“ชิงเฉี่ยน คุณฟังผมอธิบาย นี่ไม่ใช่เรื่องจริงครับ”“เพียะ” ไป๋ชิงเฉี่ยนยกมือขึ้นแล้วตบไปที่ใบหน้าของเขาเธอกัดริมฝีปาก จากนั้นก็ถลึงตาใส่เหยนจวิ้นด้วยความโมโห“ฉันไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้ การแต่งงานระหว่างพวกเราสามารถยกเลิกได้แล้ว”“ชิงเฉี่ยน อย่าสิครับ นี่เป็นการใส่ความกัน เป็นไอ้เวรหลินเฟิงคนนั้นที่ใส่ความผม” เหยนจวิ้นรีบจับแขนของไป๋ชิงเฉี่ยนเอาไว้ไป๋ชิงเฉี่ยนสะบัดมือออกอย่างแรง และพูดตวาดด้วยน้ำเสียงโมโห: “คุณไปอธิบายกับคุณปู่ของฉันเองเถอะ”พูดจบเธอก็ออกจากคลับเฮาส์ไปด้วยความโมโหต่งหลิงอวี้เห็นแบบนี้จึงรีบตามออกไป: “คุณหนู คุณรอฉันด้วยสิคะ...”“ชิงเฉี่ยน...”เหยนจวิ้นกำลังอยากจะตามไป หลินเฟิงกลับขวางไว้ตรงหน้าของเขา: “ไอ้หนุ่ม เมื่อครู่นายเหยียดหยามฉันขนาดนั้น ควรจะให้คำอธิบายกับฉันหน่อยไหม?”ในตอนนี้ถังหว่านก็กอดอกแล้วพูดเสียงเย็นชา: “ถูกต้อง เรื่องนี้คุณต้องให้คำอธิบาย”เหยนจวิ้นกัดฟันแล้วถลึงตาใส่หลินเฟิงด้วยความโมโห: “ไอ้หนุ่ม คิดไม่ถึงว่านายจะเจ้าเล่ห์แบบนี้ ยังแอบบันทึกเสียงเอาไว้ด้วย”“เป็นเพราะนายโง่เองก็เท่านั้นแหละ”หลินเฟิงพูดเหยียดหยาม: “นายคุก
ขณะเดียวกันภายในค่ายทหารที่ชานเมืองเจียงโจวทหารสวมชุดลายพรางคนหนึ่งกำลังนอนกลางวันอยู่ภายในห้องทำงานจู่ ๆ โทรศัพท์ก็มีเสียงเตือนของข้อความดังขึ้นมา“แม่งเอ้ย ใครวะส่งข้อความมากลางวันแสก ๆ?”ชายหนุ่มหยิบหมวกที่อยู่บนใบหน้าของตัวเองลงมาด้วยความหงุดหงิดเขาล้วงโทรศัพท์ออกมาด้วยความโมโห แต่ในตอนที่เขาเห็น เบอร์โทรศัพท์มือถือ คนทั้งคนก็ตาสว่างขึ้นมาทันที“เชี่ย…” เขาลุกขึ้นทันทีและตะโกนต่อลูกน้อง“ทุกคนมารวมตัวกัน”......ไม่เพียงค่ายทหารเขตชานเมืองเจียงโจวที่กำลังรวมตัวกันคนของตระกูลฉิน ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันถังหว่านก็ไม่ได้อยู่ว่าง เธอโทรไปหาโจวเฉินทันทีให้เขาเรียกคนของตระกูลถังทั้งหมดตามมาที่คลับเฮ้าส์ที่เธออยู่ในตอนนี้สำนักอวี้เจี้ยนเมืองเจียงโจวไม่ใช่กองกำลังเล็ก ๆ เพียงแค่คนของตระกูลฉิน เกรงว่าไม่แน่ว่าจะควบคุมสำนักอวี้เจี้ยนได้หลังจากที่โจวฉินได้รับคำสั่งและจะรวบรวมกำลังคน จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ถูกหลินเสวี่ยเยี่ยนแย่งไป“ถังหว่าน ลูกทำอะไรอยู่กันแน่? ทำไมจู่ ๆ ถึงเรียกรวมตัวคนของตระกูลถัง?”ถังหว่านพูดด้วยความหงุดหงิด: “โอ๊ย หนูไม่มีเวลามาอธิบายมากมายกับแม่ ตอนนี้หลิ
