Share

บทที่ 1 (2/2) : จุมพิตแรก (2)

last update Last Updated: 2025-10-10 16:10:11

     “แต่จุมพิตแรก...”

     “เพราะข้ารู้ว่า จุมพิตแรกมีไว้สำหรับคนที่ตนรัก ในเมื่อข้ารักเจ้า ข้าจึงยินดีมอบมันให้กับเจ้า แล้วอาถิงล่ะ ยินดีมอบจุมพิตแรกให้กับข้าหรือไม่?” อวิ่นเฟยหยวนกล่าว พร้อมกับส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับอีกฝ่าย 

     หากอวิ่นเฟยหยวนจำไม่ผิด ยามนั้นอวิ่นซงถิงน่าจะอายุประมาณสิบสองหนาวได้กระมัง เด็กหญิงตัวน้อยมักจะชอบไปนั่งฟังเรื่องเล่าจากนักเล่านิทานตามโรงเตี๊ยม และมักจะหาซื้อตำราเกี่ยวกับเรื่องราวความรักระหว่างบุรุษกับสตรีกลับมาอ่าน จากนั้นนางก็จะนำเรื่องที่ได้รับฟัง เรื่องที่ได้อ่านกลับมาเล่าให้เขาฟัง ระหว่างที่เล่า...เด็กหญิงตัวน้อยก็มักจะวาดฝันถึงบุรุษหนุ่มรูปงาม หรือไม่ก็เทพบุตรแสนดีในเรื่องเล่า แล้วยังวาดฝันถึงจุมพิตแรกที่แสนหวาน คู่ครอง และชีวิตแต่งงานในภายภาคหน้าของนาง

     ในยามนั้นอวิ่นเฟยหยวนคิดเอาไว้ว่า วันข้างหน้าเขาจะพยายามเสาะหาบุรุษในแบบที่อวิ่นซงถิงวาดฝันมาแต่งให้กับนาง ซึ่งตอนที่คิดเขาก็รู้สึกเหมือนจะไม่ยินยอมแปลก ๆ และรู้สึกเจ็บแปลบที่อกข้างซ้าย แต่เพราะตอนนั้นเขายังไม่เข้าใจในความรู้สึกของตนเอง เขาจึงไม่ได้เก็บเอาความรู้สึกแปลก ๆ เหล่านั้นมาขบคิดให้มากความ

     ทว่ายามนี้อวิ่นเฟยหยวนมั่นใจในความรู้สึกของตนเองแล้ว แม้เขาจะไม่ใช่เทพบุตรที่แสนดี แต่เขาก็รูปงาม อีกทั้งในหัวใจ และในสายตาก็มีเพียงอวิ่นซงถิง เขาอยากจะเป็นสามีในชีวิตจริงของนาง ไม่สิ! หาใช่เพียงแค่อยาก แต่สามีของอวิ่นซงถิงต้องเป็นเขาเท่านั้น! 

     อวิ่นเฟยหยวนรีบแสดงท่าทีเฝ้ารอคำตอบ เฝ้าเช็ดน้ำตา แล้วใช้สายตามองอวิ่นซงถิงแบบเว้าวอน

     ผ่านไปสักพัก สตรีในอ้อมแขนก็ยังคงพยายามเบือนหน้าหลบสายตา นางยังไม่มีทีท่าจะใจอ่อน ดูเหมือนว่า...เกือบสองปีที่อวิ่นเฟยหยวนมัวแต่ทุ่มเทไปกับการวางแผน และลงมือทำตามแผนการต่าง ๆ แล้วทำแค่เพียงเฝ้ามองนางอยู่ห่าง ๆ จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ และความรู้สึกของนาง 

     ระหว่างนั้นอวิ่นเฟยหยวนก็นึกไปถึงพิธีปักปิ่นของอวิ่นซงถิงเมื่อปลายปีที่แล้ว...

