LOGINเพราะมุ่งมั่นจะเก็บเงินเปิดร้านอาหารทำให้ 'ซู' โหมโอทีไม่พัก คติประจำใจคือ งานคือเงิน เงินคืองาน ถ้าใครไม่ทำ โยนงานมาให้ฉันได้เลย "พักบ้างก็ดีนะซู" เพื่อนๆ ในบริษัททักเธอที่ก้มหน้าก้มตาสรุปงานให้ท่านประธาน ในสายตาของหัวหน้าคือผู้หญิงขยัน ในสายตาเพื่อนคือผู้หญิงสตรอง ชีวิตกำลังไปได้ดี ถ้าเธอมีทุกอย่างพร้อม เดี๋ยวความรักดีๆ ก็คงตามมา แต่... หลายวันมานี้เธอทำงานหนักเกินไป ร่างกายเหนื่อยล้าสะสมรับไม่ไหว จึงทำให้น็อคหมดหมดสติคาโต๊ะทำงานที่บริษัทไป แต่แล้วพอลืมตาขึ้นมาสิ่งที่เห็นตรงหน้าก็ทำเธองง 'ที่นี่คือที่ไหน' มันเป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจท่ามกลางความสับสน งุนงง และไม่มีใครสักคนที่เธอรู้จักเลย อื้อ! ปวดหัว ซูยกมือขึ้นกุมศรีษะ เธอแค่ทำงานหนักจนหมดสติไป แต่ทำไมถึงได้ปวดหัวขนาดนี้กัน ยังไม่ทันได้อ้าปากถาม ความทรงจำบางอย่างก็ถาโถมเข้ามา ผู้ชายที่เธอไม่รู้จักตรงหน้าไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็น... สามีที่เธอชัง ส่วนเธอที่ทะลุมิติมาในยุค 80 นั้น เป็นภรรยาที่หาข้อดีไม่ได้สักอย่างเดียว!!!
View Moreเคยได้ยินประโยคที่ว่า...
'ผู้หญิงทุกคนมีค่าไหม??'
ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าคอนโด ค่านู่น ค่านี่ บลา บลา บลา ที่รอให้จ่ายตอนสิ้นเดือน มันเป็นแรงขับเคลื่อนให้ผู้หญิงโสดวัยทำงานอย่าง 'ซู' ต้องขยันทำงาน คติประจำใจของเธอคือ
ทำงาน = มีเงิน
ซูที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยดัง จึงเลือกสมัครงานที่บริษัทดัง อัตราการแข่งขันสูงมาก เธอต้องทำผลงาน ผลของความขยันก็ไม่เคยทรยศใคร
"ยินดีด้วยนะ"
"เก่งมากเลยซู"
"น่าอิจฉาจังเลย"
ซึ่งบริษัทที่ซูได้ทำงานเป็นบริษัทที่ให้ค่าตอบแทนในการทำงานสูงมาก เป็นศูนย์รวมหัวกะทิที่จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง และซูก็ได้เป็นหนึ่งในพนักงานที่สอบผ่านข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ตัวต่อตัว
เมื่อทำงานได้ระยะหนึ่ง ซูก็เลือกที่จะผ่อนคอนโด ผ่อนรถ ด้วยความอยากมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง ทำให้เธอใช้ชีวิตบ้าระห่ำไปกับการทำงาน เพื่อหาเงินมาโปะคอนโด โปะรถให้หมดไวๆ ใช้เวลาสามปี เธอก็ปลดหนี้ได้ และจุดมุ่งหมายใหม่คือเก็บเงินเพื่อเปิดร้านอาหารที่เป็นความชอบส่วนตัว เธอโตมากับครอบครัวฐานะปานกลาง ไม่ได้มีต้นทุนมาก ดังนั้นเธอจึงต้องปากกัดตีนถีบสอบให้ได้ทุน และทุนนี้ก็เปลี่ยนชีวิตของเธอ
เธอมีโอกาส
เธอมีงาน เธอมีเงิน
และตอนนี้เธอก็อยากมีธุรกิจของตัวเอง
ด้วยความมุ่งมั่นจะเก็บเงินเปิดร้านอาหารทำให้ 'ซู' สาวโสดวัยใกล้ขึ้นคาน ขยันทำโอทีไม่พักทุกวัน อาหารที่กินนั้นก็เป็นร้านสะดวกซื้อขาประจำ อาหารเสริมที่ดีกับสุขภาพเธอแทบไม่ได้แตะเลย
"พักบ้างก็ดีนะซู"
"หน้าเธอซีดมากเลย"
"กินข้าวบ้างไหมเนี่ย"
เพื่อนๆ ในบริษัททักเธอที่ก้มหน้าก้มตาสรุปงานให้ท่านประธาน เธอในสายตาของหัวหน้าคือผู้หญิงที่ขยัน ในสายตาเพื่อนคือผู้หญิงที่สตรอง ชีวิตกำลังไปได้ดี ถ้าเธอมีทุกอย่างพร้อม เดี๋ยวความรักก็คงตามมา
แต่ทว่า....
