ตอนที่ 3 เจอกันอีกครั้ง / เฮียช้าง
เพียงแค่วันเดียวหนูนิดก็เข้ากับพี่เลี้ยงของแกได้เป็นอย่างดี หนูนิดเป็นเด็กน่ารักผิวขาวตาโตยิ้มเก่ง ส่วนน้ำหวานก็ชอบตามใจเด็กจึงทำให้พี่เลี้ยงเด็กอย่างเธอเข้ากับคุณหนูน้อยได้ด้วยดี
ส่วนห้องพักของน้ำหวานคุณทับทิม คุณผู้หญิงของบ้านให้น้ำหวานไปอยู่ในห้องเดียวกับหนูนิด ซึ่งห้องนั้นก็อยู่ติดกับห้องของคุณคชาบิดาของหนูนิดนั่นเอง สาเหตุเป็นเพราะน้ำหวานอาสาจะดูแลหนูนิดช่วงกลางคืนให้เอง ส่วนถ้าวันไหนพ่อเขาอยากจะเอาลูกไปนอนด้วยหรือหนูนิดร้องจะนอนกับพ่อก็ให้ไปนอนห้องพ่อ
ช่วงเย็นคชากลับมาถึงบ้านด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานอันแสนจะตึงเครียดมาทั้งวัน เขาเดินเร็วๆขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำก่อนแล้วถึงจะเดินมาหาลูกสาว
ร่างสูงเดินผ่านขึ้นด้านบนไป น้ำหวานเห็นเพียงแค่ด้านหลังของเขาเท่านั้นเธอรู้สึกคุ้นๆแต่ก็ไม่ได้สนใจ หันกลับมาป้อนข้าวให้คุณหนูของเธอต่อ
“อ้าวตาช้างมาพอดีเลย” เสียงของคุณทับทิมทำให้คนที่นั่งหันหลังกำลังป้อนข้าวให้กับคุณหนูอยู่ หันหลังกลับไปมองเจ้านายอีกคนของบ้านหลังนี้
“...........” สายตาของทั้งสองสบตากันพอดี ทั้งสองนิ่งไปไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกครั้งเร็วขนาดนี้ จากกันยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย พรหมลิขิตชัดๆ...คชาคิดในใจ
“นี่คุณคชาหรือจะเรียกว่าคุณช้างก็ได้ ป๊ะป๋าของยัยหนูนิดน่ะ” เป็นเสียงของคุณแม่เอ่ยแนะนำให้พี่เลี้ยงคนใหม่ของหลานสาวรู้จักกับลูกชายของท่าน
สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้ฉันทำตัวไม่ถูกหรือจะเรียกว่าไม่รู้จะทำหน้ายังไงก็ได้ แต่เขากลับส่งยิ้มบางๆกลับมาคล้ายกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ถ้าฉันจะขอลาออกตอนนี้จะได้มั้ยนะ
“สวัสดีค่ะ คุณคชา” ฉันยกมือไหว้เขาพลางคิดในใจว่า...ทำไมถึงได้ซวยอย่างนี้นะ
“ครับดีครับ คุณพี่เลี้ยง ชื่ออะไรเหรอครับ” เมื่อเช้าผมถามเธอแล้ว แต่เธอไม่ยอมบอก ครั้งนี้เธอไม่รอดแน่
“น้ำหวานค่ะ” ผมพยักหน้ารับอมยิ้มบางๆอย่างผู้ชนะ แล้วเดินเข้ามาหาลูกสาว
“แอ๊ แอ๊” เสียงหนูนิดร้องอ้อแอ้อ้าแขนกว้าง ผมจึงรับเอาแกมาอุ้ม
