EP.9
(Well Part)
“พี่เวลล์ พี่ตื่นเดี๋ยวนี้นะ” ผมที่กำลังนอนพักอยู่ในห้องพักหมอของโรงพยาบาล สะดุ้งตื่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เสียงที่คุ้นหูอย่างดี คนที่กล้าจะเข้าห้องผมมาปลุกถึงที่ นอกจากพ่อแม่ผมแล้ว ก็มีแค่น้องสาวจอมดื้อตัวดีของผมเท่านั้นแหละ แน่นอนว่าหากทำเมินเชย น้องสาวผมได้คว้าหมอนมาทุบตีผมแน่นอน
“มีอะไร ว่างมากรึไงมากวนพี่” ผมขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะมองไปยังต้นเสียง ใบหน้าน้องสาวผมยู่ยี่อย่างไม่พอใจ แต่จู่ ๆ น้ำตาก็ไหลอาบแก้มของเธอ ผมตกใจไม่น้อย ไม่เคยเห็นเธองอแงแบบนี้มาก่อน คนเอาแต่ใจอย่างน้องผมปกติมีแต่คนตามใจจนไม่เคยร้องไห้สักครั้ง
“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”
“พี่ลืมไปแล้วรึไงที่วีโทรมาหาพี่อ่ะ”
“....” ผมนิ่งอึ้ง นี่ผมลืมไปได้ไง
“พะ...พี่ อีอนเอ็บเอาะอั้น”
“ตั้งสติก่อนแล้วบอกพี่ดีๆ” น้องผมเอามือปาดน้ำตา และสูดหายใจเข้าลึกๆ
“พี่เวลล์ เมื่อกี้มีคนจะวิ่งมาแทงฉัน”
“อะไรนะ!!!”
ผมได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นทันที
“มันเป็นใคร แจ้งตำรวจรึยัง บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า”ผมจับตัวเธอหมุนซ้ายหมุนขวา มองน้องสาวด้วยใบหน้าเคร่งเครียด จนน้องสาวผมเอามือสองมือจับแขนผมไว้ก่อนจะนั่งกดผมให้นั่งลง
“หนูปลอดภัยดีค่ะพี่ มีรุ่นพี่คนหนึ่งช่วยวีไว้ และก็จับตัวคนร้ายไปแล้วค่ะ แต่...”
“แต่อะไร”
“พี่เขาโดนแทง ขะ..เขาโดนแทงเพราะหนู เป็นเพราะหนูเรียกเขาลงมาช่วยขนของแท้ๆ ฮือ.... วีรู้สึกผิดมากๆ ค่ะ” น้องผมปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง ผมที่เห็นสภาพน้องก็รู้สึกปวดใจ ตอนนี้ก็ทำได้แค่เอื้อมมือดึงน้องเข้ามากอดปลอบ
“แล้วตอนนี้ คนนั้นเขาเป็นยังไงบ้างถึงมือหมอแล้วใช่ไหม”
“คุณหมอพัฒน์รักษาให้แล้วค่ะ เย็บไปหลายเข็มเลย ตอนนี้แอดมิดที่โรงพยาบาลของเรานี่แหละค่ะ”
“ดีแล้ว”
“พี่...พี่ต้องคอยช่วยดูแลเขาแทนหนูด้วยนะคะ”
“เขาอยู่ที่โรงพยาบาลเรา ยังไงก็ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุดอยู่แล้วไม่ต้องห่วง”
“ไม่ค่ะยังไม่พอ คนนี้พี่ต้องดูแลเป็นพิเศษนะ วีชอบพี่เขามากจริงๆ”
