" ก็ถ้าสมมุติว่าฉันท้อง"
หญิงสาวช้อนตาหน้าสลด หลังคนสูงกว่าเอาแต่ยืนมอง คิ้วผูกติดฉงนงุนงง
เธอจึงเริ่มพูดต่อ กับประโยคใส่อารมณ์ ที่บ่งบอกถึงความไม่แน่ใจ
แต่แล้ว...
กลับถูกมือใหญ่จับหมับตรงต้นแขน
" สรุป ท้องหรือไม่ท้อง "
เขาเค้นหาคำตอบ
ไศลาเม้มปากแน่น คิดทบทวนตัวเองใหม่ ถ้านี่เป็นเรื่องที่กุขึ้นมา เพื่อความสะใจ และเอาชนะเล่าก็ อีกไม่นาน ร่างทั้งร่างของตัวเอง อาจจะระบมไปหมด เพราะถูกคนตรงหน้านั้นกระทืบ
เธอกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนพยักหน้าเชื่องช้า ดวงตากลมโตไม่กระพริบ จับจ้องมั่นอยู่ตรงหน้าหล่อเหลา ซึ่งหลังจากจบประโยคนี้ มันค้างชะงันไปกลางคัน และเธอนั้นเห็นพอดี
เขาอึ้ง...
" แน่ใจ? "
" ค่ะ..."
" ตรวจดีแล้ว... "
" ยังค่ะ เราจะตรวจพร้อมกันวันนี้ ซึ่งฉันมั่นใจไปเกินครึ่ง ว่าในท้องฉัน มีเลือดเนื้อของคุณอยู่ "
เธอตอบคำถามอย่างฉะฉาน เวเดโน่เงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะกระโชกโฮกฮาก
" ให้ตาย ฉันควรดีใจไหมไศลา..."
" เอ๋..."
ซึ่งนั่นทำเธอแปลกใจไม่น้อย
" ในสถานการณ์ขับขัน ไม่รู้จะเป็นหมู่หรือจ่า อยู่ๆ ก็มีเด็กขึ้นมาให้ฉันต้องรับผิดชอบ.. "
เปลี่ยนความคิดในหัวของเธอเป็นฝั่งตรงข้าม ความแรงของมันราวกับตบให้มึนงง
" ทำไมคุณต้องกังวลด้วยคะ "
" ไม่กังวลงั้นหรือ จะไม่ให้ฉันกังวลได้ไง? "
เขาดูร้อนรนอย่างแปลกๆ ดูจากท่าทางที่กระสับกระส่ายนั้นก็พอจะรู้ เขานั้นไม่ดีใจเลยสักนิด ตรงข้ามกัน.. เรื่องนี้ทำเขาเครียด ราวกับเป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่ง
" อะไรกัน คุณมีอะไรกับฉัน คุณไม่ป้องกัน ฉันไม่ป้องกัน มันก็ท้องสิ... แปลกตรงไหน ฉันก็นึกว่า มันจะสมใจคุณซะอีก"
ในขณะเธอเถียงกลับ เริ่มไม่สบอารมณ์เช่นเดียวกัน
ทว่า เขากลับหันขวับมาหาเธอ ดุจประโยคนี้ไปแทงใจดำเขา ก่อนถอยหลังออกสองสาม
ก้าว แล้วจึงจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้
มือที่ยกขึ้นลูบหัวของเขา ปากขยับไปมาเสมือนกำลังคุยอยู่คนเดียว คิ้วขมวดกันยุ่งเหยิง และใบหน้าที่สลดราวกับตึงเครียด ยิ่งทำให้ไศลางุนงง
เธอน้ำตาคลอเบ้า
" ทำไมคะ? มันเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยหรือ กะอีแค่ฉันมีลูก "
และเริ่มโวยวาย
" มันไม่ใช่อย่างนั้น.."
" มันเป็นเรื่องที่ผิดพลาดเหรอ? "
" ไศลา.."
