Share

บทที่ 675

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
การประลองยุทธ์ของยอดฝีมือ ย่อมมิอาจเสียสมาธิได้แม้แต่น้อย!

อย่างนี้ไงเล่า ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยฉวยโอกาสเหวี่ยงกระบี่เล่มใหญ่ในมือฟาดฟันอย่างแรง

เสียง 'ฉัวะ' ดังขึ้น แขนข้างที่ถืออาวุธของชายชุดดำก็ถูกตัดขาด เลือดสด ๆ พุ่งกระฉูด สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ทันที

ชายชุดดำอีกสองคนที่เห็นท่ามิดี ก็มิพูดพร่ำทำเพลง รีบแยกย้ายกันหนีตายกันทันใด

“จะหนีไปไหน!”

ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยแผดเสียงดังลั่น กระโดดเข้าขวางชายคนหนึ่งไว้ได้

ส่วนฉงชูโม่ก็เหวี่ยงแขนฟันกระบี่ไปยังทิศที่อีกคนกำลังหนีไป

“อ๊าก!!”

ชายผู้นั้นร้องโหยหวน บาดเจ็บสาหัสล้มลงไปกองกับพื้น

ในยามนั้นเอง ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็คุมตัวชายชุดดำคนสุดท้ายไว้ได้!

ฉงชูโม่ขมวดคิ้วถาม “เกิดอันใดขึ้น? ไฉนเจ้าถึงมาต่อสู้กับคนของเผ่าหรงตะวันตกได้?”

“เรื่องมันยาว ไว้ข้าจะเล่าให้เจ้าฟังทีหลัง ว่าแต่ไฉนเจ้าจึงนำคนมากมายเช่นนี้กลับมา เกิดเรื่องใหญ่ที่หลงเฉิงหรือ?”

ฉงชูโม่ลังเลเล็กน้อย แต่แล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้อีกฝ่ายฟัง

ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยกล่าวด้วยใบหน้าตกตะลึง “มิจริงน่า? อ๋องฉู่กล้าซ่องสุมกำลังพลเพื่อก่อกบฏหรือ?!”

“น่าประหลาดใจมากใช่หรือไม่? ยามนั้นข้าก็รู้สึกม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 676

    ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “นี่ปะไรเล่า ยังมีเจ้าอีกทั้งคน มีเจ้าช่วยข้าก็มิถือว่าตัวคนเดียวแล้ว อีกอย่างคนที่ข้าต้องจัดการจริง ๆ มิใช่ชนเผ่าหรงตะวันตกทั้งหมดเสียหน่อย”“แล้วคนที่เจ้าต้องจัดการเป็นใครกันแน่?”“ในชนเผ่าหรงตะวันตกมีสำนักจันทราโรหิตอยู่ คราวนี้ข้าจะจัดการกับพวกเขาโดยเฉพาะ มหาปุโรหิตของสำนักจันทราโรหิตมีวรยุทธ์แก่กล้า ด้วยวรยุทธ์ของข้า ยังมิมั่นใจว่าจะรับมือไหว”ฉงชูโม่เลิกคิ้วขึ้น ซักถามต่อ “มหาปุโรหิตกระไรนั่นก็เป็นครึ่งก้าวย่ำสวรรค์ด้วยหรือ?”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยกำลังจะส่ายหน้า แต่เมื่อไตร่ตรองดูดี ๆ เขาเหมือนนึกกระไรบางอย่างได้ จึงพยักหน้าเขากลัวว่าฉงชูโม่จะมิยอมอยู่ช่วย จึงกล่าวเสริมอีกว่า “ชูโม่ กองกำลังของอ๋องฉู่พวกนั้นมิได้มีอาวุธติดตัว ปล่อยให้พวกตงฟางไป๋พาพวกเขากลับไปก็พอแล้วอีกอย่าง หากเจ้าอยู่ที่หลงโย่ว หลังจากจัดการเรื่องสำนักจันทราโรหิตเสร็จ เจ้าก็รอองค์รัชทายาทแล้วค่อยกลับหลงเฉิงพร้อมกับพระองค์ก็ได้มิใช่หรือ”คราวนี้ฉงชูโม่รู้สึกเอนเอียงเข้าแล้ว แม้จะรู้ว่าฉินซูได้รับชัยชนะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ แต่เรื่องรายละเอียดปลีกย่อยบางอย่างนางก็อยากรู้เช่น

