“ใครก็ได้ จับมันมาให้ฉันที”ด้วยคำสั่งของหม่าเหยียน บอดี้การ์ดของตระกูลหม่าจึงล้อมพื้นที่เอาไว้ทันทีหลินเฟิง มองไปที่ผู้คนที่รายล้อมอยู่รอบตัวเขา คิ้วของเขาขมวดด้วยความไม่พอใจ: "นี่มันหมายความว่าอะไร?"หม่าเหยียนเขย่ากล่องยาในมือและด่า "เมียของแกทำร้ายพ่อฉันไปครั้งหนึ่ง แล้ว และตอนนี้แกยังต้องการเอาชีวิตพ่อฉันอีก"“ถ้าวันนี้ฉันไม่ทำให้แกพิการ ไม่ต้องเรียกฉันว่าหม่าเหยียน”หลินเฟิงจนปัญญาจึงพูดว่า "สิ่งที่อยู่ข้างในนี้คือยาที่สามารถช่วยชีวิตพ่อของคุณได้"“ไร้สาระ จัดการมันซะ!”หม่าเหยียนคำรามด้วยความโกรธบอดี้การ์ดดึงอาวุธออกมาทันที โดยมีเป้าหมายที่จะบดขยี้หลินเฟิงทันใดนั้น รถซีดานคันหนึ่งก็พุ่งเข้ามา ทำให้บอดี้การ์ดของตระกูลหม่ากระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทางประตูรถเปิดออก และคนที่มาถึงคือจางเต๋อหลิน“หม่าเหยียน อย่าเพิ่งลงมือ อย่าเพิ่งลงมือนะ!…”เขารีบมาทันทีหลังจากได้รับโทรศัพท์จากตระกูลหม่าเขาไม่เคยคิดเลยว่าในเวลาเพียงไม่กี่วัน ในตลาดจะเจอยาอมตะเลือดราชันย์ปลอมและมีคุณภาพต่ำเมื่อมาถึงวิลล่าตระกูลหม่า พบว่าหม่าเหยียนกำลังจะจัดการกับหลินเฟิงเขาไม่มีทางเลือกอื่นน
คาดว่าแม้แต่ตัวของนายน้อยเองก็ไม่กล้าตอบโต้กลับหลินเฟิงส่ายหัว “ฉันเข้าใจความรู้สึกของเขา ฉันจะอาจไม่ตำหนิเขาอย่างแน่นอน”หากมีใครที่จะตำหนิ คงตำหนิได้แค่หลี่ฮุ่ยหราน ที่ยืนกรานจะนำเสนอยาอมตะเลือดราชันย์ปลอมในฐานะสมบัติมีค่าตอนนี้ตัวเขาเองได้นำของจริงมา แต่พวกเขาก็ยังคงคิดว่ามันเป็นของปลอมอยู่ดีดังนั้นไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องนี้กับพวกเขาอีกต่อไปจางเต๋อหลินขยับเข้ามาหาหลินเฟิง ด้วยความเคารพอย่างสูง "ความมีน้ำใจของสหายน้อยหลินนั้น อยู่นอกเหนือจากคนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง"“อ่อใช่ หากสหายน้อยหลินว่าง สามารถไปเยี่ยมสำนักไป๋เกาได้ และพวกเรายังสามารถพูดคุยเกี่ยวกับเทคนิคทางการแพทย์กันได้”หลินเฟิงยกมือขึ้น "หมอเทวดาจางวางใจเถอะ ฉันจะต้องใช้ยาจำนวนมากในอนาคต และต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ถ้ามีเวลาจะต้องไปเยี่ยมอย่างแน่นอนครับ"เมื่อได้ยินหลินเฟิงพูดเช่นนี้ จางเต๋อหลินก็ยิ้มอย่างมีความสุขเขาไม่กลัวว่าหลินเฟิงจะต้องการความช่วยเหลือจากตนเอง แต่เขากลัวว่าหลินเฟิงจะไม่ต้องการเขาความสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน ต้องเป็นแบบมีรับและต้องมีได้กลับมาอย่างแน่นอน“สหายน้อยหลิน ไม่ว่าคุณต้องการอะไร
