“อุ๊ย คนสวยคนนี้เป็นใคร? ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นที่คณะแพทย์มาก่อน?”“วางใจได้ หลิวฮ่าวไม่ใช่คนที่แล้งน้ำใจ คนสวยคนนี้ ถ้าหากคุณไม่มีเงินจ่ายค่าคุ้มครอง งั้นคืนนี้ไปนอนกับผมที่โรงแรมนอกมหาวิทยาลัยสักคืนก็พอใจ”มองดูสายตาหื่นกามของหลิวฮ่าวที่กวาดมองไปบนตัวหลินเสวี่ยฮุ่ย หลินเฟิงเดินเข้าไป จากนั้นจับไหล่ของหลิวฮ่าวเอาไว้เขาสัมผัสถูกจุดสำคัญของหลินเฟิงได้พอดี“เดิมอยากจะฝากความประทับใจที่ดีให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัย”“คิดไม่ถึงว่าในมหาวิทยาลัยก็มีสวะแบบนายอยู่ด้วย”ท่ามกลางสายตาที่งุนงงของหลิวฮ่าว หลินเฟิงเหวี่ยงฝ่ามือ ตบไปที่ใบหน้าของหลิวฮ่าวอย่างแรง ตบจนเขากลิ้งตัวไปบนพื้นทันที“ไสหัวไปซะ!”หลินเฟิงตะคอกด่าเสียงต่ำ ทันใดนั้นก็ทำให้พวกนักศึกษาที่ล้อมรอบอยู่แอบรู้สึกสะใจในเมื่อนักเรียนเหล่านี้ทนทุกข์ทรมานจากหลิวฮ่าวมานานแล้ว“แกกล้าตบฉันเหรอ? แกแม่งกล้าตบฉันเหรอวะ!”หลิวฮ่าวที่ล้มลุกคลุกคลานขึ้นมาจากบนพื้นชี้หน้าด่าหลินเฟิง: “แกรอฉันได้เลย แกแม่งอย่าไปไหนล่ะ รอฉันอยู่นี่!”ฟังหลิวฮ่าวทิ้งคำขู่เอาไว้ และกุมหน้าจากไป นักศึกษาที่อยู่รอบ ๆ ก็เผยสีหน้าเป็นกังวลออกมา“พี่หลินเฟิง ห
ในตอนที่หลินเฟิงกำลังคุมเชิงอยู่กับหลิวฮ่าวและคนอื่น ๆ ที่ตรงทางเดิน นักศึกษาที่อยู่ในห้องเรียนก็มองไปตรงทางเดินด้วยความอยากรู้อยากเห็นและยิ่งมีนักศึกษาผู้หญิงที่ขี้ขลาดจำนวนมากต่างตกใจจนหน้าซีดเซียวที่ผ่านมาภายในคณะแพทย์ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีคนแข็งข้อมาก่อนแต่ทุกครั้งคนที่กล้าแข็งข้อต่อกล่อนกับหลิวฮ่าว จุดจบต่างน่าอนาถอย่างมาก“หลิวฮ่าว นายพอแค่นี้เถอะ!”โจวเสี่ยวหางออกมาจากห้องเรียน เชิญหลินเฟิงมาที่คณะแพทย์เป็นความคิดของเธอ ถ้าหากหลินเฟิงเกิดอะไรขึ้น อย่าว่าแต่หลินเสวี่ยฮุ่ย แม้แต่เธอเองก็ไม่มีทางโน้มน้าวใจตัวเองได้โจวเสี่ยวหางแอบตำหนิบตัวเอง ทำไมถึงคิดถึงไอ้สารเลวหลิวฮ่าวคนนี้ไม่ได้นะ“เสี่ยวหาง อย่าโทษฉันเลย ถ้าจะโทษก็โทษไอ้หมอนี่ที่กำเริบเสิบสานเกินไป วันนี้ไม่ให้มันได้เห็นฝีมือหน่อย ก็คงจะคิดว่าฉันหลิวฮ่าวกระจอกงอกง่อย?”หลิวฮ่าวเลียริมฝีปาก จากนั้นผลักโจวเสี่ยวหางไปด้านข้าง“พี่หลินเฟิง”หลินเสวี่ยฮุ่ยวิ่งออกมาจากห้องเรียน ถึงแม้จะกระวนกระวายใจ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้เลยเธอที่รู้ความ รู้ว่าตัวเองเข้าไปมีแต่จะเป็นตัวถ่วงหลินเฟิง“ไม่ต้องกังวล ฉันจัดการได้”หลินเฟิงพยัก