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 677

    “กักตนบำเพ็ญเพียรครึ่งปี ในที่สุดก็ทะลวงผ่านคอขวดได้สำเร็จ มิเสียแรงที่เตรียมการมานานนับปี!”ขณะที่พูด เขาก็สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างใต้ฝ่าเท้าเมื่อก้มลงมองก็พบว่าเป็นจดหมายที่เซวียหมิงและจ้าวอวี้เสวียนทิ้งไว้ให้เขาก่อนลงจากภูเขาไปเขาเปิดอ่านดูครั้งหนึ่ง สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นในทันใดจากนั้นร่างของเขาก็พุ่งทะยานหายลับไปจากเชิงเขาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ เพียงชั่วพริบตาก็ไร้ร่องรอย!วันรุ่งขึ้นในหุบเขาที่อยู่ห่างจากทางใต้ของเจียวโจวประมาณเจ็ดถึงแปดสิบลี้ ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่กำลังยืนอยู่บนก้อนหินใหญ่พลางจ้องมองไปยังทางใต้เขาคือเจ้าสำนักอสนีบาต ถานเทียนเต๋อ!ในเวลานี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร มือกำด้ามดาบแน่น“ศิษย์พี่เจ้าสำนัก พวกเราซุ่มโจมตีเรียบร้อยแล้ว รอเพียงองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดนั่นผ่านมาก็จะดักจับพวกเขาไว้ในหุบเขานี้ได้แล้วขอรับ!” เหยียนซงศิษย์น้องของเขาเดินเข้ามารายงานถานเทียนเต๋อพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวเสียงต่ำว่า “วันนี้ เพื่อแก้แค้นให้ซินหลาน ข้าจะสังหารฉินซูด้วยมือของข้าเอง!”พูดจบ เขากับเหยียนซงก็ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านใบดกหนาแน่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 678

    ทันใดนั้นเอง พลธนูสองนายก็กระโดดออกมาจากด้านหลังชิวก่วนพวกเขาใช้ระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่ผูกติดกับลูกธนู จุดไฟแล้วปล่อยสายธนูฟิ้ว ฟิ้ว!ลูกธนูที่ยิงออกจากธนูทดกำลังนั้นเร็วราวสายฟ้าแลบ พุ่งไปยังเนินเขาทั้งสองด้าน“แย่แล้ว หลบเร็ว!”ถานเทียนเต๋อที่ซุ่มอยู่ในพุ่มรับรู้ถึงอันตรายที่กำลังมาถึงอย่างเฉียบแหลม จึงตะโกนเสียงดังลั่น คนที่อยู่ด้านหลังเขาก็เคลื่อนไหวทันทีเมื่อได้ยินเสียง!ทว่ายังช้าไปก้าวหนึ่ง!ตู้ม ตู้ม!!แม้ว่าลูกธนูที่ยิงไปถึงเนินเขาด้านหนึ่งจะพลาดเป้า แต่ลูกธนูอีกดอกกลับตกท่ามกลางกลุ่มคนด้านหลังถานเทียนเต๋อพอดีทันใดนั้นเอง เหล่าลูกศิษย์สำนักอสนีบาตก็ถูกแรงระเบิดอัดจนล้มระเนระนาด หลายคนนอนร้องครวญครางอยู่บนพื้น สองคนในนั้นถึงกับแขนขาขาดกระจุย สภาพน่าสยดสยองนักเมื่อเห็นภาพนั้น ถานเทียนเต๋อก็เผยสีหน้าตกใจสุดขีดลูกธนูที่ดูจะมิได้วิเศษวิโสกระไรกลับมีอานุภาพร้ายแรงถึงเพียงนี้!ในขณะที่เขากำลังตกตะลึงอยู่นั้น ทางด้านชิวก่วนก็เผยมีสีหน้าประหลาดใจออกมา!“ให้ตาย มีคนซุ่มโจมตีพวกเราจริง ๆ ด้วย ใครก็ได้ ยิงถล่มมันเสีย!”เขาสั่งการอีกครั้ง พลธนูจึงหยิบธนูทดกำลังขึ้นมาผูกระเบิด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 679

    เมื่อลูกทรงกลมตกลงพื้นก็แตกออกพร้อมกับปล่อยควันพิษพวยพุ่งออกมากลุ่มใหญ่“กระจายออกไป เร็วเข้า...แค่ก ๆ ...”คนของสำนักอสนีบาตสูดควันพิษจนสำลักไอโขลก ๆ หลายคนหน้ามืดสติหมดสติไปเลยก็มีเมื่อเห็นว่าทั้งอาวุธลับและระเบิดควันพิษทำกระไรฉินซูมิได้ ถานเทียนเต๋อก็โกรธจนแทบคลั่ง!“ข้าชักจะโมโหแล้ว! ทุกคนจงฟังคำสั่ง ตามข้าไปฆ่าเจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลดกับพวกพ้องให้สิ้น!”“น้อมรับบัญชาท่านเจ้าสำนัก!”ทุกคนตอบรับพร้อมเพรียงเป็นเสียงเดียว แล้วกรูกันลงเขาพร้อมกับชูอาวุธในมือราวกับฝูงผึ้งแตกรัง“เป็นแค่พวกนกกระจอก ยังกล้าอวดดี!”ฉินซูยิ้มเยาะ หยิบลูกธนูมามัดหนึ่งแล้วกระทืบเท้ากับพื้น ร่างพุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศทันทีเมื่อขึ้นไปอยู่กลางอากาศ เขาก็สะบัดมือ!ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว !ลูกธนูในมือถูกห่อหุ้มด้วยปราณบริสุทธิ์อันแข็งแกร่งพุ่งออกไปกลุ่มคนของสำนักอสนีบาตยังมิทันเข้าถึงตัวชิวก่วนและพวก ก็ถูกยิงด้วยธนูจนล้มไปกองกับพื้นเป็นส่วนใหญ่เสียแล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น เหยียนซงก็รีบเตือนว่า “ศิษย์พี่เจ้าสำนัก จะจับโจรต้องจับหัวหน้าก่อน!”“ดี เจ้ากับข้าไปจัดการรัชทายาทผู้รอวันปลดนั่นด้วยกัน ส่วนคนอื่น ๆ จงบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 680