ร่างกายเธอรับไม่ไหว เธอโหมทำงานหนักมากเกินไป จึงทำให้น็อคหมดสติคาโต๊ะทำงาน แล้วพอเธอลืมตาตื่นขึ้นมา ภาพที่เห็นตรงหน้าก็ทำเธอตกใจ
'เพื่อนฉันอยู่ไหน'
'ผู้ชายคนนี้เป็นใคร'
'แล้วที่นี่คือที่ไหน'
ดวงตาคู่สวยสั่นไหวขณะหันมองซ้ายขวา สถานที่ตอนนี้มันไม่คุ้นตา จะบอกว่าเป็นห้องพยาบาลก็เหมือนหลอกตัวเอง
อื้อ! ปวดหัว
ซูยกมือขึ้นกุมศรีษะที่ตอนนี้ปวดตุบๆ เธอแค่ทำงานหนักจนหมดสติไป แต่ทำไมถึงได้ปวดหัวจนตาพร่าเบลอ แล้วอยู่ๆ หัวใจของเธอก็เต้นแรงพร้อมกับความทรงจำบางอย่างที่ถาโถมเข้ามา ราวกับว่าเธอนั่งดูละครชีวิตหลังข่าวก็มิปาน
"ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ"
ซูพึมพำกับตัวเองที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เหลือเชื่อ 'ฝัน ฉันต้องฝันแน่ๆ' บอกตัวเองที่ล้มตัวลงนอนหลับตาและนับหนึ่ง สอง สาม ในใจ ก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นมาใหม่ ความหวังนั้นทอประกายก่อนจะหายวับไปกับตาเมื่อภาพตรงหน้าก็คือผู้ชายคนเดิม เพิ่มเติมคือเขาเรียกชื่อเธอ
"ซูเอ๋อร์"
เหมือนเป็นการดึงสติของซูให้กลับมา และยอมรับสักทีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอในตอนนี้นั้นเป็นเรื่องจริง 'ซูเอ๋อร์' คือชื่อของหญิงสาว รูปร่างผอมบางที่มีชื่อและหน้าตาเหมือนกับเธอ แต่เป็นเธอในเวอร์ชั่นยี่สิบต้นๆ ที่ไม่มีริ้วรอยมากวนใจ ซึ่งสิ่งนี้ยังไม่น่าตกใจเท่ากับรู้ว่า 'ซู' ในเวอร์ชั่นสาววัยใสได้แต่งงาน มีสามี แล้วนั่นเอง
"ฉันไม่เป็นอะไร"
แววตาที่มองมาด้วยความเป็นห่วงนั้นทำเธอรู้สึกกระดากใจ เพราะเจ้าของร่างนี้ไม่สมควรได้รับความรักใดๆ จากสามีที่แสนดีเลย
"พี่มันจน"
"ไม่น่าแต่งงานด้วยเลย"
คำพูดดูถูกถางถางนั้นยังคงดังก้องในใจ ภาพการทุบตีระบายความโกรธกับสามีจนเป็นรอยเขียวนั้นทำซูที่รักความถูกต้องนั้นรับไม่ได้ ถ้าเธอเป็นผู้ชาย เธอคงหนีหายไปหาใหม่แล้วบอกเลย
"พี่ขอโทษนะ"
