Share

บทที่ 556

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
จูฟางตกใจ พลันรีบพูด “ฝ่าบาท ข้าน้อยเป็นหัวหน้าโจรสลัดที่เหยี่ยนโจว ก่อนหน้านี้ได้ยินคนบอกว่า มีเรือสินค้าจากเหลียงโจวขนเสบียงข้าวแปดพันต้านและเงินหกแสนตำลึงลงใต้เพื่อบรรเทาภัยพิบัติ

และเป็นคนกลุ่มนี้เองที่ส่งข่าวแก่สายลับกลุ่มผีพรายของเราในครานี้พ่ะย่ะค่ะ

พวกเขายังบอกใบ้แก่พวกข้าน้อยว่า เรือลำนั้นไม่มีทหารคุ้มกัน อีกทั้งยังบอกว่าทางการเหยี่ยนโจวจะมิยุ่ง ให้พวกเรากระทำการได้อย่างเต็มที่

ภายหลังข้าน้อยสืบดู ก็เป็นเช่นที่พวกเขาว่า ข้าน้อยจึงคิดจะปล้นเรือลำนั้น ขอฝ่าบาททรงเมตตาข้าน้อยด้วยเถิด ข้าน้อยเพิ่งทำผิดเป็นครั้งแรกพ่ะย่ะค่ะ”

เขาพูดจบก็ก้มหัว

คนอื่น ๆ ต่างขอความเมตตา

“ขอฝ่าบาททรงเมตตา ข้าน้อยเป็นคนสนิทของท่านอ๋องซิ่น เพียงแต่ทำตามคำสั่งเท่านั้น ข้าน้อยหาได้มีความผิดไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท นี่เป็นคำสั่งของท่านอ๋องฉี พวกเราแค่ทำตามเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินหยางโกรธจัด “พวกเจ้าใส่ร้ายข้า ข้าสั่งพวกเจ้าไปปล้นเรือเมื่อใด พวกเจ้ามันชั่วช้าสามานย์ยิ่งกว่าหมูกว่าหมา มีหน้ามาใส่ร้ายข้า หรือพวกเจ้ามิอยากมีชีวิตอยู่กันแล้ว!”

ฉินอู๋ต้าวถามคนเหล่านั้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 812

    มู่หรงเซี่ยวเทียนกล่าวต่อ “ประเด็นสำคัญที่สุดคือ แค่กำลังพลเพียงหมื่นนายเขาก็สามารถทำลายล้างแคว้นศัตรูลงได้ กลศึกทั้งบุ๋นและบู๊ของเขาเหนือกว่าคนธรรมดายิ่งนัก เป็นตัวอย่างที่ดีของผู้นำที่เก่งกาจทั้งในสนามรบและการปกครอง! และที่สำคัญที่สุดคือ สถานะของเขายังสูงส่งมาก นับว่าเหมาะสมกับเจ้าอย่างยิ่ง!”เมื่อเห็นเขาพูดด้วยสีหน้าแย้มยิ้มยินดี ความอยากรู้อยากเห็นของมู่หรงอวิ๋นเจิงก็ถูกกระตุ้นขึ้น“เสด็จพ่อ ผู้ที่พระองค์ตรัสถึงคือผู้ใดหรือเพคะ? เขามีสามเศียรหกกร[footnoteRef:0]หรือเพคะ? มิเช่นนั้นเขาจะเก่งกาจปานนี้ได้อย่างไร?!” [0: สามเศียรหกกร อุปมาถึง เก่งกาจ มีความสามารถโดดเด่นเหนือคนทั่วไป] มู่หรงเซี่ยวเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “คนผู้นี้ก็คือ ฉินซู องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน!”มู่หรงอวิ๋นเจิงชะงักเล็กน้อย และอุทานด้วยความตกใจ “เสด็จพ่อ พระองค์ประสงค์ให้ลูกแต่งงานกับฉินซูหรือเพคะ”“เหตุใดเล่า เจ้ามิเต็มใจรึ?”“แต่ลูกได้ยินมาว่า รัชทายาทแห่งต้าเหยียนเป็นคนไร้ประโยชน์ รู้เพียงแต่หมกมุ่นกับสุรานารี...”“เฮ้อ ข่าวพวกนั้นก็แค่ข่าวลือเท่านั้น หากฉินซูเป็นพวกไร้ประโยชน์จริง ๆ เจ้าสำนักหอดาร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 811