     ในพิธีปักปิ่นเขาสังเกตเห็นเหล่าบุรุษน่าตายจำนวนไม่น้อยที่ลอบมองนาง แล้วด้วยความที่เป็นบุรุษเช่นเดียวกัน พอได้เห็นสายตาของบุรุษเหล่านั้น! ยามนั้นอวิ่นเฟยหยวนแทบอยากจะพุ่งเข้าไปควักลูกตาของพวกมัน!! 

     แล้วในวันเดียวกันนั้น อวิ่นเฟยหยวนก็บังเอิญเดินผ่านไปได้ยินว่า เผิงจินเยว่หรือมารดาบุญธรรมคิดอยากจะให้อวิ่นซงถิงหมั้นหมาย และแต่งให้กับคุณชายใหญ่ตระกูลลู่

     พอได้ยินเช่นนั้น จากแผนระยะยาว อวิ่นเฟยหยวนก็ตัดสินใจรวบรัด เขาเร่งดำเนินแผนการต่าง ๆ จนยามนี้แผนการทั้งหมดใกล้จะสำเร็จเต็มทีแล้ว 

     ในชั่วขณะนั้นอวิ่นเฟยหยวนก็นึกขึ้นได้ว่า ช่วงนี้ลู่เสี่ยนหรือคุณชายใหญ่ตระกูลลู่มักจะมาขอเยี่ยมเยือนอวิ่นซงถิงที่จวนนายอำเภออยู่บ่อยครั้ง

     “อาถิง...หรือที่เจ้าไม่ยินดีมอบจุมพิตแรกให้กับข้า นั่นเป็นเพราะในใจของเจ้ามีบุรุษอื่นอยู่ในนั้นแล้ว?” 

     “ไม่มีเจ้าค่ะ”

     อวิ่นเฟยหยวนจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตของสตรีตรงหน้า

     “เช่นนั้นวันนี้เจ้าก็แลกเปลี่ยนจุมพิตแรกกับข้า วันข้างหน้าเจ้าก็แต่งให้กับข้าดีหรือไม่?”

     “พี่ชาย ข้า...” 

     “อาถิง ที่ผ่านมาเจ้าก็รู้ เจ้าก็เห็นมาโดยตลอดว่า นอกจากเจ้า ข้าไม่เคยใกล้ชิดกับสตรีนางใด ไม่เคยมอบความรักให้กับใคร แม้แต่บ่าวอุ่นเตียงที่ท่านแม่ส่งมาให้ ข้าก็ยังไล่กลับไป” กล่าวมาถึงตรงนี้ อวิ่นเฟยหยวนกระชับอ้อมแขนที่กอดให้แน่นขึ้นอีกนิด แล้วขยับมือข้างที่เช็ดน้ำตาลงไปเชยปลายคางของสตรีตรงหน้า เขาใช้ปลายนิ้วโป้งลูบคลึงเบา ๆ ที่ริมฝีปากอิ่มทั้งบน และล่าง ก่อนจะค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงไปหา

     “แล้วเหตุผลที่ข้าทำสิ่งเหล่านี้ นั่นก็เพราะจำได้ว่า อาถิงอยากได้สามีที่รักเพียงเจ้า และมีเจ้าเป็นภรรยาแค่คนเดียวอย่างไรล่ะ” 

     สัมผัสอ่อนโยน น้ำเสียงอ่อนนุ่ม คำพูดอ่อนหวานชักจูงทำเอาหัวใจดวงน้อย ๆ ของอวิ่นซงถิงสั่นสะท้านไปทั้งดวง แล้วในขณะที่ความรู้สึกถูก และความรู้สึกผิดต่อสู้กันอยู่ภายในใจ บุรุษผู้สร้างความหวั่นไหวก็กล่าวขึ้นมาอีกว่า 

     “อาถิงคนดี หากเจ้าเป็นกังวลเรื่องสถานะของพวกเรา และเรื่องงานแต่ง ขอเพียงเจ้าทำตามที่ข้าบอก และเชื่อมั่นในตัวข้า รับรองว่า...ข้าจะทำให้เราสองคนสามารถครองคู่กันได้อย่างถูกต้อง” อวิ่นเฟยหยวนใช้สองมือประคองดวงหน้างาม แล้วจุมพิตลงบนหยาดน้ำตาที่ข้างแก้ม ก่อนจะใช้ปลายจมูกคลอเคลียกับปลายจมูกของสตรีในอ้อมแขน

