Share

บทที่ 582

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
"ข้าน้อยน้อมรับพระบัญชา"

ฉินอู๋ต้าวหันไปทางเหวินเยวี่ยนซานอีกครั้งแล้วกล่าวว่า “จงให้กองทหารรักษาการณ์ที่เขาเสียซานเดินทางไปยังเจียวโจวเสียก่อน ส่วนเรื่องอื่น รอข่าวดีจากรัชทายาทและกรมโยธาธิการ”

เหวินเยวี่ยนซานรับคำด้วยความเคารพ

สุดท้ายฉินอู๋ต้าวจึงออกไปจากพระตำหนักจินหลวนท่ามกลางสายตาเคารพนบน้อม

หวังฉือหันไปกระซิบกับฉินซูว่า “องค์รัชทายาท ที่พระองค์ตรัสถึงเมื่อครู่นั้น มีจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“แน่นอน และตัวข้าเคยใช้มันมาแล้ว”

“ธนูชนิดนั้น มีพลังถึงสองหิน แต่คนธรรมดาสามารถดึงได้จริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ฉินซูกล่าวเจือรอยยิ้มคลุมเครือ “ใต้เท้าหวังสนใจเพียงนี้ เหตุใดมิไปเยือนกรมโยธาธิการกับตัวข้าเล่า?”

หวังฉือดีใจยิ่ง “เช่นนั้น ข้าน้อยก็ขอน้อมรับพระบัญชาด้วยความเต็มใจพ่ะย่ะค่ะ!”

เนี่ยหงเข้ามาร่วมบทสนทนาด้วย “องค์รัชทายาท ข้าน้อยก็สนใจธนูชนิดนี้ด้วยเหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ!”

เหวินเยวี่ยนซานซึ่งเป็นเสนาบดีกรมกลาโหมเองก็อดกล่าวขึ้นมามิได้ “องค์รัชทายาท ข้าน้อยเองก็อยากทราบเช่นกัน มิทราบว่าจะ...”

“ในเมื่อทุกท่านสนใจเช่นนี้ ก็ไปด้วยกันหมดเถิด”

“ขอบพระทัยองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!”

หลังจากนั้น ฉินซ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Wachirawit SRP
กำลังสนุกครับ ขอติดตามต่อไปครับ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 583

    “ใต้เท้าสวี่ว่าแค่ครึ่งวันเท่านั้น เช่นนั้นเรารอพร้อมกับองค์รัชทายาทดีกว่า!”ในขณะที่พวกเขากำลังรอคอยอยู่นั้นภายในห้องทรงพระอักษร ณ วังหลวงหวงเฉาเดินเข้ามาตามคำสั่งเขาก้มลงคารวะแล้วจึงถามว่า “ฝ่าบาท มีพระประสงค์อันใดพ่ะย่ะค่ะ?”“องค์รัชทายาทเริ่มสงสัยแล้ว หากปล่อยไว้เช่นนี้ เขาต้องสืบเจอเบาะแสบางอย่างเข้าเป็นแน่”“องค์รัชทายาทเริ่มสงสัยแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ?” หวงเฉาขมวดคิ้วด้วยความคลางแคลงใจ พึมพำว่า “น่าแปลกนัก เขารู้ได้อย่างไร?”“องค์รัชทายาทในปัจจุบัน หาใช่องค์รัชทายาทที่เคยเมามัวในสุรานารีไม่ ต่อไปนี้พวกเจ้าจะทำการใดต้องระวังตัวให้มากขึ้น อีกอย่างจงไปจัดการซากศพในห้องหินนั่นให้เรียบร้อย แล้วปล่อยให้ศาลต้าหลี่ปิดคดีไป”หวงเฉาเข้าใจในทันที และกล่าวด้วยความเคารพ “โปรดวางพระทัยพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยรู้ว่าต้องทำอย่างไร”เขาคารวะอีกครั้ง และถอยออกไปฉินอู๋ต้าวยกมือเท้าศีรษะข้างหนึ่ง ริมฝีปากเผยให้เห็นรอยยิ้มเย้ยหยัน “ฮ่า ๆ องค์รัชทายาทนับวันชักจะเก่งกาจขึ้นเรื่อย ๆ ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะทำกระไรให้ข้าประหลาดใจอีกบ้าง!”......ในห้องหินอันมืดมิดชายชราผู้ขาดแขนข้างหนึ่งกำลังนั่งสมาธ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 584

