ณ เขาประจิมควันกำยานหอมลอยกรุ่น อบอวลไปทั่วบริเวณแกร๊ก!หมากในมือของหลี่หลงหลินค่อยๆ วางลงบนกระดานเสียงหมากกระทบกับกระดานดังกังวานครู่หนึ่ง หนิงเซิงซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามหลี่หลงหลินเอ่ยขึ้นช้าๆ “องค์รัชทายาท ข้าแพ้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”หนิงเซิงนับนิ้วดู ช่วงหลังมานี้ เขาไม่เคยได้เปรียบในกระดานหมากเลยสักครั้งไม่ต้องพูดถึงการเอาชนะหลี่หลงหลินฝีมือการเดินหมากขององค์รัชทายาทพัฒนาขึ้นมากหนิงเซิงประสานมือคารวะหลี่หลงหลินหลี่หลงหลินยิ้มบางเขาชอบเล่นหมากรุกกับหนิงเซิงไม่ใช่เพราะว่ามักจะชนะเขาบ่อยๆแต่เป็นเพราะเวลาที่ได้ประลองหมากรุกกับหนิงเซิง จิตใจของเขาจะสงบลงช่วงนี้ราชสำนักมีเรื่องวุ่นวายมากมาย เขาจึงหันมาประลองหมากรุกกับหนิงเซิงบ่อยขึ้นหนิงเซิงบิดขี้เกียจ แล้วกล่าวว่า “รัชทายาท ใกล้วันอภิเษกสมรสของท่านแล้ว เหตุใดท่านถึงยังทรงสงบนิ่งได้? ไม่ทรงร้อนพระทัยเลยหรือ”หลี่หลงหลินยิ้มบาง ราวกับไม่ใส่ใจ “จะร้อนใจไปทำไม? หรือกลัวว่าภรรยาจะหนีตามชายอื่นไป?”“ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ข้าหวงแหนที่สุดในตอนนี้ คือช่วงเวลาปัจจุบัน”หนิงเซิงมองออกว่า หลี่หลงหลินชอบประลองหมากรุกกับตน“ตอนน
หลี่หลงหลินประหลาดใจเล็กน้อย ถามว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านมาได้อย่างไร?”ลั่วอวี้จู๋หอบหายใจ หน้าแดงก่ำ กล่าวว่า “องค์รัชทายาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ”หลี่หลงหลินยื่นถ้วยชาให้ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ “พี่สะใภ้ใหญ่ มีเรื่องอันใดค่อยๆ พูดเถิด แม้ฟ้าจะถล่มลงมา ก็ยังมีข้ารับไว้”ลั่วอวี้จู๋กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “น้องเล็กเข้าวังไปแล้วเพคะ”“เข้าวัง?”หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่เข้าใจ “เฟิ่งหลิงเข้าวังไปทำไม นางไม่เคยบอกข้ามาก่อน”ลั่วอวี้จู๋อธิบาย “เรื่องมันกะทันหัน ยังไม่ทันได้รายงานท่าน เป็นองค์หญิงใหญ่ส่งจดหมายเชิญนางเข้าวัง บอกว่าองค์ชายสามต้องการพบเฟิ่งหลิง”“เขาอยากจะใช้โอกาสที่เข้าเมืองหลวงครั้งนี้ มายุติความบาดหมางกับเฟิ่งหลิง เรื่องราวในอดีตให้แล้วกันไป”หลี่หลงหลินชะงักไปครู่หนึ่ง แววตาฉายแววสังหารใกล้วันอภิเษกสมรส เขาคาดการณ์ไว้แล้วว่า องค์หญิงใหญ่จะต้องวางแผนร้ายอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่คิดว่าครั้งนี้จะพุ่งเป้ามาที่ซูเฟิ่งหลิง!เรื่องผิดปกติเช่นนี้ ย่อมมีลับลมคมใน!องค์หญิงใหญ่มาดีเหมือนพังพอนมาอวยพรวันปีใหม่ไก่ ไม่น่าไว้ใจ!แถมยังมีซีเหลียงอ๋อง หลี่เฟิงอวิ๋นอีก
