“อย่านะไมเคิล ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
“ฉันว่าเธอเก็บเสียงของเธอไว้ครางดีกว่านะเดซี่”
หญิงสาวยังตะโกนไม่ยอมหยุดจนไมเคิลต้องถอดปลอกหมอนแล้วเอามายัดปากเพราะเสียงของเธอกำลังจะทำให้เขาหมดอารมณ์
เดนิสาดิ้นขลุกขลักและพยายามเบี่ยงหน้าหลบเมื่อไมเคิลโน้มตัวลงมา ริมฝีปากของเขาเลยจูบลงไปบนหมอนแทนที่จะเป็นแก้มเนียนสวยของลูกเลี้ยง
“อย่าทำเป็นเก่งหน่อยเลย ฉันรับรองได้เลยว่าถ้าได้เป็นเมียฉันแล้วเธอจะติดใจ”
ไมเคิลพูดแล้วยิ้มอย่างผู้ชนะ เขาก็ดึงเสื้อของเธอขึ้นไปกองบนเนินอก แววตาที่มองร่างของลูกเลี้ยงเต็มไปด้วยความต้องการ
เดนิสาเห็นแล้วตัวสั่นเทาเธอไม่รู้เลยว่าจากนี้จะสู้หน้ากับคนอื่นได้ยังไง เมื่อตนเองมีสามีคนเดียวกับแม่ผู้ให้กำเนิด
ใบหน้าของพ่อเลี้ยงขยับเข้ามาใกล้ใบหน้าของอีกครั้ง เขาใช้มือบีบปลายคางของหญิงสาวไว้แล้วประกบริมฝีปากลงมาบนริมฝีปากอวบอิ่มของเธออย่างจาบจ้วง เดนิสาพยายามสะบัดหน้าหนี น้ำตาเธอไหลพรากเมื่อคิดว่าตนเองจะต้องเป็นของผู้ชายคนนี้แล้วจริงๆ
“ปล่อยเดซี่เดี๋ยวนี้นะไมเคิล”
เสียงตะโกนห้ามทำไมเคิลปล่อยมือออกจากคางของลูกแล้วหันกลับไปมอง เขาตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นว่าตอนนี้ภรรยามองด้วยสายตาที่โมโหสุดขีด
“ฉันบอกให้ปล่อยลูกสาวฉันเดี๋ยวนี้” สุนิสาย้ำอีกครั้งและนั่นทำให้ไมเคิลมีดึงสติของตัวเองกลับมา เขาทรุดลงที่ปลายเตียงอย่างคนพ่ายแพ้
“เดซี่หนูเป็นยังไงบ้าง มันทำอะไรลูกบ้าง” สุนิสารีบวิ่งเข้ามาดูอาการของลูกสาวที่ร้องไห้และสั่นไปทั้งตัวด้วยความกลัวอย่างสุดขีด
เธอค่อยๆ แก้มัดที่ข้อมือออกและดึงปลอกหมอนออกจากปาก
“แม่ไมค์บ้าไปแล้ว ไมค์จะข่มขืนหนู เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ” เดนนิสาฟ้องมารดาขณะที่มารดาของเธอกอดไว้แน่นด้วยความห่วงใย
“หนูไม่เป็นอะไรใช่ไหม มันยังไม่ทำอะไรหนูใช่ไหม”
“ไม่ค่ะ แต่หนูกลัวไมค์เปลี่ยนไปไมค์ไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว” เดนิสาร้องไห้อย่างหนักสุนิสาเองก็ทั้งสงสารและเห็นใจลูกสาวที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้
“หนูไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหมไปหาหมอไหม ไปแจ้งความไหม”
“แม่ขาหนูกลัว”
“เราต้องไปแจ้งความนะเดซี่”
“ถ้าเราแจ้งความไมค์ก็จะต้องถูกจับใช่ไหมคะแม่”
“ใช้สิ เขาทำผิดเขาก็ต้องถูกจับ”