     “ยามนี้ข้าอยากจุมพิตลงไปที่ริมฝีปากของเจ้า อยากขบกัด และอยากส่งลิ้นของข้าเข้าไปเกี่ยวรัดลิ้นเล็ก ๆ ของเจ้ายิ่งนัก แล้วอาถิงล่ะ ไม่อยากจุมพิตกับข้าบ้างเลยหรือไร? 

     หรือว่า...การที่เจ้าไม่ยอมตอบ มันเป็นการตอบรับแบบอ้อม ๆ ว่า เจ้าก็อยากจุมพิตกับข้าเช่นกัน” 

     “ข้า...อื้อ!” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อริมฝีปากบางทาบทับลงบนริมฝีปากของนาง ใจหนึ่งอยากปฏิเสธ แต่ทว่าอีกใจก็อยากตอบรับ มือทั้งสองข้างที่เตรียมจะออกแรงผลัก ยามนี้ก็ได้แต่วางลงบนแผงอกของบุรุษตรงหน้า จากนั้นอวิ่นซงถิงก็ตัดสินใจปิดเปลือกตา

     จุมพิตแรกของนางกับอวิ่นเฟยหยวนทั้งนุ่มนวล อ้อยอิ่ง และแช่มช้า มันก่อให้เกิดความรู้สึกหอมหวานกำจายสู่หัวใจดวงน้อย ๆ ของนาง

     อวิ่นซงถิงไม่เคยคิดเลยว่า การที่คนสองคนหัวใจตรงกัน และการได้จุมพิตกับคนที่ตนรัก มันจะรู้สึกดี และมีรสชาติหวานล้ำปานน้ำผึ้งเช่นนี้

                                           .......................................................................

     ผู้เขียนขอขอบคุณทุกยอดวิว ยอดกดหัวใจ ยอดกดติดตาม และทุกข้อความของผู้อ่านทุกท่านมาก ๆ นะคะ ทุกยอดคือกำลังใจที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆของผู้เขียนเลยค่ะ 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อย่าเรียกข้าว่า...พี่ชาย!   บทที่ 3 (2/2) : เชื่อในตัวข้า (2)

    อวิ่นเฟยหยวนหอบหายใจ เขาโอบกอดสตรีใต้ร่างเอาไว้แน่น นางเหมือนจะเหนื่อยมาก จนเผลอหลับไปแล้ว เขาจึงพลิกเอาตัวเองลงไปนอนราบ แล้วยกร่างอวิ่นซงถิงขึ้นมานอนบนตัวเขา ดวงหน้างามยามนี้ยังคงมีสีแดงระเรื่อพาดผ่าน ริมฝีปากอิ่มบวมเจ่อขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อครู่เขาคงจุมพิตนางแรงเกินไป เขาจึงยกมือข้างขวาขึ้นนวดคลึงริมฝีปากอิ่มทั้งบน และล่างอย่างทะนุถนอม จากนั้นอวิ่นเฟยหยวนก็ก้มลงจุมพิตเบา ๆ ที่ขมับของสตรีในอ้อมแขนด้วยความรู้สึกรักใคร่ และหวงแหน หากแผนการที่อวิ่นเฟยหยวนวางไว้สำเร็จ อีกไม่นานเขาก็จะได้สตรีในอ้อมแขนมาครอบครองแบบสมบูรณ์ และถูกต้องในสายตาของผู้อื่น แต่หากไม่สำเร็จเขาก็ยินดีแลกด้วยทุกอย่างที่มี ต่อให้ต้องตาย เขาก็จะไม่ยอมปล่อยมือจากนาง ไม่ยอมให้นางไปเป็นภรรยาของบุรุษอื่น และจะไม่ยอมกลับไปเป็นเพียงแค่พี่น้องกับอวิ่นซงถิงเด็ดขาด! อวิ่นเฟยหยวนเหลือบตาขึ้นมองแผ่นไม้ร