" คุณน่าจะดีใจนะ ที่สามารถเหนี่ยวรั้งฉันต่อไปได้อีก สมใจอยากคุณไง "
ทว่า กลับถูกตะเพิดกลางคัน
" ฟังกันก่อนได้ไหม! "
" !!! "
เวเดนผละจากอุ้งมือที่กุมเข้าหากัน ใช้เพื่อวางหน้าผากของตัวเองในทีแรกขึ้นมองหน้าเธอ
ดวงตาแดงก่ำ ข้างในเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย บ่งบอกให้รู้ถึงการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว ซึ่งมีเธอเป็นผู้กดดัน
" เรามีลูกด้วยกันได้ไศลา แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้... ฉันกับอรัลเบลเป็นอะไรกันเธอก็รู้ "
และประโยคเหล่านี้ของเขาทำไศลาอึ้ง อยู่ๆน้ำตาก็ร่วงแหมะไร้การบอกกล่าว
" ฉะนั้น การที่เด็กคนนี้จะเกิดมาท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ คงจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่ "
" มะ หมายความว่าไง.. "
เธอไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดมากนัก และใจเริ่มร้อนผ่าว
" อีกไม่กี่วันข้างหน้า เราจะมีสงคราม "
"......"
" และเธอกำลังจะเป็นตัวเต็ง ที่ทำให้ฉันไขว้เขว"
ใช่ เขากำลังจะบอกอะไรเธอ?
ให้หลังความยุ่งเหยิงเขากับเธอมายังคนนี้ จะกล่าวขานถึงมาเฟียร้ายแต่หล่อเหลาเอาการถึงความเสียใจประมาณว่า ระดับของความเจ็บปวดที่ได้รับ ทำเขาถึงกับยืนตรงไม่อยู่กันเลยทีเดียว
อนึ่งไม่ได้หมายถึงอุ้งเท้าที่ยืนหยัด ทว่ามันคือหัวใจดวงขนาดกำปั้น ที่เคยแกร่งเท่าหินผาถูกปราบปราม ราวกับถูกแบบให้แหลกเป็นจุลลงเพียงกำมือของสาวคนนึง
น่าแปลกในนิยามของความรัก บวกกับความทึ่งในเวลาเดียวกัน
ก้อนเนื้อเพียงแค่นั้น อาศัยอยู่บนอกข้างซ้ายของคนส่วนใหญ่ ดูเล็กขึ้นถนัดตาเมื่อเปรียบเทียบกับอวัยวะส่วนอื่น แต่กลับเก็บกักความรู้สึกหลากหลายไว้มากมายเหลือเกิน เสมือนสายไฟเล็กและหน่วยความจำในตัวคอม ที่เก็บข้อมูลสำคัญไว้มากมายมหาศาล
แต่แล้ว..
กลับระเบิดพังทลาย ครั้นจะซ่อมเป็นอย่างเดิมคงยาก!
ใช่... ตอนนี้ซันดรูเป็นแบบนั้น
ความผิดหวัง และเสียหน้า ถึงขนาดทำเขาต้องพึ่งเหล้าหลายไหต่อหลายไห
" อาว มา อีก..."
สร้างความปวดหัวให้ลูกน้องผู้รู้ใจนายเท่าทวีคูณ พวกเขาเอาแต่ส่ายหน้า
ทำได้แค่ยื่นแก้วบรั่นดีตามคำสั่งเท่านั้น อาจจะเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจจะนับได้ แต่นี้อาจเป็นรอบสุดท้ายที่เขานั้นจดจำ
เมื่อแก้วที่ควรจะถูกยื่นกลับมากลายเป็นปลายกระบอกปืน
แกรก...
พร้อมเสียงหมุนเกลียวของแม็กกาซีนบรรจุกระสุน
" กูว่ามึงน่าจะพอ "
" ใครวะ?! "
" นี่เมาจนจำเสียงกันไม่ได้แล้วหรือ.."
