Share

หลงกลรักวิศวะตัวร้าย
หลงกลรักวิศวะตัวร้าย
Author: ดาวแคระ (miss.mk)

บทที่ 1

last update Last Updated: 2025-10-04 14:15:29

TWENTY SIX PUB

"มิวน้องรัก ~" ฉันหมุนตัวหันหลังกลับทันทีที่ได้ยินเสียงหวานที่ดังขึ้นมาแต่ไกล แต่เท้ายาวสวยเรียวยังไม่ทันจะได้ก้าวพ้นก็ถูกคนที่พยายามจะหนีล็อกคอเอาไว้แล้วดันให้นั่งลงบนโซฟากว้างในร้านของมัน

สวัสดีฉันชื่อมิวสิคหรือมิวนักศึกษาปีสองคณะนิเทศศาสตร์มหา'ลัยชื่อดังในย่านแห่งหนึ่งที่มีแต่ลูกคนรวยทั้งหลายแหล่ต่างแห่กันมาเรียน และหนึ่งในนั้นก็เป็นฉันที่ถูกแม่ยัดเยียดให้เข้ามาอดทนเรียนมาถึงสองปีแล้ว

ส่วนไอคนที่บีบเสียงหวานที่ว่าคือไอพี่กันย์พี่รหัสของฉันที่ไม่ได้เต็มใจอยากจะเป็นเลยสักนิด แต่ก็เลือกไม่ได้ นอกจากมันจะไม่เคยเป็นที่ปรึกษาที่ดีในเรื่องเรียนให้ฉันแล้วมันยังจะชอบใช้งานฉันทำนู้นทำนี่ให้มัน อย่างเช่นวันนี้ที่มันพยายามบีบเสียงหวานใส่จึงรู้ในทันทีว่าต้องมีเรื่องให้ฉันทำแน่นอน

"มาเหนื่อย ๆ นั่งลงก่อนสิมิวสิคน้องรัก" ยิ่งคำว่า 'น้องรัก' ที่หลุดจากปากมันแล้วก็ยิ่งน่าขนลุกมากกว่าอะไรที่เคยได้ยิน ฉันจึงส่งสายตามองมันนิ่ง ๆ แล้วฉีกยิ้มมุมปากเพื่อให้มันพูดออกมาโดยไม่ต้องอ้อมค้อมให้เสียเวลา

"ขึ้นร้องเพลงให้พี่หน่อย ไอนักร้องแม่งป่วยอีกแล้ว" นั้นไง…ฉันว่าอยู่แล้วไม่มีผิด ถ้ามันไม่มีเรื่องให้ช่วยก็คงจะไม่มาโผล่หน้าให้เห็น ปกติก็ขลุกอยู่กับสาว ๆ ในห้องทำงานชั้นสองแต่พอมีเรื่องเดือดร้อนทีไร เป็นต้องลำบากฉันทุกที

"ไอมิวมันยังไม่ทันได้นั่งเลยนะพี่" ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบไอพี่กันย์โอโซนเพื่อนรักก็ทำงานแทนให้ โดยมันมาถึงก่อนฉันหลายนาทีก่อนหน้าเพราะนัดกันเอาไว้ นอกจากนั้นก็ยังมีซินดี้เพื่อนที่คณะอีกคนที่นั่งอยู่เหมือนกัน

"ก็ถึงบอกให้กินน้ำให้ใจเย็นก่อนไง ไม่ได้บอกให้ขึ้นไปร้องเลยครับน้องโซน" โอโซนกรอกตาใส่พี่กันย์ด้วยความเบื่อหน่าย ยามขอให้ช่วยก็เลียแข้งเลียขาดูแลเป็นอย่างดี ยามที่ฉันอยากจะขอช่วยบ้างก็หายหน้าหายตาไปในกลีบเมฆไอพี่รหัสจอมกะล่อนฉันรู้นิสัยมันดี

