Share

บทที่ 99

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
“เจ้าคิดว่ามันเป็นไปได้หรือ? ว่ากันตามหลักแล้วตอนนี้เป็นเวลามื้อเย็น แต่เมืองนี้กลับเงียบสงัด ข้าเกรงว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแล้ว”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของฉงชูโม่ก็จริงจังขึ้นทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็ควรรีบเข้าเมืองไปดูว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้น”

ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย ฟาดแส้ ควบม้าลงเขาไปทันที

เมื่อเข้าไปในเมือง สภาพแวดล้อมยังคงเงียบสงบ ราวกับสุสานยามเที่ยงคืน เงียบงันไปทั่ว บรรยากาศแฝงด้วยความลึกลับ

แม้แต่บ้านเรือนโดยรอบก็ยังมืดมิด

ฉงชูโม่กลั้นหายใจมองไปรอบ ๆ บ้านเรือน แล้วกระซิบว่า “องค์รัชทายาท บ้านเรือนเหล่านี้จริง ๆ แล้วมีคนอยู่ แต่พวกเขากำลังหลบอะไรบางอย่าง หรือว่า...ที่นี่มีผีจริง ๆ?”

“เจ้าบอกว่ามิเชื่อเรื่องผีสางมิใช่รึ?”

“แต่... นี่มันแปลกเกินไป เมืองใหญ่เพียงนี้ มีบ้านเรือนมากมาย ทว่าประตูทุกบานปิดหมด แม้แต่ไฟสักดวงก็มิจุด...”

“ตรงนั้นมีโรงเตี๊ยมอยู่ ลองไปถามดูสิ”

ฉินซูดึงสายบังเหียน และม้าก็เดินไปที่โรงเตี๊ยมอย่างเร่งรีบ

“กุบกับ กุบกับ...”

เสียงกีบม้าที่คมชัดดังก้องในความมืด

เมื่อมาถึงประตูโรงเตี๊ยม ฉินซูก็เคาะประตูอย่างแรงแล้วตะโกนเรียก “เถ้าแก่ เปิดปร
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 100

    “กรรรจ์!!”เมื่อได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้าย ทุกคนในโรงเตี๊ยมก็หน้าซีดด้วยความหวาดกลัว รีบเอามือกุมหัววิ่งหนีกันอุตลุดฉงชูโม่ขมวดคิ้ว กำกริชเขี้ยวมังกรโดยมิรู้ตัว และจ้องมองที่ประตูโรงเตี๊ยมอย่างหวาดระแวงฉินซูมีสีหน้าประหลาด หันไปมองรอบ ๆ จากนั้นก็แสยะยิ้มเจ้าของโรงเตี๊ยมเร่งเร้าด้วยเสียงทุ้มต่ำสั่นเครือ “แม่นาง เป่าตะเกียงน้ำมันเร็ว มิเช่นนั้นเราทุกคนแย่แน่”ฉงชูโม่เพิกเฉยต่อเจ้าของโรงเตี๊ยมและมองออกไปนอกประตู ลังเลว่าจะออกไปดูดีหรือไม่ในขณะที่นางกำลังลังเล เสียงฝีเท้าด้านนอกก็ค่อย ๆ จางหายไปเมื่อได้ยินการเคลื่อนไหวนี้ ทุกคนในโรงเตี๊ยมก็ถอนหายใจพรืดยาวด้วยความโล่งอกเส้นประสาทที่ตึงเครียดของฉงชูโม่ก็ผ่อนคลายลง นางแอบถอนหายใจยาวฉินซูเปิดประตูโรงเตี๊ยม และเตรียมจะออกไปเมื่อเห็นเช่นนี้ ฉงชูโม่ก็คว้าตัวเขาแล้วพูดว่า “องค์... อะแฮ่ม คุณชาย ท่านจะทำอะไร?”ฉินซูตอบคำถาม “เจ้าคิดว่าคนที่อยู่นอกประตูเมื่อครู่เป็นสัตว์ประหลาดจริงหรือ?”“เอ๋? มิใช่หรือ?”ฉงชูโม่สับสนเล็กน้อยเจ้าของโรงเตี๊ยมกล่าวอย่างเคร่งขรึม “คุณชาย นั่นเป็นเสียงคำรามของสัตว์ประหลาดจริง ๆ ช่วงเวลานี้ของทุก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 101