" ไอ้แมททริก "
" เยสสส กูเอง เป็นไง สบายตับไปเลยสิ แดกไม่ดูสังขาร "
เขาลดปืนลง ไปนั่งข้าง รู้สึกเซ็งเล็กน้อยที่แกล้งไม่ทันหนำใจกลับถูกจับได้ ทั้งที่อุตส่าห์ย่องเบามาจากข้างหลังเป็นนานสองนาน
" มาทำไมวะ "
ซันดรูเหลือบตาไปถาม ยอมพักยกดื่มชั่วคราวก่อนก็ได้ เพื่อที่จะได้คุยกับแมททริกอย่างเต็มที่
" อย่าได้ถามว่ามาทำไม นี่มันผับกู "
" ลืมว่ะ "
เขาชะงัก พลางส่ายหัวไล่ความมึนของตัวเอง หลังโดนตอกกลับ
แมททริกแค่นหัวเราะ เอือมระอาต่อสภาพของชายหนุ่ม หยิบแก้วเดิมนั้นยื่นไปยังพนักงานที่อยู่ใกล้ที่สุด โบกมือเป็นสัญญาณให้หยุดบริการ
" อะไรวะ"
" ยังจะเอาอีกเหรอวะ มึงมาตั้งแต่ผับเปิดยันผับเลิก จนกูคิดว่ามึงน่ะมาทำงานแทนไอ้พวกนี้ซะอีกนะ "
"....."
" ว่าแต่ เคลียร์แล้วเหรอ "
" ฟู่ววว "
" เออ กูไม่น่าถาม เห็นสภาพแล้ว...แมร่ง! "
เจ้าของคาสิโนแค่นหัวเราะอีกระลอกสลับกับการส่ายหน้าเบาๆ
ในขณะคนข้างๆพยายามจะเถียง และคุยกันในเรื่องที่สมควรจะคุย ตามประสาลูกผู้ชายคุยกัน แต่แล้ว..กลับต้องชะงักกันทั้งคู่ เมื่อได้ยินเสียงนี้มาจากหลังร้าน
เพล้ง!
" $#^/:$$) @$@"
" //$^$#$@,;:&"
พร้อมกับเสียงโวยวายลอยตามมาของพนักงานมากกว่าสองคน
" อะไรกันวะ! "
แต่ไม่ทันที่เขาจะลุกไปดู พนักงานที่ว่ากลับวิ่งหน้าตาตื่นพากันออกมาซะก่อน
" บอสคะ บอส เกิดเรื่องแล้วค่ะ..."
" ข้างหลังมีอะไรกัน? "
" เอ่อ...คือ.."
" เหล้าที่บอสให้พวกเราเก็บไว้สำหรับแขกวีไอพี ตอนนี้แตกไปสามขวด"
" ใครทำ? "
" เด็กใหม่ค่ะ"
" เด็กใหม่? "
แมททริกเลิกคิ้ว ทว่าไม่ทันได้ถามต่อ เสียงกึ่งเดินกึ่งวิ่งของคนมาใหม่ดังขัดจังหวะเสียก่อน เขาหันไป ก่อนจะเห็นว่าเป็นพนักงานเหมือนกัน
หนึ่งในนั้นเป็นคนที่เขาคุ้นเคยดีเพราะทำงานมานาน ส่วนอีกคนที่ถูกลากมา คาดว่าน่าจะเป็นเด็กใหม่ที่ว่า เพราะเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
จึงขมวดคิ้วขึ้น เพ่งเล็งไปยังเธอคนนั้นแล้วถอนหายใจพรืด
หญิงสาวรีบก้มหน้างุนตัวสั่นระริก
" ตอบฉันมาสาวน้อย เธอไปทำอีท่าไหน เหล้าถึงได้ตกลงมาแตก "
กลัวจัดกับคนตรงหน้า พร้อมคำถามที่แสนจะทุ้มห้วน มีความน่าเกรงขามสูงสุด
" คือ..หนู หนู" แต่เพราะเธอตะกุกตะกักไม่ตอบเสียที แมททริกมาเฟียร้าย
จำเป็นต้องตะเพิด
" หนูอะไร! "
นั่นจึงทำให้เธอตกใจรนรานตอบ พร้อมเผลอเงยหน้า
" หนูวิ่งผ่านเท้าหนู หนูเลยเซไปชนตู้ค่ะ อึก! "
ซึ่งจังหวะนั้น เป็นจังหวะที่ซันดรูชำเลืองตามาเห็นพอดี พลันชะงักกึกกับแววตานั่น ที่มันช่างคล้ายกันกับไศลา ในวินาทีแรกที่เจอกันกับเขา พร้อมท่าทีแสร้งหกล้มของเธอ เพื่อเรียกร้องความสนใจ