ทุกความทรงจำจะมีแต่คำว่า 'ขอโทษ' พร้อมกับพยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้น เธอยากได้อะไร อยากกินอะไร สามีไม่เคยว่า พร้อมหามาให้เท่าที่ทำได้ แต่คนที่ไม่รู้จักคำว่า 'พอ' จะไปสำนึกบุญคุณอะไร ซึ่งไอ้ชุดสวยๆ ที่ใส่นั้นไม่ได้เหมาะกับฐานะของสามีเลย
'ซูเอ๋อร์' หญิงสาวที่เธอเขามาสวมร่างเป็นภรรยาของ 'เฉิงอี้' ชายหนุ่มที่ไม่มีอะไรติดตัว ทำงานเป็นคนสวนให้กับตระกูล 'กู้' ที่ร่ำรวย
ใช่แล้ว...
สาวงามประจำหมู่บ้านอย่างเธอไม่ได้อยากแต่งกับคนสวนจนๆ อย่างเฉิงอี้ ที่ไม่มีอะไรติดตัวกระทั่งความทรงจำ เขาถูกนำมาทิ้งท้ายหมู่บ้าน ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิดเพราะถูกคนในตระกูลกู้พบเข้าและให้ความช่วยเหลือ ถึงเขาจะเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาดีแต่ความจนทำให้เธอแทบไม่ชายตามองด้วยซ้ำไป คนที่เธอแอบมองทุกวันคือ 'กู้จินถัง' ที่มีทรัพย์สมบัติให้ใช้ เธอทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าหาและโปรยเสน่ห์ด้วยการส่งยิ้มเอียงอาย และดูเหมือนผู้ชายเองก็จะชอบเธอ
แต่....
เส้นทางการเป็นสะใภ้คนรวยไม่ง่าย เธอถูกคุณนายกู้ที่มีสายตาเฉียบคมกีดกัน มิหนำซ้ำยังจับ 'กู้จินถัง' หมั้นหมายกับผู้หญิงฐานะทัดเทียมกัน มันเหมือนโดนเหยียบและตบหน้าซ้ำๆ ความทะเยอทะยานทำให้เธอเลือกใช้ทางลัด หวังจะจับกู้จินถังให้ได้ แต่เธอไม่ได้ฉลาดเท่ากับคุณนายที่มองทุกอย่างออกและวางแผนซ้อนแผนทำให้เธอหลุดพ้นจากวงโคจร และไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับกู้จินถังอีกต่อไป
เธอถูกวางยา และถูกพามายังห้องๆ หนึ่งที่เหมือนถูกจัดเตรียมไว้ กลิ่นหอมๆ นั้นยั่วยวนใจ ลำคอของเธอแห้งผากและรู้สึกร้อนรุ่มจนต้องหยิบแก้วน้ำที่วางไว้ข้างหัวเตียงมาดื่มทันที
ดื่มไปไม่ถึงห้านาที ร่างกายของเธอก็ร้อนผ่าวราวกับไฟ ความต้องการบางอย่างทำให้เธอต้องทำบางสิ่งที่น่าอาย แต่มันกลับไม่เติมเต็มความต้องการที่เอ่อล้นได้เลย
ผั้ว!!
ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับชายร่างสูงใหญ่ที่ดันหลังของชายหนุ่มหน้าตาดี ท่าทางซื่อให้เดินเข้าไป ก่อนจะปิดประตูและล็อคมันไว้จากข้างนอกตามคำสั่งที่ได้รับมา
"เข้าไป"
เพราะคำว่า 'บุญคุณ' ค้ำหัวทำให้เฉิงอี้ยอมทำทุกอย่างตามที่คุณนายสั่ง คุณนายบอกให้มา ก็มา เขาไม่เคยถามด้วยซ้ำว่าให้ทำอะไร พอถูกผลักเข้าไปในห้องที่มีหญิงสาวกำลังดิ้นเร่าในเตียงด้วยท่าทางทุรนทุราย เขาก็รับรู้ได้ว่าสิ่งที่คุณนายกู้ต้องการคืออะไร
ในเมื่อ...
เขาไม่ได้ต้องการ เขาจึงพาเธอไปห้องน้ำหวังว่าความเย็นจะช่วยลดความต้องการ แต่ทว่ายาปลุกเซ็กส์ที่หญิงสาวได้รับมันแรงเกินกว่าที่ความเย็นของน้ำจะทำให้มันมอดลง
ความต้องการที่พุ่งทะยานทำให้หญิงสาวอ้อนวอนร้องขอให้ชายหนุ่มทำ เธอใช่ร่างกายเปลือยเปล่าแนบชิด ถูไถปลุกเร้าอารมณ์ชายหนุ่มวัยกลัดมัน ทุกสิ่งเป็นไปตามแผนการ อี้เฉิงพ่ายแพ้ให้กับความต้องการ และมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับซูเอ๋อร์ที่เร่าร้อนขึ้นควบตลอดทั้งคืน
บัดซบเอ้ย!!!!
เพราะยาตัวนั้นทำให้เธอตกเป็นภรรยาของเฉิงอี้คนสวนที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร มีคนปล่อยข่าวเรื่องนี้ออกไป จับมือใครดมไม่ได้ จากที่เธอเนื้อหอมมากกว่าใคร ได้กลายเป็นของไร้ราคาที่มีตำหนิทันที
"แกต้องแต่งงาน"
บิดายื่นคำขาดกับเธอที่ร้องไห้จนตาปูดตาบวม เธอสวยที่สุดในหมู่บ้าน ควรค่ากับคนมีการศึกษา ได้แต่งตัวสวยๆ เชิดหน้าชูตา แต่นี่จะให้แต่งกับคนสวนที่ไม่มีอะไรเลย นั่นเป็นความคิดของเธอที่ไม่อยากแต่งงาน แต่เมื่อบิดาสั่งเธอจะขัดได้อย่างไร งานแต่งถูกจัดง่ายๆ ทำแบบส่งๆ ให้คนในหมู่บ้านรับรู้เป็นพอ
"คุณนายกูช่างมีน้ำใจ"
"เป็นบุญของซูเอ๋อร์จริงๆ"
"ขอบคุณคุณนายกู้เร็ว"
ถึงคุณนายกู้จะเจ้าแผนการ แต่เธอก็มีน้ำใจให้กับคู่ข้าวใหม่ปลามัน เธอยกบ้านไม้เก่าๆ ท้ายหมู่บ้านให้เป็นของขวัญแต่งงาน มีพื้นที่เล็กๆ พอให้ได้ทำสวน ปลูกผัก ซึ่งสำหรับตัวของเฉิงอี้นั้นมันมีค่ามากไป แต่สำหรับคุณนายกู้ที่ผลักไสผู้หญิงชั้นต่ำให้หลุดไปไกลๆ นั้นเรียกได้ว่ามันเหมาะสมแล้วจริงๆ
"อีแก่เจ้าเล่ห์"
มันคือคำที่ซูเอ๋อร์เรียกคุณนายกู้ทุกครั้งที่โมโห ถ้าวันนั้นเธอไม่โดนวางยา วันนี้เธอคงได้เป็นสะใภ้ตระกูลกู้สมใจ และมันก็คือเรื่องราวที่ซูจับใจความจากความทรงจำของเจ้าของร่างได้ เธอเป็นนางร้ายในยุค 80 ที่น่าหยุมหัวจริงๆ
'บ้าบอที่สุด'
ซูทำได้เพียงโวยวายในใจ ถ้าเธอทะลุเข้ามาอยู่ในร่างภรรยาแสนดีจะไม่ว่าอะไร แต่นี่กลับให้เธอเป็นคนที่ตรงข้ามคำว่า 'ดี' ทุกประการ ด่าทอ ตบตี เหม็นขี้หน้าสามีไปวันๆ นอนงอมือ งอเท้า งานการไม่ทำ
ภรรยาน่าชังอย่างนี้....