    ในเวลานั้นเอง สัตว์ประหลาดขนแดงได้งัดกุญแจร้านค้าออก และเดินเข้าไปอย่างอุกอาจ มินานนัก สัตว์ประหลาดขนแดงนั้นก็ออกมาพร้อมกับกระสอบผ้าสีดำ เมื่อเห็นดังนั้น ฉินซูก็หัวเราะเยาะ “เห็นหรือไม่ นี่มันตั้งใจมาปล้นชัด ๆ หากเป็นสัตว์ประหลาดกินเนื้อคนจริง ๆ ตอนนี้คงกินคนไปแล้ว” ฉงชูโม่พยักหน้าช้า ๆ แววตาของนางเปลี่ยนเป็นคมกริบ! นางจับกริชไว้แน่น แล้วพุ่งเข้าใส่สัตว์ประหลาดขนแดงอย่างรวดเร็ว สัตว์ประหลาดขนแดงได้ยินเสียงแหวกอากาศ มันจึงหันกลับไปมองโดยมิรู้ตัว เมื่อเห็นฉงชูโม่พุ่งเข้ามา เขาก็อึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว!ฉงชูโม่สังเกตเห็นสายตาตื่นตระหนกของอีกฝ่าย ทำให้นางเชื่อมั่นในคำพูดของฉินซูมากขึ้นนางแค่นเสียงเย็นชา “หึ แสร้งทำเป็นผี นอนลงซะ!”เมื่อสิ้นเสียง กริชเขี้ยวมังกรในมือของนางฟาดฟันอย่างรุนแรง!ปราณแห่งกระบี่ที่รวดเร็วพุ่งออกมา!“ฟึบ!”ลูกธนูเลือดพุ่งออกมาจากน่องของสัตว์ประหลาดขนแดง และร่างของมันก็เตี้ยลงโดยมิรู้ตัวในเวลานี้ฉงชูโม่ได้เข้ามาใกล้แล้ว และเตะไปที่หน้าอกของมัน!สัตว์ประหลาดขนแดงถูกเตะกระเด็นไปหลายจั้งในทันที และสุดท้ายก็ล้มลงกับพื้นหินสีเขี

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 102

    ฉินซูมือไขว้หลังเดินมาช้า ๆ เขาเหลือบมองชายวัยกลางคนและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ถ้าข้าเดามิผิด เจ้าน่าจะเป็นคนจากที่ว่าการอำเภอ ใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉงชูโม่ก็มองไปที่ชายวัยกลางคนด้วยสีหน้าตกใจชายวัยกลางคนก็ตกใจมิแพ้กัน ความตื่นตระหนกวาบผ่านแววตาของเขา!เมื่อเห็นดังนั้น ฉินซูก็ยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่าข้าจะเดาถูก!”“เจ้าเป็นคนจากที่ว่าการอำเภอจริงหรือ?!”ฉงชูโม่ใช้กริชในมือจ่อที่คอของอีกฝ่ายอีกครั้งชายวัยกลางคนตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบพยักหน้าและพูดว่า “ใช่… ใช่แล้ว”“หากเป็นเจ้าหน้าที่ของที่ว่าการอำเภอ ไฉนต้องปลอมตัวเป็นสัตว์ประหลาดเพื่อทำชั่วด้วย?” เสียงของฉงชูโม่เย็นชาขึ้นอีกเล็กน้อยชายวัยกลางคนมีสีหน้าขมขื่นและพูดว่า “นี่เป็นคำสั่งของท่านผู้ว่าการอำเภอ ข้ามิกล้าขัดขืน”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ฉงชูโม่ขมวดคิ้วราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างนางหันหลังกลับและเปิดกระเป๋าผ้าสีดำที่ชายวัยกลางคนนำออกมาจากร้านค้าเมื่อเห็นว่าข้างในบรรจุผ้าไหมชั้นดี นางก็พูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าหน้าที่ชั่วคนนี้ กล้าละเมิดกฎหมาย ลุกขึ้น นำทางไป!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายวัยกลางคนถามด้ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 103

