Home / วัยรุ่น / หากดาวดวงนั้นคือเธอ / ฤดูเปลี่ยนใจคนเปลี่ยน

Share

ฤดูเปลี่ยนใจคนเปลี่ยน

last update Last Updated: 2025-02-09 07:09:37

เช้าที่อากาศไม่เป็นใจ บรรยากาศขมุกขมัวคล้ายกับว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้น้ำตาฟ้าจะกระหน่ำลงมาทั้งๆ ที่เป็นฤดูหนาว

มิราใช้กระบอกฉีดน้ำฉีดน้ำใส่ดอกไม้สดในร้านอย่างสบายอารมณ์อีกไม่กี่วันเธอจะเดินทางไปท่องเที่ยวกับปัณภัทรอย่างมีความสุขเป็นอีกหนึ่งโครงการก่อนที่จะแต่งงานกันในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึง

ปัณภัทรในเสื้อสูทอย่างที่มิราคุ้นเคย เขาเป็นคนที่ต้องทำตัวให้ดูดีอยู่เสมอ นี่เองที่บรรดาเพื่อนๆ ของปัณภัทรพากันสงสัยว่าทำไมปัณภัทรถึงมาชอบผู้หญิงที่ไม่มีอะไรโดดเด่นอย่างมิราได้

“มิรา พี่จะแต่งงาน” 

ปัณภัทรกุมมือมิราไว้ มิรารู้สึกตื่นเต้นกับคำพูดของปัณภัทรก้มหน้าหลบตาคม ที่จ้องมอง

ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มิราคิดว่าอีกประเดี๋ยวปัณภัทรต้องล้วงเอาแหวนออกมา แกล้งเสมองทางอื่นเพื่อรับมุข

แต่ตั้งนานมิราก็ยังไม่เห็นว่าปัณภัทรจะหยิบแหวนออกมา ปัณภัทรกับอึกอักอยู่ตรงนั้นสีหน้าหนักใจที่มิราเห็นว่าเขาไม่ได้แกล้งทำแต่อย่างใด

“มิรา... พี่ๆ ...คือพี่...ขอโทษด้วย” 

สุดท้ายก็หลุดคำพูดขอโทษออกมา

“ขอโทษเรื่องอะไรคะพี่ปัณ”

 แววตาฉงนในคำพูดที่แผ่วเบาดั่งกับละอองนุ่นที่พร้อมจะหลุดลอย

“พี่...พี่ กำลังจะแต่งงานกับ....นิ..รา....”

 มิราเผลอดึงมือออกจากมือของปัณภัทรอย่างแรงไม่มีคำพูดใดใดหลุดออกมาดวงตาร้อนผ่าวกลืนก้อนแข็งๆ ลงคออย่างยากเย็นอยู่ๆ น้ำตาก็เอ่อล้นออกมา

“ทำไมคะไหนพี่เคยบอกว่าอยากใช้ชีวิตร่วมกับกันมิรา”

 ไม่แม้แต่จะมองหน้าของปัณภัทร ความเสียใจน้อยใจแล่นขึ้นมาจุกที่อก

“มิราพี่ขอโทษ อย่าโกรธพี่เลยนะ เราสองคนรักกัน”

 แล้วความรักของมิราเล่า ข้างนอกร้านขายดอกไม้ของมิราฝนตกกระหน่ำลงมาหยาดฝนไหลรินตรงประตูกระจกคล้ายกับเศร้าเสียใจไปกับมิรา ดอกไม้สวยสดในร้านกับดูจืดชืดหม่นหมอง

“มิราเข้าใจ พี่ปัณกลับไปเถอะค่ะ มิราไม่อยากเจอพี่อีกเดี๋ยวนิราเขาจะเข้าใจผิด” พูดไปทั้งหมดเพียงเพื่ออยากได้ยินปัณภัทร บอกว่าไม่เป็นไรพี่จะอยู่ต่อพี่แคร์มิรา

