ตอนที่ 3 ความจริงเปิดเผย
สามวันถัดมา
สไมล์ปรากฏตัวที่คลินิกของเวย์อีกครั้งเมื่อครบกำหนดที่เธอเคยให้ไว้กับเวย์ว่าจะกลับมาเอาคำตอบและคำขอโทษจากเจ้าของคลินิก
สไมล์ขับรถสปอร์ตยี่ห้อปอร์เช่สีขาวคันโปรดมาโดยลำพังไร้ผู้จัดการส่วนตัวเหมือนอย่างเช่นทุกครั้งที่เคยมา ร่างระหงดูสง่างามเดินเข้ามาในคลินิกด้วยความมั่นใจเต็มร้อยว่าจะต้องได้รับคำขอโทษและความรับผิดชอบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ฉันมาขอพบคุณหมอเวย์ค่ะ”
“คุณสไมล์ได้นัดไว้ไหมคะ พอดีวันนี้คุณหมอไม่ได้เข้าคลินิกค่ะ”
“ไม่ได้นัดอย่างเป็นทางการ แต่ครั้งก่อนฉันได้แจ้งเขาไว้แล้วค่ะว่าฉันจะมาหาเขาอีกครั้งวันนี้” สไมล์แจ้งเจ้าหน้าที่ไปตามความจริงและเดินดุ่ม ๆ เข้าไปนั่งรอในห้องทำงานส่วนตัวของคุณหมอหนุ่มท่ามกลางสายตาและความตกใจของพนักงานทั้งคลินิก เมื่อไม่สามารถต้านทานดาราสาวได้ พนักงานหญิงวัยสามสิบต้น ๆ รีบยกหูโทรศัพท์ต่อสายหาคุณหมอเจ้าของคลินิกทันที และแจ้งว่าดาราสาวมารอพบและตอนนี้เธอนั่งรออยู่ในห้องทำงานส่วนตัวของคุณหมอ
ทางด้านเวย์
ครืด ครืด ครืด โทรศัพท์เครื่องที่ใช้ติดต่องานดังขึ้นขณะที่ชายหนุ่มกำลังนั่งหารือเกี่ยวกับคนไข้เคสพิเศษกับภีร์และภาคย์
“กูขอรับโทรศัพท์แป๊บหนึ่ง” ร่างสูงลุกจากเก้าอี้เดินแยกตัวออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอกไม่นานก็เดินกลับเข้ามา
ใบหน้าคมเข้มเดินกลับมาสีหน้าเคร่งเครียด คิ้วคมเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปม
“มีอะไรเวย์”
“ที่คลินิกมีเรื่องนิดหน่อย”
“งั้นมึงก็รีบไปจัดการเถอะ” ภาคย์พูดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของเพื่อน
“คุยงานต่อเถอะ เดี๋ยวค่อยจัดการทีหลัง” แม้ตอนนี้ในใจจะเริ่มเป็นห่วงที่คลินิกว่าพนักงานของเขาจะรับมือกับดาราสาวไม่ไหว แต่ความรับผิดชอบงานตรงหน้าร่วมกับเพื่อนยังเป็นสิ่งที่เวย์ให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรก
ทางด้านสไมล์
“คุณหมอจะเข้ามาคลินิกกี่โมงคะ” สไมล์เอ่ยถามเจ้าหน้าที่ที่ยกน้ำและของว่างเข้ามาต้อนรับเธอ
“คุณหมอติดธุระด่วนอยู่ค่ะ คุณหมอแจ้งว่าถ้าเสร็จแล้วจะรีบมาค่ะ” พนักงานแจ้งไปตามความจริงเหมือนอย่างที่คุณหมอหนุ่มบอก
“ฉันขอคุยกับเขาได้ไหมคะ”
“เอ่อ..มันจะดีเหรอคะ” เมื่อได้ยินสิ่งที่ดาราสาวร้องขอพนักงานสาวจึงรู้สึกเป็นกังวลและลำบากใจ