ตำหนักเฟิ่งซีลมเหนือพัดโชยมา ม่านหิมะขาวโพลนโปรยปรายพระราชวังอันกว้างใหญ่ไพศาลถูกห่มคลุมด้วยหิมะขาวโพลน งดงามดั่งสวมอาภรณ์สีเงินบริสุทธิ์ดุจภาพวาดภูมิทัศน์ที่ถูกวาดตามอารมณ์ซูเฟิ่งหลิงในชุดเกราะเงินและเสื้อคลุมสีแดง เดินเข้าสู่พระราชวัง ความสง่างามและองอาจของนางโดดเด่นสะดุดตา“น้องสาว ในที่สุดเจ้าก็มา!”องค์หญิงใหญ่พร้อมด้วยนางกำนัลและขันทีจำนวนหนึ่ง รออยู่ที่หน้าประตูตำหนัก เมื่อเห็นซูเฟิ่งหลิง ก็รีบออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มที่หาดูได้ยากองค์หญิงใหญ่สวมชุดกระโปรงยาวสีขาวบริสุทธิ์ คลุมทับด้วยเสื้อคลุมขนจิ้งจอกสีเงิน บนเสื้อยังมีเกล็ดหิมะที่เพิ่งโปรยปรายลงมาเกาะอยู่องค์หญิงใหญ่จับมือซูเฟิ่งหลิงเอาไว้แน่น พลางกล่าวอย่างสนิทสนม “มือเล็กๆ นุ่มนิ่มคู่นี้ คงไม่ถูกความหนาวเย็นเล่นงานกระมัง?”“อากาศหนาวเย็นเช่นนี้ หากน้องสาวต้องมาหนาวสั่น เกรงว่าองค์รัชทายาทจะทรงตำหนิข้าเอาได้!”ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อยนางเป็นคนมาจากกองทัพ จับอาวุธมาตลอดสองมือนี้จะเรียกว่านุ่มนิ่มได้อย่างไร?องค์หญิงใหญ่พูดจาประจบประแจงอย่างเห็นได้ชัดซูเฟิ่งหลิงชักมือออก แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “อ
สุราอาหารเลิศรสวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะสายตาของซูเฟิ่งหลิงจับจ้องไปยังร่างที่อยู่ไม่ไกลซีเหลียงอ๋องในชุดเกราะสีดำ กำลังร่ายรำกระบี่ท่ามกลางหิมะโปรยปรายแววตาคมกริบ กระบวนท่ากระบี่ร่ายรำราวกับมังกร!แม้จะสวมชุดเกราะ แต่ก็คล่องแคล่วปราดเปรียวทุกกระบวนท่าแฝงไว้ด้วยจิตสังหารอันรุนแรง!เกล็ดหิมะที่ล่องลอยอยู่รอบกาย ล้วนถูกลมกระบี่ตัดขาดมีเพียงสิ่งเดียวที่ขาดความสมบูรณ์แบบนั่นคือขาขวาของซีเหลียงอ๋อง หลี่เฟิงอวิ๋นที่ยังคงกะเผลกเล็กน้อยบาดแผลเก่าที่ซูเฟิ่งหลิงใช้ทวนแทงทะลวงเมื่อครั้งศึกเขาทิศประจิม ยังคงไม่หายสนิทซูเฟิ่งหลิงมองอย่างเหม่อลอยองค์หญิงใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยชมว่า “ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม!”“สมกับเป็นซีเหลียงอ๋อง กระบวนท่ากระบี่ไร้ผู้ต่อต้าน สมควรแก่การยกย่องว่าเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้า!”จากนั้นองค์หญิงใหญ่ก็ส่ายหน้าอย่างเสียดายแล้วกล่าวว่า “น่าเสียดายที่องค์ชายสามไม่มีวาสนาเหมือนหลี่หลงหลิน! ไม่ได้อภิเษกกับพระชายาที่คู่ควรเช่นเจ้า!”“หากเจ้าได้ครองคู่กับองค์ชายสาม นั่นถึงจะเรียกว่ากิ่งทองใบหยก คู่สร้างคู่สม! ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเจ้าเก้ามีวาสนาอะไร ถึงได้คู่ควรกับเจ้