“พี่รู้มิราพูดไปอย่างนั้น มิราโกรธเราสองคน นิราเขาไม่อยากให้มิราโกรธเขา พี่ก็เช่นกัน” 

ข้างนอกนั่นความมืดจากพายุฝนเข้าปกคุลมไปทั่วบริเวณเหมือนความมืดมนในใจของมิราในขณะนี้

“มิรา....ไม่โกรธถ้าจะโกรธใครสักคนคงเป็นตัวมิราเอง ที่ไม่ดีพอสำหรับพี่ปัณ” สะอื้นไห้จนตัวโยนน้ำตาไหลรินเหมือนหยาดฝนที่สาดซัดเข้าใส่กระจกใสจนพร่ามัว

“เราตกลงกันว่าพี่จะเป็นคนบอกเรื่องของเรากับมิราเอง นิราเขาไม่กล้าเขากลัวมิราโกรธ”

 เรื่องของเราช่างพูดได้เต็มปากเต็มคำ คำว่าเรา..เสียดแทงจิตใจของมิราเหลือเกิน ความจริงหากเป็นนิรมนมาบอกเธอเองเธออาจให้อภัยได้ แต่ก็ไม่แน่มิราไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้น

มิราใช้มือดันหลังของปัณให้ออกไปนอกร้านทั้งๆ ที่ฝนกำลังตก

“มิราฟังพี่ก่อน มิรา...มิรา”

 บิดกุญแจปิดประตูจากด้านในหันหลังพิงประตูน้ำตาไหลรินไม่หยุด ปัณภัทรทุบประตูเรียกมิราสักพัก มิราปล่อยให้ตัวเองสะอื้นไห้อย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะเศร้าเสียใจเรื่องอะไรได้ขนาดนั้น ปัณภัทรยังเรียกมิราอยู่อย่างนั้นสักพักนิรมนก็ถือร่มกันฝนคันโตมารับปัณภัทรเดินจากไปพร้อมกัน

มิราทรุดตัวลงกับพื้นปาดน้ำตาที่ไหลรินพยายามสะกดกั้นอารมณ์เศร้าโดยหาเหตุผลต่างๆ มาหักล้างกันให้คลายความเศร้าโศกแต่ก็ไม่เป็นผล

บิดกุญแจกระชากประตูเปิดออกอย่างแรง เดินออกไปข้างนอกเพื่อที่จะตะโกนถามคนทั้งคู่ว่าทำไมทำกับเธอแบบนี้ด้วยอารมณ์เศร้าโศกที่เปลี่ยนเป็นอารมณ์โกรธ

แต่ทว่าไม่มีแม้แต่เงา เหลือบตามองเป็นการ์ดเชิญสีชมพูถูกเสียบไว้ที่ตู้ไปรษณีย์หน้าร้าน

ซองสีชมพูหวานมิราดึงการ์ดข้างในออกมาดู รูปบนการ์ดที่ถ่ายแบบฟรีเวดดิ้งสวยงามสะดุดตา

ปัณภัทรโอบกอดนิรมน ชุดแต่งงานราคาแพงสุดสวยบ่งบอกถึงฐานะของเจ้าบ่าวที่ทุ่มเงินเพื่องานนี้โดยเฉพาะ

ด้านหลังซองเขียนด้วยลายมือของนิรมนที่มิราจำได้ดี

แกต้องไปนะถ้าหากแกอภัยให้ฉัน

เรารักกันและพี่ปัณเขายืนยันว่ารักฉัน

ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังแกก็รู้

แต่เราทั้งคู่อยากให้แกมาจริงๆ

มิรายกมือขึ้นปิดปากปล่อยให้น้ำตาไหลรินอยู่อย่างนั้นน้ำตากับหยาดฝนปนเปกันไปเมื่อหยาดฝนสาดซัดทั้งตัวและหัวใจของมิราจนเปียกปอน