“กดเบอร์เขาให้ฉันที” โทรศัพท์เครื่องหรูถูกยื่นไปตรงหน้าพนักงานสาว แม้จะยังไม่ทันได้ตัดสินใจว่าจะทำตามที่สไมล์ขอได้หรือไม่ แต่โทรศัพท์ที่ถูกยื่นมาตรงหน้าก็เป็นการกดดันให้พนักงานต้องทำตามที่หญิงสาวบอก
โรงพยาบาล
ครืด ครืด ครืด โทรศัพท์เวย์ดังขึ้นอีกครั้งและยังคงดังต่อเนื่อง แต่เบอร์ที่โทรเข้ามานั้นไม่ใช่เบอร์ของพนักงานที่คลินิกแต่เป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก ชายหนุ่มลังเลที่จะรับสายเพราะยังคุยงานกับเพื่อนไม่เสร็จแต่เนื่องจากเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นต่อเนื่องจากเบอร์ที่ไม่รู้จักนั้นหลายรอบ ทำให้เวย์ต้องกดรับสาย
“สวัสดีครับ”
“นี่คุณ ฉันมารอคุณเป็นชั่วโมงแล้วนะเมื่อไหร่คุณจะมา คุณนี่เป็นหมอที่ใช้ไม่ได้เลยนะไม่เคยรักษาเวลาเลย” ทันทีที่อีกฝ่ายกดรับสายสไมล์ก็รัวคำถามใส่น้ำเสียงไม่พอใจ
“ผมติดธุระสำคัญอยู่ที่โรงพยาบาล อีกครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวผมเข้าไป แล้วอีกอย่างคุณก็ไม่ได้แจ้งผมว่าคุณจะมาหาผมและผมไม่ได้มีงานที่คลินิกที่เดียวนะครับ งานที่โรงพยาบาลผมก็ต้องรับผิดชอบ” น้ำเสียงนิ่งตอบกลับทันทีเมื่อรู้ว่าเป็นใครโทรมา
“แต่วันนั้นฉันแจ้งคุณชัดเจนแล้วนี่ว่าฉันจะเข้ามาเอาคำตอบกับคุณวันนี้ อย่าบอกนะว่าคุณตั้งใจจะหลบหน้าฉัน”
“ครับแจ้งแล้วว่าวันนี้ แต่วันนี้คือถึงเที่ยงคืนคุณไม่ได้ระบุเวลาและอีกอย่างผมไม่จำเป็นต้องหลบหน้าคุณเพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด”
“นี่คุณจะกวนฉันเหรอ” สไมล์เริ่มโมโหที่ถูกอีกฝ่ายพูดจาเหมือนยียวน
“เปล่าครับคุณสไมล์ผมแค่จะบอกคุณว่า ถ้าขืนคุณยังโวยวายไม่หยุดผมอาจจะเคลียร์ธุระเสร็จช้าเพราะต้องเสียเวลานั่งอธิบายให้คุณเข้าใจอยู่แบบนี้ เพราะฉะนั้นนั่งดื่มน้ำเย็น ๆ รอไปก่อนครับอีกครึ่งชั่วโมงผมจะเข้าไป” จากนั้นคุณหมอหนุ่มก็กดตัดสายทันทีพร้อมกับถอนหายใจเสียงดังจนภีร์ที่นั่งฟังเพื่อนมาตั้งแต่ต้นอดสงสัยไม่ได้จึงถามขึ้น
“ใครโทรตามยิก ๆ ลูกค้าที่คลินิกเหรอวะ” ภีร์ถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เปล่า” เวย์ตอบสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์
“แต่เอ๊ะ! สไมล์ สไมล์ที่เป็นดาราเหรอวะ” ภีร์ถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่คลินิกเพื่อนตนนั้นล้วนแต่เป็นดาราดังและเซเลบแถวหน้าของเมืองไทยทั้งนั้น