มากกว่าความหวาดเสียวในสมรภูมิรบก็คงเป็นคำพูดของเวเดโน่นี่แหละ ที่ดูจริงจังเกินเหตุสำหรับแมททริกในตอนนี้ ซึ่งหลังได้ฟังชัดเต็มสองรูหูเหมือนจะค้างไปแล้ว เขาอึ้ง และพูดอะไรไม่ออก “ อะไรของมึงวะ “ได้แต่เอ่ยเสียงแผ่ว กับคำถามที่ใคร่รู้เพียง เพื่อนกำลังคิดอะไรอยู่ ความหมายของเขาที่มีในหัวประมาณว่า ...“ เพราะผู้หญิงคนนั้นเนี่ยนะ ซึ่งคำตอบที่ได้คือร่างสูงพยักหน้ายอมรับโดยไม่คิดสักนิด“ เฮ้ยยย พวกเราสั่งให้แกเข้าไปพัวพันในชีวิตเธอ เพราะหวังให้ชดเชยสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าวันนึงจะกลายเป็นเมียก็ไม่มีใครว่า แต่ไม่ใช่ให้ทำแบบนี้ ““ แบบนี้มันแบบไหนวะ! “กลายเป็นประเด็นใหญ่ให้เขาทั้งคู่ได้ถกเถียง และมองหน้ากัน ในขณะต่างฝ่ายต่างไม่ละสายตาและไม่มีใครยอมใคร แมททริกอมลมกลั้วปาก รู้สึกขัดใจขึ้นมาทันทีกับความคิดของเขา หนึ่งในแก็งค์อัลฟา ผู้ที่เคยเป็นตัวเต็งแนวหน้า ไม่เคยกลัวสิ่งใด แต่วันนี้กลับมากลัวความรักของตัวเองจะพังลง “ ก็แบบ...”เขาเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น พ่นลมหายใจเฮือกใหญ่“ จะแบบไหนก็ช่างเถอะ แต่มึงจะทำแบบนั้นไม่ได้ มันเสี่ยงมากเกินไป ถ้าฝั่งศัตรูรู้ว่าเราแตกคอกันเอง จะทำยัง
ไศลานั่งคอตก เมื่อเห็นสีหน้าของน้องชาย หลังพูดประโยคนั้นออกไป เธอเม้มปากแน่น ข่มเปลือกตาลงจนมันสั่นระริก ก่อนจะค่อยๆคลี่คลายออก มองไปยังที่เก่า ในขณะรอบนี้เผยความหม่องหม่นนัยย์ตาออกมาด้วย ที่ดูก็รู้เธอกำลังจะร้องไห้ และคนข้างกายเธอเองก็เช่นกัน " พี่พูดว่าอะไรนะ? " เขาถามย้ำก่อนน้ำตาก้อนใหญ่เหล่านั้นจะไหลลงมา ไศลาไม่ตอบ แต่เลือกที่จะก้มหน้านิ่งแทน มองผ่านม่านน้ำตาไปยังมือตัวเอง ซึ่งบีบจิกเข้าหากันราวกับกำลังระบาย" ฮึก..."ความอึดอัดเคยเก็บไว้ในใจสุดลึก เสแสร้งทำเป็นเข้มแข็งมาตลอด ทั้งต่อหน้าและลับหลังครอบครัว วันนี้ถล่มทลายลงมาไม่เหลือชิ้นดี เพียงแค่อยากให้คนที่เธอรักหมดปัญหาเรื่องนี้ไม่ว่าผลจะออกมาดีหรือร้าย เธอก็สบายใจทั้งนั้น ริมฝีปากแดงระเรื่อปริเบ้ออก ยิ่งสะอื้นไห้หนัก หลังร่างสูงถลาเข้ามาเขย่าตัว พยายามกดดันเค้นหาคำตอบ" มองหน้าผมเซ่! ผมถามตั้งนานแล้วนะ พี่ใหญ่เป็นอะไรถึงตาย"ทว่า สิ่งที่เธอเห็น กลับเป็นเพียงภาพที่ไร้เสียง มีเพียงปากพูดเขาที่ขยับ และร้องไห้อยู่ พร้อมบริเวณรอบๆ ที่เปลี่ยนไป' รู้ไหมว่าพี่สอนให้ฉันชิน ชินต่อการคิดถึงพี่ ในวันที่พี่ไม่อยู่ ..ชินกับการเห็นพี่โบ