    เหยียนซงใจเต้นระรัว รีบกล่าวว่า “ตราบใดที่องค์รัชทายาททรงเมตตาไว้ชีวิตเหล่าข้าน้อย ข้าน้อยยินดีถวายสมบัติล้ำค่าของสำนักอสนีบาตให้พ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูมีสีหน้าประหลาดใจ “โอ้? สมบัติกระไร?”เหยียนซงรีบควักกล่องไม้เล็ก ๆ สลักลวดลายงดงามออกมาจากอกเสื้อ “องค์รัชทายาท นี่คือแผนที่ขุมทรัพย์ที่สืบทอดมาจากปฐมาจารย์ของสำนักอสนีบาต ว่ากันว่าในขุมทรัพย์นั้นมีทองคำ เงินและอัญมณีมากมายฝังอยู่ อีกทั้งยังมีคัมภีร์สุดยอดวิชาลับ นี่คือสมบัติล้ำค่าที่สุดของสำนักอสนีบาตเสมอมา ข้าน้อยยินดีมอบให้องค์รัชทายาทด้วยความเต็มใจพ่ะย่ะค่ะ”เขาพูดพลางยกกล่องไม้นั้นทูนขึ้นเหนือศีรษะด้วยสองมือฉินซูโบกมือขึ้นกลางอากาศ กล่องไม้นั้นก็ลอยมาอยู่ในมือของเขาโดยตรงเมื่อเห็นว่าฉินซูสามารถใช้พลังจิตเคลื่นย้ายได้ เหยียนซงก็ยิ่งตกใจหนักกว่าเดิมฉินซูเปิดกล่องไม้นั้น ด้านในมีหนังวัวสีเหลืองซีดเมื่อคลี่หนังวัวออก ข้างในก็เป็นแผนที่“ขุมทรัพย์ที่เจ้าพูดถึง อยู่ที่เป่ยเยี่ยนหรือ?”เนื่องจากเขากวาดตามองซ้ายขวาแล้วพบว่าส่วนล่างสุดของแผนที่คือเมืองที่อยู่ตอนเหนือสุดของต้าเหยียน และเหนือขึ้นไปอีกก็คือดินแดนเป่ยเยี่ยนเหยียนซงพยัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 681

    จ้าวอวี้เสวียนพยักหน้า จากนั้นทั้งสองก็เตรียมจะใช้วิชาตัวเบาหนีไปทว่าในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงแผ่วเบาเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังของทั้งสองพวกเขาทั้งสองหันกลับไปมองโดยสัญชาตญาณ ก็ต้องตกใจจนถอยกรูดไปหลายก้าว เมื่อตั้งหลักได้แล้วก็มองฉินซูที่โผล่มากะทันหันด้วยท่าทีระแวดระวังราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูร้ายฉินซูไพล่มือไว้ด้านหลังพลางพินิจมองทั้งสองด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นรูปร่างหน้าตางดงามราวดอกท้อของจ้าวอวี้เสวียน และรัศมีแห่งความสูงศักดิ์ที่แผ่ออกมาจากตัวนาง ฉินซูเลิกคิ้วถามว่า “จ้าวอวี้เสวียนหรือ?”จ้าวอวี้เสวียนมีสีหน้าประหลาดใจ พลันถามกลับเสียงหลงว่า “เจ้ารู้จักข้าด้วยหรือ?!”ฉินซูหัวเราะน้อย ๆ “เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย ครั้นที่อยู่ในถัวเฉิง ข้าได้ยินคนพูดถึงองค์หญิงอวี้เสวียนบ่อยครั้งว่ามีรัศมีสูงส่ง งดงามน่าหลงใหล วันนี้ได้เห็นกับตา จริงดังคำว่าแล้ว”“เจ้ามิเคยพบข้า ไยจึงรู้ว่าข้าเป็นใคร?”“เจ้ากับข้าต่างก็เป็นเชื้อพระวงศ์ ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของหน่อเนื้อราชวงศ์นั้นเห็นได้ชัดเจน คำถามเช่นนี้จำเป็นต้องถามด้วยรึ?”จ้าวอวี้เสวียนใคร่ครวญแล้วก็เห็นด้วย จึงกัดฟันกล่าวว่า “ฉินซู เจ้าสังหารเช