  • อย่าเรียกข้าว่า...พี่ชาย!   บทที่ 3 (1/2) : เชื่อในตัวข้า (1) ( มี nc นิด ๆ นะเจ้าคะ)

    เมื่อได้รับอนุญาต อวิ่นเฟยหยวนก็บดจุมพิตลงบนริมฝีปากอิ่มทันที เมื่อครู่เขาทันได้เห็นสายตาที่คล้ายกับจะเริ่มหวาดหวั่นของสตรีใต้ร่าง เขากลัวอวิ่นซงถิงจะเปลี่ยนใจ จึงรีบเลื่อนมือทั้งสองข้างจับลงบนสะโพกของนาง จากนั้นก็เริ่มขยับส่วนนั้นไปตามสัญชาตญาณ แม้เขาจะไม่เคยทำ แต่ก็เคยอ่านตำราวสันต์มาหลายเล่ม อวิ่นเฟยหยวนถูไถส่วนนั้นขึ้นลงอย่างช้า ๆ แต่หนักหน่วง ยามนี้เขากับอวิ่นซงถิงต่างสัมผัสได้ถึงร่างกายของกันและกันผ่านเนื้อผ้า “อึก! อ๊า...” ความเสียวซ่านทำให้อวิ่นเฟยหยวนเผลอหลุดเสียงครางกระเส่าเบา ๆ ออกมา เขาขังสตรีที่ตนรักเอาไว้ใต้ร่าง ออกแรงกระชับมือที่จับนาง เขาบดขยี้ ออกแรงกด พร้อมกับดึงสะโพกของร่างบางให้เข้าหา อวิ่นเฟยหยวนเลื่อนมือขึ้นมาลูบไล้ไปตามส่วนเว้าบนแผ่นหลังของร่างบาง อวิ่นซงถิงแอ่นตัวขึ้นดุจดั่งคันธนู จึงทำให้หน้าอกนุ่ม ๆ ของนางแนบชิดเข้ากับแผงอกของเขามากขึ้น ซึ่งในทุกครั้งที่เคลื่อนไหว อวิ่นเฟยหยวนก็ยังต้องพยายามควบคุมไม่ให้เสียงขยับร่างกาย และเสียงครางของเขากับอวิ่นซงถิงหลุดไปเข้าหูสองคนบนเตียง หูทั้งสองข้างของเขาจึงต้องคอยฟังความเคลื่อนไหวของหนึ่งบุร

  • อย่าเรียกข้าว่า...พี่ชาย!   บทที่ 2 (2/2) : ข้าขอเถิดนะ (2) ( มี nc นิด ๆ นะเจ้าคะ)

    เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าของผู้เป็นบิดา เสียงสวบสาบของเนื้อผ้า จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงคล้ายกับจะร้องห้าม เสียงร้องครวญครางราวกับเจ็บปวดมาก แล้วไหนจะเสียงเนื้อกระทบกัน ซึ่งมันดังขึ้นเป็นจังหวะอย่างต่อเนื่องอยู่เหนือศีรษะของพวกนาง ยามนี้อวิ่นซงถิงเผลอเอาเสียงที่ได้ยินมาจินตนาการเป็นภาพ นางรู้สึกร้อนรุ่มจนสั่นสะท้าน รู้สึกแปลก ๆ ที่ช่องท้อง และส่วนล่าง อวิ่นซงถิงอยากจะร้องไห้ นางอยากมีเวทมนตร์จะได้เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นใบไม้ หรือเป็นเศษฝุ่นเล็ก ๆ ก็ได้ นางจะได้ปลิวออกไปจากที่นี่! ตอนนี้เลย!! “นายท่านมันลึก...อึก! ท่านี้มันเข้ามาลึกมาก...อื้อ! นายท่านเจ้าคะ ข้า...ข้าไม่ไหว มันเข้ามาลึกเกินไปเจ้าค่ะ!” “อาเฉียว เจ้าชอบให้ข้าเข้าไปลึก ๆ และก็ชอบแบบแรง ๆ เช่นนี้ไม่ใช่หรือ?” อวิ่นซงถิงหลับตาปี๋ นางไม่อยากได้ยิน นางอยากจะยกมือขึ้นมาปิดหู แต่ติดตรงที่ตัวนางถูกโอบกอด ยามนี้มือทั้งสองข้างอยู่ด้างล่าง นางจึงทำได้เพียงซุกใบหน้าเข้าไปที่แผงอกกว้าง เพื่อหลบหนีเสียงต่าง ๆ ที่มันยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วในขณะนั้น... คราแรกอวิ่นเฟยหยวนตั้งใจจะตัดประสาทสัมผัส เ

