หลินเฟิงไม่รู้ว่าจับข้อมือของเขาเอาไว้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หมัดของเหลยปินไม่สามารถขยับไปข้างหน้าได้อีกแม้แต่น้อย“นายมีความสามารถแค่นี้เองเหรอ?” หลินเฟิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วมองเขาอย่างเหยียดหยาม“อะไรกัน?”เหลยปินตกตะลึงจนหน้าถอดสีเสียงของหลินเฟิงดังขึ้นอีกครั้ง: “ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนทรยศต่างมีจุดจบที่ไม่ดี นายก็เหมือนกัน”เพิ่งพูดจบ หลินเฟิงก็หักแขนของเหลยปินด้วยฝ่ามือข้างเดียวเสียงดัง “แกร่ก” แขนของเหลยปินหลุดออกตามเสียง เลือดสดไหลออกมาเหมือนกับน้ำพุในทันที“อ้าก...”เหลยปินส่งเสียงร้องอนาถเขาคาดคิดไม่ถึงเลยว่า หลินเฟิงจะหักแขนเขาหลุดออกมาได้ด้วยฝ่ามือนี้การเคลื่อนไหวของหลินเฟิงยังไม่หยุดลง เมื่อจับแขนของเขาได้ก็ออกแรงบีบ“กรอบแกร่บ”กระดูกของเหลยปินกลายเป็นเผ้าผงในทันทีจากนั้นหลินเฟิงก็เตะเขาลงจากเวทีประลองเหตุการณ์ทั้งหมดไม่เกินสามวินาทีหลินเฟิงก็โยนแขนที่ขาดของเหลยปินลงบนพื้นโดยไม่ได้ใส่ใจเหลยปินกุมแขนข้างที่เลือดไหลทะลักเอาไว้ และร้องตะโกนด้วยความน่าอนาถ: “คืนแขนฉันมา คืนแขนฉันมา...”หลินเฟิงพูดเหยียดหยาม: “ตั้งแต่วันนี้ไป มือทะลุเมฆาจะไม่มีการส
เฉินเทียนหลงยกมือขึ้นบังเอาไว้ทันที และเรียกกำลังภายในที่อยู่รอบตัวชั่วพริบตาเดียวเขาก็สัมผัสได้ถึงแรงโจมตีที่รุนแรงบางอย่างทำให้กำลังภายในของเขาถูกโจมตีจนแตกเป็นเสี่ยง ๆแขนทั้งสองข้างถูกสั่นสะเทือนจนชาไปหมด เฉินเทียนไม่สามารถทรงตัวได้ คนทั้งคนถอยหลังไปติด ๆ กัน และล้มออกไปจากเวทีประลองทันทีเสียงดัง “โครม” คนทั้งคนกระแทกเข้ากับกำแพงโดยตรงเฉินเทียนหลงสีหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ เลือดลมย้อนกลับเกือบทำให้อ้วกออกมาเป็นเลือดโชคดีที่เขาหยุดยั้งเอาไว้ได้ทันเวลา ฝืนระงับเลือดลมที่หมุนเวียนขึ้นลงลงไป“ผู้อาวุโส...” เฉินเหวินหย่วนและคนอื่น ๆ ตกตะลึงจนหน้าถอดสีหลินเฟิงถีบแค่เพียงครั้งเดียวก็ทำให้ผู้อาวุโสของตระกูลตัวเองถูกถีบจนตกจากเวที นี่มันน่าหวาดกลัวเกินไปหน่อยแล้ว“ผู้อาวุโส คุณไม่เป็นไรนะ?”เฉินเทียนหลงฝืนกลืนเลือดลมที่พุ่งขึ้นมาลงไป และโบกมือพูด: “ไม่เป็นไร...”“นี่...”ถังหว่านและคนอื่น ๆ ก็มองหน้ากัน“เอ๊ะ...หลินเฟิงบอกว่าเขาไม่ได้เป็นปรมาจารย์ลำดับโลกไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้จัดการคนของลำดับโลกได้ง่ายดายขนาดนี้?”ฉินอิ๋งที่อยู่ด้านข้างพูดเสียงเบา: “หลินเฟิงคงไม่ได้เป็นปรม
