หลี่เฟิงอวิ๋นไม่มีใจเป็นอื่นต่อต้าเซี่ย“ยิ่งไปกว่านั้น บัดนี้เรื่องศึกซีเหลียงเร่งด่วนมาก ในช่วงเวลาสำคัญนี้จะเกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เป็นอันขาด”หลี่หลงหลิน “เจ้าเก้า?”หลี่เฟิงอวิ๋นนี้ถึงรู้ว่าตนเองล่วงเกินไปแล้ว สั่นสะท้านไปทั่วทั้งสรรพางค์กายรีบค้อมตัวคุกเข่าลง พูดเสียงสั่นเครือ “คารวะรัชทายาท เมื่อครู่เสียมารยาทไป ขออย่าได้เก็บมาใส่ใจ”บัดนี้มาถึงเมืองหลวงแล้วต่อให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่มาจากที่ใดก็ต้องสำรวมตนอยู่ในอาณาเขตของรัชทายาท ซีเหลียงอ๋องคู่ควรเพียงคุกเข่า!หลี่หลงหลินพูดเสียงเย็นชา “บัดนี้เสด็จพ่อกริ้วหนัก ใต้หล้านี้มีเพียงข้าที่สามารถช่วยท่านได้”“แต่ข้ามีหนึ่งเงื่อนไข”หลี่เฟิงอวิ๋นดีใจแทบบ้าคลั่ง คล้ายคว้าหญ้าช่วยชีวิตเอาไว้ได้แล้ว“องค์ชาย ขอเพียงท่านพูดออกมา ไม่ว่าเป็นเงื่อนไขเยี่ยงไรข้าก็ล้วนยินดีทำ! ขอเพียงสามารถคลายโทสะภายในใจของเสด็จพ่อได้ก็พอ”หลี่หลงหลินส่ายหน้า “หรือว่าท่านยังไม่รู้อารมณ์ของเสด็จพ่อ? เว้นเสียแต่ว่าสามารถนำหลักฐานออกมาได้ หาไม่แล้วโทสะภายในใจของเขาก็ไม่มีวันคลายลง”หลี่เฟิงอวิ๋นวางมือสองข้างลงบนพื้น แม่ทัพใหญ่แห่งซีเหลียงผู้ห้าวหาญในเวลาป
วันต่อมาจวนสกุลซูหลี่หลงหลินเฝ้าอยู่หน้าเตียงซูเฟิ่งหลิงอย่างใส่ใจอีกสองสามวันก็จะเป็นวันแต่งงานของทั้งสองคนแม้เพิ่งเตรียมตัว ต่อให้ไม่สมบูรณ์ก็ยังดีกว่าไม่ทำอันใดเลยอาศัยโอกาสนี้สานสายใยรักกับซูเฟิ่งหลิงสักหน่อยซูเฟิ่งหลิงไม่คุ้นชินอยู่บ้างหลี่หลงหลินยกชามและตะเกียบ “เฟิ่งหลิง นี่เป็นน้ำแกงบำรุงที่ข้าตั้งใจต้มให้เจ้า ดื่มลงไปแล้วดีต่อร่างกายของเจ้า”ทีแรกซูเฟิ่งหลิงยังต่อต้าน ตนเองมีมือมีเท้า ถึงขั้นยังต้องให้ผู้อื่นป้อนข้าว ปรับตัวไม่ถูกจริงๆแต่เอือมระอาร่างกายอ่อนแอ ไม่อาจต่อต้านได้ ทำได้เพียงรับความหวังดีน้ำแกงใสไหลลงคอ ดวงตาซูเฟิ่งหลิงทอประกายระยับแม้ว่าหลี่หลงหลินไม่เข้าห้องครัว แต่ฝีมือกลับยอดเยี่ยมมากหลี่หลงหลินเอ่ยถาม “สนมรัก รสชาติเป็นเช่นไร?”ใบหน้าซูเฟิ่งหลิงแดงเรื่อ “กลางวันแสกๆ พูดอันใดไม่รู้จักอาย!”พูดจบ เงยหน้าขึ้น ทุบอกหลี่หลงหลินเบาๆ ทีหนึ่ง หลี่หลงหลินยิ้มบางๆ“องค์ชาย! แย่แล้วขอรับ!”บ่าวรีบปรี่ถลาเข้ามา คุกเข่าต่อหน้าหลี่หลงหลินหลี่หลงหลินวางชามและตะเกียบลง เอ่ยถามว่า “เกิดเรื่องใดขึ้น ร้อนใจถึงเพียงนี้?”บ่าวพูดว่า “มีขุนนางกลุ่มหน
