Share

มีค่าเพียงสองตำลึง

Penulis: l3oonm@
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-19 21:29:24

หลิงเฟิ่งยังมิทันได้หันไปมองเลยว่า สองพี่น้องคิดจะทำอันใดกับนาง ความเจ็บปวดบริเวณหน้าอกของนาง ก็ทำให้นางต้องก้มลงไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น

เลือดค่อยๆ ไหลซึมออกมาจากอกของนางอย่างช้าๆ ดวงตาของหลิงเฟิ่งพร่ามัว มองใบหน้าของทั้งสามไม่ชัด

“เป็นเช่นนี้ก็ดี นับจากนี้ข้าให้พวกท่านมีความสุขกับสิ่งที่เลือก แต่คงไม่อาจจะสมหวังได้” เสียงที่หลุดออกมาจากปากของหลิงเฟิ่งแผ่วเบาก็ทั้งสามก็ได้ยินอย่างชัดเจน

คนพวกนี้คิดว่ามิติมันจะเปลี่ยนผู้ครอบครองได้ง่ายๆ เลยรึ ต่อให้นางมอบกำไลให้พวกเขา ก็มิใช่ว่าจะเป็นผู้เปิดมิติได้ ในเมื่อมีเพียงแค่นางเท่านั้นที่เข้าออกได้เพียงผู้เดียว

หลี่กวนตกใจไม่น้อย ที่บุตรชายทั้งสองสังหารหลิงเฟิ่ง แต่เขามิได้เข้ามาดูนางที่กำลังค่อยๆ หมดลมหายใจอย่างช้าๆ แต่เข้ามาถอดกำไลในมือไปแทน

“เอามาให้ข้า” หลี่เฉียงแย่งกำไลมาจากมือของหลี่กวน ก่อนจะสวมใส่เอาไว้

“เหตุใดเข้าไม่ได้” เขากำหนดจิตเช่นที่เคยเห็นหลิงเฟิ่งนางทำ แต่ก็มิอาจเข้าไปภายในมิติได้

“ให้ข้าลองดู” หลี่ซวงแย่งมาจากมือพี่ชาย ก่อนจะทำตามเช่นเดียวกัน

“ไม่ได้!!!” สองพี่น้องเริ่มจะเกิดความกังวล

หลิงเฟิ่งที่มองทั้งสามเปลี่ยนกันสวมใส่กำไล ก็ได้แต่ยิ้มเย้ยหยันออกมา

“เฟิ่งเออร์!!!” เสียงของฉงหานดังขึ้น เมื่อเห็นร่างของหลิงเฟิ่งตอนเลือดไหลออกมาเต็มพื้น

“กำไลเล่า กำไลอยู่ที่ใด” นี่คือคำพูดสุดท้ายที่หลิงเฟิ่งนางได้ยินจากปากของฉงหาน ก่อนสติของนางจะค่อยๆ เลือนหายไป พร้อมกับลมหายใจที่หมดลง

“หึ ครั้งนี้ข้าจะบ้าให้สมใจพวกท่านเลย” หลิงเฟิ่งยิ้มเย็นออกมา เมื่อได้รู้ว่านางย้อนกลับมาอีกครั้งแล้ว

เหตุใด เมื่อครั้งที่แล้วนางถึงไม่ได้สำรวจสภาพร่างกายของหลี่หลิงเฟิ่งเลย หากลองใคร่ครวญดูดีๆ จะพบว่าร่างกายนี้ขาดสารอาหารมาเป็นเวลานาน

ไม่ใช่ว่าเพียงจะผอมแห้งหลังจากที่นอนป่วยอย่างที่พวกเขาเคยพูด หลิงเฟิ่งลองสำรวจว่านางยังมีมิติอีกหรือไม่ ก็พบว่านางยังมีอยู่เช่นเดิม

หลิงเฟิ่ง ได้ยินเสียงพูดของบุรุษตระกูลหลี่ทั้งสามอยู่หน้าห้องแล้ว แต่ยังมิได้เดินเข้ามา เป็นจริงเช่นที่หลี่เฉียงเคยบอกนางไว้ หลี่กวนผู้เป็นบิดามีความคิดที่ต้องการนำนางไปทิ้งบนภูเขาจริงๆ หากนางยังมิฟื้นขึ้นมา

