Share

เมียก้นครัว...(2)

สองเท้าเดินตรงมายังรถตู้ซึ่งจอดอยู่ บอดีการ์ดเปิดประตูให้คน

เจ้าเนื้อขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งเดิม

“ทำไมมาช้านักล่ะลูก” อรนิดเห็นลูกสาวไปรับยานานแล้ว นึกเป็นห่วงเกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงบอกคนให้ไปตาม

แม้ว่าที่นี่จะเป็นโรงพยาบาลในเครือของเดียร์มาสกรุ๊ป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัย

“พอดีว่าหนึ่งเดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยไปชนกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ ก็เลยคุยกับเขานานไปหน่อย”

นับหนึ่งตอบผู้เป็นแม่พลางเอื้อมไปดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดอก และเห็นสายตาของบอดีการ์ดคนที่เดินตามตัวเองหันกลับมาจ้องมอง แววตานั้นมีความเคลือบแคลงบางอย่างจนเธออดที่จะเอ่ยถามไม่ได้

“มองหน้าฉันตั้งนาน มีอะไรหรือเปล่า จะถามอะไรก็ถามมา”

“คุณนับหนึ่ง ทราบหรือเปล่าครับว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร”

“ไม่ทราบสิคะ ก็คนแก่ทั่วไปมาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลหรือเปล่า”

หญิงสาวแกล้งตีหน้าซื่อเฉไฉ ทั้งที่จริงก็พอจะมองออกอยู่บ้างว่า

ชายสูงอายุคนนั้นน่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง

บอดีการ์ดถอนหายใจออกมาเบา ๆ แต่นับหนึ่งก็ได้ยินอยู่ดี จึงเอ่ยถามเพราะดูท่าแล้วเจ้าตัวมีท่าทีกังวลใจผ่านทางสีหน้าอย่างชัดเจน

“ทำไมเหรอคะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นใคร ทำอย่างกับว่าเธอกับชายสูงวัยคนนั้นจะต้องวนกลับมาเจอกันอีก

“ผู้ชายคนนั้นคือเดลเลอร์ หัวหน้าแก๊งสเตนซึ่งมีอำนาจในเขตปกครองเมืองเดมิเชี่ยน”

เขาบอกเพียงสั้น ๆ หญิงสาวไหวไหล่เล็กน้อย ก็เคยได้ยินเรื่องราวของสามแก๊งผู้นำของแร่มาบ้าง แต่ไม่เคยเห็นหน้าสักคน ไม่สิ เห็นอยู่คนหนึ่งแทบทุกวัน แต่หน้าเนี่ยเหมือนกับหินปั้น แถมยังใจร้ายกับเธออีกด้วย

ก็แค่บังเอิญเจอก็เท่านั้น ทำไมต้องมีท่าทีกังวลใจด้วย เธอไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวสักหน่อย

“ถึงยังไงคุณนับหนึ่งก็ไม่ควรไปยืนคุยกันนานขนาดนั้น ผมเกรงว่า

ถ้าคุณฌอนรู้อาจจะ...”

ประโยคหลังไม่กล้าเอ่ยแต่ก็พอจะเดาได้ว่าหมายถึงอะไร บอดีการ์ดหนุ่มไม่อยากพูดถึงการลงโทษเพราะเกรงว่าแม่ของเธอจะพลอยได้ยินไปด้วย

“นายก็ไม่ต้องเอาไปรายงานสิ แค่นี้เรื่องก็จบ...”

หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทว่านัยน์ตากลับดุกร้าวจนเย็น

ยะเยือกไปทั้งสันหลัง เขาได้แต่พยักหน้าให้แทนคำตอบแล้วหันกลับไปมองเบื้องหน้าของถนนแทน

อรนิดได้ยินบทสนทนาของลูกสาวกับบอดีการ์ดว่าไปเจอใครมา

มือเหี่ยวย่นสั่นระริก เม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามไรผม แววตามีแต่ความหวาดกลัว

สีหน้าไม่สู้ดีจนนับหนึ่งสังเกตเห็น

“แม่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” อรนิดเงยหน้าขึ้นสบตาผู้เป็นลูกสาว ก่อนจะเอื้อมไปกุมมือ นับหนึ่งย่นหัวคิ้วเข้าหากัน

“หนึ่ง...”

“คะ?”