"ไอพี่กันย์…" หลังจากที่เงียบอยู่นานฉันก็ดึงมือที่ล็อกออกจากคอ ก่อนที่จะกดเสียงให้ดังแข่งกับดนตรีในร้านแล้วหันไปมองหน้าพี่รหัสอย่างจริงจัง

"ครับน้องมิว"

"ดูปากนะ ไม่!" ฉันยกนิ้วชี้ปากสวยบางของตัวเอง ก่อนที่จะย้ำว่า 'ไม่' ใส่หน้าไอคนหน้าตาดีแต่มีนิสัยเจ้าเล่ห์เป็นบ้า

"ไอมิวววว…ช่วยกันหน่อยสิวะ ไอคิวมันไม่สบายจริง ๆ ถ้าไม่ใช่มึงกูก็ไม่รู้จะให้ใครช่วยแล้วนะเว้ย"

"แต่มิวตั้งใจมาดื่มกับเพื่อนไม่ได้อยากมาร้องเพลงเว้ยพี่" ถามว่าทำไมไอพี่กันย์ถึงขอร้องฉัน ก็เพราะว่าหลายครั้งที่ฉันต้องขึ้นร้องเพลงแทนพี่คิวกับพี่เวย์นักร้องสองคนที่ลางานพร้อมกัน ไอพี่กันย์ที่เคยเห็นฉันดีดกีตาร์ร้องเพลงที่ชมรมอยู่บ่อย ๆ ก็ใช้ให้ขึ้นไปร้องแทน บางวันที่ฉันเบื่อ ๆ ก็ยอมขึ้นไปช่วยมันง่าย ๆ แต่วันนี้มันไม่ใช่ เพราะไม่ได้เตรียมใจจะมาร้องเพลงแต่มาเพราะอยากดื่มระบายความเครียดกับเรื่องที่บ้านที่ปวดหัวจะเป็นบ้าอยู่แล้ว

"มิวมึงก็ช่วยพี่เขาไปเถอะ" ซินดี้ว่าจบก็พยักเพยิดให้ฉันยอม

"เห็นปะ น้องซินดี้ยังสงสารกูเลย" คนได้ทีมีพวกก็เอาใหญ่ทันที

"เปล่าอะพี่ ซินรำคาญ" สิ้นเสียงไอซินดี้พวกเราทั้งสามก็พากันระเบิดหัวเราะยกใหญ่ ที่พูดแบบนี้ได้เพราะพวกเราสนิทกันมาก ถึงพี่กันย์มันจะไม่ค่อยมีข้อดีให้น่าคบหาเท่าไหร่แต่มันก็ถือว่าเป็นคนจริงใจกับพี่น้องคนหนึ่ง นิสัยที่แสดงออกเป็นยังไงลึก ๆ ในใจมันก็เป็นคนแบบนั้น หมายถึงว่าเลี้ยทั้งภายในและภายนอกแทบที่ไม่มีอะไรปกปิด

"กูยอมให้พวกมึงหัวเราะเยาะแล้ว ไอมิวมึงขึ้นร้องเพลงให้กูด้วย"

"เออ ร้องก็ร้องวะ" สุดท้ายฉันก็ต้องฝืนใจรับการช่วยเหลือ เพราะหากไม่รับปาก ไอพี่รหัสฉันมันก็ตื๊อไม่เลิก รับรองว่าคืนนี้คงไม่ได้ดื่มเหล้าสบาย ๆ แน่นอน

"งั้นก็ตามนั้น กินเต็มที่ โต๊ะนี้กูเลี้ยงแลกกับค่าตัวไอมิว ไปละ" ว่าจบไอพี่กันย์ก็เดินหนีไปในทันที เป็นอย่างที่ฉันพูดไว้ไม่มีผิด พอมันได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วมันก็ไม่สนใจอะไรอีก แม้แต่จะถามไถ่สารทุกข์สุขดิบน้องรหัสมันเลยสักนิดก็ไม่มี