หม่าเหยียนพาหลี่ฮุ่ยหรานและอีกคนออกมาด้วยตัวเองเมื่อไปถึงทางเข้าวิลล่า หลี่ฮุ่ยหรานกำลังจะขึ้นรถก็เห็นร่างที่คุ้นเคยเป็นจางเต๋อหลิน หัวหน้าสำนักไป๋เกา แห่งเจียงโจวเขาเป็นคนที่ติดตามท่านผู้ว่าหลิวไปที่โรงแรมเทียนอวี่เมื่อครั้งที่แล้วหวางเส้าหรงยังได้แนะนำฐานะของคนอีกหลายคนเธอรีบวิ่งไป: "หมอเทวดาจาง?"เห็นเข้าจางกุ้ยหลานก็รีบตามไปเช่นกันจางเต๋อหลินได้ยินใครบางคนเรียกเขา จึงหันศีรษะกลับมาด้วยความประหลาดใจแล้วพูดว่า "คุณหนูคนนี้เป็นใคร?"หลี่ฮุ่ยหรานเผยรอยยิ้มอย่างมืออาชีพและพูดว่า "ผู้น้อยหลี่ฮุ่ยหราน ได้พบหมอเทวดาจางแล้วค่ะ""โอ้..."จู่ๆ จางเต๋อหลินก็ตระหนักได้ว่า: "คุณหนูหลี่นี่เอง ฉันขอโทษด้วยครับ"หลี่ฮุ่ยหรานค่อนข้างงุนงงกับท่าทีที่สุภาพของเขา: "หมอเทวดาจาง... คุณรู้จักฉันเหรอคะ?""จริงๆ ก็ไม่ครับ"จางเต๋อหลินส่ายหัว: "แต่ชื่อเสียงของคุณหนูหลี่เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับทุกคน""ด้วยความที่ยังเด็กมากและสามารถทำงานร่วมกับตระกูลถังได้ อนาคตของคุณหนูหลี่จะสว่างสดใสอย่างแน่นอน!"หลี่ฮุ่ยหรานหน้าแดงเล็กน้อย: "หมอเทวดาจาง คุณชมฉันเกินไปแล้วค่ะ"“ใช่แล้ว หมอเทวดาจาง คุณถ
ในขณะนี้ หวังเส้าหรงได้โทรมา“ฮุ่ยหราน เธอโอเคไหม? ไม่ต้องกังวล ฉันได้ส่งคนมาจัดการเรื่องนี้แล้ว ถ้าหม่าเหยียนยังกล้าแตะต้องเธอ ฉันจะไม่ยอมปล่อยเขาไว้อย่างแน่นอน”อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงเขาไม่ได้ส่งใครมาเพราะเขาไม่ได้คิดถึงวิธีแก้ปัญหานี้เลยจริงๆคือทำให้แน่ใจว่าหลี่ฮุ่ยหรานไม่รู้ว่ายาอมตะเลือดราชันย์เป็นของปลอม และให้หม่าเหยียนปล่อยตัวออกมาหลี่ฮุ่ยหรานพูดอย่างเฉยเมย "ไม่ต้องกังวลไปค่ะ นายน้อยหวัง คุณแม่กับฉันออกมาได้แล้วค่ะ"“ใช่แล้วค่ะ นายน้อยหวังคุณส่งใครมาเหรอคะ?”ดวงตาของหลี่ฮุ่ยหรานหรี่ลงเล็กน้อยหวังเส้าหรงตะลึงไปชั่วขณะ และพูดติดอ่างโดยไม่สามารถอธิบายคำพูดที่ชัดเจนได้นั้นทำให้หลี่ฮุ่ยหรานมั่นใจมากขึ้นว่าจางเต๋อหลินคือคนที่หลินเฟิงส่งมาไม่อย่างนั้นเขาจะไม่คิดนานแบบนี้หรอก?จางกุ้ยหลานตะโกนออกมาจากด้านข้างโทรศัพท์ "นายน้อยหวังคนที่คุณส่งมาคือหมอเทวดาจางใช่ไหมคะ?"เมื่อได้ยินสิ่งนี้เข้าทางโทรศัพท์ หวังเส้าหรงก็รีบพูดว่า "ใช่ๆ เป็นหมอเทวดาจางครับ"“คุณแม่? คุณแม่ทำอะไรคะ?” หลี่ฮุ่ยหรานค่อนข้างรำคาญจางกุ้ยหลินพูดว่า "เห็นไหม ฉันบอกไปแล้วว่า นายน้อยหวังต้องเป็น
