Compartilhar

บทที่ 10

Autor: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 10

“พรุ่งนี้เช้าจะไปที่บริษัทย่าซั่วพร้อมหน้าตาบวมช้ำแบบนั้นเหรอ?” เขาเอ่ยแซว

“กลับไปฉันจะประคบเย็น พรุ่งนี้ก็คงแต่งหน้ากลบได้แล้ว”

“อยากให้ผมจูงมือพาเข้าบ้าน หรือว่าจะเดินเข้าไปเอง?”

“...” เปลือกตาของสวีเหยียนซีกระตุกสองครั้ง ภายใต้อำนาจกึ่งบังคับกึ่งกดดันของเขา สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเดินเข้าไปเอง

เพราะเธอรู้ดีว่าจ้าวจวิ้นโจวเป็นคนที่พูดจริงทำจริง และไม่เคยพูดเล่น

เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน ลุงโจว ซึ่งเป็นพ่อบ้านก็ยกถุงน้ำแข็งที่เตรียมไว้ล่วงหน้ามาให้ จ้าวจวิ้นโจวเชิดคางเล็กน้อยเป็นเชิงสั่ง “เอาไปให้เธอ”

สวีเหยียนซีรับถุงน้ำแข็งมา “ขอบคุณค่ะ”

ลุงโจวยิ้มอย่างเป็นมิตร “ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ” พูดจบ เขาก็พาคนรับใช้ออกไป ปล่อยให้พวกเขาสองคนอยู่กันตามลำพัง

สวีเหยียนซีนั่งประคบเย็นนิ่ง ๆ พลางคิดหาวิธีที่จะออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

“จะหย่าเมื่อไหร่?” จ้าวจวิ้นโจวถามขึ้นอย่างกะทันหัน จนมือของเธอชะงักไป

สายตาของเขาหรี่ลง ริมฝีปากก็ยกยิ้มเย็น “หรือว่ายังไม่คิดเรื่องการหย่าอย่างจริงจังอีก? สวีเหยียนซี ในเมื่อยังไม่ตัดสินใจ แล้วคุณยังจะกล้ามายุ่งกับผมก่อนอย่างนั้นเหรอ?”

“เรื่องการหย่าก็ยังต้องมีช่วงทบทวนอยู่ค่ะ” เธอยังคงประคบเย็นต่อไป “และท่านประธานพูดผิดไปแล้ว ตอนแรกเราตกลงกันว่าถ้าฉันแพ้ ฉันจะเข้าทำงานในทีมสถาปนิกของคุณ ซึ่งฉันก็ยอมแพ้พนันและทำตามสัญญาแล้ว แบบนี้เรียกว่ายุ่งกับคุณตรงไหนคะ?”

“ก็มีเหตุผล” เขาพยักหน้าช้า ๆ ท่าทีดูไม่ใส่ใจ แต่ปลายเสียงกลับยืดยาว “แต่คุณก็รู้นี้ ว่าผมชอบคุณ”

“...” ดวงตาของเธอสะท้อนแสงวูบวาบ ใจของเธอเริ่มสั่นไหว

“ก็ได้ งั้นคุณก็ค่อย ๆ หย่า ผมไม่รังเกียจที่จะเป็นชู้ของคุณ”

“???” คำพูดนั้นทำเอาสวีเหยียนซีตกใจจนขนลุกซู่ “จ้าวจวิ้นโจว คุณรู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่!”

พอได้ยินเธอเรียกชื่อเต็มของเขาด้วยความร้อนรน ชายหนุ่มก็ยกมุมปากขึ้น ยิ้มอย่างสนุกใจ “กลัวเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็รีบจัดการสิก็แค่การหย่า ไม่ได้ถึงกับเอาชีวิตคุณสักหน่อย”

สวีเหยียนซีแทบอยากจะกลอกตาใส่เขา “ขอบคุณนะคะ”

จ้าวจวิ้นโจวหัวเราะจนไหล่สั่น “ไม่ต้องขอบคุณหรอก ผมก็แค่อยากให้คุณหลุดพ้นจากนรกไว ๆ เสียที”