เฉินเทียนหลงชะงักงันแล้วซักถาม: “งั้นคุณอยากจะเอายังไง?”“ถังหว่านใช้เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทเพื่อการประลองในครั้งนี้ คุณชดใช้เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทมาด้วย” หลินเฟิงพูดด้วยความเผด็จการถังหว่านได้ยินคำพูดนี้หัวใจก็เต้นแรงจนเกือบถึงคอหายในทันทีตระกูลเฉินจะยอมตกลงขอเสนอที่ไร้เหตุผลแบบนี้ได้อย่างไร เพียงแค่ตระกูลเฉินไม่มายุ่งกับบริษัทเภสัชกรรมเชิงถัง เธอก็พอใจแล้วเฉินเหวินหย่วนได้ยินคำพูดนี้ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และด่าทอด้วยความโมโห: “ไอ้หนุ่มนี่มันข่มเหงรังแกกันเกินไปหน่อยแล้ว”“พอแล้ว”เฉินเทียนหลงตวาดเสียงดัง: “ก็แค่หนึ่งร้อยห้าสิบล้านเองไม่ใช่เหรอ ฉันให้คุณก็ได้แล้ว”ถังหว่านกับฉินอิ๋งตะลึงงันอยู่ที่เดิม อย่าว่าแต่เฉินเหวินหย่วนเลยแม้แต่ตระกูลใหญ่โตและประธานทุกคนที่ล้อมรอบดูความครึกครื้นอยู่ก็มีสีหน้างุนงง“นี่..ผู้อาวุโส นี่คุณ...ต่ำต้อยเกินไปหน่อยไหม?” เฉินเหวินหย่วนพูดด้วยความสงสัยเฉินเทียนหลงถลึงตาใส่เขาแล้วพูดเสียงเย็นชา: “นายเป็นผู้อาวุโสหรือว่าฉันเป็นผู้อาวุโส?”“เอ่อ...แน่นอนว่าคุณเป็นผู้อาวุโสอยู่แล้ว”“งั้นนายก็หุบปากอย่างว่าง่ายหน่อย”เฉินเทียนหลงเรียกลูกน
คำพูดนี้ของหลินเฟิงในสายตาของทั้งสามคนนั้นช่างอวดดีเป็นอย่างมากโจวเฉินตักเตือนด้วยความหวังดี: “คุณหลินอย่าได้มองข้ามปรมาจารย์ลำดับสวรรค์จะดีกว่านะครับ”“ในอดีตผมมีเกียรติได้พบกับปรมาจารย์ลำดับสวรรค์ อายุเกินห้าสิบปี แต่ยังคงมีความน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก”“คนที่สามารถขึ้นลำดับสวรรค์ได้ แทบจะไม่ใช่นักบู๊ธรรมดาทั่วไป”หลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็ทำเพียงแค่ยิ้มบาง: “ขอบคุณที่เตือนครับ”ถ้าหากโจวเฉินได้เจอกับหลินเฟิงในช่วงที่อยู่จุดสูงสุดก็จะเข้าใจว่า แค่ลำดับสวรรค์ธรรมดา ๆ ไม่สามารถรองรับหลินเฟิงได้ด้วยซ้ำหลังจากถังหว่านสั่งการเสร็จก็จากไปอย่างรีบร้อนหลินเฟิงพูดว่าเป็นบอดี้การ์ดของถังหว่านแต่แทบจะไม่เหมาะสมกับตำแหน่งด้วยซ้ำ เขาไปทำงานได้ไม่กี่วันด้วยซ้ำจากนั้นก็เดินทางกลับบ้านคนเดียว......ขณะเดียวกัน สนามบินนานาชาติเมืองเจียงโจวครอบครัวของเซี่ยงตงเซิงกับไป๋จินเต๋อและคนอื่น ๆ ได้มารออยู่ที่รอรับอยู่นานแล้ววันนี้เป็นวันที่ลูกชายคนโตของตระกูลเซี่ยงกลับมาเซี่ยงตงเซิงให้ความสำคัญกับลูกชายคนนี้ของเขาเป็นอย่างมาก และก็เห็นเขาเป็นผู้สืบทอดของตัวเองอายุสิบแปดไปเรียนที่ต่างประเทศ ศ
