Share

บทที่ 310

Penulis: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉินซูหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วหันไปสั่งผู้คุมว่า “เปิดประตู!”

“เอ่อ…”

ผู้คุมลังเล

กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความสงสัยว่า “องค์รัชทายาท ท่านจะทำอะไรหรือเพคะ?”

ฉินซูกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าสั่งอีกครั้ง เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

ผู้คุมตัวสั่นด้วยความกลัว มือเริ่มสั่นสะท้าน รีบเปิดประตูลูกกรงออก

ฉินซูมิพูดอะไร เดินตรงเข้าไปในห้องขังทันที

เมื่อฉินซูเข้ามา ฉินเซียวก็เอ่ยเย้ยหยันว่า “ฮึ เจ้ารู้ล่วงหน้าแล้วสินะ ถึงได้มาเพื่อทำความเคยชินกับที่นี่...”

“เพียะ!”

พูดยังมิทันขาด ฉินซูก็ตบหน้าเขาทันที

บนใบหน้าของฉินเซียวปรากฏรอยฝ่ามือสีแดงจัดขึ้นทันที

เขาที่ตกใจกับการโดนตบแบบมิทันตั้งตัวเมื่อได้สติก็ตะโกนด้วยความโมโหว่า “เจ้ากล้าตบข้าเชียวรึ?!”

“ก็ตบไปแล้วมิใช่รึ!”

สิ้นเสียงของฉินซู เขาก็เงื้อฝ่ามือตบลงไปอีกครั้ง

ฉินเซียวรีบหลบตามสัญชาตญาณ!

ฝ่าเท้าของเขาส่งแรงลมหมุน ร่างถอยไปสองก้าวอย่างรวดเร็วราวกับภูตผี

ทว่ายังมิทันจะยืนได้มั่นคง เงาฝ่ามือที่โถมเข้ามาในสายตาก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

“เพียะ!” ฝ่ามือของฉินซูฟาดลงบนใบหน้าของเขาเต็มแรง

เกิดเสียงดังขึ้นอีกครั้ง ฉินเซียวเสียหลักล้มลงไปกับพื้น

เขาจ้องมองฉิน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 311

    ฉินเซียวทนมิไหวแล้ว อารมณ์ของเขาใกล้จะปะทุเต็มทนกู้เสวี่ยเจี้ยนตะโกนว่า “ฉินเซียว ท่านอย่าได้ตอบโต้ มิเช่นนั้นท่านต้องตายแน่!”ได้ยินดังนั้น หัวใจของฉินเซียวก็พลันผวาหลังจากสงบใจลงได้ เขาก็แอบร้องในใจว่า เกือบไปแล้ว เกือบจะเผยความสามารถออกไปแล้วเมื่อคิดได้ดังนี้ เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่า เหตุผลที่ฉินซูก้าวร้าวกับตนเพียงนี้ ก็เพื่อบีบให้เขาตอบโต้มิใช่หรือ? หากตอบโต้และทำร้ายองค์รัชทายาท นั่นถือเป็นโทษถึงตายเมื่อถึงเวลานั้น นอกจากผิดฐานกระทำการหลายประการ แม้แต่เสด็จพ่อจะลำเอียงเพียงใด ก็มิอาจปกป้องตนได้คิดได้เช่นนั้น ฉินเซียวจึงพูดอย่างคับแค้นใจว่า “องค์รัชทายาท ต่อให้วันนี้เจ้าตีข้าจนตาย ข้าก็มิรู้ว่ากู้ตงเฟิงอยู่ที่ใด”ฉินซูหันไปมองกู้เสวี่ยเจี้ยนอย่างดุดันอีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นด้วยความมิเข้าใจ ถามว่า “ท่านมองหม่อมฉันเช่นนี้ด้วยเหตุใดเล่า?”ฉินซูพูดอย่างเย็นชา “ไม่มีใครชอบสตรีที่สอดยุ่งเรื่องคนอื่นหรอก”ในใจเขารู้สึกเหนื่อยหน่ายนัก เมื่อครู่เกือบจะบีบให้ฉินเซียวลงมือตอบโต้ได้อยู่แล้ว แต่กลับถูกกู้เสวี่ยเจี้ยนขัดขวางเสียก่อนกู้เสวี่ยเจี้ยนส่งเสียงเย้ยหยันด้วยความมิพอใจ โต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 312

