Share

บทที่ 5

Penulis: เบลล่า
มุมมองของซิดนีย์

"ผมโยนไอ้กระดาษบ้าบอพวกนั้นเข้าไปในเครื่องทำลายเอกสารแล้ว" เขาขึ้นเสียง "ผมได้ยกเลิกการประชุมสำคัญไปเพราะคุณเลย จะให้เสียเวลามากกว่านี้ไม่ได้แล้ว"

เขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย เขายังเป็นผู้ชายขี้โมโหและใจร้อนซึ่งฉันไม่ได้ใส่ใจอีกแล้ว เขาคิดว่าโลกหมุนอยู่รอบตัวเขามากกว่าจะเป็น "โลกของฉัน" ถ้าเขาไม่อยากให้เวลาสูญเปล่าล่ะก็ มาตามฉันกลับไปมาทำไมกันเล่า?

ไม่ว่าเขาจะโยนเอกสารพวกนั้นเข้าไปในเครื่องทำลายเอกสาร หรือเผาให้เป็นเถ้าถ่านด้วยไฟแช็กจากห้องทำงานของเขา หรือเก็บเอาไว้ที่ไหนสักแห่ง นั่นก็ไม่ใช่เรื่องของฉัน

ฉันก้าวถอยห่างออกจากประตู แล้วจ้องมองใบหน้าของเขาอย่างโกรธเกรี้ยว

“ฉันตั้งใจจะหย่ากับคุณอย่างเป็นจริงเป็นจังนะ ถ้าคุณไม่ยอมรับการหย่านี้ล่ะก็ ฉันก็จะต้องยื่นฟ้องหย่าคุณแล้วล่ะ แน่นอน มันจะยิ่งทำให้คุณเสียเวลา "อันมีค่า" เข้าไปกันใหญ่นะ คุณผู้ชาย!” ฉันประกาศออกไปอย่างชัดเจน

ณ ตอนนี้ จิตใจของฉันก็หวนนึกไปถึงผู้ชายที่อาจยังซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งในบ้าน ฉันยังอยู่หน้าประตูเพื่อคอยบังไม่ให้มาร์คแอบมองเข้ามาเห็นอะไรที่ไม่ควรจะเห็นข้างใน เรื่องนี้อาจจะยิ่งลุกลามบานปลายจากการทะเลาะกันเรื่องเอกสารการหย่าของอดีตคู่รัก ไปเป็นเรื่องที่อันตรายมากกว่าเดิมก็เป็นได้

มาร์คก้าวขึ้นมาอีกขั้น เข้ามาใกล้ประตูมากขึ้น แต่ฉันไม่สามารถขยับถอยหลังได้แม้แต่นิดเดียวในตอนนั้น เนื่องจากนั่นคือระยะที่ไกลที่สุดที่ฉันจะสามารถปกป้องทางเข้าเอาไว้ได้

แต่ฉันก็รู้สึกโล่งใจอยู่เงียบ ๆ เนื่องจากการที่ฉันไม่ขยับหนีไปเสียก่อนมันส่งผลต่อตัวเขาอยู่

มาร์คกัดฟันกรอดแล้วพูดว่า "ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะ ไม่ว่าเราจะหย่ากันหรือไม่ก็ตามก็ไม่ใช่คุณที่จะเป็นคนตัดสินใจ!”

เขาถึงกับกล้าที่จะบอกว่าฉันไม่มีสิทธิ์พูดในเรื่องนี้ ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะยุติสัมพันธ์นี้อย่างนั้นเหรอ? ขอบคุณนะมาร์ค ความรู้สึกกลัวในตอนแรกอันเนื่องมาจากผู้ชายคนนั้นก่อนหน้านี้ ได้แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกรำคาญใจไปแล้วในตอนนี้

เขากล้าดียังไงที่จะมาบงการให้ฉันเลือกสิ่งใด มาปฏิเสธไม่ให้ฉันมีอำนาจในการตัดสินใจในชีวิตของตัวเองอย่างนั้นเหรอ? ฉันต้องอดทนอดกลั้นกับทัศนคติที่ชอบกดขี่ของเขามานานเกินไปแล้ว แต่ตอนนี้ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