ในตำหนักเฟิ่งซีทั้งสามคนชนแก้วร่ำสุรากันอย่างสนุกสนานเมื่อดื่มสุราเลิศรสไปได้สามห้าจอก ฤทธิ์สุราก็เริ่มแล่นขึ้นมาสู่หัวใจซูเฟิ่งหลิงยังคงระแวดระวังหลี่หลงหลินเคยกำชับนางไว้ว่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องระวังตัวไว้บ้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการดื่มสุรามิฉะนั้นอาจจะนำพาความเดือดร้อนมาสู่ตนองค์หญิงใหญ่ใบหน้าแดงก่ำ ยกจอกสุราขึ้นสูง พลางกล่าวว่า “องค์ชายสาม ข้าขอคารวะท่านหนึ่งจอก! ครานี้ท่านสร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่แก่ต้าเซี่ย นับเป็นความภาคภูมิใจของต้าเซี่ย!”องค์ชายสามแย้มยิ้มเล็กน้อย กล่าวว่า “ข้าเพียงแต่ทำในสิ่งที่ควรทำ หาได้มีอะไรน่ากล่าวถึง?”“ยิ่งไปกว่านั้น ชีวิตในกองทัพ การปกป้องบ้านเมืองและพิทักษ์รักษาประเทศชาติ คือภารกิจที่เสด็จพ่อมอบหมายให้ข้า”ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า “องค์ชายสามสมกับเป็นคนมาจากกองทัพ มีความตระหนักรู้เช่นนี้ เข้าใจในหลักการอันยิ่งใหญ่”องค์หญิงใหญ่ถือโอกาสนี้ถามว่า “องค์ชายสาม ข้ามีข้อสงสัยประการหนึ่ง ไม่ทราบว่าสมควรถามหรือไม่”หลี่เฟิงอวิ๋นเริ่มเมามาย ไม่ถือสา จึงกล่าวอย่างใจกว้าง “องค์หญิงใหญ่ตรัสมาเถิด พวกเราล้วนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ไม่มีอะไรที่ไม่
ซูเฟิ่งหลิงยิ้ม “นี่คือยาสมุนไพรหยุนหนาน เป็นยาวิเศษที่องค์รัชทายาททรงคิดค้นขึ้น ใช้รักษาอาการบาดเจ็บ ฟกช้ำ เคล็ดขัดยอก กระดูกหัก”องค์ชายสามรีบตอบรับคำเขาได้ยินมานานแล้วว่าหลี่หลงหลินมักจะประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอแต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะมีความสามารถด้านการแพทย์ถึงเพียงนี้องค์ชายสามรู้ดีถึงอาการบาดเจ็บของตนเอง มันคืออาการป่วยเรื้อรังเขาพยายามคิดค้นทุกวิถีทาง ส่งยอดฝีมือมากมายไปเสาะหาทั่วหล้ามานานแล้วแต่สุดท้ายก็ไม่มีทางรักษาให้หายขาด จนกลายเป็นอาการป่วยเรื้อรังองค์ชายสามประสานมือคำนับ “ฝากขอบพระทัยองค์รัชทายาทด้วย”ซูเฟิ่งหลิงยิ้มตอบ “ไม่ต้องขอบคุณ เพราะยานี้ปรุงขึ้นมาเพื่อท่านโดยเฉพาะ”“เพื่อข้าโดยเฉพาะ?”ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า “วันที่ซีเหลียงได้รับชัยชนะ องค์รัชทายาททรงนึกถึงอาการบาดเจ็บที่ขาของท่าน จึงสั่งให้คนไปปรุงยาพิเศษนี้ที่เขาทิศประจิม”“องค์รัชทายาทตรัสว่าอาการป่วยของท่านยังไม่ถึงขั้นร้ายแรง หากใช้ยานี้อย่างต่อเนื่อง สามวันให้หลังก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง”แน่นอนว่า ซูเฟิ่งหลิงพูดเกินจริง เพื่อซื้อใจองค์ชายสามให้ภักดีต่อหลี่หลงหลินหลี่เฟิงอวิ๋นตกตะลึง “สามวันก็ห