อรนิดเรียกชื่อลูกสาวแล้วเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังชั่งใจ เอ่ยพูดต่อไม่ค่อยเต็มเสียงนัก

“อยู่ให้ห่างจากผู้ชายที่ชื่อเดลเลอร์ อย่าไปเจอเขา”

ขณะพูดอรนิดเขย่ามือผู้เป็นลูกเบา ๆ สีหน้ามีความกังวลอย่างเห็น

ได้ชัด นับหนึ่งไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ต้องสั่งห้ามทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ากันกับผู้ชายคนนั้นเลย

“ทำไมล่ะคะ ... แม่รู้จักเขาเหรอคะ?”

“คือว่า ... เอ่อ ...”

“คืออะไรคะ แม่อ้ำอึ้งทำไม”คราวนี้เป็นนับหนึ่งเขย่ามือแม่คืนบ้าง

“จะทำไมก็ช่างเถอะ! เอาเป็นว่าทำตามที่แม่บอกก็พอ”

อรนิดขึ้นเสียงดังแถมยังมีท่าทีหงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นับหนึ่งถึงกับหน้าเสียรีบพยักหน้ารับปาก ทั้งที่ไม่รู้ว่าเหตุผลว่าทำไม

‘เดลเลอร์’ คุณลุงคนนั้นชื่อเดลเลอร์อย่างนั้นเหรอ นับหนึ่งยืนคิดเรื่องของชายสูงอายุเมื่อวานด้วยอาการเหม่อลอย

ฌอนเดินมาหยุดอยู่ตรงเคาน์เตอร์ห้องครัว ยกมือโบกไล่ทุกคนให้ออกไป เขาเหลือบมองน้ำแกงในหม้อที่กำลังเดือดปุด ๆ น้ำเริ่มแห้งจนแทบจะไหม้หม้อ

แผ่นหลังใหญ่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ผมยาวถูกมัดลวก ๆ ขึ้นไปไว้กลางศีรษะ เสื้อแขนยาวถูกถลกขึ้นมาไว้เหนือศอกเพื่อให้ทะมัดทะแมงกับการทำอาหารในแต่ละมื้อ ภาพตรงหน้าเขาเห็นจนชินตาตั้งแต่แต่งงานกันมา

‘เมียก้นครัว’ เขายัดคำนี้ให้เธอเพื่อที่จะได้ไม่ต้องออกไปเจอใครที่ไหนตามคำสั่งเสียสุดท้ายที่พ่อได้ขอเอาไว้ แม้จะเกลียดแค่ไหนแต่น่าแปลกที่เขากลับทำตามคำสั่งของพ่อแทบทุกอย่าง

“โอ้ย!”

“หนึ่ง” มาเฟียหนุ่มถลาเข้าไปหา

ปลายนิ้วชี้มีเลือดไหลจากปากแผล เขาหันไปเห็นมีดหั่นผักค้างก็เข้าใจได้ทันที เดินไปปิดแก๊สพร้อมเลยไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลในตู้บิ้วอินเหนือศีรษะเดินกลับมา

“ทำอะไร ทำไมถึงไม่ระวัง”

ดึงมือป้อมเข้ามาใกล้ นับหนึ่งเหลือบมองแล้วจะชักมือกลับ แต่เขาจับเอาไว้แน่นและลงมือทำแผลให้ เธอทำตัวไม่ถูกกับการกระทำของเขา และ

ยิ่งสับสนเข้าไปอีกเมื่อฌอนเอ่ยขึ้นมา

“คิดมากเรื่องแม่เหรอ”

“คุณฌอนรู้?” ไม่ได้ตอบแต่ย้อนถาม

“มีเรื่องอะไรในเดียร์มาสที่ฉันไม่รู้ด้วยเหรอ” คำตอบที่ได้รับเรียบนิ่ง น้ำเสียงเย็นชาเหมือนเคยบรรยากาศโดยรอบเงียบลงไปครู่หนึ่ง จนกระทั่งเขาทำแผลปลายนิ้วให้เสร็จ

ฌอนเงยหน้าขึ้นมองคนตัวอ้วน แววตาของเด็กน้อยในวันนั้นยังคงดู

ใสซื่อ แต่ไม่สดใสเหมือนเดิม เขาไม่อยากเห็นแววตาน่าสงสารนั้น กำลังจะผละจากตรงนั้นไปต้องชะงักเท้าลง

“3 เดือนค่ะ ... แม่ของหนึ่งมีชีวิตอยู่ได้แค่ 3 เดือน”

มาเฟียหนุ่มหันกลับไปช้า ๆ ใบหน้าเขาเย็นชาเหมือนเดิม นับหนึ่งจ้องใบหน้าหล่อนิ่งงัน ไม่คิดเลยว่าเขาจะพูดทำร้ายจิตใจเขาได้ขนาดนี้