“มาค่ะคนสวย ป๊ะป๋าอุ้มไปเดินเล่นนะคะ"
"ป้อนข้าวอยู่ใช่มั้ย เดินตามมาสิครับ" ผมหันไปบอกยัยแว่นเพื่อให้เธอเดินตามออกมาคุยกันหน่อย ตรงนี้คนเยอะเกินไปคงไม่เหมาะถ้าจะพูดเรื่องของเรา ผมเดินออกมาด้วยใบหน้ายิ้มกริ่มอุ้มลูกสาวออกมาด้วย สถานที่ก็คือสนามหญ้าหน้าบ้าน ผมพาหนูนิดกับยัยแว่นนั่งลง ท่ามกลางบรรยากาศแดดร่มลมตก
“หนูนิดได้หม่ามี๊แล้วดีใจมั้ยลูก” ผมพูดยิ้มๆ โดยส่งสายตาไปหาอีกคนที่กำลังนั่งด่าผมอยู่ในใจ
“คุณพูดบ้าอะไร ฉันจะลาออก”
“เมื่อเช้าคุณเซ็นสัญญาแล้วนี่ ถ้าคุณลาออกผมจะฟ้องร้องคุณให้หมดตัวเลยคอยดู” ผมพูดเล่นแค่ไม่อยากให้เธอลาออกเฉยๆ ส่วนเรื่องสัญญาเธอก็เซ็นแล้วจริงๆนั่นแหละ
“ทุเรศ...คนนิสัยไม่ดี”
“ก็แล้วแต่คุณจะคิด” ท่าทีสบายใจสุดๆของเขาทำให้น้ำหวานรู้สึกหมั่นไส้
“คุณแม่ให้คุณพักห้องไหน”
“ฉันโคตรเกลียดขี้หน้าคุณเลย”
“คุณตอบไม่ตรงคำถามนะครับ”
“ห้องคุณหนู”
“แหม...ติดกับห้องของผมเลย”
“ทุเรศ สกปรก คิดแต่เรื่องลามก”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมคิด เพราะคุณก็คิดเหมือนผมใช่ม๊า...”
“ฉันสงสารคุณหนูจริงๆ เกิดมาทั้งทีมีพ่อแบบคุณ”
“ยัยแว่น มันจะมากไปแล้วนะ ถึงผมจะเป็นแบบที่คุณเห็น แต่ผมก็รักลูกของผมนะ” ถึงผมจะชั่วแต่ผมก็ชั่วแบบเปิดเผยครับ ส่วนเรื่องหนูนิด บอกเลยว่าผมรักแกมาก ยัยหนูคือแก้วตาดวงใจของผม ซึ่งทุกคนในบ้านหลังนี้ก็รักแกมากทุกคน
“คุณท่านบอกว่าปกติช่วงกลางคืนคุณหนูนอนกับคุณ”
“นานๆทีผมจะออกไปสักครั้งไม่ได้ออกไปบ่อยสักหน่อย ก็เพื่อนมันโทรตาม” แล้วทำไมผมจะต้องมานั่งอธิบายให้ยัยแว่นฟังด้วยเนี่ย
“แก้ตัวน้ำขุ่นๆ” เธอไม่เชื่อ
“ต่อไปนี้ผมจะไม่ออกไปไหนแล้ว เพราะผมมีคุณแล้ว” ผมส่งสายตามองเรือนร่างบอบบางตรงหน้าอย่างคิดถึง รู้สึกอยากได้แบบเมื่อคืนนี้อีก
“นี่! อย่ามารุ่มร่ามกับฉันนะ”
“โอเคๆ ผมไม่แกล้งคุณแล้วก็ได้ ขอบคุณนะครับที่มาเป็นพี่เลี้ยงให้กับลูกสาวของผม แกไม่มีแม่ ถ้าคุณจะมาเป็นแม่ให้กับยัยหนู ผมจะดีใจมากๆ” จะดีอยู่แล้วเชียว แต่ประโยคหลังนี่สิฟังดูยังไงก็ไม่รู้
น้ำหวานยังคงป้อนข้าวให้กับหนูนิดอยู่ ส่วนป๊ะป๋าก็เล่นกับลูก พูดคุยหยอกล้อกันตามประสาพ่อลูก จนท้องฟ้าเริ่มมืด...