“เลิกสนใจเรื่องของกู แล้วสนใจเคสของมึงดีกว่าไหม” เวย์พูดสวนตัดบททันทีจนภีร์ที่อ้าปากจะถามต่อต้องหุบและเงียบปากลง
“ไอ้ห่า แอบเก็บไว้กินคนเดียวระวังท้องเสียเอานะโว้ยไม่แบ่งเพื่อนฝูง” ภีร์ยังไม่ยอมแพ้พูดใส่เวย์ด้วยท่าทางหมั่นไส้
“มึงจะเลิกสนใจเรื่องไอ้เวย์แล้วมาสนใจเคสของมึงได้ยัง ถ้ายังกูจะกลับไปทำงานของกู” เป็นภาคย์ที่ทนไม่ไหวพูดขึ้นสีหน้าจริงจังจนสามารถเรียกสติของภีร์กลับมาสนใจเคสตรงหน้าได้ สามหมอหนุ่มจึงกลับมาสู่โหมดจริงจังอีกครั้งแล้วร่วมระดมสมองในการหารือเกี่ยวกับปัญหาเคสคนไข้ของภีร์ ทั้งสามหนุ่มงัดความรู้และประสบการณ์ที่มีมาคุยกันพร้อมดูแฟ้มเคสคนไข้ของภีร์อย่างตั้งใจ
เวย์เสร็จงานที่โรงพยาบาลก็รีบตรงดิ่งมาที่คลินิกทันที จะเรียกว่าเสร็จก็ไม่ได้ต้องเรียกว่าปลีกตัวออกมาซะมากกว่า ใช้เวลาเดินทางแค่ยี่สิบนาทีก็มาถึงคลินิก
“รออยู่ข้างในค่ะคุณหมอ” พนักงานของคลินิกรีบบอกทันทีที่ร่างสูงของเวย์ก้าวเข้ามาในคลินิกด้วยอาการหอบนิด ๆ จากความเร่งรีบ เวย์พยักหน้ารับรู้ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้งแล้วเดินเข้าไปยังห้องทำงานของตนเอง
“กว่าจะมาได้นะคะ หวังว่าที่บอกติดงานที่โรงพยาบาลจะไม่ใช่ข้ออ้างในการหลบไปเตรียมตัวที่จะให้คำตอบกับฉันหรอกนะคะ” สไมล์ที่นั่งไขว่ห้างรอชายหนุ่มเอ่ยขึ้นแบบคนหาเรื่องทันทีที่ร่างสูงเดินเข้ามา เวย์เพียงแต่ชายตามองหญิงสาวที่นั่งอยู่ในห้องทำงานตนเล็กน้อยก่อนจะเดินเลยไปนั่งยังโต๊ะทำงานของตนเอง
“ผมไม่จำเป็นต้องหลบอะไรเพราะผมไม่ได้ผิดอะไร” เวย์ตอบกลับหญิงสาวอย่างใจเย็นโดยไม่มีท่าทีหวั่นเกรงกับความผิดที่อีกฝ่ายพยายามยัดเยียดให้ตั้งแต่เมื่อสามวันก่อนแม้แต่น้อย
“มั่นใจจังเลยนะคะว่าไม่ผิด แล้วไหนล่ะคะหลักฐานที่จะยืนยันว่าลูกน้องของคุณไม่ได้เป็นคนปล่อยภาพของฉัน”
“ดูคุณมั่นใจจังเลยนะครับว่าภาพของคุณถูกปล่อยจากฝีมือพนักงานของผม”
“ไม่ใช่มั่นใจแต่ฉันแน่ใจว่ามันต้องใช่ ถ้าไม่ใช่พนักงานของคุณแล้วจะมาจากใคร คุณก็เห็นข่าวไม่ใช่เหรอว่าภาพมันถูกถ่ายมาจากในคลินิก นี่ฉันแทบจะออกไปไหนไม่ได้เพราะไม่อยากต้องมาคอยตอบคำถามนักข่าวเพราะรูปบ้า ๆ จากคลินิกคุณ”
