บรรยากาศภายในบ้านพักเต็มไปด้วยบรรยากาศอันน่าอึดอัดแต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมธาวีต้องประสบกับความน่าอึดอัดนี้แต่ครั้งนี้มันดูจะหนักหนาเกินกว่าที่เธอจะจัดการได้เพราะด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธจากพ่อผู้ให้กำเนิดดูจะรุนแรงกว่าทุกครั้ง
“ทำไมแกถึงเลิกกับคุณเมธไม่ปรึกษาฉันสักคำ แกเอาสมองส่วนไหนคิดฮะ!”มือหนาของผู้เป็นพ่อกระชากข้อมือเล็กของลูกสาวด้วยความโมโหจนเจ้าของข้อมือเล็กเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดแต่ก็ไม่ได้ต่อต้านการกระทำรุนแรงของผู้เป็นพ่อแม้แต่น้อย “เมย์กับพี่เมธคิดดีแล้วค่ะพ่อ เราไปกันไม่ได้หรอก พ่อเองก็น่าจะรู้ดี”ใช่ข้อนี้พ่อเธอรู้ดีแต่แล้วมันยังไง รักมันกินไม่ได้เงินต่างหากที่เขาต้องการ ดังนั้นเขาจะไปสนมันทำไมแค่เมธาวีเอาเงินมาจากปรเมธให้เขาแค่นั้นก็พอแล้วนี่ “ทำไมจะไม่ได้นี่ไงไปได้จนมีไอ้เมฆมาเป็นภาระแกอยู่นี่ไง”ผู้เป็นพ่อต่อว่าผู้เป็นลูกสาวอย่างเดือดดาลเพราะทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ “พ่ออย่าพูดถึงเมฆแบบนี้ แล้วถึงเมย์กับพี่เมธจะเลิกกันแต่เขาก็ช่วยส่งเสียเมฆเหมือนเดิมค่ะ”นั่นคือความจริงถึงอย่างไรเมธก็ยังเป็นพ่อที่ดีเสมอและก็เพราะมีเมฆานี่แหละปรเมธถึงยอมปล่อยมือจากเมธาวีทั้งที่เขาก็ยังรักเธออยู่ “เฮอะ~แค่นั้นเองเหรอแล้วเงินที่เขาเคยเลี้ยงดูแกละจะทำยังไง”ผู้เป็นพ่อถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันหากเป็นอย่างที่บุตรสาวเขาบอกงั้นเงินที่เมธาวีเคยได้จากปรเมธก็หมดกันน่ะสิ “เมย์หาเลี้ยงตัวเองได้แล้วอีกอย่างนะพี่เมธเขาแต่งงานจดทะเบียนไปแล้ว พ่อจะให้เมย์อยู่เป็นเมียน้อยเขาหรือไง แล้วแม่เขาก็รังเกียจเมย์อย่างกับอะไรดี พ่อช่วยเข้าใจเมย์หน่อยได้ไหม”เมธาวียังคงอธิบายให้ผู้เป็นพ่อฟังอย่างใจเย็นที่สุดเพราะใช้อารมณ์ไปก็มีแต่เรื่องราวจะบานปลายใหญ่โตไปเสียเปล่าๆ “แกมันโง่ โง่ๆๆๆทิ้งคนรวยๆแบบนั้นได้ไงวะ”ผู้เป็นพ่อใช้นิ้วจิ้มที่หน้าผากของเมธาวีอย่างแรงจนนับครั้งไม่ถ้วนแต่เธอก็ยังคงไม่ตอบโต้เช่นเคยเพราะรู้ดีว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำแบบนั้นสู้ปล่อยผ่านมันไปแบบนี้จะดีกว่า “เขาไม่ทิ้งก็เหมือนทิ้งเมย์ไหมพ่อ อยู่ต่อก็เป็นได้แค่เมียน้อยนะพ่อ”ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้รักผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าพ่อของลูกแต่เธอก็ยินดีที่จะอยู่กับเขาหากว่าเขาไม่ตบแต่งภรรยาใหม่พร้อมทะเบียนสมรสที่เธอไม่เคยมีเพราะครอบครัวสามีคัดค้านแต่ในเมื่อเขาเลือกแล้วเมธาวีก็พร้อมที่จะถอยออกมาดีกว่าที่จะให้ลูกชายของเธอถูกตราหน้าว่าเป็นลูกเมียน้อยแต่คำพูดต่อมาของผู้เป็นพ่อก็ทำเอาเมธาวีถึงกับทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง “เมียน้อยก็ยังดีกว่ามาอยู่บ้านเก่าๆโทรมๆนี่ไหม เออๆๆช่างมันเถอะเดี๋ยวฉันหาคนรวยๆมาให้แกใหม่ก็แล้วกัน” “พ่อ! นี่พ่อเห็นเมย์เป็นอะไร”เมธาวีถามผู้เป็นพ่ออย่างสิ้นหวังในสายตาพ่อเธอมีค่าแค่นี้เหรอ “เลิกพูดมากได้แล้ว แล้วแกมีเงินเหลือบ้างไหมเอามาให้ฉันไปต่อทุนหน่อยสิ”ผู้เป็นพ่อบอกปัดอย่างตัดรำคาญก่อนจะเอ่ยถามถึงเหตุหลักที่ตนต้องเดินทางมาถึงที่นี่ “เมย์ไม่มีหรอก” “แกก็ไปขอคุณเมธสิวะเขารักแกจะตายแค่แกขอทำไมเขาจะไม่ให้” “คุณคะพอเถอะค่ะ ลูกไม่มีก็คือไม่มีสิคะ อย่าบังคับลูกเลย ที่ผ่านมาลูกก็ทำเพื่อเรามามากพอแล้วนะคะ”มานีแม่ของเมธาวีพยายามห้ามปรามผู้เป็นสามีด้วยความสงสารลูกสาว ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอต้องทนดูลูกทุกข์ใจโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้มาตลอด “เงียบไปเลย โถ่เว้ย! เออๆๆไว้ฉันจะมาใหม่เตรียมเงินไว้ให้ฉันด้วยละ”พูดจบคนเป็นพ่อก็เดินออกจากบ้านไปไม่สนใจว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไร “อึก~”ทันทีที่ทุกอย่างสงบลงน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ไหลอาบสองแก้มนวลอย่างน่าสงสาร “ไม่เป็นไรนะลูกแม่ขอโทษนะที่ช่วยอะไรเมย์ไม่ได้เลย”ผู้เป็นแม่คุกเข่าลงสวมกอดผู้เป็นลูกสาวด้วยความสงสารจับใจ “อือ เมย์ไม่โทษแม่หรอกว่าแต่ทำไมแม่กับพ่อถึงมาที่นี่ได้คะ”เมธาวีปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ “เงินพ่อหมดนั่นแหละ คงขอคุณเมธแล้วเขาไม่ให้นั่นแหละ”ผู้เป็นแม่บอกลูกสาวด้วยความหนักใจ “แล้วรู้เรื่องเมฆได้ไงคะ” “คุณเมธบอกน่ะสิ” “อืม แต่เมย์ขอไม่กลับไปนะคะ แม่เข้าใจเมย์ใช่ไหม”เมธาวีบอกผู้เป็นแม่ด้วยความหวั่นใจกลัวว่าแม่เธอจะไม่เห็นด้วยกับการเลิกราครั้งนี้อีกคน “เข้าใจลูกแม่เข้าใจ เมย์ทุกข์มามากแล้วแม่ขอโทษนะที่ไม่เคยช่วยอะไรเมย์ได้เลย”ผู้เป็นแม่บอกลูกสาวด้วยความรู้สึกผิด “แม่ไม่ต้องขอโทษเมย์หรอกค่ะแต่เมย์ทนทรมานมามากเกินพอแล้วค่ะแม่ การที่ต้องถูกขืนใจโดยที่ขัดขืนอะไรไม่ได้เลยมันทรมาน ทรมานมากๆเลยนะแม่ ฮือๆๆๆ แม่ก็รู้ว่าหนูไม่ได้รักพี่เมธ เมย์ไม่อยากกลับไป ฮือๆๆ”เมธาวีร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจหากคนเป็นพ่อสงสารเธอบ้าง ชีวิตของเธอคงไม่ทุกข์ทรมานอย่างที่ผ่านมา แต่พ่อแท้ๆกลับไม่เคยสนใจไยดีแถมยังคิดจะใช่เธอเป็นตัวทำเงินเสียอย่างนั้น “โถ่เมย์ แม่ขอโทษนะลูก”ผู้เป็นแม่ที่เห็นลูกสาวร้องไห้ปานจะขาดใจก็ได้แต่กอดปลอบลูกเพราะไม่รู้จะช่วยลูกสาวเพียงคนเดียวของเธออย่างไรดี “อึก! แง่ๆๆ”ทันทีที่ได้ยินเสียงร้องไห้งอแงเพราะเพิ่งตื่นนอนของลูกชายตัวน้อยเมธาวีก็รีบปาดน้ำตาออกจากแก้มนวลเพราะไม่อยากให้ลูกชายตัวน้อยเห็น “โอ๋ๆๆ เมฆน้อยของแม่ แม่อยู่นี่ครับไหนๆมาๆเติมพลังกันหน่อย”เมธาวีหอมแก้มยุ้ยของลูกด้วยความหมั่นเขี้ยว แค่ได้เห็นหน้าลูกเธอก็รู้สึกใจชื้นขึ้นกว่าก่อนหน้าเป็นเท่าตัว "ตื่นแล้วเหรอครับคนเก่งไหนมาให้ยายอุ้มหน่อยครับ"ผู้เป็นยายที่เพิ่งมีโอกาสได้เจอหลานอ้าแขนออกกว้างหวังจะอุ้มเด็กชายตัวน้อยด้วยความเอ็นดู เมฆาที่เห็นอย่างนั้นก็อ้อนให้ผู้เป็นยายอุ้มทันที "อุ้มๆๆ" "หือ ลืมแม่เลยนะ" "แม่ หม่ำๆๆ" “555/555”ความขี้อ้อนของเด็กน้อยเรียกรอยยิ้มของแม่และยายได้อย่างง่ายดาย ก๊อก~ ก๊อก~ ก๊อก~ เสียงเคาะประตูดึงความสนใจของคนทั้งสามให้หันไปมองยังต้นตอของเสียง “เดี๋ยวเมย์ไปดูเองค่ะ”ภายในงานเลี้ยงหรูหราบรรยากาศชื่นมื่นเต็มไปด้วยความยินดีที่ต่างมาแสดงความยินดีกับบ่าวสาวโดยงานถูกจัดขึ้นที่คฤหาสน์ที่เป็นเรือนหอของทั้งคู่นั่นเอง“สวยมากเลยเมย์”เฟรย่าจับตัวเพื่อนสาวหันซ้ายหันขวามองหาจุดบกพร่องแต่ก็ไม่เจอแม้แต่จุดเดียว“ไร้ที่ติ”เฟรย่าบอกอย่างภูมิใจ“ขนาดลูกสองแล้วยังเป๊ะเว่อร์”จัสมินมองเพื่อนรักอย่างทึ้งๆ“เข้าใจกันผิดแล้วจ้ะ กำลังจะเป็นคุณแม่ลูกสาม”“ห๊ะ!”