สิงหลเห็นว่าอีกฝ่ายเพียงแค่หลับไปเท่านั้น เขาจึงทำการปลุกโดยการใช้กิ่งไม้ที่อยู่แถวนั้นเขี่ยไปที่โอเมก้าร่างเล็กที่มีกลิ่นลีลาวดี
"นี่ตื่นสิ เธอจะมานอนตรงนี้ไม่ได้นะ เดี๋ยวฉันฟ้องเจ้านายพวกเธอนะ!!"
แสนดีที่ได้ยินเสียงคนปลุกเขาขยี้ตางัวเงียทันที เขาเป็นถึงลูกคุณหนูไม่เคยมีใครกล้าปลุกเขาเวลานอนแม้แต่คนเดียว
"ใครมันมาปลุก น่ารำคาญเสียจริง พวกมึงไม่เคยโดนหวายกันรึ ถึงได้กล้ามาปลุกกูเช่นนี้!!"
กะหล่ำสาวใช้เป็นคนตื่นก่อนเจ้านาย เมื่อลืมตาขึ้นเธอเจอชายหนุ่มสองคนที่ใส่นุงผ้าแปลกๆ แถมยังจ้องเขม่งมายังเธอและคุณหนูอีก
"คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูแสนดี คุณหนูตื่นก่อนเจ้าค่ะ!!"
"อะไรอีกกะหล่ำ เรายังอยากนอนอยู่เลยขอเรานอนต่ออีกนิดนะ"
"ไม่ได้เจ้าค่ะคุณหนู คุณหนูตื่นมาก่อนนะเจ้าคะ"
แสนดีจำใจตื่นขึ้นตามคำขอของบ่าวคนสนิท พอลืมตาขึ้นเขาเจอกับคนแปลกๆสองคนที่แต่งกายแปลกๆ
"นี่พวกเอ็งเป็นใคร ใยมายืนจ้องข้าเช่นนี้!!"
สิงหลมองคนทั้งสองอย่างประหลาดใจ คำพูดคำจาของสองคนนี้เหมือนหลุดมาจากโบราณไม่มีผิด แต่เรื่องแบบนั้นมันไม่เคยมีจริงไง สรุปก็คือสองคนนี้มันบ้าไปแล้ว
"นี่มันคนบ้าหรือเปล่าไกร!"
พออีกฝ่ายบอกว่าเขาคือคนบ้า แสนดีถึงกับท้าวสะเอวทันที ชายผู้นี้มันกำแหงนัก กล้าว่าคุณหนูแสนดีเป็นคนบ้าอย่างนั้นหรือ
"นี่พวกเอ็งเป็นใคร กล้าดียังไงมาว่าเราเป็นบ้า นี่แสดงว่าไม่รู้จักเราใช่ไหม เราเป็นลูกชายของท่านราชครู ที่นี่รู้แล้ว ก็จงหมอบกราบไปซะ!!"
สิงหลมองคนร่างเล็กอย่างแปลกใจ เขาไม่เข้าใจคำพูดของอีกฝ่ายที่พูดออกมาเลย สิงหลหันไปมองหน้าเกรียงไกร เกรียงไกรเองก็ตอบด้วยสีหน้าว่าไม่รู้เช่นกัน
"พวกเธอจะไปแสดงละครที่ไหนกันอย่างนั้นเหรอ ถึงได้แต่งตัวแบบนี้"
"แสดงละครบ้าบออะไรของเอ็ง ถอยไปเราจะกลับเรือนแล้ว ไม่ไปมันแล้วราชวัง!!"
ทันทีที่พลักสิงหลออกจากทาง แสนดีจึงได้สังเกตว่าที่นี่มันผิดปกติ มันเป็นทุ่งหญ้าที่กว้างแทบจะไม่มีต้นไม้เลย แถมยังมีของแปลกๆจอดอยู่ด้วย ซึ่งคนที่จะมีสิทธิ์ใช้ของเช่นนี้มีแค่ฝาหรั่ง ที่มาอาศัยอยู่ในพระนครเท่านั้น ขึ้นแสนดีชอบเรียกมันว่าควายเหล็ก
"ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย!!"
กะหล่ำเดินมายืนข้างเจ้านายที่กำลังยืนอึ้งเพราะสถานที่มันไม่เหมือนเดิม ที่ที่พวกเขาจากมามีต้นไม้มากมายเขียวชะอุ่ม แต่ที่นี่ไม่มีต้นไม้เลยเป็นเพียงพื้นดินนูนไปนูนมา แต่เหมือนจะแต่งไว้เพื่ออะไรสักอย่าง
"ที่นี่มันที่ไหนหรือคะเจ้าคะคุณหนู ทำไมมันแปลกๆเยี่ยงนี้ บ่าวกลัวเจ้าค่ะ!!"