    “สำเร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท สำเร็จแล้ว!”เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีของสวี่จิ้นดังมาถึงห้องรับรองกรมโยธาธิการก่อนที่ตัวเขาจะเดินออกมาเสียอีกทุกคนรับรู้ได้ถึงความตื่นเต้นของเขาจากเสียงนั้นหวังฉือและคนอื่น ๆ ลุกขึ้นยืนทันที และต่างหันขวับไปมองที่ประตู!ขณะที่พวกเขากำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ สวี่จิ้นก็เดินเข้ามาในที่สุดในมือเขาถือธนูรูปทรงแปลกตาอยู่หนึ่งคันนั่นคือธนูทดกำลังที่ฉินซูเป็นผู้ 'ออกแบบ' !เมื่อเห็นธนูคันนี้ สีหน้าของฉินซูก็พลันฉายแววประหลาดใจอย่างอดมิได้เขาคิดมิถึงว่ากรมโยธาธิการจะว่องไวถึงเพียงนี้ มิถึงสามชั่วยามก็สร้างธนูคันนี้เสร็จแล้วสวี่จิ้นเดินเข้ามาและประคองส่งธนูให้กับฉินซูฉินซูรับมาตรวจสอบอย่างละเอียดทุกส่วนไม่มีปัญหาใด ๆ ความยืดหยุ่นของสายธนูก็เป็นไปตามที่คาดหวัง!เขาจึงเอ่ยชมเชยว่า “ใต้เท้าสวี่ กรมโยธาธิการของท่านช่างมากฝีมือยิ่งนัก สามารถสร้างธนูคันนี้เสร็จได้ในเวลาอันสั้น”สวี่จิ้นกล่าวด้วยความถ่อมตนว่า “องค์รัชทายาทกล่าวชมเกินไปพ่ะย่ะค่ะ กรมโยธาธิการของเรามีช่างฝีมือประสบการณ์เฟื่องฟูที่สุดในใต้หล้า และยังมีจำนวนมิน้อยทีเดียว ขอทูลตามตรงมิป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 585

    เขาชะโงกหน้ามอง ทันใดนั้นก็ต้องตกตะลึงตาค้าง!เนี่ยหงรีบถามว่า “ใต้เท้าสวี่ ท่านทำหน้าแบบนั้น ลูกธนูขององค์รัชทายาทมิพลาดเป้าใช่หรือไม่?”“เอ่อ… พวก… พวกท่านลองมาดูเองดีกว่า”เสียงของสวี่จิ้นสั่นเครือ ใบหน้าฉายแววซับซ้อนเมื่อเห็นเช่นนั้น เนี่ยหง เหวินเยวี่ยนซาน และคนอื่น ๆ ก็เดินเข้าไปดูเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า พวกเขาทั้งหมดก็นิ่งอึ้งอยู่กับที่!ปรากฏว่าลูกธนูมิเพียงแต่ยิงถูกหุ่นไล่กาเท่านั้น แต่ยังทะลุลำต้นของต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังหุ่นไล่กาไปอีกด้วย!หัวลูกธนูแหลมคมทะลุออกมาจากด้านหลังของลำต้น!ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณเท่าปากชามทีเดียว!เวลาผ่านไปนานพอสมควร เหวินเยวี่ยนซานจึงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “คุณพระคุณเจ้า นี่มัน... มันทรงพลังเกินไปแล้ว!”“นั่นสิ จากจุดที่องค์รัชทายาทประทับอยู่ห่างออกไปประมาณห้าสิบก้าว ยังยิงทะลุลำต้นได้ขนาดนี้ หากยิงโดนคนละก็ ต้องทะลุร่างกายเป็นรูโหว่แน่”“หากระยะห้าสิบก้าวสามารถทะลุลำต้นได้ ระยะร้อยก้าวก็น่าจะฝังลึกเข้าไปในลำต้นได้กระมัง?”“องค์รัชทายาท พระองค์ลองถอยหลังไปอีกสักสิบก้าวได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูยักไหล่ “พวกท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 586

    หวังฉือและเนี่ยหงตื่นเต้นมาก พวกเขามองฉินซูด้วยสายตาราวกับมองเทพเจ้า!ตอนนี้ธนูที่ใช้การในสนามรบมีระยะยิงไกลสุดเพียงสามสิบก้าว แต่ธนูทดกำลังที่ฉินซูออกแบบมามีระยะยิงที่น่าทึ่งมากหากสามารถผลิตธนูชนิดนี้ไปใช้ในสนามรบได้เป็นจำนวนมาก ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในสนามรบได้อย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น หากกองทหารรักษาการณ์ชายแดนทางใต้สามารถใช้ธนูทดกำลังนี้ขับไล่พวกนอกด่านแคว้นหนานเยวี่ยได้ ฉินซูก็จะเป็นคนแรกที่ได้รับเกียรติยศแน่นอน!เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หวังฉือจึงรีบถามสวี่จิ้นว่า “ใต้เท้าสวี่ กรมโยธาธิการของท่านสามารถผลิตธนูทดกำลังได้หนึ่งหมื่นคันภายในระยะเวลาเท่าไร?”สวี่จิ้นมุมปากกระตุกเล็กน้อย “ใต้เท้าหวังอย่าล้อเล่นหน่อยเลย การจะผลิตธนูทดกำลังหนึ่งหมื่นคัน ท่านรู้หรือไม่ว่าต้องใช้วัสดุมากมายเพียงใด?”“กรมโยธาธิการของท่านจะขาดแคลนวัสดุได้อย่างไร?”“เฮ้อ สายธนูนี้ต้องถักทอด้วยวัสดุที่เหนียวมาก มิฉะนั้น ยิงไปมิกี่ครั้ง สายธนูก็ขาดแล้ว”“นั่นหมายความว่า ปัญหาหลักอยู่ที่การผลิตสายธนูใช่หรือไม่?”สวี่จิ้นพยักหน้า “ถูกต้องแล้ว หากแก้ปัญหาเรื่องวัสดุสำหรับทำสายธนูได้ กรมโยธาธิการของเราสา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 587