ประตูกระจกของคลับเฮ้าส์ถูกคนทุบแตกผู้มีฝีมือของสำนักอวี้เจี้ยนในมือถือกระบี่ยาวพุ่งเข้ามาล้อมรอบหลินเฟิงและคนอื่น ๆ เอาไว้แน่นหนาเหยนจวิ้นรู้สึกดีใจอย่างมาก จากนั้นก็ตะโกนต่อหลินเฟิงด้วยความโอหัง: “ไอ้หนุ่ม แกเสร็จแน่”“พ่อฉันมาแล้ว”หลินเฟิงเห็นเขายังกล้าพูดพล่ามกับตัวเองจึงยกมือขึ้นตบไปที่ใบหน้าของเขาเหยนจวิ้นฟันหลุดกระเด็นและมีเลือดไหลออกมาทันที“แม่งเอ๊ย”ลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งของสำนักอวี้เจี้ยนกระจายตัวออก เหยนควานเดินออกมาจากในกลุ่มคนเห็นพวกหลินเฟิงสามคน จากนั้นก็มองไปยังลูกชายที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ดูท่าแผนใส่ความของเขาล้มเหลวแล้วในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกับพวกเขาอีกแล้ว“หลินเฟิง ปล่อยลูกของฉันมาซะ”เหยนควานก็ไม่ได้เร่งเร้าจนเกินไป เขารู้ว่าหลินเฟิงสมองกลวงเล็กน้อย เร่งจนโมโหเขาก็กล้าฆ่าคนจริง ๆหลินเฟิงพูดเหยียดหยาม: “ลูกชายของคุณใส่ความผม ทำไมผมต้องปล่อยเขาไปด้วย?”“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ? ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันขอโทษแทนเขาแล้วกัน แบบนี้นายพอใจแล้วสินะ?”เหยนควานพยายามรักษาความเป็นมิตรของตัวเองเอาไว้ให้มากที่สุด: “นายปล่อยคนไป ความแค้นก่อน
ฉินเซี่ยวเทียนได้ยินแบบนี้ก็ขมวดคิ้วแน่น คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟิงจะบาดหมางกับสำนักอวี้เจี้ยนได้รุนแรงขนาดนี้แต่เขาก็ยังฝืนพูดขึ้น: “ท่านผู้นำเหยน ไม่ทราบว่าเห็นแก่หน้าของผม จะสามารถไว้ชีวิตหลินเฟิงได้ไหมครับ?”เหยนควานกวาดตามองฉินเซี่ยวเทียนด้วยความเย็นชา: “ไว้ชีวิต?”“ผู้ว่าฉิน ผมพูดคุยกับคุณอยู่ตรงนี้ ก็ถือว่าให้เกียรติคุณมากแล้ว”“ถ้าคุณอยากจะปกป้องเขานั่นไม่มีทางอย่างแน่นอน”ฉินเซี่ยวเทียนหัวเราะเสียงดัง: “ผมรู้ ผมรู้ แต่หลินเฟิงเบื้องหลังไม่ธรรมดา ถ้าหากท่านผู้นำเหยนอยากจะฆ่าหลินเฟิงเกรงว่าจะต้องจ่ายค่าเสียหายจำนวนมาก”“ตระกูลถังเมืองเจียงโจว สำนักไป๋เกา ตระกูลฉิน สำนักเทียนเตา ท่านผู้ว่าหลิวท่านไหนบ้างที่ไม่เคยได้รับบุญคุณจากสหายน้อยหลิน?”“ถ้าหากวันนี้คุณฆ่าเขาแล้ว เกรงว่าคนเหล่านี้จะไม่พอใจต่อสำนักอวี้เจี้ยนนะครับ”เหยนควานขมวดคิ้วเล็กน้อย: “ผู้ว่าฉินกำลังข่มขู่ผมอยู่เหรอ?”“ไม่ ไม่ ไม่...คุณเข้าใจผิดแล้ว”ฉินเซี่ยวเทียนรีบโบกมือแล้วพูดขึ้น: “ผมเพียงแค่ให้คำแนะนำคที่จริงใจกับท่านผู้นำเหยน”“จากที่ผมดูไม่สู้เอาแบบนี้ พวกเราใช้กฎเกณฑ์แบบดั้งเดิมที่สุดในการแก้ไขปัญหาเถอ