"กูเชื่อไอพี่กันย์เลย" โอโซนส่ายหัวแสดงความเอือมระอา เช่นเดียวกับฉันที่หมดคำจะพูดกับคนแบบมันเหมือนกัน

"งั้นกูไปเตรียมตัวก่อนแล้วกัน ไอซินยืมหมวกหน่อย" ฉันแบมือขอหมวกแก๊ปที่อยู่บนหัวซินดี้ เพราะไม่ค่อยอยากจะโชว์หน้าตอนขึ้นเวทีเท่าไหร่จึงอยากได้หมวกมันมาอำพรางใบหน้าเพื่อกันปัญหาที่จะตามมาทีหลัง

"เออ ๆ" ซินดี้ยอมถอดแล้วยัดใส่มือ ก่อนที่ฉันจะยกมือรวบผมมัดไว้ลวก ๆ แล้วดันหมวกสีดำปกปิดใบหน้าไว้

"ไปนะ อย่าชิงเมาไปก่อนล่ะ"

"ไม่รับปาก" โอโซนยักไหล่ใส่ฉันแล้วกระดกแก้วดื่มราวกับยั่วน้ำย่อยฉันเล่น ๆ แม่งอยากจะนั่งดื่มย้อมใจที่ทะเลาะกับแม่ซะหน่อย ไอพี่กันย์ก็ทำเสียเรื่อง แทนที่จะได้มาถือแก้วเหล้ากลับต้องมาถือไมค์ร้องเพลงแทนได้

"ฝากไว้ก่อนเถอะ" ฉันชี้นิ้วคาดโทษโอโซนไว้ก่อนที่จะลุกขึ้นเพื่อจะเดินไปเตรียมตัวหลังเวที

แต่แล้ว…

ปึก!

ร่างสวยของฉันยังยืนขึ้นไม่ทันเต็มความสูงด้วยซ้ำอยู่ ๆ ไอร่างบึกบึนอกแข็งปึกมาจากไหนไม่รู้เดินมาชนฉันเข้าเต็มแรง แรงจนหมวกที่สวมหลุดออกจากหัวพร้อมกับผมที่สยายยาวสลวย

ภาพในจินตนาการตอนนี้ฉันคงจะออกมาดูดีราวกับนางเอกในละคร แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่เลยสักนิด เพราะตอนนี้ฉันนั้นตูดกระแทกพื้นนั่งจ้ำเบ้าอยู่กับพื้นแข็ง ๆ จุกไปทั้งตัว

"เฮ้ย…มิว!!" สองเพื่อนรักอุทานขึ้นพร้อมกัน แล้วหลังจากนั้นมันก็ทำในสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดคือระเบิดหัวเราะออกมาแทนที่จะมาช่วยพยุง

นี่สินะบททดสอบการเป็นเพื่อนรัก เวลาเพื่อนเดือดร้อนแทนที่มันจะยื่นมือมาช่วยแต่มันกลับนั่งหัวเราะสบายใจเฉิบ

"ชนคนอื่นแล้วไม่คิดจะขอโทษเลยหรือไง!" ช่างเพื่อนที่ขำไว้ก่อน เพราะยังต้องคิดบัญชีกับไอคนที่ชนจนเป็นเหตุที่ทำให้ฉันเจ็บตัวอยู่แบบนี้ แม่งไม่คิดจะช่วยเหลือกันเลยสักนิด แถมยังยืนล้วงมือในกระเป๋ากางเกงยืนมองฉันนิ่ง ๆ ไม่พูดไม่หือไม่อือเลยสักคำ

"ใครชนใคร?" แล้วดูคำตอบที่หลุดมาจากปากเขาสิ ให้ตายเถอะ…นอกจากจะหน้านิ่งแล้วยังไร้ความรู้สึกอีก กล้าตอบด้วยใบหน้าเรียบ ๆ แบบนั้นได้ยังไง ไอความหล่อบนใบหน้าเขามันไม่ได้ช่วยอะไรหรอกนะ ตาสีน้ำตาลคมกริบ ริมฝีปากอมชมพูคล้ำนิด ๆ มีจมูกเป็นสันเข้ากับรูปหน้าเรียว ๆ ผิวขาวออร่าเปล่งประกาย มือเรียวยาวปูดนูนด้วยเส้นเลือด และหุ่นที่โคตรจะดีที่ดูก็รู้ว่าภายใต้เสื้อเชิ้ตสีดำนั้นต้องเต็มไปด้วยมัดกล้าม ไม่ได้ทำให้ฉันอยากให้อภัยเขาเลยสักนิด

คนบ้าอะไรจะดูดีทุกอย่างแบบนี้!

"ไอเซฟทางนี้!" ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ต่อว่า อยู่ ๆ ไอคนดูดีก็ปรายไปตามเสียงที่ดังขึ้นมาจากด้านหลังฉัน เขาพยักหน้าให้คนที่รู้จักกันก่อนที่จะหลุบมามองฉันเพียงนิดแล้วเดินหนีออกไปโดยไม่คิดจะขอโทษฉันสักคำ

"เฮ้ย! คิดจะเดินหนีง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ!?" ฉันตะโกนไล่หลังเสียงดังลั่น โดยคิดว่าเขาได้ยินเพราะหลายคนเริ่มหันมาให้ความสนใจที่ฉัน แต่เขากลับไม่หันมาเลยสักนิดเดียว

"นี่นาย!!!"

"ไอมิวแกเลิกโวยวาย คนหันมาทั้งร้านแล้ว" ในที่สุดเพื่อนที่โคตรจะรักฉันก็ยอมเดินมาช่วยหิ้วปีกคนละข้าง แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะมันเป็นห่วงฉันแต่เพราะมันอายที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาจากคนในร้าน

"กูจะตามไปเอาเรื่อง ชนแล้วหนีแบบนี้ได้ยังไงวะ!?" แต่นาทีนี้ฉันไม่ได้สนใจจะด่าเพื่อนเท่าไหร่ อารมณ์ตอนนี้มันกำลังมุ่งไปอยู่ที่คนคนคนเดียว กล้าทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไงไม่มีมารยาทสิ้นดี

"ไอมิวหยุดเลย มึงต้องไปเตรียมตัวแล้ว" ซินดี้รั้งร่างฉันไว้ไม่ให้เดินไปหาเรื่อง แล้วพยายามลากฉันไปหลังร้านทั้งที่อารมณ์ยังเดือดปุด ๆ ไม่หาย

"มึงไม่เห็นเหรอว่ามันเดินชนกูอะ"

"เห็น แต่ถ้ามีเรื่องไอพี่กันย์เอาเรื่องแน่"

"ก็เอาไปดิ กูไม่สน!" ฉันพยายามยื้อตัวเองสวนกับแรงขอฃเพื่อน ทว่าเพื่อนมีตั้งสองคนมันทำให้ฉันสู้แรงไม่ได้ แม้จะเดือดดาลแค่ไหนเป็นต้องเก็บไว้ก่อน

แม่งเอ้ย…เจอกันอีกครั้ง ฉันคิดบัญชีนายแน่!

***********************

โจเซฟ

น้องชายของเรื่อง LOST IN LOVE พ่ายรักนายเพลย์บอย (เจโรม x น้ำอิง)

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลงกลรักวิศวะตัวร้าย   บทที่ 72

    "เจเดนเจไดพ่อบอกให้หยุด!" เสียงที่ดังจากนอกบ้านทำให้ฉันรีบสับเท้าเดินออกไปดูอย่างไว แน่นอนว่าเสียงนั้นจะเป็นใครไม่ได้นอกจากสามีของฉันที่บอกก่อนหน้าว่าจะออกไปหากิจกรรมทำกับลูกชายฝาแฝดวัยสิบห้าขวบนอกบ้าน แต่เสียงเข้มดุปานนั้นฉันคิดว่าคงจะเกิดเรื่องสักอย่างขึ้นระหว่างสามคนแน่นอน"เกิดอะไรขึ้นคะ?" ฉันมอ

  • หลงกลรักวิศวะตัวร้าย   บทที่ 71

    "ทำไมไม่ท้องว่ะ" คนนั่งหน้ากลุ้มทิ้งตัวลงบนโซฟากลางห้องวีไอพีของผับดัง เขากุมขมับพร้อมหลับตาลงด้วยความปลง ทั้งที่พยายามปั๊มลูกก่อนแต่งงานเสียด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ก็ผ่านประตูวิวาห์ไปตั้งสามเดือน เขาก็ไม่เห็นว่ามิวสิคจะมีทีท่าท้องกับเขาบ้างเลย"มึงไปตรวจหน่อยไหมไอเซฟ น้ำยามึงคงไม่ดีจริง" เปเปอร์ว่าแล้วก็อ

  • หลงกลรักวิศวะตัวร้าย   บทที่ 70

    และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่ฉันยืนกอดรูปของพ่อในวันสำคัญอีกหนึ่งวันในชีวิต เราถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันสามคนพ่อแม่ลูกโดยบรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ฉันอยู่ในชุดรับปริญญาอย่างที่พ่อหวัง ส่วนแม่ก็มองมาที่ฉันอย่างภาคภูมิใจและหวังว่าพ่อฉันที่อยู่บนฟ้าก็คงจะมองลงมาที่ฉันด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างกันท

  • หลงกลรักวิศวะตัวร้าย   บทที่ 69

    งานหมั้นที่แสนชื่นมื่นผ่านไปด้วยดีและเต็มไปด้วยความอบอุ่นทั้งจากครอบครัวของฉันและครอบครัวพี่เซฟ ฉันได้กลายเป็นอนาคตสะใภ้คนรองของเจอาร์กรุ๊ปเต็มรูปแบบและวันนี้ก็ผ่านไปสามวันหลังงานหมั้นแล้ว สิ่งต่อไปที่เกิดขึ้นคือฉันถูกเขาลากมาเที่ยวฮันนีมูนต่างประเทศด้วยกัน พวกเธอว่ามันแปลก ๆ ไหมฉันก็งงเหมือนกันว่าแ

  • หลงกลรักวิศวะตัวร้าย   บทที่ 68

    งานหมั้น J & Mบรรยากาศของงานหมั้นเริ่มขึ้นที่บ้านของมิวสิค โดยออแกไนซ์อย่างเมย์ได้เนรมิตรให้บ้านหลังใหญ่กลายเป็นสถานที่จัดพิธีงานหมั้นสไตล์ไทยทว่าผสมความเป็นตะวันออกทั้งของฝ่ายชายและหญิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยแขกคนสนิทที่ถูกเชิญร่วมงานก็เริ่มทยอยมาถึงกันบางส่วน หน้าที่รับแขกดูแลเบื้องต้นถูกยกให้ซินด

  • หลงกลรักวิศวะตัวร้าย   บทที่ 67

    "เมย์พี่ว่าเรารีบไปกันดีกว่า อยู่ตรงนี้นาน ๆ พี่กลัวว่าอาจจะโดนอีกสักหมัด" แน่นอนว่าคนที่ว่าไม่ได้มีทีท่าที่เกรงกลัวเลยสักนิด แต่เขายังเป็นคนที่กวนตีนไม่เลิกทำเอาโจเซฟกัดฟันกรอด ถ้าไม่ใช่ว่ามิวสิคและเมย์ยืนอยู่ตรงนี้ เขาอาจจะพุ่งไปเหวี่ยงหมัดฝากเป็นของที่ระลึกสำหรับความหวังดีจอมปลอมประทับบนใบหน้าอีก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status