  • อย่าเรียกข้าว่า...พี่ชาย!   บทที่ 2 (1/2) : ข้าขอเถิดนะ (1) ( มี nc นิด ๆ นะเจ้าคะ)

    อวิ่นเฟยหยวนหรี่ตาขึ้นมอง เมื่อรับรู้ได้ถึงอาการสั่นไหวเพิ่มขึ้นของร่างบาง พอเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงหลับตา เขาจึงตัดสินใจจับมือทั้งสองข้างของอวิ่นซงถิงขึ้นมาโอบรอบคอ แล้วอุ้มนางขึ้นนั่งบนโต๊ะ โดยที่ริมฝีปากของเขายังคงไม่ผละออกจากริมฝีปากของนาง หลังจากนั้นอวิ่นเฟยหยวนก็ขบเม้มริมฝีปากอิ่มทั้งบน และล่าง เรียวลิ้นร้ายปาดเลียไปตามรอยแยก ระหว่างนั้นฝ่ามือหนาก็ยกขึ้นมาแตะเบา ๆ ที่ปลายคาง แล้วใช้ปลายนิ้วโป้งกับปลายนิ้วชี้บีบพวงแก้มนุ่ม จนริมฝีปากอิ่มเผยอออก เรียวลิ้นร้ายที่ตามไล้เลียอยู่ไม่ห่าง พอสบโอกาสก็รีบสอดแทรกเข้าไปฉกชิมความหอมหวาน และไล่เกี่ยวรัดลิ้นเล็ก ๆ ของร่างบาง “อื้อ...” อวิ่นซงถิงครางประท้วง พร้อมกับลดมือทั้งสองข้างลงมาทุบเบา ๆ ที่แผงอกกว้าง นางกำลังจะขาดอากาศหายใจ อวิ่นเฟยหยวนก็ยอมผละริมฝีปากออกให้เล็กน้อย แต่ทว่าเพียงไม่นานก็ทาบทับริมฝีปากบางกลับลงมา จุมพิตครั้งนี้เร่าร้อนขึ้นกว่าเดิมมาก ริมฝีปากของอวิ่นซงถิงถูกดูดดึงไม่หนักไม่เบา เรียวลิ้นร้ายของอีกฝ่ายกวาดต้อนไปทั่วโพรงปากอย่างอุกอาจ จากนั้นก็ตามพัวพันหยอกเย้าลิ้นเล็ก ๆ ของนาง ฉับพลันเสียงคล้ายกั

  • อย่าเรียกข้าว่า...พี่ชาย!   บทที่ 1 (2/2) : จุมพิตแรก (2)