ในระหว่างที่ฟาดฟันเหมือนกับจะฉีกอากาศให้ขาดออกและทำให้เกิดลมเป็นระยะ ๆหลินเฟิงมือไขว้หลังแล้วลุกขึ้น จากนั้นก็แวบหลบอย่างยอดเยี่ยมพลังกระบี่ที่แข็งแกร่งแต่ละครั้งไหลผ่านผิวหนังของเขาเขาเป็นเหมือนกับตุ๊กตาล้มลุก ยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ ไม่ว่ากระบวนท่ากระบี่ของเหยนควานจะประณีตแค่ไหนก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้แม้แต่น้อยเหยนควานยิ่งสู้ยิ่งตกตะลึงความรวดเร็วของไอ้หมอนี่จะเร็วเกินไปหน่อยไหม?”“พ่อ พ่อไม่ต้องออมมือ รีบฆ่าเขาซะ”“หุบปาก” เหยนควานตวาดด้วยความโมโหเขาอยากจะฆ่าหลินเฟิงให้เร็วหน่อยอยู่แล้วหลินเฟิงพูดเย้ยหยันไม่หยุด: “นี่ก็คือวิชากระบี่ของสำนักอวี้เจี้ยนของพวกคุณเหรอ? ก็งั้น ๆ แหละ”“ไอ้สารเลว ยังกล้าดูถูกสำนักอวี้เจี้ยนเหรอ?”เหยนควานสายตาแน่นิ่งกำลังภายในทั้งหมดรวบรวมไปที่ข้อมือ“ฉันดูสิว่านายจะหลบอย่างไร”“หงส์ร่อนนกการำ”เหยนควานแทงกระบี่ออกไปทันที ข้อมือสั่นอย่างรุนแรงตัวกระบี่ก็สั่นเป็นอย่างมาก และส่งเสียงสั่นออกมาเป็นระยะสายตามองไป ก็เห็นว่าคมกระบี่เล่มนั้นเหมือนกับกลายเป็นกระบี่นับสิบเล่มไม่สามารถแยกแยะสภาพความเป็นจริงได้เลย เหมือนกับหงส์ร่อนนกการำบิ
“ซี้ด...หลินเฟิงคนนี้มีความสามารถอะไรกันแน่นะ? ฉินเซี่ยวเทียนตกตะลึงตาค้าง มองไปทางหลินเฟิงด้วยความเหลือเชื่อ“แม่เจ้า!” ฉินอิ๋งกลืนน้ำลาย ในดวงตามีความอิจฉาแวบผ่านแม้แต่ถังหว่านก็รู้สึกตะลึงงันอย่างอดไม่ได้ หลินเฟิงคนนี้ทำลายความรู้ของเธอครั้งแล้วครั้งเล่าจริง ๆหลินเฟิงวางเท้าลง คนทั้งคนล่องลอยมาตรงหน้าของเหยนควานเยหนควานยังอยากจะสู้กลับหลินเฟิงตบไปที่ไหล่ของเขา“แกร่ก” กระดูกหัวไหล่ของเหยนควานแตกละเอียดทันที“อ้าก...”เหยนควานเจ็บจนหน้าตาเหยเก สีหน้าดุดันจนน่าหวาดกลัว“คุณแพ้แล้ว”หลินเฟิงมองดูเขาอย่างเรียบเฉย“คุณฆ่าตัวเองหรือว่าจะให้ผมช่วยคุณจัดการ?”เหยนควานหายใจอย่างแรง เขาไม่อยากจะเชื่อ และยิ่งไม่เข้าใจว่าตัวเองจะแพ้ให้กับวัยรุ่นอายุยี่สิบกว่า ๆ คนหนึ่งได้อย่างไรเขาฝึกวิชาต่อสู้มาสามสิบปีอย่างเสียเปล่าให้เขาฆ่าตัวเองนั้นไม่มีทาง“แกนับประสาอะไรกันถึงได้กล้าให้ฉันฆ่าตัวเอง?”“ลุยเลย ฆ่ามันให้ฉันซะ”ลูกศิษย์ของสำนักอวี้เจี้ยนกรูกันเข้ามา เขาไม่เชื่อว่าหลินเฟิงจะสามารถรอดไปได้ทุกคนกำลังจะเข้าไปฆ่าหลินเฟิงก็ได้ยินเสียงดังสะเทือนของเครื่องยนต์ดังมาจากข้างนอ