“ชอบ...” ผมตกใจ น้องสาวผมที่แสนจะหยิ่งผยอง ตีตราคนอื่นแทบเป็นมูลค่า เอาแต่ใจสุดๆ คนนี้ถึงกับพูดว่าชอบคนอื่นออกจากปาก
“แฟน?” ผมเอ่ยถามตรงๆ ด้วยความสงสัย ถ้าเป็นแฟนน้องผมจริงๆ ผมก็ต้องสแกนก่อน
“มะ..ไม่ใช่แฟนค่ะ ชอบแบบว่าอยากเป็นเหมือนเขาน่ะ ไม่พูดแล้วพี่ต้องดูแลเขาแทนหนูที่โรงพยาบาลด้วย เขาคือผู้มีพระคุณของวี”
“โอเค รับปาก งั้นตอนนี้น้องสาวพี่ กลับไปพักผ่อนก่อนไหมครับ ส่วนคนป่วยให้หมอที่นี่จัดการเอง”
“ไม่ใช่หมอที่นี่ค่ะ ต้องเป็นพี่เท่านั้น คนอื่นวีไม่ไว้ใจ”
“พี่ก็พี่ ถ้าเรากลับพี่จะไปดูเขาให้ทันที”
“ขอบคุณค่ะพี่ งั้นหนูกลับก่อนนะคะ ตอนนี้เหนื่อยเหลือเกิน”
“ให้คนขับรถไปส่งนะอย่าขับเอง”
“อื้อไม่ขับหรอกค่ะ เพราะยังไงรถวีก็ไม่ได้อยู่ที่นี่อยู่แล้ว” ผมเดินลงไปส่งน้องผมด้านล่าง ก่อนจะกลับมาคว้าชุดกาวน์สวมทับ ในเมื่อผมรับปากน้องสาวผมแล้วผมก็ต้องแวะเข้าไปดูหน่อย
ผมมุ่งไปยังห้องหมอพัฒน์ ซึ่งเป็นหมอที่อยู่เวรคืนนี้ เพื่อถามอาการ จึงได้รู้ว่า ผู้ช่วยชีวิตน้องสาวผมนั้นเป็นผู้หญิงและได้รับบาดเจ็บแผลลึกบริเวณแขนซ้าย เห็นว่าเย็บไปหลายสิบเข็ม ซมด้วยพิษไข้จากการบาดเจ็บแผล ก็สมควรที่น้องผมจะซาบซึ้งใจ คงเป็นผู้หญิงที่แกร่งพอดู
ผมเคาะประตูไปสองสามที แต่ก็ไม่มีเสียงเอื้อนเอ่ยออกมา อาจจะนอนพักไปแล้ว จึงถือวิสาสะเปิดประตูแง้มดูในฐานะนักเรียนแพทย์ของที่นี่ ภายในห้องปรากฏร่างหญิงสาวนอนนิ่งใบหน้าขาวซีด แต่ก็ยังคงสวยสะดุดตา และเป็นใบหน้าที่ผมจดจำได้ดี
“แจน” ผมเดินเข้าไปมองใกล้ๆ เพื่อยืนยันความคิดของตน แน่นอนว่าหญิงสาวคนนี้คือแจนจริงๆ ผมนั่งลงข้างๆ เตียงผู้ป่วย มองคนนอนแน่นิ่งไม่ขยับอย่างพิจารณา หลังจากแยกย้ายคืนก่อนหน้า เป็นเธอเองที่พูดออกมาว่าเจอกันคราวหน้าอย่าทักทายกัน ซึ่งนั่นก็เป็นข้อตกลงระหว่างเรา แต่พอเอาเข้าจริงๆ ผมลืมเรื่องนั้นไม่ลงเลย กว่าจะสะบัดใบหน้าของเธอในหัวสมองได้ก็ใช้เวลาไปค่อนวัน และตอนนี้เธอก็มาปรากฏต่อหน้าอีกครั้ง ทำเอาเรื่องเหล่านั้นมันหวนกลับมาอีก หรือผมจะกลายเป็นพวกเสพติดร่างกายเธอไปแล้วเสียจริงๆ
(Well Part End)
ฉันนอนหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้ แต่ตอนนี้ หูฉันเริ่มได้ยินเสียงดังกึกก้องของเพื่อนสนิทฉันแล้วหนึ่ง