“หลังได้ยินข่าวแล้ว กระหม่อมก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ ฉวยโอกาสฟ้ายังไม่ทันสว่างเร่งเดินทางมาเยี่ยมเยียนพระชายารัชทายาท หากองค์ชายไม่ให้ขุนนางทั้งหลายได้พบหน้าพระชายารัชทายาทสักครั้ง น่ากลัวว่ายากจะสงบใจลงได้พ่ะย่ะค่ะ!”เจ้ากรมอาญาคล้ายคิดจะปักหลักอยู่หน้าประตูจวนสกุลซูขุนนางทั้งหลายต่างร้องรับหลี่หลงหลินขมวดคิ้ว เจตนาของขุนนางเหล่านี้จะต้องไม่ธรรมดาหลี่หลงหลินเตรียมปล่อยเลยตามเลยในเมื่ออยากจะอยู่ที่นี่ ก็ปล่อยให้อยู่ไปเสียเลยแต่เสียงฝีเท้าระลอกหนึ่งพลันดังขึ้นด้านหลังหลี่หลงหลินซูเฟิ่งหลิงถูกลั่วอวี้จู๋ประคองเข้ามาหยุดต่อหน้าขุนนางทั้งหลายหลี่หลงหลินรีบเข้าไปประคอง “เฟิ่งหลิง ตอนนี้อาการของเจ้ายังไม่ดีขึ้น หากต้องความเย็นแล้วเป็นหวัดจะทำเยี่ยงไร!”พูดไป หลี่หลงหลินต้องการพาซูเฟิ่งหลิงกลับเรือนส่วนในขุนนางทั้งหลายย่อมไม่ปล่อยโอกาสครั้งนี้ไปต่างพากันทำความเคารพ “คารวะพระชายารัชทายาท”ซูเฟิ่งหลิงพูดกับหลี่หลงหลิน “วางใจได้ ร่างกายข้าไม่เป็นไร หากวันนี้ข้าไม่ออกมา น่ากลัวว่าพวกเขาจะต้องรอที่นี่ทั้งวันแน่ หากพลาดงานของบ้านเมืองไปจะทำเยี่ยงไร?”ขุนนางที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นคน
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงพรึงเพริดตามหลักการแล้ว คำที่ดีคำที่ไม่ดีล้วนพูดทั้งหมดแล้วแต่หลี่หลงหลินคล้ายไม่รับน้ำใจ!หลี่หลงหลินสบมองขุนนางทั้งหลายด้วยสายตาหมิ่นแคลน รัศมีน่าเกรงขามสายหนึ่งแผ่ออกจากร่างเจ้ากรมอาญาพูดเสียงเย็นชา “องค์ชาย เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ความผิดของซีเหลียงอ๋องเล่าลือไปทั่วทั้งเมืองหลวง หากท่านไม่มอบคนออกมา นั่นก็คือซ่อนตัวนักโทษ จะได้รับความผิดไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”มีมารยาทก่อนค่อยโจมตีทีหลังเจ้ากรมอาญายกมุมปากแสยะยิ้มเย็น!โอรสสวรรค์ทำความผิดย่อมได้รับโทษเฉกเดียวกับสามัญชน!ต่อให้เป็นหลี่หลงหลินก็ไม่อาจรับไหวหากถูกโยนความผิดเช่นนี้ให้บัดนี้นอกจากหลี่หลงหลินมอบคนออกมาแล้ว ก็ไม่มีตัวเลือกอื่นอีก!ขุนนางทั้งหลายต่างพากันคุกเข่าขอร้อง “องค์ชาย ท่านอย่าเลอะเลือนไปชั่วขณะและเข้าข้างคนผิดเลย ภายภาคหน้าจะต้องเกิดปัญหาใหญ่แน่!”หลี่หลงหลินขมวดคิ้วพวกตาเฒ่าไว้หน้าแล้วแต่ไม่รับน้ำใจเหล่านี้ตนเองพูดมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังเปลืองน้ำลายอยู่ที่นี่อีก!หน้าหนาคล้ายกำแพงก็มิปาน!หลี่หลงหลินสูดหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง พูดด้วยท่วงท่าสง่างาม “คนตายไปแล้ว ภายภาค
องค์หญิงใหญ่แปลกใจมาก “ท่านเจ้ากรม ตกลงเกิดความเปลี่ยนแปลงอันใดขึ้นกันแน่?”เจ้ากรมอาญาเปล่งเสียงเคร่งขรึม “กระหม่อมพาขุนนางทั้งหลายไปขวางหน้าจวนสกุลซู หว่านล้อมด้วยอารมณ์ อธิบายด้วยเหตุผล แต่หลี่หลงหลินไอ้คนต่ำต้อยคนนั้นกลับไม่หลงกล”“พูดเยี่ยงไรก็ไม่ยอมให้พวกเราเข้าประตูของจวนสกุลซู”องค์หญิงใหญ่พูดว่า “เช่นนั้นได้พบองค์ชายสามหรือไม่?”เจ้ากรมอาญายกน้ำชา ดื่มรวดเดียวจนหมดแล้วพูดเสียงเย็นชา “ไม่ได้เห็นแม้ขนเส้นเดียว! หลี่หลงหลินไอ้คนต่ำต้อยคนนั้นถึงขั้นพูดว่าองค์ชายสามตายแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“อะไรนะ!”องค์หญิงใหญ่ขมวดคิ้ว สายตาล้วนคือความตกตะลึง“ท่านเจ้ากรม คำนี้เป็นหลี่หลงหลินพูดเองกับปากจริงหรือ?”เจ้ากรมอาญาพยักหน้า “จริงแท้แน่นอน เขายังพูดว่าหากข้าอยากพบองค์ชายสามจริง เขาไม่ถือสาที่จะส่งข้าไปสักเที่ยวหนึ่ง”“เหลวไหลไร้สาระ!”เจ้ากรมอาญามองออก หลี่หลงหลินกำลังพูดเหลวไหล!เป้าหมายก็เพื่อไม่มอบองค์ชายสามออกมา“ดีดีดี!”องค์หญิงใหญ่ที่เดิมทีเคร่งขรึม จู่ๆ ก็หัวเราะออกมาเจ้ากรมอาญาตกใจอย่างมาก “องค์หญิงใหญ่ เหตุใดดีใจถึงเพียงนี้?”องค์หญิงใหญ่พูดยิ้มๆ “ท่านเจ้ากรม เจ้าคิดว่
เจ้ากรมอาญายิ้มเล็กน้อย “หากองค์หญิงใหญ่มีเรื่องใดให้ใช้งาน ขอให้สั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ ขึ้นภูเขามีด ลงทะเลเพลิง กระหม่อมไม่มีวันปฏิเสธ”องค์หญิงใหญ่พูดเสียงเรียบ “อย่าได้เอ่ยกับผู้ใดเรื่องที่ได้พบกันในวันนี้ เจ้าไม่เคยพบข้า เจ้าเข้าใจหรือไม่?”เจ้ากรมอาญาลุกขึ้นประกบมือ “กระหม่อมเข้าใจ”หลังมองส่งเจ้ากรมอาญาจากไปแล้วองค์หญิงใหญ่ยกมุมปากยิ้มเย็น “หลี่หลงหลิน ครั้งนี้น่ากลัวว่าเจ้าจะต้องจบสิ้นแล้ว!”“คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเองก็มีวันนี้ เดิมทีวางแผนกำจัดองค์ชายสามเองกับมือ บัดนี้ปัญหาข้าลดลงไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตนเอง ช่างเป็นเรื่องที่ได้มาโดยไม่ต้องลงทุนลงแรงโดยแท้!”แปะแปะ!องค์หญิงใหญ่ปรบมือ จู่ๆ นินจาคนหนึ่งก็ปรากฎตัวออกมาต่อหน้านางอย่างกะทันหัน ท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตน “องค์หญิง มีเรื่องใดต้องการสั่ง”องค์หญิงใหญ่พูดเสียงเคร่งขรึม “ออกเดินทางกลับวัง”ในสายตาองค์หญิงใหญ่ ความตายขององค์ชายสามเป็นโอกาสหาได้ยากยิ่งอย่างหนึ่งแม้ว่าเรื่องนี้ยังไม่เห็นผล แต่ตนจะต้องชิงโอกาสลงมือก่อนจะต้องรีบรายงานเรื่องนี้ให้ฮองเฮาหลู่รู้......ตำหนักเย็นฮองเฮาหลู่นั่งภายในตำหนัก ตำหนักขน