    ฉินซูจึงยื่นมือไปดึงเข็มเงินออกด้วยท่าทีราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “พูดมาสิ”ทันทีที่เข็มเงินถูกดึงออก ความเจ็บและคันบนร่างฉินเซียวก็หายไปทันทีเขาหอบหายใจหนัก ใบหน้าซีดเซียว หน้าผากชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็นเมื่อได้สติ เขาจึงพูดขึ้นว่า “กู้ตงเฟิงมีถ้ำอยู่ที่เขาจิ่งซาน พวกเจ้าอาจจะพบเขาที่นั่น”“ดีมาก หากมิเจอเขา ข้าจะกลับมาอีก”ฉินซูพูดจบก็หันหลังเดินจากไปกู้เสวี่ยเจี้ยนมองฉินเซียวครู่หนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวตามไปฉินเซียวหอบหายใจสองสามครั้ง สายตามองตามหลังฉินซูไปด้วยความอาฆาต......นอกคุกหลวงกู้เสวี่ยเจี้ยนตามฉินซูทัน “องค์รัชทายาท ท่านจะไปเขาจิ่งซานเพื่อตามหากู้ตงเฟิงหรือ?”“แล้วจะให้ทำอย่างไรเล่า?”“กู้ตงเฟิงมีฝีมือแข็งแกร่ง แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บสาหัส แต่ก็มิใช่คู่ต่อสู้ที่ท่านจะรับมือได้ ไหนจะยังมีพวกพ้องของเขาอีก การที่ท่านไปโดยมิคิดให้รอบคอบ มิเท่ากับเอาชีวิตไปทิ้งหรือ?”ฉินซูหรี่ตาลงเล็กน้อย ถามอย่างสนใจยิ่งว่า “มิเช่นนั้นเจ้าตามข้าไปด้วยดีหรือไม่?”“ท่านมิจำเป็นต้องไป อีกประเดี๋ยวหม่อมฉันจะไปรายงานให้อาจารย์ทราบ แล้วจะนำคนจากสำนักหอดูดาวหลวงไปด้วยเพคะ”ทันใดนั้นฉินซูก็ถามขึ้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 313

    เหลยเจิ้นคำนับ แล้วหันหลังเดินออกไปฉินอู๋ต้าวจึงสั่งกับเฉาฉุนว่า “ไป เรียกอู๋เชวียมาที่นี่”“รับพระราชบัญชา!”เฉาฉุนรีบก้าวออกไปอย่างรวดเร็วประมาณหนึ่งเค่อให้หลัง ชายคนหนึ่งในชุดเกราะทองคำก็มาถึงห้องทรงพระอักษรบุรุษผู้นี้คิ้วหนา ตากลมโต หุ่นกำยำแข็งแรง ใบหน้าดูเคร่งขรึม!เขาคือหัวหน้าราชองครักษ์ เย่อู๋เชวีย!เมื่อเขาเข้ามาในห้องทรงพระอักษรหลวงแล้ว ก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง“อู๋เชวียถวายบังคมฝ่าบาท!”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวว่า “ลุกขึ้นเถิด”“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”เมื่อเย่อู๋เชวียยืนขึ้น ก็ถามอย่างตรงไปตรงมา “ฝ่าบาททรงเรียกข้าน้อยมา มิทราบว่าด้วยเหตุอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฉินอู๋ต้าวถามอย่างมิแยแสว่า “เรื่องเมื่อห้าปีก่อน นอกจากจื่อซวนที่ตายไปแล้ว ก็ไม่มีใครล่วงรู้รายละเอียดเรื่องภายในตอนนั้นแล้ว ใช่หรือไม่?”ใบหน้าเย่อู๋เชวียเปลี่ยนเล็กน้อย มองไปรอบ ๆ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดอยู่ใกล้ จึงตอบเสียงเบาว่า “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท เรื่องนั้นในยามนี้นอกจากฝ่าบาทและข้าน้อยแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้เรื่องนี้อีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้า จะมิทรยศข้าใช่หรือไม่?” ฉินอู๋ต้าวจ้องมองเย่อู๋เชวียอีกฝ่ายพลันวิตกกั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 314