“ไม่อยากออกไปไหนแต่คุณก็มาหาผมได้ ไม่กลัวว่าจะมีใครจำคุณได้หรือไง ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องของดาราเลยไม่เคยรู้ว่าดาราคนไหนมีข่าวอะไรรวมถึงเรื่องของคุณด้วย เพราะฉะนั้นผมจึงไม่รู้ว่าตอนนี้โลกโซเชียลข่าวคุณจะดังแค่ไหน” เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องทำงานแล้วเวย์พูดยาวที่สุดและเป็นคำพูดที่ทำเอาคนที่ฟังแทบอยากกรี๊ดออกมาดัง ๆ
“นี่คุณ!!” สไมล์เรียกเวย์ท่าทางไม่พอใจแต่หมอหนุ่มไม่ได้สนใจเพราะกำลังเปิดกล้องวงจรปิดย้อนหลังในวันเกิดเหตุบนหน้าจอคอมพิวเตอร์โต๊ะทำงานของตนเองเพื่อให้หญิงสาวดู
“เชิญมาดูตรงนี้ครับ” เวย์เรียกสไมล์ให้ดูกล้องวงจรปิดที่ในวันที่หญิงสาวมาใช้บริการด้วยน้ำเสียงราบเรียบ คอมพิวเตอร์ที่หน้าจอกำลังรันภาพเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุฉายชัดให้สไมล์ได้ดู หญิงสาวหันไปมองหมอหนุ่มแวบเดียวก่อนจะนั่งมองหน้าจออย่างตั้งใจ จนเมื่อกล้องบันทึกมาถึงช่วงที่หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นญาติของคนไข้ที่มาใช้บริการในวันเดียวกับสไมล์ยกกล้องมือถือขึ้นมาแอบถ่ายดาราสาวระหว่างที่เดินเข้ามาใช้บริการของทางคลินิก สไมล์ตัวแข็งทื่อเมื่อดูมาถึงตรงนี้เพราะมุมกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ไว้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ารูปที่ถูกถ่ายไปลงโซเชียลเป็นมุมที่ถ่ายมาจากจุดที่ญาติคนไข้ที่เป็นตัวต้นเหตุนั่งอยู่
“ภาพจากกล้องวงจรปิดที่คุณดูตอนนี้พอจะเป็นหลักฐานได้หรือเปล่า ทีนี้คุณคงจะเลิกยัดเยียดความผิดให้พนักงานของผมได้สักทีนะครับ” เวย์มองมาที่สไมล์ด้วยสายตาที่นิ่งพร้อมน้ำเสียงและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สไมล์ที่รู้สึกหน้าแตกยังคงนั่งนิ่งเพราะไม่รู้จะพูดอะไรกับหลักฐานที่เวย์นำมายืนยันความบริสุทธิ์ของพนักงาน
“ฉันก็ไม่ได้จะยัดเยียดความผิดอะไรให้พนักงานคุณนี่คะฉันแค่บอกว่าจะมาเอาคำตอบ แล้วถ้าหากว่าคนทำเป็นพนักงานของคุณก็แค่ให้ขอโทษ” สไมล์ยังคงตอบชายหนุ่มแบบข้าง ๆ คูๆ พร้อมกับยืดไหล่ขึ้นนั่งหลังตรงหน้าเชิดไม่ยอมเสียเหลี่ยมง่าย ๆ แม้จะเสียหน้าแค่ไหนก็ตาม เวย์ส่ายหัวกับท่าทีของคนตรงหน้าที่ไม่ยอมรับในความผิดของตัวเอง
“คราวหลังคุณควรจะไตร่ตรองให้ดีนะก่อนที่จะไปโวยวายหรือปรักปรำใคร ถ้าคุณเองก็ยังไม่รู้ว่าเขาผิดจริงหรือเปล่า”
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะมีคนแอบถ่ายก็ไหนว่าคลินิกคุณเป็นระดับพรีเมี่ยม ก็นึกว่าจะมีมาตรการเข้มงวดด้านการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้มาใช้บริการ”