“สืบความจริงเรื่องนี้หรือยัง?”“ท่านเจ้ากรมได้ยินจากปากหลี่หลงหลินเอง เรื่องนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องเท็จ”องค์หญิงใหญ่เห็นใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งของฮองเฮาหลู่ยิ้มแย้มเย็นเยียบขึ้นมา“ตายอย่างไร?”แววตาของฮองเฮาหลู่สั่นระริกแม้ปกติฮองเฮาหลู่จะดูแลเพียงฝ่ายใน แต่ก็มีหูมีตาอันเฉียบแหลมต่อสถานการณ์ในราชสำนักการสิ้นพระชนม์ขององค์ชายสาม แม้จะเหนือความคาดหมาย แต่ก็อยู่ในแผนการเช่นกันหากเป็นจริงดังว่า นางก็สามารถเดินหมากตากต่อไปได้องค์หญิงใหญ่ส่ายหน้า “สาเหตุที่แท้จริงยังสืบไม่แน่ชัด แต่หลังจากเมื่อวาน เป็นหลี่หลงหลินที่พาตัวองค์ชายสามหลี่เฟิงอวิ๋นไปจากตำหนักเฟิ่งชี หลังจากนั้นก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นองค์ชายสามอีกเลย” “ดี ดีมาก!”“คาดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กหลี่หลงหลินผู้นี้จะเหี้ยมหาญถึงเพียงนี้ ลงมือกำจัดองค์ชายสามโดยตรงเสียได้”องค์หญิงใหญ่กล่าวเสียงเข้ม “เสด็จแม่ เช่นนั้นเราจะดึงกำลังหนุนจากซีเหลียงมาต่อกรกับหลี่หลงหลินได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้ซีเหลียงไร้ผู้นำ เหล่าแม่ทัพคงไม่ยอมฟังคำสั่งจากสตรีเช่นข้าเป็นแน่”ฮองเฮาหลู่ทอดพระเนตรองค์หญิงใหญ่อย่างมีความหมายลึกซึ้ง ส่ายหน้ากล่าวว่า “ไม่! ที่ต้
ค่ายทหารซีเหลียงด้านนอกกระโจมทหาร แสงคบเพลิงวูบไหวราตรีล่วงลึกเหล่าทหารต่างเข้าสู่นิทรา เหลือเพียงกองลาดตระเวนกลุ่มเล็กๆ เดินตรวจตราไปตามแนวค่าย เพื่อป้องกันข้าศึกจู่โจมยามค่ำคืนแม้ทัพซีเหลียงจะเพิ่งบดขยี้ทัพชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ จนแตกพ่ายยับเยิน ต้องหนีกระเซอะกระเซิงไปก็ตาม ทว่ายิ่งอยู่ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ยิ่งมิอาจประมาทแม้เพียงน้อยนิดกุก กุก...พิราบสื่อสารตัวหนึ่งบินเข้าไปในค่ายทหาร ลงเกาะบนยอดกระโจมหลังหนึ่งมือใหญ่หยาบกร้านข้างหนึ่งปลดกระบอกสาส์นลับออก จากนั้นจึงรีบรุดไปยังกระโจมของรองแม่ทัพทันทีรองแม่ทัพโจวทงคือแม่ทัพคู่ใจคนสำคัญภายใต้บัญชาของซีเหลียงอ๋องหลี่เฟิงอวิ๋น ครั้งนี้ที่ซีเหลียงอ๋องเสด็จเข้าเมืองหลวงเพื่อรับพระราชทานรางวัล ก็ได้มอบหมายอำนาจในการดูแลกิจการซีเหลียงให้แก่โจวทง ทรงไว้วางพระทัยในตัวเขาอย่างยิ่งภายในกระโจมของรองแม่ทัพโจวทง สว่างไสวไปด้วยแสงไฟ ราวกับกำลังรอคอยสิ่งใดอยู่ “ท่านรองแม่ทัพ มีสาส์นจากเมืองหลวงขอรับ!”ทหารนายนั้นยื่นสาส์นพิราบส่งให้โจวทงเขาเหลือบมองเพียงปราดเดียว ก็โบกมือให้ทหารคนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปก่อนในไ