“แจน.. แจนตื่นแล้วกุ้ก”
เปลือกตาของฉันค่อยๆ กะพริบช้าๆ ก่อนจะปลายตามองพวกมันสองคน คนหนึ่งโวยวายฟังไม่ได้ศัพท์ อีกคนนั่งปอกผลไม้เงียบๆ
“เงียบหน่อยมึง นี่โรงพยาบาลนะ” ฉันเอ่ยเบาๆ
“ใครใช้ให้มึงทำตัวให้พวกกูเป็นห่วงกันล่ะ” ยัยมีนน่ามุ้ยหันไปนั่งลงโซฟาข้างๆ ยัยกุ้ก
“กินผลไม้หน่อยไหม แจน” กุ้กเอ่ยถามก่อนจะหยิบจานผลไม้ที่ปอกแล้วมาวางไว้โต๊ะข้างเตียง
“อืม ทานสิ” ฉันตอบรับก่อนจะกินผลไม้ที่ยัยกุ้กป้อน
“ยังเจ็บอยู่ไหมมึง ตอนพี่แม็กทักไลน์มาหา ฉันตกใจหมดทำตัวไม่ถูกเลย ชีวิตแกนี่วนเวียนกับเรื่องคอขาดบาดตายชะมัด”
“ยังปวดอยู่ แล้วเรื่องที่เกิดไม่ได้เกี่ยวกับงานทางบ้านฉัน แต่เอาเถอะเรื่องนี้ฉันจัดการไปหมดแล้วไม่ต้องห่วง”
“เห็นสภาพตอนนี้ของมึง กูก็สบายใจมาหน่อยแล้วล่ะ ดีไม่โดนแทงตรงจุดสำคัญ”
“อย่างกูไม่ตายง่ายๆ หรอกมีน”
“ปากดีนะคะคุณมึง เจ็บแล้วไม่เจียม ยัยกุ้กดูมันพูดดิ” ยัยมีนหันไปฟ้องกุ้ก
“ใจเย็นๆ ทั้งสองคน ตอนนี้มีนปลอดภัยก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว คราวหน้าแจนเอง แกก็ต้องระวังนะ ฉันรู้ว่าแกเก่งแต่บางเรื่องแกก็ต้องคิดว่าแกก็ผู้หญิงตัวเล็กๆ”
“อืม รู้น่ะคราวหน้าจะไม่ประมาท”
ฝากนิยายเรื่องนี้ของไรต์ กะหล่ำหมีด้วยค่ะ
แสงแดดยามเย็นเริ่มทอแสงสาดส่องเข้ามา ฉันกับพี่เวลล์กำลังนั่งทานอาหารว่างกันอยู่ริมทะเล บรรยากาศดีสุด ๆ“ทานแตงโมหน่อยไหมครับ”“ค่ะ” ฉันยิ้มตอบเขา“ม่ะ...พี่ป้อน” เขาจิ้มแตงโมที่หวานฉ่ำนั้นป้อนให้ ฉันโน้มตัวเข้าไปกินอย่างมีความสุข “อร่อยไหมครับ”“อร่อยค่ะ แจนชอบแตงโม”“แล้วพี่ล่ะ แจนชอบไหม”“เอ๊ะ มันวกมาเวนี้ได้ยังไงกันคะพี่ ไม่ชอบค่ะ แต่รักเลย ฮี่...” เอ่ยจบเขายื่นมือมาบีบแก้มฉันด้วยความหมั่นเขี้ยว จากนั้นเขาก็ยังเอาแต่ป้อนผลไม้ให้ฉันทาน ถามว่าฉันกินไหม ก็กินสิผู้ชายหล่อป้อนทั้งที“แจนครับพอดีพี่มีประชุมด่วนของโรงพยาบาล พี่ขอตัววิดิโอคอลที่ประชุมสักครู่นะครับ”“ได้สิคะ งั้นแจนขอลงไปเล่นน้ำหน่อยนะคะ อยากเอาตัวจุ่มน้ำแล้ว”“ระวังด้วยนะครับ อย่างลงไปเล่นน้ำลึกมากล่ะ”“ค่ะพี่ แจนจะอยู่ใกล้ๆ นี่แหละค่ะ” เขาสวมผ้าคลุมที่เตรียมไว้พร้อมหยิบไอแพดปลีกตัวไปนั่งเก้าอี้ชายหาดใส่หูฟังพร้อมประชุม สีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจังและตึงเครียดมากขึ้นก็จริงล่ะนะ ถึงแม้เราจะมาพักผ่อน แต่งานก็ต้องดำเนินต่อไป จริงๆ แล้วฉันก็มีงานที่ต้องสะสาง แต่เพราะมีพ่อ มีพี่ทิม มีแฟรงค์ จึงสามารถวางใจได้ แต่พี่เวลล์เขาเป็นหมอ
