Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2024-11-18 15:43:36

เบญจาสะดุ้งตื่น ก่อนจะนอนคิดทบทวนความฝันที่พึ่งจบลง ทำไมจู่ๆ วันนี้ถึงฝันว่าเธอกำลังเป็นเจ้าสาวและอยู่ในงานแต่งงานสุดโรแมนติกของตัวเอง ในฝันมีคุณปู่ แสงจันทร์รวมถึงแขกอีกจำนวนหนึ่งทุกคนต่างยิ้มแย้มกับวันสุดพิเศษของเธอ

“หลิวครับ” 

“ค่ะ” 

เบญจาขานรับต่อคำเรียกนั้นก่อนจะค่อยๆ หันกลับไปมองด้านหลังของตัวเอง แต่ทำไมภาพใบหน้าเจ้าบ่าวมันถึงได้รางเลือนจนมองไม่ออกว่าเป็นใคร 

“หรือเพราะเรารู้สึกตัวก่อน ภาพหน้าคุณหนึ่งเลยไม่ค่อยชัด” เบญจาส่ายหน้าแรงๆ พร้อมกับนอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่บนเตียง เธอพยายามจะนอนต่อเพราะอยากฝันเห็นหน้าอังกูรในลุคเจ้าบ่าวให้ชัดกว่านี้ ทว่าสุดท้ายก็ทำไม่ได้ 

ยิ่งคิดถึงความฝันหัวใจของเธอก็ชัดจะเต้นไม่เป็นส่ำ แม้ความรักครั้งนี้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นที่อะไรๆ อาจไม่แน่นอน แต่เบญจาก็ทุ่มหัวใจลงไปอย่างไม่มีกั๊ก เธอเชื่อว่าความรักครั้งนี้เหมือนพรหมลิขิตเพราะทุกอย่างราบรื่นจนโลกทั้งใบเป็นสีชมพู

ด้วยนิสัย การศึกษา ฐานะหรือทุกอย่างที่เป็นอังกูรล้วนทำให้เบญจาประทับใจ เพราะแบบนั้นเธอจึงอดที่จะวาดฝันไปถึงเรื่องงานแต่งงาน เรื่องแบบนี้มันก็ต้องมีแอบคิดแอบจินตนาการกันบ้างแต่บางวันเบญจาก็ยอมรับว่าเพ้อหนักถึงขั้นนั่งดูรูปชุดเจ้าสาว ชอบรูปไหนเป็นพิเศษก็เซฟไว้ในโทรศัพท์มือถือ รวมถึงธีมงานแต่งงานหรือแม้กระทั่งการ์ดและของชำร่วยก็ไม่เว้น  

เบญจาตบหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อดึงสติจากนั้นก็รีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปหาปู่ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง อันที่จริงเมื่อก่อนเธออยู่บ้านกับปู่ แต่พอทำงานก็เน้นความสะดวกจึงย้ายออกไปอยู่คอนโดมิเนียมอยู่หลายปีกระทั่งถึงเวลาขยับขยายธุรกิจจึงกลับมาอยู่บ้านที่ต่อเติมและรีโนเวทใหม่เกือบทั้งหมด จากบ้านทรงเก่าๆ ก็สวยโมเดิร์นมากขึ้น 

พอบ้านเสร็จแทนที่ปู่จะอยู่ด้วยกันท่านกลับขอไปอยู่วังน้ำเขียว เหตุผลเพราะอยากใช้ชีวิตในวัยเกษียณให้คุ้มค่า เบญจาใช้เวลาขับรถประมาณสี่โมงนิดๆ ก็มาถึงบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่ปลูกบนพื้นที่เกือบสามไร่ ซึ่งเมื่อก่อนที่นี่เป็นเพียงบ้านพักตากอากาศของครอบครัว ตอนเด็กๆ ทุกครั้งที่มาเธอก็มักจะออกไปวิ่งเล่น หิวก็เดินเข้าไปขอน้ำดื่มได้ทุกบ้านไปทางไหนก็มีคนรู้จัก ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปรั้วของแต่ละบ้านก็สูงขึ้นจนทำให้ความสนิทสนมที่เคยมีค่อยๆ ห่างออกไปเช่นกัน 