ฉินอิ๋งและหลินเฟิงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว และเธอก็ทักทายเขาอย่างรวดเร็ว: "คุณหลิน"โจวเฉินไม่พอใจหลินเฟิงมานานแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่เชื่อว่าหลินเฟิงสามารถปกป้องถังหว่านได้ดี และทำเสียงฟึดฟัดอย่างเย็นชาโดยไม่สนใจเขาเลยหลินเฟิงกลอกตา: "คุณรู้วิธีการทำงานจริงๆหรือเปล่า"“มันไม่ใช่แบบนั้น พวกคุณทั้งสามคนต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของฉัน ดังนั้นแน่นอนว่าฉันจะต้องพาคุณไปด้วย”หลินเฟิงขึ้นรถ นั่งแถวหลังกับโจวเฉินมีพื้นที่ว่างและระยะห่างระหว่างคนทั้งสองถังหว่านเหยียบคันเร่งและขับไปทางเขตซีเฉิงมุ่งหน้าตรงไปยังโรงงานเก่าในเขตชานเมืองด้านตะวันตกสถานที่แห่งนี้ถูกทิ้งร้าง บริเวณโดยรอบของโรงงานเต็มไปด้วยยานพาหนะที่ถูกทิ้งร้างแล้วทั้งสี่ก็ลงจากรถและเดินตรงเข้าไปในโรงงานผู้นำหนุ่มคนหนึ่งก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อหยุดพวกเขา: "คุณมาทำอะไรที่นี่? ใครอนุญาตให้คุณเข้าไป?"ถังหว่านพูดกับหัวหน้าคนงาน: "ฉันชื่อถังหว่าน เรียกเจ้านายของคุณออกมาพบฉันหน่อยสิ"“ถังหว่าน? คุณหนูใหญ่ถัง?”ถังหว่านพยักหน้า“รออยู่ที่นี่ ผมจะรีบไปโทรตามเถ้าแก่ครับ”หลังจากพูดจบหัวหน้าคนงานก็วิ่งกลับไปที่สำนักงาน
เธอถามอย่างสงสัย “คนจากตระกูลเซียง?”อู๋เสี่ยวเจี๋ยพยักหน้า "คุณหนูถังมีสายตาที่เฉียบแหลม คนเหล่านี้เป็นสามพี่น้องตระกูลเซียงจากหยางเฉิง"ถังหว่านพูดอย่างเหยียดหยาม "ฉันไม่คิดว่าแกจะติดต่อกับคนจากตระกูลเซียง ไม่น่าแปลกใจเลยที่แกหยิ่งผยองขึ้นกว่าเดิม"เพราะหยางเฉิงและเจียงโจวเป็นเมืองใกล้เคียง และตระกูลเซียงก็เป็นผู้ประกอบการท้องถิ่นในหยางเฉิงอำนาจตระกูลของพวกเขานั้นไม่ใช่น้อย และโดยไม่คาดคิด ตอนนี้พวกเขาได้ขยายอาณาเขตมายังเจียงโจวแล้วอู๋เสี่ยวเจี๋ยจุดบุหรี่แล้วพูด "ฉันสงสัยว่าคุณหนูถังจะกล้าพนันหรือเปล่า?"หลังจากเข้าร่วมตระกูลเซียงแล้ว นายใหญ่เซียงยังมอบหมายแฝดสามคนที่เติบโตในตระกูลเซียงมาตั้งแต่เด็กให้เขาด้วยพวกเขาแต่ละคนล้วนเป็นนักสู้ที่มีทั้งทักษะที่ยอดเยี่ยมและมือเปื้อนเลือดอีกด้วยแม้ว่าจะกล่าวกันว่ามีไว้เพื่อปกป้อง แต่ก็เพื่อการสอดแนมด้วยเช่นกันวันนี้เขาก็อยากจะเห็นว่าทั้งสามคนนี้มีความสามารถมากแค่ไหนถังหว่านเท้าเอว แล้วดูถูกว่า "ฉันกลัวแกงั้นเหรอ? ใครอยากจะออกมาก่อน?"พี่คนโตของตระกูลเซียงก้าวไปข้างหน้าทันที“ถ้าคุณแพ้มันจะเป็นยังไง คุณหนูถัง?” อู๋เสี่ยวเจี๋ยถา
