ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด แกร๊ก
"เตอร์ เสร็จรึยังจะสายแล้วนะ" เพราะวันนี้มีเรียนช่วงเช้า และเหมือนทุกวันที่ฉันต้องมาตามเขาไปเรียนพร้อมกัน "ยังไม่เสร็จ มินช่วยเตอร์ทีซิ" เขาเดินออกมาจากห้องน้ำมองฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ แต่ตาของฉันดันไปหยุดที่แผงอกแกร่งแถมเปลือยเปล่ามีหยดน้ำเกราะ ซิกแพคแน่นๆ นั่นอีก ทั้งตัวของเขาเวลานี้มีเพียงผ้าขนหนูที่ผูกเอวไว้อย่างหมิ่นเหม่ ทั้งๆ ที่ฉันควรจะชินกับภาพนี้ที่เห็นเกือบทุกวัน ทั้งๆ ที่เขาเป็นเพื่อนสนิทของฉัน แต่ใจฉันดันสั่นไหว หน้าอดร้อนผ่าวไม่ได้เลย "ช่... ช่วยอะไร" "อืมมมม มินอยากช่วยอะไรละ หึ" พอเห็นแก้มแดงๆ ของยัยซื่อบื่อ ผมก็อดจะก้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ ไม่ได้ แค่อยากจะแกล้งเธอสักหน่อย "ถอยเลยเตอร์ มา... มินเป่าผมให้" "หึ" "มินทำแซนวิชมาเผื่อ กินในรถแล้วกันเนอะ" "ในรถเหรอ เตอร์ไม่ติดนะ" "เตอร์!!" "ครับผม" ยัยซื่อบื่อจะรู้มั๊ยว่าเสียงดุของเธอนั้นมันเหมือนเสียงลูกแมวที่กำลังขู่แค่ไหน... "โหยยย อาจารย์โหดชะมัดเลย" เสียงและท่าทางงอแงของมายเกิดขึ้นหลังจากจบคลาส เมื่อความเครียดเข้ามา ร่างกายก็ต้องการปะทะของหวาน "มินนี่ ชาเย็นตัดขาต้องเข้าฉันละนะ" "ได้สิ ฉันยกน้ำตาลให้แกกับลลิลหมดร้านเลย เตอร์ มินไปกับมายและลลิลก็ได้นะ" ประโยคแรกฉันพูดเล่นกับยัยมายลลิล ก่อนที่จะหันไปพูดกับแก๊งค์หนุ่มหล่อที่คอยเดินตามหลัง "อืม เดี๋ยวตามไป" ผมที่กำลังแยกกับพวกสาวๆ ต้องหยุดชะงัก คิ้วผมผูกเป็นปมอย่างไม่มีสาเหตุสายตาเหลือบไปเห็นผู้ชายที่ชนมินเมื่อวันก่อนกำลังเดินเข้ามาหายัยซื่อบื่อที่กำลังยิ้มร่าเริงอยู่นั่น "มินใช่มั๊ยครับ เรากันต์นะ" ฉันว่าฉันคุ้นหน้ากันต์นะ แต่ฉันจำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน ยัยเพื่อนตัวแสบทั้งสองคนก็ยืนม้วนเขินไปมาให้กับความหล่อใสของผู้ชายตรงหน้าอยู่ข้างฉัน "มิน เตอร์เปลี่ยนใจแล้ว เตอร์จะไปพร้อมมินเลย" อีกแล้ว... มาอีกแล้วเสียงเข้มยิ่งกว่าอเมริกาโน่ไม่ใส่น้ำตาล... "อื้อออ ไอ้บ้าเตอร์" ฉันร้องดังลั่นไม่สนสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมา จะเพราะใคร มีเขาคนเดียวนั่นแหละที่กล้าเอามือหนามาบีบปากฉัน "ยิ้มอยู่ได้ น่ารำคาญ" "เอ้า" "กลับคอนโดเลยนะ ไม่ต้องเข้าร้าน" เขาพูดอย่างเอาแต่ใจ "ได้ไงเตอร์ มินนัดมายกับลลิลไว้นะ" "ให้ไอ้สองคนนั้นไปเป็นเพื่อน" ทั้งๆที่ เขาขับรถสปอร์ตหรู แต่ทำไมวันนี้ฉันรู้สึกว่าเสียงแอร์ดังมาก ไม่มีเสียงเพลงคลอเบาเบา ไม่มีคำพูดกวนกวนออกมาจากปากเขาเหมือนเช่นทุกวัน มีแต่เขาที่ทำหน้ายักษ์เหยียบคันเร่งสุดแรง เพราะความบังเอิญตอนปีหนึ่งที่เราสองคนต้องทำรายงานคู่กัน ทำให้ฉันกับเขาเริ่มสนิทจนรวมกลุ่มสามสาวสวยของฉันกับแก๊งค์หนุ่มหล่อของเขา เขาเหมือนพลังงานบางอย่าง ไม่สิ!เหมือนเงาของฉันมากกว่า "เตอร์กินผัดกระเพรามั๊ยมินทำให้" นี่แหละหน้าที่ฉัน เป็นแม่ครัวให้เขาตอบแทนที่เขาคอยขับรถรับส่งฉัน "อืม" "enjoy na tutor ^____^" ผมเดินหลบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยชุดสบายๆ ออกมาก็สะดุดกับโน้ตที่เธอทิ้งไว้ กระเพราไข่ดาวหน้ายิ้ม "หึ" เมนูโปรดเวลาที่ผมรู้สึกหงุดหงิด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด แกร๊ก "อ้าว เตอร์" เธอหันมายิ้มให้ผมที่เปิดประตูห้องเธอเข้ามา รอยยิ้มนั่นหน่ะ ควรเป็นของผมที่เป็นเพื่อนสนิทเธอเท่านั้น ผมล้มตัวลงนอนบนโซฟาแล้วหนุนตักเธอก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเล่น ส่วนเธอก็นั่งทำงานส่งอาจารย์อยู่เงียบๆ ตักของยัยซื่อบื่อมันนุ่มกว่าหมอนผมซะอีกหลังจากวันนั้นที่เขาขอฉันแต่งงาน งานแต่งของเราสองคนก็ถูกจัดขึ้นหลังจากนั้นสองเดือนทันทีที่เราฝึกงานเสร็จ เราเลือกหนึ่งในโรงแรมของกายเป็นสถานที่จัดงาน เชิญแขกและญาติผู้ใหญ่ของสองครอบครัวมาร่วมงานเกือบพันคน มีหนูมายกับลลิลเป็นเพื่อนเจ้าสาวแสนสวยของฉัน ส่วนเขาก็มีสองหนุ่มอย่างนายกับกายเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว วันนั้นเป็นวันที่เราสองคนมีความสุขมากอีกวันหนึ่ง เพราะนอกจากจะเป็นวันแต่งงานของเราสองคนแล้วยังเป็นวันรวมตัวของคนที่เรารัก และเป็นวันที่ป๊า มามี๊ คุณพ่อ คุณแม่ ของเรายิ้มกว้างกว่าวันไหนๆแต่เพราะว่าเตอร์ลางานได้แค่ห้าวันเพราะต้องกลับมาเตรียมงานขยายสาขาในต่างประเทศ และเขาก็อยากจะพาฉันไปแก้ตัวที่ตอนครบรอบหนึ่งเดือนพาฉันไปแบบกระทันหันด้วย เราเลยตัดสินใจไปฮันนีมูนกันที่ญี่ปุ่น และการแช่ออนเซนมองดูน้องฟูจิ คือหนึ่งในแพลนของฉันกับเขา แต่ก็ต้องแอบลุ้นกันอีกทีว่าเราสองคนจะเป็นผู้โชคดีได้เห็นน้องฟูจิแบบคนอื่นหรือเปล่าและคำตอบก็คือ เราเป็นผู้โชคดี เหมือนอย่างในตอนนี้ที่ฉันกำลังนอนพิงอกแกร่งอยู่ในบ่อออนเซนส่วนตัวมองดูน้องฟูจิที่ออกมาให้เรายลโฉมโดยไม่มีเมฆมาปิดบังเลยสักนิด... "มิน เตอร์อยากมีเบบี๋"
"ถ่ายงานให้เตอร์ทั้งวัน เหนื่อยมั้ย""ไม่เหนื่อยนะ มินสนุก""แต่...""ขอค่าตัวด้วยค่ะบอส""ค่าตัวแพง ผมไม่มีจ่ายหรอกครับ""โห นี่มินทำงานฟรีหรอเนี่ย""เสียใจจัง""หึ" "เตอร์ขอจ่ายค่าจ้างเป็นดินเนอร์มื้อพิเศษแทนได้มั้ย""อืม..." "นี่ถ้าไม่ใช่เตอร์ มินไม่ยอมหรอกนะ""ขอบคุณครับผม"ฟอดผมนั่งรอเธอที่กำลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่ผมออกแบบและสั่งตัดมาให้เธอโดยเฉพาะ เดรสสั้นเกาะอกขนนกสีฟ้าพาสเทลพร้อมรองเท้าแก้วส้นสูงรัดข้อ ที่ดูเข้ากันกับผมในเสื้อเชิ้ตคอจีนสีฟ้าพาสเทลเฉดเดียวกัน เพื่อพาไปดินเนอร์ที่โรงแรมหรูบนตึกที่สูงที่สุดของประเทศซึ่งผมขอปิดโซนเพื่อเธอโดยเฉพาะ พอเสียงประตูเปิดขึ้น พร้อมกับการปรากฎตัวของร่างบางน่าทะนุถนอมที่กำลังยืนส่งยิ้มให้ผม ใบหน้าของเธอถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางบางเบาเผยผิวใสสุขภาพดี ปากอวบอิ่มถูกทาด้วยลิปสติกสีชมพูพีช เส้นผมสีน้ำตาลคาราเมลตรงสวยดูมีน้ำหนักปกคลุมไหล่มนเล็กน้อยราวกับไม่ได้ตั้งใจ เสริมความน่ารักด้วยเดรสสีโปรดของเธอ ผมไม่รอช้าที่จะเดินไปใส่สร้อยทองคำขาวมีจี้เป็นไข่มุกเม็ดเล็กที่ผมหยิบเตรียมมาถือไว้ที่ลำคอขาวของเธอจากด้านหลัง พร้อมกับจุมพิตลงไหล่
เช้าวันแรกของการฝึกงาน ฉันต้องตื่นเช้ากว่าปกติ เพื่อเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ อย่างแซนวิชทูน่าสลัดและชงกาแฟสำหรับเราสองคนไว้กินกันในรถเหมือนตอนที่ไปมหาวิทยาลัยฯ ก่อนจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนักศึกษาที่ดูเรียบร้อยเพราะไม่อยากให้ใครว่าได้ทีหลังว่าไม่เหมาะสมเดี๋ยวจะกระทบไปถึงเขา"มิน เสร็จยัง""จะเสร็จแล้ว ขอห้านาที""ไม่ต้องสวยมากหรอก""เตอร์ไม่อยากให้ใครมอง""เอ้า""มีแฟนสวยเตอร์ต้องดีใจสิ""เตอร์ดีใจ แต่อยากเก็บไว้คนเดียว""ถ้าแต่งงาน เตอร์จะให้มินอยู่แต่บ้าน""ไม่ได้สิ ร้านมินละ""มินตอบตกลงแล้วนะ""ห๊ะ""หึ" ฟอดฉันหลงกลเขาอีกแล้วสินะ พอดูเรียบร้อยแล้วว่าไม่ได้ลืมอะไร เขาก็จูงมือฉันและแย่งกระเป๋าของฉันไปสะพายไว้เองจนฉันแอบคิดว่าวันเกิดเขาปีหน้าฉันจะซื้อให้เขาสักใบนึงน่าจะดี โชคดีที่เช้านี้ถนนค่อนข้างโล่งรถไม่ค่อยติด ทำให้เราสองคนมาถึงก่อนเวลาอย่างที่ตั้งใจกันไว้ เพราะถึงเขาจะเป็นลูกเจ้าของบริษัทและเป็นรองประธานบริษัท แต่เขาก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพนักงานและไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่โดนว่าแล้วพาลมาถึงฉันด้วย แฟนฉันน่ารักที่สุดเลย... พอถึงเวลาเริ่มงานพี่ฝ่ายบุคคลก็มาพาฉันไปส่งที
"ทำไมมินเมื่อยจังเลย""ควรเมื่อยอยู่นะ" "หึ" "หืม?" "ก็มินเล่นไม่พัก""..." "ถ้ารู้ว่าเมาแล้วมินขยันขนาดนี้" "เตอร์จะซื้อมาไว้ที่ห้องสักลังนึง"เพี๊ยะ! มือเล็กของฉันฟาดลงไปที่ต้นแขนแกร่งทันที ก่อนจะมุดตัวลงไปในผ้าห่มปิดใบหน้าที่แดงเป็นมะเขือเทศเพราะความเขินอาย จะไม่ให้ฉันอายได้ยังไง ดูเขาพูดซิ ภาพเมื่อคืนที่ฉันทำลอยมาเป็นฉากฉากเลย แล้วเขาก็พูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยพร้อมกับรอยยิ้มกรุ่มกริ่มที่ดูมีความสุขจนน่าหมันไส้อีก แต่อยู่อยู่ฉันก็รู้สึกเหมือนว่าฉันคิดผิด เพราะภายใต้ผ้าห่มสีฟ้าผืนใหญ่มันมีอาวุธร้ายพร้อมรบซ่อนอยู่ ทั้งเขาและฉันตอนนี้ไม่มีเสื้อผ้าปกคลุมกันเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ให้ตายเถอะ! จะหนีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว... "ยัยมิน แกจะไม่ไปฝึกงานที่บริษัทฉันจริงๆ หรอ""ฉันอยากให้แกไปด้วยจะได้ครบแก๊งค์""นั่นสิ ขาดขาเม้าท์ไปหนึ่ง เหงาแย่""ฉันก็อยากไปกับพวกแก""แต่เตอร์อยากให้ฉันไปช่วยทำพีอาร์ที่บริษัทเขา""พวกแกได้หยุดเสาร์อาทิตย์มั้ย""นัดกันไปช๊อปหรือไปกินของอร่อยกันก็ได้""หรือมาเจอกันที่นี่""อยู่ใกล้กันแค่นี่เอง"สองสาวแวะมาหาฉันที่คาเฟ่มินิมินนี่แหล่งกบดานหลักของพวกฉันเพราะเครื่องดื่ม
