พื้นที่ราวหนึ่งไร่เศษที่ร่มรื่นด้วยต้นมะม่วง กระท้อน และส้มโอ ที่เก่าแก่เกินกว่าจะออกดอกออกผลแล้วนั้นได้รับการดัดแปลงเป็นร้านขายต้นไม้และร้านกาแฟสด ชื่อว่า “ร้านต้นไม้และกาแฟอิ่มรัก”
โดยมีเจ้าของร้านนามว่า อรุณนารี หญิงสาววัยยี่สิบเจ็ดปีที่มักมีรอยยิ้มแต่งแต้มบนใบหน้ารูปหัวใจน่ารักอยู่เป็นนิจอย่างคนอารมณ์ดี เธอรู้สึกเสียดายและสงสารต้นไม้เหล่านั้นที่เห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยจะต้องถูกโค่นทิ้ง จึงขอพื้นที่แห่งนี้จากบิดาแล้วดัดแปลงเพื่อทำร้านขายต้นไม้และดอกไม้ตามความชอบของเธอที่รักต้นไม้ดอกไม้เป็นชีวิตจิตใจและโชคดีที่ทางเส้นนี้ก็มีการตัดถนนผ่านเป็นเส้นทางสายรองเลี่ยงเมืองจึงทำให้ทางเส้นนี้มียวดยานและผู้คนสัญจรไปมาไม่ขาดสายเหมือนถนนเส้นหลักและยังร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยที่มีให้เห็นอยู่มาก เกาะกลางถนนถูกตกแต่งสวยงามด้วยดอกไม้ต้นไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างดี
“ไงแม่แมงปอทำไมวันนี้มาช้านักล่ะแกรู้มั้ยวันนี้ฉันต้องเป็นแม่ค้าขายต้นไม้ให้หล่อนจนเมื่อยไปหมดแล้วนะเนี่ย”
เสียงบ่นกระปอดกระแปดดังมาจากปากของหญิงสาวร่างสูงโปร่งสมส่วน ใบหน้ารูปไข่นวลเนียนนั้นประดับด้วยดวงตากลมโตดำขลับวาววับจมูกโด่งเชิดอย่างคนดื้อรั้น ริมฝีปากรูปกระจับอิ่มแดงเรื่ออย่างคนสุขภาพดีล้อมกรอบหน้าสวยด้วยผมซอยสั้นทันสมัยรับรูปหน้าคล้ายดาราเกาหลีที่กำลังฮิตของ เนตรนารา แสนเสนา สาวสวยสุดเท่อารมณ์ติสต์ ที่ตอนนี้หน้าสวยเริ่มหงิกงอเพราะวันนี้ลูกค้าเข้าร้านแต่เช้าทั้งร้านกาแฟและร้านต้นไม้จนเธอหัวหมุน
“ทำไมน้า...ฉันต้องมาช่วยแกด้วยทั้งๆ ที่วันนี้มันวันหยุดฉันน่ะ”
“ฉันแวะไปส่งน้องอิ่มอุ่นแล้วก็เอาไอ้สีเทาเข้าอู่น่ะแก ขอโทษจริงๆ ว่ะ” อรุณนารีตอบเพื่อนสาวคนสวยพลางยิ้มให้อย่างน่ารักแบบว่าขอโทษนะจ๊ะเพื่อนสาว
“ยัยอ้อนไปเชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว ไปตั้งอาทิตย์แน่ะแก ฉันก็ต้องดูลูกน่ะ”