องค์หญิงใหญ่ดีใจมากที่องค์ชายสามติดกับขอเพียงหลี่เฟิงอวิ๋นและซูเฟิ่งหลิงลงมือต่อสู้กัน ตนเองก็สามารถเข้าแทรกแซงไกล่เกลี่ยได้ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้ว แม้จะเริ่มเมามาย แต่นางก็ยังไม่เสียสติสัมปชัญญะฟังออกว่าองค์หญิงใหญ่กำลังยุยงอยู่เบื้องหลังตอนนี้ใกล้วันอภิเษกสมรสหากลงมือทำร้ายองค์ชายสามอีก เรื่องราวแพร่งพรายออกไป จะต้องมีคนฉวยโอกาสก่อเรื่องเกรงว่าจะทำให้เรื่องใหญ่ต้องเสียซูเฟิ่งหลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “องค์ชายสาม เกรงว่าจะไม่เหมาะ วันนี้เราต่างก็ดื่มสุรากันไปบ้าง หากลงมือกันจริงๆ เกรงว่าจะคุมกำลังไม่ได้”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าไม่ถนัดวิชากระบี่ ไม่อาจชี้แนะองค์ชายสามได้”องค์หญิงใหญ่แย้มยิ้มนางไม่เพียงแต่รู้จักองค์ชายสาม แต่ยังรู้จักผู้ชายดี!ต่อให้ผู้ชายคนนั้นจะใจกว้างเพียงใดก็คงไม่อยากพ่ายแพ้ต่อสตรียิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายคือซีเหลียงอ๋อง หลี่เฟิงอวิ๋น!ผู้กุมอำนาจทางทหาร ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญ!ปกป้องบ้านเมือง อุทิศชีวิตให้กับการรบ!เรื่องนี้มักจะถูกแม่ทัพฝ่ายศัตรูนำมาเย้ยหยันในสนามรบแม้แต่เหล่าทหารใต้บังคับบัญชาก็ยังแอบนำมาล้อเลียนหากไม่จัดการเรื่องนี้ให้เรี
เขาเพียงปรารถนาที่จะสังหารมารในจิตใจ ต่อให้ต้องพ่ายแพ้ต่อซูเฟิ่งหลิงอีกครั้ง เขาก็ยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้ง องค์หญิงใหญ่ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ พลางเอ่ยว่า “เชิญ” จากนั้น องค์หญิงใหญ่ก็นำทั้งสองคนไปยังตำหนักข้างๆ นับตั้งแต่ฮองเฮาหลู่ถูกกักบริเวณในตำหนักเย็น ตำหนักใหญ่ๆ อันโอ่อ่าส่วนมากล้วนถูกทิ้งร้าง มีเพียงขันทีและนางกำนัลที่แวะเวียนมาทำความสะอาดเป็นครั้งคราว ภายในตำหนักข้างๆ ว่างเปล่าไร้ซึ่งสิ่งของ มีเพียงกระถางธูปสองสามใบวางอยู่ องค์หญิงใหญ่แย้มยิ้มเล็กน้อย พลางเอ่ยว่า “ทั้งสองท่านสามารถประลองยุทธ์ที่นี่ได้อย่างเต็มที่ จะไม่มีผู้ใดล่วงรู้” ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย นางสังเกตเห็นว่าตำหนักข้างแห่งนี้มีบางอย่างผิดแผกไป แม้ว่าฮองเฮาหลู่จะถูกกักบริเวณในตำหนักเย็นแล้ว แต่สิ่งของในตำหนักเฟิ่งซี ยังมิได้ถูกเคลื่อนย้าย โดยพื้นฐานแล้วยังคงจัดวางตามเดิม ทว่าในตำหนักข้างแห่งนี้ การจัดวางสิ่งของเห็นได้ชัดว่าเพิ่งถูกเคลื่อนย้าย “หรือว่า องค์หญิงใหญ่วางแผนไว้นานแล้วว่าให้พวกเราประลองยุทธ์ที่นี่?” ซูเฟิ่งหลิงครุ่นคิดในใจ หากหลี่หลงหลินอยู่ที่นี่ ย่อมสามารถมองทะลุแ