เฟรย่าร้องออกมาอย่างตกใจ“แหมมกลับมาเจอกันปุบก็ซัมกันหนักเลยนะ รีบมีเจ้าตัวเล็กเลยนะ”จัสมินเย้าแหย่เพื่อนรัก“มีสามีเด็กก็งี้แหละ กินอร่อยนะ”เมธาวีเย้าแหย่เพื่อนกลับโดยไม่ทันได้สังเกตว่าสามีเด็กเดินเข้ามาทันได้ยินพอดี“อร่อยขนาดนั้นเลย”น้ำเสียงทุ้มต่ำถามใบหน้านิ่งเรียบแต่ใบหูกลับแดงซ่านอย่างปิดไม่มิด“มาก ถึงใจสุดๆ”เมธาวีตอบกลับแบบไม่ต้องคิด“เมย์”เฟรย่าสะกิดเพื่อนเพื่อเตือนสติว่าพวกเขาไม่ใช่คนพูดประโยคนั้น“อะไรของแกยายเฟร""ผัวเด็กแก"ทันทีที่ได้ยินคำเฉลยของเพื่อนรักเจ้าสาวของงานถึงกับหน้าถอดสีกันเลยทีเดียว เขาจะหาว่าฉันลามกหรือเปล่าเนี่ยนั้นคือคำถามที่เมธาวีถามตัวเอง"งั้นพวกฉันไปรอในงานนะ"จัสมินบอ
ทันทีที่ความใหญ่โตถูกกระแทกเข้าช่องทางคับแคบฉ่ำน้ำร่างบางก็โผเข้ากอดเจ้าของการกระทำราวกับต้องการให้คนตัวโตปลอบแต่อีกฝ่ายกลับกระแทกกระทั้นเข้าใส่ร่องเล็กด้วยความกระสัน"อึก~ เบาหน่อยสิจุก"ร่างบางใบหน้าเหยเกเมื่อความใหญ่โตถูกถอนออกแทบจะหลุดออกจากกันก่อนจะกระแทกแทรกเข้ามาจนสุดลำอีกครั้ง“ก็หิว งั้นถ้าไม่อยากจุกก็กระแทกสิ”มาเฟียหนุ่มเอ่ยกระตุ้นให้ร่างบางปรนเปรอตนเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่นั่งนิ่ง“กระแทกผมสิครับพี่เมย์”คนตัวโตอ้อนเหมือนที่หญิงสาวชอบและทุกครั้ง เธอก็แพ้ลูกอ้อนแบบนี้ทุกทีแต่ครั้งนี้กลับผิดคาด หึ~ แต่ถ้าอ้อนไม่ได้ผลงั้นคงต้องบังคับสินะแต่วิธีบังคับในแบบของฟีนิกซ์นั้นเป็นการบังคับแบบเต็มใจเท่านั้นมันจึงจะถึงใจปึก~ ปึก~ ปึก~คนตัวโตกระแทกเอวสวนขึ้นใส่ร่องเล็กคับแคบจนร่างบางกระเด้งกระดอนไปตามแรงกระแทกกระทั้น“อื้อ~ จุก!”ร่างเล็กร้องประท้วงทันทีเมื่อถูกเล่นงานที่ใจกลางความเป็นสาวปัก! ปัก! ปัก!ร่างบางเริ่มขยับโยกส่งตัวตนเข้าช่องน้ำหวานเป็นจังหวะเนิบนาบ“ขอแรงอีกได้ไหมครับ”“มะ มันเสียว”แม้ปากจะปฏิเสธแต่สะโพกมนก็เร่งจังหวะกระแทกตามแรงอารมณ์ที่มีไม่ต่างจากคนร้องขอ“เมียผมแ
หลังจากเพื่อนๆของชายหนุ่มกลับไปทิพย์อาภาก็ถือโอกาสพูดเคลียร์ใจกับลูกสะใภ้เสียเลย"เมย์""คะ?""เรื่องเมื่อตอนนั้นแม่ขอโทษนะแม่ไม่คิดว่าสิ่งที่แม่ทำมันจะทำร้ายหนูขนาดนั้น"ทิพย์อาภาบอกอย่างรู้สึกผิด"เรื่องนั้นเมย์ไม่ได้คิดอะไรแล้วค่ะ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว""ขอบใจนะ""อีกอย่าง...