    “เวลามิเคยคอยผู้ใด หากมัวรอให้อาจารย์ของเจ้าพาคนมา จะมิสายเกินไปหรือไร”พูดจบ ฉินซูก็สะบัดแส้ควบม้าตรงขึ้นเขาไปกู้เสวี่ยเจี้ยนขมวดคิ้ว ดวงตาแสดงออกถึงความต่อต้านเล็กน้อยอย่างไรก็มาถึงขั้นนี้แล้ว นางจึงทำได้เพียงกัดฟันฝืนตามไปเท่านั้นทางขึ้นภูเขาเป็นทางคดเคี้ยวแคบ ๆ มีไม้พุ่ม และป่าไม้อยู่สองข้างทางบางครั้งก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบดังออกมาจากภายในป่าเป็นระยะ ๆเมื่อได้ยินเสียงเหล่านั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนจึงกำด้ามกระบี่ของตนแน่นตามสัญชาตญาณ ดวงตาจับจ้องไปมาในพุ่มไม้ทั้งสองข้างอย่างตื่นตัวยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้างดงามของนางยังซีดเล็กน้อย เหงื่อเย็นเริ่มซึมออกมาบนหน้าผากแล้วฉินซูเห็นท่าทีแปลก ๆ ของนาง จึงถามอย่างสงสัยว่า “กู้เสวี่ยเจี้ยน เจ้าตื่นเต้นหาปะไร?”“ตื่นเต้นที่ไหนกันเล่าเพคะ!”แม้กู้เสวี่ยเจี้ยนจะมิอยากยอมรับ แต่มิว่าจะเป็นสีหน้าเครียด ๆ หรือมือที่กำด้ามกระบี่แน่นของนางก็เผยความลับนั้นออกมาอย่างลึกซึ้งฉินซูดูเหมือนจะนึกอะไรออก เขายิ้มที่มุมปากเล็กน้อย“มิใช่ว่าเจ้าเป็นโรคกลัวรูหรอกใช่หรือไม่?”กู้เสวี่ยเจี้ยนอึ้งไป ก่อนถามอย่างสงสัย “โรคกลัวรูคืออะไร?”“ก็เวลาที่เจ้าเห