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 682

    เห็นที่ทรวงอกของเซวียหมิงปรากฏแสงสีทองวาบขึ้นอย่างกะทันหัน และรวมตัวกันเป็นคำว่า 'เสวียน' ขนาดใหญ่!กระแสพลังฝ่ามืออันรุนแรงของฉินซูเมื่อสัมผัสกับอักษร 'เสวียน' ดังกล่าว ก็สลายหายไปกลางอากาศในพริบตา“หือ?”ฉินซูอุทานด้วยความประหลาดใจ มองภาพอันน่าพิศวงนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเต็มใบหน้าสีหน้าของจ้าวอวี้เสวียนเปลี่ยนไปฉับพลัน รีบถามขึ้น “ศิษย์พี่รอง ท่านเป็นกระไรหรือไม่?”เซวียหมิงส่ายหน้า เขาอ้าปากกำลังจะพูดบางอย่างแต่แล้วก็กระอักเลือดออกมาคำโตยามนี้ กระดูกแขนทั้งสองข้างของเขาหักเป็นหลายท่อน ลมปราณในร่างกายก็ปั่นป่วนราวกับน้ำเดือด ใบหน้าซีดเผือดจนไร้สีเลือดจ้าวอวี้เสวียนตกใจมาก จากนั้นก็ตวาดใส่ฉินซูว่า “เจ้าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลด เจ้ากล้าทำร้ายศิษย์พี่ของข้า เจ้าต้องตาย สำนักไท่เสวียนของข้าจะมิปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด!”“พวกเจ้าเป็นฝ่ายลงมือก่อน บัดนี้ฝีมือมิทัดเทียมผู้อื่น ยังกล้าปากพล่อย คิดว่าตัวข้าสังหารพวกเจ้ามิได้หรือ?”เมื่อสิ้นเสียงของฉินซู เขาก็ตบฝ่ามือข้ามห้วงเวหาออกไปอีกครามวลอากาศโดยรอบปั่นป่วน จากนั้นเงาฝ่ามือแข็งแกร่งราวกับวัตถุจริงก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว“ศิษย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 683

    ดวงตาของฉินซูเบิกกว้าง เมื่อเห็นภาพมหัศจรรย์นี้ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือนี่?จากนั้นเขาก็ปล่อยกระแสพลังฝ่ามือออกมาอีกหลายครั้ง พยายามจะทำลายโล่จำแลงจากป้ายอาญาสิทธิ์นั้นลง แต่กลับพบว่าหลังจากโจมตีติดต่อกันหลายครั้งป้ายอาญาสิทธิ์นั้นก็ยังคงแข็งแกร่งราวกับหินผาป้ายอาญาสิทธิ์นั่นเป็นของวิเศษ!เมื่อคิดได้ดังนั้น ดวงตาของฉินซูก็เป็นประกายในทันที ใบหน้าฉายแววละโมบสิ่งที่เขาขาดแคลนมากที่สุดในยามนี้ก็คือของวิเศษคุ้มภัยเช่นนี้บัดนี้คงต้องคิดหาวิธีแล้ว!เขาเหลือบมองไปรอบ ๆ แล้วถามด้วยใบหน้าเปี่ยมด้วยความสงสัยว่า “จ้าวอวี้เสวียน ป้ายอาญาสิทธิ์ของเจ้า เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของผู้บำเพ็ญตนใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้เรื่องผู้บำเพ็ญตนด้วยหรือ?!” สีหน้าของจ้าวอวี้เสวียนยิ่งทวีความประหลาดใจ“ข้าต้องรู้อยู่แล้วสิ ในเมื่อพวกเจ้าเป็นพวกผู้บำเพ็ญตน จะปลิดชีพพวกเจ้าให้หมดสิ้นย่อมเป็นการยาก พวกเจ้าไปซะ วันนี้ข้าจะมิฆ่าพวกเจ้า”เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวอวี้เสวียนก็ดีใจมากนางยื่นนิ้วเรียวยาวขาวผ่องแตะป้ายอาญาสิทธิ์ ป้ายอาญาสิทธิ์นั้นก็หดวูบคืนสู่ขนาดเดิมแล้วตกลงมาบนฝ่ามือนางในขณะที่จ้าวอวี้เสวียนกำลังจะประค

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status