คนที่ช่วยเมย์จากการถูกส่งขายอวัยวะก็คือคุณแม่นี่คะ"เมธาวียิ้มอ่อนให้กับแม่ของชายคนที่เธอรัก"ตอนนั้นเมย์ไม่มั่นใจว่าใช่คุณแม่ไหมแต่หลังจากที่เมย์ออกมาได้แล้วเมย์ก็มารู้ว่าคนที่ช่วยซื้อเมย์ออกมาก็คือเพื่อนของคุณแม่ ที่มีสามีชื่อชยันต์""...""หลังจากนั้นก็เป็นมาเฟียที่ชื่อชยันต์ที่รับตัวเมย์มาส่งคุณปู่เอง""เมย์พยายามจะบอกเรื่องนี้กับฟินในตอนนั้นแต่เขาก็หายหน้าไป""แม่ตั้งใจช่วยเมียผมแต่แรกแล้วเหรอ""อืม ก็ฟินรักเขาขนาดนั้นแม่จะปล่อยเขาเป็นอะไรไปได้ยังไง""...""ความสุขของฟินก็คือความสุขของแม่ ถึงแม้ความรักของแม่ฟินจะไม่ต้องการก็ตาม"คนเป็นแม่น้ำตาคลอด้วยความน้อยใจที่ลูกไม่เคยรักเธอเลย"ใครบอกว่าฟินไม่รักแม่"ฟีนิกซ์เดินเข้าไปสวมกอดคนเป็นแม่น้ำตาคลอ"ฟินรักแม่นะ รักมากด้วยฟินต้องการแม่มาตลอด"คนเป็
กว่าที่หมอจะยอมให้มาเฟียหนุ่มกลับบ้านได้ก็กินเวลาไปถึงหนึ่งสัปดาห์เต็ม พื้นที่แออัดในห้องพักสี่เหลี่ยมทำอารมณ์มาเฟียหนุ่มค่อนข้างหงุดหงิดทำให้พยาบาลที่เขามาทำหน้าที่ทำงานกันค่อนข้างลำบากเดือดร้อนหมอเดนิสต้องเขามาทำการรักษาให้แบบส่วนตัว“ครั้งหน้ากรุณาอย่าเจ็บนะครับหมอขอร้อง”เดนิสบอกมาเฟียหนุ่มด้วยความเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมเอาแต่ใจของคนไข้แต่คนไข้กลับไม่สะทกสะท้านสักนิด“แกเป็นหมอไม่มีสิทธิปฏิเสธคนไข้แบบฉัน”“คนไข้แบบแกหมอปกติที่ไหนจะรักษาได้”เดนิสมองฟีนิกซ์อย่างเบื่อหน่าย แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องเป็นเจ้าของไข้เพื่อนจอมเอาแต่ใจแต่ครั้งนี้ฟีนิกซ์ดันบ้ากว่าเดิมไม่เห็นเมียไม่ยอมล้างแผลไม่ยอมกินยา“คุณเมย์ได้กลับไปพักผ่อนบ้างไหมครับ”เมื่อพูดกับคนไข้ไปก็เปล่าประโยชน์เดนิสจึงหันมาสนใจหญิงสาวที่ใบหน้าอิดโรยราวกับคนอดหลับอดนอน“ไอ้หมอคุยกับคนไข้ก็พอครับอย่าเสือกยุ่งกับเมียคนไข้”“เฮ้อ~ ว่างก็ไปเช็คประสาทบ้างนะ”จากที่กำลังเป็นห่วงหญิงสาวเพียงคนเดียวในห้องพักผู้ป่วยเดนิสชักอยากจะพาเพื่อนตัวเองไปเช็คประสาทขึ้นมาแล้ว“ขอโทษแทนเขาด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรหรอกครับผมชินแล้ว ตอนอยู่อังกฤษมั