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 315

    เห็นดังนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนจึงกล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึมว่า “เป็นไปได้ ท่านรออยู่ที่นี่ หม่อมฉันจะเข้าไปดูเอง”พูดจบ นางก็ใช้วิชาตัวเบา กระโดดมิกี่ครั้งก็ลงมาถึงหน้าปากถ้ำอย่างมั่นคงนางชำเลืองมองเข้าไปในถ้ำ มือข้างหนึ่งจับกระบี่ ส่วนอีกข้างถือพับไฟ ค่อย ๆ เดินเข้าไปภายใต้แสงไฟสลัวของพับไฟ กู้เสวี่ยเจี้ยนเห็นตะเกียงน้ำมันที่ติดอยู่บนผนังตรงมุมปากทางเข้าเมื่อจุดตะเกียงน้ำมันแล้ว ภายในถ้ำก็สว่างขึ้นในทันที“ถึงขนาดมีตะเกียงน้ำมันด้วย ดูท่าว่าที่นี่คงเป็น…”เสียงที่ดังขึ้นกะทันหันทำให้กู้เสวี่ยเจี้ยนตกใจสะดุ้งนางหันไปมองก็พลันตีอกตัวเองและตำหนิว่า “ท่านคิดจะทำให้หม่อมฉันตกใจตายหรืออย่างไร? มาถึงแล้วก็มิบอกกันสักคำ”ฉินซูถามอย่างตกตะลึง “มิใช่อย่างนั้น ข้าปีนมาเสียงดังขนาดนี้ เจ้ามิได้ยินหรือ?”“เมื่อกี้ท่านปีนขึ้นมาจริง ๆ หรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนเบิกตากว้างด้วยความมิเชื่อ“มิเช่นนั้นข้าจะทำอย่างไรเล่า ข้าไม่มีวรยุทธ์ ทำได้เพียงต้องปีนขึ้นมา”พูดจบ ฉินซูก็กวาดสายตามองรอบ ๆ ถ้ำมินานหลังจากนั้น เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นเนื่องจากภายในถ้ำนี้มีเพียงกำแพงหินขรุขระ นอกจากปากทางเข้าก็ไม่มีเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 316

    กู้เสวี่ยเจี้ยนก้มหน้าลงมองบาดแผลโดยมิรู้ตัว รู้สึกหน้ามืดเวียนศีรษะ จากนั้นก็เอนตัวล้มลงไปข้างหลังอย่างมิสามารถควบคุมได้ฉินซูก้าวพรวดเดียวเข้าไปโอบประคองนางไว้ แล้วอุ้มนางไปยังเตียงหินที่มุมห้องนี่เป็นครั้งแรกที่กู้เสวี่ยเจี้ยนถูกบุรุษอุ้มไว่เช่นนี้ แก้มของนางจึงขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายนางพยายามดิ้นและกล่าวอย่างขุ่นเคืองว่า “ฉินซู ท่านคิดจะทำอะไร ปล่อยหม่อมฉันลงเดี๋ยวนี้”ฉินซูวางนางลงบนเตียงหิน กล่าวด้วยสีหน้าขึงขังว่า “ข้าจะช่วยดึงลูกธนูออกให้ เจ้าต้องอดทนหน่อย”“มิ… มิต้อง หม่อมฉันทำเองได้”กู้เสวี่ยเจี้ยนพูด พลางพยายามจะยกมือขึ้น แต่ในยามนั้น นางก็ต้องตกใจเมื่อค้นพบว่า ตนมิเหลือเรี่ยวแรงแม้แต่จะยกมือ ร่างทั้งร่างอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงฉินซูเห็นดังนั้นก็บ่นอย่างมิสบอารมณ์ “ในยามคับขันเช่นนี้แล้วยังจะมาห่วงเรื่องชายหญิงมิสมควรใกล้ชิดกันอะไรกันอยู่ได้ หากมิรีบถอนพิษออกอีก ชีวิตเจ้าจะรักษาไว้มิได้แล้ว”กู้เสวี่ยเจี้ยนรู้ในข้อนี้ดี จึงจำต้องพยักหน้า “เช่นนั้นท่านก็ทำเถิด แต่อย่าได้คิดล่วงเกินหม่อมฉัน มิเช่นนั้น หม่อมฉันจะตัดมือท่านแน่!”ฉินซูชำเลืองมองนาง แต่ก็มิได