“สุ เดซี่ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว” ไมเคิลพูดกับสองแม่ลูกเขากลัวความผิด กลัวว่าสุนิสาจะแจ้งความและมีอีกสิ่งหนึ่งที่เขากลัวมากที่สุดก็คือกลัวสุนิสาจะไม่รักเขาอย่างเดิม เขาคงอยู่ไม่ได้ถ้าชีวิตนี้ไม่มีสุนิสา
“แต่คุณทำผิดนะไมเคิล”
“ผมขอโทษ ผมกินเหล้ามากไปหน่อย ผมสัญญาจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก"
“แล้วถ้าวันไหนคุณกินเหล้าอีกคุณจะไม่ทำแบบนี้กับลูกฉันเหรอ”
“เดซี่ฉันขอโทษ ฉันจะไม่ทำแบบนี้กับเธออีก” ไมเคิลมองหน้าลูกเลี้ยงด้วยความสำนึกผิด
เดนิสารู้ว่าเขาดื่มไปมากจึงเป็นแบบนี้แต่เธอก็กลัวเกินกว่าจะอยู่ใกล้กับเขาตอนนี้เธอไม่กล้าจะมองหน้าของเขาเลยด้วยซ้ำ
“คุณออกไปก่อนนะไมค์ ฉันขอคุยกับลูกของฉันตามลำพัง”
“เดซี่ฉันขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ แต่เธอก็เห็นว่าวันนี้ฉันเมามาก”
“หนูไม่อยากคุยกับคุณแล้วไมค์คุณออกไปจากห้องหนูเดี๋ยวนี้” เดนิสาตะโกนลั่น
เมื่อไมเคิลออกไปจากห้องแล้วสุนิสาก็สำรวจร่างกายของลูกสาวอีกครั้ง
“หนูเจ็บตรงไหนบ้าง มันทำอะไรหนูหรือเปล่า” เธอถามอีกครั้งด้วยความห่วงใย
“ก็อย่างที่แม่เห็นเขามัดข้อมือหนูไว้เขาถอดเสื้อหนูออกแล้วแม่ก็กลับมาพอดี” หลังจากรับสายจากไมเคิลแล้วสุนิสาก็ขอตัวตัวกลับเพราะรู้สึกว่าไมเคิลกำลังเมาและเธอกลัวว่าเขาจะหกล้มเหมือนครั้งก่อนแต่ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอเขากำลังจะทำร้ายลูกสาวของตนเองแบบนี้
“เขายังไม่ได้ทำอะไรแน่นะลูก”
“แม่คะเราจะเอายังไงกันต่อ”
“เราจะต้องแจ้งความ”
“ถ้าแจ้งความเขาก็จะต้องถูกจับใช่ไหมคะ”
“เขาทำผิดเขาก็ควรได้รับความผิดแล้วแม่ล่ะคะ แม่จะทนเห็นเขาอยู่ในคุกได้เหรอ”
“แม่รักหนูมากกว่าใครทั้งหมด เขาทำผิดกับหนูมากแม่ยอมให้เขาลอยนวลไปไม่ได้หรอกนะ”
“แม่คะ หนูกลัว”
“ถ้าเขาเข้าคุกหนูก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว”
“แต่แม่คิดว่าคนอย่างไมค์จะยอมอยู่ในคุกนานๆ เหรอคะหนูกลัวว่าถ้าเขาออกจากคุกแล้วเขาจะมาแก้แค้นที่หนูอีก”
“แล้วหนูจะปล่อยให้เขาไปแบบนี้เหรอ”
“หนูไม่รู้ค่ะแม่หนูสับสน หนูรู้ว่าแม่กับไมค์รักกันมาก”
“ใช่จ้ะ แม่รักเขามากแต่แม่ก็รักหนูมากที่สุดเหมือนกันนะเดซี่ เอาล่ะคืนนี้ดึกแล้วแม่ว่าหนูนอนดีกว่านะพรุ่งนี้เราค่อยคุยกัน”
“แม่นอนกับหนูได้ไหมคะ”
“ได้สิลูก แม่ขอตัวไปอาบน้ำแล้วแม่จะกลับมา”
ตลอดทั้งคืนเดนิสาก็นอนไม่หลับเธอตื่นขึ้นมากรีดร้องกลางดึกจนมารดาต้องกอดไว้แน่น พอรุ่งเช้าสุนิสาก็ถามลูกสาวอีกครั้งว่าจะแจ้งความจับไมเคิลขึ้นหรือเปล่า
