Share

บทที่5

last update Huling Na-update: 2024-12-09 16:31:46

บทที่5

ตะวันคล้อยต่ำ ร่างดรุณีน้อยตระกองกอดร่างไร้วิญญาณของสตรีชราเอาไว้ เสียงร้องคร่ำครวญของนางเงียบไปได้สักพักแล้ว

แม่ครัวหนึ่งในบ่าวรับใช้ที่ค่อยแอบแบ่งอาหารเอาให้แม่นมหม่า รู้เรื่องก็รีบรุดมายังลานกลางจวน พาบ่าวรับใช้ชายที่คอยช่วยหาบน้ำในโรงครัวมาอีกหลายคน

“คุณหนูข้าช่วยเอง ท่านไม่ต้องเป็นห่วงข้าจะฝังร่างนางเป็นอย่างดี” ไม่ใช่นางไม่สงสารคุณหนูเสี่ยวถง แต่เป็นคำสั่งจากฮูหยินใหญ่ นางที่เป็นเพียงบ่าวฐานะต่ำ ถูกขายเข้ามาก็ต้องก้มหน้ารับใช้ตามคำสั่งเจ้านายเท่านั้น ไม่อย่างนั้นก็จะไม่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ภายในจวนได้ เมื่อคนจากไปแล้ว ชีวิตก็ต้องสู้ต่อไป บ่าวต้อยต่ำเช่นพวกนางก็เป็นเช่นนี้

กวนเสี่ยวถงพยักหน้ารับ ดวงหน้ายังคงเปอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา หากไม่ยอมรับความช่วยเหลือ ร่างของแม่นมก็จะถูกทิ้งเอาไว้แบบนี้

หลุมศพของแม่นมหม่าถูกฝังอยู่ที่สุสานรวม กวนเสี่ยวถงนั่งเฝ้าหลุมศพอยู่แบบนั้นไม่ขยับเขยื้อนกาย

“นางอยู่ที่ไหน” กวนหยงเหอได้รับรายงานว่าแม่นมหม่าตายแล้ว ร่างอวบท้วมยิ้มเยาะ กวนเสี่ยวถงไร้ซึ่งคนที่ไว้ใจคอยดูแล หากต้องเดินทางไปต่างแคว้นก็ไร้ซึ่งที่พึ่ง นางจะต้องพึ่งพาเขาผู้ซึ่งเป็นบิดา

“คุณหนูยังอยู่ที่สุสาน นางยังนังนั่งเฝ้าอยู่หน้าหลุมศพเจ้าคะ”

“ปล่อยไปให้ไม่ต้องสนใจ ใกล้ถึงเวลาก็เอาชุดพวกนี้ไปให้นางใส่แล้วพาไปถึงเกี้ยวที่หน้าประตูเมือง อย่าให้มีอะไรผิดพลาด ชีวิตของคนทั้งแคว้นถูกกำหนดเอาไว้ถึงแค่พรุ่งนี้”

“เจ้าคะ”

“ท่านพี่ของข้าฉลาดล้ำ กำจัดนางออกไปจากจวนได้โดยไม่ต้องถูกผู้อื่นครหา อีกทั้งยังสร้างผลงานครั้งยิ่งใหญ่” กวนฮูหยินนั่งจิบชา นึกดีใจที่สามีกำจัดกวนเสี่ยวถงออกไปจากจวนได้เสียที่ นางเป็นถึงลูกคุณหนูตระกูลใหญ่แต่งออกเรือนอย่างยิ่งใหญ่กับจองหงวน ไม่คาดคิดช่วงที่นางตั้งครรภ์ สามีกลับพาผู้หญิงคนหนึ่งกลับมาด้วย เป็นเพียงสตรีไร้หัวนอนปลายเท้าจากป่าเขา แต่กลับมีฐานะในจวนเทียมนาง โชคดีที่นางทำตัวเองให้มีหมดรัก แต่ถึงอย่างนั้น ข้าเกลียดเจ้าเหมยฮวา