ณ.ห้องครัวพี่เวลล์เข้าครัวทำกับข้าวให้ฉันตามที่ฉันร้องขอว่าอยากกิน กลิ่นผัดกะเพราไข่เยี่ยวม้าหอมฉุนไปทั่วบ้านพัก ทำเอาฉันสูดฟึดฟัด เพราะกลิ่นมันหอมจนอดไม่ไหว“หอมมาก อยากทานแล้วค่ะ” ฉันเดินเข้าไปสวมกอดเขาจากด้านหลัง ในขณะที่เขากำลังจัดเตรียมอาหารเหล่านั้นวางบนโต๊ะอาหาร"งั้นก็รอทานให้อร่อยนะพี่ตั้งใจทำให้แจนเป็นพิเศษเลยนะครับ"“ค่ะ..^^”ฉันนั่งรอที่โต๊ะอาหาร พร้อมแล้วกับการทานข้าวมื้อพิเศษที่เขามอบให้ อาหารง่ายๆ อย่างโจ๊กและผัดกะเพราไข่เยี่ยวม้า แบบพิเศษใส่ใจ“เสร็จแล้วครับ”“อื้อหื้อ น่าทานมาก ๆ ค่ะ จะทานแล้วนะคะ” ฉันที่ตั้งท่าจะทานแล้วนั้น ดันโดนพี่เวลล์ห้ามไว้ก่อน“เดี๋ยวสิครับ ล้างมือรึยัง ก่อนทานล้างมือก่อนครับ”“ก็ได้ค่ะ” ฉันทำหน้ามุ่ย แต่ก็ลุกไปล้างมือแต่โดยดี พอล้างเสร็จก็กลับมานั่งที่เดิม โดยที่พี่เวลล์เองก็เข้ามานั่งร่วมโต๊ะอาหารแล้ว“ทานเยอะๆ นะครับ” เขาไม่ใช่แค่พูด แต่ตักอาหารมาใส่จานให้ฉันด้วย ทั้งการกระทำและคำพูดเขาอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก นอกจากพ่อ ก็เขานี่แหละที่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจได้จริงๆ“พี่เองก็ทานเยอะๆ นะคะ”“ครับ” ฉันยิ้มให้เขา เขาก็ยิ้มให้ฉัน เราต่างก็ทานอาหา
12.00 น.ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความปวดเมื่อยไปทั้งร่างกายอยู่บนเตียงฟูกนุ่มแล้ว และกำลังนอนกอดกันตัวเป็นเกลียวกับคนข้างๆ ที่ฉันรักมาก ร่างกายเรายังเปลือยเปล่าล่อนจ้อน เพราะกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเสพสุขกันไปกี่ยก แต่ที่แน่ ๆ ระเบียงนั่น ฉันวนไปทุกมุม ขนมาทุกท่า แถมพี่เวลล์ตัวดีดันแข็งแรงทั้งร่างกายและน้องชายเขาก็ตื่นไม่พัก จึงต้องเป็นฉันที่ทนรับอยู่ร่ำในคืนที่ผ่านมาอย่างหนักหน่วงเขายังนอนหลับสนิท สองมือเขากอดฉันแน่น ส่วนใบหน้าฉันก็แนบชิดกับแผงอกของเขา ฉันเงยหน้ามองเขา ดูสิตอนนอนก็ยังหล่อเลย