ระหว่างผู้ใหญ่ บางทีก็มีบางเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา......ครึ่งชั่วโมงต่อมา ลู่เจ๋อก็จอดรถของเขาไว้ที่ชั้นล่างของอพาร์ตเมนต์ฝนยังคงตกอยู่......ภายในรถก็เกิดความรู้สึกคลุมเครือขึ้นมายังไงซะ พวกเขาก็เคยเป็นสามีภรรยากัน ยังไงซะ พวกเขาก็เคยซื่อสัตย์ต่อกันมานับครั้งไม่ถ้วน และพวกเขาก็เคยทำเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ ด้วยกันมากมายสิ่งเหล่านั้น ล้วนเป็นความทรงจำที่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ลบไม่ออกเฉียวซุนพูดอย่างใจเย็น “ขอบคุณที่มาส่งฉันนะคะ ฉันต้องขอตัวก่อน! ”เธอกำลังจะปลดเข็มขัดนิรภัย แต่ลู่เจ๋อก็รั้งข้อมือของเธอเอาไว้ เธอกะพริบตาเบา ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความโกรธ “ลู่เจ๋อ ปล่อยมือ! ”เขาจ้องมองเธอ ดวงตาสีเข้มของเขาเต็มไปด้วยความหมายที่ไม่อาจอธิบายได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้วเท่านั้นที่จะเข้าใจมันเป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้าของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิงมีร่างกาย ก็ต้องมีจิตใจลมหายใจของเฉียวซุนก็รู้สึกสับสนขึ้นมา เธอพยายามดิ้นรนอีกครั้ง แต่กลับล้มเหลว ฝ่ามือของลู่เจ๋อค่อนข้างใหญ่ เขาคว้าข้อมือเล็ก ๆ ของเธอได้อย่างง่ายดายเขาไม่ได้บังคับดึงเข้ามาหาตัวเอง เขาแค่จับม
เมื่อได้ยินแบบนั้น เฉียวซุนก็รู้สึกเป็นทุกข์มากเธอถอดเสื้อคลุมออก แล้วนั่งข้างเจ้าหนูลู่เหยียน แตะศีรษะของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เบา ๆ แล้วถามไปว่า “งั้นเหยียนเหยียนกินยาอย่างเชื่อฟังรึเปล่า? ”ขณะที่เฉียวซุนพูด เธอก็โน้มตัวไปเปิดไฟตรงหัวเตียง แสงไฟก็สว่างขึ้นมาเจ้าหนูลู่เหยียนถูกฝังอยู่ตรงกลางผ้าห่มอย่างเปราะบาง มีใบหน้าที่ขาวสวย ผมและดวงตาสีดำมันดูสวยงามและละเอียดอ่อนมากเธอพูดเบา ๆ “แม่บุญธรรมป้อนหนูแล้วค่ะ! มันขมนิดหน่อย”เฉียวซุนรู้สึกเป็นทุกข์มาก เธอสัมผัสใบหน้าเล็ก ๆ ของเจ้าตัวน้อย และเกลี้ยกล่อมเธอเบา ๆ “เมื่อเหยียนเหยียนได้รับการผ่าตัดแล้ว เลือดกำเดาเธอก็จะไม่ไหลอีกต่อไป และเธอก็ไม่จำเป็นต้องกินยาอีก”เจ้าหนูลู่เหยียนพยักหน้าอย่างเชื่อฟังเธอนอนในอ้อมแขนแม่ แล้วพูดอย่างติดตลกว่า “แม่คะ......หนูคิดถึงพ่อ! คุณป้าที่บ้านบอกหนูว่าจะได้เจอพ่อเร็ว ๆ นี้แล้ว จริงเหรอคะ? คุณป้ายังบอกอีกว่า แม่กับพ่อจะมีน้องชายให้หนูด้วย”เฉียวซุนสะดุ้งไม่ช้าเธอก็ตระหนักได้ว่า ป้าของเธอน่าจะได้ยินสิ่งที่หมอพูดที่บ้าน แล้วเธอจึงบอกแบบนั้นกับเจ้าหนูลู่เหยียนเธอรู้สึกไม่มีความสุขนิดหน่อยเธอคิ
เป็นเวลานาน กลิ่นจาง ๆ ของฟีโรโมนผู้ชายก็ลอยคละคลุ้งอยู่ในห้องนอนแข็งแรงมากลู่เจ๋อหายใจหอบเล็กน้อย และหมุนตัวไปด้านข้าง หลังจากที่ร่างกายได้ปลดปล่อยออกมา เขากลับรู้สึกยังไม่พอใจใช่ เขายังไม่พอ!ร่างกายของเขารู้สึกว่างเปล่ามากขึ้นไปอีก เขาปรารถนาที่จะกอดเฉียวซุน ปรารถนาร่างกายที่สง่างามและละเอียดอ่อนของเธอ และปรารถนาที่จะได้รับความอบอุ่นจากเธอ พอคิดถึงเรื่องพวกนี้ ก็ทำให้ร่างกายของเขาเจ็บปวดขึ้นมา......หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เขาก็ลุกจากเตียง แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างตัว......เช้าวันรุ่งขึ้น เจ้าหนูลู่เหยียนก็มีเลือดกำเดาไหลออกมาอีกเฉียวซุนกังวลใจมาก เธอจึงพาไปที่โรงพยาบาลเพื่อพบกับแพทย์ที่คุ้นเคย อีกฝ่ายเฮ่อจี้ถังเป็นคนแนะนำมา ทั้งทักษะทางการแพทย์และอุปนิสัยของเขาต่างก็เป็นสิ่งที่ล้ำค่า...... หลังจากที่เจ้าหนูลู่เหยียนกลับมาที่เมือง B ก็เป็นเธอที่ช้วยรักษาให้ตลอดหลังจากที่หมอโจวตรวจเช็คดูแล้ว ก็พูดออกมาเบา ๆ ว่า “หากสามารถทำการผ่าตัดได้ ก็ควรที่จะรีบผ่าตัดให้เร็วที่สุดจะดีกว่า”ขณะที่หมอพูด เธอก็ลูบเจ้าหนูลู่เหยียนไปด้วย ตอนนี้ในใจรู้สึกเป็นทุกข์มากเฉียวซุ
เจ้าหนูลู่เหยียนจำพ่อของเธอได้เด็กน้อยรู้สึกน้อยใจ เพราะไม่มีพ่ออยู่ข้าง ๆ มานานมากแล้ว เดิมทีเธอควรจะกระโดดเข้าไปหาอย่างมีความสุข แต่ตอนนี้เธอกลับกอดขาแม่ของเธอเอาไว้เท่านั้นลู่เจ๋อจับแขนเล็ก ๆ ของเธอ แล้วค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาหาตัวเองสุดท้ายเขาก็อดไม่ได้ เขากอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนแน่น เขาได้กลิ่นหอมของเด็กอ่อน ๆ จากร่างกายของเธอ ในใจก็รู้สึกขมขื่นขึ้นมา......ในปีนั้น ตอนที่เธอจากไป เธอมีอายุแค่ไม่กี่เดือนเจ้าหนูลู่เหยียนถูกพ่อของเธอกอดไว้ในอ้อมแขน เธอรู้สึกเขินอายนิดหน่อยแต่เด็กเป็นสิ่งที่อ่อนไหวง่ายที่สุดดูเหมือนพ่อกำลังร้องไห้......เจ้าหนูลู่เหยียนจับที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของลู่เจ๋อ ดวงตาสีดำโตของเธอเป็นประกาย เธอเป่าไปที่ดวงตาของลู่เจ๋อ “ตาของพ่อเจ็บ หนูจะเป่าให้นะคะ เดี๋ยวพ่อก็จะไม่เจ็บแล้ว! ”ลู่เจ๋อลูบที่แขนและขาเล็ก ๆ ของเธอไม่ได้เจอกันนานมากขนาดนั้น เขาครุ่นคิดหนักมาก ในเวลานี้ ไม่ว่าจะสัมผัสเธอมากเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ เขาแทบจะยัดเจ้าหนูลู่เหยียนใส่กระเป๋าของเขาเอาไว้......หลังจากนั้นไม่นาน ลู่เจ๋อก็ถามขึ้นมาเบา ๆ “ลูกรัก จะมันจะทำให้หายเจ็บได้ยังไง? ”เจ้าหนูลู่เ