สวนสาธารณะแห่งหนึ่งร่มครึ้มไปด้วยแมกไม้สีเขียวสบายตา มิรายืนนิ่งอยู่ตรงศาลพระพรหมกลางสวนสาธารณะ ปล่อยน้ำตาไหลริน ความจริงมิรายังไม่สามารถหยุดความเศร้าทั้งหมดที่มีในเวลาที่ผ่านมาได้ต่างหาก

“ทำไมต้องเล่นตลกกับลูกด้วยพระพรหมเจ้าขา”

 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่มีจริงมิรารู้ดี เพียงแค่มิราต้องการกล่าวโทษใครสักคนเท่านั้นหากไม่มีใครให้กล่าวโทษนอกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่เป็นที่ระบาย

สะอื้นจนนึกสงสารตัวเอง

“ท่านทำไมไม่ให้โอกาสลูกบ้าง” 

เพียงได้พร่ำรำพันหรือได้ระบายเสียบ้างก็ยังดี

อยู่ๆ ก็มียายแก่คนหนึ่งเดินตรงมาหามิราที่นั่งอยู่หน้าศาลพระพรหม

“หนูยายไม่ได้กินข้าวมาหลายวันแล้ว ขอเงินยายหน่อยได้ไหม” 

มิราล้วงกระเป๋าหยิบเงินจำนวนหนึ่งส่งให้ยายแก่ร่างกายซูบผอมปาดน้ำตาที่ไหลริน

“ขอบใจนะหนู”

“หนูเป็นอะไร”

“เปล่าค่ะเพียงแต่หนูคิดว่าพระพรหมท่านช่างลำเอียงเสียจริง ลิขิตให้หนูเกิดมาหน้าตาขี้เหร่แล้วยังไม่ให้มีสิทธิ์เลือกได้เหมือนคนอื่นเขาอีก”

“ท่านอาจยังไม่เห็นหนู ว่าหนูต้องเจอกับอะไรบ้าง พระพรหมท่านต้องทำงานหนักเพราะคนบนโลกนี้มีตั้งหลายคนอาจดูแลไม่ทั่วถึงหนูลองขอพรดูสิ”

 มิรานิ่งคิดที่ผ่านมาเธอไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ที่

“ลองดูนะ ไม่เสียหายอย่างน้อยก็เพื่อความสบายใจ ความหวังเท่านั้นที่ทำให้เราสุขใจ”

มิรายิ้มบางๆ แทนคำตอบ

“ยายขอให้หนูสมหวังในสิ่งที่ต้องการมีความสุขสมบูรณ์สมปรารถนา”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หากดาวดวงนั้นคือเธอ   จบบริบูรณ์

    ศาลพระพรหม หน้าโรงพยาบาลพวงมาลัยดอกมะลิส่งกลิ่นหอมกรุ่น เฮงเดินผ่านเตรียมเรียกแท็กซี่ แต่อะไรบางอย่างที่ศาลพระพรหมสะดุดตาเหลือเกิน“เฮ้อเมื่อไหร่จะเจอ คนที่ถูกใจเสียที ไปลองอธิฐานขอพรดูดีกว่าเผื่ออะไรๆจะดีขึ้นมาบ้าง"บ่นเบาๆแม้จะรู้สึกเสียใจที่พลาดจากมิราแต่ก็ยังคงคิดว่าไม่ถึงเวลาของตัวเองมิราพบคนที่ดีดีอย่างหัสนัยเขา็้ดีใจด้วยที่สุดนั่งลงประนมมือตรงหน้าอธิฐานเบาๆก่อนจะยิ้ม"ขอแค่ใครสักคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างกันจนแก่เฒ่า"ยิ้มกับคำอธิฐานของตัวเองว่าทำไมขอน้อยจังไม่ขอคนสวยๆดีๆเหมือนคนอื่นเขา แสงสว่างวาบจากดอกบัวในมือพระพรหมที่สว่างขึ้นมาเมื่อคำขอจบลง คงมีบางอย่างที่รับรู้ในคำขอของเฮงแล้วล่ะ แต่เฮงไม่ทันเห็นโยดา กลายเป็นแมวสีส้ม ยืนคลอเคลียเฮงอยู่ ได้เวลาย้ายบ้านแล้วโยดา“เมี๊ยว” เฮงอุ้มโยดาขึ้นมามอง ดวงตากลมโตของเจ้าเมี้ยวจ้องตอบ“น่ารักจัง ไปอยู่ด้วยกันไหม ฉันกำลังเหงาๆพอดีเลย”“เมี๊ยวๆ ๆ” เจ้าแมวส้มท่าทีกวนประสาทแต่ดวงตาบ๋องแบ็วส่งเสียงร้องตอบรับคำเชิญของเฮง"นายชวนฉันเองนะ ความหฤหรรษ์กำลังจะเริ่มขึ้นฉันสัญญาเลยสำหรับนายคนคุ้นเคยกันมาก่อนฉันจะกัดเบาๆเอ๊ยไม่ใช่ฉันจะหาคนที่น่ารักที

