Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-11-05 11:10:53

บรรยากาศยามค่ำคืนบนสะพานปงต์เดซาร์กลางกรุงปารีสช่างเหน็บหนาวเกินกว่าจะมีใครบ้าบิ่นมายืนอยู่ตรงนี้ สะพานข้ามแม่น้ำแซนเชื่อมต่อพื้นที่สำคัญอย่างหอไอเฟลและพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ในคืนที่พระจันทร์มืดสนิท ทำให้แสงไฟสีส้มที่ประดับบนสะพานทำงานได้อย่างเต็มที่ น่าแปลกที่สถานที่สวยงามขนาดนี้กลับไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตอื่นใดนอกจากลูเซีย กรอสเวอเนอร์ มาเฟียผู้เป็นเจ้าของบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับโลกอย่างลุกซ์

ที่นี่คือสถานที่แรกที่เขาได้พบกับแฟนสาวซึ่งเป็นนักศึกษาจากสถาบันการทำอาหารชั้นนำในประเทศ และในวันนี้ก็เป็นวันครบรอบสองปีที่ทั้งคู่ตกลงคบกันอย่างเป็นทางการ ในวันนี้นอกจากลูเซียจะตั้งใจบอกให้เธอรู้ว่าตนเองเป็นใคร อีกหนึ่งความตั้งใจของเขาคือสิ่งที่กำลังซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อสูทสีดำ

แหวนเพชรรูปพระจันทร์เสี้ยวมูลค่าหลายล้านปอนด์ เขาเป็นคนออกแบบมันสั่งทำด้วยตนเอง ใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่ตัวเรือนจนถึงเพชรที่ประดับบนตัวแหวนทุกเม็ด ตั้งใจพามันมาคุกเข่าขอแฟนสาวแต่งงานที่นี่ตรงนี้ สถานที่ที่เราได้พบกันครั้งแรกและอีกไม่กี่วันเธอก็จะเรียนจบ เขาอยากให้คนตัวเล็กใช้ชีวิตที่นี่ต่อโดยมีเขาเป็นครอบครัวของเธอ

(คุณชาลีมาแล้วครับนาย...)

เสียงบอดีการ์ดดังผ่านหูฟังไร้สายบอกให้เตรียมตัวให้พร้อม ลูเซียยกมือจับผมที่เซตมาอย่างเนี้ยบของตนเองอีกครั้ง ไม่ลืมที่จะเช็กลมหายใจเผื่อเวลาที่ได้ประกบริมฝีปากมอบจูบให้กันจะได้ไม่พลาด

เมื่อคนตัวสูงมองตามทิศทางที่คนในหูฟังบอก จึงได้พบกับร่างเล็กน่าทะนุถนอมในเสื้อคอเต่าสีดำกันหนาวค่อยๆ เดินพ้นเนินสะพานขึ้นมา กระทั่งพบว่าในมือมีกระเป๋าลากใบใหญ่ถือติดมือมาด้วย

จะไปไหน ไปเที่ยวลียงอย่างที่เคยบอกไว้หรือเปล่า

ลูเซียเก็บความสงสัยนั้นเอาไว้ในใจ เพราะเกรงว่าหากถามเรื่องอื่นออกไปจะทำให้ลืมคำพูดที่ตนเองซ้อมพูดหน้ากระจกค่อนคืนไปจนหมด

“ที่รัก” เขาเอ่ยเรียกด้วยสรรพนามที่คุ้นเคยกันนับตั้งแต่วันแรกที่ตกลงเป็นแฟน แอบลอบมองสร้อยจี้พระอาทิตย์กับพระจันทร์ที่สวมอยู่บนคอ ซึ่งตนเองเป็นคนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดในปีนี้ด้วยรอยยิ้มภูมิใจ

น่ารักมาก ใส่ติดตัวตลอดเลยสินะ

“พี่เรียกฉันออกมาวันนี้มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

เสียงหวานของคนตัวเล็กเรียกให้มาเฟียหนุ่มกลับมาสนใจเรื่องสำคัญอีกครั้ง สายตาคมเปลี่ยนมามองหน้าสวยที่วันนี้ไร้รอยยิ้มแตกต่างจากทุกวันก็อดแปลกใจไม่ได้

“ที่รักมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” ลูเซียถามด้วยความเป็นห่วง ไม่ว่าอะไรที่เป็นปัญหาของเธอ เขามั่นใจว่าจะจัดการมันได้ “ชาลี...”