 

 

เมื่อมาถึงเบญจาไม่ได้ตรงเข้าบ้านเพราะเธอรู้ว่าต้องไปหาปู่ที่ไหนซึ่งก็จริงอย่างที่คิด อดีตนักธุรกิจร้อยล้านที่เวลานี้เกษียณแล้วกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ในแปลงผลไม้ที่ลงมือปลูกเองทั้งหมด นานๆ จะใส่สูทเข้าประชุมผู้ถือหุ้นสักครั้ง ส่วนเธอในฐานะทายาทเพียงคนเดียวกลับไม่เคยช่วยแบ่งเบาภาระ เพราะใจไม่ชอบงานนั่งโต๊ะบริหารแบบนั้นเสียเท่าไหร่  

“มาทำอะไรตรงนี้ค่ะคุณปู่” น้ำเสียงสดใสของเบญจาเอ่ยถามขึ้น นั่นทำให้คนถูกถามหันกลับมามองพร้อมส่งยิ้มอบอุ่นมาให้

“มาตัดฝรั่ง ดูสิน่ากินไหม” นพพลยื่นผลฝรั่งสดๆ ที่ใช้มีดผ่ากลางออกแล้วให้หลานสาวได้ดู 

“น่ากินค่ะ เนื้อชมพูเชียว พันธุ์อะไรคะ”

“ชมพูพันธุ์ทิพย์ ชิมดู” เอ่ยจบก็ยื่นฝรั่งมาให้ซึ่งเบญจาก็ไม่รีรอที่จะรับพร้อมกับส่งเข้าปากทันที ไม่กี่วินาทีก็ตาลุกวาวกับรสชาติของมัน 

“กรอบ หวาน อร่อยค่ะ”

“มีอีกเยอะ เดี๋ยวปู่ตัดให้ไปกินที่กรุงเทพฯ”

“ขอบคุณค่ะ” 

“หิวหรือยัง”

“ค่ะ มื้อเช้าย่อยหมดแล้ว” เบญจาตบหน้าท้องที่แบนราบของตัวเองเบาๆ พร้อมส่งยิ้มหวานให้ปู่ เพราะรู้ว่ามีคนรอทำให้เธอไม่รู้สึกเหนื่อยแม้จะต้องขับรถติดต่อกันหลายชั่วโมง 

“งั้นไปกินข้าวกัน ป่านนี้มาลัยคงทำเสร็จแล้ว” นพพลคล้องแขนกับหลานสาวจากนั้นก็เดินกลับเข้าบ้านมาพร้อมกัน โดยมีสมัยคนสวนคอยถือตะกร้าที่เต็มไปด้วยผักและผลไม้ตามหลังมาไม่ไกลนัก ส่วนมาลัยแม่บ้านคือภรรยาของสมัยเพราะมาลัยเป็นหมันทั้งคู่จึงไม่มีลูกด้วยกัน

สมัยและมาลัยอยู่รับใช้ดูแลนพพลมาหลายสิบปี อยู่กันมาตั้งแต่เป็นหนุ่มเป็นสาวจนผมหงอกกันเต็มหัว เพราะแบบนั้นนพพลจึงอยากดูแลคนเหล่านี้จนกว่าจะตายจากกันไปข้าง ถ้าเขาตายก่อนก็จะฝากฝังให้เบญจาดูแลต่อไป 

“หอม มีไข่ชะอมแน่ๆ” เบญจาทำจมูกฟุดๆ ฟิดๆ ดมกลิ่นอาหารหอมๆ ที่โชยมาจากครัวไทย เรื่องรสชาตินั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะมาลัยทำอาหารอร่อยมาก โดยเฉพาะอาการไทยปักษ์ใต้ 

“จมูกดีจริง” นพพลส่ายหน้าให้หลานสาวแล้วพากันเดินไปยังห้องรับประทานอาหารที่เวลานนี้มาลัยกับเด็กผู้ช่วยอีกคนกำลังง่วนอยู่กับการจัดโต๊ะ ซึ่งแต่ละเมนูนั้นล้วนแต่เป็นของโปรดของเจ้านายทั้งสอง จากนั้นมาลัยก็ตักข้าวสวยร้อนๆ ใส่จานให้นพพลตามด้วยเบญจา