  • หากดาวดวงนั้นคือเธอ   บทสรุป2

    “จรรยาบรรณแพทย์ไปไหนหมดค่ะ”“แพทย์ก็คนนะคุณ ผมก็มีอารมณ์เหมือนกันไม่ใช่พระอิฐพระปูน 555ไม่อย่างนั้นจะมีเมียได้เหรอ” มิราทุบอกเบาๆ หัสนัยจับมือบางสบตาส่งสายตากรุ้มกริ่ม“อีกไม่กี่วันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว จะเอาสินสอดเท่าไหร่ ผมรอไม่ไหวแล้ว” มิราก้มหน้ามองแผงอกกว้าง“ถือว่าเป็นคำขอแต่งงานหรือเปล่า” หัสนัย คุกเข่าลงกับพื้นยื่นส่งแหวนเพชรน้ำงาม ให้กับมิรา“แต่งงานกับผมนะครับมิรา ....ผมรักคุณ....” เสียงสะท้อนว่า...รักคุณ...ดังก้องเข้าไปในหัวใจของมิรา หรือว่าเธอคิดไปเองมิรายิ้มทั้งน้ำตา“ค่ะพี่หาด” หัสนัยยืนขึ้นจุมพิตที่หน้าผากเบาๆ เมื่อมิรารับแหวนมากำไว้“พรสุดาเปิดประตูเข้ามาพร้อมเฮง ที่ใบหน้าเศร้าสร้อย“เซอร์ไฟร์ส ดีใจด้วยนะมิรา” พรสุดา ถลาเข้าขอดูแหวน เฮงจับมือหัสนัยเขย่าเบาๆ เป็นการแสดงความดีใจ โยดาเข้ามาทีหลัง สวมกอดหัสนัยแทนคำดีใจ“นายมังกรคงดีใจที่นายทำสำเร็จหลังจากที่เขาพยายามอย่างหนัก” โยดาเผลอพูดขึ้นทำเอามิราและหัสนัยมองหน้ากัน โยดารู้ว่าตัวเองพูดผิด จึงแกล้งพูดกลบเกลื่อน“อ๋อ...อย่ามองหน้าผมอย่างนั้นสิ ผมหมายความว่า เขาพยายามจะจีบคุณมิราแต่ไม่สำเร็จ แต่คุณหัสนัย ก็ทำให้