    “แต่จุมพิตแรก...” “เพราะข้ารู้ว่า จุมพิตแรกมีไว้สำหรับคนที่ตนรัก ในเมื่อข้ารักเจ้า ข้าจึงยินดีมอบมันให้กับเจ้า แล้วอาถิงล่ะ ยินดีมอบจุมพิตแรกให้กับข้าหรือไม่?” อวิ่นเฟยหยวนกล่าว พร้อมกับส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับอีกฝ่าย หากอวิ่นเฟยหยวนจำไม่ผิด ยามนั้นอวิ่นซงถิงน่าจะอายุประมาณสิบสองหนาวได้กระมัง เด็กหญิงตัวน้อยมักจะชอบไปนั่งฟังเรื่องเล่าจากนักเล่านิทานตามโรงเตี๊ยม และมักจะหาซื้อตำราเกี่ยวกับเรื่องราวความรักระหว่างบุรุษกับสตรีกลับมาอ่าน จากนั้นนางก็จะนำเรื่องที่ได้รับฟัง เรื่องที่ได้อ่านกลับมาเล่าให้เขาฟัง ระหว่างที่เล่า...เด็กหญิงตัวน้อยก็มักจะวาดฝันถึงบุรุษหนุ่มรูปงาม หรือไม่ก็เทพบุตรแสนดีในเรื่องเล่า แล้วยังวาดฝันถึงจุมพิตแรกที่แสนหวาน คู่ครอง และชีวิตแต่งงานในภายภาคหน้าของนาง ในยามนั้นอวิ่นเฟยหยวนคิดเอาไว้ว่า วันข้างหน้าเขาจะพยายามเสาะหาบุรุษในแบบที่อวิ่นซงถิงวาดฝันมาแต่งให้กับนาง ซึ่งตอนที่คิดเขาก็รู้สึกเหมือนจะไม่ยินยอมแปลก ๆ และรู้สึกเจ็บแปลบที่อกข้างซ้าย แต่เพราะตอนนั้นเขายังไม่เข้าใจในความรู้สึกของตนเอง เขาจึงไม่ได้เก็บเอาความรู้สึกแปลก ๆ เหล่านั้นมาขบคิดให้มากคว

  • อย่าเรียกข้าว่า...พี่ชาย!   บทที่ 1 (1/2) : จุมพิตแรก (1) 

    “พี่ชาย พี่นัดข้ามาพบที่นี่ตามลำพัง พี่มีเรื่องสำคัญใดอยากกล่าวกับข้าหรือเจ้าคะ?” อวิ่นซงถิงเอ่ยถามบุรุษหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าเรือนร้างด้านหลังจวน โดยที่นางก้าวเท้าถอยหลังสองก้าว เพื่อเพิ่มระยะห่าง เนื่องจากเมื่อครู่นางเผลอเดินเข้าไปใกล้พี่ชายบุญธรรมมากเกินไป “เข้าไปพูดกันด้านใน” “แต่...” อวิ่นซงถิงรู้สึกลังเล ด้วยเพราะเกือบสองปีที่ผ่านมา พี่ชายบุญธรรมผู้นี้พยายามเว้นระยะห่างกับนาง ทว่าอยู่ ๆ ก็ส่งจดหมายเรียกให้มาพบที่นี่ตามลำพัง ถึงแม้ตอนนี้จะอยู่ในช่วงเวลากลางวัน แต่สายตาที่อีกฝ่ายจ้องมองมา...ทำให้นางรู้สึกหวาดหวั่น จนไม่อยากจะก้าวเท้าเข้าไปหา “หรือเจ้ารังเกียจพี่ชายคนนี้เสียแล้ว นั่นสินะ ข้ามันก็แค่...” “ข้าไม่เคยรังเกียจพี่ชายเลยนะเจ้าคะ เพียงแต่...” อวิ่นซงถิงรีบเอ่ยแทรก เมื่อเห็นท่าทีคล้ายกับกำลังรู้สึกเจ็บปวดใจของบุรุษหนุ่มตรงหน้า แต่นางกล่าวยังไม่ทันจบ ฝ่ายตรงข้ามก็เอ่ยตัดบทขึ้นมาว่า “เช่นนั้นก็ตามข้าเข้ามา” อวิ่นซงถิงเห็นแผ่นหลังกว้างหายเข้าไปในเรือนร้าง แม้ใจหนึ่งไม่อยากจะเดินตาม แต่เมื่อนึกไปถึงสีหน้าเมื่อครู่ของอีกฝ่าย นางก็ตัดสินใจเดินตาม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status