กวนหยงเหอพยักหน้ารับ ถึงแม้แคว้นจะแพ้สงคราม ไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางใด แต่เขาสร้างบุญคุณใหญ่หลวงให้แก่บ้านเมือง ฮองเต้ต้องเห็นเขาอยู่ในสายตามากกว่าเดิม ตอนนี้ขอเพียงเมื่อกวนเสี่ยวถงไปอยู่แคว้นจ้าว นางจะต้องทนไม้ทนมือรัชทายาทมีชีวิตอยู่ให้นานที่สุดพอให้เขากอบโกยผลประโยชน์ให้ได้

ใกล้ฟ้าสางสาวใช้หลายคนลากกวนเสี่ยวถงออกมาจากสุสาน ไร้การขัดขืน ไร้การต่อสู้ อย่างที่ทุกคนกังวล ให้ทำอะไรกวนเสี่ยวถงก็ทำตามเงียบ

ดรุณีน้อยอายุเพียง 16 หนาว ในชุดเจ้าสาวสีแดงก้าวขึ้นเกี้ยวแดง ไม่มีแม้คนครอบครัวมาส่ง ชาวเมืองหลายร้อยชีวิตมองภาพนั้นด้วยแววตาเวทนา จากคุณหนูตระกูลใหญ่บุตรสาวเสนาบดี ได้เลื่อนฐานันนดรเป็นถึงองค์หญิงเพียงวันเดียว ก็ต้องจากแคว้นไป หากเลือกได้พวกเขาที่เป็นสามัญชนอยากเป็นเช่นนางหรือไม่ พูดได้อย่างไม่อายไม่มีใครอยากเป็นนาง แม้จะนึกขอบคุณที่นางนั้นเสียสละตนเองเพื่อทุกคนแต่ เรื่องราวของนางอีกไม่นานก็ไม่มีผู้ใดจดจำได้นางหาใช่วีรบุรุษที่กอบกู้แคว้น เป็นเพียงองค์หญิงที่แต่งออกเรือนไปเท่านั้น

รถม้าเจ้าสาวค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากประตูเมืองหลวง โดยการคุ้มกันจากทหารแคว้นจ้าวหลายร้อยนาย แม้ไม่รู้ว่าเหตุใดองค์รัชทายาทอยากได้องค์หญิงแคว้นเว่ยเพื่อยุติสงคราม ทั้งๆ ที่แค่พังประตูเมืองเข้าไปพระองค์ก็สามารถสั่งเป็นสั่งตายทุกชีวิตได้

แต่ก็นั้นล่ะพวกเขาได้แค่คิด ใครจะไปอาจหาญขัดคำสั่งพระองค์กัน แม้ทุกวันนี้ยังดำรงค์ตำแหน่งเป็นรัชทายาทแต่อำนาจในมือกลับเหนือยิ่งกว่าฮองเต้เสียอีก แล้วฮองเต้ก็ไม่เคยไม่พอพระทัยที่บุตรชายมีอำนาจเหนือกว่า ออกจะดูพออกพอใจด้วยซ้ำ ตั้งแต่รัชทายาทอายุ 16หนาว ก็บุกตะลุยยึดดินแดนไปทั่ว แคว้นจ้าวจากแคว้นเล็กๆ ก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แม้จะทำสงครามตลอดเวลาราษฎรไม่เคยบ่น ทุกครัวเรือนอยู่ดีกินดี ก็เพราะของบรรณาการของเมืองขึ้นที่แพ้สงครามนั้นล่ะ

เสียงสะอื้อไห้ดังออกมาจากรถม้า นายทหารหลายคนมองหน้ากันส่งสายตาแปลกให้ก่อนเสมองพื้นเบื้องหน้า

องค์หญิงจะโศกเศร้าที่ต้องการบ้านเมืองก็ไม่แปลก เมื่อครู่ตอนที่นางขึ้นรถมัาพวกเขาเห็นนางยังคงเยาว์วัยยิ่งนักแถมคนที่ต้องแต่งยังเป็นคนผู้นั้น ขนาดพวกเขาที่เป็นทหารเดนตาย เห็นเลือดเห็นคนตายไม่รู้เท่าไร แต่ทุกครั้งที่คนผู้นั้นปรากฏตัวอยู่ไม่ไกล พวกเขาก็พลันหายใจลำบาก เย็นเฉียบไปถึงขั้วหัวใจ