“เข้าบ้านกันดีกว่าป่ะ ป๊ะป๋าอุ้มนะคะ”
“คุณไปทานข้าวกับอาบน้ำก่อนป่ะ ผมจะดูแลลูกให้เอง” ผมใช้คำว่าลูกกับเธอ เพราะผมอยากให้เธอมาเป็นมี๊ให้กับลูกสาวของผม...เอาน่ายังไงเธอก็เป็นเมียผมแล้ว
“ค่ะ” น้ำหวานเดินเข้าห้องครัวไปทานข้าวก่อน หลังจากอิ่มแล้วเธอจึงเดินขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำแล้วกลับลงมาหาหนูนิด
“คุณ...ทานข้าวหรือยัง ฉันดูแลคุณหนูให้” น้ำหวานเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น ภายในห้องมีคุณผู้หญิง คุณคชานั่งเล่นกับลูกสาวอยู่ แล้วก็ป้านวล เธอจึงไม่กล้าพูดไม่ดีออกไป
“ขอบใจนะ”
“คุณแม่ ทานข้าวกันครับ”
“อยู่กับน้ำหวานก่อนนะยัยหนู” คุณย่าพูดกับหลานสาวก่อนที่จะเดินตามหลังลูกชายไปทานข้าวกัน
“คุณหนู ไปอาบน้ำกันดีกว่านะคะ” น้ำหวานทำหน้าที่ของเธอคือพาคุณหนูขึ้นด้านบนไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ จากนั้นก็ชงนมให้แล้วพาลงมานั่งเล่นอยู่ที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างเหมือนเดิม
ระหว่างนี้คชาไม่ได้พูดหรือแกล้งอะไรน้ำหวานเลย เขานั่งมองดูเธอเล่นอยู่กับลูกสาวของเขา ส่วนเขาพูดคุยอยู่กับคุณแม่และป้านวลด้วยท่าทีธรรมดาจนอาการเกร็งของน้ำหวานหายไป
"ตาช้างพาลูกไปนอนได้แล้ว ดูสิทำท่าจะหลับแล้วนั่น"
"หวานพาไปเองค่ะ" พูดจบเธอก็อุ้มคุณหนูของเธอขึ้นชั้นบนไป
"คุณแม่ผมขอตัวนะครับ" ผมลุกขึ้นแล้วเดินตามยัยแว่นไปติดๆ แล้วห้องที่ผมจะเข้าก็คือห้องนอนลูกสาวผม
“นี่คุณ เข้ามาทำไมออกไปเลยนะ”
“ผมจะมาอ่านนิทานให้ยัยหนูฟัง” ผมหงายท้องนอนลงไปบนเตียงด้วยท่าทางสบายใจ แล้วหยิบหนังสือนิทานมาหนึ่งเรื่อง ยัยหนูคลานมานอนข้างๆผมเหมือนทุกวัน ยัยนั่นจึงเงียบไปไม่กล้าว่าอะไรผมอีก
“หน้ามึน” อยากจะด่าอะไรก็ด่าไปเถอะ...ผมคิดในใจ แล้วก็อ่านนิทานให้หนูนิดฟังไม่นานแกก็หลับไป เห็นลูกหลับไปแล้วผมจึงแกล้งหลับตาม
“นี่คุณ! ลุกออกไปเลยนะ”
“อื้อ...คนจะนอน” ผมทำทีเป็นว่าแกล้งหลับ...ก็ผมอยากนอนในห้องนี้กับลูกกับเมียนี่
“ถ้าคุณนอนที่นี่แล้วฉันจะไปนอนที่ไหนล่ะ”
“ที่นอนออกจะกว้างก็นอนด้วยกันนี่แหละ”
“ไม่เอา...คุณก็ไปนอนที่ห้องของคุณสิ”
“ไม่เอาผมอยากนอนกับลูก” ข้ออ้างชัดๆ!