ฉันไม่อยากเป็น!!!!
แสงแดดที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างปลุกให้หญิงสาวที่เพิ่งผ่านศึกหนักในคืนร้อนแรงลืมตาตื่นขึ้นมาในสภาพที่ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ เสื้อผ้ากระจัดกระจาย ส่วนสามีก็ไม่รู้ไปไหน เธอมองผ่านหน้าต่างออกไป ถึงได้รู้ว่าสามีแสนดีกำลังปลูกผักในสวนอย่างตั้งใจ หัวกะหล่ำปลีเพิ่งเก็บไป ส่วนแปลงปลูกคะน้าตรงนั้นก็กำลังโตได้ที่สวยเชียว"ขยันจริงๆ"ซูพูดกับตัวเองที่มีความทรงจำของซูเอ๋อร์ทุกอย่าง ผู้ชายคนนี้ทำแต่งาน วันๆ อยู่แต่ในสวนหรือไม่ก็ไปรับจ้างปลูกข้าวสาลีช่วยชาวบ้านที่มีพื้นที่ทำนาทำไร่ ฤดูเก็บเกี่ยวเขาก็ไป เงินทุกหยวนที่ได้มา ไม่ทันจะได้เก็บไว้ก็มักจะถูกภรรยาขอไปใช้ซื้อเสื้อผ้าและของฟุ่มเฟือย แล้วสามีจะมีเงินเหลือเก็บได้อย่างไร มีปลิงตัวใหญ่คอยสูบ คอยใช้ คำว่า 'ประหยัด' ไม่เคยอยู่ในหัวสมองด้วยซ้ำ'ฉันอยากได้ชุดใหม่''แต่คุณเพิ่งซื้อไปเองนะ''โอ้ยพี่!! จะงกอะไรนักหนา'พอโดนขัดใจ ซูเอ๋อร์ก็มักจะขึ้นเสียงใส่ ดวงตาคู่สวยเบิกโตอย่างไม่พอใจ ก่อนจะสะบัดก้นใส่สามีที่เพิ่งได้เงินมา ทำหน้างอไม่พูดไม่จา น้ำสักแก้วยื่นให้สามีหายเหนื่อยล้าก็ไม่มี เร่งแต่จะเอา เงิน เงิน และ เงิน อย่างเดียว'ซูเอ๋อร์'เฉิงอี้เรียกภรรยาที
"รอบเดียวพอนะครับ"คำพูดสองแง่สองง่ามทำให้คนที่คิดว่ารอดแน่ๆ ถึงกับต้องคิดใหม่ ดูเหมือนการสื่อสารของเธอจะผิดพลาดไป ทำไมเขาถึงได้มองเธอด้วยแววตาแฝงความนัยและดูกรุ้มกริ่มยังไงพิกล"รอบเดียวอะไรคะ"คนที่โดยสามีรั้งไว้ฝืนยิ้มแห้งๆ ถามกลับไป เธอแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ ท่าทีซื่อใสนั้นทำชายหนุ่มงง ทั้งๆ ที่เมื่อกี้เธอเป็นคนเอ่ยปากชวนเอง"จะยั่วพี่หรือครับ"เสียงทุ้มถาม ริมฝีปากของเขาที่คลอเคลียข้างหูทำซูขนลุกซู่ "พี่เฉิงอย่าแกล้งสิคะ"หญิงสาวตอบไป ในใจของเธอตอนนี้คือร้อนรน จะหนียังไงให้พ้นจากสามีที่จ้องจะกินภรรยา"ใครแกล้งกันแน่"มุมปากหยักกระตุกยิ้มจางๆ เมื่อเห็นแววตาของภรรยาสั่นไหว ไม่ต่างจากกวางน้อยที่กลัวหมาป่าจนกระสับกระส่าย ท่าทีที่ดูเปลี่ยนไป มันควรทำให้เขากังวลใจ แต่ทำไมนะ ทำไม เขาถึงได้มองว่ามันน่ารักน่าเอ็นดู"พี่เฉิง"หญิงสาวเรียกชื่อของสามีที่มือเริ่มซุกซน เดี๋ยวจับตรงนั้น เดี๋ยวแตะตรงนี้ บางตำแหน่งก็แอบรู้สึกดี แต่บางตำแหน่งก็ทำเธอใจเต้นไม่เป็นส่ำเลย"หือ??"