เธอบอกเพื่อนซึ่งก็พยักหน้าเข้าใจในเหตุผล เมื่อลูกสาวที่พูดถึงนั้นคือ น้องอิ่มอุ่น หรือ เด็กหญิงอัจฉรียาพร เด็กหญิงตัวกลมป้อมตาโตปากนิด จมูกหน่อยแก้มแดงเหมือนเชอร์รี่ ผมหยิกสลวยวัยห้าขวบซึ่งเป็นแก้วตาดวงใจของคนทั้งบ้านลูกสาวของ อโนมา พรภักดี หรือ อ้อน คุณแม่ยังสาวและสวยหวานซึ้ง ต้องไปเป็นวิทยากรพิเศษในงานเทศกาลอาหารไทยพื้นเมืองที่โรงแรมห้าดาวสุดหรูที่เชียงใหม่ เนื่องจากหญิงสาวเป็นอาจารย์สอนทำอาหารแสนสวยที่มีลูกศิษย์มากมายโดยเฉพาะลูกศิษย์ที่เป็นชายทั้งที่โสดไม่โสด พ่อบ้านเมียเผลอและไม่เผลอที่ขยันมาสมัครเรียนกันไม่เว้นแต่ละวัน
อโนมานั้นเป็นสาวน้อยจากภาคเหนือพ่อแม่รับราชการตำแหน่งเล็กๆ อยู่ในส่วนราชการของจังหวัดแต่ด้วยความที่รักดีเรียนเก่งเธอจึงสามารถสอบชิงทุนจากรัฐบาลได้เรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐบาลและได้มาเจอกันในวันรับน้องถึงแม้เรียนคนละคณะแต่ด้วยชะตาต้องกันและนิสัยความชอบที่เหมือนกันทำให้ทั้งสองเข้ากันได้ง่ายและด้วยวาทศิลป์และรอยยิ้มอันแจ่มใสจริงใจของอรุณนารีที่ชักชวนอโนมาให้มาอยู่ด้วยกันที่บ้านสวนย่านชานเมืองได้ไม่ยาก เพราะใครๆก็หลงรักรอยยิ้มพิมพ์ใจของแม่แมงปอตัวน้อยที่ขยันยิ้มประจบอยู่ทุกวัน และด้วยเหตุผลของเธออีกข้อที่ขยันยกมากล่าวอ้างทุกครั้งคือ
“ไม่คิดบ้างหรือว่านี่คือฟ้าลิขิตให้เรามาเจอกันและใช้ชีวิตร่วมกัน คิดดูสิขนาดชื่อเรายังขึ้นต้นด้วย อ.อ่างเมือนกันเลย อโนมา อรุณนารี”
และอโนมาจะกล่าวล้อเลียนทุกครั้งเหมือนกันด้วยคำพูดที่ทำให้คนชวนงอนเสมอๆ คือ
“นี่แมงปอชวนเพื่อนไปอยู่ด้วยที่บ้านเหมือนหนุ่มขอสาวแต่งงานเลย แกแอบรักฉันแบบนั้นรึเปล่าเนี่ย”
แล้วคนใจอ่อนอย่างอโนมาก็ได้เข้ามาเป็นสมาชิกของบ้านนับแต่นั้นมาก็เกือบสิบปีแล้ว
“ถึงเชียงใหม่แล้วนะดูแลลูกสาวดีๆ ล่ะแม่แมงปอแล้วจะเอาขนมอร่อยๆ กลับมามาฝาก” อรุณนารีกดดูข้อความที่เข้ามาในเครื่องโทรศัพท์เครื่องเล็กของตัวเองแล้วถอนใจคิดว่าเย็นนี้รถคันเก่งของเธอจะซ่อมเสร็จทันไปรับลูกสาวตัวน้อยหรือไม่
“วันนี้ไอ้สีเทามันรวนอีกแล้วล่ะแกไม่รู้จะซ่อมทันไปรับน้องอิ่มอุ่นรึเปล่า”
เธอบ่นถึงรถโฟล์คสีเทาคันเก่งของเธอที่เป็นเพื่อนเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคุณแม่ยังสาวจนเป็นสมบัติที่ตกทอดมาถึงเธอและก็เป็นพาหนะที่ใช้ดีใช้ทนแต่มาช่วงหลังๆ ที่ขยันรวนบ่อยเหลือเกินเหมือนจะบอกว่ามันแก่เกินไปเสียแล้ว
“เฮ้อ...ทำไงดีเนี่ย”
“เฮ้ยแกบ่นเป็นยายแก่ไปได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยเดี๋ยวฉันไปรับน้องอิ่มอุ่นเป็นเพื่อนแกก็ได้เพราะเย็นนี้จะไปธุระแถวนั้นอยู่พอดี”