กวนเสี่ยวถงนั่งอยู่ในรถม้านางมองประตูเมืองหลวงที่ค่อยๆ ห่างไปเรื่อยๆ มือบางกำพู่หยกของมารดาที่แม่นมเก็บรักษาเอาไว้ให้นางไว้มั่น วันหนึ่งนางจะกลับมาที่นี่อีกคร้ัง

“ข้าจะกลับมาแล้วเผาพวกเจ้าทุกคนด้วยไฟโทสะที่พวกเจ้าทั้งหมดทำเอาไว้กับข้า”

สักวันหนึ่งนางจะกลับมา และทุกคนต้องมองนางด้วยสายตาหวาดกลัวหาใช่แววตาตาสมเพชเวทนา โดยเฉพาะคนในสกุลกวน

ที่แม่นมไม่ให้นางใช้พลัง นางรู้ดีว่าเพราะเหตุใด แม่นมย้ำและคอยเตือนเสมอ แต่ด้วยความยังเด็กกวนเสี่ยวถงก็มักจะดื้อรั้น อยากใช้พลังที่มีก้าวผ่านความเจ็บปวดจากการถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว

“ข้าจะรอวันที่ข้าอายุ 18 วันที่ปราณแท้ของข้าสมบูรณ์” เสียงเล็กๆ เข่นเขี้ยวออกมาด้วยความคับแค้น

ที่แม่นมไม่ให้นางใช้พลังเพราะหากใช้ต่อหน้าคนอื่น แค่ไฟดวงเล็กหรือความร้อนเพียงเล็กน้อยไม่อาจหยุดคนที่มุ่งจะทำร้ายนางได้ กวนเสี่ยวถงก็ต้องใช้พลังจากปราณ หากปราณยังไม่สมบูรณ์ฝืนใช้พลังไปอาจธาตุไฟเข้าแทรกไม่วิปลาสก็ตาย

ผู้เฒ่าตระกูลมู่หรงพาสายเลือดทั้งหมดที่เหลืออยู่เล้นกายหายเข้าไปในหุบเขาอู่ไถ ตัดทางโลก เพื่อที่จะไร้ซึ่งกิเลส ไร้ซึ่งความโกรธก็ไร้ซึ่งพลัง ด้วยพลังปราณพิเศษที่สืบทอดมาในสายเลือดนั้นคือไฟโลกัลต์ ยิ่งมีความโกรธเกลียดมากเท่าใดพลังก็จะยิ่งรุนแรง

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • องค์หญิงบรรณาการผู้ถูกลืมเลือน   ตอนพิเศษ

    พิเศษสุดๆหนึ่งบุรุษผู้ครอบครองพลังปราณแห่งปฐพี ควบคุมพื้นดินทั้งใต้หล้าเอาไว้ในฝ่ามือ แต่ไม่ว่าจะมีพลังมากเท่าใดกลับยิ่งกลายเป็นดาบสองคมมากเท่านั้น เขาต้องหลบซ่อนตัวตนจากคนของพรรคมาร มีชีวิตรอดด้วยนามของผู้อื่นอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาตั้งแต่จำความได้ แต่แล้ววันหนึ่งหัวใจของเขานั้นกลับกลับสยบลงแทบเท้าสตรีอ่อนแอนางหนึ่งเท่านั้น เขาและนางฐานะแตกต่างกัน แต่เขาก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่เคียงข้างนางสตรีนางหนึ่งนางเติบโตมาด้วยไฟแค้น จิตใจของนางหล่อหลอมและเติมเต็มไปด้วยเปลวเพลิง ภายใจของนางนั้นเต็มไปด้วยโทสะที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ นางคือผู้ครอบครองพลังปราณแห่งไฟกัลป์ แต่ไม่ว่าเปลวไฟนั้นจะร้อนเพียงใดหัวใจดวงน้อย ๆ ของนางกลับถูกความเย็นฉ่ำจากสายน้ำของบุรุษผู้หนึ่งชโลมล่อเลี้ยงจิตใจบุรุษอีกคน ผู้ที่ครอบครองพลังปราณวายุและปราณวารี บุรุษผู้เดียวในรอบหลายพันปีที่สามารถใช้พลังปราณได้ถึงสองสาย ผู้ที่คนทั้งใต้หล้าหวาดกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้ ไม่ว่าเขาย่างกายไปที่ใด แคว้นนั้นมักจะมีสงครามเสมอ เขาก่อสงครามไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เพื่อรวบรวมหมายจะครอบครองทุกดินแดนให้เป็นหนึ่งเดียว เขามีปณิธานแรงกล้าที่จะรวม