ร่างบางยืนตระหง่านอยู่บนถนนคอนกรีต เบื้องหน้าของเธอคือกึ่งบ้านกึ่งคฤหาสน์ที่จัดไปทางค่อนข้างจะทรุดโทรมทว่าดูหรูหราจนน่าแปลกใจ อุ้งมือน้อยๆกำสายกระเป๋าสะพายไว้แน่น พร้อมดวงตากลมโตเคลือบอมไปด้วยน้ำหล่อเลี้ยง สลดปนละห้อย เธอใช้สายตาคู่นั้น จรดตั้งแต่ระดับเดียวกันช้อนขึ้นไปมอง พลันถอนหายใจเฮือก เมื่อไปหยุดอยู่ตรงระเบียงชั้นสอง ที่มีใครคนนึงซึ่งคุ้นเคยและจำได้แม่น" แม่คะ..." เธอขยับปากเรียก หล่อนยืนมองอยู่ก่อนแล้ว นับตั้งแต่รถแล่นเข้ามาไกลๆแม้เสียงนั้นดังไปไม่ถึง เพราะระยะทางที่ห่างกัน แต่น้ำตาแห่งความคิดถึง กับสีหน้าเลือนลาง ยังทำให้ทั้งคู่นั้นมองเห็นชัดใช่ เพราะต่างฝ่ายต่างโหยหาไม่มีใครยอมแพ้ ในขณะหัวไหล่เธอกำลังจะตก เผลอคิดไปถึงเหตุการณ์หลังจากนี้ ระหว่างที่อยู่ จะสรรหาประโยคไหนที่ดีพอ ที่ไม่ทำให้แม่ต้องเสียใจ หากจะกล่าวถึงเรื่องของพี่ชายคนโต และการตายของเขาแต่แล้ว.. มือใหญ่ข้างหนึ่งของคนที่มาด้วย กลับทำเธอหลุดภวังค์เสียก่อน ไศลาค่อยๆหันกลับไปมอง “ ฉันต้องการฟังความรู้สึกของเธอตอนนี้ที่มีต่อฉัน “ก่อนจะก้มหน้าลอบถอนหายใจ“ ฉันไม่มีอะไรจะพูด...” เธอส่ายหน้าเชื่องช้า“ พูดให้กำลังใ
" ก็ถ้าสมมุติว่าฉันท้อง"หญิงสาวช้อนตาหน้าสลด หลังคนสูงกว่าเอาแต่ยืนมอง คิ้วผูกติดฉงนงุนงง เธอจึงเริ่มพูดต่อ กับประโยคใส่อารมณ์ ที่บ่งบอกถึงความไม่แน่ใจ แต่แล้ว...กลับถูกมือใหญ่จับหมับตรงต้นแขน" สรุป ท้องหรือไม่ท้อง "เขาเค้นหาคำตอบไศลาเม้มปากแน่น คิดทบทวนตัวเองใหม่ ถ้านี่เป็นเรื่องที่กุขึ้นมา เพื่อความสะใจ และเอาชนะเล่าก็ อีกไม่นาน ร่างทั้งร่างของตัวเอง อาจจะระบมไปหมด เพราะถูกคนตรงหน้านั้นกระทืบเธอกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนพยักหน้าเชื่องช้า ดวงตากลมโตไม่กระพริบ จับจ้องมั่นอยู่ตรงหน้าหล่อเหลา ซึ่งหลังจากจบประโยคนี้ มันค้างชะงันไปกลางคัน และเธอนั้นเห็นพอดีเขาอึ้ง... " แน่ใจ? "" ค่ะ..."" ตรวจดีแล้ว... "" ยังค่ะ เราจะตรวจพร้อมกันวันนี้ ซึ่งฉันมั่นใจไปเกินครึ่ง ว่าในท้องฉัน มีเลือดเนื้อของคุณอยู่ "เธอตอบคำถามอย่างฉะฉาน เวเดโน่เงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะกระโชกโฮกฮาก" ให้ตาย ฉันควรดีใจไหมไศลา..."" เอ๋..."ซึ่งนั่นทำเธอแปลกใจไม่น้อย " ในสถานการณ์ขับขัน ไม่รู้จะเป็นหมู่หรือจ่า อยู่ๆ ก็มีเด็กขึ้นมาให้ฉันต้องรับผิดชอบ.. "เปลี่ยนความคิดในหัวของเธอเป็นฝั่งตรงข้าม ความแรงของมันราวกับตบให้มึน