แม้ว่าจะเบามาก แต่กลับแฝงไปด้วยความแข็งแกร่งแบบผู้ชาย!เฉียวซุนอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น เธอก็มองเห็นความหมายอันลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ในดวงตาสีเข้มของเขา......สายตาที่พันกันของเขา ก็กลับทำให้หวนนึกถึงค่ำคืนเหล่านั้น เขาคว้าข้อมือบาง ๆ ของเธอ แล้วกดทับลงกับหมอนด้วยความป่าเถื่อนความทรงจำระหว่างพวกเขา นอกจากความเจ็บปวดแล้ว ก็ดูเหมือนจะยังมีเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขากับหมอนอีกด้วยเฉียวซุนยิ้มด้วยสีหน้าเรียบเฉยเธอพยายามดิ้น และพูดลดเสียงของเธอลง “ลู่เจ๋อ...... ”เขายังคงจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอ และพูดด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ “ผมรู้ว่าผมล้ำเส้นมากเกินไป! แต่ผมก็อดไม่ได้ เฉียวซุน ผมกลัวว่าคุณจะคบกับเขา”ลู่เจ๋อรู้ว่าเธออาจจะไม่พอใจ เลยไม่ถามอะไรออกไปอีก จากนั้นเขาก็ไปส่งพวกเธออย่างสง่าผ่าเผยเสิ่นชิงอุ้มเด็กขึ้นรถไปก่อนเฉียวซุนที่อยู่ข้างหลังก็กำลังจะขึ้นรถ แล้วลู่เจ๋อก็พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ตอนเย็นผมจะไปเยี่ยมเธอ”เฉียวซุนลังเลนิดหน่อยลู่เจ๋อก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว แต่เสียงของเขาอ่อนโยนมาก “ผมแค่ไปเยี่ยมเธอเท่านั้น ไม่ได้เหรอ? เฉียวซุน หลายปีมานี้ผมคิ
คำพูดของเขา ทำให้ดวงตาของเฉียวซุนเปียกชื้นเธอปิดประตู ขยับผ้าคลุมไหล่เบา ๆ แล้วพูดพึมพำออกมา “จะพูดถึงเรื่องที่ไม่มีความหมายพวกนั้นทำไม! ลู่เจ๋อ เรื่องพวกนั้นมันเป็นอดีตไปแล้ว”จู่ ๆ ลู่เจ๋อก็ถามเธอออกไปว่า “แล้วเรื่องอะไรที่คุณคิดว่ามีความหมายบ้างล่ะ? ”เขาวางของเล่นของเจ้าหนูลู่เหยียนเอาไว้ข้าง ๆ ขณะที่เฉียวซุนยังไม่ทันได้ตอบสนอง ไม่ทันระวังเขาก็ดึงเธอเข้ามาทางเข้าแสงสว่างเจิดจ้า ส่องใบหน้าที่สวยงามของเธอลู่เจ๋อจ้องมองใบหน้าเล็ก ๆ ของเธออย่างลึกซึ้งเป็นเวลานาน หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หมุดตัวของเธอกลับ และยื่นแขนของเขาเข้าไปโอบรอบเอวที่เรียบเล็กของเธอจากทางด้านหลัง และลูบไล้ตัวเธอช้า ๆ สองสามครั้งเสียงของเฉียวซุนก็ดังขึ้น “ลู่เจ๋อ! ”ร่างกายของเธอสั่นนิดหน่อย แต่เธอกลับไม่ได้ผลักเขาออก แน่นอนว่าลู่เจ๋อก็รู้เหตุผลอยู่แล้ว คราวนี้ที่เธอกลับมาก็เพื่อนอนกับเขา......เขาไม่ยอมให้เธอเห็นสีหน้าของเขาเขาซบหลังของเธอ แล้วถามด้วยเสียงต่ำเหมือนคู่รักทั่วไป “ครั้งนี้คุณจะกลับมานานแค่ไหน? ”“สองสามเดือน! เปิดร้านสองแห่งใกล้ ๆ แล้วฉันก็จะกลับเมืองเซียง”เสียงของเฉียวซุนสั่นเทา ทุกคำพ