  • องค์หญิงบรรณาการผู้ถูกลืมเลือน   ตอนพิเศษ

    บทที่29 ตอนพิเศษ“แอ๊ะ”“แอ๊ะ”สองทารกน้อยหมุนควงติ้วลอยอยู่บนอากาศ มีร่างสูงใหญ่ชูสองมือรอรับอยู่ไม่ห่าง“แอ๊ะ” ทารกหญิงนิ้ว บอกให้ตามมา“แอ๊ะ” ทารกชายตอบ กำลังตามไปทารกน้อยสองคนลอยไปทางซ้ายที ขวาที วนเวียนอยู่ในวังรัชทายาท ร่างสูงใหญ่ถลาตัวตาม เป็นอยู่แบบทั้งวัน จนเขาเหนื่อยหอบ“เด็กๆลงมาได้แล้ว พ่อวิ่งตามไม่ไหวแล้ว” ร่างสูงใหญ่พูดด้วยเสียงเหนื่อยหอบปานจะขาดใจ“คิกๆ” ได้ยินเสียงหวานหัวเราะจ้าวหยุ่นหลงหันมาค้อนขวับ“น้องหญิงเจ้าไม่คิดจะช่วยพี่บ้างเลยเหรอ”“ไม่ล่ะ” กวนเสี่ยวถงหยักไหล่ นั่งเปิดหนังสือดนตรีอ่านเนื้อเพลงต่อ นางกำลังฝึกเล่นบทเพลงใหม่ จ้าวหยุ่นหลงภาวนาให้นางตั้งครรภ์ทันทีหลังพิธีเสกสมรสระหว่างเขากับนาง พิธีถูกจัดขึ้นทันทีที่นางและจ้าวหยุ่นหลงกลับมาถึงแคว้นจ้าว เขาคะยั้นคะยอให้นางร่วมหอกับเขาทุกคืน ไม่มีเว้นว่างแม้แต่วันเดียว ในเมื่ออยากมีทายาท นางก็อุ้มท้องให้แล้ว “มีทายาททีเดียวพร้อมกันสองคน พระธิดามีพลังปราณลมและน้ำ พระโอรสได้พลังปราณลมและไฟ สมใจท่านพี่แล้วไม่ใช่หรือ ข้าอุ้มท้องให้แล้ว ท่านอยากมีก็เลี้ยงเอง บ่าวรับใช้มีใครเลี้ยงลูกท่านได้บ้างล่ะ ไม่ถูกจับลอยขึ้นฟ้าก

  • องค์หญิงบรรณาการผู้ถูกลืมเลือน   บทที่29

    บทที่28เปลวไฟถอดยาว ร่างบางเดินตามเส้นทางนั้นไปเรื่อยๆ จุดหมายปลายทางอยู่ที่ใดนางมิอาจรู้ได้ รู้แต่ว่าเปลวไฟช่วยให้หัวใจที่เคยหนาวเหน็บอบอุ่น ไม่ว่านางจะเคยถูกผู้ใดกระทำ ไม่ว่านางจะไม่เคยอยู่ในสายตาของใครต่อใคร แต่นางยังมีเปลวไฟอยู่เคียงข้างเสมอกวนเสี่ยวถงเดินตามเปลวไฟไป มองเห็นสุดปลายทาง นางใกล้ถึงจุดหมายแล้ว“คุณหนูช้าก่อน”ร่างบางหยุดชะงัก เสียงนี้นางจำได้ไม่เคยลืม น้ำตาเรื้อนเต็มดวงจากลม กวนเสี่ยวถงมองสตรีที่ปรากฏกายที่สุดปลายของเปลวไฟ“แม่นม” เสียงของรางสั่นเครือ“คุณหนูเดินกลับไปเจ้าค่ะ อย่าเดินมาทางนี้”“ไม่ข้าจะไปหาท่าน” กวนเสี่ยวถงส่ายหน้า ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า“คุณหนูรับปากกับข้าเอาไว้อย่างไร คุณหนูลืมแล้วหรือเจ้าค่ะ”ร่างบางหยุดเดิน “มีชีวิตอยู่ต่อไป” นางตอบเสียงแผ่วเบา“เจ้าคะ มีชีวิตอยู่ต่อไป”“แต่ข้าไม่เหลือใครแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว ข้าเผาทำลายทุกอย่างจนหมดสิ้นแล้ว” กวนเสี่ยวถงส่ายหน้าทั้งน้ำตา นางจะอยู่คนเดียวไปเพื่ออะไร“มีคนที่รอคุณหนูอยู่”“เขาคนนั้นหวังแค่พลังของข้า”“คุณหนูเจ้าค่ะ ข้ารู้ว่าท่านเชื่อสิ่งที่จ้าวหยุ่นหลงพูด เพียงแต่ท่านกลัวว่าเขาจะหักหลังท่าน ทำท่าน