    “ก่อนที่จะอุทิศตนรับใช้อ๋องฉี กระหม่อมได้เดินทางท่องเที่ยวสำรวจในยุทธจักรอยู่เป็นนิจ จึงได้ผูกมิตรภาพกับเหล่าสหายมากหลายจากต้าเหยียน บางคนเป็นจอมยุทธ์พเนจรในยุทธภพ และบางคนก็เป็นผู้ทรงเกียรติจากตระกูลราชบัณฑิตที่มีชื่อเสียงในคราที่กระหม่อมตกทุกข์ได้ยาก พวกเขาทั้งหลายต่างยื่นไมตรีให้แก่กระหม่อม เพียงแต่องค์รัชทายาทผู้รอวันปลดผู้นั้นมีอำนาจยิ่งใหญ่เกินไป กระหม่อมมิอยากลากคนอื่นมาเดือดร้อนด้วย จึงจำใจต้องหนีมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูพูดโดยมิลังเลมู่หรงหัวได้ฟังคำพูดนั้น ก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าตนเลือกคนมิผิดจริง ๆ คนที่ดำรงอยู่ในยุทธภพได้อย่างเสรีเช่นนี้ จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไรกันเล่า!เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ปลอบใจว่า "ท่านหาได้ต้องกังวลไม่ พี่ฉินผู้นี้ ข้าเคยได้พบกับเขามาแล้ว เขาเป็นคนเปิดเผย ตรงไปตรงมา มีอะไรก็พูดออกมาตรง ๆ มิเหมือนคนประเภทที่แค้นฝังหุ่นเยี่ยงนั้น!เขาเคยบอกกับข้าไว้ว่า เขามิเคยถือโทษท่านเลย อีกทั้งยังบอกด้วยว่า หากข้าตามหาท่านพบแล้วก็ให้รีบแจ้งเขา เขาจะได้มาทำความรู้จักกับท่านสักครั้ง"ใบหน้าของฉินซูเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เขาโบกมือปฏิเสธ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 810

    มู่หรงหัวปลอบใจว่า "ท่านผู้อาวุโสจูเก๋อ สิ่งที่ตัวข้าพูดเมื่อครู่ล้วนเป็นความจริงทุกประการ อีกทั้งหากมีข้าอยู่ ก็ไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้องท่านแน่!""กระหม่อมหาได้เคยพบกับองค์ชายสามมาก่อนไม่ มิทราบว่าเหตุใดท่านจึงประสงค์จะเป็นที่พึ่งแก่กระหม่อมหรือพ่ะย่ะค่ะ?"มู่หรงหัวยิ้มและไม่พูดอะไร ส่วนชีเหวยก็เอ่ยปากอธิบายว่า "ท่านผู้อาวุโสจูเก๋อ ในเมื่อท่านได้รับความไว้วางใจจากอ๋องฉี ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าท่านมีความสามารถโดดเด่นเพียงใดองค์ชายของพวกเราทรงรักและให้ค่ากับผู้มีความสามารถมาโดยตลอด จึงมิอยากเห็นท่านผู้มีความสามารถเช่นนี้ต้องถูกคนของศาลต้าหลี่จับกุมตัวกลับแคว้นต้าเหยียนไป ดังนั้นจึงเสด็จมาพบท่านด้วยพระองค์เองขอรับ!หากท่านมิรังเกียจ เหตุใดมิอุทิศตนรับใช้องค์ชายของเราเพื่อแสดงวิสัยทัศน์และอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ของท่านดูเล่า?"เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฉินซูก็มิได้แสดงท่าทีใด ๆ ในทันที หากแต่จงใจก้มหน้าลงครุ่นคิดอยู่เงียบ ๆมู่หรงหัวเห็นดังนั้นก็มิได้เร่งเร้ากระไร และเพียงรออย่างเงียบ ๆผ่านไปครู่ใหญ่ ฉินซูก็กล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย "พระองค์เสด็จมาด้วยพระองค์เอง กระหม่อมรู้สึกเป็นเกียรติอย่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 809

    “บ่าวเพิ่งได้รับรายงานข่าวว่า มีชายคนหนึ่งสวมงอบเข้าพักที่โรงเตี๊ยมเทียนหลงเมื่อหนึ่งเค่อก่อน รูปร่างหน้าตาของเขาคล้ายกับภาพวาดของท่านผู้อาวุโสจูเก๋อถึงเจ็ดแปดส่วนทีเดียวพ่ะย่ะค่ะ!”“ส่งคนไปจับตาดูให้ดี อีกเดี๋ยวข้าจะไปที่นั่น!”“น้อมรับพระบัญชา!”เมื่อบ่าวรับใช้ถอยออกไปแล้ว มู่หรงหัวก็กลับไปที่ห้องแล้วเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดา จากนั้นก็พาคนสองสามคนออกจากจวนมุ่งตรงไปยังโรงเตี๊ยมเทียนหลงหลังจากมาถึงโรงเตี๊ยมเทียนหลงแล้ว มู่หรงหัวก็สั่งว่า “พวกเจ้าคอยเฝ้าหน้าประตูไว้ อย่าให้คนที่มิเกี่ยวข้องเข้ามาได้ ชีเหวย เจ้าตามตัวข้าเข้าไป!”“ข้าน้อยน้อมรับพระบัญชา!”ทันทีที่มู่หรงหัวเข้าไป เถ้าแก่ก็เดินเข้ามาต้อนรับทันที!“คุณชาย มิทราบว่าท่านจะกินอาหารหรือพักค้างแรมหรือขอรับ?”มู่หรงหัวหยิบภาพเหมือนออกมาจากอกเสื้อแล้วถามว่า “คนผู้นี้อยู่ที่ใด?”“คนผู้นี้...” เถ้าแก่เหลือบมองภาพเหมือนผาดหนึ่ง จากนั้นก็ลังเลที่จะพูดออกมามู่หรงหัวชำเลืองมองชีเหวย อีกฝ่ายก็หยิบก้อนเงินหนึ่งก้อนออกมาจากอกทันที!ดวงตาของเถ้าแก่เป็นประกายขึ้นทันใด เขากล่าวพร้อมยิ้มประจบเอาใจ "คุณชาย คนผู้นี้อยู่ที่ห้องส่วนตัวชั้นส

