"จากนี้ไปเหมยคือผู้หญิงของกู..! ถ้ามึงไม่ฟังกูจะให้มึงไปเฝ้ายมบาลซะ...ลากตัวมันออกไปให้พ้นหน้ากู..!" กูยอมแล้ว อย่าทำอะไรกูเลย เสียงไอ้ธงโวยวายลั่น "ไม่เป็นไรแล้ว ผมมาช่วยคุณแล้ว" อาชาตอบด้วยน้ำเสีนงอ่อนโยน
View Moreสุทธิดา ธรรมรงค์รัก ชื่อเล่นเหมย หรือฉายาเหมยลี่ หญิงสาวอายุ 27 ปีมีอาชีพเป็นนักเขียนนิยาย ค่อนข้างจะอินโทรเวิร์ดเพื่อนน้อยแต่ส่วนใหญ่มักเป็นเพื่อนแท้
เหมยมักจะชอบหมกตัวอยู่แต่ในห้องแต่งนิยายไปวัน ๆเพื่อหาเลี้ยงชีพ แต่ฐานแฟนคลับของเหมย หนาแน่นไปด้วยนักอ่านที่รักและซัพพอร์ต เธอค่อนข้างดังในโลกออนไลน์แต่ไม่มีใครเคยเห็นตัวตนของนักเขียนนิยายคนนี้ที่ชื่อว่า "นิรนามกระดาษสีดำ" ด้วยความเขียนงานที่เป็นเอกลักษณ์จนแฟน ๆ ต้องกรี๊ดแทบจะพากันฟินจิกหมอนในไลฟ์สไตล์การเขียนงานที่ออกแนว bad boy ของพระเอกธงแดงจนออกดำปี๋ เหมยที่แต่งตัวเสื้อยืดตัวโคร่งใหญ่ด้วยกางเกงบอลเลขโปรดของเธอคือเลข 8 เธอบอกว่ามันเป็นเลขมงคลสำหรับเธอ ผมที่ถูกขมวดเป็นปมดูเผิน ๆ เหมือนจะยุ่งรุงรังแต่กลับโดยมีสไตล์สาวแว่น เหมยมีเพื่อนสาวชื่อว่าเจสสิก้า อายุ 27 ปีรุ่นราวคราวเดียวกับเหมย เจสซี่เป็นลูกครึ่งไทยออสเตรเลียที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนเพื่อนรักของเหมย ทั้งสองติดต่อกันผ่านโลกออนไลน์ตลอดระยะเวลาหลายปี ถึงเหมยจะไม่ค่อยมีเพื่อนมาก แต่เพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวของเธอคือเจสซี่ วันนี้เจสซี่เพื่อนรักของเธอเดินทางกลับมาเที่ยวประเทศไทยสิ่งแรกที่เจสซี่ทำคือพุ่งตรงไปหาเพื่อนรักอย่างเหมย สาวร่างเล็กที่สวมเสื้อบอลเบอร์ 8 สีแดงพร้อมกับแว่นหนาเตอะ ผมที่ขมวดเป็นปมจนดูยุ่งเหยิงยืนอยู่ที่แอร์พอร์ทสนามบินเพื่อรอรับเพื่อนรักอย่างเจสซี่ สาวสวยมั่นอกมั่นใจหุ่นแซ่บพริกร้อยไร่สวมใส่ชุดกระโปรงสีแดงรัดรูปรอง เท้าบูทสีแดง ผมยาวถึงสะโพก พร้อมกับปากที่ถูกฉีดด้วยฟิลเลอร์จนดูอวบอิ่ม กำลังเดินเฉิดฉายลงมาจากเครื่องบินเท้าแตะถึงแผ่นดินประเทศไทยนั่นคือเจสซี่เพื่อนรักของเหมย "hey you..! เพื่อนรักของฉัน"เจสซี่ที่มักจะวีดีโอคอลหาเหมยเป็นประจำ เพียงแค่มองมาแต่ไกลร้อยเมตรก็จำได้ว่านั่นคือเพื่อนรักของตัวเอง เหมยที่ได้ยินเสียงของเจสซี่ก็หันไปตามเสียงนั้น พร้อมกับส่งรอยยิ้มจนเห็นฟันขาวให้เพื่อนรัก ไม่ต้องบอกว่าใครเป็นคนวิ่งมากอดกันก่อนแน่นอนว่าต้องเป็นเจสซี่อยู่แล้ว "เธอไม่เห็นบอกว่าจะมารับฉัน"เจสซี่ดีใจที่เพื่อนรักใส่ใจความรู้สึกและแคร์ความรู้สึกของตัวเองมากขนาดนี้ "ก็เซอร์ไพรส์ไงเจสซี่ ปกติฉันไม่ได้ออกมารับใครง่าย ๆ นะจ๊ะ ฉันคิดถึงแกมากเลย แกสบายดีใช่ไหมเพื่อนรัก" คนที่เพื่อนน้อยอย่างเหมย แต่มีเพื่อนที่จริงใจเพียงหนึ่งเดียวก็มากเกินพอ ถึงแม้จะอยู่ห่างกันคนละซีกโลกแต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองกับไม่ได้ดูห่างเหินเลยแม้แต่น้อย "ฉันซื้อของมาฝากแกเยอะแยะเลย ฉัันบอกให้อยู่บินไปหาฉันบ้าง แกก็ไม่ยอมมาเลยนะเหมย"เพื่อนรักอย่างเจสซี่ตัดพ้อ "ฉันก็อยากไป แต่ว่าฉันติดต้องส่งต้นฉบับบก.ให้ทันปิดในเดือนหน้า แกดูสภาพฉันก่อนจะเป็นซอมบี้เดินได้อยู่แล้ว.!" สองเพื่อนรักต่างพากันเข็นรถเข็นสัมภาระออกจากสนามบิน โดยมีเหมยเป็นคนขับรถพาเพื่อนรักกลับไปที่บ้านพักที่อยู่ในสวนห่างไกลผู้คน "ยัยเหมยอยู่ยังอยู่ที่เดิมหรอเนี่ย" เจสซี่ที่เดินมาถึงบ้านหลังเดิมที่ถูกตกแต่งประดับประดาไปด้วยดอกไม้และรอบ ๆ มีบ่อปลาคาร์ฟที่เหมยรักมากเป็นพิเศษ "ฉันก็อยู่ที่เดิม แกจะให้ฉันไปไหนยัยเจสซี่วัน ๆ ฉันก็อยู่กับสวนเล็ก ๆ รดน้ำต้นไม้เสร็จก็ไปปั่นต้นฉบับสุดธิดาบอกเพื่อนรัก "ฉันว่านะแกจะต้องปรับปรุงตัวเองออกไปเจอโลกภายนอกบ้าง แกไม่มีแฟนมากี่ปีแล้วตั้งแต่มหาวิทยาลัย" เจสซี่พูดจี้ปมเหมยเพราะตอนมหาวิทยาลัยเหมยเคยโดนกลั่นแกล้งจากผู้ชายนิสัยเสียกลุ่มหนึ่งที่ได้ล้อเล่นกับความรู้สึกของเธอจนเป็นบาดแผลในใจมาถึงทุกวันนี้ ย้อนไปเมื่อสมัยที่เหมยอายุ 23 ปีกำลังละอ่อน เหมยไม่เคยผ่านการมีแฟนมาก่อนเป็นเด็กเนิร์ดที่ดูหน้าใส ๆ ทุกคนในห้องต่างไม่ค่อยชอบยุ่งกับเหมย เพราะเหมยเอาแต่หมกตัวอยู่กับหนังสือมีเพื่อนคนเดียวคือเจสซี่สาวมั่นที่สุดในมหาวิทยาลัย เจสซี่ที่เลือกคบเหมยเพราะความใจดีและใจเย็นของเหมย เธอมักจะแบ่งปันเรื่องราวหลาย ๆ อย่างให้กับเจสซี่ได้เรียนรู้ แตกต่างจากเพื่อนคนอื่นที่มักจะชวนเจสซี่ไปช้อปปิ้งเข้าผับกินเหล้าแล้วลับหลังก็พากันนินทาว่าร้าย.... "เฮ้ยไอ้ธง ถ้ามึงจีบยัยเด็กเนิร์ดนั่นมาเป็นแฟนได้ภายใน 1 เดือนนึงกูจะยอมให้มึงคบกับน้องสาวกู" ต๊อบรุ่นพี่มหาวิทยาลัยปี 4 ที่กำลังจะเรียนจบมหาวิทยาลัยเทอมหน้าเทอมสุดท้ายท้าทาย ได้ท้าทายให้ธงหนุ่มฮอตประจำมหาวิทยาลัยไปจีบเด็กเนิร์ดปี 3 อย่างสเหมย "มึงให้กูไปจีบแม่นั่นน่ะนะ โอ้โห..แค่ได้ยินกูก็ขนลุกแล้วว่ะ ทำไมมึงต้องให้กูทำอะไรแบบนี้วะ ให้กูคบกับน้องเฟิร์นเลยไม่ได้หรอ"ไอ้ธงที่แอบชอบเหมยน้องสาวของไอ้ต๊อบเพื่อนรัก "ก่อนที่มึงจะทำอะไร มึงก็ต้องผ่านด่านพี่ชายอย่างกูไปให้ได้ก่อนไอ้เพื่อนรัก ถ้ามึงทำไม่ได้ กูถือว่ามึงรักน้องกูไม่จริงนะเว้ย.!" ไอ้ต๊อบท้าทายเพื่อนเพราะไม่อยากให้เพื่อนรักอย่างไอ้ธงมาจีบน้องสาวตัวเองเลยปากพล่อยพูดออกไป "เออก็ได้วะภายใน 1 เดือนกูจะจีบยัยเด็กเนิร์ดนั่นมาเป็นแฟน แต่พวกเรามีงานนิเทศนี่หว่าอีกแค่เดือนนิดๆ ก็ต้องไปต่างจังหวัดแล้วนี่" "งั้นเอาอย่างนี้หลังจบงานนิเทศรอบกองไฟกูจะขอยัยเด็กเนิร์ดนี่เป็นแฟนแล้วกูก็จะบอกเลิกทันที" เพื่อนทั้งสองทำข้อตกลงกันอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ จนเวลาผ่านไปไอ้ธงเริ่มแผนการตามจีบเหมยอย่างสุดฤทธิ์ ตอนแรกเหมยก็ไม่เล่นด้วยเพราะกลัวว่าธงจะไม่จริงจัง แต่ด้วยความหัวอ่อนและใจอ่อนของเหมยจึงยอมตอบรับไมตรี ไอ้ธงมักจะเอาดอกกุหลาบดอกไม้ช่อโตไปฝากสุดธิดาตลอดระยะเวลา 1 อาทิตย์ก่อนที่จะเอ่ยปากชวน "เหมยเดี๋ยวเราจะมีงานนิเทศทัศนศึกษาของมหาวิทยาลัย เหมยก็ไปด้วยกันสิพี่จะได้ใช้เวลาอยู่กับเหมยด้วย" ใต้โต๊ะม้าหินของมหาวิทยาลัยไอ้ธงพูดกับธิดาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนทั้งที่จริงกำลังตีสองหน้า "เออเหมย... ว่า.."เหมยกำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธแต่กลับปฏิเสธไม่ทันเพราะเพื่อนสาวสวยอย่างเจสซี่เดินเข้ามาเสียก่อน "แน่นอนค่ะ เพื่อนรักของฉัน ยายเหมยยังไงเธอก็ไป ขอบคุณพี่ธงนะคะที่เอ่ยปากชวน แต่วันหลังไม่ต้อง." เจสซี่ที่ผ่านผู้ชายในการคบหาเป็นแฟนมาก็เยอะ พอจะมองออกว่าไอ้ธงเป็นคนนิสัยยังไงเจสซี่จึงไม่ชอบไอ้ธงตั้งแต่แรกเห็น "แหมน้องเจสซี่ ไม่เห็นจะต้องทำท่าทีอย่างนี้กับพี่เลย ถ้างั้นเหมยพี่ไปก่อนนะเด็กดี"ไอ้ธงเอามือลูบไปที่หัวของเหมยเบา ๆ แล้วเดินจากไป "โถเจสซี่..ไม่น่าไปพูดกับพี่ธงเขาแบบนั้นเลย เขาจะเสียใจเอานะ"เหมยที่ยังหัวอ่อนอยู่ก็แอบต่อว่าเพื่อนไปเล็ก ๆ "เธอไม่รู้อะไร คนอย่างไอ้ธงเนี่ยผู้หญิงเยอะจะตาย มันจะมาจริงจังอะไรกับเธอเหมยเธอเชื่อฉันสิ เธออย่าไปเปิดใจให้มันเชียวนะ"แต่เหมือนว่าคำเตือนของเจสซี่จะไม่เป็นผลสำหรับเหมยในตอนนั้น "ฉันก็ไม่อยากปิดกั้นตัวเองอ่ะลองคบดูก็ไม่เสียหายอะไรหรอกนะ"เหมยหันไปพูดกับ เจสซี่แล้วกลับมาอ่านหนังสือต่อยังตั้งใจ "ตามใจเธอเถอะเห็นเพื่อนต๊องเอ้ยเดี๋ยวอ่านหนังสือเสร็จเราไปหาไอติมอร่อย ๆ กินหน้า มหาลัยกันดีกว่าฉันเบื่ออ่านหนังสือ แล้วอ่ะ" เจสซี่พูดจบก็ลากยายหนอนหนังสือเพื่อนรักอย่างเหมยให้ออกไปหาอะไรอร่อย ๆ หน้ามหาวิทยาลัยกินกัน.....