สวีเหยียนซีรู้สึกว่าถ้ายังอยู่คุยต่อ เธอก็คงจะรักษาสีหน้าเอาไว้ไม่อยู่แน่ ๆ ผู้ชายคนนี้ชัดเจนว่าตอนทำงานเป็นยมทูตเย็นชา แต่พออยู่ต่อหน้าเธอกลับกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ไปได้

เธอลุกขึ้นยืน “ขอบคุณสำหรับถุงน้ำแข็งนะคะท่านประธานจ้าว ดึกมากแล้ว ฉันจะกลับไปพักผ่อนแล้วค่ะ”

“อืม เดี๋ยวผมไปส่ง”

“ไม่ต้องค่ะ” เธอรีบปฏิเสธในทันที แต่เขากลับลุกขึ้นยืนเสียก่อนแล้ว

จ้าวจวิ้นโจวก้มหน้าลงมองเธอ “ถือว่าเป็นการทำความคุ้นเคยกับเส้นทางเอาไว้ เวลาผมเรียก คุณจะได้มาหาผมได้เร็วที่สุด”

คำพูดนั้นไม่ว่าจะฟังอย่างไรก็ดูแปลกประหลาด

เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา ได้แต่เดินตามเขาไปอย่างเงียบ ๆ

เส้นทางที่จ้าวจวิ้นโจวพาเดินไม่ใช่ถนนใหญ่หน้าประตูหลัก แต่เป็นเพียงทางเล็ก ๆ อีกทางหนึ่ง ถ้าเดินไปทางนี้จะทะลุไปถึงประตูทิศตะวันตกของว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์ ใช้เวลาเดินเพียงหกถึงเจ็ดนาทีเท่านั้น

แต่เส้นทางนี้จะว่าลับก็ไม่เชิง

ทำไมไม่ลับนะเหรอ ก็เพราะตลอดทางมีไฟเรียงยาวไปสุดสายตา ซ้ายขวาเป็นสวนพักผ่อนส่วนตัวในคฤหาสน์

เมื่อเดินมาจนสุดทาง สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือฝั่งเหนือของว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์ ซึ่งปกติแล้วจะไม่มีประตูทางออกเพราะติดกับคฤหาสน์จวี๋ซาน ตอนออกแบบก็ไม่อนุญาตให้สร้างทางเชื่อม

แต่ตอนนี้ ภายใต้การนำของจ้าวจวิ้นโจวเธอกลับเห็นประตูเล็กหนึ่งบาน แถมยังเป็น... ประตูที่ต้องใช้การสแกนลายนิ้วมือด้วย!?

มือขวาของจ้าวจวิ้นโจวโบกไปมาต่อหน้าเธอ เรียกสติให้เธอกลับคืนมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ “สวีเหยียนซี จำทางได้แล้วหรือยัง?”

สวีเหยียนซียังคงยืนงงงวย สายตาของเธอยังคงจ้องไปที่ประตูเล็ก “ไม่ใช่ว่า...”

“ผมสร้างเอง ผมอยากสร้างยังไงก็สร้างอย่างนั้น” น้ำเสียงของจ้าวจวิ้นโจวหยิ่งทะนง พูดออกมาอย่างไม่เกรงใจใคร

สวีเหยียนซีถึงกับพูดไม่ออก เพราะคนรวยสามารถหยิ่งทะนงได้จริง ๆ อีกอย่าง คุณสมบัติในการซื้อบ้านที่ว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์ ก็ถือว่าเข้มงวดที่สุดในเมืองจิงแล้ว

เพราะคำพูดของจ้าวจวิ้นโจวคือกฎ

“เข้ามา สแกนลายนิ้วมือ”
Continue a ler este livro gratuitamente
Escaneie o código para baixar o App