    ในห้องโถงใหญ่ชายวัยกลางคนชื่อเหล่าไฉเห็นจูเจิ้งเสียนก็ร้องขอความช่วยเหลือทันที“ท่านผู้ว่าการอำเภอ ช่วยด้วย ช่วยข้าน้อยด้วย...”ก่อนที่เขาจะพูดจบ ฉงชูโม่ก็เตะเข้าที่เข่าของเขา พร้อมกับสั่งอย่างเฉียบขาดว่า “คุกเข่าลง!”ร่างของเหล่าไฉทรุดลงและคุกเข่าลงกับพื้นจูเจิ้งเสียนมองไปที่ฉงชูโม่และฉินซู แล้วดุว่า “พวกเจ้าช่างกล้าจริง ๆ กล้าที่จะแตะต้องคนของที่ว่าการอำเภอของเรา นี่มันมิเคารพกฎหมายเลย จับพวกเขาทั้งสองคนเข้าคุกแล้วรอการพิจารณาคดีเสีย!”“ขอรับ!”พวกเจ้าหน้าที่ตอบรับ และกำลังจะลงมือใบหน้าสวยของฉงชูโม่พลันเย็นชา และตะโกนอย่างดุเดือดว่า “องค์รัชทายาทอยู่ที่นี่ ดูสิว่าใครกล้าบังอาจ!”เมื่อคำพูดเหล่านี้หลุดออกมา ทุกคนก็ตกตะลึงและแข็งค้างอยู่กับที่!มุมปากของฉินซูก็กระตุกสองสามครั้ง รู้สึกพูดมิออกจากนั้นเขาก็เริ่มบ่นในใจ‘เจ้าเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ แค่เปิดเผยตัวตนของเจ้า ผู้ว่าการอำเภอตัวเล็ก ๆ ผู้นี้ก็มิกล้าสร้างปัญหาให้เจ้าแล้ว ไยต้องเอาชื่อข้ามาอ้างด้วยเล่า?’จูเจิ้งเสียนมองฉินซูด้วยความประหลาดใจสองสามครั้ง รู้สึกคุ้นเคยอย่างอธิบายมิได้ จากนั้นเขาก็ถามฉงชูโม่ว่า “เจ้า… เจ้าพู