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หมายมั่นปั้นให้รัก   บทที่ 35 -จบ

    เบญจาและนพพลอยู่ที่ฟาร์มเกือบสองอาทิตย์กระทั่งได้เวลากลับเมืองไทย การมาพบเดวิสของเบญจาครั้งนี้ความรู้สึกช่างต่างจากครั้งแรก เธอมาหาเขาด้วยความคิดถึงไม่ได้มาหาด้วยความชังหน้าและอยากถอนหมั้น เวลานี้นอกจากไม่ถอนหมั้นแล้วเธอกับเขายังวางแผนเรื่องแต่งงานอีกด้วยค่ำคืนก่อนวันเดินทางกลับเมืองไทย เบญจานอนอยู่ในอ้อมกอดของเดวิส ทั้งคู่ออกมานั่งดื่มไวน์และมองดาวด้วยกันบนกองฟาง กระทั่งเห็นว่าดึกมากแล้วรวมถึงพรุ่งนี้เธอต้องเดินทางไกลจึงเอ่ยชวนกลับ ซึ่งเบญจาก็ทำตามที่เขาบอกทั้งๆ ที่มีบางอย่างในใจแย้“หลิวคงนอนไม่หลับ”“ผมก็ด้วย” เสียงทุ้มที่ฟังดูจะแหบพร่าของเดวิสเอ่ยบอก เบญจาเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นอย่างขบคิด เธอยังไม่อยากกลับไปนอนจริงๆแต่ถึงอย่างนั้น เบญจาก็เดินตามเดวิสมาเงียบๆ กระทั่งถึงหน้าประตูห้องจากนั้นทั้งคู่ก็เอ่ยราตรีสวัสดิ์กันและกัน เดวิสส่งยิ้มให้คนรักแล้วเดินกลับไปที่ห้องนอนตัวเองโดยที่เบญจาเองก็มองตามเขาตลอด ทว่าจังหวะที่จะเอื้อมมือไปเปิดประตูเขาก็เปลี่ยนใจแล้วเดินย้อนกลับไปที่ห้องของเบญจา เม

  • หมายมั่นปั้นให้รัก   บทที่่ 34

    อังกูรต้องเดินทางไปเวียดนามเร็วกว่ากำหนดเพราะที่นั่นมีปัญหารอให้ชายหนุ่มต้องสะสาง โดยปัญหาทั้งหมดช้องมาศเป็นคนสร้างขึ้นทั้งสิ้น นั่นก็เพื่อให้ดึงให้ลูกชายออกห่างจากแสงจันทร์เร็วที่สุด พอไปถึงอังกูรก็จะยุ่งจนหัวหมุนจะไม่มีเวลาติดต่อกับแสงจันทร์แน่นอนซึ่งแผนของช้องมาศก็กำลังไปได้สวยทีเดียว ความรักของอังกูลและแสงจันทร์กำลังส่อแววล่มเพราะระยะทางที่ไกลกัน เวลาไม่ตรงกัน รวมถึงผู้ใหญ่ไม่ปลื้มแถมคอยสร้างเรื่องบั่นทอนความสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่เรื่อยๆ ส่วนแสงจันทร์ก็แพ้ท้องอย่างหนักแพ้จนหงุดหงิดไปเสียทุกอย่างสำหรับช้องมาศแล้วในเมื่อไม่ชอบว่าที่สะใภ้อย่างแสงจันทร์ก็พร้อมกำจัด ขณะนั้นก็เสาะแสวงหาว่าที่ลูกสะใภ้คนใหม่ ผู้หญิงที่คู่ควรกับอังกูรทุกระเบียบนิ้ว ผู้หญิงที่โปรไฟล์ดี ครอบครัวดี ฐานะดี การศึกษาดี ทุกอย่างเพอร์เฟค ผู้หญิงแบบนั้นต่างหากถึงจะคู่ควรกับลูกชายของเธอ ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าหวังมาแค่เกาะสูบเลือดสูบเนื้อโดยไม่รู้ว่าระหว่างนั้นอายุครรภ์ของแสงจันทร์ก็ค่อยๆ มากขึ้น เธอแบกหน้าไปฝากครรภ์ไม่ใช่เพราะรักหรือเป็นห่วงลูกในท้องแต่เพราะผลประโยชน์บางอย่างในใจมากก