“ได้! งั้นฉันคงต้องนอนที่พื้น” น้ำหวานเตรียมหยิบหมอนทำท่าวางลงที่พื้นเตรียมตัวนอน โดยที่ผ้าปูก็ไม่มี พื้นก็เย็น
“กินยาคุมอีกเม็ดหรือยัง” ยาคุมฉุกเฉินมีสองเม็ดเขาจึงถามดูถึงเม็ดที่สอง
“ฮึ้ย! ลืมเลย” น้ำหวานเด้งตัวลุกขึ้นนั่งก่อนที่จะเดินไปหยิบยาเม็ดนั้นเอาขึ้นมาเตรียมที่จะกิน แต่กลับโดนคนตัวโตสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง ศอกเล็กถองเข้าให้ที่หน้าท้องแข็งแรงอย่างจัง
“โอ๊ย!! ถองมาได้เจ็บนะคุณ”
“ใครใช้ให้คุณมารุ่มร่ามกับฉันก่อนล่ะ”
“แต่คุณเป็นเมียผมแล้วนะ”
“ถ้าฉันเป็นเมียคุณ ผู้หญิงที่คุณพาไปนอนด้วยก็คงเป็นเมียคุณหมดนั่นแหละมั้ง”
“นี่คุณกำลังหึงผมอยู่เหรอ”
“ไม่มีทาง ฉันขยะแขยงคุณจะตาย ออกไปได้แล้ว ฉันจะนอนบนเตียง ข้างล่างพื้นมันเย็น”
“เมีย...อย่าใจร้ายกับผัวสิ”
“พูดให้มันดีๆนะ ใครเป็นเมียคุณ ออกไป!” น้ำหวานผลักเขาออกจากห้องได้จนสำเร็จ เธอกินยาเม็ดที่เหลือจากนั้นก็ลงไปนอนกับคุณหนูของเธอกอดกันไว้แล้วหลับตาลง...โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามีสายตาของใครบางคนยิ้มออกมาเมื่อแอบดูกล้องวงจรปิดในห้องนี้อยู่
ตอนที่ 30 ท้อง / เฮียช้าง (จบ)1 ปีผ่านไปหนูนิดวัยสองขวบหน่อยๆ เกือบจะเข้าโรงเรียนได้แล้ว ป๊ะป๋ากับหม่ามี๊ของแกก็เลยตกลงกันว่าปล่อยให้มีอีกคน กว่าคนเล็กจะคลอด ลูกสาวคนโตอย่างหนูนิดก็คงเข้าโรงเรียนไปแล้ว และที่วางแผนแบบนี้ก็เพื่ออยากเลี้ยงลูกด้วยตัวเองและจะได้ไม่เหนื่อยจนเกินไป อีกอย่างคือจะได้มีเวลาให้ลูกเสมอกันด้วยในเช้าวันหนึ่ง เสียงอาเจียนดังขึ้นในห้องน้ำ หนูนิดกำลังนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่บนเตียงรีบกระโดดลงจากเตียงวิ่งไปดู"มี๊เป็นอะไรคะ" เสียงใสๆเอ่ยถามหม่ามี๊ในขณะที่ประตูห้องน้ำค่อยๆถูกเปิดออก"มี๊เวียนหัวค่ะ" หนูนิดรีบวิ่งไปที่ห้องข้างๆ ป๊าเคยบอกว่าถ้ามี๊ไม่สบายต้องรีบมาบอกป๊าทันที เด็กน้อยจำขึ้นใจรีบวิ่งไปหาป๊ะป๋าแล้วเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นทันที"ป๊าขา...ป๊าขา""หนูนิดเป็นอะไรคะเรียกป๊าเสียงดังขนาดนี้" คชาหันมาหาลูกสาว เขากำลังแต่งตัวเตรียมที่จะออกไปทำงานเหมือนทุกวัน"มี๊คะ มี๊ไม่สบาย""เมื่อกี๊ป๊าออกมาจากห้องนั้น มี๊ยังดีๆอยู่เลย" คชาพูดกับลูกสาวเสร็จ ก็รีบเดินเร็วๆไปที่ห้องนอนของลูกสาว"แว่นเป็นอะไร" เห็นภรรยาสุดที่รักยังคงโก่งคออาเจียนอยู่ในห้องน้ำอยู่เลย"หวานเวียนหัวค่ะ ไ