ชายหนุ่มตอบรับเบาๆ "อย่าค่ะ"คำห้ามถูกกลืนหายเมื่อถูกริมฝีปากของสามีเจ้าของร่างทาบทับลงมา ความรู้สึกมันวาบหวามซาบซ่าน เหมือ
หลังจากกินข้าวเสร็จสามีก็เก็บถ้วยชามไปล้าง ทำราวกับเป็นหน้าที่ในชีวิตประจำวัน ส่วนเธอที่เป็นภรรยานั้นแค่นั่งเป็นกำลังใจให้ก็พอ"ไม่ถูกต้องเอามากๆ"ซูพึมพำ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เสนอตัว ไม่ใช่ว่าเธอรักสบาย แต่ผู้ชายร่างสูงใหญ่เขากำชับเธอเสียงหนักแน่นว่าอย่าฝืนทำอะไรที่เกินตัว ไอ้ที่เกินตัวเขาหมายถึงอะไร ถ้าหมายถึงถ้วยชามที่เพิ่งกินไป มันไม่ได้เหนื่อยหนักหนาอะไรเลย หญิงสาวคิดในใจ ในเมื่อไม่รู้ว่าทำอะไร เธอจึงลุกขึ้นยืนสำรวจในบ้านของเจ้าของร่างนี้แทน "ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่"ดวงตาคู่สวยกวาดมองทุกอย่างรอบตัวที่ดูแตกต่างไปจากโลกเดิมของเธอ เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่มี ทั้งๆ ที่นี่คือปี 1980 ที่จีนกำลังพัฒนา สามีของซูเอ๋อร์คงจนมากสินะ ถึงยังใช้ตะเกียงให้ความสว่างอยู่เลย หญิงสาวคิดในใจ การไม่มีไฟฟ้าใช้บอกตรงๆ ว่าลำบากพอสมควรบ้านไม้เก่าๆ หลังนี้ในสายตาของเธอที่อยู่คอนโดและมีพื้นที่จำกัด ถือว่ากว้างพอสำหรับสองสามีภรรยา ภายในบ้านถูกจัดสรรแบ่งออกเป็นสัดส่วน มีห้องนอน ห้องเก็บของ มีพื้นที่โถงตรงกลาง ส่วนห้องครัวอยู่นอกบ้าน มีห้องน้ำที่สร้างถัดจากห้องครัวหน่อยหนึ่งห้องน้ำอยู่ข้างนอกนี่นะ??ซูคิดพลางถอนหายใจ หญิงส
หลังจากที่ฟื้นขึ้นมา ชายหนุ่มที่เป็น 'สามี' ก็รีบรุดเข้ามาประคอง ดวงตาคมเข้มที่มองหน้าเธอนั้นแดงเหมือนผ่านการร้องไห้มา และสีหน้าของเขานั้นก็ดูอิดโรยเหมือนคนอดหลับอดนอนมาหลายวัน"พี่ขอโทษ"เป็นคำขอโทษที่ซูไม่ได้อยากรับไว้ การที่เจ้าของร่างล้มหัวฟาดไป ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพราะเจ้าหล่อนทำตัวเอง "ช่วยพี่หว่านเมล็ดผักได้ไหม""พี่ไม่เห็นรึไงว่าแดดมันร้อน"หญิงสาวยกมือขึ้นมาบังหน้า แสงแแดดยามเที่ยงวันที่สาดส่องมามันทำเธอหงุดหงิดอยากกลับไปที่ร่มเร็วๆ"อีกแค่นิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว""เอ๊ะพี่...."