    สวี่จิ้นอธิบายว่า "องค์รัชทายาท เครื่องยิงธนูนี้ทรงพลังมาก สามารถยิงได้ไกลถึงร้อยกว่าจั้งทีเดียว ถือเป็นอาวุธสังหารที่ทรงพลังที่สุดในสนามรบเลยก็ว่าได้พ่ะย่ะค่ะ""เครื่องยิงธนูเช่นนี้คนเดียวจะใช้งานมิได้ใช่หรือไม่""ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ เครื่องยิงธนูนี้ต้องใช้คนหลายคนในการหมุนรอกเพื่อยิง เครื่องยิงธนูเครื่องหนึ่งจะต้องใช้คนประมาณสิบคนพ่ะย่ะค่ะ"ฉินซูเอื้อมมือไปสัมผัสสายธนูเส้นหนาของเครื่องยิงธนูแล้วถามว่า "สายธนูของเครื่องยิงธนูหนึ่งเครื่อง สามารถนำไปทำเป็นสายธนูทดกำลังได้กี่คัน?"สวี่จิ้นถึงกับตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับ "สายธนูของเครื่องยิงธนูค่อนข้างยาว หากจะนำไปทำเป็นสายธนูของธนูทดกำลัง คาดว่าน่าจะทำได้ประมาณหนึ่งร้อยคันพ่ะย่ะค่ะ""เช่นนั้นก็หมายความว่า หากเราถอดสายธนูของเครื่องยิงธนูทั้งห้าเครื่องออก ก็สามารถผลิตธนูทดกำลังได้เพิ่มอีกห้าร้อยคันใช่หรือไม่""จะว่าเช่นนั้นก็มิผิดพ่ะย่ะค่ะ แต่เครื่องยิงธนูเหล่านี้เป็นอาวุธสำคัญที่ใช้ข่มขวัญศัตรู หากจะถอดสายธนูออก..."เขายังมิทันพูดจบ ฉินซูก็ขัดจังหวะ "การยิงเครื่องยิงธนูแต่ละครั้งต้องใช้เวลามิใช่น้อย ๆ และยังต้องใช้กำลังคนจำนวน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 588

    ห้องทรงพระอักษรฉินอู๋ต้าวกำลังพิจารณาธนูทดกำลังในมือของเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจเขาเลิกคิ้วถาม "ขุนนางสวี่ ธนูทดกำลังนี้มีพลังมากอย่างที่เจ้าว่าจริงหรือ?""ทูลฝ่าบาท เป็นความจริงแท้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยได้ทดลองยิงด้วยตนเองหลายครั้ง ด้วยพละกำลังแขนของข้าน้อย ยังยิงสังหารศัตรูได้ไกลถึงแปดสิบจั้งพ่ะย่ะค่ะ!""แปดสิบจั้ง?!"ฉินอู๋ต้าวยังมิเชื่อ "ขุนนางสวี่ เจ้าล้อเล่นใช่หรือไม่ ธนูที่ทหารใช้กันทั่วไป ยังยิงได้ไกลสุดแค่ห้าสิบจั้งเท่านั้นตัวข้ายอมรับว่า ธนูทดกำลังนี้รูปร่างดูแปลกตาดูก็รู้ว่ามิใช่ของธรรมดา แต่ด้วยพละกำลังแขนของเจ้ายังยิงได้ถึงแปดสิบจั้งหากทหารนำไปใช้ มิยิงไปไกลถึงร้อยจั้งเลยรึ? เป็นไปมิได้"สวี่จิ้นรู้สึกอับจนหันทาง จึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม "หากฝ่าบาทมิทรงเชื่อ ก็ลองทดลองยิงด้วยพระองค์สักคราเถิดพ่ะย่ะค่ะ""ก็ได้ เฉาฉุน ไปหยิบลูกธนูมาสองสามดอก แล้วตามข้าไปที่สวนหลังวัง""พ่ะย่ะค่ะ!"เฉาฉุนรับคำแล้วรีบไปหยิบลูกธนูมาสองสามดอกเมื่อพวกเขามาถึงสวนหลังวังฉินอู๋ต้าวหยิบลูกธนูมาหนึ่งดอกมาขึ้นสายกับธนูทดกำลังเขาใช้แรงดึงเพียงเล็กน้อย สายธนูก็ถูกง้างออกแล้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 589