กะหล่ำเดินชิดเจ้านายทันที เธอรู้สึกว่าสถานที่นี้มันแปลก มันไม่เหมือนตอนก่อนที่พวกเธอจะวิ่งเข้าไปในถ้ำเลยแม้แต่นิดเดียว
"เราก็ไม่รู้เหมือนกันกะหล่ำ ที่นี่มันแปลกมากเลย แล้วเราจะหาทางกลับเรือนได้ยังไง"
สิงหลยืนมองคนแปลกหน้าทั้งสองคนที่ยืนพูดกัน เขารู้สึกสนใจโอเมก้ากลิ่นลีลาวดี ไม่เคยมีใครในโลกโอเมก้าเวิร์ส ที่มีกลิ่นกายดอกลีลาวดี
"สรุปพวกเธอสองคนจะไปไหน หรือมาจากที่ไหน"
แสนดีหันกลับมามองหน้าคนแปลกหน้าทั้งสองคน เธอรู้สึกไม่ชอบหน้าคนตัวโตๆนี่เลยดูแสดงอำนาจ อีกคนน่าจะเป็นบ่าวของไอ้ตัวโตคนนี้
"ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เรื่องของพวกเอ็ง จะไปไหนก็ไปสิ จะไปยืนค้ำหัวเราอยู่ทำไม!!"
แสนดีตวาดใส่คนแปลกหน้าทั้งสองทันที เขาไม่เคยยอมให้ใครกดขี่ข่มเหงหรอก ไม่อย่างนั้นเขาจะได้ฉายาว่าแสนดีศรีอโยธยาอย่างนั้นรึ
สิงหลยืนมองลูกแมวตัวน้อยที่ขู่เขาฟ่อๆ เหมือนแมวที่กำลังกางเล็บข่วนศัตรูไม่มีผิด ก็เขาตัวสูงกว่า ตัวใหญ่กว่า เขาก็ต้องยืนค้ำหัวคนที่ตัวแค่หมากระเป๋าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
"ก็เธอนั้นแหล่ะเกิดมาเตี้ยทำไม ห๊ะ!! ก็เอาความสูงมาแค่นี้เองจะมาหาว่าคนอื่นเขาค้ำหัวได้ยังไง เนี่ยดูสิ! สูงแค่หน้าอกฉันเอง"
สิงหลขยับมาใกล้เพื่อเทียบความสูงกับแสนดี ทำให้คุณหนูแสนดีถึงกับโกรธจนลมออกหู
"กล้าดียังไงมาว่าเราเตี้ย ในพระนครเราสูงที่สุดแล้ว มีแต่เอ็งนั่นแหละที่สูงเหมือนยักษ์วัดแจ้งก็ไม่ปาน!!"
สิงหลถึงกับหลุดขำ กับคำเปรียบเปรยของคนแปลกหน้า เขารู้สึกถูกชะตากับโอเมก้าคนนี้จริงๆ ทั้งฝีปาก ทั้งหน้าตา ถูกสเปคเขาอย่างแรง
"เอาเป็นว่าเธอสองคนมีที่ไปไหม จะไปที่ไหนกัน ให้ฉันไปส่งไหม"
สิงหลถามคนทั้งสองเพราะตอนนี้ก็เกือบเที่ยงแล้วอากาศเริ่มร้อนเต็มที่
"นายครับ ท่านกำจรติดต่อมาแล้วว่าติดธุระสำคัญไม่สามารถมาตามนัดได้ เขาจะส่งกระเช้าไปขอโทษนายทีหลังครับพร้อมกับนัดใหม่ครับนาย"
สิงหลพยักหน้าให้กับคำพูดของบอดี้การ์ดส่วนตัว ก่อนที่จะหันไปสนใจกับโอเมก้าและเบต้าที่ยืนยังไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตดี
"ตกลงว่ายังไง จะไปที่ไหนกัน ถ้ายังไม่มีที่ไปก็ขึ้นรถฉันจะพาไปหาอะไรกิน ท้องร้องเสียงดังมาก ฉันสงสารท้องเธอ"
แสนดีรีบตะคลุบท้องตัวเองทันที ตอนนี้เขาหิวมากจนท้องร้องออกมาดังมาก แสนดีมองหน้ากะหล่ำ
ตอนนี้คงจะต้องไหลตามน้ำไปก่อน ถ้าท้องหิวแบบนี้เขาคิดอะไรไม่ออกแน่นอน