สุดท้ายฉันก็ต้องเอาเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำของเขามาใส่ทับอีกที เพื่อปกปิดรอยจางจางและเปลี่ยนลุคให้ดูเท่ห์มากขึ้น ส่วนเขาก็ฉันเสื้อเชิ้ตตัวที่ฉันรีดไว้ให้ปลดกระดุมตั้งสามเม็ดโชว์กล้ามหน้าอกแน่นแน่น ทำฉันมองตาขวางจนต้องเอาคืนโดยการโน้มคอเขาลงมาแล้วกัดเข้าที่หน้าอกขาวขาวของเขาจนเป็นรอยฟัน ซึ่งเขาก็ไม่กล้าบ่นอะไรกลับดูชอบใจด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อฉันไม่ได้เกิดเขาก็ต้องไม่ได้เกิดเหมือนกัน วินวิน"โห ลลิลแซ่บมากกก""แต่หนูมาย แกเหมือนไปวัดนะ""ผิดปกติมาก""ปกติสุดสุด ฉันแค่อยากเปลี่ยนลุคเป็นสาวเรียบร้อยบ้าง"พอมาถึงร้านเหล้าของเตอร์ เขาก็ขอแวะไปดูความเรียบร้อยในร้านแปปนึง ให้ฉันเดินมาหาเพื่อนๆ ที่โต๊ะวีไอพีที่ประจำของพวกเรา ซึ่งพอเดินมาถึงหนุ่มๆ ก็สั่งเครื่องดื่มพร้อมกับแกล้มรอไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนสองสาววันนี้ฉันขอมอบมงให้ลลิลเป็นสาวแซ่บที่สุด นางมาในชุดเกาะอกหนังสีดำกับกางเกงหนังสั้นสีเดียวกัน ดูมั่นและเปรี้ยวสุดสุด ผิดกับยัยหนูมายที่ปกติจะต้องเป็นสาวแซ่บแต่กลับใส่เสื้อฮู้ดสีดำตัวโคร่งกับกางเกงยีนส์ขาสั้นสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาวจนดูแปลกตาไปเลย ส่วนกายก็แต่งตัวคล้ายๆ เตอร์เป็นปกติ แต่ที่ดูไม่ค่อยปกต
และแล้ววันชี้ชะตาของพวกเราทั้งหกคนก็มาถึง ฉันรีบตื่นแต่เช้ามาทำอาหารเช้าง่ายๆ อย่างแซนวิชทูน่าแฮมใส่ผักสลัดกับมะเขือเทศเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้เขาพร้อมกับอเมริกาโน่เย็นแก้วโปรด และไม่ลืมที่จะทำแซนวิชใส่กล่องไปเผื่อเพื่อนอีกสี่คนด้วย เพื่อเป็นกำลังใจให้มีแรงพรีเซนต์และผ่านไปได้ด้วยดีจะได้ไปฉลองพร้อมกัน"เตอร์จะกินแซนวิชเลยมั้ย" "มินป้อน เตอร์จะได้ขับรถสะดวก""ใจดีจัง""อ้าปาก""อร่อย" "ไม่อยากแบ่งให้ไอ้นายกับไอ้กายกิน""ให้พวกมันไปหากินเอง""เอ้า ไม่ได้สิ""เพื่อนนะ" "หวงหมด"พอมาถึงมหาวิทยาลัยฯ ฉันกับเขาก็รีบเดินไปหาเพื่อนๆ ที่นั่งรอกันอยู่ตรงโต๊ะหินอ่อนมุมเดิมที่เป็นจุดนัดพบ โดยเขาที่สะพายกระเป๋าใส่แมคบุคกับเล่มรายงานทำหน้าที่ถือถุงอาหารเช้าของเพื่อนให้ ส่วนฉันก็ช่วยถือแก้วเก็บความเย็นที่ใส่กาแฟของเราสองคนไว้และรีบก้าวให้ทันเขา พอมาถึงเขาก็รีบแจกขนมให้เพื่อนสาวสองคนไม่ยอมหยิบไปให้สองหนุ่ม ฉันจึงต้องกดดันเขาด้วยสายตาอำมหิตของฉัน จนเขาชักสีหน้างอแงทำปากจิ๊จ๊ะแล้วก็ยอมแบ่งให้อีกสองหนุ่มโดนการโยนไปให้ดีที่นายกับกายรับไว้ทันไม่อย่างนั้นอดกินกันแน่ๆ ฉันจึงชี้นิ้วอย่างคาดโทษใส่เขาขอ