  • หมายมั่นปั้นให้รัก   บทที่ 33

    “ยังครับ”“เอ้า! ลูกคนนี้นี่” โรซี่ส่ายหน้าให้ลูกชายที่ใจเย็นเป็นน้ำแข็ง ได้แต่ภาวนาขอให้ความรักของเดวิสและเบญจาสวยงามเหมือนแสงแดดยามเช้า ทั้งคู่รับรู้เรื่องการหมั้นหมายอย่างกะทันหันอาจต้องการเวลาเพื่อศึกษาอีกฝ่าย หากมั่นใจมากพอความรักก็คงงอกงามส่วนอีกคู่ก็พยายามเปิดตัวสุดฤทธิ์ แม้จะพึ่งคบหากันได้แค่ไม่กี่เดือนแต่แสงจันทร์ก็ออกหน้าออกตา รบเร้าอังกูรให้พาเธอไปพบครอบครัวและก็ทำได้สำเร็จ เพราะชายหนุ่มรับปากกว่าพรุ่งนี้จะพาไป นั่นทำให้แสงจันทร์ชวนคนรักออกไปฉลองล่วงหน้า“คุณแม่” อังกูรอุทานออกมานั่นเพราะไม่คิดว่าจะบังเอิญพบมารดาที่ร้านอาหาร“มากินข้าวเหรอหนึ่ง”“ครับ”“แล้วนั่นมากับใคร หน้าไม่คุ้นไม่ใช่หนูหลิวนี่” ช้องมาศมองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ลูกชายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แม้จะไม่พอใจแต่แสงจันทร์ก็ยังคงยิ้มแย้มก่อนจะยกมือไหว้ทักทายพร้อมแนะนำตัว“สวัสดีค่ะคุณแม่ หนูชื่อแสงจันทร์ค่ะ”“ใครถามหล่อน” น้ำเสียงและประโยคดุดันของ  

  • หมายมั่นปั้นให้รัก   บทที่ 32

    “อ้อ…เชิญเข้าบ้านก่อนค่ะ” เบญจาผายมือเชื้อเชิญให้ชายหนุ่มเข้าบ้าน แม้ไม่ทันตั้งตัวที่จู่ๆ เดวิสก็มาหาถึงที่บ้านเช่นนี้แต่เบญจาก็เก็บอาการได้เป็นอย่างดี“คุณสบายดีหรือเปล่า”“สบายขึ้นค่ะ ขอโทษที่ไม่ได้คุยด้วยหลายวัน พอดีฉันยุ่งๆ กับงาน” ตอนนี้เบญจาทำใจเรื่องอังกูรและ แสงจันทร์ได้มากแล้ว เรื่องงานแม้จะมีปัญหาแต่ก็ผ่านมันไปได้ส่วนเรื่องเขาเธอยอมรับว่ายังไม่รู้วิธีรับมือ เพราะแบบนั้นจึงเลี่ยงที่จะพูดคุยหรือเจอหน้าแม้จะมั่นใจว่าไม่ได้คิดอะไรกับเดวิส แต่มื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไงก็อดที่จะสับสนไม่ได้ พอสับสนสมองก็หวนกลับไปคิดถึงเรื่องที่เขาบอกรักลามไปจนถึงจูบแรก ก่อนจะปัดตกความคิดเหล่านั้นแล้วบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าเธอยังไม่พร้อมจะรักใครในตอนนี้ ความรักของเธอมันห่วยมันแย่ เธอไม่ต้องการเจอเหตุการณ์เลวร้ายอย่างที่อังกูรและ แสงจันทร์ทำไว้อีก“ผมจะมาบอกว่าพรุ่งนี้ต้องกลับแล้ว” ประโยคที่ได้ยินทำเอาเบญจาอึ้งไปอีกหน ทั้งๆ ที่ไม่พ