ขนตายาวงอน ริมฝีปากได้รูป จมูกโด่งสันทัดผิวขาวเปล่งปลั่ง สันกรามที่บาดคม เฮ้อหล่อจนร้องขอชีวิตนั่นและ เป็นบุญของฉันที่ได้มีโอกาสมารักเขาจริง ๆดวงตาเขาค่อย ๆ เปิดออกหลุบมองฉัน เขาค่อย ๆ ฉีกยิ้มก่อนจะออกแรงแขนรัดฉันแน่นขึ้น“แจนทำให้พี่เวลล์ตื่นเหรอคะ”“ป่าวหรอกครับ ความรักต่างหากที่ทำให้พี่ตื่น”“ดีนะ แจนยังไม่ได้ทานข้าวไม่งั้นมีอ้วกแน่ๆค่ะ” สิ้นคำฉัน เขายิ้มมองฉันก่อนจะลูบหัวเบาๆ ก้มหอมฟอดใหญ่ๆ บนหัวฉัน“ทนนะ หลังจากนี้จะได้ยินแบบนี้บ่อยขึ้น เพราะพี่คลั่งรักแจนไม่ไหว”“กลัวแล้ววววววว
“ขี้โกงจังนะครับ ทำไมเสร็จไปก่อนพี่แล้วล่ะ” เขากอดฉันแน่นอีกครั้ง“ก็เป็นเพราะใครล่ะ โดนขนาดนี้ใครจะทนไหวคะ”“พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ” ฉันเอียงคอแหงนมองคนด้านหลังก่อนจะทำหน้ามุ่ยใส่ เขายิ้มมุมปากยักคิ้วให้ฉัน พลางก้มหน้าลงมาจุ๊บฉันหนึ่งที“ให้ตายเถอะ บอกอย่าเล่นกับระบบ พี่ก็เหมือนกันนั่นแหละ แจนไม่ยอมโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวหรอก” ฉันลุกขึ้นหันหน้าไปเผชิญกับเขาที่นั่งอยู่ ผลักไหล่เขาให้ลงนอนราบบนโซฟาใหญ่นี้ พลางมองต่ำตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะคว่ำนั่งบนลำตัวของเขา ก็รู้แหละว่าตรงนั้นของเขามันแข็งขื่นขนาดไหนเพราะระหว่างขาฉันที่กำลังทับมันอยู่สัมผัสได้ ทำเอาตื่นเต้นชะมัดเป็นฉันบ้างที่เลียริมฝีปาก ทอดสายมองเขาอย่างยิ้มร้าย โน้มตัวลงเอาหน้าเกยไหล่เขาสองมือซุกซนสอดเข้าใต้เสื้อเพื่อสัมผัสผิวเขา มันแน่นมือถนัด ซิกแพคเป็นลอนที่จับก็รับรู้ได้ความแข็งแกร่งของหน้าท้องนั่น ทำเอาอยากเห็นด้วยตาเปล่าเสียตอนนี้“อื้ม...” เสียงครางเล็กๆ เมื่อมือฉันสัมผัสเข้ากับหัวนมของเขา มะ...ไม่ไหวแล้ว เสียงกับร่างกายของเขานี่มันทำเอาฉันคลั่งแทบบ้าเหมือนกันฉันทนไม่ไหวอีกต่อไป ถกเสื้อเขาไปกองไว้เหนืออก เผยให้เห็นแผง