  • หากดาวดวงนั้นคือเธอ   บทสรุป

    ห้องผ่าตัดถูกเตรียมอย่างเร่งด่วน มิราชีพจรเต้นช้าลง ในฝันมิราเห็นมังกรยืนอยู่ด้วยชุดสีขาวสะอาดตา โบกมือลาเธอพร้อมรอยยิ้มยียวน เหมือนที่เคยเห็นเป็นประจำ มิราเผลออมยิ้มรู้สึกเป็นสุขเมื่อเห็นรอยยิ้มแบบนั้นของมังกรการผ่าตัดผ่านไปนานแสนนาน อาหารกลางวันที่หัสนัยไม่มีทางได้ออกจากห้องผ่าตัดมากินถูกนำมาส่งโดยเฮง และพรสุดาที่มาคอยอยู่เป็นเพื่อนคุยกับโยดาที่บัดนี้กลับเศร้าสร้อย พรสุดาพร่ำพูดขอบคุณมังกรและโยดาซ้ำๆ เกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ ทีมแพทย์สามารถนำอวัยวะของมังกรช่วยเหลือผู้ป่วยได้อีกสองสามรายในเวลาเดียวกัน (กุศลอันยิ่งใหญ่คือการบริจาคอวัยวะอย่างน้อยก็ต่อชีวิตให้ผู้อื่นแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนแต่เชื่อเถอะเขาจะไม่มีวันลืมคุณ)หัสนัยออกมาจากห้องผ่าตัด ใบหน้าอิดโรยโยดานั่งนิ่ง พรสุดากับเฮงวิ่งเข้าถามถึงอาการของมิราหัสนัยยิ้มแห้งๆ“ต้องรอดูก่อนว่าการตอบสนองจะเป็นอย่างไร และมีการติดเชื้ออย่างอื่นร่วมด้วยไหม ตอนนี้เธออยู่ในห้องปลอดเชื้อ พวกคุณยังเข้าไปเยี่ยมไม่ได้จนกว่าจะออกมาอยู่ห้อง ซีซียู” หัสนัยเดินเข้าไปหาโยดายื่นส่งมือเขาให้โยดาจับ โยดายื่นมือมาจับมือของหัสนัย“ขอบคุณจริงๆ ครับขอบคุณทั้ง

  • หากดาวดวงนั้นคือเธอ   เธอคือดวงใจ

    สังเกตสีหน้าของโยดาด้วยความเห็นใจ“แล้ว เมื่อไหร่เขาจะฟื้น”ถามไปทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีทางแล้ว“ผมบอกไม่ได้อาจจะหนึ่งชั่วโมง หนึ่งวัน หนึ่งเดือนหรือหลายปีหรืออาจไม่ฟื้นขึ้นมาเลย จำเป็นต้องรอปาฏิหาริย์” โยดาขมวดคิ้ว“แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป”น้ำเสียงเลื่อนลอย“ทางการแพทย์เราถือว่าผู้ที่สมองตายคือ ก้านสมองถูกทำลาย คือผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว อวัยวะส่วนอื่นๆ จะลดการทำงานลงและจะเสื่อมสภาพตอนนี้เราใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ทำให้หัวใจยังเต้นได้ประมาณ1-2วันหากนานกว่านี้หัวใจก็จะหยุดเต้น และต้องรอให้ญาติตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป”“คุณรู้สึกอะไรไหมคุณหัสนัย” โยดาถามยิ้มหยัน จะอยากฟังคำตอบอะไรจากพวกมนุษย์“ผม...รู้สึกใจหาย ไม่น่าเชื่อว่าทุกอย่างจะเลวร้ายกว่าที่คิดไว้ ผมเข้าใจความรู้สึกคุณดี ผมเสียใจที่คุณมังกรต้องมารับเคราะห์แทนมิรา มิราเองตอนนี้หัวใจของเธอก็มีปัญหา อายุเธออาจจะไม่ยืนยาวไปกว่านี้หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที”“หมายความว่าอย่างไร”“มิราหัวใจเธอมีปัญหาตั้งแต่กำเนิด ต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ดีที่ผมตรวจพบก่อนแต่น่าแปลกที่ไม่เคยเห็นเธอมีอาการอะไรมาก่อนเลย จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุครั้