  • หมายมั่นปั้นให้รัก   บทที่ 31

    “คำว่าเพื่อนของเรามันคืออะไร”“นี่ๆ ฟังแล้วก็ช่วยตาสว่างได้แล้วนะจ๊ะ เมื่อก่อนฉันคิดกับเธอแบบเพื่อนจริงๆ เป็นห่วงเป็นใยเพื่อนที่แสนดีของเธอไง แต่พอเธอมีแฟนฉันก็อิจฉาจนอยากได้”“บ้า ตรรกะวิบัติ ว่างๆ ก็ช่วยไปเช็กประสาทหน่อยนะ ฉันสงสารคนที่อยู่รอบๆ ตัวเธอ” พูดจบเบญจาก็สะบัดหน้าใส่แสงจันทร์ ไม่เท่านั้นยังปิดประตูรั้วใส่ดังปังก่อนจะเดินเข้าบ้านอย่างไม่สนใจส่วนแสงจันทร์ยืนกัดฟันกรอดๆ ของพวกนี้เธอไม่ต้องกลับมาเอาก็ยังได้แต่ที่ยอมเสียเวลาแวะมาก็เพราะอยากมาเยาะเย้ยเบญจา ไม่คิดว่าเธอจะถูกเบญจาสวนกลับ น่าโมโหชะมัดเบญจาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาในห้องรับแขกแล้วยกมือขึ้นคลึงระหว่างคิ้วที่เวลานี้ปวดตุบๆ เมื่อไหร่เรื่องบ้าๆ พวกนี้จะจบลงเสียที เธอเหนื่อยและเบื่อจนอยากหนีไปให้ไกล แต่จะไปไหนได้ในเมื่อมีงานต้องรับผิดชอบ พอตั้งสติได้เบญจาก็เข้าออฟฟิศแวะไปโกดังเลี้ยงข้าวลูกน้องแม้เพื่อนเพียงคนเดียวของเธอทำร้ายเธอจนเจ็บปางตาย แต่พนักงานทุกคนกลับส่งยิ้มให้เธอ ภาพที่เห็นท

  • หมายมั่นปั้นให้รัก   บทที่ 30

    “อ้อ…เมื่อกี้เหมือนฉันจะเห็นร้านบะหมี่อยู่ข้างๆ ร้านสะดวกซื้อ เราไปกินกันไหมคะ เพราะตอนนี้ฉันก็หิวแล้วเหมือนกัน” เอ่ยบอกเสร็จก็ส่งยิ้มให้เขา แม้จะยิ้มไม่สดใสเหมือนเดิมอย่างน้อยรอยยิ้มนี้ก็สลัดความทุกข์ออกไปจากความรู้สึกของเบญจาได้พอสมควร“ครับ” เดวิสเอ่ยรับ ทั้งคู่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวกันคนละชามก่อนที่เดวิดจะอาสาไปส่งเธอที่บ้านซึ่งเบญจาก็บอกเส้นทางให้ ขณะนั่งรถอยู่นั้นเธอก็อดที่จะทึ่งกับทักษะการขับรถที่ดีเยี่ยมเกินคาดของอีกคนมาก ออกเดินทางมาได้ครู่ใหญ่ก็ถึงบ้านของเบญจา“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง ขอบคุณความบังเอิญที่คุณไปเจอฉันแล้วช่วยดึงสติไว้” เบญจาคิดว่าทุกอย่างระหว่างเธอกับเดวิสคือความบังเอิญเท่านั้น แต่ชายหนุ่มรู้ว่ามันไม่ใช่ความบังเอิญเขาตั้งใจตามหาเธอต่างหาก“ครับ”“ว่าแต่คืนนี้คุณพักที่ไหน” เบญจามีคำถามในหัวมากมายแต่ถ้าถามออกไปอีกฝ่ายจะคิดว่าเธอก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาหรือเปล่า เพราะคิดแบบนั้นเธอจึงได้แต่เก็บคำถามไว้“โรงแรม...ครับ”“จากบ้านฉันไปก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status