ขณะพูดก็มอบของขวัญที่อยู่ในมือไปให้ในมือของเซี่ยงตงเซิง นี่ก็คือผลึกน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลายของสำนักเสินฉือ นั่นเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของสำนักเสินฉือคนธรรมดาทานเข้าไปก็จะมีผลทำให้อายุยืนยาวเซี่ยงตงเซิงเคยได้ยินลูกชายพูดถึงของสิ่งนี้อยู่เป็นประจำ คิดไม่ถึงว่าเด็กสาวของตระกูลโอวหยางจะมอบมันให้กับเขาไม่ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม เขาก็รีบยิ้มแย้มพูดขึ้น: “คุณหนูโอหยางเกรงใจกันเกินไปแล้ว”“พวกลูกสองคนก็อายุไม่น้อยแล้วจริง ๆ นั่นแหละ เรื่องแต่งงานก็ควรจะกำหนดวันแล้ว”“แต่ว่า มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ยังต้องรีบจัดการน่ะสิ”เซี่ยงตงเซิงเปลี่ยนเรื่องคุย: “ไม่กี่วันก่อน น้องสาวของลูกถูกคนรังแก”เซี่ยงหลงได้ยินแบบนี้ก็ยกมือขัดจังหวะทันที: “เรื่องนี้น้องสาวได้บอกกับผมแล้ว”“คิดไม่ถึงว่าจะยังมีคนกล้ารังแกน้องสาวของผม ไม่รู้จักความเป็นความตายจริง ๆ คุณพ่อไม่ต้องเป็นกังวล ครั้งนี้ที่ผมกลับมาก็เพื่อแบ่งเบาคุณพ่อกับน้องสาว”“ตั้งแต่นี้ไป ผมจะทำให้ทุกคนที่เมืองเจียงโจวได้รับรู้ว่า กล้าหาเรื่องครอบครัวของเซี่ยงหลง จุดจบจะน่าอนาถมากแค่ไหน”ได้ยินคำพูดอันฮึกเหิมของลูกชายของเขา เซี่ยงตงเซิงก็หน้าตายิ้ม
หลินเฟิงลูบใบหน้าของตัวเอง ข้างบนยังมีรอยลิปสติกสีแดงที่ติดอยู่กลิ่นหอมบาง ๆ ลอยเข้าจมูกทำให้คนรู้สึกเคลิบเคลิ้มจริง ๆหลินเสวี่ยฮุ่ยที่อยู่ด้านข้างเบะปากพูด: “นี่ คุณยังจะทานข้าวอีกไหม? หอมแก้มนิดหน่อยทำให้วิญญาณของพี่หายไปแล้วเหรอ?”“แค่กแค่ก...”หลินเฟิงไอออกมา คิดไม่ถึงว่าเขาก็มีวันที่ต้องอับอายขายหน้าแบบนี้ด้วยเขาถลึงตาใส่หลินเสวี่ยฮุ่ยแล้วพูดว่า: “เด็กน้อยอย่างเธอจะรู้อะไร”หลินเสวี่ยฮุ่ยเหลือบตามองเขา: “ฉันอายุยี่สิบแล้วนะ คุณคงไม่ได้เห็นฉันเป็นเด็กน้อยหรอกใช่ไหม?”พูดจบยังตั้งใจแอ่นอกของตัวเองหลินเฟิงหัวเราะเยาะขึ้นมา: “ดูไม่ออกว่าตรงไหนของเธอใหญ่”“คุณ...”หลินเสวี่ยฮุ่ยโมโหจนหน้าแดงก่ำ“ฉันดูแล้วคุณคงไม่ได้เป็นผู้ชายซิงหรอกใช่ไหม?”เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็ยิ่งรู้สึกสงสัยอย่างมาก จึงจับแขนเสื้อของหลินเฟิงเอาไว้: “หลินเฟิง คุณเป็นผู้ชายซิงใช่ไหม?”หลินเฟิงหน้าแดงไปถึงใบหู และขมวดคิ้วพูด: “ตอนนั้นมีความจำเป็นในการฝึกวิทยายุทธ หยวนหยางไม่ได้ถูกปล่อยออกไปนั้นเป็นเรื่องดี มีอะไรน่าขำ”“ฮ่าฮ่าฮ่า...พอเลย”หลินเสวี่ยฮุ่ยหัวเราะจนหุบปากไม่ได้ และร่างกายก็สั่นเทา:
