่พนักงานในร้านอีกสองคน และเธอเองก็มาช่วยงานในร้านด้วยเช่นกัน

            “ขอโทษนะ พี่ทำให้เราลำบากแล้ว”

            “ลำบากอะไรคะ เราพี่น้องกันนะ ถ้ากะทิไม่มีพี่ตะโก้ดูแล กะทิจะเป็นยังไง” 

            เกวลินจำได้ว่าตัวเองหัวเราะเสียงใส เธอรู้ดีว่าสถานการณ์อย่างนี้สิ่งที่การันต์ตัดสินใจนั้นดีที่สุดแล้ว เธอเองเพิ่งเรียนจบยังไม่มีงานประจำทำ ตอนนี้ทำได้แค่ช่วยงานพี่ชายไปก่อน  พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่เธอยังเด็ก  เธอจำหน้าพ่อไม่ได้ด้วยซ้ำและแม่ก็ไม่เก็บรูปพ่อไว้ให้ดู  แต่เท่าที่พี่ชายเล่าให้ฟัง พ่อเป็นผู้ชายที่ไม่มีความเป็นพ่อเอาเสียเลย  คงเพราะแบบนี้ การันต์จึงดูแลเธอราวกับเป็นพ่อคนที่สอง ส่วนแม่ก็หาเลี้ยงลูกสองคนด้วยการทำข้าวราดแกงขาย แม่เป็นคนขยันอดออมจนเก็บเงินซื้อบ้านและตึกแถวทำร้านอาหารได้ ในวันที่แม่ไม่อยู่จึงเป็นสมบัติอันมีค่าที่แม่ทิ้งไว้ให้ลูกทั้งสองคนได้ตั้งตัวได้

            เกวลินขับมอเตอร์ไซค์กลับมาที่ร้านอาหารที่เคยเป็นผับของนักท่องราตรีมาก่อน  หญิงสาวจอดรถเรียบร้อยแล้วเดินเข้ามาในร้าน ด้านหน้ามีลูกค้ามารอซื้ออาหารกลับบ้านอยู่สามสี่คน  เธอล้างมือแล้วยื่นหน้าไปในครัว

            “มีอะไรให้กะทิช่วยไหมคะ”

            “มาพอดีเลย เอาใส่กล่องให้ลูกค้าหน่อย”  

            “ได้ค่ะ”

            เกวลินช่วยจัดอาหารใส่กล่องลงถุงแล้วหิ้วไปหน้าร้าน

            “กะเพรากุ้งกับข้าวผัดปูค่ะ”  เธอร้องบอกรายการอาหาร ลูกค้าที่สั่งไว้ยื่นมือมารับแล้วแสกนคิวอาร์โค้ดจ่ายเงินให้

            เดิมทีการันต์ก็ชอบทำอาหารอยู่แล้ว แต่เพราะต้องดูแลกิจการจึงไม่ได้เข้าครัวเอง แต่เขาอดสงสารน้องสาวไม่ได้ เธอควรใช้ชีวิตวัยรุ่นสนุกสนานกลับมาต้องช่วยงานในร้าน เขาอยากให้น้องเรียนต่อระดับปริญญาโท แต่การเงินที่ติดขัดแบบนี้ เขาไม่กล้ารับปากน้อง งานในร้านเบาบางลงแล้ว การันต์เช็ดมือแล้วเดินมารินน้ำดื่ม เกวลินกำลังทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำวัน  เขาเลิกคิ้วประหลาดใจที่ได้ยินเสียงน้องสาวกำลังร้องเพลงเบาๆ

            “อารมณ์ดีจัง”

            “อารมณ์ดีไม่ได้เหรอคะ”

            “ใครทำน้องสาวพี่อารมณ์ดีหนอ” เขาหยอกล้อแล้วลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ “มีหนุ่มมาจีบเหรอ”

            “กะทิอายุยี่สิบสองแล้วก็ให้มีคนมาจีบหน่อยเถอะค่ะ”  เธอหัวเราะไม่ได้จริงจังนัก “ชอบเวลานับเงินจังเลย”

            “ไม่เหนื่อยเหรอ ตากแดดตัวดำแล้ว”

            “ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะ”  เกวลินรู้ว่าพี่ชายเป็นห่วง “ขับรถไปใกล้ๆนี่เอง แล้วทุกคนในร้านก็ยุ่งด้วย เราจะจ่ายเงินจ้างไรเดอร์ทุกครั้งก็ไม่ไหวนะคะ ให้กะทิช่วยเถอะค่ะ อีกอย่างแค่โรงพยาบาลใกล้ๆ นี่เอง”