คำพูดของเขามีความหมายแฝงเป็นอย่างมากแต่ฉินเซี่ยวเทียนก็เข้าใจคนผู้นี้ รับรายงานจากผู้ไม่ประสงค์ลงนาม คนผู้นั้นน่าจะเป็นหลินเฟิงสินะเขาก็ไม่ได้ถามอะไรมาก จากนั้นก็พยักหน้า: “กัปตันเสิ่นลำบากแล้วครับ มีอะไรต้องการให้ผมรับผิดชอบไหมครับ?”เสิ่นหานพูดออกคำสั่ง: “ควบคุมคนของสำนักอวี้เจี้ยนทั้งหมดเอาไว้ก่อน ผมรับผิดชอบตรวจสำนวนและตัดสินคดี”“รับทราบ” ฉินเซี่ยวเทียนรับคำสั่ง และช่วยคนของเสิ่นหาน ควบคุมลูกศิษย์สำนักอวี้เจี้ยนเหล่านี้ไปขึ้นรถทั้งหมด“ช้าก่อน ผมคือผู้นำสำนักอวี้เจี้ยน พวกคุณเป็นใครกัน? มีสิทธิ์อะไรจับผม?” เหยนควานถูกทหารสองคนกดลงที่พื้นสองมือถูกพลิกและมัดเอาไว้เขาโตมาขนาดนี้ไม่เคยได้รับการดูถูกขนาดนี้มาก่อนเสิ่นหานได้ยินแบบนี้ก็ขมวดคิ้ว และเดินไปตรงหน้าของเขาหมัดหนึ่งถูกปล่อยออกไปบนจุดตันเถียนของเขาเหยนควานหน้าแดงก่ำในทันที ดวงตาถลนออกมา น้ำย่อยในกระเพาะพุ่งขึ้นมาเสิ่นหานออกแรงจับเอาไว้ นิ้วมือเหมือนกับเท้าของเหยี่ยวเหยนควานร้องเสียงหลงอย่างน่าอนาถ“ตอนนี้ผมมีสิทธิ์แล้วยัง?” เสิ่นหานสีหน้าเย็นชาและถามด้วยความดุดันเหยนควานตกใจจนตัวสั่น และมีเหงื่อไหลออกมาเห
“หืม?” เสิ่นหานได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันทีต้องรู้ไว้ว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างกายหลินเฟิงคนไหนบ้างที่ไม่ใช่สาวงามหน้าตาดีเขาหันกลับไปและกวาดตามองถังหว่านกับฉินอิ๋งที่ยืนอยู่ด้านข้างหลินเฟิง หน้าตาไม่เลวเลยจริง ๆถ้าหากเป็นแบบนี้ งั้นฉินเซี่ยวเทียนคนนี้อนาคตไม่แน่อาจจะกลายเป็นพ่อตาของหลินเฟิงก็ได้คิดได้ถึงตรงนี้ท่าทางของเสิ่นหานเปลี่ยนไปในทันที“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เองเหรอ แต่ว่าคุณชายหลินเคยสั่งเอาไว้ว่า สถานะของเขาห้ามพูดซี้ซั้ว”เสิ่นหานยิ้มพูด: “แต่ว่าผมสามารถบอกใบ้ให้คุณได้”ฉินเซี่ยวเทียนพูดด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส: “กัปตันเสิ่นพูดมาได้เลยครับ”“คุณเคยได้ยินสำนักเสวียนเทียนเมืองหนานไห่ไหม?”ฉินเซี่ยวเทียนเกาหัว เขาลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น: “เคยได้ยินมาบ้าง แต่ไม่รู้รายละเอียดชัดเจน”เขาเคยได้ยินสำนักเสวียนเทียนเมืองไห่หนานมาบ้างเหมือนว่าจะเป็นสำนักใหญ่ที่เก่าแก่เป็นอย่างมาก เดาว่าคงจะเก่งกาจกว่าสำนักอวี้เจียนอย่างมากเสิ่นหานสูดหายใจเข้าลึก ๆ: “คุณชายหลินเพียงแค่กระทืบเท้า ก็ทำให้บุคคลของสำนักเสวียนเทียนหวาดกลัวได้”“ห๊ะ?”ฉินเซี่ยวเทียนตกตะลึงอย่างมาก
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