“ถ้าพี่ยังไม่พูด ขอฉันพูดก่อนได้ไหมคะ”

น้ำเสียงจริงจังของชาลี ทำให้ชายหนุ่มเลือกที่จะเงียบและฟัง

หญิงสาวตรงหน้าสูดอากาศเข้าปอด ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนปรนลมหายใจออกมาเชื่องช้า ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่เคยสดใสวันนี้กลับเข้มขึ้นจนมาเฟียหนุ่มสงสัยว่าอะไรทำให้คนรักของเขารู้สึกทุกข์ได้ขนาดนี้

“ที่รัก...”

“ฉันต้องกลับบ้านวันนี้...หมายถึงที่ไทย”

สิ้นคำพูดจากแฟนสาว ก็มีเพียงเสียงลมพัดหวีดหวิวในฤดูหนาวกับเสียงลมหายใจของคนทั้งคู่ดังในความเงียบ ลูเซียตัดสินใจปิดเสียงจากหูฟังก่อนจะเก็บมันเข้าไปในกระเป๋า เพื่อคุยเรื่องสำคัญได้สะดวกยิ่งขึ้น

“แล้วจะกลับมาอีกวันไหน หรือจะให้พี่ไปรับ”

“ฉันคงไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว พี่ก็รู้ว่าบ้านฉันไม่มีเงิน”

ทำไมเขาจะจำไม่ได้ ชาลีเคยบอกว่าเธอมีโอกาสมาเรียนที่นี่และได้เจอกับเขาก็เพราะทุนจากรัฐบาล

“ต้องกลับไปใช้ทุนเหรอ จ่ายเงินแทนได้ไหม พี่จะจ่ายให้”

“ฉัน...ต้องกลับไปแต่งงานกับคนที่พ่อแม่หาไว้ให้”

น้ำเสียงราบเรียบที่เปล่งออกมาไม่ต่างจากน้ำเย็นสาดใจคนฟัง จากที่ตกใจว่าคนรักต้องกลับบ้านเกิดก็กลายเป็นความสับสนกับเหตุผลที่ชาลีต้องกลับบ้าน

แต่งงาน?

แล้วเขาล่ะ!?

“ชาลี พูดเรื่องอะไร แล้วความผูกพันของเราล่ะ” มือหนาเอื้อมไปจับมือที่กำลังบีบด้ามจับกระเป๋าแน่น “ที่รักเราคบกันมาสองปี แล้ววันนี้พี่ตั้งใจจะ...”

“พี่ให้ฉันกลับเถอะนะ! ในสังคมที่ฉันอยู่...ความผูกพันมันไม่ได้สำคัญเท่าความกตัญญู”

คำพูดบาดลึกหลุดออกมาจากปากคนตัวเล็กอีกครั้ง มืออีกข้างของชาลีค่อยๆ จับมือหนาออกจากการเกาะกุม

ลูเซียมองหน้าแฟนสาวด้วยความสับสน อยากจะตะโกนถามว่าเรื่องเหี้ยอะไรกัน แต่เขาในตอนนี้ช็อกจนเรียบเรียงคำพูดของเธอไม่ถูก ได้แต่เก็บสิ่งที่ชาลีพูดมาตั้งคำถามว่าทำไม ทำไม และทำไม

“เรื่องเงินหรือเปล่า แต่งงานใช้หนี้เหรอ? เอาเงินพี่ไปสิ ไม่ต้องแต่ง!!”

“ไม่ใช่เรื่องเงิน! พี่เข้าใจฉันเถอะนะ ให้เราเลิกกันแค่นี้และอย่าข้องเกี่ยวกันอีก ไม่ต้องจดจำกันเลยยิ่งดี” มือเล็กจับมือของเขามาแนบแก้มตนเองช้าๆ ก่อนจะวางมันลงข้างลำตัวของคนตัวสูงอย่างเบามือ “พี่ลืมฉันเถอะนะ ฉันเองก็จะลืมพี่เหมือนกัน”

ดวงตาสีเทามองตามร่างเล็กที่กำลังลากกระเป๋าเดินกลับไปทางเดิม ก่อนที่ภาพตรงหน้านั้นจะค่อยๆ ถูกบดบังเลือนรางด้วยม่านน้ำตาจนมองไม่เห็นว่าคนรักของตนเองเดินไปต่อในทิศทางใด

ดวงตาสีเทามูนสโตนลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดของห้องนั่งเล่นภายในห้องพักส่วนตัวชั้นบนสุดของตึกลุกซ์ ลิมิเต็ด นาฬิกาดิจิทัลระบุเวลาว่าคือตีสองและได้เริ่มวันใหม่แล้ว แต่คนยังจมอยู่กับอดีตอย่างเขายังถือแก้วเหล้าอยู่ในมือ

แม้เหตุการณ์ในวันนั้นจะผ่านมาเกือบหกปี แต่ทุกครั้งที่เขาเผลอลืมมัน เรื่องในคืนนั้นมักจะกลับเข้ามาฉายภาพซ้ำในความฝัน เป็นการตอกย้ำว่าอย่าลืมเรื่องนี้ไปซะล่ะ

มาเฟียหนุ่มวางแก้วลงบนโต๊ะกระจกลามิเนตก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง ใช้นิ้วเรียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวตนเองออกทีละเม็ดระหว่างเดินย้ายตำแหน่งจากห้องนั่งเล่นผ่านห้องนอน กระทั่งถอดมันออกบริเวณอ่างล้างหน้าภายในห้องน้ำตามด้วยกางเกงขายาว จากนั้นจึงเดินเปลือยเปล่าก้าวเท้าเข้าไปยืนใต้เรนชาวเวอร์ในโซนเปียก

ฝักบัวค่อยๆ ปล่อยน้ำเย็นให้ไหลลงมาดับความร้อนรุ่มในอก พร้อมๆ กับสมองที่หวนคิดคำนึงถึงเรื่องราวในอดีตต่อจากภาพในฝัน

ในช่วงครึ่งปีแรกที่เลิกกัน เขาออกไปรอเธอที่สะพานแห่งนั้นทุกวัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับวันที่ชาลีจากเขาไป ลูเซียยอมรับอย่างน่าไม่อาย ว่าเขารอคอยอย่างมีความหวัง มั่นอกมั่นใจเหลือเกิน ว่าความรักที่มีให้กันตลอดสองปีไม่ได้หายไปกับคำพูดคำว่า ‘เลิกกัน’ แค่ครั้งเดียว

จนกระทั่งเวลาผ่านไปหนึ่งปีเต็ม เขาถึงได้ตาสว่างว่าผู้หญิงที่รักไม่มีทางกลับมา คำว่าเลิกกันของเธอคือเลิกจริงๆ ชาลีกลับไปบ้านเกิดอย่างที่พูดไว้ เจ้าหญิงของเขาเลือกที่จะกลับไปใช้ชีวิตกับคนที่พ่อแม่เลือกให้และทิ้งเขาเอาไว้กับความทรงจำตรงที่แห่งนี้

หลายปีที่ไม่มีเขาอยู่ มีความสุขกันขนาดไหนคงไม่ต้องบอก หลักฐานคือลูกที่เป็นพยานความรักกับผัวใหม่ ทั้งที่เพิ่งพังทลายความรักที่สร้างมาด้วย แต่สีหน้ากลับไร้ความรู้สึกผิดเสียใจแม้แต่น้อย

ครั้งก่อนเขาอาจจะแพ้เพราะความอ่อนแอของตนเอง

แต่ในเมื่อวันนี้พระเจ้าให้โอกาสเขาให้กลับมาเจอเธออีกครั้ง คนอย่างลูเซีย กรอสเวอเนอร์ก็จะรับมันเอาไว้ด้วยความยินดี

วันนั้นชาลีอาจจะหนีเขาได้ แต่การกลับมาเจอกันครั้งนี้เขาจะไม่ปล่อยเธอหายไปไหนอีก หากจะตายก็ตายกับเขาตรงนี้

หึ! หนีกลับมามีผัวใหม่ ก็นึกว่าชีวิตจะไปได้ไกลกว่านี้

สุดท้ายก็กลับมาอยู่ใต้ตีนเขา

เมื่อก่อนเขาอาจจะเป็นคนมีมารยาทไม่ตามสืบเรื่องของแฟนสาวที่คบกัน ไม่ทำตัวน่ารังเกียจด้วยการให้คนคอยตามติดหรือคอยรายงาน แต่นับจากวันที่ผู้หญิงคนนั้นทิ้งเขาให้จมอยู่ในความทุกข์ตราบกระทั่งได้พบกันวันนี้

ยอมรับว่าทั้งรักและเกลียด

รักเหมือนได้เจออีกครึ่งชีวิตที่เคยหล่นหาย

แต่ยังคงเกลียดกับสิ่งที่เธอกระทำกับเขาจนตายทั้งเป็น!