            “อ้อ...ที่อารมณ์ดีเพราะได้เจอหมออิฐละสิ”

            “พี่ตะโก้”   เกวลินแสร้งแยกเขี้ยวใส่กลบเกลือนอาการเขินอายของตนเอง

            “ยังแอบชอบหมออิฐอยู่อีกเหรอเนี้ย”

            “แอบรักค่ะไม่ใช่แอบชอบ”

            เกวลินทำเป็นไม่สนใจ พี่ชายแค่ยื่นขยี้ผมน้องสาวเล่น แล้วลุกขึ้นไปทำงานอื่น  หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ ก็แค่ ‘แอบรัก’ ก็เท่านั้น  เธอรู้จัก ‘หมออิฐ’ เพราะเขาเคยมาโรงเรียนในฐานะศิษย์เก่า มาพูดแนะนำเรื่องการสอบเข้าคณะแพทย์  สำหรับเกวลินที่ตอนนั้นเรียนอยู่แค่ ม.5รู้สึกประทับใจมาก จนแอบจดชื่อนามสกุลแล้วส่องตามโลกโซเซียล เธอไม่กล้าแสดงตัว ได้แต่แอบติดตามข่าวคราวของเขาเงียบๆ เธอไม่ใช่คนเรียนเก่ง แต่ก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐได้ เลือกเรียนคณะบริหารเพราะคิดว่าจบมาจะหางานทำได้ง่าย แต่ก็ดันมาเจอช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่เอาอย่างนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 27. จบ

    ไม่รู้ทำไม จู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว เธอที่เฝ้ามองเขาอยู่ไกลๆ ค่อยติดตามข่าวของเขาเสมอ แม้มีโอกาสได้ใกล้ชิดก็ไม่เคยแสดงความรู้สึกข้างในออกไป จนวันนี้...เขาอยู่ตรงหน้าและบอกรักเธอ “คนดี ร้องไห้ทำไมครับ” เขายิ้มแล้วจูบซับหยดน้ำตาให้ “ไม่รู้ค่ะ สงสัยไม่สบายแน่เลย” คราวนี้เกวลินหัวเราะทั้งน้ำตา จริงสินะ เวลาแบบนี้ต้องยิ้มดีใจต่างหากล่ะ “อื้ม...ไม่สบายเหรอ งั้นหมอตรวจให้นะครับ” เขายิ้มกรุ้มกริ่ม มือไม้เริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างที่โหยหาย “พี่อิฐ! คนกำลังซึ้ง” เธอตีมือเขาแต่กลับหัวเราะร่วนจนกระทั่งเขาอุ้มเธอมาที่เตียงเล็กของเธอเอง “ก็กะทิไม่สบาย พี่จะทำให้สบายตัวไงครับ” ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียติ่งหูทำให้หญิงสาวหลุดเสียงครางออกมา มือเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาแล้วกระซิบเสียงหวาน “กะทิรักพี่อิฐค่ะ” ชายหนุ่มตอบกลับด้วยภาษากาย เขาขยับเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าและนุ่มนวลจนคนใต้ร่างได้แต่ครวญครางเรียกร้องให้เขาเติมเต็มความปรารถนาที่เอ่อล้น สองร่างแนบชิดกลายเป็นหนึ่งผสานเสียงลมหายใจและหัวใจสองดวงเต้นไปพร

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 26.  รักนะครับ

    “อยู่บ้านคนเดียวล็อกบ้านดีๆ ล่ะ” การันต์ย้ำกับน้องสาว “ทำเหมือนจะไปหลายวัน” เกวลินแลบลิ้นใส่ “ไปเถอะค่ะ ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอไม่ดีนะคะ” การันต์พยักหน้าแล้วเดินไปที่รถพร้อมวายุ เกวลินรอจนรถออกไปแล้วจึงเดินเข้ามาในบ้าน เกวลินเดินไปหยิบน้ำผลไม้ในตู้เย็นรินใส่แก้ว ยังไม่ทันยกขึ้นดื่มก็ได้ยินเสียงกดออดที่หน้าบ้าน เธอวางแก้วลงแล้วเดินมาที่ประตู “ลืมอะไรหรือคะพี่ตะโก้” เธอถามทันทีที่เปิดประตูออก ทว่าคนตรงหน้ากลับไม่ใช่พี่ชายที่เธอเข้าใจผิดคิดว่าคงลืมของจึงกลับมา “ทำไมไม่ดูให้ดีก่อนเปิดประตู ถ้าเป็นโจรขึ้นมาจะทำยังไง” คนตัวสูงดุแล้วเดินเข้าไปราวกับเป็นบ้านของตัวเองเสียงล็อกประตูทำให้เกวลินได้สติ เธอไม่คิดว่าเขาจะมายืนตรงหน้าอย่างนี้ “พี่...พี่อิฐ” “ก็พี่ไง หรือรอใครอยู่” อิทธิพลขมวดคิ้วแล้วกวาดตามอง “ตะโก้กับวายุไม่อยู่เหรอ” “ค่ะ...ออกไปข้างนอก...” “ดี...พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” “เดี๋ยวนะคะ ขอกะทิทำใจก่อน” “ทำใจอะไร” อิทธิพลขมวดคิ้ว “พี่อิฐมาบอกเลิกกะท