พวกโจวเสี่ยวหางก็สะพายกระเป๋ารุ่นนี้ หลินเสวี่ยฮุ่ยถึงแม้อยากได้ตั้งนานแล้ว แต่เธอไม่มีเงินจริง ๆหลินเฟิงยิ้มพูด: “ไม่มีปัญหา เธอดูว่ามีเสื้อผ้าหรือของอย่างอื่นที่ต้องการอีกไหม ซื้อพร้อมกันซะเลย”หลินเสวี่ยฮุ่ยได้ยินคำพูดนี้ ก็โบกมือติดต่อกันในทันที ”ไม่เอาหรอก ของในร้านนี้แพงมาก คุณซื้อกระเป๋าให้ฉัน ฉันก็ดีใจมากแล้ว”เธอทำใจให้หลินเฟิงใช้จ่ายเงินมากมายไม่ได้หรอกในเมื่อตั้งแต่เล็กเธอช่วยแม่ของเธอดูแลร้าน เธอรู้ดีมาก ๆ ว่าการหาเงินนั้นยากมากแค่ไหน”หลินเฟิงพูดอย่างไม่ใส่ใจ: ไม่เป็นไร วันนี้ฉันดีใจมาก คุณอยากซื้ออะไรก็ซื้อเถอะค่ะ”เขาดีใจเป็นอย่างมาก หลินเสวี่ยฮุ่ยอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ครอบครัวยากจน ไม่ได้กลายเป็นผู้หญิงที่เห็นแต่ผลประโยชน์และแน่นอนว่าต้องเป็นเพราะจ้าวเฉียวอวิ๋นสั่งสอนมาดี“ฮะ! ไม่ต้องจริง ๆ ค่ะ อีกอย่างตอนนี้ฉันยังมีเสื้อผ้าอีก ซื้อเยอะแยะขนาดนั้นทำไมคะ” หลินเสวี่ยฮุ่ยท่าทางแน่วแน่หลินเฟิงเห็นแบบนี้ก็พูดอะไรอีกไม่ได้ ทำได้แค่พยักหน้าเมื่อมาถึงเคาน์เตอร์ชำระเงิน กระเป๋าสะพายข้างทั้งหมดราคาหกพันห้าร้อยบาท หลินเฟิงจ่ายเงินโดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อยในตอน
แม้แต่หลินเฟิงที่อยู่ด้านข้างเมื่อมองไปแล้วก็ก้มหน้าลงด้วยสัญชาตญาณ จากนั้นก็เอามือลูบจมูกของตัวเองไม่กล้าพูดอะไรมากหลี่ซืออวี่ชี้ไปทางชุดชั้นในตัวนั้น เป็นชุดนอนสีดำบางตัวหนึ่งดูยังไงก็มีความลามกอยู่เล็กน้อยหลินเสวี่ยฮุ่ยดึงหลี่ซืออวี่เอาไว้ทันที จากนั้นก็พูดเสียงเบา: “ชุดนี้ใส่ได้ยังไงกัน ไม่เอาดีกว่า”หลี่ซืออวี่ได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้น: “ชุดนี้ทำไมจะใส่ไม่ได้ ฉันคิดว่าสวยมากเลยนะ”พนักงานที่อยู่ข้าง ๆ รีบเดินเข้ามาพูด: “ใช่ค่ะ ชุดชั้นในรุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของร้านของเราเลยนะคะ”“การออกแบบไม่เพียงทันสมัย เซ็กซี่ แถมยังสบายมาก ๆ ฉันเองก็ยังเคยซื้อเลยค่ะ”“ตอนนี้มีทั้งไซซ์ใหญ่ไซซ์เล็ก พวกคุณอยากจะลองไหมคะ?”หลี่ซืออวี่พูดกับหลินเสวี่ยฮุ่ยด้วยความใจเย็นเป็นอย่างมาก: “เสวี่ยฮุ่ย เธอดูชุดชั้นในแบบนั้นที่เธอใส่สิ ทั้งหนาทั้งขี้เหร่ ผู้ชายคนไหนดูแล้วจะชอบบ้างล่ะ?”“ให้ฉันพูดนะเธอซื้อชุดนี้เถอะ รับรองว่าผู้ชายเห็นแค่แวบเดียวก็ลืมไม่ลงหรอก”หลินเสวี่ยฮุ่ยใบหน้าร้อนผ่าว หางตาเหลือบมองไปทางหลินเฟิงที่อยู่ข้าง ๆเมื่อเห็นหลินเฟิงหน้าแดงระเรื่อ เธอก็อยากจะลองดูบ้าง แต่ก้าวข้ามอุปส