  • หากดาวดวงนั้นคือเธอ   ดอกบานไม่รู้โรย

    หัสนัยประคองมิรานั่งกึ่งนอนอยู่ที่เบาะหลัง ส่วนมังกรเบาะหน้าถูกปรับเอนเลือดท่วมตัว โยดาขับรถเร็วปานจะเหาะแต่หัสนัยกับคิดว่ามันช้าเหลือเกินรถแล่นมายังดรงพยาบาลประจำจังหวัด จอดหน้าห้องฉุกเฉินบุรุษพยาบาลเข็นรถเข็นมาแต่ช้ากว่าหัสนัยที่อุ้มมิราเข้าไปข้างในห้องพร้อมกับ บอกพยาบาลเสียงดังลั่น“ผมเป็นหมอ” พยาบาลรีบเตรียมอุปกรณ์ให้กับหัสนัย มังกรถูกเข็นเข้ามาบ้างคราวนี้เองที่โยดาสีหน้าเป็นกังวล เผลอยกมือขึ้นไหว้“ท่านพ่อ อย่าทำให้เจ้ามังกรต้องจากไปอย่างนี้เลย ลูกยังไม่ได้บอกลาและเขาเองก็ยังไม่ได้บอกลาสาวน้อยในดวงใจ” โยดาลงทุนขอร้องต่อพระพรหมหันหน้าไปทางศาลพระพรหมในโรงพยาบาล ใบหน้าเป็นกังวลไม่สามารถปิดบังได้ก็มังกรไม่เคยเป้นแบบนี้สักทีกี่ปีที่เคยพบกันไม่เคยเจ็บไม่เคยตาย โยดาเพิ่งจะรู้ในตอนนี้เองว่าใจหายแค่ไหนหากมังกรจะจากไปจริงๆหมอวิ่งวุ่นเมื่อมังกรถูกเข็นเข้าไปในห้องโยดาเริ่มวิตก เพราะปกติเคยเห็นแต่ว่าหากมังกรมีแผล แผลของเขาจะหายเองในเวลาไม่กี่อึดใจ หรือว่าครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งเขาโดนหนักไปหน่อยสักพัก หมอออกมาบอกกับโยดาว่ามังกรสมองกระทบกระเทือนอย่างแรง ทำให้สมองตาย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใ

  • หากดาวดวงนั้นคือเธอ   ดอกปีบร่วงหล่น

    บัดนี้เด็กหญิงตัวน้อยอยู่ใกล้เกินกว่าใกล้ แต่มิราจะมีใจให้เขาเหมือนที่เขาเฝ้าฝันถึงเธอตลอดเวลา15ปีที่ผ่านมาไหมหัสนัยขับรถห่างตัวเมืองมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าสู่เขตจังหวัดหนึ่ง ที่สองข้างทางเริ่มร่มรื่น มิรามองนู้นมองนี่“ชลบุรี คุณหัสนัยมาทำไมที่นี่ค่ะ”“บ้านเกิดผมเลย” รถเลี้ยวเข้าสู่ตัวบ้านหลังใหญ่ร่มรื่น ตัวบ้านแม้จะเก่าแต่ทว่าถูกดูแลอย่างดี มิรามองบ้านสองหลังที่ติดกันบ้านของมิราอยู่ทางซ้ายมือแต่หัสนัยเลี้ยวรถเข้าบ้านหลังทางขวามือ รั้วชาฮกเกี้ยนที่ทำเป็นรั้วรายรอบกั้นบ้านสองหลังถูกตัดแต่งจนเป็นระเบียบ มิราจำได้ดีด้วยอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่เล็ก ตั้งแต่พ่อแม่ตายไปมิราก็ย้ายออกจากที่นี่ไปอาศัยอยู่หอของมหาลัยอาศัยเงินจากการขายบ้านเก็บเป็นทุนรอนเปิดร้านขายดอกไม้และเรียนมหาลัย เมื่อเรียนจบและก็ไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลย บ้านถูกขายให้เพื่อนสนิทของคุณพ่อของมิรา ที่เอ่ยปากกับมิราในวัย18ว่าหากต้องการบ้านคืนก็แค่ให้นำเงินมาคืนเท่านั้น อย่าถือว่าเป็นการชื้อขายแต่บ้านยังคงเป็นของมิราอยู่เพราะไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ใดใดทั้งสิ้น“ถึงแล้ว ....บ้านของมิราอยู่ทางซ้าย” หัสนัยบอกมิรามิราหันมองหัสนัยอย่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status