“เข้าไปดูก่อน หากใกล้ตายจะได้รีบเอาไปทิ้ง หากชาวบ้านถามก็บอกว่านางสิ้นใจไปแล้ว” หลี่กวนเปิดประตูเข้ามาก็ต้องตกใจ เมื่อหลิงเฟิ่งนางลืมตามองเพดานห้องอย่างเลื่อนลอย

“ฟะ ฟื้นแล้ว ฟื้นได้อย่างไรกัน” เสียงร้องอันดังของหลี่กวน ทำให้บุรุษอีกสองคนวิ่งเข้ามาภายในห้อง

“นางยังไม่ตาย ดูท่าคงอีกไม่นาน ดูตาของนางสิท่านพ่อ ไร้ชีวิตเช่นดี” หลี่ซวงชะโงกหน้าเข้ามาดูใกล้ๆ

หากเมื่อครั้งนี้แล้ว นางนอนนิ่งๆ ไม่ลุกขึ้นมาให้พวกเขาเห็นความเปลี่ยนแปลง คงจะได้ยินคำพูดเลวร้ายออกมาจากปากของพวกเขาตั้งแต่แรกแล้ว

“ไม่ดีรึ ตระกูลซ่ง อยากแต่งนางให้บุตรชายที่ใกล้ตายของพวกเขา ในเมื่อฟื้นขึ้นมาแล้ว ท่านก็ไปพูดคุยกับตระกูลซ่งเสียเถิดท่านพ่อ”

แววตาของหลิงเฟิ่ง แข็งกร้าวขึ้นมาวูบก่อนจะกลับมาเลื่อนลอยเช่นเดิม นางรู้จักคนตระกูลซ่งดี เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านหู่เซิงเช่นกัน ครอบครัวของพวกเขาก็ยากจนไม่ต่างจากตระกูลหลี่ของนาง

นางจำได้ว่า ซ่งชุยหยุนผู้เป็นบุตรชาย หลังจากที่นางมาถึงที่นี่ได้ไม่ถึงเดือน ก็สิ้นใจจากโรคที่เป็นมาตั้งแต่เกิด หากนางแต่งให้เขามิใช่ว่า จะดีกว่าต้องทนอยู่ในตระกูลหลี่รึ แม้ต่อไปจะต้องเป็นหม้ายก็ไม่เห็นจะต้องสนใจ แต่คำพูดต่อมาของหลี่กวนก็ทำให้หลิงเฟิ่งที่กำลังใคร่ครวญอยู่ตกตะลึงไม่น้อย

“อย่างไรก็ต้องตาย เอานางไปแลกเงินสองตำลึงยังดีเสียกว่า หากอาหยุนตายลง นางก็จะต้องถูกฝังลงไปในหลุมเดียวกับเขาด้วย”

หลิงเฟิ่งเกือบจะกระโดดลุกขึ้นมาด่าทอพวกเขาจากเตียงนอนแล้ว ยังดีที่นางควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้ คนพวกนี้เลวได้ใจจริงๆ คิดจะขายนางเพียงสองตำลึงเท่านั้น ทั้งยังส่งให้นางไปลงหลุมเดียวกับเจ้าคนร่างกายอ่อนแออีก

“ข้าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว หรือจะหนีไปเลยดี” หลิงเฟิ่งได้แต่คิดหาหนทาง

เมื่อภพที่แล้ว นางเคยคิดที่จะแยกตัวออกไปใช้ชีวิตหลังจากที่ตระกูลหลี่ร่ำรวยแล้ว แต่พวกเขากลับไม่ยอมปล่อยนางไป นางเองก็เพิ่งจะได้รู้ว่าชาวเมืองแคว้นต้าเยี่ย

หากจะตั้งตัวใหม่หรือแยกตัวออกจากตระกูลจะต้องมีหนังสือยินยอม หรือไม่ก็ทะเบียนราษฎร์ ที่ทางที่ว่าการออกให้ หากหลี่กวนไม่มอบให้นาง นางจะมีได้ไง และก็ไม่รู้ว่าเขาเก็บไว้ที่ไหน

“เช่นนั้น พวกเจ้าดูนางให้ดี อย่าเพิ่งให้ตายไปก่อน ไปเอาน้ำกับข้าวต้มมาป้อนนางไว้ ข้าจะไปคุยกับตระกูลซ่งเดี๋ยวนี้” หลี่กวนสั่งความเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินออกไปทันที

“เจ้าทำแล้วกัน” หลี่เฉียงหันไปสั่งผู้เป็นน้องชาย ก่อนจะมองร่างที่ไร้สติของหลิงเฟิ่งอีกครั้ง แล้วเดินออกไปอย่างไม่ไยดี

เงินสองตำลึงมีค่ามากนักสำหรับครอบครัวที่ไม่มีอะไรจะกินเช่นตระกูลหลี่ ที่หลี่ซวงยอมทำตามคำพูดของพี่ชาย ก็เพื่อปากท้องของตนเอง เขาไม่อยากขึ้นเขาไปหาของป่าให้เหนื่อยแล้ว สู้นำเงินสองตำลึงไปซื้อข้าวสาร เนื้อ กินดีกว่า

หลิงเฟิ่งนอนนิ่งๆ ปล่อยให้หลี่ซวงป้อนน้ำและข้าวต้มให้นาง อย่าเรียกว่าข้าวต้มเลย ในเมื่อมันแทบจะไม่มีเมล็ดข้าวอยู่ในชาม มีเพียงน้ำข้าวใสๆ เท่านั้น

หลิงเฟิ่งนางมิยอมกลืนลงคอดีๆ ปล่อยให้ไหลเปื้อนเนื้อตัวของนาง จนหลี่ซวงโมโหทุบตีนางไปสองสามที แม้จะเจ็บจนอยากจะเอาคืน แต่หลิงเฟิ่งจำต้องกัดฟันทนไม่ร้องออกมา และไม่มองเขาอย่างอาฆาตด้วย

“หากเจ้ายังไม่ยอมกลืนอีก ข้าจะบีบคอเจ้าเสีย” เขาไม่เพียงแค่พูดขู่ ยังวางมือลงที่คอของนางด้วย

หลิงเฟิ่งจึงยอมกลืนลงไปดีๆ นางอดนึกถึงหลี่หลิงเฟิ่งไม่ได้ ที่ผ่านมานางคงได้ถูกกระทำเช่นนี้ จนอายุสิบห้าหนาวถึงได้สิ้นลมหายใจ หากเป็นนางที่ไม่สมประกอบก็คงอยากจะตายเช่นกัน ถ้าต้องถูกเลี้ยงดูอย่างทารุณเช่นที่ตนเองโดนกระทำอยู่

หลังจากที่หลี่ซวงป้อนน้ำข้าวจนหมดชาม เขาก็ออกไปด้านนอกโดนไม่สนใจสภาพหลิงเฟิ่งที่เปื้อนไปด้วยน้ำข้าวทั้งตัว

นางเองก็อยากลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใจแทบขาด แต่จำต้องแข็งใจนอนต่อไป หลิงเฟิ่งเรียกน้ำวิเศษในมิติออกมาดื่มหนึ่งแก้ว เพื่อให้ร่างกายของนางมีเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้น

เสียงด้านนอกทำให้รู้ว่าหลี่กวนกลับมาแล้ว หลิงเฟิ่งจำต้องล้มตัวลงนอนนิ่งๆ อีกครั้ง

“ได้เรื่องหรือไม่ท่านพ่อ” หลี่เฉียงรีบเอ่ยถามทันที

“เอาเงินมาแล้ว เจ้าไปตามป้าเหลียนมาเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้เฟิ่งเออร์ก่อน ดูท่าอาหยุนจะไม่ไหวแล้วเช่นกัน คนตระกูลซ่งกำลังจะมารับนาง”

หลิงเฟิ่งได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ไม่มีเวลาให้นางได้เตรียมตัวเตรียมใจก่อนเลยรึ แล้วเมื่อครู่หากนางได้ยินไม่ผิด อาหยุนกำลังจะตายแล้วใช่หรือไม่ หากให้นางไปตอนนี้ไม่เท่ากับว่าเอานางไปฝังรวมกับเขาเลยรึ