ย้อนไปเมื่อ 10 ปีแรกของการใช้ชีวิตคู่ของสินหลและแสนดี ศัตรูทางธุรกิจของสิงหลมีมามากมายหลายหน้าหลายตา เพราะความที่สิงหลในอดีตไม่ใช่นักธุรกิจที่มือใสสะอาดเท่าไหร่นัก ก่อนจะแต่งงานเขาเองก็ทำทุกอย่างเพื่อปีนป่ายขึ้นสู่จุดสูงสุด ทำให้เขาสร้างศัตรูไว้มากมาย"เฮียไปทำงานก่อนนะ ฝากหอมแก้มลูกๆด้วย"แสนดีสวมกอดสามี ในทุกๆเช้าเขาต้องแสดงความรักซึ่งกันและกันก่อนไปทำงานเสมอ สิงหลจะออกจากบ้านเป็นคนแรก ลูกชายทั้งสองคนสีหราชและสิรินทร์จะต้องไปโรงเรียนโดยที่แสนดีเป็นคนพาไปส่ง กิจวัตรประจําวันของครอบครัวเลิศรัตนวรชัย จะไม่มีอะไรใหม่เป็นพิเศษ แสนดีไปส่งนักเรียนเสร็จแล้วก็จะกลับมาที่บ้านเพื่อทำอาหารและดูแลบ้าน สามีออกไปทำงานเพื่อหาเงินไว้สำหรับอนาคตของลูก ทุกอย่างดูราบรื่น "วันนี้จะทำขนมอะไรเหรอแสนดี"ป้าประไพเอ่ยถามทันทีที่เห็นแสนดีกำลังเตรียมแป้งออกมาจากตู้"กะจะทำลูกชุบเอาไว้ให้เด็กๆทานเล่นตอนช่วงเย็นนะครับป้าประไพ กะหล่ำ ไปดูสีผสมอาหารในตู้ชั้นบนให้เราที""ได้เจ้าค่ะคุณหนู"กะหล่ำสาวใช้ประจำตัวของคุณหนูแสนดี ตอนนี้เธอมีครอบครัวแล้ว แต่งงานอยู่กินกับพี่เกรียงไกรแต่ยังไม่มีลูกด้วยกัน แสนดีมองคนสนิทของ
หมอพิพัฒน์ มานิชยกุล อายุ 56 ปี เขาเป็นนายแพทย์ที่ประจำอยู่โรงพยาบาล เป็นอัลฟ่าฟีโรโมนกลิ่นพิมเสน ยังคงครองตัวเป็นโสดเรื่อยมา เพราะไม่เคยคิดว่าความรักมันจะสามารถเกิดขึ้นในใจเขาได้"นี่ของฝากมึงไอ้หมอ"หมอพิพัฒน์เงยหน้ามองเพื่อนสนิทอย่างสิงหลที่วางถุงของฝากไว้ที่โต๊ะทำงานของเขา"มึงไปไหนมาถึงมีของฝากให้กู""ก็พาเมียกูไปอยุธยาที่เดิมนั่นแหละ กูล่ะไม่อยากไปเลยกลัวเมียกูหาย แต่ก็ขัดใจเมียไม่ได้ "หมอพิพัฒน์ถึงกับหัวเราะ สิงหลเป็นคนที่กลัวเมียมาก มากในระดับที่ไม่กล้าขัดใจเมียเลยแม้แต่นิดเดียว แค่เมียด่ามันก็ร้องไห้กระซิกกระซิกหมดมาดมาเฟียไปเลยทีเดียว"เออ..ไอ้หมอ ลูกชายกูเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลนี้เป็นยังไงบ้างวะ มีอัลฟ่ามาจีบลูกกูหรือเปล่า อย่าลืมดูแลหลานนะเว้ย"หมอพิพัฒน์คิดถึงลูกชายของสิงหลและแสนดีที่มีสายพันธุ์โอเมก้า สิรินทร์ เลิศรัตนวรชัย ย้ายมาที่โรงพยาบาลของเขาได้หลายเดือนแล้ว "เขาก็ทำหน้าที่ของเขานั่นแหละ มึงเลิกห่วงลูกดิ ลูกมึงน่ะ 22 แล้วนะ ไม่ใช่ 2 ขวบ!!"สิงหลมองเพื่อนสนิท ก่อนที่จะหัวเราะร่า"ขนาดลูกกูยัง 22 แล้ว มึงคิดสภาพมึงดิตอนนี้ยังไม่มีลูกเลย กว่ามึงจะมีลูก กูตายก่อน ไม่