Último capítulo

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 44

    บทที่ 44จ้าวจวิ้นโจวเก็บมือกลับอย่างพึงพอใจ แล้วหันไปคุยเรื่องงานกับเหมารุ่ยเฟิงต่ออย่างเป็นธรรมชาติระหว่างนั้น เหมารุ่ยเฟิงก็เปลี่ยนหัวข้อมากล่าวถึงสวีเหยียนซี “สถาปนิกสวีมาที่เมืองไห่กับประธานจ้าวในครั้งนี้ ก็เพื่อเก็บข้อมูลนี่เอง แบบนี้ผมก็ยิ่งตั้งตารอแบบร่างเบื้องต้นของสถาปนิกสวีมากขึ้นแล้วสิ”สวีเหยียนซียิ้มอย่างสุภาพ “วางใจได้เลยค่ะ”เมื่อเหมาเจียนั่วได้ยินดังนั้นก็เข้าใจความหมายในทันที จึงเอ่ยถามว่า “พ่อคะ เธอสถาปนิกที่รับงานโปรเจกต์ก่อสร้างล่าสุดของพ่อเหรอคะ?!”“อืม” เหมารุ่ยเฟิงตอบห้วน ๆ พลางตำหนิลูกสาวของตัวเอง “ดูสถาปนิกสวีสิ ทั้งอายุน้อย ทั้งเก่งกาจขนาดนี้ แกควรจะเรียนรู้จากสถาปนิกสวีบ้างนะ เลิกเอาแต่เล่นเป็นเด็กไร้ประโยชน์ได้แล้ว”เหมาเจียนั่วหน้าแดง “พ่อคะ อยู่ข้างนอกไว้หน้าหนูหน่อยเถอะคะ”“แล้วแกเคยไว้หน้าฉันบ้างไหม?”“...”แม้จะดูเหมือนพ่อลูกทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ได้ดูเหมือนโกรธกันจริงจัง สวีเหยียนซีมองแล้วก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เธอเผลอเหม่อ หากตอนนั้นเธอไม่ได้ถูกสลับตัวตั้งแต่แรก เธอกับพ่อแท้ ๆ ก็คงจะมีความสัมพันธ์ที่อบอุ่นแบบนี้เช่นกัน“เ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 43

    บทที่ 43“เจ้าของของที่นี่เป็นเพื่อนกับผมเอง” จ้าวจวิ้นโจวอธิบาย พร้อมกับถามเธอกลับ “คุณมีเวลาหาข้อมูลในนี้เงียบ ๆ ชั่วโมงเดียวเท่านั้น แน่ใจเหรอว่าจะเสียเวลาถามคำถามนี้?”สวีเหยียนซีได้สติในทันที แล้วรีบหยิบกล้องขึ้นมา “ขอบคุณค่ะท่านประธานจ้าว”พูดจบ เธอก็เริ่มตั้งสมาธิทำงานทันทีจ้าวจวิ้นโจวเดินตามเธออยู่ไม่ห่างด้วยท่าทีที่สบาย ๆ ไม่นานนัก ในมือของเขาก็มีทั้งกาแฟที่เธอยังดื่มไม่หมด รวมถึงกระเป๋าของเธอสวีเหยียนซีไม่รู้ตัวเลยว่า ในขณะที่เธอเพลิดเพลินอยู่กับงาน เธอกลับส่งของพวกนั้นให้เขาไปโดยไม่รู้ตัวเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สวีเหยียนซีเก็บข้อมูลครบทุกอย่างที่ต้องการแล้วก็รู้สึกเบิกบานด้วยความดีใจพอเธอหันกลับมาจะบอกจ้าวจวิ้นโจวว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นกระเป๋าของตัวเองอยู่ในมือเขา!เธอแทบอยากจะสบถออกมา รีบคว้ากระเป๋าคืนจากมือเขา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด “ขอโทษค่ะท่านประธานจ้าว เมื่อกี้คุณควรเตือนฉันนะคะ”เพราะเมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉินเซียว เธอชินกับการส่งของให้เขาช่วยถือโดยไม่ทันคิดอะไร คราวนี้ก็เลยเผลอแสดงพฤติกรรมแบบเดิมออกมาโดยไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 42