เฉียวซุนสะอื้นในลำคอเธอพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ......พอลู่เจ๋อเห็นเธอเป็นแบบนั้น ในใจก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงอีกต่อไป เขาแตะหน้าผากของเธอเบา ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เสี่ยวซุน ตราบใดที่คุณเต็มใจ พวกเราก็สามารถกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้! ให้โอกาสผมได้ดูแลคุณนะ ดูแลเจ้าหนูลู่เหยียน......ได้ไหม? ”เขาโอนอ่อนให้เธออย่างมาก ราวกับว่าการจากไปโดยไม่บอกไม่กล่าวเป็นแค่ฝันตื่นหนึ่งเท่านั้นขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่เจ้าหนูลู่เหยียนก็กลับตื่นขึ้นมา “แม่! ”เด็กน้อยสวมชุดนอนเต็มตัว กอดหมอนหนึ่งใบ แล้ววิ่งออกมาด้วยเท้าเปล่า โชคดีที่ในตัวอพาร์ทเมนท์ยังคงอบอุ่นราวกับฤดูใบไม้ผลิอยู่ ไม่ได้หนาวขนาดนั้นพอเธอเห็นพ่อกับแม่กำลังกอดกันอยู่เธอก็กะพริบตารัว ๆ หัวโต ๆ กับลำตัวเล็ก ๆ ของเธอก็ดูน่ารักเป็นพิเศษลู่เจ๋อก้มศีรษะลง และมองไปยังเฉียวซุน “เรื่องของพวกเรา ไว้ค่อยคุยกันทีหลังเถอะ! ”ทันทีที่เขาปล่อยเธอ ก็เดินเข้าไปอุ้มเจ้าหนูลู่เหยียนขึ้นมาตอนนี้ก็เป็นเวลากว่าประมาณสองทุ่มแล้ว เขาเดาว่าเจ้าหนูลู่เหยียนน่าจะหิว เขาจึงถามออกไปเบา ๆ “อยากกินอะไรหน่อยไหม? พ่อทำให้ทานดีไหม?
ต่อหน้าลูก เฉียวซุนไม่สามารถตอบคำถามออกมาได้ลู่เจ๋อปล่อยเธอไป และพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “คุณอย่าพูดนะว่ามันเป็นแค่ความรักระหว่างชายหญิงเท่านั้น! เฉียวซุน คุณไม่ได้เปิดกว้างขนาดนั้น! ”เฉียวซุนพูดอย่างใจเย็น “ไม่ว่าใครก็เปลี่ยนไปได้ทั้งนั้น! ”ลู่เจ๋อเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างเงียบ ๆทันใดนั้น เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้เฉียวซุนเองก็อายุ 29 ปีแล้ว เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ผู้ชายมีความต้องการทางกายภาพยังไง ผู้หญิงก็มีเช่นกันนอกจากนี้ เธอเองก็โสดมาหลายปีแล้วด้วยพอเหงาขึ้นมา แล้วมีผู้ชายคอยใส่ใจอยู่ข้าง ๆ มันก็ไม่แปลกที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นลู่เจ๋อไม่อยากที่จะคิดเรื่องนี้อีกความใจกล้าของผู้ชายก็ไม่อนุญาตให้เขาถามออกไป จากนั้นบรรยากาศก็เย็นลงทันที เขาดูแลเจ้าหนูลู่เหยียนอย่างอ่อนโยน เฉียวซุนนั่งลงบนโซฟา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเคลียร์งานของเธอTHEONE ได้เปิดร้านค้ามากกว่า 200 แห่งทั่วในประเทศเฉียวซุนเองก็ยุ่งมากเช่นกันในเวลานี้ เจ้าหนูลู่เหยียนเงยหน้าขึ้นแล้วถามลู่เจ๋อ “พ่อคะ การเปิดกว้างคืออะไรเหรอคะ? ”......หลังจากทานอาหารเสร็จ ลู่เจ๋อก็ยังคงอยู่กับเจ้าหนูลู่เหยียนอีกพักใหญ่