สีหราชเดินลงมาจากชั้นบนในเช้าวันเปิดมหาลัย ปีนี้เขาจะเป็นนักศึกษาปีสุดท้ายแล้ว "ลงมาทานข้าวก่อนลูก""ครับแม่ แล้วนี่ไอ้เสือมันไปไหนครับ"แสนดีวางอาหารที่ทำเป็นประจำทุกเช้าบนโต๊ะอาหาร ครอบครัวของเขาตื่นไม่พร้อมกัน แต่เขาก็พร้อมที่จะให้ทุกคนได้กินอิ่มก่อนออกไปทำภารกิจของแต่ละคน"พี่เสือไปโรงพยาบาล เมื่อเช้าแม่ก็ถามแล้วนะว่าจะไปทำไมแต่ก็ไม่บอก คงจะไปหาหมอพิพัฒน์ละมั้ง เพราะเห็นว่าเสือจะย้ายมาที่โรงพยาบาลของหมอพิพัฒน์น่ะ"เสือหรือสิรินทร์ ได้เป็นหมอของโรงพยาบาลเดียวกับเพื่อนสนิทของพ่อ สิงโตเลยไม่ห่วงอะไรมากมาย เพราะปกติแล้วสิรินทร์จะเป็นโอเมก้าที่ทำตัวน่าห่วงมาก แต่ถ้าได้อยู่ใกล้อาพิพัฒน์แล้วสีหราชก็เบาใจ"ก็ดีนะครับแม่ ให้มันไปอยู่ใกล้อาพิพัฒน์ มันจะได้ไม่ต้องโดนอัลฟ่าคนอื่นจีบ""จ๊ะ ลูกทานอาหารซะนะ ตอนนี้หนูกลิ่นหอมไปรออยู่ที่รถแล้ว เอาน้องไปมหาลัยด้วยนะลูก แล้วก็อย่าลืม ไปส่งน้องที่คณะด้วย ลูกเคยดูแลพี่เสือมาแบบไหน แม่ขอให้สิงโตดูแลกลิ่นหอมแบบนั้นเลยนะลูก"สีหราชถึงกับถอนหายใจ เขาพ้นจากสิรินทร์มา 1 คน ยังต้องมาเจอกับเด็กกลิ่นหอมอีก ตอนที่เข้ามหาลัยใหม่ๆ เขารับหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดของพ
หลังจากจัดการธุระของเด็กกลิ่นหอมเสร็จเรียบร้อยแล้วแสนดีจึงเดินขึ้นมาชั้นบน เขาเองก็ถูกชะตากับโอเมก้ากลิ่นหอม เขารู้สึกว่ากลิ่นหอมเป็นเด็กที่เรียบร้อยอ่อนหวาน แถมยังเรียนรู้ได้เร็ว เขาเลยให้กลิ่นหอมนอนห้องข้างๆกับกะหล่ำ"จัดการเรื่องเด็กคนนั้นเสร็จแล้วเหรอจ๊ะ""ครับเฮีย เด็กคนนั้นน่ารักดีนะครับ ผมชอบเลย เขาดูเรียบร้อยและเจียมตัวมากเลย"สิงหลยิ้มให้กับภรรยา พร้อมกับดึงภรรยาลงมานั่งที่ตักของตน "เด็กคนนั้นน่าสงสารมากเลยนะ พ่อก็ตาย แม่ก็หนีไปมีผัวใหม่ บ้านก็ถูกยึด ก่อนที่พ่อของเขาจะตายก็อยู่กันลำบากมาก พ่อของเด็กคนนั้นเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเฮีย เคยโทรมาขอความช่วยเหลือจากเฮียไปครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเฮียก็ช่วยไป แล้วมันก็ไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย มารู้อีกทีก็มันตายไปแล้ว ตอนที่เฮียไปเผาศพมัน เฮียเห็นเด็กคนนี้ยืนร้องไห้อยู่หน้าเมรุเผาศพ พอเฮียได้คุยกับเด็กคนนี้ เฮียก็เลยเกิดความสงสาร แล้วก็รับอุปการะนี่แหละ""ผมยินดีครับเฮีย ผมเองก็รู้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้เหมือนกัน"ในระหว่างที่พูดมือของสิงหลก็ไม่ได้อยู่กับที่ มือของเฮียลูบไปตามหลังของแสนดี แม้เวลาจะผ่านกันมา 20 กว่าปีแล้วแต่กลิ่นลีลาวดียังไม่จางหาย เขา