วันต่อมา ห้องหนังสือจวนอ๋องหลี่หลงหลินยกมือนวดหว่างคิ้ว มือวาดบางอย่างบนกระดาษกงซูหว่านขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง “องค์ชาย หม่อมฉันอิงตามวิธีของท่านแล้ว วันนี้ตั้งใจไปตั้งร้านแผงลอยในบริเวณคนพลุกพล่านเป็นพิเศษ เผยแพร่วิธีทำน้ำแข็งออกไป เหล่าราษฎร์สามารถใช้งานได้ ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เพียงแต่บัดนี้เกลือหมางเซียวในร้านขายยาทุกแห่งของตงไห่ไม่เพียงพอ”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เผยแพร่ออกไปก็ดีแล้ว เช่นนี้เนื้อปลาของเหล่าราษฎร์ก็สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ไม่ต้องสิ้นเปลือง”“พี่สะใภ้รองเหนื่อยแล้ว หากนี่คือเมืองหลวง เพียงตีพิมพ์เรียงความในหนังสือพิมพ์ก็เพียงพอแล้ว แต่อยู่ที่ตงไห่ยังต้องให้พี่สะใภ้ออกแรงเหน็ดเหนื่อยด้วยตนเอง”ภายในคำพูดหลี่หลงหลินเปี่ยมความห่วงใย อย่างไรเสียกงซูหว่านก็เป็นสตรีมีพรสวรรค์ไม่ออกนอกบ้าน อยู่แต่ในห้องหอ จู่ๆ ขอให้นางไปสอนวิธีทำน้ำแข็งแก่ราษฎร์ ช่างทำให้อึดอัดคับข้องใจโดยแท้แต่หลี่หลงหลินคิดไปคิดมา ในบรรดาพี่สะใภ้มีเพียงพี่สะใภ้รองเข้าใจวิธีใช้เกลือหมางเซียวทำน้ำแข็ง ทำได้เพียงมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กงซูหว่านหัวเราะเบาๆ “ไม่ลำบากเพคะ จะ
ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเฮือกหนึ่งโจรสลัดแคว้นโวกั๋วและชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเป็นปัญหาแถบชายแดนต้าเซี่ยมานานนับร้อยปี ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายมองออกว่าครั้งนี้เจตจำนงของหลี่หลงหลินยิ่งใหญ่อย่างมาก!หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “หากต้องการกำจัดปัญหาภายนอกจะต้องกำจัดปัญหาภายในก่อน หากต้องการเดินทางบนมหาสมุทร จะต้องจัดการปัญหาตรงหน้าให้เรียบร้อย หาไม่แล้วแผนการเดินเรือจะต้องได้รับผลกระทบแน่”“เป้าหมายสำคัญในการมาตงไห่ครั้งนี้คือพัฒนาศาสตร์ต่อเรือของต้าเซี่ย บัดนี้เรือเหล่านี้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการการเดินทางไกลได้ ความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของเรือต้าเซี่ยก็เป็นเหตุผลที่โจรสลัดแคว้นโวกั๋วตงไห่สร้างความวุ่นวาย ได้รับผลประโยชน์มากมายในสงครามทางทะเล ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถกวาดล้างโจรสลัดแคว้นโวกั๋วที่บุกมาในคราวเดียวได้”“หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป โจรสลัดแคว้นโวกั๋วก็จะยิ่งกำเริบเสิบสาน อาละวาดอย่างไร้ขอบเขตในทะเลตงไห่ ราษฎร์ตงไห่ก็จะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก!”“ดังนั้นตราบใดที่สามารถเพิ่มระดับการต่อเรือของต้าเซี่ยได้ โจรสลัดแคว้นโวกั๋วย่อมหายไป ชนิดที่ว่าปราบตงอิ๋