ทางด้านธงและดารินก็ยังคงไม่ยอมแพ้ แม้ว่าดารินจะแพ้อย่างราบคาบเมื่อเจออาชาเล่นไม้แข็ง ให้บอดี้การ์ดลากเธอออกจากไร่ชาพรหมเทพอย่างไม่ใยดี แถมยังสั่งห้ามไม่ให้ดารินเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตของเขาอีก ขณะที่ทั้งสองกำลังพลอดรักกันอยู่ที่โรงแรมเดิม ธงที่รู้สึกถึงแรงแค้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะยิ่งวิ่งเข้าใกล้เหมยมากเท่าไหร่ เหมยก็ยิ่งวิ่งออกห่างเขามากเท่านั้น ธงรู้สึกเหมือนเสียศักดิ์ศรีและโดนหยามหน้า "ดารินครับ ทำไมคุณถึงได้ทำพลาดขนาดนั้น คุณไม่เคยรู้เลยเหรอว่าไอ้อาชามีหลานสาว" ธงที่นอนอยู่บนตักของดารินก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ "แล้วใครมันจะไปรู้ล่ะคะ ว่าอีเด็กเปรตนั่นจะเป็นหลานสาวของอาชา" ดารินก็รู้สึกโมโหไม่น้อยที่อยู่ดี ๆ ก็ต้องมาล้มละลายเพียงเพราะเด็กคนเดียว "แล้วเราจะทำยังไงต่อไปล่ะครับดาไหนจะมีไอ้เมฆินทร์อีกคนนึงที่มาตามป้วนเปี้ยนจีบเหมย" ธงก็ยังคงอยากเอาชนะอาชาและเมฆินทร์อยู่ โดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของเหมยและอาชาได้ก้าวหน้าเกินกว่าที่เขาจะแตะถึง "เหลือแต่คุณแล้วค่ะที่ต้องเข้าไปทำลายความสัมพันธ์ของสองคนนั้น เอาให้ทั้งสองคนมันแตกหัก ไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันยิ่งดี แล้ว
เมฆินทร์ที่กลับจากการทำธุระของตัวเองก็คิดถึงเหมยไม่แพ้อาชาหรือธง วันนี้เขาตั้งใจจะเข้าไปเจอเหมยที่คาเฟ่และซื้อของมากมายกลับมาฝากเธอ “ถังลี่ วันนี้กูจะเข้าไปที่ไร่ชาพรหมเทพ จะเอาของที่กูซื้อไปฝากคุณเหมย มึงให้เด็กเอาของขึ้นรถให้กูด้วย” เมฆินทร์หันไปสั่งบอดี้การ์ดคู่ใจ “ผมจัดการให้นายเรียบร้อยแล้วครับ นายจะไปเลยไหมครับ” ถังลี่หันมาถามผู้เป็นนาย เมฆินทร์พยักหน้า เขาลุกออกจากห้องนั่งเล่นในคฤหาสน์หรูแล้วก้าวขึ้นรถสไตล์ยุโรป ใจของเขาอยากจะเจอหน้าสวย ๆ ของเหมย และเขาก็อยากจะเข้าไปสืบหาเรื่องราวของอาชาที่จะทำการเซ็นสัญญากับมิสเตอร์จางเพื่อตัดหน้าบริษัทของเขาด้วย “ได้ครับนาย แต่ว่านายมั่นใจเรื่องที่ดินที่เราซื้อไว้ให้มิสเตอร์จางจริง ๆ ใช่ไหมครับ” ถังลี่รู้สึกว่าอาชามีความเงียบผิดปกติ “มีอะไรหรือเปล่าวะ” เมฆินทร์หันมาถามขณะกำลังดูตารางงานอยู่ด้านหลังรถ “ผมว่าบอดี้การ์ดของไอ้อาชาและตัวมันเงียบผิดปกติ เพราะโครงการนี้มันเคยคิดจะสู้กับเราหลายหน ทำไมมันถึงเงียบหายไป” ถังลี่รู้สึกถึงความผิดสังเกต “มันก็จริงอย่างที่มึงพูด ส่งคนของเราจับตาดูมันทุกฝีก้าว ลองดูว่ามันจะบินไปสิงคโปร์เมื่อไหร่