“ได้ ข้าไปเอง” หลี่ซวงรีบวิ่งออกไปจากเรือนทันที

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   บทสรุป

    แต่เรื่องที่น่าประหลาดอีกเรื่องของตระกูลโจว ที่ทำให้จวนโจวถูกแม่สื่อเข้ามาพูดคุยกับพานซื่อทุกวันเห็นจะเป็นเรื่องคลอดของอวี้หลินหลังจากที่ผ่านมาได้ห้าเดือนหลังจากที่หลิงเฟิ่งนางคลอดบุตรชายทั้งสามออกมา ตำหนักอ๋องก็มีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น เมื่ออวี้หลินนางปวดท้องคลอดในกลางดึกหลิงเฟิ่งเมื่อรู้เรื่องก็รีบไปที่ตำหนักอ๋องพร้อมกับชุยหยุนทันที พานซื่อและบุรุษตระกูลโจวทั้งสามตามมาทันนางที่หน้าตำหนักพอดีจึงได้เข้าไปด้านในพร้อมกันหลิงเฟิ่งกับพานซื่อเข้าไปอยู่ภายในห้องคลอดด้วย นางเทน้ำวิเศษให้อวี้หลินได้ดื่ม เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของนางหมอตำแยก็เป็นคนเดียวกันกับที่ทำคลอดให้หลิงเฟิ่งพอเด็กทารกสองคนแรกออกมา นางก็ต้องกรีดร้องเสียงดังอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อมีหัวน้อยๆ โผล่ออกมาจากช่องคลอดอีกหัวหนึ่ง“สวรรค์!!! ดะ เด็ก เด็กอีกคนเจ้าค่ะ”อวี้หลินคลอดบุตรชายฝาแฝดออกมาสามคนเช่นกัน เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมาก่อนในแคว้นต้าเยี่ยทำให้บุรุษตระกูลโจวอีกสองคนที่เหลือที่ยังไม่ยอมแต่งฮูหยินเข้าจวน ถึงกับหนักใจ ด้วยแม่สื่อที่เดินเข้าออกไปขาดสาย“อาเหว่ย ข้าจะขอไปอยู่ที่ค่ายนอกเมืองกับเจ้าสั

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   เจ้าแบ่งให้ข้าคนหนึ่งมิได้รึ

    เพียงไม่นาน ขบวนกองทัพก็ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้น ลู่เหวินกับโจวเฉิงเหว่ยที่นำอยู่ด้านหน้า ฉีกยิ้มกว้างให้พานซื่อและอวี้หลิน ก่อนที่ทั้งสองจะรีบควบม้าเข้าไปหาคนที่รออยู่“เฟิ่งเออร์เล่า” พานซื่อเอ่ยถามหาหลิงเฟิ่งทันที เมื่อลู่เหวินลงจากหลังม้ามาหานาง“ท่านแม่ ลูกกลับมาแล้วขอรับ” โจวเฉิงเหว่ยคุกเข่าลงตรงหน้าของพานซื่อ แล้วก้มคำนับสามครั้งให้นาง“อาเหว่ย เจ้าจากบ้านไปเสียหลายปี ครั้งนี้ได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าแล้วนะลูก” นางลูบใบหน้าของบุตรชายคนรองอย่างคิดถึง“ฟะ เฟิ่งเออร์ เจ้า...”พานซื่อถูกเสียงร้องอย่างตกใจของอวี้หลิน ทำให้หันไปมองที่ด้านหลังของโจวเฉิงเหว่ยอย่างรวดเร็วดวงตาของนางเบิกกว้างขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา ตอนที่เดินทางออกจากเมืองหลวงไป ท้องของหลิงเฟิ่งมิได้ดูเหมือนจะตั้งครรภ์มาก่อน แต่ยามนี้ท้องของนางราวกับว่าใกล้คลอดเต็มทีแล้วนี่คงเป็นเหตุผลที่นางไม่อาจเดินทางกลับเมืองหลวงได้ตามที่เคยรับปากเอาไว้“เฟิ่งเออร์ เจ้าท้องกี่เดือนกัน ตั้งแต่เมื่อใด หรือว่าเจ้าท้องก่อนที่จะเดินทางแล้ว เหตุใดถึงไม่บอกแม่เล่า” พานซื่อเอ่ยถามออกมาระรัว“ท่านแม่ ครรภ์ของข้าเพิ่งจะหกเดือนเท่านั้นเจ้าค่ะ ข้าก็เ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   ส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้าน