ตอนที่ 29 แต่งงาน / เฮียช้าง2 เดือนต่อมา@งานแต่งลูกสาวกำนันเอี้ยงงานแต่งถูกจัดขึ้นที่บ้านของพ่อกำนัน บ้านของน้ำหวานที่ต่างจังหวัด แขกผู้มีเกียรติทยอยกันเดินทางเข้ามาในงาน ร่วมแสดงความยินดีรดน้ำสังข์ผูกข้อมืออวยพรให้แกเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวกันอย่างเนืองแน่น เนื่องจากพ่อของฝ่ายเจ้าสาวค่อนข้างมีหน้ามีตาทางสังคม งานที่จัดขึ้นจึงอลังการงานช้างหาที่เปรียบไม่ได้วันนี้หนูนิดใส่ชุดสีชมพูสวยกระโปรงฟูฟ่องถูกอุ้มอยู่บนแขนของคุณอาสิงหราชและคุณอามังกร ผลัดๆกันเลี้ยง ผลัดๆกันอุ้ม เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญของป๊ะป๋ากับหม่ามี๊ของแกเจ้าบ่าวสวมชุดสูทสีขาวทั้งชุด ทรงผมถูกจัดแต่งโดยช่างทำผมมืออาชีพจากที่ดูหล่อเหลาอยู่แล้ว วันนี้คุณคชาหรือเฮียช้างดูหล่อเหลามากกว่าทุกวัน ใบหน้ายิ้มกริ่มมีความสุข วันที่เขารอคอยมาถึงสักที วันนี้เป็นวันที่เขาได้ครอบครองผู้หญิงจิตใจดีคนนี้ ด้วยพิธีแต่งงานและใบจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายเจ้าสาวสวมชุดไทยลูกไม้สีขาวทั้งชุดเช่นกัน ถึงแม้ว่าใบหน้าของเธอจะมีแว่นสายตาใส่ไม่เคยถอดแต่แว่นสายตาที่เธอสวมใส่อยู่นี้ก็ไม่สามารถปิดบังความสวยของเธอได้เลย“ป๊า...มี๊” ช่างกล้องถ่ายภาพเก็บบ
ตอนที่ 28 กลัวลูกไม่รัก / เฮียช้างช่วงหัวค่ำ หลังจากกินข้าวเย็นพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวกันเรียบร้อยแล้ว หนูนิดทำท่าง่วงนอน น้ำหวานจึงพาลูกไปนอนที่ห้องนอนของเธอ จนหนูนิดหลับไปแล้ว น้ำหวานเดินออกจากห้องมาตามสามีของเธอไปอาบน้ำ ในขณะที่คชากำลังจะเดินตามเมียเข้าห้องนอน“ไอ้ลูกเขย ยังไม่ได้แต่งงานกัน เอ็งออกมานอนกางมุ้งข้างนอกเลย” อาการหวงลูกสาวเริ่มกลับมาอีกครั้ง คิดว่าคุยกันรู้เรื่องแล้วซะอีก!“พ่อตาอย่าแกล้งผมน่า...