วันต่อมา ห้องหนังสือจวนอ๋องหลี่หลงหลินยกมือนวดหว่างคิ้ว มือวาดบางอย่างบนกระดาษกงซูหว่านขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง “องค์ชาย หม่อมฉันอิงตามวิธีของท่านแล้ว วันนี้ตั้งใจไปตั้งร้านแผงลอยในบริเวณคนพลุกพล่านเป็นพิเศษ เผยแพร่วิธีทำน้ำแข็งออกไป เหล่าราษฎร์สามารถใช้งานได้ ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เพียงแต่บัดนี้เกลือหมางเซียวในร้านขายยาทุกแห่งของตงไห่ไม่เพียงพอ”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เผยแพร่ออกไปก็ดีแล้ว เช่นนี้เนื้อปลาของเหล่าราษฎร์ก็สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ไม่ต้องสิ้นเปลือง”“พี่สะใภ้รองเหนื่อยแล้ว หากนี่คือเมืองหลวง เพียงตีพิมพ์เรียงความในหนังสือพิมพ์ก็เพียงพอแล้ว แต่อยู่ที่ตงไห่ยังต้องให้พี่สะใภ้ออกแรงเหน็ดเหนื่อยด้วยตนเอง”ภายในคำพูดหลี่หลงหลินเปี่ยมความห่วงใย อย่างไรเสียกงซูหว่านก็เป็นสตรีมีพรสวรรค์ไม่ออกนอกบ้าน อยู่แต่ในห้องหอ จู่ๆ ขอให้นางไปสอนวิธีทำน้ำแข็งแก่ราษฎร์ ช่างทำให้อึดอัดคับข้องใจโดยแท้แต่หลี่หลงหลินคิดไปคิดมา ในบรรดาพี่สะใภ้มีเพียงพี่สะใภ้รองเข้าใจวิธีใช้เกลือหมางเซียวทำน้ำแข็ง ทำได้เพียงมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กงซูหว่านหัวเราะเบาๆ “ไม่ลำบากเพคะ จะ
ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเฮือกหนึ่งโจรสลัดแคว้นโวกั๋วและชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเป็นปัญหาแถบชายแดนต้าเซี่ยมานานนับร้อยปี ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายมองออกว่าครั้งนี้เจตจำนงของหลี่หลงหลินยิ่งใหญ่อย่างมาก!หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “หากต้องการกำจัดปัญหาภายนอกจะต้องกำจัดปัญหาภายในก่อน หากต้องการเดินทางบนมหาสมุทร จะต้องจัดการปัญหาตรงหน้าให้เรียบร้อย หาไม่แล้วแผนการเดินเรือจะต้องได้รับผลกระทบแน่”“เป้าหมายสำคัญในการมาตงไห่ครั้งนี้คือพัฒนาศาสตร์ต่อเรือของต้าเซี่ย บัดนี้เรือเหล่านี้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการการเดินทางไกลได้ ความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของเรือต้าเซี่ยก็เป็นเหตุผลที่โจรสลัดแคว้นโวกั๋วตงไห่สร้างความวุ่นวาย ได้รับผลประโยชน์มากมายในสงครามทางทะเล ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถกวาดล้างโจรสลัดแคว้นโวกั๋วที่บุกมาในคราวเดียวได้”“หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป โจรสลัดแคว้นโวกั๋วก็จะยิ่งกำเริบเสิบสาน อาละวาดอย่างไร้ขอบเขตในทะเลตงไห่ ราษฎร์ตงไห่ก็จะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก!”“ดังนั้นตราบใดที่สามารถเพิ่มระดับการต่อเรือของต้าเซี่ยได้ โจรสลัดแคว้นโวกั๋วย่อมหายไป ชนิดที่ว่าปราบตงอิ๋