“จริงเหรอเนตร โห...โชคดีจังเลยขอบใจแกมากเพื่อนสาว น่ารักมากๆ เลยแก”
คนเล็กพูดพลางหยิกแก้มเพื่อนสาวอย่างหยอกเย้าพลางทำหน้าตาให้น่ารักสุดๆ
“ไม่ต้องทำมาประจบเลยแก ไหนล่ะข้าวกะเพราทะเลสุดแซบของฉันน่ะ”
“งกซะไม่มีนังหมวยมหาภัย เห็นแก่กินชะมัดเลย”
หญิงสาวบ่นแต่ก็เอาข้าวออกจากปิ่นโตใส่จานจัดให้เพื่อนเรียบร้อย เนตรนาราพอเห็นของโปรด ก็รีบล้างมือนั่งลงตกข้าวเข้าปากคำโตจนคนเป็นเพื่อนรีบท้วง
“เฮ้ยไอ้เนตรแกจะรีบกินไปไหนเนี่ยไม่มีใครแย่งหรอกน่า นี่พอแม่ฉันรู้ว่าแกมาเป็นยามเฝ้าร้านให้ก็รีบทำของโปรดแกไว้ซะเต็มปิ่นโตแถมยังทำน้ำพริกอ่องใส่กระปุกไว้ให้แกเอากลับบ้านอีกแน่ะ”
“จริงดิ แหม แม่แกนี่ช่างรู้ใจลูกสาวคนสวยอย่างฉันจังเดี๋ยววันหลังฉันจะเอาภาพเขียนสวยๆ ไปฝากซะหน่อยแล้ว”
สาวสวยพูดทั้งๆ ที่ยังเคี้ยวข้าวในปากมันเป็นภาพที่ขัดกันเหลือเกินกับหน้าตาที่สวยโฉบเฉี่ยวกับผิวพรรณที่ขาวผ่องอย่างลูกผู้ดีของเธอจนคนเป็นเพื่อนส่ายหน้าไม่ไหวจะเคลียร์
“นี่ไอ้เนตรหน้าตาก็ดีแต่ทำตัวโคตะระซกมกเลยว่ะแก ไม่สมกับหน้าตาเล้ย”
“แกไม่เคยได้ยินเหรอ คนสวยทำอะไรไม่น่าเกลียดน่ะ” คนที่ถูกว่ายังทำหน้าทะเล้นใส่
“เออ...สวยตายแหละแก กินก็ตะกละดูซิเลอะปากหมดแล้วเช็ดเดี๋ยวนี้เลยแกเดี๋ยวใครมาเห็นแล้วคิดว่าฉันมีเพื่อนเป็นดาวน์” คนตัวเล็กบ่นเพื่อนพลางยื่นกระดาษให้เพื่อน
“เป็นดาวมหา’ลัยหรือแก”
“ดาวน์ซินโดรมน่ะสิไอ้บ้า อย่างแกน่ะนะจะเป็นดาวมหา’ลัย อย่างแกน่ะเป็นอุกาบาตมหาประลัยจะเหมาะมากกว่า”
คนตัวเล็กพูดพร้อมกับเช็ดปากให้เพื่อนคนสวยอย่างกระแทกกระทั้นราวกับจะแกล้ง
“โอ๊ยๆ เบาๆ ซิแกหน้าคนนะไม่ใช่หน้าอูฐเช็ดซะหนังหน้าแทบหลุด”
สาวสวยบ่นกระเง้ากระงอดแล้วตักข้าวคำใหญ่ใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย
ตอนที่ 187. ตอนอวสาน ความนุ่มหยุ่นนวลเนียนของผิวสาวทำให้ริคไม่พลาดสักตารางนิ้วที่จะเชยชม จนผิวสีน้ำผึ้งผุดผ่องแดงเห่อไปทั้งร่างและเขาก็ไม่พลาดเช่นกันที่จะฝากรอยรักเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของร่างงามนี้ “ฮื้อ พอก่อนค่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกันก่อน” ดรุณนุชเอ่ยห้ามเมื่อสามีผู้เร่าร้อนดื่มชิมร่างงามจนเธอแทบร้อนเป็นไฟ แต่ความที่มีเรื่อร้อนใจใจทำให้เธอไม่อาจปล่อยให้ตนหวามไหวไปกับเขาจนลืมความตั้งใจได้ “อืม เอาไว้ก่อนจ๊ะฮันนี่ ตอนนี้สามีไม่ว่างจะคุยนะจ๊ะ” ริคเอ่ยชิดทรวงอกอวบใหญ่หวานล้ำและยังไม่ยอมเงยหน้าจากทรวงสาวจนดรุณนุชต้องกลั้นใจรวบเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีดึงศีรษะซึ่งกำลังซุกไซ้กับทรวงอกตนออกจนได้แม้จะยังหอบกระเส่าเร่าร้อนเพราะไฟพิษศวาสที่เขาเป็นผู้ก่อขึ้นก็ตามที “อืม ฮันนี่จ๋า มีอะไร” ริคยังไม่วายจะดึงดันก้มลงเชยชิมอกอวบจนดรุณนุชต้องซัดเผี๊ยะเข้าที่แขนแข็งแรงจนชายหนุ่มถึงกับสูดปากด้วยความเจ็บนิดๆ อารมณ์ร้อนแรงเมื่อครู่ก็ลดองศาลงมาเล็กน้อย “คนบ้ากามหื่นที่สุด คุยกันก่อนค่ะน้ำผึ้งซีเรียสนะคะ” ดรุณนุชค้อนสามีฉุนๆ ขึงตามองคนหื่นจัดอย่างขัดเคือง
ตอนที่ 186. งานเลี้ยงที่ไม่หรูหราแต่เรียบง่ายเหมือนงานบายศรีสู่ขวัญ ดำเนินไปด้วยความชื่นมื่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขใจ นายใหญ่และนายหญิงวารินซึ่งตอนนี้ชราลงมากแต่ก็ยังดูแข็งแรงกระปรี้กระเปร่า มองดูลูกหลานอย่างมีความสุขใบหน้าและแววตาที่ร่วงโรยตามวัยยิ้มแย้ม ดวงตาเป็นประกายด้วยความปลาบปลื้มใจที่วันนี้เป็นวันดีๆ อีกวันหนึ่ง แล้วเสียงร้องอย่างตื่นเต้นของน้องหนึ่งก็ดังลั่นเรียกความสนใจของทั้งสองให้มองไปยังร่างที่ดูสูงเกินเด็กในวัยเดียวกันวิ่งมาหาอย่างตื่นเต้น จนแก้มขาวใสของเด็กชายแดงปลั่ง “คุณปู่คุณย่าคับ อาวัตสันโทรมาแล้วคับ มาฟังเสียงอาวัตสันเร็วๆ” “จ้าลูก ไปเถอะค่ะคุณพ่อคุณแม่” อรุณนารีเข้ามาประคองร่างของนายหญิงวารินในขณะที่สามีประคองร่างผู้เป็นบิดาเดินไปยังโทรศัพท์ที่ลูกชายจอมซนเปิดเสียงลำโพงอย่างรู้งาน “สุขสันต์วันเกิดนะหลานอา สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่และทุกๆ คนด้วยนะครับ” เสียงของวสันต์ดังอู้อี้ไม่ค่อยชัดนักเหมือนอยู่ในที่อับสัญญาณ “จ๊ะลูก ทุกๆ คนสบายดีแล้ววัตสันล่ะลูกอยู่ไหนกัน” นายหญิงวารินตอบอย่างตื้นตันและรักใคร่บุตรชาย
ตอนที่ 185.“น่านสิค้า อาคิมขาของน้องนาเดียน่าสงสารจังที่โดนเมียทิ้ง ยังหนุ่มยังแน่นและยังหล่อด้วยเอางี้มั้ยคะให้น้าหนูดีช่วยดามอกมั้ยค้าน้าหนูดีของน้องนาเดียสวยน้า นี่ถ้าน้องนาเดียโตกว่านี้ น้องนาเดียจะไม่ทำให้อาคิมขาเสียใจเลย น้องนาเดียจะหาสาวๆ สวยๆ ให้อาคิมขาเอง” หนูน้อยนาเดียเด็กหญิงน่ารักตัวอ้วนกลมผิวขาวแก้มยุ้ยแดงปลั่งพูดฉะฉานเกินวัยพูดและทำท่าราวเด็กสาวริรัก“แต่เรย์ว่า ใครก็สวยสู้น้าหนูดีไม่ได้หรอก เรย์ว่าน้าหนูดีของเรย์เหมาะสมกับอาคิมขาที่สุด แต่เอ...