ถ้าไม่ได้นอนกอดเมียผมนอนไม่หลับ” ลูกเขยก็ไม่เบาแกล้งพูดยั่วพ่อตาเข้าไปอีก ส่วนพ่อกำนันได้ยินสิ่งที่ลูกเขยพูดอยากจะให้มันลงไปนอนในใต้ถุนให้รู้แล้วรู้รอด“ไม่หลับก็เรื่องของเอ็ง”“ตาเฒ่า แกอยากจะนอนกางมุ้งข้างนอกด้วยคนมั้ยล่ะ จะเข้ามั้ยห้องน่ะ ถ้าไม่เข้าจะล๊อคประตูแล้วนะ” แม่แววได้ยินทนไม่ได้ จึงออกมาช่วยลูกเขยพูด เป็นถึงกำนันทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่เอาเสียเลย แกล้งกันไปแกล้งกันมาอยู่ได้ ไอ้ลูกเขยก็ไม่เบา...“แม่ก็...ฝากไว้ก่อนเถอะเอ็ง”“ไม่รับฝากครับ”พ่อกำนันรีบเดินเข้าห้องนอนไป ก่อนที่แม่แววจะปิดประตูแล้วล๊อค“คุณช้าง...นั่นมันพ่อหวานนะ จะยอมแกหน่อยไม่ได้หรือไง” ถึงเธอจะรู้ว่าสาม
ตอนที่ 27 หลานข้า / เฮียช้างคุยกันอยู่สักครู่หนูนิดที่นอนดูดนมอยู่บนตักพ่อกำนันก็หลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ หันมาอีกที...หลับไปซะแล้ว"กินข้าวเช้ากันมาหรือยังลูก ในครัวมีกับข้าวพาพ่อหนุ่มไปกินข้าวกินปลากันก่อนไป เดี๋ยวค่อยมานั่งคุยกันใหม่" แม่แววเอ่ยบอกลูกสาวของท่านให้ชวนกันไปหาข้าวกินก่อน"ค่ะแม่""หลานตากำนันหลับแล้วนะ ฝากดูด้วยนะครับ" คชาแกล้งพูดบอกว่าเป็นหลานตา แล้วจึงลุกขึ้นเดินตามเมียเข้าห้องครัวไป"โธ่...หลานตา หลับไปซะแล้ว" กำนันเอี้ยงมองหลานสาวตัวเล็กบนตัก จุกนมยังคาปากอยู่เลย..."พ่อ...เอาหมอนมั้ย ยัยหนูจะได้นอนสบายๆ" แม่แววเอ่ยถามสามีของท่าน กลัวว่าจะเมื่อย"ข้าอยากให้ยัยหนูนอนอยู่แบบนี้ แม่...ถ้าเราจะมีหลานหน้าตาน่ารักแบบนี้สักคนสองคน แม่จะว่ายังไง" พ่อกำนันกระซิบกระซาบถามเมีย"เฮ่อ...ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ นี่ขนาดไม่ใช่หลานแท้ๆ ยังหลงเด็กได้มากขนาดนี้ ถ้าเป็นหลานแท้ๆ สงสัยตำแหน่งกำนันหลุดแน่ๆ" คงขับรถเข้ากรุงเทพฯทางเป็นเทือกงานการไม่ต้องทำแล้ว"ลูกสาวเราชอบพ่อยัยหนูนี่ แม่แววจะว่ายังไง""ลูกรักใครฉันก็รักด้วย""อือ..." พยักหน้าเห็นด้วย แล้วมองหน้าหลานสาวบนตักต่อ สองคนตายา
ตอนที่ 26 พ่อตากับลูกเขย / เฮียช้าง"แว่น!..." คชาอั้นฉี่มาได้สักพักแล้ว กะว่ามาถึงบ้านจะได้ปลดปล่อย แต่พอมาถึงกลับมีเรื่องซะก่อน ทำได้แค่สะกิดบอกเมียแต่ดูเหมือนว่าเธอจะสนใจพ่อของเธอมากกว่า จนลืมไปว่าสามีของเธอปวดฉี่จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว“ไอ้หน้าขาวนี่ผัวเอ็งรึ” พ่อกำนันถามลูกสาวในขณะที่กำลังนอนดมยาดมอยู่“ค่ะ” คำตอบของลูกสาวทำให้พ่อกำนันสูดยาดมหนักขึ้นไปอีก