    บทที่ 42สวีเหยียนซีกัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกกระอักกระอวน ก่อนจะรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ท่านประธานจ้าวมาเจอลูกค้าแถวนี้เหรอคะ?”จ้าวจวิ้นโจวตอบตรง ๆ โดยไม่ปิดบัง “ในโทรศัพท์มีระบบแชร์พิกัดอยู่”“???” สวีเหยียนซีเบิกตากว้าง มองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าตัวเองอย่างเหลือเชื่อครู่หนึ่ง ก่อนพูดอย่างหงุดหงิดว่า “คุณ!”จ้าวจวิ้นโจวเลิกคิ้วขึ้น “โทรศัพท์ที่ผมให้คุณใช้ คุณไม่เคยเปิดดูเลยหรือไง?”เธออึ้งไปชั่วขณะ “นั่นเป็นโทรศัพท์ของคุณ ฉันจะกล้าไปค้นอะไรแบบนั้นได้ยังไง?”“ผมให้คุณใช้ ก็เท่ากับว่ามันเป็นของคุณชั่วคราว ถ้าคุณเปิดดูแล้วปิดระบบนี้ไป ผมก็คงหาคุณไม่เจอ แบบนี้จะโทษใครดีล่ะ?”สวีเหยียนซีชื่นชมสกิลปากของเขาจริง ๆ เธอฝืนยิ้ม “คุณบอกกันตรง ๆ ก็ได้ ว่ามีระบบนี้อยู่”ตอนแรกเธอก็รู้สึกว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นเหมือนตัวปัญหาอยู่แล้ว ตอนนี้เธอยิ่งมั่นใจว่าจะไม่ใช้มันอีกจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้ต่อล้อต่อเถียง แต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดหน้าจอให้เธอเห็น ก่อนจะกดปิดระบบแชร์พิกัดนั้นต่อหน้าเธอ “ทีนี้ก็สบายใจได้แล้ว รอบหน้าผมหาคุณไม่เจอแล้ว”สวีเหยียนซีปฏิเสธ “ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะคะ แต่ไม่จำเ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 41

    บทที่ 41สวีเหยียนซีไม่พูดอะไร เพียงแต่กดโทรออกสีหน้าของเหมาเจียนั่วค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้น ชัดเจนว่าเธอไม่คิดว่าสวีเหยียนซีจะกล้าทำจริง!ไม่นาน เสียงของฟางห่าวก็ดังขึ้นจากปลายสาย “สถาปนิกสวี?”“ผู้ช่วยฟางคะ ฉันเจอคุณเหมาเจียนั่วที่ลานจอดรถใต้ดินของโรงแรม ดูเหมือนว่าเธอจะมีเรื่องด่วนอยากพบท่านประธานจ้าว แต่เพราะฉันขับรถของเขาออกมา เธอก็เลยตามมารังควานฉันอยู่ ตอนนี้ทำให้ฉันไม่สามารถทำงานได้ตามปกติค่ะ”เหมาเจียนั่วเบิกตากว้างทันที “???”ฟางห่าวพูดว่า “รอสักครู่นะครับสถาปนิกสวี เดี๋ยวผมจะจัดการให้”ทันทีที่วางสาย เหมาเจียนั่วก็ระเบิดอารมณ์ออกมาอีกครั้ง “เธอบอกว่าจะโทรแจ้งตำรวจไม่ใช่เหรอ! แล้วทำไมถึงโทรหาผู้ช่วยของจ้าวจวิ้นโจวแทนล่ะ!?”สวีเหยียนซียักไหล่เบา ๆ “ก็เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าที่นี่คือเมืองไห่ไม่ใช่เมืองจิง? ฉันก็แค่ทำตามคำแนะนำของเธอ การโทรหาตำรวจก็ไม่มีประโยชน์กับฉันอยู่ดี”“...” ไม่ใช่! ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเชื่อฟังกันจริง ๆ ด้วย?!ขณะที่เหมาเจียนั่วเอียงคอพลางชี้ไปที่สวีเหยียนซี เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พอไม่มีทางเลือก เธอจึงหยิบขึ้นมาดูและเห็นว่าเป็นสายจากพ่อ หน้าขอ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 40