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 317

    หลังจากดูดพิษซ้ำไปหลายครั้ง สีดำม่วงรอบบาดแผลของกู้เสวี่ยเจี้ยนก็จางลงมากกู้เสวี่ยเจี้ยนในยามนี้อ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปทั้งตัว ใบหน้าน่ารักขึ้นสีแดงระเรื่อราวกับผลแอปเปิลสุกเมื่อเห็นฉินซูมิสนอันตราย ช่วยดูดพิษให้นาง กู้เสวี่ยเจี้ยนก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมา สายตาที่มองไปยังฉินซูก็เริ่มมีความหมายคลุมเครือขึ้นนางยกมือขึ้นโดยมิรู้ตัวและกดศีรษะของฉินซูไว้ มิให้ริมปากเขาปล่อยออกจากร่างของนางฉินซูขมวดคิ้ว พยายามจะดันมือนางออกในตอนนั้นเองมีเสียงหญิงสาวตะโกนขึ้นจากข้างหลัง!“ฉินซู กู้เสวี่ยเจี้ยน พวกท่านช่างหน้ามิอายเสียจริง!”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ ฉินซูก็รู้สึกตกใจ พลันกลืนพิษลงไปโดยมิทันระวัง“แค่กแค่กแค่ก… อั่ก...”เขารีบผละตัวออกจากการกดยึดของกู้เสวี่ยเจี้ยน และก้มตัวลงอาเจียนอย่างรุนแรงแต่พิษที่กลืนลงไปแล้วก็มิสามารถอาเจียนออกมาได้กู้เสวี่ยเจี้ยนเห็นฉงชูโม่ จึงรีบอธิบายว่า “ชูโม่ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าถูกธนูอาบพิษยิงเข้า องค์รัชทายาทกำลังช่วยดูดพิษให้ข้าก็เท่านั้น”ฉงชูโม่มองไปเห็นลูกธนูเปื้อนเลือดตกอยู่ข้าง ๆ อีกทั้งยังเห็นว่าบาดแผลที่หัวไหล่ของกู้เสวี่ยเจี้ยนซึ่งยั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 318

    ในตอนนี้ กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ฟื้นตัวกลับมาแล้ว แรงกำลังของนางก็กลับมาได้มากนางเดินมายังข้างกายฉินซู ยื่นมือออกมาแล้วกล่าวว่า “องค์รัชทายาท เดรัจฉานวิชาเช่นนี้ มอบให้อาจารย์ของหม่อมฉันจัดการเถิด”“ในเมื่อมันเป็นเดรัจฉานวิชา ก็ทำลายไปเสียเถอะ จะเก็บไว้หาปะไร” ฉินซูกล่าวจบก็ฉีกตำราลับเล่มนั้นทิ้งทันทีเมื่อเห็นดังนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็มิได้กล่าวอะไรฉงชูโม่จึงพูดขึ้นว่า “ในเมื่อกู้ตงเฟิงมิอยู่ที่นี่ พวกเราก็ลงไปจากภูเขากันเถิด”ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย หันไปถามกู้เสวี่ยเจี้ยนว่า “เจ้าเดินเองได้หรือไม่?”“หม่อมฉันก็แค่บาดเจ็บที่หัวไหล่เท่านั้น มิใช่เจ็บที่ขาหรือเท้า แน่นอนว่าย่อมเดินเองได้”“เช่นนั้นก็ไปกันได้แล้ว ชูโม่ เจ้าช่วยดูแลนางด้วย”ฉินซูกล่าวจบก็เดินไปที่ปากถ้ำเมื่อใกล้ถึงปากถ้ำ ฉินซูสังเกตเห็นว่าที่มุมหนึ่งมีปากถ้ำเล็ก ๆ อีกแห่งหนึ่งเขาเดินเข้าไปดูให้เต็มสองตา พบว่าภายในถ้ำนั้นมืดมิดมากฉงชูโม่เดินตามมา แล้วนำพับไฟออกมาพวกเขาจึงเห็นว่าในถ้ำนี้มีหลุมขนาดกลางอยู่หลุมหนึ่งในหลุมนั้นเต็มไปด้วยโครงกระดูกฉินซูนับคร่าว ๆ พบว่ามีโครงกระดูกอยู่มิต่ำกว่า

Bab terbaru

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status