    เฉาฉุนกล่าวยิ้ม ๆ "ยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท มีอาวุธที่ทรงพลังเช่นนี้ การเอาชนะพวกคนนอกด่านคงขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น อีกมินานแคว้นหนานเยวี่ยคงมิกล้ารุกรานต้าเหยียนของเราไปอีกนานแน่พ่ะย่ะค่ะ!""ยังเร็วไปที่จะกล่าวเช่นนั้น ขึ้นอยู่กับว่ากรมโยธาธิการจะผลิตธนูทดกำลังได้มากน้อยเพียงใด!"......โรงเตี๊ยมเทียนเวยมู่หรงฟู่มองชายชราสองคนที่อยู่ตรงหน้า และเอ่ยถามด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “พวกท่านทั้งสอง… เป็นคนของหอดารารักษ์จริง ๆ หรือ? ไฉนข้าจึงมิเคยเห็นหน้าค่าตาของพวกท่านมาก่อน?""ทูลองค์ชาย พวกข้าน้อยเพิ่งเข้าร่วมหอดารารักษ์ได้มินาน และมีสัญลักษณ์หอดารารักษ์เป็นเครื่องพิสูจน์ ขนาดนี้แล้ว ท่านยังมิเชื่ออีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?"คูมู่รู้สึกเบื่อหน่าย หากมิใช่เพราะพระบัญชาของจักรพรรดิ เขาคงมิอยากมาที่โรงเตี๊ยมเทียนเวยแห่งนี้"หึ หากมิใช่เพราะสัญลักษณ์ของหอดารารักษ์ ข้าก็มิเสียเวลามาพบพวกท่านหรอก ว่ามาสิ เจ้าสำนักหอดารารักษ์มาหาข้าด้วยเรื่องใด?""มิใช่ท่านเจ้าสำนัก แต่เป็นพระบิดาของท่านที่ฝากข้าน้อยส่งจดหมายมาให้พ่ะย่ะค่ะ"คูมู่พูดจบก็หยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ"จดหมายของเสด็จพ่อร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 590

    หลายวันต่อมาทั้งในและนอกเมืองหลงเฉิงสงบสุข ไม่มีคดีเด็กสาวหายตัวไปอีกทำให้พวกหวังฉือต่างโล่งใจฉินซูเองก็เดินทางไปยังสำนักหอดูดาวหลวง เพื่อถามไถ่เกี่ยวกับร่างหยินสุดขั้วกับหัวหน้าโหรหลวง จึงได้ทราบว่าเหลยเจิ้นรู้เรื่องนี้น้อยมากเช่นกันด้วยความมืดแปดด้าน ฉินซูจึงกลับไปยังตำหนักบูรพาฝั่งกรมโยธาธิการเองก็เร่งผลิตธนูทดกำลังอย่างขันแข็งจนแทบไม่มีเวลาพักวันหนึ่ง หิมะโปรยปรายลงมาทั่วเมืองหลงเฉิงมินาน พื้นดินก็ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ทำให้ทั้งเมืองดูงดงามราวกับภาพวาดฉินซูกำลังชื่นชมทิวทัศน์อยู่ที่ลานหลังตำหนักบูรพาเขาหันไปทางขอบฟ้าทิศใต้ แล้วเอ่ยพึมพำกับตนเอง"หิมะตกแล้ว มิรู้ว่าสถานการณ์รบที่เมืองเจียวโจวเป็นอย่างไรบ้าง ชูโม่คงมิเป็นกระไรกระมัง"ตงฟางไป๋สาวเท้าก้าวเข้ามา "องค์รัชทายาท ใต้เท้าเหวิน เสนาบดีกรมกลาโหมขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ"ฉินซูหน้าเปลี่ยนสีไปทันที "เชิญเขาไปที่ห้องรับรอง ตัวข้าจะไปเดี๋ยวนี้""พ่ะย่ะค่ะ!"สักครู่ต่อมา ในห้องรับรองของตำหนักบูรพาเหวินเยวี่ยนซานเดินเข้ามาพร้อมกับอากาศเย็นเยียบเขาคารวะฉินซู ก่อนจะกล่าวด้วยความนอบน้อม "คารวะองค์รัชทายาท""ใต้เ

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status