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 25. พูดอะไรไม่ออก

    เกวลินโผล่หน้ามาดู แค่พี่ชายพยักหน้าให้เธอก็ผลุบกลับเข้าไปในครัว รินน้ำดื่มสองแก้วแล้วเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง แต่เธอคิดว่าคงไม่เหมาะจะนั่งฟังด้วยจึงหลบไปด้านหลัง ได้แต่ส่งยิ้มให้กำลังวายุที่ยืนหน้าซีดอยู่ และเป็นการันต์ที่กระตุกมือให้วายุนั่งลงข้างเขา “ลูก...ดูสบายดีนะ” คนเป็นแม่เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ผมสบายดี” วายุตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่สองมือบีบกันแน่น การได้พบแม่ไม่ได้ทำให้เขากังวลได้เท่ากับเห็นพ่อมาอยู่ตรงหน้าด้วย เขากลัวว่าพ่อจะทำร้ายคนที่บ้านนี้ ซึ่งเขาไม่ยอมให้มีเรื่องเลวร้ายอะไรเกิดขึ้นเด็ดขาด “พ่อรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่” “วันนี้พ่อเห็นแกไปออกบูธก็เลยให้คนตามดู” คนเป็นพ่อเอ่ยเสียงอ่อนล้า “ทำไมครับ อยากเห็นว่าผมจะใช้ชีวิตเหลวแหลกอย่างที่พ่อประณามไว้หรือเปล่านะเหรอ” น้ำเสียงวายุก็ปวดร้าวไม่แพ้กัน “เปล่าๆ....พ่อ...พ่ออยากให้แกกลับบ้าน” ถ้อยคำที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของคนตรงหน้าทำให้วายุนิ่งงันไป เขาย้ายสายตาไปมองมารดาที่หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตา “กลับบ้านเ

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 24. ทุกอย่างมันอลหม่านไปหมด

    ‘ใครเป็นฝ่ายทักกันก่อนเล่า’ เกวลินขมวดคิ้วแล้วฉีกยิ้มทักทาย “ว่าไง”“ว่าไง?” เอมอรแอบเบ้ปากในใจ “ก็ไม่มีอะไร แค่จำได้ว่าเธอออกจากโรงเรียนกลางเทอมนี่ ได้ยินว่าท้องเลยหนีตามผู้ชายไป แล้วเป็นไงบ้างล่ะ ป่านนี้ลูกคนโตแล้วสินะ มีอะไรให้เพื่อนอย่างฉันช่วยก็บอกมาได้เลยนะ”แม้เอมอรไม่ได้ใช้น้ำเสียงดังอะไรนัก แต่ถ้อยคำของเธอทำให้คนที่ได้ยินถึงกับนิ่งไป นั้นหมายถึงคุณเกริกและคุณลาวัลย์ที่อดปรายตามองทางเกวลินไม่ได้ หญิงสาวสูดลมหายใจลึกอ้าปากจะโต้เถียงแต่กลับเป็นการันต์ที่ทนไม่ไหวชิงพูดออกไปก่อน“ท้องอะไร หนีตามผู้ชายอะไร” การันต์พูดเสียงดังอย่าไม่อายใครและไม่มีอะไรให้อายด้วย “ยัยกะทิออกจากโรงเรียนตอนม.5ก็จริง แต่เพราะมาดูแลแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่ก็ไปสอบกศน.จนได้วุฒิม.ปลายไง รู้จักไหม การศึกษานอกโรงเรียนนะ แล้วถ้ายัยกะทิเรียนไม่จบม.ปลายมันจะเอาวุฒิที่ไหนไปเรียนมหาวิทยาลัยจนได้เกียรตินิยมอันดับสองเล่า! คิดจะปั้นเรื่องใส่ความคนอื่นก็ช่วยให้มันใกล้เคียงกับความจริงหน่อยเซ่!”“ตะโก้!ใจเย็นๆ” วายุรั้งแขนการันต์ไว้เพราะกลัวว่าคนรักจะเข้าไปตบตีอีกฝ่าย ถึงยังไงคู่กรณีก็เป็นผู้หญิง ทำอะไรไปก็