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงเย็นสองบอดี้การ์ดคนสนิท ก็เข้ามาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เจ้านายหนุ่มภายในห้องพักแต่ดูเหมือนว่ามีอยู่หนึ่งคนที่ท่าทางแปลกไปจนเจ้านายหนุ่มสังเกตได้“ปราบ”“ครับนาย"“เอเดนมันเป็นอะไรของมันมองฉันอย่างกับฉันไปหยิกไข่มัน”ตั้งแต่ตอนที่เดินเข้ามาพร้อมเมธาวีเอเดนก็เอาแต่มองค้อนเจ้านายหนุ่มไม่หยุดนี่ถ้าเป็นผู้หญิงเขาคงคิดว่าเอเดนงอนเขาอยู่แน่ๆ“เอ่อ”ปราบปรามกระอักกระอ่วนอยู่ไม่น้อยเพราะจะให้เขาตอบไปตามตรงก็กลัวจะทำให้เจ้านายไม่พอใจ“เฮอะ”พอได้ยินเจ้านายว่าตัวเองแบบนั้นความน้อยใจยิ่งเพิ่มขึ้นจนลืมความเกรงกลัวที่เคยมีต่อเจ้านายแถมยังสะบัดหน้าหนีผู้เป็นนายราวกับสาวน้อยงอนคนรัก“เอเดนแกอย่าทำแบบนี้ขอร้องฉันจะอ้วก”ฟีนิกซ์เห็นท่าทางของมือซ้ายคนสนิทอดขยาดไม่ได้ ตัวโตอย่างกับควายมาทำตัวเป็นสาวน้อยไปได้“ผมทำอะไรก็ไม่ดีในสายตานายหรอกครับ”พูดจบก็สะบัดหน้าหนีอีกรอบฟีนิกซ์ถึงกับกุมขมับกับท่าทางของเอเดน เรียกได้ว่าหมดคำจะพูด“ลากตัวมันออกไปเถอะฉันรำคาญลูกตา”“ครับนาย”ปราบปรามโค้งหัวให้เจ้านายเล็กน้อยแล้วเดินไปลากตัวเอเดนออกไปแต่เอเดนกลับไม่ยอมง่ายๆจนสุดท้ายฟีนิกซ์ก็จำต้องมา
เมธาวีเดินออกมาสูดอากาศในช่วงเช้ามืดเหมือนอย่างทุกวันแต่วันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูผิดแปลกไปหมดเริ่มตั้งแต่เด็กหนุ่มบ้านตรงข้ามจากที่เห็นเขากับพ่อจะมานั่งทำกิจกรรมยามเช้ากันในทุกๆวันแต่วันนี้ทั้งคู่กลับสวมสูทพร้อมกับยืนรักษาความปลอดภัยอยู่หน้ารั้วบ้านของเขาแทนแถมยังเอาแต่จ้องมองมาที่บ้านของเธอจนร่างบางรู้สึกประหม่าสุดท้ายเมธาวีก็เดินกลับเข้าบ้านแทนการไปสูดอากาศตามที่ตั้งใจตอนแรก“ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันมีหวังอึดอัดตาย”“อ้าวเมย์ทำไมวันนี้กลับเข้าบ้านเร็วจัง”“แม่เห็นบ้านตรงข้ามยังคะ”“อ่อ เห็นแล้ว”“แล้วแม่ไม่แปลกใจเหรอคะหรือกลัวไหมคะ”“จะกลัวทำไมละคนของพ่อเจ้าพาทั้งนั้น”“นี่แม่ก็รู้เหรอคะ”“รู้สิ”“…”“ก็พวกนั้นเขามากับเจ้านายเขาบ่อยๆน่ะ”“มาบ่อย? ตอนไหนทำไมเมย์ไม่รู้”“ก็ถ้าเมื่อก่อนรู้จะอยู่ที่นี่ต่อไหมล่ะ”“…”“ก็นั่นแหละพ่อเจ้าพาเลยไม่ให้ใครบอกเมย์รวมทั้งแม่ก็ด้วย”“งั้นก็แสดงว่าคนที่ไม่รู้อะไรเลยมีแค่เมย์สินะคะ”“อย่าไปโกรธพ่อเจ้าพาเลยลูก เขาก็ทำหน้าที่ของเขาเต็มที่แล้ว เจ้าพาเองก็ไม่ต้องทนรู้สึกขาดพ่อ”“อืม เมย์ไปชงโกโก้อุ่นๆดื่มก่อนนะคะ”“จ๊ะ”ผู้เป็นแม่มองตามลูก