Share

บทที่ 6

Author: เบลล่า
มุมมองของมาร์ค

ผมร้องครวญครางออกมาในขณะพลิกตัวอยู่บนเตียง หัวปวดตุบ ๆ จนต้องจับหัวเอาไว้ในขณะที่ค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียง ผมมองไปรอบ ๆ แล้วสงสัยว่าทำไมถึงมาอยู่ที่บ้าน ผมน่าจะอยู่ในที่ทำงานมากกว่านะ

ผมคว่ำหน้าลงบนฝ่ามือแล้วพยายามเรียบเรียงเรื่องราว แล้วใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาทีความทรงจำก็กลับคืนมา

ผู้ช่วยสามารถระบุได้ว่าซิดนีย์อยู่ที่ไหน และผมได้ทิ้งงานที่ทำอยู่ทั้งหมด เพื่อไปพูดคุยให้เธอเข้าใจ ผมจำได้ว่าผมได้สั่งให้เธอเดินตามผมไป แล้วจากนั้น...

ผมขมวดคิ้ว ทุกสิ่งทุกอย่างดูมืดมิดไปหมด

“นังบ้านั่น! กล้าดียังไงมาตีหัวผมเนี่ย?” ผมกัดฟันแน่นในขณะลุกขึ้นจากเตียง ผมเหลือบเห็นยาในลิ้นชักในขณะเดินโซซัดโซเซออกจากห้อง

เธอเป็นอะไรของเธอ? ทำไมถึงได้ทำอะไรเกินเลยไปถึงขนาดนี้? ผมคิด

มีเสียงไม้กระทบผนังดังก้องไปทั่วบ้าน ในขณะที่ผมผลักประตูทุกบานให้เปิดออก

“อยู่ที่ไหนเนี่ย?!”

คนงานในบ้านยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น บางคนถึงกับสะดุ้งทุกครั้งที่มีการกระแทกประตู

ผมถามว่าเธออยู่ไหนเป็นสิบ ๆ ครั้ง แล้วพวกเขาก็ตอบผมกลับมาเป็นสิบ ๆ ครั้งว่าพวกเขาไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน พวกเขาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงเรื่องที่บอกกับผมเมื่อเช้าวันนั้น ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเห็นเธอคือตอนที่เธอลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้านไป ผมก็จำวันนั้นได้ด้วย ผมรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย ผมสงสัยว่าเธอไปได้ความกล้ามาจากไหน แล้วคิดว่าเธอจะใช้ชีวิตอยู่แบบนั้นไปแล้วกลับมาร้องไห้กระซิก ๆ อีกครั้ง

ท้องไส้ส่งเสียงโครกครากในขณะที่ผมยังคงกระแทกประตูให้ปิดอยู่ต่อไป ผมถึงขั้นไปตรวจดูที่โรงรถด้วยซ้ำ ผมรู้สึกเหมือนกำลังเป็นบ้า ท้องไส้ร้องโครกครากพร้อม ๆ กับปวดหัวตุบ ๆ และรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ

ผมเดินกลับไปที่ห้องอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วจัดแจงอาบน้ำเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งไม่ช่วยให้อะไร ๆ สงบขึ้นเลย ได้แต่เพียงชะล้างสิ่งสกปรกออกจากผิวหนังเท่านั้น

พอแต่งตัวเสร็จผมก็ใช้ยาแก้ปวดที่อยู่ในลิ้นชัก เพื่อหยุดยั้งอาการปวดหัว

ผมหยิบกุญแจรถขึ้นมา สวมเสื้อสูทแล้วเดินออกจากบ้านไป

ในขณะขับรถไปทำงานนั้น ผมกำพวงมาลัยแน่นและเหยียบคันเร่งแรง ๆ จนใช้ความเร็วเกินกำหนด แต่นั่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ผมทำได้ ดีกว่าขับรถกลับไปที่บ้านของเธอ แล้วบีบคอเธอเสีย

เธอต้องการความสนใจจากผม ซึ่งตอนนี้เธอได้มันไปเต็ม ๆ แล้ว

“เธออยู่ไหน?” ผมตะโกนถามผู้ช่วยของผมทันทีที่เขาปิดประตูตามหลังผม

“ผมไม่รู้ครับ ท่าน" เขาพูดด้วยเสียงสั่นเครือ "ผมออกจากวิลล่าออกเธอ แล้วรีบพาคุณไปยังร้านหมอแถว ๆ นั้น ก่อนจะพาคุณกลับบ้าน แล้ววางยาที่พวกเขาสั่งให้กินไว้ในลิ้นชัก"

เขากระแอมกระไอในลำคอก่อนจะพูดต่อ "แต่เธอบอกผมว่าอย่าเรียกเธอว่าคุณผู้หญิงอีก แต่ให้เรียกคุณซิดนีย์แทน เธอบอกว่าจะมีผู้หญิงคนใหม่มาทำหน้าที่นี้ต่อในไม่ช้านี้"

ผมแค่จ้องมองดูเขาที่กำลังพูดออกมา คำพูดทุกคำทำให้ผมรู้สึกโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ จนพร้อมจะระเบิดออกมา