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 104

    จูเจิ้งเสียนอธิบายว่า “ที่สำนักขุนนางใหญ่รวบรวมเงินจำนวนมากจากทั่วทุกแห่ง ก็เพื่อเติมเต็มคลังหลวง และก็มิใช่ว่าทุกเมืองจะต้องส่งเงินมา ในปีนี้ดินแดนทางใต้ของเราประสบภัยน้ำท่วม ทางเหนือประสบภัยแล้ง มีเพียงเมืองสุยโจว เฉินหลิว และอีกมิกี่เมืองที่รอดพ้น ดังนั้น เงินที่จำเป็นสำหรับการบรรเทาทุกข์ส่วนใหญ่จึงตกอยู่กับพวกเรา”“หากพูดเช่นนี้ ก็เท่ากับว่าสำนักขุนนางใหญ่ปล้นคนรวยช่วยคนจนงั้นรึ?”“องค์รัชทายาทตรัสเช่นนี้ก็มิผิดพ่ะย่ะค่ะ หากมิได้รับพระบัญชาจากองค์จักรพรรดิ สำนักขุนนางใหญ่ก็คงมิกล้าเดินหมากเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูขมวดคิ้วมิพูดอะไรเขามิคิดเลยว่า การบรรเทาทุกข์จะทำให้เมืองหล่งเซียงนี้หวาดกลัวกันขนาดนี้ฉงชูโม่ถามขึ้นทันทีว่า “สำนักขุนนางใหญ่และทางจังหวัดอนุญาตให้พวกเจ้าปล้นสะดม แต่มิได้อนุญาตให้ฆ่าคนใช่หรือไม่?”“นี่… นี่…”จูเจิ้งเสียนพูดตะกุกตะกัก มิรู้จะตอบว่าอย่างไรฉินซูแค่นเสียงเย็นชา แล้วตวาดว่า “พวกเจ้าฆ่าคนไปเท่าไรแล้ว รีบสารภาพมาตามความจริงเสีย!”จูเจิ้งเสียนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ “องค์รัชทายาท เรื่องนี้กระหม่อมมิทราบแน่ชัดพ่ะย่ะค่ะ บางครั้งลูกน้องลงมืออาจจะมิรู้จักป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 105

    เมื่อที่ปรึกษาหวังทราบว่าองค์รัชทายาทเสด็จมาถึงอำเภอหล่งเซียง ก็ตกใจจนตัวสั่นเขาถามด้วยความร้อนใจว่า “ใต้เท้าจู แล้วเราจะทำอย่างไรดี?”“ใคร ๆ ก็บอกว่าองค์รัชทายาทนั้นสุรุ่ยสุร่าย แต่เมื่อครู่นี้ก็ดูมิออกเลย ตอนนี้เราคงทำได้แต่ส่งคนไปแจ้งทางจังหวัดดูว่าจะมีแผนรับมืออย่างไร”เมื่อกล่าวจบ จูเจิ้งเสียนก็สั่งทันทีว่า “เจ้าจงรีบเขียนหนังสือราชการแล้วส่งคนไปให้ถึงทางจังหวัดในคืนนี้ ห้ามมีข้อผิดพลาด!”“ขอรับ ใต้เท้าจู ข้าน้อยจะจัดการเดี๋ยวนี้!”……ยามค่ำคืนภายในจวนผู้ว่าการมณฑลสุยโจวผู้ว่าการมณฑลหานไท่กำลังหลับใหลอย่างสบายทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบดังมาจากข้างนอก พร้อมกับเสียงเรียกเบา ๆ ว่า “ใต้เท้าหาน ใต้เท้าหาน…”หานไท่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นทันที เขาตะโกนออกไปอย่างโมโหว่า “ดึกดื่นป่านนี้ ใครมาส่งเสียงดังโวยวายอยู่ข้างนอก? ถ้ายังกล้าส่งเสียงอีก ข้าจะสั่งประหารเจ้าซะ!”“ใต้เท้าหาน ข้าเอง มีเรื่องเกิดขึ้นที่อำเภอหล่งเซียงขอรับ”“นายทะเบียนเฉิน? เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”“ข้าน้อยเพิ่งได้รับเอกสารจากอำเภอหล่งเซียง บอกว่าองค์รัชทายาทเสด็จไปที่นั่นโดยกะทันหัน และยังจับพวกเขาได