ทำไมเวลาอาคิมมาน้าหนูดีก็ไป แล้วตกลงน้าหนูดีกับอาคิมเป็นอะไรกันแน่คับ คุณอาคิมขากับน้าหนูดีคนสวยเกลียดกันหรือคับ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แย่ แบบนี้เรย์ก็ได้คนอื่นมาเป็นแฟนน้าหนูดีแน่ๆ เสียดายจัง” เด็กชายเรย์ม่อน ที่มีหน้าตาคมคายน่ารักและมีผิวเช่นเดียวกับผู้เป็นมารดาส่วนความแก่แดดแก่ลมไม่เกินกันเอ่ยขึ้นพลางจ้องหน้าอาคิมขาเขม็งเหมือนต้องการหาคำตอบจนคนที่ถูกเด็กๆ ตัวร้ายทั้งสามคนมองเป็นตาเดียวเริ่มอึดอัด นี่เขาคิดผิดแน่ๆ ที่มาร่วมงานวันเกิดของหลานชาย และอาสามาเป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ ให้บทที่พวกผู้ใหญ่ทั้งหลายกำลังวุ่นวายอยู่ในครัว“เอ่อ คือ ฮึ
ตอนที่ 184. “นี่พี่ริคโทรไปข่มหาเรื่องกวนประสาทพี่มาร์คอีกแล้วหรือคะ” ดรุณนุชถามสามีอย่างขุ่นเคืองเมื่อเห็นสามีสุดหล่อนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ท่าทางสะใจ ดูก็รู้ว่าโทรไปคุยข่มเหมันต์เรื่องที่ตัวเองได้ลูกแฝดชายหญิง ยิ่งดีใจยกใหญ่ และชายหนุ่มก็ขยันโทรไปคุยข่มกันจนบางครั้งอรุณนารีโทรมาบ่นกับเธอบ่อยๆ ว่าเบื่อชายหนุ่มทั้งสองที่ทำตัวเหมือนเด็กโข่งทั้งที่ตัวเองอายุเฉียดๆ สี่สิบเข้าไปแล้ว“โธ่ ฮันนี่จ๋าพี่ริคขาก็แค่ดีใจที่จะได้เห็นหน้าลูกเร็วๆ นี้ จนใจมันร้อนรนทนไม่ไหวจึงได้โทรไปเล่าสู่เพื่อนฝูงฟังไงจ๊ะ” ริคพูดกับเธอด้วยภาษาไทยชัดแจ๋ว และมันเป็นเรื่องที่เธอเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าริคสามารถฟังและพูดภาษาไทยได้ชัดพอสมควร และมันก็ทำให้เธองอนเขาไปหลายวันเช่นกันที่ถูกเขาหลอกและอับอายนักเมื่อนึกได้ว่าเธอแอบว่าเขาไปหลายอย่างเมื่อก่อนนี้ รวมทั้งที่เคยตั้งชื่อให้เขาว่า ริค เวร ด้วย“ไม่ต้องมาโธ่เลย พวกพี่นี่ทำอะไรเป็นเด็กๆ รู้ไหมคะว่ามันไม่น่ารักเลย พี่มาร์คเขาเสียใจนะคะ”“เมื่อก่อนบทที่แมงปอท้องใหม่ๆ พี่ก็เสียใจเหมือนกัน น้อยใจด้วยที่เราแต่งงานมีเมียก่อนดันมาท้องทีหลังเพราะเมียคิดว่าเราไม่รัก”“ค่ะ มัน