เดนิสาที่นอนคิดมาทั้งคืน เธอรู้ว่าสิ่งที่ไมเคิลทำมันผิดแต่ก็รู้อีกว่ามารดาของตนรักไมเคิลมากเพราะตอนที่บิดาของเธอเสียชีวิตใหม่ๆ ก็ได้เขาคอยช่วยเหลือประคับประคองจนสามารถตั้งตัวได้
“แม่ขาหนูไม่อยากอยู่ที่นี่”
“ถ้าหนูไม่อยู่ที่นี่แม่ก็จะไม่อยู่เหมือนกันจ้ะ เราจะย้ายไปอยู่ที่อื่นกันนะ”
“หนูไม่ได้หมายความแบบนั้น”
“แล้วหนูหมายความว่ายังไง”
“หนูอยากกลับไปอยู่กับคุณยายค่ะ”
“แต่หนูยังต้องเรียนนะเดซี่”
“แม่ช่วยทำเรื่องให้หนูย้ายกลับไปเรียนที่เมืองไทยได้ไหม”
“ได้สิ เราจะกลับไปเมืองไทยด้วยกันนะเดซี่”
“หนูจะให้แม่อยู่กับไมค์ที่นี่”
“หมายความว่ายังไงเดซี่”
“แม่คะ หนูรู้นะคะว่าแม่รักไมค์ เขาดีกับเรามากแต่เรื่องนี้หนูทำใจไม่ได้ถ้าจะต้องอยู่ร่วมบ้านกับไมค์”
“หนูจะทิ้งแม่ไว้ที่นี่เหรอ”
“หนูไม่ได้ทิ้งแม่นะคะ แต่หนูอยากให้แม่ใช้ชีวิตกลับไมค์อย่างมีความสุข” เดซี่คิดมาแล้วทั้งคืนจึงพูดออกไปแบบนี้
“แล้วหนูล่ะลูกทำไมหนูต้องเสียสละแบบนี้”
“หนูไม่ได้เสียสละอะไร หนูแค่จะกลับไปอยู่กับยาย หนูอยากลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี่”
“หนูคิดดีแล้วใช่ไหม”
“หนูคิดดีแล้วค่ะ หนูรักแม่นะคะ”
“แม่ก็รักหนูและไม่อยากแยกกับหนู”
“หนูรู้ค่ะแม่ ถึงจะอยู่ห่างกันก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่รักกันนี่คะ หนูอยากให้แม่เข้าใจหนู”
“แม่เข้าใจแต่แม่คงคิดถึงหนูมาก เราไม่เคยห่างกันเลยนะ”
“หนูก็คงคิดถึงแม่เหมือนกันค่ะ”
เมื่อตัดสินใจได้แล้วสุนิสาก็คุยกับไมเคิลถึงเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งชายหนุ่มเองก็มีท่าทีรู้สึกผิดอยู่มาก
“เดซี่ผมขอโทษ ขอโทษจริงๆ นะ” ไมเคิลขอโทษเดนิสาอีกครั้ง
หญิงสาวได้แต่ยิ้มแห้งๆ และยังไม่กล้ามองหน้าของไมเคิลอย่างเคย เธอกลัวที่จะอยู่ใกล้ๆ เขา
ระหว่างรอทำเรื่องที่มหาวิทยาลัยเดนิสากับมารดาก็ย้ายออกไปอยู่ที่โรงแรมเพราะหญิงสาวยังหวาดระแวงเวลาอยู่ใกล้ๆ กับไมเคิล
เดนิสากลายเป็นคนเก็บตัวและหวาดผวาทุกครั้งเวลาที่ได้ยินเสียงผู้ชาย สุนิสาพาลูกสาวไปปรึกษากับจิตแพทย์ซึ่งเขาก็เห็นด้วยที่เดนิสาจะย้ายกลับมาอยู่ที่เมืองไทย ระหว่างนี้หญิงสาวต้องรับประทานยาคลาดเครียดเพื่อช่วยให้ผ่อนคลายและนอนหลับ