ปากแดงของเหล่าสะใภ้ขยับเบาๆ ดวงตาสะท้อนความแปลกใจ “เป้าหมายคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่?”แม้เหล่าสะใภ้ไม่รู้ว่ามหาสมุทรอันกว้างใหญ่คือที่ใด แต่ได้ยินหลี่หลงหลินอธิบาย จะต้องเป็นสถานที่อันงดงามแน่!ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยถาม “องค์ชาย มหาสมุทรกว้างใหญ่มากถึงเพียงนี้ เป้าหมายของพวกเราคือที่ใด?”กงซูหว่านพยักหน้า “ใช่แล้วองค์ชาย ยิ่งไปกว่านั้นระดับการเดินเรือในตอนนี้มากที่สุดก็ไปได้ถึงตงอิ๋ง หากยังไปทางทิศตะวันออก กลับยังไม่มีตัวอย่างมาก่อน”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เป้าหมายของพวกเราก็คือทวีปใหม่! ต้าเซี่ยและทวีปใหม่ห่างกันเพียงมหาสมุทรกั้น ลักษณะทางภูมิศาสตร์ได้เปรียบโดยธรรมชาติ สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือคิดหาทางพัฒนาเรือของต้าเซี่ย ขนวัวม้าสัตว์ใช้แรงงานจำนวนมากเพียงพอไปยังทวีปใหม่”“ขอเพียงมีวัวม้าสัตว์ใช้แรงงาน ต้องการผืนดินมากน้อยเพียงใดก็ย่อมได้ มีผืนดินนับพันลี้ให้ราษฎร์ได้ใช้!”เหล่าสะใภ้ได้ยินภาพที่หลี่หลงหลินอธิบาย ใบหน้าเผยรอยยิ้มเปี่ยมความหวังออกมาสถานที่ที่ไม่มีสงครามและไม่มีความหิวโหยอยู่ห่างเพียงมหาสมุทรกั้น กำลังโบกมือต้อนรับตนเองหลี่หลงหลินเปล่งเสียงเคร่งขรึม “ขอเพียง
“เป็นไปไม่ได้! ดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ ไฉนเลยจะไม่มีคน?”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เหตุที่มีคนน้อยมีเพียงข้อเดียว ตอนนี้พวกเขายังกินไม่อิ่ม”ถ้อยคำนี้ของหลี่หลงหลินดุจฟ้าผ่ากลางวันแสกๆเหล่าพี่สะใภ้ได้ฟังแล้ว คิดว่านี่คล้ายเรื่องเพ้อฝันยามราตรี ดินแดนอุดมสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ถึงขั้นยังมีคนกินข้าวไม่อิ่มท้องอีกหรือ?กงซูหว่านมองหลี่หลงหลินด้วยความตกตะลึง เอ่ยถามว่า “องค์ชาย ท่านไม่ได้กำลังล้อพวกเราเล่นหรอกกระมัง? อิงตามคำพูดของท่าน ทวีปใหม่จะต้องอุดมสมบูรณ์อย่างมากแน่ เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์คนกินข้าวไม่อิ่มท้องได้เล่า?”“ใช่แล้วองค์ชาย หม่อมฉันไม่เชื่อ”“หรือว่าดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ พวกเขาไม่สามารถเพาะปลูกได้กันเล่า?”เหล่าพี่สะใภ้ฟังจนอารมณ์ดำดิ่งลงไป ต่างขอให้หลี่หลงหลินพูดออกมาให้ชัดเจน หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “ไม่ใช่พวกเขาไม่เพาะปลูก ทวีปใหม่ดีมากเยี่ยงไร มีเพียงข้อเดียวที่ไม่ดี ก็คือไม่มีวัวไม่มีม้า ไม่มีสัตว์ใช้แรงงาน”ดวงตาของเหล่าสะใภ้ทอประกายระยับ ประคองใบหน้างดงามรับฟังเงียบๆ“ดังนั้นตอนนี้พวกเขายังหยุดอยู่ที่ใช้มีดถางป่าเผาไร่เพาะปลูก ใช้วิธีการพื้นฐานที่สุดในการ
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็