  • องค์หญิงบรรณาการผู้ถูกลืมเลือน   บทที่27

    บทที่27จ้าวหยุ่นหลงอุ้มร่างบางแนบอก กวาดสายตาไปทั่วบริเวณหาว่าที่ใดพอที่จะสามารถวางนางลงและรักษาอาการบาดเจ็บภายในได้ ตัวนางร้อนเป็นไฟจนเขากลัว อกแกร่งบีบรัดจนน้ำตาแทบจะร่วงลงมา เรียกให้องครักษ์ชางตามหมอเป็นการด่วน“เสี่ยวถง เจ้าต้องไม่เป็นไร” เมื่อพบบริเวณที่ไม่ติดไฟก็รีบวางนางลง มือหนาคลำหาชีพจรของนาง คว้าหาจุดที่นางบาดเจ็บแต่ก็ ‘ไม่พบ’ มือยังคงกุมนางไม่ไว้แน่น เขาไม่กล้าปล่อยมือนี้ หากปล่อยเขาอาจต้องเสียใจไปจนวันตาย มุมปากของนางมีเลือดไหลอยู่ก่อนแล้ว ตอนนี้เริ่มมีเลือดไหลออกมาจากจมูก ลมหายใจของนางแผ่วเบามากลงเรื่อยๆ ร่างบางนั้นนอนแน่นิ่ง แทบไม่เหมือนคนที่ยังหายใจอยู่เลยด้วยซ้ำ บรรยากาศรอบๆตรึงเครียด แทบไม่มีเสียงใดๆแม้กระทั้งเสียงลมพัดผ่านไม่นานหมอหลวงที่รักษาอาการของเขาตั้งแต่ลงเขาอู่ไถก็รีบวิ่งเข้ามาพร้อมองครักษ์ชาง“รัชทายาท ขอหม่อมฉันตรวจดูอาการพระชายา ขอพระองค์หลบออกมาก่อน”ชางเจี้ยเห็นจ้าวหยุ่นหลงยังคงนิ่งเฉย กระชากแขนแกร่งให้ลุกออกมา“นาง…ชีพจรของนางไม่มี” จ้าวหยุ่นหลงครางเสียงแผ่ว “พระองค์ได้โปรดใจเย็นก่อน พระชายาถึงมือหมอแล้ว พระนางต้องปลอดภัย” ชางเจี้ยตบบ่าแกร่งไปหลาย