เดนิสาตื่นเต้นที่ได้กลับมายังประเทศอังกฤษถึงแม้ว่าจะเคยอยู่ที่นี่มานานกว่า 15 ปี แต่การกลับมาครั้งนี้ก็อาจจะต่างจากทุกครั้งหญิงสาวมีติณณภพเดินจะเข้ามาในบ้านหลังเล็กที่ครั้งหนึ่งเดนิสาเคยกลัวและไม่คิดจะกลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย “มือเย็นเชียวกลัวเหรอเดซี่”“นิดหน่อยค่ะ” เดนิสาตอบพลางพยักหน้าเพราะตั้งแต่เกิดเรื่องเธอกับไมเคิลก็ยังไม่เคยเจอกันเลย ผ่านมาเกือบจะครึ่งปีแล้วแต่ความทรงจำก็ยังชัดเจน“อาหมอคะ หนูคิดว่าลืมทุกอย่างได้แล้วแต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย พอกลับมาสถานที่เดิมหนูก็ยังคิดถึงเรื่องเดิมอีก” เดนิสาพูดเสียงสั่น“เดซี่หนูไม่ต้องกลัวนะ อาอยู่กับหนูตลอดเราจะผ่านมันไปด้วยกันนะ อาจะคุยกับแม่ของเดซี่จากนั้นเราจะรับกลับ”“หนูไม่รู้ว่าวันนี้เขาจะอยู่บ้านหรือเปล่า”พอทั้งสองเดินผ่านประตูบ้านเข้าไปมารดาของหญิงสาวเห็นก็รีบเข้ามากอดลูกสาวด้วยความดีใจ“เดซี่”“แม่ชา หนูคิดถึงแม่ค่ะ” เดนิสาร้องไห้และกอดมารดาแน่นกว่าทั้งสองจะผละออกจากกันก็นานพอสมควร“หนูสบายดีไหม”“สบายดีค่ะ แม่ล่ะคะผอมไปหรือเปล่า”“ช่วงนี้แม่ออกกำลังกายทุกวันจ้ะลูก”“แม่คะหนูลืมแนะนำเลยค่ะคนนี้อาหมอติณณ์ค่ะ”“สวัสดีครับคุณน้า”“ส
เดนิสาอยู่ร่วมงานปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำจนถึงเที่ยงคืนก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเมามาก เธอคิดว่าคงวดื่มต่ออีกไม่ไหวหญิงสาวจึงไลน์บอกให้ติณณภพมารับหน้าบ้านพัก“ดื่มไปเยอะเหรอเดซี่หน้าแดงหมดแล้ว”“ค่ะ แต่หนูยังไม่เมานะคะหนูยังเดินตรงและก็ยังจำได้ว่าอาหมอเป็นแฟนของหนู เดนิสาเดินเซจนชายหนุ่มต้องช่วยประคองกลับมาจนถึงบ้านพักของเขา“นั่งรอตรงนี้นะคนเก่งเดี๋ยวอาไปหาผ้าเย็นๆ มาเช็ดตัวให้”“ค่าอาหมอ” เดนิสารับคำขณะที่มองแผ่นหลังของชายหนุ่มด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักติณณภพกับมาพร้อมด้วยผ้าขนหนูและกะละมังใบเล็กก่อนจะเช็ดไปตามซอกคอและลำตัวของเธออย่างแผ่วเบาหลังจากเช็ดตัวจนเสร็จเขาก็เอากะละมังไปเก็บในห้องครัวโดยมีเดนิสาเดินตามหลังมาด้วย เขาเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำดื่มส่งให้เธอ“ขอบคุณนะคะอาหมอ”“ดีขึ้นไหม ปวดหัวไหม”“ค่ะอาหมอ หนูไม่มามากขนาดนั้นหรอกค่ะก็แค่มึนๆ เองค่ะ”“งั้นไปนอนนะพรุ่งนี้จะได้มีแรงเที่ยว” “หนูยังไม่ง่วงเลย อาหมอง่วงหรือยังคะ”“อานอนมาทั้งวันแล้ว ไม่ง่วงเลยสักนิด” ติณณภพเดินเข้ามาจนชิดและกอดเธอไว้อย่างหลวมๆ สายตาที่เขาจ้องลงมานั้นทำให้เดนิสาขนลุกไปทั้งตัว เพราะในแววตาของคุณหมอ