    โจวเฉิงเหว่ยนั่งอยู่บนหลังม้า ยืนอยู่หน้าเหล่าทหารหลายหมื่น สายตาของเขาจ้องมองไปยังร่างกำยำของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานอย่างเย็นชา“บิดาเจ้าเหล่า เหตุใดต้องส่งลูกเต่าเช่นเจ้ามาเอาชีวิตข้า”“ท่านพ่อไม่คิดว่าท่านจะตัดสินใจเช่นนี้”“หึหึ บุรุษตระกูลโจวเก่งกาจนัก หากข้ารู้สักนิดว่าโจวลู่เหวินมิได้สูญเสียวรยุทธ์ก็คงจะทูลขอให้ฝ่าบาททรงเปลี่ยนใจ แต่ในเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ข้าเกาซือหม่า ขอแลกชีวิตกับเหล่าทหารแคว้นต้าหานทั้งหมด หวังว่าแม่ทัพน้อยโจว จะปล่อยให้ทหารของข้ากลับคืนสู่แคว้นต้าหาน”แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน ดึงดาบออกมาพาดที่คอ เขาตัดคอตนเองออกโดยไม่เผยความหวั่นเกรงใดออกมา โจวเฉิงเหว่ยจ้องมองหัวของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานหลุดลงพื้นด้วยสายตาที่เรียบเฉย“เก็บกลับค่าย ถอยทัพ!!! ไม่ต้องตามทหารแคว้นต้าหาน ปล่อยพวกมันกลับไป แต่หากยังรั้งอยู่ภายในสองวันนี้ ฆ่าให้หมดไม่ต้องเหลือเอาไว้”เสียงของโจวเฉิงเหว่ยประกาศกร้าว จนแม้แต่ทหารแคว้นต้าหานที่ออกมาดูท่านแม่ทัพใหญ่ของตนปลิดชีพได้ยินอย่างชัดเจนหัวของแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานถูกเก็บกลับไปที่ค่ายของแคว้นต้าเยี่ย เหลือเพียงร่างไร้ศีรษะให้ทหารแคว้นต้าหานเ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   การตัดสินใจของเกาซือหม่า

    ลู่เหวินยกธนูขึ้นเล็งไปทางแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน ก่อนจะปล่อยลูกธนูออกจากสายไป แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานได้แต่มองเยาะเย้ยอย่างได้ใจ ระยะไกลเพียงนี้ ต่อให้เก่งการเพียงใดก็ยิงไม่ถึงเขาเป็นแน่“เฮือกกกก” เสียงสูดลมหายใจของทหารแคว้นต้าหานเมื่อลูกธนูที่ลู่เหวินปล่อยออกมา มันทะลุคอม้าที่แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานขี่ราวกับจับวาง นี่คือสิ่งที่ลู่เหวินต้องการ เขาไม่ได้ต้องการสังหารแม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหานภายในลูกธนูเดียว แต่เป็นการย้ำเตือนว่าตนมิได้สูญเสียวรยุทธ์เช่นที่คิดกัน“บุก!!!” แม่ทัพใหญ่แคว้นต้าหาน เปลี่ยนม้าตัวใหม่ได้ ก็ร้องตะโกนบอกทหารของตนทันทีความยับยั้งชั่งใจหายไปจนสิ้น เมื่อถูกหยามเช่นนี้ เขาควบม้าเข้าไปหาลู่เหวินอย่างไม่เกรงกลัว“บุก!!! ฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือรอด” ลู่เหวินควบม้าพุ่งทะยานเข้าไปในสนามรบเช่นกันหลิงเฟิ่ง ที่นอนพักอยู่ภายในเรือนสะดุ้งตกใจตื่น นางกับชุยหยุนมิได้เข้าไปนอนภายในมิติ จึงได้ยินเสียงต่อสู้อย่างชัดเจน“ท่านพี่”“สงครามเริ่มแล้ว หากเจ้ากลัวเข้าไปหลบในมิติก่อนดีหรือไม่” ชุยหยุนกอดหลิงเฟิ่งเอาไว้แน่น“ไม่เจ้าค่ะ” นางส่ายหน้าหลิงเฟิ่งมิอาจข่มตาให้หลับลงได้ นางเป็นห่วงบิดาแ

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   กองทัพแคว้นต้าหานประชิดเมืองแล้ว