ตอนที่ 183.“ก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโรงพยาบาล แต่พี่มาร์คก็จะทำบุญให้เธอตามประเพณีทางศาสนา” เขาบอกภรรยาด้วยใบหน้าที่แฝงไว้ด้วยความเสียใจ มือหนาจับจูงมือเล็กๆ นั้นเดินเรื่อยๆ ไปตามชายหาดขาวสะอาด ลมทะเลกรุ่นกลิ่นหอมยามบ่ายพัดโชยโลมไล้ผิวกายราวจะพัดพาเอาความทุกข์ร้อนของคนให้ลงทะเลไปเสีย“แมงปอก็เห็นด้วยค่ะ อย่างน้อยๆ เธอก็จะได้ไปสู่สุคติ”“พี่ก็คิดแบบนั้น พี่อยากบอกเธอว่าพี่อโหสิให้เธอทุกอย่างและอยากขอให้เธออโหสิให้กับเราทุกๆ คนด้วย” สองสามีภรรยาเดินมาทรุดนั่งบนโขดหินใหญ่โดยมีเจ้าคอบร้า เจ้าลิลลี่และลูกๆ ของมันวิ่งตามมาเป็นพรวนเหมือนเช่นเคย ดูเหมือนลูกๆ ของเจ้าลิลลี่จะรักและเคารพเจ้าคอบร้ามากกว่าแม่ของมันเสียอีก เพราะไม่ว่าเจ้าคอบร้าจะไปที่ไหนหรือทำอะไร เจ้าไซบีเรียนฮัสกี้น้อยๆ สี่ตัวนี้ก็พร้อมจะตามไปและทำตามอย่างแข็งขัน จนผู้ที่พบเห็นมันต่างก็พากันมองดูพวกมันด้วยความชื่นชมเอ็นดู“เจสซี่ มินนี่ ทอฟฟี รินนี่ มานี่เร็วๆ” อรุณนารีร้องเรียกเจ้าสุนัขน้อยสี่ตัวที่เป็นตัวเมียสองตัว ตัวผู้สองตัว และเธอก็ตั้งชื่อให้พวกมันอย่างคล้องจองกัน แต่ตอนนี้พวกมันพากันตัวโตมากขึ้นเพราะได้รับการเลี้ยง
ตอนที่ 182.“คุณคะ คุณว่าสองคนนั่นจะเป็นไรมากไหมคะ เห็นเด็กๆ บอกว่ายังไม่ลงมาจากห้องตั้งแต่เมื่อวาน คุณแม่บ้านบอกว่าริคสั่งให้เอาอาหารไปให้ที่หน้าห้องแล้วสั่งห้ามไม่ให้ใครขึ้นไปวุ่นวายชั้นบนหากไม่เรียก โธ่คืนนั้นสองคนนั่นดูเหมือนจะแรงทั้งคู่นะคะคุณ ป่านนี้หนูฮันนี่ของฉันจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้” คุณราเชลบ่นกับสามีเบาๆ“โธ่คุณ ถ้าริคสั่งให้เอาอาหารไปให้และไม่ให้ใครไปวุ่นวายก็คงจะหมายความว่าเขาอยากใช้เวลาอยู่กับภรรยาเขาสองคนนั่นแหละ เรารอฟังข่าวดีกันดีกว่า ไม่แน่ป่านนี้หนูฮันนี่อาจจะกำลังมีหลานให้เราแล้วก็ได้” นายใหญ่แห่งคฤหาสน์เวลส์มองหน้ากันด้วยความหวังที่เรืองรองทันทีเวลาผ่านไปจากนาทีเป็นชั่วโมง จากชั่วโมงเป็นวันและผ่านผันเป็นเดือน เมื่อความรักความเข้าใจแทรกซึมในหัวใจที่มีรักและครองสติได้มองทุกอย่างด้วยเหตุและผลที่เหมาะสม ทุกชีวิตก็ย่อมถูกใช้ให้หมดไปในแต่ละวันอย่างมีความสุข อันความทุกข์นั้นเราก็เอาไว้ใกล้ตัวเพื่อจะได้มองเห็นและรู้ทันมันนั่นคือสิ่งที่ผู้มีปัญญาควรไตร่ตรองและคิดได้ แต่หากผู้โง่เขลามองและคิดอย่างไร้เหตุผลหลงผิดตกลงไปในบ่วงร้ายที่ตนเองเป็นผู้สร้างขึ้น ไฟแห่งความหลงผิดนั้นก็