เมื่อวางสายจากคนรักแล้วเดนิสาก็ไปกระซิบบอกอรอินทร์ว่าติณณภพตามมาหาและเธอจะออกไปค้างกับเขาที่บ้านพักและจะรีบกลับมาในตอนเช้า“แล้วเดซี่ไม่ไปเที่ยวกับอาหมอเหรอ”“แต่เราอยากเที่ยวกับเพื่อนด้วยอาหมอก็ไม่ว่าอะไร คืนนี้อิ๊นซ์นอนคนเดียวได้แน่นะ”“คนเดียวที่ไหนล่ะยังมียายปลาอีกคนที่พักห้องเดียวกับเรา ถ้ายัยปลาถามเดซี่จะให้เราบอกไปตามตรงไหม แต่เราว่าไม่ต้องห่วงหรอกเพราะดูแล้วยายปลาน่าจะเมาจนไม่รู้เรื่องแล้ว”“ไหนว่าคืนนี้จะไม่กินเหล้ากัน”“ตอนแรกก็ตกลงกันแบบนั้นแหละ แต่ก็ไม่มีใครทนได้พวกนั้นล่ะกินเหล้าเก่งจะตาย”“แล้วอิ๊นซ์ล่ะ”“ไม่ต้องห่วงเลยเราโตมากับพี่ชายนะเรื่องกินเหล้าแค่นี้เราสบายมาก เดซี่รีบไปเถอะเดี๋ยวอาหมอจะรอนาน”“พรุ่งนี้เข้าเจอกันนะ”“อือ”เดนิสาเดินผ่านกลุ่มเพื่อนมายังหน้าบ้านซึ่งไม่มีใครสนใจใครเพราะทุกคนกำละสนุกกับกิจกรรมตรงหน้าเมื่อเดินออกมากก็เห็นติณณภพมายืนรออยู่แล้ว“คิดถึงอาหมอจังเลยค่ะ” เดนิสาเข้าไปกอดโดยไม่สนใจว่าจะมีใครเห็นเพราะตรงนั้นมืดมาก“อาก็คิดถึงเดซี่” ติณณภพดึงคนรักมากอดแล้วหอมไปยังไรผมด้วยความคิดถึง“ขับรถมาเหนื่อยไหมคะ”“ก็มีบ้าง”“อาหมอถึงกี่โมงคะ” หญิงสาวชวนค
ก่อนสอบปลายภาคเดนิสาและติณณภพไม่ได้เจอกันเลย หญิงสาวขออ่านหนังสืออยู่ที่บ้านของตนเองขณะที่ติณณภพก็รับขึ้นเวรมาขึ้น เขารับทั้งเวรออกตรวจและเวรที่ปรึกษาซึ่งบางครั้งก็มีเคสคลอดด่วนที่เขาต้องไปทำคลอดในเวลากลางคืน ที่เขาทำแบบนี้เพื่อตนเองจะได้ไปเที่ยวกับเดนิสาอย่างสบายใจเพราะเพื่อนหมอก็จะมาออกตรวจแทนตนเองในช่วงนั้นด้วย แต่ก็มีอีกเหตุผลหนึ่งคือเขาไม่อยากอยู่ว่างเนื่องจากปกติแล้ววันเสาร์และวันอาทิตย์เดนิสาจะมาขลุกอยู่ที่บ้านของเขาตลอด แต่พอเธอไม่อยู่ติณณภพก็รู้สึกเหงาวันนี้เป็นการสอบวันสุดท้ายของเดนิสาหญิงสาวโทรศัพท์มาบอกติณณภพว่าตนเองสอบเสร็จแล้วและกำลังจะเดินทางไปเที่ยวหัวหินกับเพื่อนๆ“เดินทางปลอดภัยนะเดซี่”“ขอบคุณค่ะ เราเจอกันกันอีกทีเย็นวันอาทิตย์นะคะ”“อีกตั้งหลายวันเลยนะ”“สามวันเองค่ะ”“เฮ้อ ไม่อยากให้ไปเลย”“หนูชวนอาหมอแล้วอาหมอไม่มาเอง”“อาอยากให้หนูใช้ชีวิตกับเพื่อนให้เต็มที่สนุกให้เต็มที่ เพราะเราย้อนเวลากลับมาได้”“ค่ะ หนูจะใช้ชีวิตวัยรุ่นให้สนุกเต็มที่เลยค่ะ หนูจะขึ้นรถแล้วนะคะ อาหมอตั้งใจทำงานนะคะถ้าถึงแล้วหนูจะไลน์บอก”“ได้จ้ะ ดูแลตัวเองด้วยนะเดซี่ แล้วก็อย่าลืมทาครีมกันแดด