  • องค์หญิงบรรณาการผู้ถูกลืมเลือน   บทที่26

    บทที่26“เด็กน้อย เจ้าจะฆ่าข้าอย่างนั้นหรือ” เสียงเย็นเฉียบดังออกมาจากด้านหลังไป๋เมิ่งเหยียนนางเฝ้ารอเวลานี้มาเนิ่นนานเหลือเกินแม้ว่าเบื้องหน้าจะมีแค่ ปราณสามสาย แต่ก็ยังดีกว่าไร้ค่า พอรู้เรื่องกวนเสี่ยวถง นางให้คนคว้านหาทั้งหุบเขาอู่ไถในที่สุดก็เจอคนตระกูลมู่หรง แต่ไม่เจอทายาทที่สามารถกำเนิดบุตรสายต่อไปได้ ในเมื่อไม่มีประโยนช์และไม่คิดที่จะเข้ามาเป็นสาวกของนาง จะเก็บไว้เป็นหอกข้างแคร่ทำไมกัน ไม่นึกว่าการปักหลักรอที่แคว้นเว่ย กวนเสี่ยวถงจะกลับมาให้จับเองถึงมือ“ท่านป้า ไม่เจอกันนาน” จ้าวหยุ่นหลงรีบเอาตัวมาบังสตรีของตนไว้“ไม่เจอกันานเลยนะจ้าวหยุ่นหลง เมื่อไรเจ้าจะยอมมีทายาทให้ข้า”“ต่อให้ข้ามีทายาทก็ไม่เคยคิดจะมอบให้ท่าน”“ไป๋ลู่หลานข้าเจ้าไม่สนใจนางสักหน่อยหรือ นางชอบเจ้ามาตั้งแต่เล็ก” ไป๋เมิ่งเหยียนเดินเข้าไปใกล้จ้าวหยุนหลง เบื้องหลังของนางมีคนที่ใช้ปราณได้เกือบห้าสิบชีวิต ต่อให้เขาเก่งเพียงใดก็ไม่มีทางสู้นางได้“ข้าไม่เคยมองหลานสาวท่านแบบนั้น” หากนางไม่ใช้น้องสาวไป๋อี้ผิง เขาหรือจะเสวนากับคุณหนูเอาแต่ใจตน เสียเวลา อย่าไปคิดถึงขั้นมีลูกด้วยกันเลยไม่มีวัน“เจ้าคือกวนเสี่ยวถงสินะ” น

  • องค์หญิงบรรณาการผู้ถูกลืมเลือน   บทที่25

    บทที่25“ที่ข้ามาไม่ได้มาเยี่ยมธรรมดา ข้ามีธุระสำคัญจะคุยกับท่านพ่อ” เมื่อดื่มชาเสร็จแล้ว กวนเสี่ยวถงคิดว่าคงถึงเวลาเข้าเรื่อง นางปั้นสีหน้าไม่เก่ง“ข้าก็มีเรื่องจะคุยกับเจ้า เจ้าน่าจะรู้ว่าข้าไม่ได้รับราชการ ดูจากการแต่งตัวของเจ้าตอนนี้คงเป็นที่โปรดปรานของรัชทายาท” “พระชายาของข้าต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว” จ้าวหยุ่นหลงพูดออกมาด้วยท่าทีสบายๆ ดวงหน้าหยกมองกวนเสี่ยวหยงตลอดเวลา ไม่ได้สนใจผู้ใดที่อยู่ในห้องรับรอง“เสี่ยวถง พ่อเจ้าก็แก่แล้วตอนนี้ก็ไม่มีงานทำ เจ้าได้ดิบได้ดีเพราะบิดายกเจ้าให้ฮองเต้ ถ้าอย่างไรเจ้าพอจะจุนเจือบิดาของเจ้าได้หรือไม่” กวนฮูหยินเห็นช่องก็รีบเสนอ คลังสมบัติจวนเหลือใช้ได้อีกไม่กี่ปี“แน่นอนเจ้าคะ ข้ากลับมาเพื่อตอบแทนบุญคุณของตระกูลกวน” รอยยิ้มเผยออกมา แต่แววตาของนางวาววับราวเปลวไฟ“ถ้าอย่างไง เจ้าขอตำแหน่งในราชสำนักให้ข้าด้วยได้หรือไม่” พอนางพูดแบบนนั้นมีเหรอคนอย่างกวนหยงเหอจะพลาด“ข้าจะให้ทุกอย่างที่ท่านพ่อต้องการ ต่อให้ท่านอยากได้ตำแหน่งเดิมข้าก็จะขอจ้าวหยุ่นหลงให้ แต่ก่อนจะทำแบบนั้นท่านช่วยตอบคำถามข้าก่อน”“ได้สิ เจ้าถามมาเลย” ชายชราดีใจที่จะได้กลับคืนตำแหน่

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status