หลิวหย่งหายใจหอบ“พี่ มีคนตบผม ที่มหาวิทยาลัยเจียงโจว”“ตบนาย?”หลิวหย่งหยุดการกระทำลง และขมวดคิ้วขึ้นมา: “ฉันบอกให้นายตั้งใจเรียน อย่าทำแบบนั้นที่ในมหาวิทยาลัยไม่ใช่เหรอ?“ไม่ใช่นะ คนคนนี้กำเริบเสิบสานมาก ไม่ไว้แม้แต่หน้าพี่”“ว่าอะไรนะ…”หลิวฮ่าวอยู่ในโทรศัพท์หยุดชะงักครู่หนึ่ง ดูท่ากลัวว่าจะทำให้พี่ชายที่อารมณ์ร้อนของตัวเองโมโหจากนั้นพูดเสียงเบามาก: “เขาบอกว่าต่อให้พี่มา เขาก็ตบไม่เว้น”“อะไรนะ?”หลิวฮ่าวโมโหอย่างมาก ไม่ไว้แม้แต่หน้าของฉันหลิวหย่ง?โมโหก็ส่วนโมโหหลิวหย่งคลุกคลีอยู่กับเซียวคุนที่เขตตงเฉิงหลายปีขนาดนี้ ไม่ใช่คนที่รู้จักแต่ใช้กำลังเท่านั้น เขาหยุดชะงักครู่หนึ่ง จากนั้นก็ข่มความโมโหของตัวเองและถามขึ้น: “เขาได้พูดไหมว่าเขาเป็นใคร?”“ชื่อ อย่างน้อยนายน่าจะรู้ชื่อของเขาสินะ?”“เขาชื่อ…หลินเฟิง”“หลินเฟิง?!”หลิวหย่งได้ยินชื่อนี้ก็นิ่งอึ้งทันที“หลินเฟิงไหน?”“เขาเหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าผู้ผลิตยาของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถัง…”คนที่ชื่อซ้ำกับหลินเฟิงเมืองเจียงโจวไม่ใช่ว่าจะไม่มีแต่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลถัง อีกทั้งยังกำเริบเสิบสานขนาดนี้ ในหัวของหลิวหย่งก็
ภายใต้การบีบบังคับของพี่ชายตัวเอง หลิวฮ่าวก้มหน้าขอโทษไปทางหลินเฟิงภาพนี้ ทำให้นักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนตกตะลึงพวกเขาอดไม่ได้ที่จะหันหน้ามองไปทางหลนเฟิงที่หน้าตานิ่งเฉย ในใจสงสัยว่าศาสตราจารย์บรรยายในคณะแพทย์ของพวกเขาที่เพิ่งมาใหม่มีสถานะอะไรกันแน่นะยิ่งกว่านั้น ในดวงตาของนักศึกษาสาวหลายคนเริ่มเกิดเป็นประกายออกมาเห็นหลิวหย่งก็ยังเกรงใจและเคารพต่อหลินเฟิงขนาดนี้ โจวเสี่ยวหางก็วางใจได้แล้ว แต่ก็ยิ่งสงสัยต่อพี่ชายคนนี้ของหลินเสวี่ยฮุ่ยมากยิ่งขึ้นหลินเสวี่ยฮุ่ยรู้สึกภาคภูมิใจอย่างบอกไม่ถูกถึงขั้นที่ผายอกขึ้นเล็กน้อย“เสวี่ยฮุ่ย เธอบอกว่าสุดหล่อคนนั้นเป็นพี่ชายของเธอไม่ใช่เหรอ? แนะนำให้พวกเราหน่อยสิ”“จริงด้วยเสวี่ยฮุ่ย เมื่อครู่ยังไม่ได้สังเกต ตอนนี้ดูแล้ว พี่ชายเธอหล่อระเบิดมากเลยนะ”“เสวี่ยฮุ่ย รีบไปถามพี่ชายเธอว่า นัดเดทไหม?”ได้ยินคำเอาอกเอาใจและสอบถามของเหล่านักศึกษาผู้หญิงที่อยู่รอบ ๆ หลินเสวี่ยฮุ่ยรู้สึกโมโหเล็กน้อย และรีบพูดขึ้น: “พวกเธอเลิกล้อเล่นเถอะ พี่ชายฉันไม่ใช่คนที่จะมีความสัมพันธ์ชู้สาวซี้ซั้ว”“อุ๊ย ๆ เสวี่ยฮุ่ย เธอเป็นแบบนี้ พวกเธอคงไม่ได้ไม่มีความส