ระหว่างรอให้ถึงเวลาที่หนังจะฉายเดนิสากับติณณภพก็ไปทานอาหารกลางวันและดินเล่นเพื่อฆ่าเวลาขณะที่เดินผ่านร้านขายยาเดนิสาก็หยุดเดินและดึงแขนติณณภพไว้“มีอะไรหรือเปล่าเดซี่”“หนูจะซื้อยาแต้มสิวค่ะ”“หนูไม่มีสิวนี่เดซี่จะซื้อไปทำไม” เขามองหน้าเนียนใสของคนรักที่ไม่มีสิวเลยสักเม็ด“โมเดลฝากซื้อค่ะ”“อาหมอรออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ”“เข้าไปด้วยกันก็ได้” ติณณภพเดินตามหญิงสาวเข้ามาในร้านขายยาที่อยู่ในห้างสรรพค้าเดนิสาได้ยาแต้มสิวแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมออกจากร้าน หญิงสาวเดินวนไปมาจนติณณภพสงสัย“เดซี่จะซื้อย่างอื่นเพิ่มใช่ไหม”“ใช่ค่ะ อาหมอออกไปก่อนได้ไหมคะ”“ของที่หนูจะซื้อเป็นความลับเหรอ”“เป็นความลับของเพื่อน”“อาไปรอข้างนอกก็ได้” ติณณภพคิดว่าเธอคงจะอึดอัดถ้าเขายืนอยู่ด้วย“อาหมอคะ” เดนิสารั้งแขนเขาไว้ขณะที่เขากำลังจะเดินออกไปนอกร้าน“มีอะไรครับเดซี่ หน้าดูไม่ดีเลยหรือว่ามไม่สบายหรือปวดท้องเมนยังไม่หาย” เขาถามคนรักด้วยความเป็นห่วง“เปล่าค่ะ หนูหายเป็นเมนตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่หนูมีของอยากซื้อแต่หนูไม่กล้าซื้อ”“จะซื้ออะไรเดี๋ยวอาซื้อให้”“อาหมอสัญญาก่อนว่าจะไม่บอกใคร” “อาสัญญา” “เพื่อ
หลังจะขออนุญาตคุณยายราตรีแล้วติณณภพก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก ช่วงนี้เขาพยายามรีบเคลียร์งานและออกตรวจแทนเพื่อนๆ หมอให้มากที่สุดเพื่อจะได้เพิ่มวันหยุดของตัวเองให้มากขึ้น เขาวางแผนจะพาเดนิสาไปเจอกับมารดาของเธอที่อังกฤษ และอาจจะเที่ยวที่นั่นต่ออีกหลายวัน ก่อนจะกลับมาทำงานระหว่างนี้เดนิสาก็ขับรถไปเรียนเอง ทำให้ติณณภพไม่ค่อยเป็นห่วงมากเท่าไหร่ในทุกเย็นเขาเลิกงานที่โรงพยาบาลแล้วก็จะโทรหาหญิงสาวจากนั้นก็ไปออกตรวจที่คลินิกของเพื่อน จะกลับมาถึงบ้านอีกทีก็สองทุ่มครึ่ง จึงไม่ค่อยได้เจอเดนิสาเท่าไหร่แต่ทั้งสองก็ยังโทรศัพท์หากันทุกวันจนกระทั่งถึงวันเสาร์ซึ่งปกติแล้วเดนิสาจะต้องมาที่บ้านของชายหนุ่มหลังจากทานอาหารกลางวันแต่วันนี้หญิงสาวรีบมาตั้งแต่เช้าเพราะเธออยากจะเจอกับเขามาก“สวัสดีค่ะ อาหมอทำอะไรอยู่คะ”“อารดน้ำต้นไม้ใกล้จะเสร็จแล้วเข้ามาก่อนสิ” ติณณภพรีบไปเปิดประตูให้คนรัก“หนูไม่กวนอาหมอใช่ไหม”“ไม่เลย เดซี่มีอะไรหรือเปล่าวันนี้ถึงมาแต่เช้า”“หนูมีเรื่องจะคุยกับอาหมอนิดหน่อย”“เรื่องอะไรล่ะ ไปคุยกันในบ้านนะ” ติณรภพจับมือคนรักแล้วพากันเดินเข้ามายังห้องรับแขก“หนูลืมบอกอาหมอว่าหลังสอบเสร็จหนูจะไปเที