อาชาปลดพันธนาการที่ข้อมือเหมยออก ช้า ๆ แต่ยังคงจับมือเธอไว้มั่น เขายิ้มเจ้าเล่ห์ "เราลองเปลี่ยนท่ากันหน่อยดีไหมครับคนดีของพี่..." เหมยพยักหน้าเล็กน้อยด้วยใบหน้าแดง ระเรื่อ เธอเชื่อใจเขาอย่างเต็มเปี่ยม อาชาจึงค่อย ๆ พลิกร่างบางของเหมยให้นอนคว่ำลงช้า ๆ จากนั้นใช้เนคไทผูกข้อมือทั้งสองข้างของเธอไขว้ไปด้านหลังอย่างชำนาญ การถูกมัดในท่านี้ทำให้เหมยรู้สึกอ่อนแอแต่ก็ตื่นเต้นจนหัวใจเต้นระรัว "แบบนี้... เราจะรู้สึกถึงพี่ได้ชัดเจนขึ้น พี่จะเอาเหมยจน เหมยร้องขอให้พี่หยุด..." อาชากระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูของเหมย ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาทำให้ขนอ่อน ๆ ทั่วร่างของเธอตั้งชัน เหมยพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงก็ติดอยู่ในลำคอ อาชาโน้มตัวลงไปจูบแผ่นหลังเนียนนุ่มของเหมยช้า ๆ ไล่ขึ้นไปตามกระดูกสันหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสอันเร่าร้อนของเขาทำให้เหมยบิดกายเล็กน้อยด้วยความรู้สึกที่พุ่งพล่านขนลุกซู่ไปทั้งกาย "พะ พี่... อาชาขา.....อ้าส์ ซี๊ด..." เหมยครางชื่อเขาเบา ๆ น้ำเสียงแหบพร่าด้วยอารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้ "ใช่ครับ... พี่อยู่นี่แล้ว" อาชาตอบ พลางใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามแนวสะโพกผายของเธออย่างยั่วยวน เ
หลังจากผ่านพ้นเรื่องของดารินไปอาชาสั่งห้ามบอดี้การ์ดทุกคนห้ามให้ดารินกลับมาเหยียบไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยทุกพื้นที่ของตระกูลเขา ห้ามดารินเข้ามาก้าวก่ายโดยเด็ดขาด "ไอ้เสือบอกบอดี้การ์ดทุกคน ถ่ายทอดคำสั่งของกูลงไป ห้ามให้ดารินเหยียบเข้ามาทุกพื้นที่ของตระกูลกู แม้แต่เงาก็ห้ามให้มาใกล้..! อาชาเขารู้ว่าผู้หญิงอย่างดารินทั้งอันตรายและเจ้าเล่ห์จึงเลือกที่จะปกป้องเหมยและลิลลี่ให้ออกห่างจากผู้หญิงอย่างดาริน "ครับนายผมจะรีบถ่ายทอดคำสั่งของนายทุกคำออกไปในกลุ่มบอดี้การ์ดของเราครับนาย" "คืนนี้ผมว่าเป็นคืนที่ดีนะครับนาย" "มันเป็นคืนที่ดียังไงวะ" อาชาสงสัยเล็กน้อยเมื่ออยู่ๆเสือก็พูดขึ้นมา "เพราะคืนนี้นายธงมักจะออกไปทุกคืน วันเสาร์และกลับมาในวันจันทร์เช้า เพื่อทำงาน ผมอาจจะใช้โอกาสทองและจังหวะนี้" "ในการหาข้อสงสัยของผมเพราะมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลที่ผมสัมผัสได้" เสือรายงานบางอย่างให้กับอาชาได้ฟังเพราะเขาก็แอบสงสัยพฤติกรรมของธงมานานแล้ว "ดีกูเองก็ไม่ไว้ใจมัน มันจงใจปล่อยข่าวเสียหายให้กับเหมย เรื่องของมันกับเหมยในอดีตกูคงจะยอมง่าย ๆ ไม่ได้หรอก" อาชาเองก็ไม่ได้ละทิ้งเรื่องพวกนี้แต่เขาให้มันเป็นเพี