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 23. พี่เป็นแค่หมอจนๆ  

    การันต์สบตากับวายุแล้วปลดหน้ากากอนามัยออก ทั้งที่เขาบอกกับวายุไม่ต้องมาช่วยก็ได้ แต่อีกฝ่ายก็เป็นห่วงน้องสาวของเขาที่ยังเจ็บขาอยู่จึงมาช่วยงาน ทำให้เขารู้สึกว่าตนเองคิดไม่ผิดที่พาวายุเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว วายุดึงปลดหน้ากากอนามัยออกแล้วเอียงตัวไปทางการันต์เล็กน้อย มองผิวเผินเหมือนเพื่อนถ่ายรูปคู่กัน มีเพียงแววตาที่มองกันนั้นแตกต่างจากคำว่า ‘เพื่อน’โอ๊ย! พี่ชายเธอตัวใหญ่ยักษ์แต่พี่วายุก็ไม่ได้ตัวเล็กแต่เพราะสูงโปร่งเลยดูบอบบางไปเลย เกวลินกดบันทึกภาพรัวๆ นานๆ จะมีรูปถ่ายคู่กันนอกบ้านที แอบดีใจที่พี่ชายได้เจอคนรู้ใจที่เข้าอกเข้าใจกันดี ชีวิตคนเราจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้ หญิงสาวแอบถอนหายใจ บางทีเธอก็คิดว่าตัวเองฝันไปที่ได้คบกับอิทธิพล เขาดูสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง จนบางทีเธอก็คิดว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะยืนเคียงข้าง แต่เพราะเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเขายามที่อยู่ด้วยกัน ทำให้เธอคิดได้ว่า...ขอแค่ทำให้เขามีความสุขแค่นี้ก็พอแล้ว“หนูกะทิอยู่นี่เอง”เสียงทักจากด้านหลังทำให้เกวลินหันไปส่งยิ้มพร้อมยกมือไหว้ทันที “สวัสดีค่ะคุณลาวัลย์ คุณเกริก”“เรียกเสียห่างเหินเชียว” คุณเกริกหัวเร

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 22. จะดีเหรอคะ

    “จะดีเหรอคะ นานๆ เลี้ยงทีก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเลี้ยงบ่อยนักหรอก เดี๋ยวกะทินิสัยเสียเอาแต่ใจตัวเองขึ้นมา พี่อิฐจะลำบากเอานะ” ตั้งแต่เคยมีแฟนมาก็มีคนนี้ที่บ่นว่าเขาเลี้ยงเธอบ่อยเกินไป อิทธิพลไม่รู้จะทำยังไงดี บางทีทำตัวก็เป็นเด็ก แต่บางครั้งก็เป็นคนมีเหตุผล “ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ พี่ชายกะทิบอกให้พี่ไปกินข้าวเย็นที่ร้านได้ กะทิจะได้ไม่ต้องออกมาส่งข้าวให้พี่กิน นี่พี่ก็ประหยัดมื้อเย็นไปอีกหนึ่งมื้อเชียวนะ” เกวลินคิดตามแล้วก็พยักหน้ารับ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่รู้ผิดว่าตัวเองเอาเปรียบเขามากไป “พี่ถามอะไรหน่อยสิ” “ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับพลางยกน้ำขึ้นดื่ม “พี่เห็นที่บ้านมีผู้ชายอีกคน ...คนนั้นใครเหรอ” “อ้อ!พี่วายุค่ะ” “แล้ว?” “เอ่อ...” เกวลินชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ใจหนึ่งก็กลัวว่าเขาจะรังเกียจที่พี่ชายเธอเป็นเกย์ แต่อีกใจก็ไม่รู้ว่าจะปิดบังทำไม พูดไปตรงๆ ดีกว่า “พี่วายุ...เป็นแฟนของพี่ตะโก้ค่ะ” “แฟน?” “อื้ม... ก็แฟนแบบเราสองคนนี้ไง”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status