»»-------✧-------««
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อดีตรักร้ายของคุณชายมาเฟีย   บทที่ 97

    “ปั้นขอโทษแทนลูกด้วยนะคะ ไม่รู้จะสอนยังไงแล้ว” กระทั่งผู้เป็นแม่ยังยอมแพ้ “ไม่เลยค่ะ น้องไข่หวานฉลาดและน่ารักมาก ฉันยังอยากมีลูกแบบนี้เพิ่มอีกสักคน” เธออยากมีลูกสาว แม้ลูกชายตัวน้อยจะเป็นละมุนบอยและอ่อนหวานสำหรับหม่ามี้อย่างชาลีขนาดไหน แต่การมีลูกสาวไว้คอยจับแต่งตัวเป็นอีกหนึ่งความฝัน “อยากมีล

  • อดีตรักร้ายของคุณชายมาเฟีย   บทที่ 96

    กว่าจะหาทางไล่กลับบ้านไปได้แต่ละคน ลูเซียต้องนั่งกอดอกจิ๊ปากแล้วจิ๊ปากอีก คนแรกก็พ่อกับแม่ที่เห่อหลาน “พ่อกับแม่กลับไปนอนได้แล้ว” “แม่ยังตาใสปิ๊งอยู่เลย สี่ทุ่มเมืองไทยเท่ากับห้าโมงเย็นฝรั่งเศส แม่อยู่เล่นกับหลานได้จนถึงตีสองตีสามแหนะ” มิเชลละสายตาจากการมองโนเอลวิ่งตามรถของหลานชายต้อยๆ มาตอบ

  • อดีตรักร้ายของคุณชายมาเฟีย   บทที่ 95

    พวงกุญแจเครื่องบินไม่ได้หายาก มันถูกวางไว้บนเบาะบริเวณที่ลูกนั่งริมกระจก ชาลีเข้าใจว่าคลาวด์อาจจะเล่นแล้วเผลอวางและลืมเอง ติ๊ง! ลิฟต์โดยสารเปิดออกบนห้องพักชั้นบนสุด เมื่อบอดีการ์ดทำหน้าที่อารักขาหน้าห้องเปิดประตูให้เข้าไปข้างในคนตัวเล็กก็ชะงักกับความผิดปกติภายในห้องพัก นอกจากไฟทุกดวงจะถูกปิด แ

  • อดีตรักร้ายของคุณชายมาเฟีย   บทที่ 94

    การเดินทางมาที่วัดใช้เวลานานพอสมควร แต่เมื่อถามถึงเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ ลูเซียกลับตอบสั้นๆ ว่าเพื่อนของเขาแนะนำ เพราะเป็นวัดที่ครอบครัวฝ่ายแม่ยายของเซนอุปถัมภ์ เมื่อก้าวเท้าลงจากรถยนต์พร้อมกับลูกชาย สายตาของลูกก็เอาแต่มองไปยังชุมชนฝั่งตรงข้ามวัดด้วยความสนใจ จนผู้เป็นพ่อ

  • อดีตรักร้ายของคุณชายมาเฟีย   บทที่ 93

    ‘มันไม่ใช่หลานกู!! ลูกมึง มึงก็เลี้ยงเอง!!’ เสียงของนิ่มผู้เป็นแม่แท้ๆ เอ่ยขึ้นก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีออกจากบ้านไปบ่อนท้ายหมู่บ้าน แต่ยังไม่ทันจะได้วิ่งไปคว้าลูกที่ถูกยายผลักล้มหน้าคะมำขึ้นจากพื้น เสียงของพงศ์ก็ตะโกนเรียกมาจากหน้าบ้าน ‘ชาลี!! เอาเงินมาให้กูซื้อข้าว กูหิวข้าว’ พงศ์ส่งเสียงดังพร้อม

  • อดีตรักร้ายของคุณชายมาเฟีย   บทที่ 92

    เงียบ... ไม่มีใครตอบเธอได้สักคน หรือการโกรธเกลียดใครสักคนมันไม่ต้องมีเหตุผลรองรับ “ต่อไปอย่ามายุ่งกับพวกเราอีก วันนี้พ่อกับแม่คงเห็นแล้วว่าพ่อน้องคลาวด์ทำอะไรได้บ้าง” ไม่อยากจะขู่บุพการีไปมากกว่านี้ เพราะตายไปก็ไม่ได้อยากกลายเป็นเปรต “เผื่อพ่อแม่จำไม่ได้ ตั้งแต่ฉันเกิดมาพ่อกับแม่ก็ทิ้งฉันให้ยายเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status