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 808

    คัมภีร์ทั้งสองเล่มนี้ หนึ่งในนั้นคือคัมภีร์วิชายุทธ์ภายในของสำนัก ส่วนอีกเล่มมิน่าเชื่อว่าจะเป็นคัมภีร์มหาสัจธรรม!แม้ในใจของฉินซูจะตกตะลึงอย่างยิ่ง แต่ภายนอกเขากลับมิแสดงอาการใด และเริ่มเปิดอ่านอย่างเงียบ ๆในมิช้าเขาก็ค้นพบว่า คัมภีร์มหาสัจธรรมนี้แตกต่างจากคัมภีร์ม้วนหยกขาวอย่างมาก ดูเหมือนจะเป็นฉบับย่อเสียด้วยซ้ำที่สำคัญที่สุดคือ การฝึกตนตามเคล็ดวิชาของซ่างกวนอวิ๋นซีนี้ มิจำเป็นต้องใช้เลือดบริสุทธิ์ของหญิงพรหมจรรย์เป็นสื่อกลาง เมื่อพลิกอ่านไปจนถึงหน้าสุดท้าย ฉินซูก็ถึงกับตกตะลึงเมื่อพบว่าคัมภีร์มหาสัจธรรมจิงที่ซ่างกวนอวิ๋นซีให้มาเป็นเพียงครึ่งแรกเท่านั้น!เขาถามด้วยความสงสัย "แล้วครึ่งหลังของวิชายุทธ์นี้เล่า?"ซ่างกวนอวิ๋นซีพูดอย่างมิใส่ใจ "ครึ่งแรกนี้ก็เพียงพอให้เจ้าได้ฝึกฝนแล้ว รอจนกว่าพลังของเจ้าจะถึงระดับเสียก่อน แล้วค่อยว่ากัน""ก็ได้ งั้นข้าจะกลับห้องไปพินิจดูสักหน่อยก่อน"หลังจากฉินซูพูดจบ เขาก็เดินออกไปพร้อมกบคัมภีร์ลับในมือหลังจากผ่านไปสองชั่วยาม ฉินซูก็อาศัยความจำอันยอดเยี่ยมของตนจดจำเคล็ดวิชาของทั้งสองวิชาได้ครบทุกบทจนขึ้นใจแล้วเขามิได้เริ่มฝึกในทันที แต่กลั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 807

    "ข้าก็มิได้พูดว่าจะลงมือบัดนี้ ข้าหมายถึงรอจนกว่าเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นก่อน!""นั่นก็มิได้เช่นกัน ข้าแข็งแกร่งขึ้น ในเวลาเดียวกัน ศัตรูของท่านก็แน่นอนว่าต้องแข็งแกร่งขึ้นด้วย อีกทั้งข้ากับคนผู้นั้นก็ไม่มีเรื่องเคียดแค้นอันใดต่อกัน ข้ามิอยากเข้าไปยุ่งเรื่องวุ่นวาย"เมื่อได้ยินคำพูดของฉินซู สีหน้าของซ่างกวนอวิ๋นซีก็เย็นชาลงทันที"ฉินซู ข้าตั้งใจจะช่วยให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น เช่นนั้นข้าขอเตือนเจ้าว่า อย่าได้มิเห็นคุณค่าของผู้ที่ช่วยเหลือ!"มุมปากของฉินซูกระตุกหลายครั้ง แล้วเขาก็ถามขึ้นว่า "เช่นนั้นท่านตั้งใจจะบีบบังคับให้ข้ายอมทำตามใช่หรือไม่?""หากเจ้ามิเห็นด้วย ข้าก็มิรังเกียจที่จะใช้วิธีการบางอย่างกับเจ้า!" ซ่างกวนอวิ๋นซีพูดอย่างตรงไปตรงมาฉินซูก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความระวัง แล้วเตือนว่า “ท่านก็อย่าใจร้อนสิ มีสุภาษิตว่า แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมมิหวาน อีกอย่างเราสองคนก็หาได้สนิทกันไม่ ท่านมิกลัวว่าข้าร่ำเรียนจบแล้วจะหนีกลับต้าเหยียนหรือไร?”“ในเมื่อข้ากล้าถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้กับเจ้า แน่นอนว่าข้าต้องมั่นใจว่าจะรั้งเจ้าไว้ได้ อ้อ ใช่แล้ว มีข้อดีอย่างหนึ่งลืมบอกไป เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status