“เวรกรรมไง เพราะแม่ฉันก็ต้องมาตายเพราะแม่เธอเหมือนกัน”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หย่ารัก สามีมาเฟีย   หนึ่งทางที่เลือก(จบ)

    “แกเป็นยังไงบ้างเจ็บมากหรือเปล่า” วิลันดาเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าเพื่อนทำท่าเหมือนจะร้องไห้“เจ็บมากเลยแก เจ็บทั้งใจเจ็บทั้งตัวเสียทั้งลูก” ปากเรียวฉีกยิ้มให้กับเพื่อนแต่ดวงตากลับคลอไปด้วยหยดน้ำใส“โธ่ ยัยกรีน ทำไมแกต้องมาเจอเรื่องแย่ ๆ แบบนี้ด้วยฉันไม่คิดเลยว่าคุณชรัณต์เขาจะทำร้ายแกได้ลง” ร่างเล็กของวิลันดาก้มลงกอดเพื่อนแม้จะมีเหล็กกั้นเตียงเป็นอุปสรรคอยู่บ้างแต่มันก็ไม่สามารถกั้นความเป็นห่วงของเพื่อนที่คอยดูแลกันมาตั้งแต่เด็กได้“ฉันขอบใจแกมากนะที่คอยไปดูร้านให้”“ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้สบายมาก ว่าแต่แกเถอะจะเอายังไงต่อไปเรื่องคุณชรัณต์” ที่ถามแบบนี้เพราะหล่อนรู้ดีว่าเพื่อนเธอรักเขามากแค่ไหนแต่ว่าทำร้ายกันขนาดนี้ถ้าเพื่อนเธอยังให้อภัยได้ก็แกร่งเกินคนแล้ว ส่วนเธอก็เตรียมกินอาหารเม็ดแทนข้าวได้เลย“แกช่วยหาทนายเก่ง ๆ สักคนให้หน่อยได้ไหม”หญิงสาวไม่ได้ตอบคำถามเพื่อนแต่พอวิลันดาได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ารับและพอเข้าใจความหมายจึงไม่ได้ถามอะไรต่อจนกระทั่งพ่อกับย่าศรีไพรเข้ามาเยี่ยมเธอจึงขอตัวลากลับทางด้านอรจิราซึ่งก็รู้สึกผิดกับเรื่องที่ตัวเองร่วมก่อจึงเดินทางมาเยี่ยมกวินตาเหมือนกันแต่เธอไม่ยอ

  • หย่ารัก สามีมาเฟีย   ไม่มีเหตุผลที่ต้องอยู่

    บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินชรัณต์ยังคงมองผ่านช่องกระจกใสเข้าไปด้านใน ทีมแพทย์และพยาบาลต่างวุ่นวายกับการรักษาเสียงร้องจากความเจ็บปวดของคนเป็นเมียดังเล็ดรอดออกมาให้ได้ยินเป็นระยะ ๆ เสียงที่ได้ยินมันช่างบาดลึกลงไปก้นบึ้งของหัวใจ“ยัยกรีนอยู่ไหน หลานย่าอยู่ที่ไหน”หญิงชราเดินโอนเอนด้วยความเร็วเข้ามาโดยที่มีพ่อของกวินตาประคองเข้ามา ชรัณต์รีบเดินเข้าไปหาเพื่อที่จะเอ่ยขอโทษที่ดูแลกวินตาไม่ดีโดยที่คิดว่าพวกท่านไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือแรง ฝ่ามือจากคนเป็นพ่อตา“คุณพ่อ”“ไม่ต้องมาเรียกผมว่าพ่อ คุณทำกับลูกสาวผมแบบนี้ได้ยังไง” สองมือขยุ้มคอเสื้อสรรพนามที่เรียกลูกเขยเปลี่ยนไปเป็นห่างเหินจากที่เมื่อก่อนท่านเคยรักและเอ็นดูยามนี้แทบไม่อยากจะเผาผีผู้ชายตรงหน้าด้วยซ้ำ ใบหน้าคมคายสลดลงดวงตาแดงก่ำร่างสูงสั่นคลอนไปมาตามแรงเขย่า“ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ”“ไม่ได้ตั้งใจเหรอคุณกล้าพูดคำนี้ออกมาได้ยังไง ฮะ!” ยิ่งชรัณต์พูดก็เหมือนกับแก้ตัวมันกลับยิ่งเพิ่มแรงเขย่ามากขึ้นไปอีกจนก้านแก้วต้องรีบเข้ามาห้ามปราม“พอเถอะค่ะคุณ ต้นเหตุเรื่องทุกอย่างมันเป็นเพราะฉันเอง”“ก้านแก้ว เธอมาอยู่ที่นี่ได้ย