' แต่ถ้าไม่ได้ ก็ช่วยฆ่ากันให้ตายซะเถอะ 'เวเดโน่ยืนอึ้ง ไม่คิดว่าประโยคนี้ของเธอจะทำเขาชะงัก เมื่อได้ยินมัน ยอมรับว่าเขาใจหาย กระนั้นก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีแรกเท่านั้น ก่อนจะดึงสติ " เธอว่าไงนะ.. " เขาขมวดคิ้ว ถามย้ำ ใช้นิ้วทั้งห้าได้เป็นประโยชน์สูงสุดหลังถลาเข้ามาบีบหัวไหล่เธอ" อึก..." ไศลานิ่วหน้า น้ำตาแทบทะลัก ทว่าทำได้เพียงช้อนตาขึ้นมองและฟังเขากัดฟันพูดด้วยความโมโห เขาเกลียดที่สุด คำประชดประชัน" พูดใหม่อีกทีสิ "" อะ โอ้ย! " " หยุดทำตัวงี่เง่า เพ้อเจ้อเถอะไศลา ต่อให้เธอนอนหายใจพะงาบๆ เธอก็ไม่มีวันได้ตาย หรือไปจากฉัน เรื่องของไอ้ซันก็เหมือนกัน ไหน ...ตรงไหนที่มันทำเธอ" " นี่หยุดนะ! " กับคำตอกกลับมาอย่างเจ็บแสบ ราวกับแผลสดโดนป้ายพริก แหวกคอเสื้อเธอ กระชากหารอยอะไรบ้างอย่าง พร้อมมือใหญ่อีกข้างหนึ่ง สอดเข้ามาใต้กระโปรง จับหยาบลูบคลำตรงเนินเนื้อนั่น ทำไศลาตกใจ ถึงกับต้องรีบหุบ เบียดต้นขาเข้าหากัน ไม่สนว่าจะหนีบมือเขาด้วย นี่เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ ถึงไม่สนใจความรู้สึกของเธอเลย...เธอเจ็บปวดจริงๆนะ! หัวใจจะแหลกเหลว อย่างไม่มีชิ้นดีอยู่แล้ว! ใจคอจะไม่รับรู้ถึงความทรมานของเธอ
ดวงตากลมโตที่เคยเคลือบน้ำใสๆก่อนหน้า ช้อนขึ้นมองคนสูงกว่า เธอกำลังจะบอกให้รู้ว่า สิ่งที่เธอพูดออกมา ความหมายของมันนั้นทำให้เธออึดอัดมานาน" ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าคุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร อาจจะชอบฉันจริงๆ หรือเอาชนะเขา แต่เชื่อเถอะว่า ทั้งสองอย่างมันทำให้ฉันรู้สึกไม่โอเค " ก่อนจะหลุบตาลง ในจังหวะที่เขานั้นเงียบไป " และเหมือนว่า คุณจะทำมันสำเร็จ ถ้าวันนี้คิดจะแยกระหว่างฉันกับคุณโครทิส ...มันสำเร็จแล้วล่ะ "ประโยคทิ้งท้ายเธอช้อนตาขึ้นอีกรอบ มองลึกเข้าไปข้างใน ก่อนจะเหยียดยิ้มราวกับขบขำกับสิ่งที่เจอ " เธอพูดจริงหรือ? " เขาย้ำ หญิงสาวพยักหน้า ทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากกรอบหน้าเขา" ค่ะ..แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสมหวังหรอกนะคะ กับผลที่ต้องการและทำอยู่ "" หมายความว่าไง.."" ฉันชอบคุณไม่ลง"จนกระทั่งอีกประโยคหลุดออกมาจากปากเธอนั่นแหละ ซันดรูจึงจะเงียบกริบแบบไร้ปี่ไร้ขลุ่ย" ทำไม..." พลางถามเสียงแหบ ไศลายิ้มบางๆให้กับเขา " เพราะว่า..คนที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครอง ใช้วิธีแย่ง เป่าหู และทำลาย ไม่สนใจความรู้สึกของเพื่อน ไม่สนแม้กระทั่งมิตรภาพที่เคยผูกพันกันมาก่อน เพื่อผู้หญิงคนเดียวก็คือฉัน บ