เขายังคงวุ่นอยู่กับการจูบฉันอยู่แบบนั้นไม่มีท่าทีว่าจะคลายจูบเสียที ลมหายใจเขารดถี่ขึ้น ร้อนขึ้น พอๆ กับสัมผัสริมฝีปากของเขาที่พยายามบดเบียดรุกเข้ามาในโพรงปากฉัน ฉันก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรปล่อยให้เขาทำตามใจ“อึก...โอ๊ย!!” พี่เวลล์กับฉันกำลังพรมจูบกันเข้าด้ายเข้าเข็ม แต่จู่ ๆ เป็นฉันเองที่ต้องผลักเขาออก“เป็นอะไรไปครับ” พี่เวลล์ประคองใบหน้าฉันมองหน้าด้วยความตกใจ“ขะ...ขาฉันค่ะ”“ขาเป็นอะไรครับ”“พี่ทับขาฉันค่ะ ฉันเจ็บ” สิ้นคำ เขาเหลือบไปมองดูแล้วก็เป็นให้เขาเห็น ก็ขาแกร่งของเขาทับขาเรียวเล็กของฉันจริง ๆ ไม่เจ็บได้ไง โซฟามันเล็กนิดเดียวนะเขาลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะยกขาฉันก่ายตักเขามานวดให้ฉัน อย่างแผ่วเบา“พี่ขอโทษครับพี่ไม่ได้ตั้งใจ”“ไม่เป็นไรค่ะ โซฟามันแคบ” ฉันยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วยกขาที่ก่ายตักเขาออกวางลงปกติ“นั่นสิเนอะ ถ้าเป็นที่โล่งๆ คงจะดีกว่าใช่ไหมครับ”“ใช่ค่ะ...แต่เอ๊ะ ที่โล่งๆ ว๊าย!!!” พี่เวลล์ยกฉันพาดบ่าโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัวเลยสักนิด“พะ...พี่จะยกแจนไปไหนเนี่ยตกใจหมดเลย”“ก็ไปหาที่โล่งๆ ต่อไงล่ะ”“หมายถึงห้องนอนเหรอคะ”“ก็ใช่ แต่...หึ” เพราะฉันถูกพาดบ่าไว้ ทำให้มองไม่เห็นใบหน
เรากลับมาถึงบ้านพักของเรา เมื่อกำลังจะเดินเข้าบ้านฉันกลับหยุดเดินและฉุดรั้งเขาไว้ ฉันหันหน้ามองออกไปยังผืนทะเลตรงหน้าบ้านที่กำลังทอประกายด้วยแสงจันทร์ค่ำคืนนี้ พลางสูดอากาศเข้าไปเต็มปอดก่อนจะหันไปมองเขา“เป็นอะไรไปรึเปล่าครับ”“พี่คะ พี่รู้สึกยังไงบ้าง พี่อึดอัดใจรึเปล่าที่พี่เห็นฉันเป็นแบบนี้ ฉันรู้ว่าพี่เกลียดมาเฟีย ตอนนี้พี่กำลังข่มใจไว้ใช่ไหมคะ พี่ฝืนอยู่ใช่ไหม พี่กำลัง.......” ฉันพล่ามสาธยายไม่รู้จบ ฉันแค่รู้สึกกลัว กลัวว่าเขาจะไม่โอเค กับสิ่งที่ฉันเป็น และสิ่งที่ฉันกระทำ ฉันพะวงมันมาตลอด แต่ฉันก็อดไม่ได้เพราะฉันเป็นคนแบบนี้ มันแบบกระวนกระวายใจจนแทบบ้า อดีตมันยังคอยย้ำเตือนเสมอเขาไม่ปล่อยให้ฉันพูดจบ แต่เดินเข้าสวมกอดฉันแน่น จับศีรษะฉันแนบกับอกของเขาไว้ ลูบอย่างแผ่วเบา“พี่ไม่เป็นอะไรเลย สิ่งที่พี่เห็นยิ่งทำให้เข้าใจมุมแจนมากขึ้น เป็นพี่ที่คิดมากไปเอง พี่ผิดที่เอาอดีตที่เจอมาตัดสินจนทำให้รักของเราเคยล่มไปแบบนั้น”“พี่ไม่เกลียดฉันแล้วใช่ไหมคะ ที่ฉันเป็นมาเฟีย”“ไม่เลยครับ แล้วแจนล่ะครับ ยังโกรธพี่อยู่ไหม” เขาดันฉันออกจับไหล่ฉันทั้งสองข้าง สายตาก้มมองฉันด้วยความอ่อนโยน ฉันมองเขาด้ว