หลังจากที่ถึงบ้านสีหราชเดินนำพี่ชายเข้าไปภายในทันที เขารีบไล่พี่ชายไปอาบน้ำเพราะมีกลิ่นอัลฟ่าติดตัวพี่ชายกลับมา"ก็พี่ยังไม่อยากอาบ สิงโตจะมาบังคับพี่ทำไม สิงโตอยากอาบสิงโตก็ไปอาบสิ กลิ่นแค่นี้แม่ไม่ว่าหรอก""มึงรีบไปก่อนที่กูจะโมโห ไปเข้าใกล้มันทำไม มึงก็รู้ว่ากลิ่นฟีโรโมนของอัลฟ่ามันติดมาง่ายจะตาย แล้วเสือกไม่ระวัง ถ้าป๊ากับแม่รู้เข้ากูก็โดนอีก!!"ในระหว่างที่ทั้งสองพี่น้องยืนเถียงกัน แสนดีเดินออกมาจากครัวก็ได้ยินเสียง"เกิดอะไรขึ้น ทะเลาะกันทำไม!""ไม่ได้ทะเลาะกันครับแม่ น้องก็แค่เสียงดัง เราไม่ได้ทะเลาะกันครับ"สิรินทร์เดินเข้าไปกอดมารดา แม่ของเขาในวัย 45 ปี ยังสวยและมีเสน่ห์มากมาย ขนาดที่ป๊าของเขายังหวงและหึงทั้งๆที่อยู่กันมา 20 กว่าปีแล้ว"แล้วทำไมกลิ่นอัลฟ่าถึงติดตัวลูกมาแรงนักล่ะเสือ""พอดีผมยืนคุยกับเพื่อนของน้องมานะครับ มันก็เลยติดมา มันเหม็นมากขนาดนั้นเลยเหรอครับแม่""ก็ไม่เท่าไหร่หรอก ไปนั่งรอที่โต๊ะไปเดี๋ยวแม่เอาขนมไปให้กิน ลูกด้วยนะสิงโต เลิกเสียงดังใส่พี่สักที ไม่อย่างนั้นแม่จะฟาดแล้วนะ"สีหราชมองสองแม่ลูกที่ยืนกอดกันกลม แม่ของเขาเป็นใหญ่ในบ้านเลิศรัตนวรชัย แม้กระทั่งป๊
ชีวิตครอบครัวของสิงหลและแสนดี อยู่ในขั้นที่มีความสุขที่สุด แสนดีให้กำเนิดลูกชายคนที่ 2 เป็นอัลฟ่าอย่างที่หวังไว้ โดยสิงหลตั้งชื่อให้ลูกคนที่ 2 ว่า สีหราช เลิศรัตนวรชัย หรือน้องสิงโต ครอบครัวของสิงหลสมบูรณ์แบบ มีลูกทั้งสองสายพันธุ์ สิงหลยังคงบริหารโรงแรมซึ่งตอนนี้ขยายออกไปอีกหลายสาขา ถึงแม้จะเหนื่อยแต่เขาก็ยังสู้เพื่อครอบครัว เขาต้องการเก็บเงินเพื่อให้ลูกเมียได้ใช้อย่างสุขสบาย สีหราช เลิศรัตนวรชัย ผู้มีสายพันธุ์อัลฟ่าอายุ 21 ปี และพี่ชายของเขา สิรินทร์ เลิศรัตนวรชัย มีสายพันธุ์โอเมก้า อายุ 22 ปี ทั้งสองคนมีนิสัยที่แตกต่างกันมาก สีหราชเป็นคนที่มีหน้าตาหล่อเหลาเขาชอบการแข่งรถมากเป็นพิเศษ เป็นนักแข่งระดับมือพระกาฬ หาตัวจับได้ยาก วันนี้เขาได้เข้าแข่งขันฟอร์มูล่าวันเพื่อชิงแชมป์ โดยมีพี่ชายยืนเกาะขอบสนามเป็นแรงเชียร์"มึงจะมาทำไมอ่ะเสือ กูบอกให้อยู่บ้านไง มึงมาสนามทีไรคนที่สนามก็มองมึงทุกที เดี๋ยวแม่ก็โกรธอีก ถ้ากลิ่นอัลฟ่าไปติดมึงเข้า!!""ก็พี่อยากมานี่นาสิงโต พี่อยากมาเชียร์สิงโต ทำไมต้องดุด้วยล่ะ"สิงโตถึงกลับกลอกตาขึ้นบน เสือเป็นโอเมก้าที่มีกลิ่นดอกลาเวนเดอร์ ซึ่งเป็นกลิ่นที่หายาก อัลฟ