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 106

    หานไท่ไขว้มือไว้ข้างหลัง ยิ้มอย่างดูถูกและพูดอย่างมิแยแสว่า “ถึงจะเป็นองค์รัชทายาท แต่เขาก็เป็นแค่คนไร้ค่าที่รู้จักแต่จะสนุกสนาน อีกมิกี่เดือนเขาก็จะถูกปลดแล้ว ข้าจะไปกลัวเขาหาปะไร! ยิ่งไปกว่านั้น คนที่อยู่เบื้องหลังข้าคือเสนาบดีกรมพระคลัง เสนาบดีหลินเป็นคนของท่านอ๋องฉี เมื่อมีท่านอ๋องฉีหนุนหลัง ข้าจะไปกลัวองค์รัชทายาทที่กำลังจะถูกปลดด้วยเหตุใดเล่า?”จูเจิ้งเสียนตั้งใจจะเตือนอีกสักหน่อย แต่เฉินควนที่อยู่ข้าง ๆ หานไท่พูดอย่างหงุดหงิดว่า “ใต้เท้าจู เลิกโอ้เอ้ได้แล้ว ไปกันเถิด ไปที่ว่าการอำเภอของท่านก่อนค่อยว่ากัน”“ขอรับ เชิญท่านทั้งสอง!”จูเจิ้งเสียนโค้งคำนับและเดินนำไปข้างหน้าอย่างนอบน้อมเมื่อผ่านร้านสุราที่ตกแต่งอย่างหรูหรา หานไท่เงยหน้าขึ้นมองป้ายโดยมิตั้งใจ จากนั้นก็พูดอย่างครุ่นคิดว่า “ใต้เท้าจู ข้าจำได้ว่าสาวงามในหอนางโลมลี่ชุนดูเหมือนจะมิเลว ท่านไปเลือกสองสามคนมาด้วยกัน อ้อ ใช่แล้ว อย่าลืมนำสุราลืมโศกมาด้วย”“ข้าน้อยรับคำสั่ง!”ประมาณสองเค่อต่อมาจูเจิ้งเสียนก็พาสตรีแต่งหน้าจัดจ้านหลายคนและไหเหล้ากลับไปที่ห้องโถงใหญ่ของที่ว่าการอำเภอ“ใต้เท้าหาน สตรีเหล่านี้เป็นสาวงามที่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 107

    “เอ่อ นี่…”จูเจิ้งเสียนมิรู้จะตอบอย่างไร จึงหันไปมองหานไท่เพื่อขอความช่วยเหลืออีกฝ่ายหัวเราะแห้งแล้วกล่าวขอโทษว่า “องค์รัชทายาททรงเดินทางมาไกล คงจะเหนื่อยมาก กระหม่อมจึงถือวิสาสะหาสาวงามมาปรนนิบัติพัดวี พร้อมกับนำสุราลืมโศกมาด้วยหลายไห นี่เป็นสุราขึ้นชื่อของอำเภอหล่งเซียงของเรา องค์รัชทายาท…”เขายังพูดมิทันจบ ฉินซูก็โบกมือแล้วถามอย่างมิใส่ใจว่า “หานไท่ เจ้าคิดจะเอาสุรานารีมาเอาใจข้ารึ?”เมื่อเห็นปฏิกิริยาของฉินซู หานไท่ก็มิรู้จะตอบอย่างไรในทันทีเฉินควนที่อยู่ข้าง ๆ รีบอธิบายว่า “องค์รัชทายาทโปรดอย่าเข้าใจผิดำพ่ะย่ะค่ะ ใต้เท้าหานเพียงเป็นห่วงว่า องค์ชายจะทรงเหน็ดเหนื่อย จึงหาคนมาปรนนิบัติ หาได้มีเจตนาอื่นใดไม่พ่ะย่ะค่ะ”“พ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท สตรีเหล่านี้มีความสามารถร้องรำทำเพลง กระหม่อมจะให้พวกนางร่ายรำให้องค์รัชทายาทได้ชมสักหน่อย”หลังจากที่หานไท่พูดจบ เขาก็ส่งสายตาไปยังหญิงงามเหล่านั้นหญิงสาวเหล่านั้นมองหน้ากัน และกำลังจะทำอะไรบางอย่างในตอนนั้น ฉงชูโม่ผู้ที่มิพูดอะไรเลย พลันได้พูดขึ้นมา!เสียงของนางเย็นชาและเยาะเย้ยว่า “ใต้เท้าหาน เหตุผลที่องค์รัชทายาทหยุดพักที่หล่งเซี

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status