ปากแดงของเหล่าสะใภ้ขยับเบาๆ ดวงตาสะท้อนความแปลกใจ “เป้าหมายคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่?”แม้เหล่าสะใภ้ไม่รู้ว่ามหาสมุทรอันกว้างใหญ่คือที่ใด แต่ได้ยินหลี่หลงหลินอธิบาย จะต้องเป็นสถานที่อันงดงามแน่!ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยถาม “องค์ชาย มหาสมุทรกว้างใหญ่มากถึงเพียงนี้ เป้าหมายของพวกเราคือที่ใด?”กงซูหว่านพยักหน้า “ใช่แล้วองค์ชาย ยิ่งไปกว่านั้นระดับการเดินเรือในตอนนี้มากที่สุดก็ไปได้ถึงตงอิ๋ง หากยังไปทางทิศตะวันออก กลับยังไม่มีตัวอย่างมาก่อน”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เป้าหมายของพวกเราก็คือทวีปใหม่! ต้าเซี่ยและทวีปใหม่ห่างกันเพียงมหาสมุทรกั้น ลักษณะทางภูมิศาสตร์ได้เปรียบโดยธรรมชาติ สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือคิดหาทางพัฒนาเรือของต้าเซี่ย ขนวัวม้าสัตว์ใช้แรงงานจำนวนมากเพียงพอไปยังทวีปใหม่”“ขอเพียงมีวัวม้าสัตว์ใช้แรงงาน ต้องการผืนดินมากน้อยเพียงใดก็ย่อมได้ มีผืนดินนับพันลี้ให้ราษฎร์ได้ใช้!”เหล่าสะใภ้ได้ยินภาพที่หลี่หลงหลินอธิบาย ใบหน้าเผยรอยยิ้มเปี่ยมความหวังออกมาสถานที่ที่ไม่มีสงครามและไม่มีความหิวโหยอยู่ห่างเพียงมหาสมุทรกั้น กำลังโบกมือต้อนรับตนเองหลี่หลงหลินเปล่งเสียงเคร่งขรึม “ขอเพียง
“เป็นไปไม่ได้! ดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ ไฉนเลยจะไม่มีคน?”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เหตุที่มีคนน้อยมีเพียงข้อเดียว ตอนนี้พวกเขายังกินไม่อิ่ม”ถ้อยคำนี้ของหลี่หลงหลินดุจฟ้าผ่ากลางวันแสกๆเหล่าพี่สะใภ้ได้ฟังแล้ว คิดว่านี่คล้ายเรื่องเพ้อฝันยามราตรี ดินแดนอุดมสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ถึงขั้นยังมีคนกินข้าวไม่อิ่มท้องอีกหรือ?กงซูหว่านมองหลี่หลงหลินด้วยความตกตะลึง เอ่ยถามว่า “องค์ชาย ท่านไม่ได้กำลังล้อพวกเราเล่นหรอกกระมัง? อิงตามคำพูดของท่าน ทวีปใหม่จะต้องอุดมสมบูรณ์อย่างมากแน่ เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์คนกินข้าวไม่อิ่มท้องได้เล่า?”“ใช่แล้วองค์ชาย หม่อมฉันไม่เชื่อ”“หรือว่าดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ พวกเขาไม่สามารถเพาะปลูกได้กันเล่า?”เหล่าพี่สะใภ้ฟังจนอารมณ์ดำดิ่งลงไป ต่างขอให้หลี่หลงหลินพูดออกมาให้ชัดเจน หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “ไม่ใช่พวกเขาไม่เพาะปลูก ทวีปใหม่ดีมากเยี่ยงไร มีเพียงข้อเดียวที่ไม่ดี ก็คือไม่มีวัวไม่มีม้า ไม่มีสัตว์ใช้แรงงาน”ดวงตาของเหล่าสะใภ้ทอประกายระยับ ประคองใบหน้างดงามรับฟังเงียบๆ“ดังนั้นตอนนี้พวกเขายังหยุดอยู่ที่ใช้มีดถางป่าเผาไร่เพาะปลูก ใช้วิธีการพื้นฐานที่สุดในการ
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็