สีหน้าดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่“แล้วยัยหนูหน้าตาจิ้มลิ้มนี่ล่ะ”“ลูกหวานเองค่ะ” น้ำหวานเลือกที่จะตอบแบบนี้เพราะเธอรักหนูนิดเหมือนลูกแท้ๆ เธอเลี้ยงของเธอทุกวันตั้งแต่ยังเดินไม่ได้เลยด้วยซ้ำ“ไม่จริงเอ็งอย่ามาโกหกพ่อ เอ็งกลับไปครั้งนั้น ตอนนั้นเอ็งยังไม่ได้ท้องเลย”“ลูกคุณช้างค่ะพ่อ” น้ำหวานพาหนูนิดนั่งลงอยู่บนหน้าตักของเธอแล้วกอดหนูนิดเอาไว้“เอ็งมีลูกติดเหรอไอ้หน้าขาว” หันไปถามคนที่ตอนนี้มีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก แต่ที่เป็นแบบนี้เพราะปวดฉี่ต่างหากไม่ได้กลัว“ครับ ลูกผมเองครับ” รับคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ดื่มน้ำดื่มท่ากันก่อนลูก” แม่แววเดินเอาน้ำเย็นๆมาส่งให้ลูกสาวและลูกเขยคนละขวดพร้อมกับแก้วอีกคนละหนึ่งใบ“ขอบคุณครับคุณแม่”
ตอนที่ 25 พาเมียกลับบ้าน / เฮียช้าง6 เดือนผ่านไปตอนนี้หนูนิดอายุขวบกว่าๆแล้ว เดินเก่งและพูดเก่งมากแถมแกยังทวงกินอยู่บ่อยๆ"หม่ำๆนมๆ" หนูนิดเดินมาสะกิดหม่ามี๊ของแกขอนมดื่ม ซึ่งตอนนี้น้ำหวานเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ เธอกำลังนั่งหวีผมแต่งตัวอยู่ที่โต๊ะกระจกบานใหญ่"บอกป๊ะป๋าสิคะ มี๊ยังหวีผมไม่เสร็จเลย" น้ำหวานบอกลูกสาวตัวเล็กของเธอที่กำลังอ้อนขอดื่มนมท่าทางน่าสงสาร"ป๊า...งาน" เสียงเล็กๆเอ่ยบอก ถึงจะฟังไม่ค่อยชัดนักแต่ก็พอเข้าใจได้ น้ำหวานหันไปก็เห็นว่าเขานั่งทำงานอยู่จริงๆ"มาค่ะมี๊ชงให้ เด็กดีไปนอนรอบนที่นอนเลยค่ะ" น้ำหวานลุกขึ้นแล้วเดินไปชงนมให้ลูกสาวของเธอ"ได้นมแล้ว เป็นเด็กดีต้องทำยังไงก่อนคะ""ค่า..." หนูนิดลุกขึ้นมานั่งอยู่บนที่นอนนุ่มๆพนมมือเล็กๆไหว้อย่างสวยงามแล้วรับเอาขวดนมไปนอนดูดท่าทางสบายใจน้ำหวานหยิบหนังสือนิทาน อ่านให้ลูกฟังเบาๆ ไม่นานหนูนิดก็หลับคาขวดนมไปในขณะที่คชายังคงนั่งทำงานของขาอยู่นั้น น้ำหวานเดินเข้ามาสวมกอดสามีของเธอจากทางด้านหลังอย่างออดอ้อน ฟอด!“เฮียช้างขา...อาทิตย์หน้าหวานขอลากลับบ้านสักหนึ่งอาทิตย์ได้มั้ยคะ” ตั้งแต่ที่เธอมาทำงานอยู่กับเขาเธอยังไม่ได้กลับบ้านเล