“ได้ครับ ได้ครับ งั้นผมรอคุณอยู่ตรงนี้”หลิวหย่งก็ไม่รีบร้อน จุดบุหรี่แล้วนั่งยองตรงระเบียงทางเดินเพื่อรอหลินเฟิงก็ไม่ได้ไล่เขากลับ จากนั้นเข้าไปในห้อง เริ่มการบรรยายของตัวเองตอนนี้หลินเฟิงมีอำนาจชื่อเสียงในใจของกลุ่มนักศึกษาเป็นอย่างมาก ไม่เพียงนักศึกษาผู้หญิงที่ใฝ่ฝันต่อหลินเฟิง แม้แต่นักศึกษาชายก็รู้สึกซาบซึ้งและเลื่อมใสหลินเฟิงอย่างมากมีเพียงเสียงผู้หญิงที่แสบแก้วหูพูดเหน็บแนมอยู่ที่แถวหน้า“หึ ก็แค่ถือว่าเบื้องหลังตัวเองมีอำนาจนิดหน่อยไม่ใช่เหรอ? ดูเขาอวดดีซะ ยังจะพูดถึงการดูดมถามจับชีพจร ใครจะไปรู้ว่าเขารู้เรื่องแพทย์แผนจีนหรือเปล่า”ห้องเรียนที่เงียบสงบถูกประโยคนั้นของนักศึกษาสาวคนนั้นขัดจังหวะขึ้นหลินเฟิงมองไป พบว่าคนที่พูดก็คือผู้หญิงที่ย้อมผมสีทองเมื่อครู่นี้เขาก็คือผู้หญิงที่เข้าไปประคองหลิวฮ่าวเมื่อครู่นี้ ดูท่าเป็นเพราะเรื่องของหลิวฮ่าว จึงทำให้เธอไม่พอใจต่อหลินเฟิง“หือ?”“ดูท่านักศึกษาหญิงท่านนี้มีความสงสัยต่อวิชาแพทย์ของผม?”หลินเฟิงก็ไม่ได้โมโห เขายืนมือไขว้หลังและยิ้มพูด:“จากมุมมองของคำว่า “ดู” ในการแพทย์แผนจีน นักศึกษาหญิงท่านนี้ คุณมีถุงใต้ตา ร่องต
“พี่…พี่หลินเฟิงยังมีธุระอื่นอีก เขายุ่งมาก”หลินเสวี่ยฮุ่ยท่าทางอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และขยับเข้าไปปกป้องตรงหน้าหลินเฟิงเหมือนกับหมาน้อยที่หวงอาหาร“เสวี่ยฮุ่ยเจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว!”“จริงด้วย จะครอบครองศาสตราจารย์หลินไปเองคนเดียวไม่ได้ไหม?”ท่าทางแบบนี้ของหลินเสวี่ยฮุ่ยทำให้เกิดความไม่พอใจของกลุ่มนักศึกษา“เอาล่ะเอาล่ะเสวี่ยฮุ่ย”หลินเฟิงไม่เคยเรียนอย่างเป็นระบบ ดังนั้นเขาไม่ได้รู้สึกไม่ชอบต่อความคิดของนักศึกษาที่กระหายต่อความรู้หลินเฟิงลูบศีรษะของหลินเสวี่ยฮุ่ยและยิ้มพูด: “ถ้าหากพวกคุณยังอยากฟัง งั้นทุกเดือนผมจะหาเวลาว่างมาบรรยายให้พวกคุณหนึ่งคลาส”“ทุกเดือนเหรอ…”กลุ่มนักเรียนต่างผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย“พวกเธอ…พวกเธอต้องรู้จักพอ พี่หลินเฟิงยุ่งมากจริง ๆ!”หลินเสวี่ยฮุ่ยรับสายตาบอกเป็นนัยของผู้หญิงสองสามคน ใบหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู“เอาล่ะ เลิกเรียนได้”หลินเฟิงสีหน้าเคร่งขรึม และประกาศเลิกเรียน“ขอบคุณศาสตราจารย์หลิน”กลุ่มนักเรียนพากันโค้งคำนับหลินเฟิง อีกทั้งยังออกมาจากใจจริงนี่ทำให้หลินเฟิงนึกถึงเมื่อสามปีที่แล้วตอนที่เขาอยู่ที่สำนักเสวียนเท
เพียงแต่ว่าตระกูลเซี่ยงที่อยู่เมืองหยางเฉิง ทำไมถึงได้มีปัญหากับเซียวคุนของเมืองเจียวโจว?เห็นหลินเฟิงสีหน้างุนงง หลิวหย่งกลับถอนหายใจพูดว่า: “คุณหลินคงจะไม่ทราบว่า ตระกูลเซี่ยงมีความร่วมมือกับพวกเรา”“พวกเรารับผิดชอบลงทุนที่ดิน และจัดการเส้นสายด้านต่าง ๆ ของเมืองเจียงโจว พวกเขารับผิดชอบลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตยา”“พูดว่าจะช่วงชิงตลาดยาของเมืองเจียงโจวเลยก็ได้”“ถ้าหากผมจำไม่ผิด เซียวคุนโดนพิษก่อนที่จะเริ่มเรื่องของยาบำรุงสตรี”หลินเฟิงขมวดคิ้ว“ใช่ครับ ตอนนั้นตระกูลเซี่ยงไม่พอใจกับราคาที่พวกเราเสนอ พวกเราจึงแตกหักกัน”หลิวหย่งพูดอย่างจริงจัง:“ผมสงสัยว่าเป็นในตอนนั้นที่พี่ใหญ่ของผมถูกวางยาพิษ”“ผ่านไปช่วงหนึ่ง พวกเขาก็มาเจรจากับพวกเราอีก ครั้งนี้ใจกว้างกว่าเดิมมาก ต่อให้เป็นเพราะความไม่พอใจก่อนหน้าพี่ใหญ่เซียวคุนจึงเสนอราคาเป็นสองเท่า แต่ตระกูลเซี่ยงกลับรับปาก”“แต่ผลลัพธ์คุณก็เห็นแล้ว ยาบำรุงตระกูลเซี่ยงพ่ายแพ้ให้กับตระกูลถัง ดังนั้นพวกตระกูลเซี่ยงไม่คิดที่จะจ่ายเงินงวดสุดท้ายให้พวกเรา”หลิวหย่งจ้องมองหลินเฟิงแล้วพูดขึ้น:“ผมได้ยินมาว่าคุณหลินกับตระกูลเซี่ยงมีความแค้นกัน แล
ในขณะที่ทุกคน รวมทั้งหลิวหย่งกำลังมึนงง หลินเฟิงก็เปลี่ยนหัวข้อพร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า:“ไม่ใช่แค่เหลือลมหายใจสุดท้าย ต่อให้พวกคุณจะไม่เหลือลมหายใจแล้ว ผมก็สามารถช่วยให้กลับมาได้”“เชี่ย!”“สุดยอด!”“ใจเด็ดมาก!”ในตอนที่ทุกคนต่างคิดว่าหลินเฟิงจะมีการถ่อมตัวเอาไว้ กลับคิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงจะพูดด้วยความมั่นใจในตัวเอง และพูดอย่างเต็มที่แบบนี้แม้แต่หลิวหย่งก็คาดไม่ถึงท่าทางที่มั่นใจตัวเองของหลินเฟิง ทำให้ส่งเสริมขวัญกำลังใจของพวกเขาอย่างมากในที่นี้ก็ไม่มีใครที่จะเกรงกลัวว่าตระกูลเซี่ยงจะวางยาพิษพวกเขาอีกทันใดนั้นคนกลุ่มหนึ่งก็เริ่มส่งเสียงร้องตะโกน จะแสดงอำนาจให้ตระกูลเซี่ยงได้เห็น“ถ้าไม่ซ่อนกลอุบายไว้ งั้นฉันก็ไม่กลัวหรอก!”“สหายทุกคน ไป ไปตระกูลเซี่ยงกัน!”“ไป!”คนกลุ่มหนึ่งขึ้นรถไปพร้อมกับส่งเสียงร้องตะโกน ขบวนรถยาวเหยียดสร้างภูมิทัศน์พิเศษสายหนึ่ง ดึงดูดผู้คนที่เดินไปมานับไม่ถ้วนให้หยุดมอง อันที่จริงความกังวลของหลิวหย่งนั้นถูกต้องในเวลานี้ที่โรงงานของที่หยุดทำการของตระกูลเซี่ยง ไป๋จินเต๋อโทรหาเซี่ยงตงเซิงที่ตัวอยู่ที่เมืองหยางเฉิงด้วยสีหน้าที่ลำพองใจ“น่าจ
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