หญิงสาวขึ้นเสียงทำหน้าไม่พอใจใส่ ก่อนจะพูดประโยคที่ทำคนบ้านใกล้เรือนเคียงส่ายหน้าไปมา นึกสงสารชายหนุ่มจับใจ มีตาหามีแววไม่ เมียสวยแล้วอย่างไร แต่นิสัยนั้นน่ารังเกียจริงๆ "เบาๆ สิซูเอ๋อร์""ไม่เบา"หญิงสาวไม่มีทีท่าจะทำตามคำพูดสามี"คนมองกันหมดแล้วนะ"ชายหนุ่มที่เกรงว่าภรรยาจะโดนคนนินทาพยายามดึงตัวเธอเข้าไป แต่สาวเจ้าก็สะบัดแขนใส่ ท่าทีไร้มารยาทต่างจากใบหน้าสวยพิมพ์ใจ ใครเห็นก็เอือมระอา"มองก็ดี จะได้รู้กันให้หมดว่าฉันเป็นภรรยาไม่ใช่คนใช้ที่ต้องก้มหน้าทำงานงกๆ ไปวันๆ "ซูเอ๋อร์โวยวายใส่สามีที่ถือถุงใส่เม
เคยได้ยินประโยคที่ว่า...'ผู้หญิงทุกคนมีค่าไหม??'ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าคอนโด ค่านู่น ค่านี่ บลา บลา บลา ที่รอให้จ่ายตอนสิ้นเดือน มันเป็นแรงขับเคลื่อนให้ผู้หญิงโสดวัยทำงานอย่าง 'ซู' ต้องขยันทำงาน คติประจำใจของเธอคือทำงาน = มีเงินซูที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยดัง จึงเลือกสมัครงานที่บริษัทดัง อัตราการแข่งขันสูงมาก เธอต้องทำผลงาน ผลของความขยันก็ไม่เคยทรยศใคร "ยินดีด้วยนะ""เก่งมากเลยซู""น่าอิจฉาจังเลย"ซึ่งบริษัทที่ซูได้ทำงานเป็นบริษัทที่ให้ค่าตอบแทนในการทำงานสูงมาก เป็นศูนย์รวมหัวกะทิที่จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง และซูก็ได้เป็นหนึ่งในพนักงานที่สอบผ่านข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ตัวต่อตัวเมื่อทำงานได้ระยะหนึ่ง ซูก็เลือกที่จะผ่อนคอนโด ผ่อนรถ ด้วยความอยากมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง ทำให้เธอใช้ชีวิตบ้าระห่ำไปกับการทำงาน เพื่อหาเงินมาโปะคอนโด โปะรถให้หมดไวๆ ใช้เวลาสามปี เธอก็ปลดหนี้ได้ และจุดมุ่งหมายใหม่คือเก็บเงินเพื่อเปิดร้านอาหารที่เป็นความชอบส่วนตัว เธอโตมากับครอบครัวฐานะปานกลาง ไม่ได้มีต้นทุนมาก ดังนั้นเธอจึงต้องปากกัดตีนถีบสอบให้ได้ทุน และทุนนี้ก็เปลี่ยนชีวิตของเธอ เธอมีโอกาสเธอมีงาน เธอม
Comments