เซียงคนโตที่มีความสูงตระหง่านกว่า 190 ซม. ทำให้โจวเฉินดูแคระแกร็น อีกฝ่ายได้เปรียบด้านรูปร่างแต่โจวเฉินมีความคล่องตัวเป็นอาวุธ เขาหลบเลี่ยงและโยกหลบอย่างมีชั้นเชิงเขาหลีกเลี่ยงการต่อยหนักๆ ของคู่ต่อสู้ และคว้าจังหวะโจมตีได้ในทันทีพี่ใหญ่เซียงโดนหมัด สีหน้าของเขาจึงเปลี่ยนเป็นดุร้ายฝีเท้าของเขาเร็วขึ้น ความถี่หมัดของเขาสูงขึ้นทั้งสองแลกเปลี่ยนการเคลื่อนไหวหลายสิบครั้งในพริบตาโรงงานเต็มไปด้วยฝุ่นตลบและบรรยากาศที่ตึงเครียดชัยชนะนั้นยากที่จะกำหนดได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งยิ่งโจวเฉินโจมตีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งตกใจมากขึ้นเท่านั้น แอบถอนหายใจว่าเด็กคนนี้มาจากไหนไม่คาดคิดว่าจะมีแรงมากเช่นนี้ขณะที่พี่ใหญ่เซียงออกหมัดอีกครั้งเขาก็หลบอย่างรวดเร็ว"โอกาสดี"เมื่อมองเห็นการป้องกันรอบเอวของคู่ต่อสู้ เขาจึงกำหมัดแน่นและต่อยอย่างดุเดือด"ปัง."เสียงดังอู้อี้หมัดของเขาถูกจับในมือของอีกฝ่ายอย่างแน่นหนาโจวเฉินตกใจมาก ไม่เคยคิดว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะดักรอการโจมตีของเขาอยู่“ฉันคิดว่าแกเป็นคนที่น่าเกรงขาม แต่กลับกลายเป็นว่าแกเป็นเพียงคนอ่อนแอที่เอาเปรียบจากจุดอ่อนคนอื่น”จากนั้นเขาก็ชกไปท
เขาแสดงเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?เขาอยากจะจัดการทั้งสามคนด้วยตัวเองคนเดียวเลยเหรอ?ดวงตาของถังหว่านหรี่ลงเล็กน้อย ตามความเข้าใจของเธอเกี่ยวกับหลินเฟิง เขาจะไม่พยายามทำอะไรเว้นแต่เขาจะมั่นใจในความสำเร็จเป็นไปได้ไหมว่า หลังจากได้รับโสมเสวียนหลิงเมื่อครั้งก่อน ความแข็งแกร่งของเขาถึงได้เพิ่มขึ้นไปอีก?อู๋เสี่ยวเจี๋ยหัวเราะชอบใจ "ฮ่าๆ คุณหนูถัง ลูกน้องของคุณดูไม่เห็นจะเท่าไหร่ แต่รู้วิธีอวดดีเก่งจริงๆ"ถังหว่านมีศรัทธาอย่างเต็มที่ในหลินเฟิง จึงได้โต้กลับไปว่า "ไม่ว่าจะโอ้อวดดีหรือไม่ก็ตาม เราก็จะได้เห็นดีกัน""ฮึม"อู๋เสี่ยวเจี๋ยตะคอกอย่างเย็นชา "พี่ใหญ่เซียง จัดการไอ้เด็กคนนี้ซะ"พี่ใหญ่เซียง วอร์มข้อมือของเขา "หนุ่มน้อย เตรียมพบกับความตายของแกได้เลย"ทันทีที่เขาพูดจบ พี่ใหญ่เซียงก็ต่อยทันทีมันเหมือนกับลูกกระสุนปืนใหญ่ที่เล็งตรงไปที่ใบหน้าของหลินเฟิงแต่หลินเฟิงยังคงไม่ขยับเขยื้อนขณะที่หมัดของพี่ใหญ่เซียง กำลังจะปะทะเข้ากับเขาทันใดนั้น หลินเฟิงก็ยกมือขึ้นและคว้ามันไว้เขาหยุดหมัดของพี่ใหญ่เซียงที่รุนแรง และป้องกันไม่ให้มีการเคลื่อนไหวใด ๆอีกต่อไป"แก..."ดวงตาของพี่ใหญ่เซีย
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