แต่ฉันล่วงรู้ได้เร็วขึ้นว่าฉันไม่สามารถพูดคุยกับเขาด้วยเหตุผลได้ จริง ๆ แล้ว ฉันไม่ได้มีเวลามากมายขนาดที่จะโต้เถียงกับเขาด้วย มาร์คมักจะทำตัวดื้อรั้นแบบนั้นเสมอ

ฉันกลืนน้ำลายลงคอได้อย่างยากเย็น แล้วกัดฟันพูดประโยคต่อไปที่ตั้งใจจะพูดตอกหน้าเขา

แต่กลับกลายเป็นว่าฉันได้แต่ถอนหายใจแล้วถามว่า "คุณอยากคุยเรื่องนี้จริง ๆ เหรอ?”

“ใช่ คุณมากับผมเดี๋ยวนี้!” เขาออกคำสั่ง น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่าไม่ยอมรับการโต้แย้งใด ๆ ทั้งนั้น

ฉันยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง มีความรู้สึกอ่อนล้าและเอามือถูกขมับอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจ "ก็ได้ ถ้าคุณยอมที่จะเสียเวลาในการพูดคุยขนาดนั้น ฉันยอมไปก็ได้"

หลังจากมองกลับเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว และไม่เห็นชายคนนั้นอยู่ตรงไหนเลย ฉันก็คิดกับตัวเองว่าการก้าวเท้าออกไปในเวลานั้นน่าจะเป็นประโยชน์กับเรา เขาก็น่าจะต้องออกไปด้วย

ฉันเดินออกจากประตูหน้า แล้วปิดประตูตามหลัง

“เดินนำไปก่อนเลยค่ะ" ฉันบอกกับมาร์ค

เขาหันหลังให้ฉันพร้อมกับทำสีหน้าบูดบึ้งแล้วก้าวออกจากนอกตัวบ้านไป ฉันเองก็เดินตามหลังเขาไป

ฉันเดินตามหลังมาร์คไปช้า ๆ เขารีบเร่งไปข้างหน้าอย่างโกรธเกรี้ยว และขณะก้าวเท้าไปข้างหน้านั้น ฉันก็เหลือบไปเห็นเหล็กท่อนหนึ่งวางอยู่ในสวนใกล้ ๆ มันเป็นท่อนเหล็กธรรมดา ๆ แต่ในเวลานั้นมันคือเครื่องมืออันสมบูรณ์แบบอย่างที่ฉันต้องการ

ฉันหันไปดูมาร์คซึ่งยังคงเดินนำหน้าฉันไปสองสามก้าว ฉันสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วก้าวออกจากทางเดิน เพื่อไปหยิบเหล็กท่อนนั้นขึ้นมาจากพื้น

เมื่อมีสิ่งนี้อยู่ในมือก็รู้สึกหนักกว่าที่คิดไว้มาก แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้น ปัญหาอยู่ตรงหน้าฉันต่างหาก

ฉันกลับมาเดินตามหลังมาร์คอีกครั้งพร้อมกำท่อนเหล็กไว้อย่างแน่น ฉันเดินอยู่ข้างหลังเขาและรอเวลาที่ดีในการลงมือครั้งนี้ เมื่อเขาหยุดดูบางอย่างในโทรศัพท์ โอกาสของฉันนั้นมาถึงแล้ว ฉันฟาดท่อนเหล็กออกไปอย่างสุดกำลัง

ฉันตีท้ายทอยเขาอย่างแรง

ฉันไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะหมดสติไปได้เร็วขนาดนั้น ถึงแม้เขาจะเป็นคนอวดดีขนาดไหนแต่เขาก็ล้มลงกับพื้น เขาหมดสติไปหลังจากถูกตีที่หัวไปเพียงครั้งเดียว ดูความก้าวร้าวทั้งหมดนั้นที่นอนเหยียดยาวอยู่บนพื้นกับเขาสิ

หลังจากโยนท่อนเหล็กทิ้งไป ฉันก็เดินไปหาผู้ช่วยของเขาที่กำลังรออยู่หน้าประตูรั้ว

“พาเจ้านายของคุณออกไปจากบ้านฉันซะ" ฉันพูด

ผู้ช่วยคนนั้นลุกขึ้นนั่งตัวตรงอยู่บนที่นั่งคนขับ

ตอนแรกดูเหมือนเขาจะไม่เข้าใจว่าฉันกำลังพูดถึงอะไร แต่หลังจากเขามองไปยังด้านหลังฉัน เขาก็รีบกระโจนออกจากรถ เมื่อเห็นมาร์คนอนกองอยู่บนพื้น

“คุณมาร์คครับ คุณมาร์ค!” เขาร้องเรียกและรีบวิ่งไปหามาร์ค เพื่อดูว่าเขายังมีสติสัมปชัญญะอยู่หรือเปล่า

น่าเสียดายที่คุณมาร์คคนนั้นหมดสติไปแล้ว

ถึงแม้ว่าผู้ช่วยคนนั้นจะพยายามอุ้มมาร์คขึ้นมาแต่เขาก็ตัวหนักเกินไป แต่สุดท้ายเขาก็สามารถแบกร่างมาร์คเอาไว้บนบ่าได้ แล้วพาเขาออกไปได้

น่าขบขัน มือของมาร์คห้อยลงมาบนไหล่ของผู้ชายคนนั้น ผู้ช่วยคนนั้นใช้ความพยายามอยู่พอสมควรจึงสามารถดันร่างของมาร์คเข้าไปนั่งอยู่ตรงเบาะหลังได้

จากนั้นเขาก็เขาก็เดินกลับมาหาฉันหลังปิดประตูแล้ว

“คุณผู้หญิง...”

ฉันยื่นมือออกไปเพื่อส่งสัญญาณให้เขาเงียบ

“อีกไม่นาน จะมีผู้หญิงคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่นี้ รบกวนเรียกฉันว่าคุณซิดนีย์ดีกว่าค่ะ บอกเจ้านายของคุณด้วยว่าฉันจะส่งเอกสารการหย่าไปให้เขาอีกครั้ง ช่วยลงนามให้เร็วที่สุด เพื่อที่เราจะได้ไม่ทำให้เสียเวลาของกันและกัน"

ผู้ช่วยคนนั้นพยักหน้าด้วยสีหน้าที่บอกว่า 'ผมไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยนะ' แล้วหันหลังกลับไปหลังจากโค้งคำนับแบบลวก ๆ

“โชคดีค่ะ" ฉันพูดไล่หลังไปในขณะที่เขาเข้าไปนั่งในรถกับเจ้านาย แล้วติดเครื่องยนต์

ฉันรอจนกระทั่งรถคันนั้นแล่นออกไปไกล แล้วจึงหันหลังเดินออกมาจากที่นั่น และเมื่อฉันเห็นประตูหน้าบ้านอีกครั้ง และจดจำได้ว่ายังมีใครรอคอยอยู่ในนั้น ความตึงเครียดและความหวาดกลัวที่จางหายไปก่อนหน้านี้ก็วกกลับมาอีกครั้ง

ตอนแรกฉันคิดกับตัวเองว่าฉันควรใช้โอกาสนี้วิ่งหนีไปดีไหม?

แต่มีอะไรบางอย่างได้ฉุดรั้งฉันเอาไว้ ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร ฉันยังคงเดินต่อไปยังประตูบานนั้น

ฉันผลักประตูให้เปิดออกหลังจากสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วก้าวเท้าเข้าไปข้างใน แต่ฉันไม่ได้เดินออกไปไกลจากประตูมากนัก ใช้แค่สายตามองหาร่องรอยของเขาเท่านั้น แต่ก็ไม่เห็นเขาอยู่ตรงไหนเลย ฉันเดินลึกเข้าไปในบ้านมากขึ้น แล้วมองไปรอบ ๆ อย่างตั้งใจมากขึ้น

เขาหายตัวไปจริง ๆ

ฉันคงอธิบายไม่ได้ว่าทำไมถึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที และรู้สึกโกรธขึ้นมาทันควันเมื่อมีคนบุกรุกเข้ามาในบ้านได้ ทั้ง ๆ ที่มีระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดและราคาแพง

ฉันเดินอาด ๆ ไปที่โทรศัพท์บ้านอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วกดหมายโทรหาบริษัทรักษาความปลอดภัย

“ฉันต้องการอัปเกรดระบบความปลอดภัยที่วิลล่าค่ะ" ฉันตะคอกปลายสายทันทีโดยไม่สนใจที่จะระวังเรื่องน้ำเสียง "วิลล่าหมายเลข 27 บนเนินเขา ระบบความปลอดภัยของพวกคุณปกป้องอะไรฉันไม่ได้ในคืนนี้ และฉันจะไม่ทนอีกต่อไป ชีวิตของฉันเพิ่งตกอยู่ในอันตรายเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้"

เจ้าหน้าที่ที่รับสายคนนั้นกำลังพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉันก็รู้สึกหงุดหงิดเกินกว่าจะทนฟังอะไรได้

“เราต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นค่ะ คุณผู้หญิง" เจ้าหน้าที่คนนั้นกล่าวขอโทษ "เราจะส่งทีมงานไปอัปเกรดระบบความปลอดภัยของคุณโดยเร็วที่สุด"

ฉันบอกหมายเลขโทรศัพท์ที่วิลล่าของฉันกับพวกเขาไปอีกครั้ง "ฉันหวังว่าทีมงานของพวกคุณจะมาถึงที่นี่ตั้งแต่เช้านะ" ฉันพูดต่อพร้อมกับวางสายพลางถอนหายใจอย่างหงุดหงิด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในค่ำวันนั้นทำให้ฉันรู้สึกว้าวุ่นใจขึ้นมาในเวลาอันรวดเร็ว พอนึกขึ้นได้ว่าถึงเวลาจะได้พักผ่อนเสียทีโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นมา ฉันเหลือบมองหมายเลขศัพท์ของผู้โทรมาแล้วได้แต่ถอนใจ เป็นพ่อของฉันเอง ฉันจำต้องรับสายอย่างไม่เต็มใจ

“ลูกกับมาร์คต้องมางานเลี้ยงวันเกิดของพ่อในช่วงสุดสัปดาห์นี้นะ!” เสียงพ่อดังก้องออกมาจากโทรศัพท์ แล้วก่อนที่ฉันจะทันได้โต้ตอบอะไร พ่อก็วางสายไป

ฉันกลอกตาด้วยความหงุดหงิดจนพูดอะไรไม่ออก พ่อยืนกรานมาโดยตลอดว่าฉันต้องอยู่กับมาร์ค ถึงแม้ฉันจะพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อแสดงให้เห็นว่าฉันเกลียดมันมากขนาดไหนก็ตาม

ฉันผละออกจากโทรศัพท์ เปิดหน้าบันทึกการโทรออก แล้วค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของพ่อ ฉันกดนิ้วลงไปอย่างหนักแน่น เพื่อเปิดเมนูตัวเลือกแล้วเลือก "ปิดกั้นรายชื่อติดต่อ" มีข้อความยืนยันเด้งขึ้นมา แล้วฉันก็กดปุ่ม "ยืนยัน" แล้วหมายเลขโทรศัพท์นั้นก็หายไปจากรายชื่อผู้ติดต่อทันและถูกลบออกจากโทรศัพท์ทันที

ฉันโยนโทรศัพท์ลงไปบนโซฟา ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นโดยเอาหลังพิงกับเบาะนุ่ม ๆ พร้อมกับพักศีรษะไว้บนที่วางแขนบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า

ถึงแม้ว่าฉันจะโกรธและเสียใจขนาดไหน ฉันก็รู้ว่าฉันยังต้องกลับไปเยี่ยมท่านในช่วงสุดสัปดาห์นี้ นี่เป็นวันเกิดของพ่อ คงจะไม่ใช่โอกาสอันดีนักที่จะประกาศข่าวเรื่องการหย่าร้างของฉันกับมาร์คออกไป สิ่งที่ฉันต้องการคือพาตัวเองให้หลุดพ้นจากเรื่องทั้งปวง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status