เขาก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกับแฟ้มในมือ "เธอยังบอกอีกด้วยว่าเธอจะส่งเอกสารการหย่ามาให้ใหม่ อยู่นี่แล้วครับ" เขาวางแฟ้มเอกสารนั้นไว้ตรงหน้าผม "ผมเพิ่งได้รับก่อนที่เจ้านายจะเดินเข้ามานี่เองครับ เธอต้องการให้คุณเซ็นชื่อโดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่ทำให้เสียเวลาของกันและกัน"

และอย่างที่คิดเอาไว้เลย คำที่น่ารำคาญนั้น ด้วยความโมโหสุดขีด ผมคว้าเอกสารพวกนั้นแล้วเหวี่ยงมันออกไป

“ถ้าได้ยินคำว่า 'หย่าร้าง' อีกครั้งเดียวล่ะก็ นายโดนไล่ออกแน่!” ผมบอกเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถ้าเธออยากให้ผมเซ็นเอกสารพวกนั้นล่ะก็ เธอก็ต้องเอามาให้ผมเซ็นเอง

ผมกำมือแน่นแล้วคลายออกในขณะที่พยายามกลั้นความโกรธเอาไว้ เธอกำลังเล่นเกมอะไรอยู่กันแน่? เธอบ้าไปแล้วหรือไง? ฉันมีบ้านให้เธออยู่ มีอาหารให้เธอกินยังไม่พอใจอีกเหรอ? ผมสงสัยเหลือเกินว่าเธอจะอ้างเหตุผลอะไรในการฟ้องหย่า

“อย่าให้ได้ยินคำนั้นอีก! เข้าใจไหม?”

“ครับเจ้านาย!” เขายืดตัวตรงจนผมคิดว่าเขาจะทำท่าวันทยหัตถ์เสียแล้ว

ทันใดนั้น ประตูก็ถูกเปิดออกแล้วเบลล่าก็ก้าวเข้ามา ทันทีที่ผมได้สบตากับเธอ ความโกรธเคืองของผมก็อันตรธานหายไปในระดับหนึ่งแต่ยังคงรู้สึกได้อยู่ ผมยังคงรู้สึกอยากฉีกเอกสารพวกนั้นออกเป็นชิ้น ๆ มีความรู้สึกอยากต่อยอะไรสักอย่าง หรือ...ใครสักคน

อาจเป็นเพราะเบลล่าไม่ได้สังเกตเห็นถึงความตึงเครียดภายในห้อง หรือเธอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ในขณะเดินเยื้องสะโพกเข้ามา แล้วหย่อนตัวลงบนตักผม เธอยื่นแขนอันเรียวงามออกมาโอบรอบคอของผมไว้

เธอจุ๊บเข้าที่ริมฝีปากของผมอย่างรวดเร็ว เธอดึงตัวกลับแล้วทำปากเบะเมื่อผมไม่ได้ทำท่าตอบกลับไป "คุณทำงานมาทั้งเดือนแล้วนะ เราไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว" เธอทำหน้ามุ่ยมากขึ้น ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วดวงตาดูเป็นประกายนิดหน่อย

เมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ แล้ว ผมเห็นผู้ช่วยหยิบเอกสารพวกนั้นขั้นมาจัดเรียงเข้าด้วยกัน แล้วเดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ

มีแวบหนึ่งที่ผมคิดจะขอให้เขานำเอกสารพวกนั้นมาให้ เพื่อที่ผมจะได้ฉีกมันทิ้งเหมือนที่เคยทำก่อนหน้านี้ แต่พอเบลล่ามาปรากฏตัวก็ทำให้ผมยับยั้งใจเอาไว้ได้

ผมหลับตาแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ ผมมีใจจดจ่ออยู่กับแก้มก้นนุ่ม ๆ ของเธอที่แนบอยู่บนต้นขา เธอใช้นิ้วลูบไล้ไปตามปกเสื้อของผมเป็นระยะ ๆ รวมทั้งลูบไล้ผิวบริเวณท้ายทอยของผมด้วย ผมสูดหายใจเข้าออกเพื่อพยายามทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

ผมใช้แขนโอบรอบเอวของเธอไว้ แล้วดึงตัวเธอเข้ามาใกล้ ๆ ผมควรจะลืมเรื่องวุ่น ๆ และการเรียกร้องความสนใจของซิดนีย์เอาไว้ก่อน แล้วจดจ่ออยู่กับผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของผมตอนนี้ คนที่ผมต้องการจริง ๆ และพร้อมจะให้ความสนใจได้ทุกเมื่อ

ผมลืมตาขึ้นแล้วเธอก็ยื่นริมฝีปากเข้ามาในขณะมองหน้าผม หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่ชั่วขณะ และริมฝีปากก็คลี่ออกจนกลายเป็นรอยยิ้ม โอ้ พระเจ้า เธอช่างดูงดงามเหลือเกิน

“ผมขอโทษครับ ที่รัก คุณก็รู้นี่ว่ามันเป็นงาน"

เธอกลอกตาไปมา "คุณควรมีเวลาให้ฉันเสมอนิ"

“ผมจะหาทางทำให้ได้นะ" ผมเลื่อนศีรษะเข้าไปใกล้ ๆ เธอ แล้วจุ๊บที่ริมฝีปากเธออย่างแผ่วเบา "ถ้าอย่างนั้นผมควรมอบอะไรให้ราชินีของผมดีนะ เธอจะยกโทษให้ผมไหม?”