    บทที่ 40แต่ว่าจ้าวจวิ้นโจวกดตัดสายไปแล้วเอาไว้รับสายอย่างเดียว ส่วนเวลาอื่น ๆ ก็เก็บไว้ในกระเป๋าก็พอ สวีเหยียนซีบอกแบบนั้นเพื่อปลอบใจตัวเอง ก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วลงไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดินเมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ ทั้งลานจอดรถ รถเบนท์ลีย์คอนติเนนทัลสีฟ้าโดดเด่นสะดุดตาเกินกว่าจะหาไม่เจอ เพราะมันมีอยู่เพียงคันเดียวเท่านั้นพอปลดล็อกด้วยกุญแจรถ สวีเหยียนซีก็แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายอย่างจ้าวจวิ้นโจวจะมีรถหรูที่สีหวานละมุนราวกับรถของนางฟ้าแบบนี้หรือว่าในใจเขาเองก็อาจจะมีมุมความเป็นเด็กสาวแอบซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูรถ จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งก้าวมาขวางตรงหน้า ยืนกอดอกพลางจ้องเธอตาไม่กะพริบ “นี่มันรถของจ้าวจวิ้นโจว! ทำไมกุญแจถึงอยู่ในมือเธอได้?”สวีเหยียนซีสะดุ้งเล็กน้อย ความคิดแรกคือนี่คงเป็นผู้หญิงที่ตามจีบเขาอยู่แน่ ๆเพียงแต่ใบหน้านี้ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนที่เมืองจิง แต่ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่านี่เป็นรถของจ้าวจวิ้นโจว ก็แปลว่าต้องรู้จักเขา เพียงแต่เธอไม่เคยเจอเท่านั้นเองเธอพูดว่า “ท่านประธานจ้าวให้ฉันยืมรถค่ะ”สิ้นคำพูดนั้น ผู้หญิงตรงหน้าก็ระเบิดอา

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 39

    บทที่ 39สวีเหยียนซีถึงกับอึ้งไปอีกครั้งจ้าวจวิ้นโจวรู้แม้กระทั่งรสนิยมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอ!ยิ่งไปกว่านั้น เธอเพิ่งเริ่มชอบชาลี่ซานเมื่อปีนี้เองด้วยซ้ำ แม้แต่ฉินเซียวยังคิดมาโดยตลอดว่าเธอชอบลาเต้ ทั้งที่เธอเคยบอกเขาไปหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยจำได้สักที ถึงอย่างนั้น เขายังอุตส่าห์ชงลาเต้มาให้ทุกวันไม่รู้เบื่อ เธอเลยไม่อยากทำให้ความตั้งใจของเขาเสียเปล่า สุดท้ายก็เลยไม่คิดจะเถียงให้มากความ ว่าเธอชอบชาลี่ซานหรือลาเต้กันแน่สวีเหยียนซีหลุบตาลงซ่อนความรู้สึกในแววตา ก่อนจะยกยิ้มบาง ๆ รับถ้วยชา พร้อมเอ่ยคำขอบคุณเธอก้มลงจิบชาหนึ่งอึก กลิ่นหอมหวานละมุนกระจายทั่วในปาก พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สายตากลับเผลอทอดมองไปยังฝั่งตรงข้าม จ้าวจวิ้นโจวกำลังอ่านนิตยสาร แขนซ้ายพาดไว้บนที่วางแขนเป็นท่าทางสบาย ๆ ทุกครั้งที่เขาเปิดหน้าหนังสือ ก็พลอยทำให้เธอเห็นชัดเจนถึงมือเรียวยาวสวยสมบูรณ์แบบคู่นั้นหัวใจเธอเผลอไหววูบ ก่อนจะครุ่นคิด จ้าวจวิ้นโจวคนนี้รู้เรื่องของเธอมากแค่ไหนกันแน่?-สองชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็มาถึงเมืองไห่เพื่อความเงียบสงบ สวีเหยียนซีเลือกที่จะไม่ปิดโหมดเครื่องบิน ปล่อยให้มันเป็นแบ

Mais capítulos
Explore e leia bons romances gratuitamente
Acesso gratuito a um vasto número de bons romances no app GoodNovel. Baixe os livros que você gosta e leia em qualquer lugar e a qualquer hora.
Leia livros gratuitamente no app
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP
DMCA.com Protection Status