    หลิงเฟิ่งอยู่ภายในมิตินางก็ไม่ได้ทำสิ่งใดมาก นอกจากตื่นมากินแล้วนอนต่อ ตั้งแต่ตั้งครรภ์มา นางรู้สึกว่าขี้เกียจจะขยับร่างกายไปเสียหมด ต่อให้หลิงเฟิ่งอยู่แต่ภายในมิติ เสียงขององครักษ์ที่อยู่ด้านนอกนางก็ยังได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันจึงได้รู้ว่า กองทัพของแคว้นต้าหานเดินทัพมาประชิดเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ คงอีกไม่เกินห้าวันพวกเขาก็คงจะมาตั้งค่ายอยู่ไม่ห่างแล้วผ่านมาได้เพียงสามวัน กองทัพของแคว้นต้าหานก็เดินทางมาตั้งค่ายเสียแล้ว เจ้าเมืองเป่ยตู่เร่งพาชาวบ้านที่อยู่ใกล้เขตชายแดนลี้ภัยออกไปอยู่ค่ายหลบภัยที่นอกเมืองเป่ยตู่อย่างเร่งด่วนสนามสอบแทบจะเร่งบัณฑิตให้ส่งกระดาษสอบแล้วให้เดินทางออกไปจากสนามสอบให้เร็วที่สุด“เฟิ่งเออร์ เฟิ่งเออร์ ข้ากลับมาแล้ว” ชุยหยุนเมื่อกลับมาถึงเรือนก็ร้องเรียกหลิงเฟิ่งเสียงดัง“เหตุใด กลับมาเร็วนักเล่า” ฟ้าด้านนอกเพิ่งจะสว่างได้ไม่นาน ชุยหยุนก็เดินทางมาถึงเรือนแล้ว“กองทัพแคว้นต้าหานประชิดเมืองเป่ยตู่แล้ว ตอนนี้ชาวบ้านบางส่วนก็อพยพย้ายไปอยู่ที่ค่ายลี้ภัยนอกเมืองแล้ว”“เร็วเพียงนั้นเลยรึ” หลิงเฟิ่งอดที่จะตกใจไม่ได้“สงครามยังคงไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ แคว้นต้าหานเร่งเดิน

  • หลิงเฟิ่ง หญิงบ้าในหมู่บ้านหู่เซิง   สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่ายินดี

    ความจริงหลิงเฟิ่ง นางอยากจะรั้งอยู่ เพื่อเดินทางกลับพร้อมบิดาและพี่ชาย เพื่อว่ามีสิ่งใดที่นางพอจะช่วยเหลือได้บ้าง แต่หากว่านางตั้งครรภ์ขึ้นมาจริงก็ควรจะเร่งเดินทางออกจากเมือง เพื่อไม่ให้พวกเขาเป็นกังวลทั้งสี่พูดคุยเรื่องเสบียงอาหารต่ออีกเพียงไม่นาน ท่านหมอก็เดินเข้ามาภายในห้องพัก บุรุษทั้งสามจึงได้เดินไปนั่งรอที่โต๊ะตรงกลางห้อง แต่สายตาของพวกเขาก็ยังจ้องมองมาที่หมออย่างกดดัน“บุตรีข้าเป็นเช่นใด”“น้องสาวข้า อาการร้ายแรงหรือไม่”หมอยังมิทันจะได้จับชีพจร บุรุษตระกูลโจวก็เอ่ยถามออกมาอย่างกดดันเสียแล้ว น้ำเสียงของพวกเขาราวกับเอ่ยถามทหาร ว่าวันนี้พวกเจ้าตั้งใจฝึกซ้อมกันหรือไม่ หมอจะมีสมาธิตรวจได้อย่างไร“ท่านแม่ทัพใหญ่โจว ท่านแม่ทัพโจว ขอเวลาข้าน้อยสักครู่เถิด พวกท่านกดดันเช่นนี้ ข้าน้อยจะตรวจได้อย่างไร”ลู่เหวินกับโจวเฉิงเหว่ยจึงนั่งดื่มชาอย่างเงียบๆ แต่สายตาของเขาก็ยังคงไม่ละไปจากนิ้วมือของท่านหมอที่กำลังจับชีพจรของหลิงเฟิ่งอยู่“ยินดีด้วยขอรับ ฮูหยินนางตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว”“ห๊ะ/ห๊ะ ตั้งครรภ์” สองพ่อลูกตระกูลโจวลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว“เจ้าตรวจให้ดี หลานข้าเป็นเช่นใดบ้าง ครรภ์ของนา

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status