ผมเห็นมุมปากของเธอกระตุกในขณะที่พยายามเบะปากให้น่ารัก เธอกลอกตาขึ้นไปในขณะที่ครุ่นคิดว่าอยากได้อะไร "ฉันอยากได้เครื่องประดับ" ตอนนี้เธอหันมาจ้องตาผม "เครื่องประดับที่ออกแบบโดยห้องเครื่องอเทลิเย่ สตูดิโอส์"

“อเทลิเย่เหรอ?” ผมเลิกคิ้วขึ้น

เธอพยักหน้าหงึก ๆ "อเทลิเย่ออกแบบเครื่องประดับได้สวยมาก ๆ สาว ๆ ในวงสังคมชั้นสูงทุกคนล้วนมีกันทั้งนั้น ฉันก็อยากได้เหมือนกัน"

ผมกอดรัดเธอแน่นขึ้น "ได้เลย ผมจะสั่งทำเพื่อคุณเป็นพิเศษเลย"

เธอยิ้มหน้าบาน ส่วนผมก็หัวใจพองโต "ขอบคุณค่ะ!” เธอร้องเสียงแหลมแล้วดึงตัวผมเข้าไปกอด

ในขณะที่กอดเธอกลับไปนั้น ผมก็ตั้งใจว่าจะซื้อให้ซิดนีย์ด้วย เธอจะได้หุบปากเงียบ และรู้สึกว่าได้รับความสนใจอย่างที่เธอโหยหา

จู่ ๆ เบลล่าก็ดึงตัวกลับไป เธอจ้องมองเข้าไปที่ดวงตาของผม "วันอาทิตย์นี้เป็นวันเกิดของพ่อฉัน คุณจำได้ไหม?

ผมจำไม่ได้ หัวสมองของผมไม่มีเวลามานั่งจดจำวันเกิดของใครหรอก ผมพยักหน้า "จำได้สิ! ผมจำได้"

เธอยิ้ม ตอนนี้ผมไม่อยากทำให้อะไรให้เธอรู้สึกโกรธขึ้นมาหรอก "ฉันถึงมาที่นี่ไง พ่อจัดงานปาร์ตี้ แล้วฉันอยากให้คุณไปร่วมงานด้วย ฉันแน่ใจว่าพ่อก็อยากให้คุณไปเหมือนกัน" เธอเบือนหน้าหนีแล้วรื้อค้นกระเป๋าใบเล็ก ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างสวยงาม เธอหยิบบัตรเชิญสีขาวออกมาวางไปบนโต๊ะผม "นี่เป็นบัตรเชิญของพ่อค่ะ คุณจะไปร่วมงานด้วย" เธอหันมามองผม "ใช่ไหมคะ?”

ผมรู้สึกลังเลเพราะมีเรื่องต้องทำหลายอย่าง การเดินทางไปติดต่อธุรกิจครั้งล่าสุด ทำให้ผมได้นักลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งก็หมายถึงการมีเงินเพิ่มขึ้น และเงินที่เพิ่มขึ้นก็หมายถึงงานที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ผมไม่สามารถทำตัวหย่อนยาน หรือเสียเวลาไปร่วมงานที่ไม่ได้ช่วยให้บริษัทเติบโตได้

ผมเปิดปากเพื่อจะอธิบายให้เธอฟังว่าทำไมผมถึงไปร่วมงานไม่ได้ แต่ก็หยุดยั้งเอาไว้ ถ้าผมสามารถหาเวลาไปงานปาร์นี้ได้ ผมก็จะได้ประโยชน์สองต่อ คือได้พูดคุยกับพ่อของซิดนีย์ และทำให้เบลล่าพอใจไปพร้อม ๆ กัน

ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาเพียงสองสามนาที ผมก็ยังสามารถพูดคุยให้เขารู้ว่าเขาจำเป็นต้องเตือนสติซิดนีย์อย่างเร่งด่วน และบอกเธอให้รู้ว่าความสัมพันธ์อันแสนอาภัพของเราช่วยให้เราได้ประโยชน์ทั้งคู่ ฉะนั้นเธอก็ควรหยุดเอ่ยถึงเรื่องการหย่าร้างซะ

ผมตัดสินใจแล้ว ช่างเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบมาก ผมต้องวางมือจากงานสักสองสามชั่วโมง แต่ก็เป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก

ผมยิ้มให้เบลล่า "ผมจะหาเวลาไปร่วมงานให้ได้นะ" ผมจูบแก้มเธอ แล้วเธอก็หน้าแดง

“ฉันทนรอไม่ไหวแล้ว!” เธอร้องบอกอย่างร่าเริง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status