  • หย่ารัก สามีมาเฟีย   ความจริงที่ต้องรู้(2)

    เสถียรรู้ดีว่าในสายตาของลูกชายเมียเก่าของเขานั้นเป็นเหมือนนางฟ้าใจที่มีจิตใจดี แต่ใครจะรู้ว่านั่นมันคือเปลือกนอก“ไม่จริง พ่อโกหกผมเพื่อปกป้องมัน” ดวงตาคมแดงก่ำลำคอแข็งเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่“ถ้าไม่เชื่อแกก็เอานี่ไปอ่าน จดหมายส่งมาจากเรือนจำถ้าอ่านแล้วแกไม่เชื่อก็ไปหาไอ้ภากรได้เลย ที่พ่อปิดเรื่องนี้เอาไว้ก็เพราะไม่อยากเห็นแกต้องเสียใจ คุณก้านแก้วเขายอมรับบทเป็นคนร้ายให้แกทำร้ายมานานเกินไปแล้วตารัณต์”คนเป็นพ่อยื่นจดหมายให้ลูกพร้อมกับเอื้อมมือไปตบไหล่ ชายหนุ่มมองหน้าพ่อตัวเองแล้วไม่อยากจะเชื่อกับความจริงที่ได้รับรู้ก้านแก้วเดินเข้าไปประคองเสถียรด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ดีว่าช่วงนี้สุขภาพของคนเป็นสามีไม่ค่อยดี เธอได้แต่ยกมือไหว้และยิ้มขอบคุณที่อย่างน้อยสามีเธอก็เป็นคนมีเหตุผล ความผูกพันที่เธอได้อยู่กันมามันหล่อหลอมเป็นความเข้าใจมือสั่นเทาเปิดอ่านจดหมายทีละคำด้วยทุกบรรทัดมันได้เล่ารายละเอียดเรื่องราวที่ทำให้เขาฝั่งใจจนเก็บเป็นความแค้นเอาลงกับคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาช้า ๆ เขาร้องไห้มันออกมาโดยที่ไม่อายใครแต่แล้วความแค้นที่เขาได้ก่อไว้มันกำลังจะหวนกลับมาคืนสนองเ

  • หย่ารัก สามีมาเฟีย   ความจริงที่ต้องรู้(1)

    รุ่งเช้าของวันใหม่กวินตาตื่นขึ้นมาภายในห้องนอนของตัวเอง เธอมองไปรอบ ๆ ห้องด้วยความเจ็บปวดยิ่งมือบางสัมผัสเตียงนอนที่พวกเขามาเสวยสุขกันบนนี้เธอยิ่งรู้สึกรังเกียจร่างเล็กดีดตัวลุกจากเตียงแล้วกระชากผ้าปูที่นอนออกไปกองไว้กับพื้น แค่คิดถึงเรื่องอย่างว่าที่พวกเขาทั้งสองมาเหยียบย้ำหัวใจเธอมันก็เกิดอาการอยากอาเจียนขึ้นมาจึงรีบวิ่งเข้าไปอ้วกในห้องน้ำบนโต๊ะอาหารเช้าทุกคนต่างลงมานั่งรอทานอาหารด้วยกันเว้นเพียงกวินตาที่ยังไม่ได้ลงมาจากด้านบนเพียงแค่คนเดียว“แล้วนี่กวินตาไปไหน ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ฉันยังไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นลงมากินอาหารเช้าร่วมกับคนอื่นเลยนะ”อยู่ ๆ เสถียรก็ถามหากวินตาขึ้นมาทั้งที่เมื่อก่อนเขาไม่สนใจเสียด้วยซ้ำและไม่เคยยอมรับว่ากวินตาเป็นลูกสะใภ้“ฉันก็ไม่ทราบเลยค่ะ ยังไม่เห็นเธอลงมาจากบนห้องเลยตั้งแต่เช้า”ก้านแก้วเองก็รู้สึกเป็นห่วงลูกอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งได้ยินเรื่องเมื่อวานเย็นที่ป้านวลเห็นเรื่องบัดสีของชรัณต์กับอรจิราแล้วนำมาเล่าให้ฟังเธอยิ่งรู้สึกเป็นห่วงลูกสาวจับใจบทสนทนาของคนเป็นพ่อกับแม่เลี้ยงอรจิราได้ยินทุกคำแล้วหันไปมองหน้าชรัณต์ที่นั่งกินข้าวเหมือนทองไม่รู้ร้