ไม่นานหลังจากเหตุการณ์ชุลมุนที่คาเฟ่ ดารินก็ได้พบกับ อาชา ในที่สุด เธอเดินเข้าไปหาเขาด้วยรอยยิ้มหวานหยด ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอนั่งรออาชาหลายชั่วโมงกว่าที่อาชาจะยอมให้เธอเข้าพบ "อาชาคะ ดาคิดถึงคุณจังเลยค่ะ" ดารินเอ่ยเสียงหวาน พร้อมกับทำท่าจะโผเข้ากอด แต่อาชากลับถอยห่างออกมาเล็กน้อย สีหน้าเรียบเฉย "คุณดาริน มาทำอะไรที่นี่" อาชาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่ต้องการจะข้องแวะกับอดีตที่เลวร้าย "อะไรกันคะอาชา ทำไมพูดกับดาแบบนี้ล่ะคะ ดาก็แค่อยากมาเยี่ยมคุณ มาทวงถามความรักเก่า ๆ ของเราคืน" ดารินแสร้งทำเป็นตัดพ้อ ใบหน้าแสดงความเศร้าสร้อยอย่างจงใจ "สงสัยความรักที่ผมเรียกคุณไป 10 ล้านคงไม่พอซะแล้วมั้ง คุณยังมีแรงมาระรานวุ่นวายกับผมอยู่แบบนี้"อาชาพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยันและรู้สึกรังเกียจผู้หญิงอย่างดารินที่สุด "โธ่อาชาคะ คุณไม่เห็นจะต้องแจ้งความเอาเรื่องดารินขนาดนั้นเลยค่ะ คุณก็รู้ว่าดารินไม่มีอะไรที่จะสู้กับคุณได้" "ดารินแค่อยากมาถามหาความเห็นใจจากคุณบ้างก็เท่านั้น ใจดีกับดารินหน่อยนะคะ" ดารินเกาะแข้งเกาะขาอาชาไม่ยอมปล่อยเอาแต่ทำท่าทีออดอ้อนออเซาะเพื่อให้อาชาใจอ่อน เหมือนฝันของดารินกำ
ธงเริ่มปฏิบัติการตามแผนของดารินอย่างเคร่งครัด เขายังคงส่งของขวัญและดอกไม้ให้เหมยเช่นเคย แต่คราวนี้มาพร้อมข้อความที่ดูเหมือนจะเข้าใจและเห็นอกเห็นใจเหมยมากยิ่งขึ้น เช่น "รู้ว่าเธอเหนื่อย พักผ่อนบ้างนะ" หรือ "หวังว่าดอกไม้ช่อนี้จะทำให้วันของเธอสดใสขึ้นมาบ้าง" ซึ่งเป็นข้อความที่ดารินแนะนำให้ใช้เพื่อสร้างความรู้สึกผูกพันทางอารมณ์"พี่ส่งดอกไม้ให้ครูเหมยทุกวันเลยอ่ะผมเป็นครูเหมยนี้ผมละลายหมดแล้วนะ"ไอ้เต้เดินมาแซวธงเมื่อเห็นว่ายังคงใช้ให้เต้ไปส่งดอกไม้"มันก็ต้องขยันหน่อยเว้ย.!!อยากได้เขากลับมาก็ต้องเอาใจเขาบ้าง"ธงพูดลอยๆ"คราบพี่" ไอ้เต้กับไอ้ต้นหนาวถึงกับหลุดหัวเราะในขณะเดียวกัน ธงก็เริ่มหาโอกาสพูดคุยกับเหมยมากขึ้น โดยอาศัยสถานการณ์ที่พบกันโดยบังเอิญในที่ทำงาน หรืออ้างเรื่องงานเข้ามาพูดคุย "อรุณสวัสดิ์ครับเหมย" ธงที่มาคาเฟ่แต่เช้าเพื่อมาดักรอเหมยและลิลลี่ที่จะมานั่งในห้องประจำเพื่อเรียนหนังสือเปลี่ยนบรรยากาศไม่ใช่ภายในบ้านพักตากอากาศ"อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ธง"เหมยยิ้มให้อย่างเป็นมิตรช่วงนี้เธออาจจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
Comments