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ความโกรธบนใบหน้าของหลงหยวนก็ค่อยๆ หายไปเขาหัวเราะกะทันหัน เสียงหัวเราะนั้นชั่วร้ายมาก“หลินเฟิง นายเก่งจริงๆ นายกล้าทำให้ฉันอับอายแบบนี้”ในตอนนี้บนโต๊ะของหลงหยวนมีโทรศัพท์มือถือจอกว้างตั้งไว้อยู่และบนโทรศัพท์ กำลังเปิดข่าวประจำวันไว้อยู่ในวิดีโอที่ข่าวเผยแพร่ออกมาหลงซิ่วที่คลุ้มคลั่งถูกเซนเซอร์บังเอาไว้ กับถานหงราชินีนักร้องเมื่อฟังเสียงกรีดร้องอันแหลมสูงของถานหงในวิดีโอ หลงเยียนก็หันกลับมามองลูกน้องของเขาด้วยสายตาที่เย็นชา“ทันหงกับหลงซิ่วล่ะ ให้พวกเขามาพบฉัน!”"นี่......"ผู้คุ้มกันตระกูลหลงลังเลเล็กน้อย ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแล้วพูดว่า:“เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป เราจึงส่งคนไปตามหาพวกเขา สุดท้ายก็พบพวกเขาในบาร์ใต้ดินที่คุณหลงซิ่วมักไปเยี่ยมเยียน”“รอให้พวกเราพบคุณหลงซิ่วและถานหง พวกเขาก็ตายไปแล้ว...”“......”เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มดุร้ายบนใบหน้าของหลงหยวนก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้น“หลินเฟิงนะหลินเฟิง นายประกาศสงครามกับฉันเหรอ? ฆ่าหลงอวี่และหลงเซี่ยว และทำให้ตระกูลหลงของฉันต้องอับอาย ฉันจะเก็บหนี้เลือดทั้งหมดนี้ไว้เป็นหลักฐาน!”"ไม่ช้าก็เร
ถานหงกำลังหัวเราะเยาะตัวเองเธอวางแผนมาเป็นเวลานาน โดยต้องการใช้ตระกูลหลง เพื่อแก้แค้นหลินเฟิง อิ่นนั่วเจียและคนอื่นๆติดไม่ถึงว่านี่จะเป็นผลลัพธ์สุดท้ายแม้แต่หลงซิ่วซึ่งได้รับการยกย่องว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ก็ไม่สามารถต้านทานได้ในขณะนี้เขาถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ใส่ใจเหมือนกับตะพาบน้ำแต่ทว่าถานหงกลับไม่รู้ว่าหลงซิ่วยังไงก็เป็นถึงรองหัวหน้าฝ่ายธุรการแนวหลังของสำนักหลงผาน ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเพียงแค่ด้อยกว่าหลินเฟิงมากไปหน่อยก็เท่านั้นเองยิ่งกว่านั้นเขายังมีความเย่อหยิ่งมากเกินไป เขาไม่ได้พาลูกน้องของเขามาด้วย เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากันครั้งนี้ ดังนั้นจึงถูกหลินเฟิงเอาชนะได้อย่างง่ายดายหลินเฟิงเตรียมยาพิษไว้สำหรับหลงซิ่วโดยเฉพาะเมื่อหลงซิ่วต้องการใช้พลังชี่แท้ พิษก็จะออกฤทธิ์พิษนี้จะไม่ฆ่าหลงซิ่วทันที แต่จะทำให้เขาเกิดความปรารถนาอันแรงกล้าในตอนแรกเขาสามารถต้านทานด้วยความมุ่งมั่นและพลังชี่แท้ของเขาได้ แต่เมื่อพิษค่อยๆ รุกรานร่างกาย เขาก็สูญเสียสติทั้งหมดไปหลังจากระบายความโมโห ก็เสียชีวิตทันทีเขากล้าใช้กลอุบายสกปรกกับหลินเฟิง ดังนั้นหลินเฟิงก็ไม่มีทา
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน