Share

บทที่ 770

Author: จิ้งซิง
“หิมะที่ตกหนักขนาดนี้ ตกลงมาหนาเหลือเกิน”

กองทัพธงดำที่เข้าไปดูสถานการณ์นำทวนยาวของตัวเองบนหลังออกมาปัก หายเข้าไปครึ่งหนึ่ง

“หิมะบนนี้มีเยอะที่สุด เกรงว่าอาจสูงถึงเอว ขี่ม้าน่าจะพอผ่านไปได้ แต่รถที่ขนเสบียงสิ่งของน่าจะผ่านไปไม่ได้”

กองทัพธงดำที่ตรวจดูสถานการณ์เสร็จแล้วกลับมารายงานเป่ยเฉินหยวนด้วยน้ำเสียงหนักหน่วง

“คนต้องข้ามไป รถขนเสบียงก็ต้องข้ามไป”

เป่ยเฉินหยวนมองดูสถานการณ์ถนนหลวง ตอนนี้มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น

“สั่งให้ขบวนด้านหลังตามมา รถขนเสบียงสิ่งของจอดอยู่ในระยะไกลหนึ่งลี้ ให้คนเฝ้าห้าร้อยคน ส่วนที่เหลือให้แบ่งเป็นสองผลัดสลับกัน ทำงานให้เต็มที่ ก่อนตะวันขึ้นในวันพรุ่งนี้ จำเป็นต้องกำจัดหิมะบนถนนหลวงให้อยู่ในระดับที่รถขนเสบียงสิ่งของผ่านไปให้ได้”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

ครั้งนี้ โชคดีที่เป่ยเฉินหยวนพาคนออกมาจำนวนมาก

กองทัพธงดำหนึ่งหมื่นคน อยากกำจัดหิมะบนถนนหลวงเส้นนี้ภายในหนึ่งคืน ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น สีหน้าของเวินซื่อและเป่ยเฉินหยวนก็ยังไม่ผ่อนคลายเท่าใด

โดยเฉพาะเป่ยเฉินหยวน หลังออกคำสั่งเสร็จ เมื่อสิ่งของมาถึง เขาเข้าไปตักหิมะเป็นคนแรก

เมื่อมีเขาเป็นคนเ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ลิ้นจี่ Generation
เมียพี่เป็นคนทำค่ะ...
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 982

    “เจ้าบอกว่านังเวินซื่อนั่นยังไปที่สกุลหลาน? สกุลหลานล่มสลายไปแล้วมิใช่หรือ? นางไปที่สกุลหลานได้อย่างไร?”เวินเยวี่ยขมวดคิ้ว พลางซักถามสาวใช้ที่ถูกนางควบคุมตัวไว้อย่างต่อเนื่องสาวใช้ตัวสั่นเทา แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่กล้าที่จะไม่ตอบคำถามของเวินเยวี่ย “เรียน...เรียนคุณหนูหก ท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์นาง...”“ห้ามเรียกนางว่าท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์!”สายตาของเวินเยวี่ยพลันฉายแววโหดเหี้ยม นางตวาดเสียงกร้าว “นังสารเลวนั่นเป็นเพียงมดปลวกที่ควรจะถูกข้าเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้า จะคู่ควรกับคำว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์อะไรกัน น่าขันสิ้นดี”สาวใช้ตกใจจนเหงื่อเต็มใบหน้า แต่เนื่องจากมีมีดจ่ออยู่ที่ลำคอ หากไม่เชื่อฟัง เกรงว่าวินาทีต่อมานางคงถูกปาดคอเป็นแน่สาวใช้จึงได้แต่เอ่ยอย่างระมัดระวัง “เจ้า...เจ้าค่ะ ประมุขตระกูลหลานนั่น...”บัดนี้เวินซื่อคือประมุขตระกูลของสกุลหลาน สาวใช้ไม่กล้าเรียกธิดาศักดิ์สิทธิ์ แต่การเรียกว่า “ประมุขตระกูลหลาน” ก็ไม่ผิดทว่าสีหน้าของเวินเยวี่ยกลับน่ากลัวยิ่งขึ้น นางจ้องเขม็งไปยังสาวใช้ เอ่ยข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ไม่เรียกนางว่านังสารเลว ก็ให้ข้าประหารนังสารเลวอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 981

    ทาสใบ้ขยี้ตาของตนเองแล้วมองไปยังศพนั้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ นางคิดว่าตนเองอาจจะตาฝาดไป จึงไม่คิดอะไรมากนักและยื่นมือออกไปเพื่อจะอุ้มศพบนแท่นอีกครั้งแต่ในวินาทีต่อมา...“ฉึก”ทาสใบ้ตัวแข็งทื่อ นางค่อยๆ ก้มศีรษะลงมอง ก็เห็นมือข้างหนึ่งเสียบอยู่ที่บริเวณหัวใจของตนและเจ้าของมือนั้นก็คือศพที่อยู่บนแท่น“ที่นี่...ที่ไหน?”ศพนั้นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าและน่ารังเกียจอย่างยิ่งทาสใบ้อ้าปากค้างอย่างแข็งทื่อศพนั้นจึงได้เห็นช่องปากที่ว่างเปล่าของนาง“ไร้ประโยชน์”ศพพูดจบ มีเสียง “ฉึก” ดังขึ้นอีกครั้ง ครานี้ควักหัวใจของทาสใบ้ออกมาโดยตรง แล้วโยนทิ้งไปข้างๆ อย่างไม่ไยดีนางไม่สนใจเลือดที่เปรอะเปื้อนเต็มมือ ลุกขึ้นเดินไปรอบๆ ห้องลับหนึ่งรอบ และในไม่ช้าก็พบกระจกทองแดงบานหนึ่งนางเดินไปที่หน้ากระจกทองแดง เมื่อเห็นร่างกายที่เย็บปะติดปะต่อกัน ทำให้ “เวินเยวี่ย” อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าดุร้ายออกมาทันที“บัดซบ! นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?!”นางตายไปแล้วไม่ใช่หรือ?เหตุใดจิตสำนึกของนางถึงมาปรากฏอยู่ที่นี่ได้?นางเกิดใหม่หรือ?แต่เหตุใดร่างกายของนางถึงเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 980

    ขณะเดียวกัน ภายในเมืองหลวงภายในจวนสกุลอันหออายุวัฒนะที่มักจะมีแขกเหรื่อไปมาขวักไขว่ แต่สองวันนี้กลับว่างเปล่าไร้ผู้คนภายในห้องลับ พ่อบ้านสกุลอันยืนกล่าวอย่างระมัดระวัง“ใต้เท้า ทางใต้เท้าจางส่งคนมาถามอีกแล้ว บอกว่ายาอายุวัฒนะที่เขาซื้อไปก่อนหน้านี้ใกล้หมดแล้ว ถามว่าเมื่อไหร่ท่านจะเปิดขายอีก?”เนื่องจากช่วงก่อนถูกสืบค้นเรื่องสายลับต่างชาติ หมากในมืออันปี่เค่อถูกตัดไปหลายคนช่วงเวลาเช่นนี้ ใครก็ไม่กล้าประเจิดประเจ้อเกินไปดังนั้นหออายุวัฒนะใต้จวนสกุลอันย่อมต้องปิดลงชั่วคราว“เปิดไม่ได้ เปิดไม่ได้ เรื่องของช่วงเวลานี้ยังไม่ทันผ่านพ้นไป เขารีบร้อนอะไรกัน?”มือข้างหนึ่งของอันปี่เค่อถือมีดสั้นเล่มหนึ่ง มืออีกข้างหนึ่งโบกอย่างรำคาญใจ“ปล่อยให้เขารอไปก่อน หากรอไม่ได้ก็ไปตายซะ”พ่อบ้านอดไม่ได้รีบปาดเหงื่อบนหน้าผากทันที เขาไม่กล้าตอบกลับไปเช่นนี้หรอกเพียงแต่เมื่อเห็นอันปี่เค่อกำลังตั้งใจจัดการชิ้นส่วนศพบนแท่น เขาจึงได้แต่เปลี่ยนไปหัวข้ออื่น“ใต้เท้า ท่านสั่งให้พวกเราจับตาดูจวนเจิ้นกั๋วกง สองวันก่อนเหมือนจะมีความเคลื่อนไหวขอรับ”“เขาไปตามล่าสังหารชุยเหลียงเฟิงจริงหรือ?”“ใต้เท้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 979

    น่าจะตาฝาดไปกระมัง?หลานซื่อยกถ้วยน้ำชาขึ้น ทำหน้าเลิ่กลั่ก แล้วดื่มชาเข้าไปหนึ่งคำเงียบๆ……อีกด้านหนึ่ง จุดที่ไกลจากเมืองหลวงไปร้อยลี้ซึ่งก็คือสถานที่ซึ่งคนสกุลชุยถูกลอบโจมตีโรงเตี๊ยมที่ดีหลังหนึ่งถูกไฟเผามอดไหม้ไปหมดแล้ว เหลือไว้เพียงซากวอดวายสีดำหลังผ่านไปสองวัน คราบเลือดบริเวณโดยรอบยังมีให้เห็นศพของมือสังหารหรือหน่วยกล้าตายแต่ละคนถูกทิ้ง ไม่มีใครสนใจมีเพียงหนึ่งเดียวที่สนใจคือพวกหมาป่าที่หิวโซพวกมันเกาะอยู่บนซากศพเหล่านั้น กำลังสวาปามอาหารเลิศรสมื้อนี้ที่หาได้ยากขณะที่พวกมันกินอย่างเมามัน เสียงฝีเท้าหนึ่งดังขึ้นกะทันหัน จากไกลสู่ใกล้กลุ่มหมาป่าต่างเงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่ง จากนั้นแต่ละตัวต่างแยกเขี้ยวเผยให้เห็นความดุร้าย อยากทำให้แขกไม่ได้รับเชิญผู้นี้ตกใจแล้วถอยออกไปกระนั้นวินาทีต่อมา ความรู้สึกอันตรายที่รุนแรงทำให้หมาป่าทั้งหมดหอนเสียงดังระงม หันหลังวิ่งหนีหางจุกตูด ทิ้งไว้เพียงซากศพที่ถูกกัดกินจนไม่เหลือชิ้นดีเอาไว้ตรงนั้นเมื่อมองดูกองซากศพนั้น ผู้มาเยือนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“น่าเสียดาย น่าเสียดาย”น้ำเสียงของผู้มาเยือนราวกับระฆังในวัดโบราณ เสียงทุ้มต่ำ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 978

    หลานซื่ออึ้งไปครู่หนึ่งยังนึกว่าเขากังวลเรื่องสรรพคุณของหญ้าฝรั่นไม่พอเสียอีกนางอธิบาย “วางใจเถอะ หญ้าฝรั่นเหล่านี้ข้าตั้งใจเพาะปลูกโดยเฉพาะ สรรพคุณเพียงพอแน่นอน อีกทั้ง หากรู้สึกว่าจำนวนน้อยไป ผ่านไปอีกสักระยะข้าจะให้คนนำไปมอบให้ท่านอ๋องอีกหลายต้น...”ในมิติของนางยังมีอีก ทว่าหากนำออกมาเป็นจำนวนมากภายในครั้งเดียวจะสะดุดตาเกินไป“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น!”เป่ยเฉินหยวนเอ่ยปากกะทันหัน ขัดคำพูดนางเขาจ้องมองหลานซื่อตรงหน้า ที่เผยสีหน้าสงสัยและสับสนไม่เข้าใจ จึงเม้มริมฝีปากบาง จับขอบกล่องใบนั้นแน่น“หากรักษาหายแล้ว ต่อไปภายหน้าเล่า?”เขาอยากถาม ถึงตอนนั้นเขายังมาหาอู๋โยวได้หรือไม่?ตอนแรกที่เขาเข้าหาอู๋โยว แรกเริ่มเดิมทีเพื่อฟังเสียงสวดมนต์ของอู๋โยว เพื่อควบคุมโรคภัยที่ทำให้น่ารำคาญของตัวเองทว่าต่อมา ต่อให้อาการของโรคไม่กำเริบ เขาก็แสร้งทำเหมือนอาการกำเริบ มักจะมาหาบ่อยครั้งดังนั้น อาการกำเริบจึงกลายเป็นข้ออ้างแต่ตอนนี้ข้ออ้างนี้ใกล้จะถูกทำลายลงแล้วหากอาการป่วยรักษาหายแล้ว เขายังมีข้ออ้างใดมาหาอู๋โยวอีก?“ภายหน้า?”หลานซื่อรู้สึกว่าอารมณ์ของเป่ยเฉินหยวนไม่ค่อยปกติน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 977

    “ข้าไม่เข้าใจเจ้า”เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยเช่นนี้กะทันหันเขาขมวดคิ้วจ้องหลานซื่อ “เจ้าเปลี่ยนแปลงไปมาก บางครั้งข้าก็อดสงสัยไม่ได้ ตกลงเจ้ายังเป็นลูกสาวคนนั้นของข้าอยู่หรือ”หลานซื่อเองก็รู้ว่าเหตุใดเขาถึงพูดเช่นนี้เพราะหากไม่เคยเผชิญชีวิตในอดีตชาติอย่างนาง จะเข้าใจความเกลียดชังที่นางมีต่อทั้งจวนเจิ้นกั๋วกงได้อย่างไร?ในสายตาของพวกเวินเฉวียนเซิ่ง การเปลี่ยนแปลงของนางเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน เพียงแต่นับจากพิธีปักปิ่น ก็เปลี่ยนไปกะทันหันเวินซื่อที่แต่ก่อนว่านอนสอนง่าย รู้จักเอาใจใส่ จู่ ๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชาสุดขีด ทั้งใจดำ ทั้งต่อต้านราวกับเพียงครู่เดียว ระหว่างนางกับทั้งจวนเจิ้นกั๋วกง และคนทั่วทั้งสกุลเวิน ถูกขวางกั้นด้วยแม่น้ำแห่งสวรรค์ที่ทั้งลึกและยาวซึ่งยากจะข้ามผ่านจนกระทั่งตอนนี้ เวินเฉวียนเซิ่งก็ยังไม่เข้าใจ ทั้งที่ตัวเขาปกปิดเป็นอย่างดี กระทั่งต่อให้รับเวินเยวี่ยกลับจวนเจิ้นกั๋วกง ก็กลับมาในฐานะบุตรสาวบุญธรรม ล้วนไม่เคยทำสิ่งใดด้วยความรีบร้อนมาก่อนแต่ทำไมเพียงไม่นานก็ถูกลูกสาวของเขาคนนี้สังเกตเห็นแล้วล่ะ?ยิ่งตอนหลังนางยิ่งรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับรูขาดของกระเป๋าใบหนึ่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status