  • หย่ารัก สามีมาเฟีย   ความเจ็บที่ต้องชิน

    หายไปไหนมา รู้ไหมนี่มันกี่โมงแล้ว” น้ำเสียงที่ตะโกนถามตั้งแต่กวินตายังเดินไม่พ้นขอบประตูบ้านเสียด้วยซ้ำ ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นใครไม่รู้ว่าวันนี้ไปกินรังแตนจากที่ไหนมาถึงได้มาฉุนเฉียวใส่หน้าเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกของวัน“สองทุ่มค่ะ ยังไม่ได้ดึกด้วย” น้ำเสียงราบเรียบที่ตอบหญิงสาวไม่รู้เลยว่าได้สร้างความเดือดดาลให้กับชรัณต์มากขึ้นไปอีก“แล้ววันนี้ไปไหนมา ผมโทรไปที่ร้านคุณก็ไม่ได้เข้าไปที่นั่น” มือหน้าคว้าเข้าไปที่ต้นแขนพร้อมกับออกแรงบีบจนขึ้นรอยแดงแม้มันจะเจ็บแต่กวินตาก็ไม่เอ่ยร้องออกมาเหมือนทุกครั้งในเมื่อเขาอยากจะทรมานเธอเพื่อระบายความแค้นเธอก็จะยอมทนแต่เมื่อใดที่เธอหลุดพ้นไปแล้วเธอสัญญาว่าจะไม่หวนกลับมาอย่างแน่นอน“ไปกับวิมาค่ะ เรานัดทานข้าวด้วยกัน”“แล้วทำไมถึงไม่บอกคนที่บ้านไว้ ไปไหนมาไหนทำไมถึงไม่บอก”ชรัณต์ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตัวเองกลายเป็นคนจู้จี้ไปตั้งแต่เมื่อไร เมื่อก่อนหญิงสาวจะไปไหนมาไหนเขาแทบจะไม่เคยเอ่ยปากถามเลยเสียด้วยซ้ำ“จำเป็นด้วยเหรอคะ เพราะยังไงการที่กรีนอยู่บ้านหลังนี้ก็เหมือนวิญญาณที่ไร้ตัวตนอยู่แล้ว จะอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่ต่างกัน”คางเล็กเชิดขึ้นมองตาคนที่สูงกว่าเห

  • หย่ารัก สามีมาเฟีย   ทางออกที่เลือก

    “ป้านวล หนูกรีนยังไม่ลงมาทานข้าวอีกเหรอ” ก้านแก้วหันไปถามแม่บ้านที่กำลังยกทัพพีตักข้าวให้กับเสถียร“คุณกรีนออกไปข้างนอกตั้งแต่รุ่งสางแล้วค่ะ ไม่ได้บอกไว้ว่าไปไหนแต่เห็นบอกว่าคืนนี้จะไม่กลับมานอนที่นี่นะคะ”ชรัณต์ที่นั่งร่วมโต๊ะทานอาหารเช้าอยู่เมื่อได้ยินอย่างนั้นถึงกับ ขบกรามแน่น เขาไม่พอใจที่เธอไปไหนมาไหนไม่บอกจึงวางช้อนลงพร้อมกับลุกออกจากโต๊ะอาหาร“คุณอิ่มแล้วเหรอคะรันต์ อรเห็นทานแค่ไม่กี่ช้อนเองนะ” อรจิราเอ่ยทักท้วงเมื่อเห็นเขาลุกขึ้นยืน“กินไม่ลง เห็นหน้าฆาตกรแล้วชวนอ้วก” ไม่ได้แค่เอ่ยประโยคทิ่มแทงออกมาแต่ดวงตาคมยังตวัดมองก้านแก้วซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอีกด้วยชรัณต์เดินออกมาบริเวณหน้าบ้านโดยที่มีอรจิราเดินตามหลังออกมาพร้อมกับถือกระเป๋าสะพาย“แล้วนี่คุณจะไปไหน” เมื่อเห็นหญิงสาวจะเดินไปยังโรงเก็บรถชรัณต์จึงเอ่ยปากถาม“คุณรันต์อย่าลืมสิคะว่าอรก็มีงานที่จะต้องทำไม่ได้มีหน้าที่เล่นละครรับบทบาทเป็นเมียหลวงอย่างเดียวนะ” รอยยิ้มอ่อนผุดขึ้นบนใบหน้าชรัณต์มองตามหลังรถของอรจิราที่เคลื่อนออกไปแล้วจึงยกโทรศัพท์โทรหากวินตาแต่ทว่าโทรไปเท่าไรเจ้าตัวก็เอาแต่ตัดสายทิ้งแถมสายล่าสุดยังปิดเครื

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status