“ผมเปิดคลินิกไม่ได้เปิดสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้วอีกอย่างกฎระเบียบก็ไม่ได้ช่วยทั้งหมดเพราะบางอย่างขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของบุคคลนั้นด้วย” เวย์สวนกลับแบบนิ่ม ๆ ด้วยท่าทางเยือกเย็น
“คุณนี่ไม่น่าจะเป็นหมอเลยนะวาจาเชือดเฉือนยิ่งกว่าผู้หญิงอีก”
“ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้วผมจะขออนุญาตเคลียร์งานต่อนะครับแล้วถ้าหากคุณยังติดใจสงสัยอะไรเกี่ยวกับพนักงานและคลินิกของผม ผมยินดีให้ความร่วมมือ” เมื่อเห็นว่าการเถียงกับสไมล์ไม่ได้ก่อประโยชน์อะไรพานจะทำให้ตนเสียเวลา เวย์จึงตัดบทการสนทนากับหญิงสาวอย่างมีมารยาท
สไมล์ที่เริ่มรู้สึกผิดที่หลายวันก่อนหอบเอาพายุอารมณ์มาสาดใส่คุณหมอแบบไม่ยอมฟังเหตุผลใดๆ แต่จะให้เธอเอ่ยขอโทษคนตรงหน้าเธอก็ไม่กล้าทำตรง ๆ
“ฉันยังไม่ได้เอาคลินิกคุณไปพูดในทางที่เสีย ๆ หาย ๆ คุณสบายใจได้” น้ำเสียงที่เบาลงอย่างเห็นได้ชัดเอ่ยบอกด้วยสีหน้าเจื่อนลง
“ผมก็ไม่ได้คิดว่าคุณจะทำแบบนั้น และต่อให้คุณทำผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเพราะคลินิกผมไม่ได้ทำความเสียหายอะไรให้คุณ” น้ำเสียงเรื่อย ๆ ที่ตอบกลับมาโดยไม่หันมามองทำให้สไมล์รู้สึกเสียหน้าที่เวย์ทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน หญิงสาวลุกขึ้นยืนมองคุณหมอหนุ่มก่อนจะเดินออกจากห้องไป เวย์มองตามหลังของดาราสาวด้วยสายตานิ่งลึก ก่อนจะหันกลับมาสนใจงานของตนเองเหมือนเดิม
Special episode 3 สไมล์ลืมตาตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นหลังจากเสร็จกิจกรรมเมื่อตอนบ่าย สายตามองสำรวจรอบ ๆ บริเวณห้องก็ต้องแปลกใจเพราะเฟอร์นิเจอร์และของแต่งห้องทั้งหมดนั้นยังใหม่และเหมือนยังไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ก็พลานให้นึกถึงคำพูดของแฟนหนุ่มที่บอกเธอเมื่อเช้าว่าเขารีโนเวทคอนโดใหม่ ร่างบางก้าวเท้าลงจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปด้านในก็ต้องประหลาดใจเป็นครั้งที่สองเมื่อเหลือบไปเห็นอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่คาดว่าแฟนหนุ่มนั้นคงจะสั่งอันใหม่มาติดตั้งเช่นกัน “นี่เตรียมพร้อมทุกอย่างขนาดนี้เลยเหรอตาแก่เจ้าเล่ห์” “อ๊ะ! / เรียกใครตาแก่เจ้าเล่ห์” เวย์เดินเข้ามาสวมกอดร่างบางจากด้านหลังดึงสไมล์เข้าหาตัวและกอดไว้แน่น “อ่างอาบน้ำพี่ก็พึ่งเปลี่ยนใหม่นะ ลองสักหน่อยไหม” เสียงทุ้มแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เอ่ยถามข้างใบหู พร้อมเป่าไอร้อนรดต้นคอระหง “ของในห้องนี้พี่ก็เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ถ้าลองทุกอย่างหนูไม่ต้องตายคาอกพี่เลยเหรอคะ” เสียงหวานประชดกลับพร้อมกับเอี้ยวตัวหันไปเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม“พี่หมายถึง ล
Special episode 2“คุณน้ำหวานกลับอีกคันนะครับเดี๋ยวผมให้คนขับรถไปส่ง” เวย์หันมาบอกน้ำหวานเมื่อเดินออกมานอกเทอมินอลและมีรถของที่บ้านมาจอดรอสองคัน“ค่ะคุณหมอ ขอบคุณค่ะ เจ๊ฝากสไมล์ด้วยนะคะ” ผู้จัดการสาวรู้หน้าที่ของตัวเองดีจึงเดินไปขึ้นอีกคันที่มีคนขับรถเปิดประตูรออยู่และกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ก็ถูกยกขึ้นท้ายรถเรียบร้อยแล้ว“ครับ”สไมล์และเวย์ขึ้นรถอีกคันที่จอดรออยู่เช่นกัน เมื่อทั้งสองขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อยแล้วคนขับก็ทำหน้าที่พาทั้งสองไปยังจุดหมายปลายทางนั่นคือคอนโดหรูของชายหนุ่ม“ทำไมมาที่นี่ล่ะคะ ทำไมไม่ไปส่งฉันที่บ้าน” ดวงตากลมโตปรือตาขึ้นมองบริเวณรอบ ๆ ด้านนอกตัวรถหลังจากเผลอหลับไปหลังจากขึ้นรถได้ไม่นาน“ผัวเมียใครเขาแยกบ้านอยู่กัน ตื่นแล้วก็ขึ้นไปนอนต่อข้างบน..ขี้เซาจริง ๆ”“ใครเขาจะอยู่ที่นี่กับคุณกัน”“ผมรีโนเวทคอนโดใหม่เพื่อรอคุณมาอยู่ด้วยเลยนะ” คิ้วงามที่ขมวดน้อย ๆ บนใบหน้ากลับไม่บ่งบอกว่าตื่นเต้นยินดีสักนิด“ฉันคิดถึงบ้านค่ะไม่ได้กลับตั้งเป็นปี ฉันอยากกลับไปนอนบ้าน” ใบหน้าเล็กซุกเข้าที่อกแกร่ง น้ำเสียงออดอ้อนดังอู้อี้ในลำคอ“พรุ่งนี้ค่อยไปค้างที่โน่น กระเป๋าผมให้คนยกขึ้นไปข้างบนหม
Special episode 1ประเทศไทย“เชี่ย! ไอ้เวย์มันคลั่งรักจนเสียสติไปแล้วหรือวะ ขอแต่งงานกลางงานเทศกาลดนตรีใหญ่ระดับประเทศและคนดูจากทั่วทุกมุมโลก มันกล้าทำได้ไง” ภีร์ที่นั่งดูการไลฟ์สดอยู่ร้องอุทานขึ้น โทรศัพท์ในมือแทบร่วงหล่นพื้น“หึ! มันสติดีต่างหาก มึงจำไม่ได้เหรอครั้งก่อนที่มันขอสไมล์แต่งงานและโดนเธอปฏิเสธมา ครั้งนี้มันวางแผนมาอย่างดี” ภาคย์พูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าเอือมระอาในความเจ้าเล่ห์ของเพื่อน“ยังไงวะ กูไม่เข้าใจ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันหันมองหน้าภาคย์เป็นคำถาม“มึงไม่น่าเกิดมาเป็นเพื่อนพวกกูเลยนะ”“เอ้าไอ้ห่านี่ อยู่ ๆ ก็มาด่ากู สรุปมันคืออะไรมึงช่วยพูดให้มันเข้าใจง่าย ๆ หน่อยได้ไหม”“ก็ครั้งนี้มันขอสไมล์แต่งงานต่อหน้าคนเป็นแสนมึงคิดว่าสไมล์จะกล้าปฏิเสธมันอีกไหม” ภาคย์ขยายความจนคนที่ทำหน้างงในตอนแรกพยักหน้างึก ๆ เข้าใจ“ก็จริงอย่างที่มึงพูด ไอ้เวย์แม่งฉลาด”“แต่มันทำยังไงวะเขาถึงยอมให้มันเสนอหน้าขึ้นไปบนเวทีแบบนั้นได้”“เพื่อนมันที่เป็นคนจีนเป็นถึงเจ้าของสื่อบันเทิงชื่อดัง เงินในธนาคารมันมีเป็นพันล้าน แค่จะจ่ายค่าเช่าสถานที่และนักดนตรีแค่นี้มึงคิดว่าเพื่อนมึงทำไม่ได้หรือไง แล้วอีกอย่า
ตอนที่ 36 แต่งงานสไมล์ในชุดกระโปรงยาวสีขาวที่เวย์สั่งตัดมาพิเศษสำหรับวันนี้โดยเฉพาะ เดินเคียงคู่มากับเวย์ที่วันนี้สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวเปิดกระดุมเม็ดบนสามเม็ดโชว์แผงอกซุ้มประตูทางเข้าที่ประดับด้วยดอกไม้สีแดงสดนานาชนิด ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยไปทั่วทั้งชายหาดเสียงไวโอลินที่บรรเลงโดยนักดนตรีมืออาชีพช่วยสร้างบรรยากาศเหมือนตกอยู่ในความฝัน“ว้าว..สวยจังเลยค่ะ”“เดินระวังหน่อย” มือหนาประคองอยู่ที่เอวคอดเดินนำมายังโต๊ะที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ที่ถูกเนรมิตขึ้นมา โดยมีบาร์เครื่องดื่มตั้งอยู่ข้าง ๆ“คุณสั่งเขาจัดพวกนี้ทั้งหมดเลยเหรอคะ”“อือ..ชอบหรือเปล่า”“ชอบค่ะ ชอบมาก มันสวยมากเลยเหมือนอยู่ในนิทานเลยค่ะ” สไมล์นึกถึงนิทานสมัยเด็กที่เธอชอบอ่าน เหมือนหมู่บ้านเล็กที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาที่มีทุ่งดอกไม้โอบล้อมรอบตั้งอยู่บนเกาะที่ไม่มีใครเคยเห็น“สไมล์มาแล้วเหรอลูก มานั่งนี่มาเจ๊เตรียมอาหารมาให้หนูแล้ว” น้ำหวานร้องเรียกเมื่อทั้งสองเดินเข้ามาเป็นคู่สุดท้ายโดยคนอื่นมาถึงก่อนหน้านี้แล้วเมนูอาหารนานาชนิดทั้งไทยและฝรั่งถูกรังสรรค์จากเชฟมากฝีมือวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะให้เลือกทานได้ตามใจชอบ“อาห
ตอนที่ 35 แค่ทีมงานเมื่อเช้าวันใหม่มาเยือนหลังจากที่ค่ำคืนแห่งการสื่อภาษารักผ่านพ้นไป สไมล์ที่รู้สึกตัวตื่นก่อนเวย์กำลังจะลุกขึ้นไปอาบน้ำเตรียมตัวเพื่อไปถ่ายทำซีรีส์“จะรีบไปไหนขอนอนต่ออีกนิดนะ” ร่างบางถูกรั้งด้วยมือหนาของคนที่กอดเธอมาทั้งคืน คนที่ปกติตื่นเช้าตลอดมาวันนี้เริ่มงอแงไม่อยากตื่นเพราะร่างนุ่มนิ่มที่ได้กกกอดทั้งคืนทำเอาไม่อยากลุกไปไหน“ฉันมีถ่ายซีรีส์ช่วงสิบเอ็ดโมงค่ะ ถ้าไม่รีบตื่นเดี๋ยวไม่ทันรถที่ทางกองส่งมารับ” สไมล์บอกคุณหมอหนุ่มยิ้ม ๆ มือบางยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าของคนที่ยังหลับตาเหมือนกับพึงพอใจในใบหน้าคมนั้นยิ่งนัก“ถ้าลูบส่วนอื่นเหมือนที่กำลังลูบหน้าผมอยู่ตอนนี้ วันนี้กองถ่ายซีรีส์ของคุณคงได้ยกกองแน่ ๆ” น้ำเสียงงัวเงียบอกหญิงสาวทั้งที่ยังหลับตา สไมล์รีบชักมือกลับทันทีพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มแดงเพราะความเขินอายเมื่อรู้ว่าเวย์หมายถึงอะไร เวย์ลืมตามามองเจ้าของเรือนร่างอรชรที่เขาได้เห็นทุกซอกทุกมุมมาแล้วในค่ำคืนที่ผ่านมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“เดี๋ยวผมไปส่ง” เวย์บอกสไมล์เพราะระหว่างที่อยู่ที่นี่ชายหนุ่มไม่มีแผนที่จะไปไหนอยู่แล้วนอกจากอยู่กับคนรัก“คุณขับรถที่จีนได้ด้วยหรือคะ..แล
ตอนที่ 34 ลงโทษใบหน้าคมละจากอกอวบฝ่ามือหนาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียนและหน้าท้องแบนราบไร้ไขมันส่วนเกิน สัมผัสอ่อนโยนสลับกับเร่าร้อนสัมผัสไปทั่วทั้งร่างกายส่วนบน ค่อย ๆ เลื่อนต่ำมาถึงต้นขาเรียวจังหวะร่างสูงย่อตัวลงอุ้มคนตัวเล็กขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ที่ทำจากหินแกรนิตราคาแพงในท่านั่งที่มีเวย์ยืนแทรกตรงกลางระหว่างขาข้อเท้าเล็กสองข้างถูกยกขึ้นชันกับขอบโต๊ะท่าดังกล่าวส่งผลให้กลีบดอกไม้เบ่งบานอวดยอดเกสรและร่องน้ำหวาน เวย์ส่งลิ้นร้อนเข้าโลมเลียโดยช้อนสายตาจับจ้องคนตัวเล็กสื่อความกระหายผ่านแววตาอย่างเก็บไม่มิด“อื้อ” สัมผัสเร่าร้อนที่ห่างหายไปเกือบสองอาทิตย์เมื่อได้สัมผัสอีกครั้งถึงกลับควบคุมไม่อยู่เปลือกตาสวยเคลื่อนลงปิดแพขนตางอนกะพริบเป็นระยะฟังเสียงคละเคล้าน้ำลายเปียกกลีบอ่อนไหว ลิ้นนุ่มอุ่นดุดันเข้าออกหยอกล้อโพรงน้ำหวานปลายลิ้นเกร็งเสียดเข้ามาจนลึกกระดกปลายลิ้นรัว ๆ สร้างความเสียวซ่านจนแทบขาดใจ“อือ..อ่าส์..อือหนูเสียว” น้ำหวานถูกกระตุ้นออกมาละลอกแล้วระลอกเล่า เปรอะเปื้อนริมฝีปากหนาและปลายคางเวย์ปาดลิ้นกลืนกินอย่างไม่นึกรังเกียจ ความเย็นจากโต๊ะหินอ่อนถูกกลบด้วยไฟสวาทที่แทบแผดเผาห้องครัวให้ม