LOGIN“แต่จุมพิตแรก...”
“เพราะข้ารู้ว่า จุมพิตแรกมีไว้สำหรับคนที่ตนรัก ในเมื่อข้ารักเจ้า ข้าจึงยินดีมอบมันให้กับเจ้า แล้วอาถิงล่ะ ยินดีมอบจุมพิตแรกให้กับข้าหรือไม่?” อวิ่นเฟยหยวนกล่าว พร้อมกับส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับอีกฝ่าย
หากอวิ่นเฟยหยวนจำไม่ผิด ยามนั้นอวิ่นซงถิงน่าจะอายุประมาณสิบสองหนาวได้กระมัง เด็กหญิงตัวน้อยมักจะชอบไปนั่งฟังเรื่องเล่าจากนักเล่านิทานตามโรงเตี๊ยม และมักจะหาซื้อตำราเกี่ยวกับเรื่องราวความรักระหว่างบุรุษกับสตรีกลับมาอ่าน จากนั้นนางก็จะนำเรื่องที่ได้รับฟัง เรื่องที่ได้อ่านกลับมาเล่าให้เขาฟัง ระหว่างที่เล่า...เด็กหญิงตัวน้อยก็มักจะวาดฝันถึงบุรุษหนุ่มรูปงาม หรือไม่ก็เทพบุตรแสนดีในเรื่องเล่า แล้วยังวาดฝันถึงจุมพิตแรกที่แสนหวาน คู่ครอง และชีวิตแต่งงานในภายภาคหน้าของนาง
ในยามนั้นอวิ่นเฟยหยวนคิดเอาไว้ว่า วันข้างหน้าเขาจะพยายามเสาะหาบุรุษในแบบที่อวิ่นซงถิงวาดฝันมาแต่งให้กับนาง ซึ่งตอนที่คิดเขาก็รู้สึกเหมือนจะไม่ยินยอมแปลก ๆ และรู้สึกเจ็บแปลบที่อกข้างซ้าย แต่เพราะตอนนั้นเขายังไม่เข้าใจในความรู้สึกของตนเอง เขาจึงไม่ได้เก็บเอาความรู้สึกแปลก ๆ เหล่านั้นมาขบคิดให้มากความ
ทว่ายามนี้อวิ่นเฟยหยวนมั่นใจในความรู้สึกของตนเองแล้ว แม้เขาจะไม่ใช่เทพบุตรที่แสนดี แต่เขาก็รูปงาม อีกทั้งในหัวใจ และในสายตาก็มีเพียงอวิ่นซงถิง เขาอยากจะเป็นสามีในชีวิตจริงของนาง ไม่สิ! หาใช่เพียงแค่อยาก แต่สามีของอวิ่นซงถิงต้องเป็นเขาเท่านั้น!
อวิ่นเฟยหยวนรีบแสดงท่าทีเฝ้ารอคำตอบ เฝ้าเช็ดน้ำตา แล้วใช้สายตามองอวิ่นซงถิงแบบเว้าวอน
ผ่านไปสักพัก สตรีในอ้อมแขนก็ยังคงพยายามเบือนหน้าหลบสายตา นางยังไม่มีทีท่าจะใจอ่อน ดูเหมือนว่า...เกือบสองปีที่อวิ่นเฟยหยวนมัวแต่ทุ่มเทไปกับการวางแผน และลงมือทำตามแผนการต่าง ๆ แล้วทำแค่เพียงเฝ้ามองนางอยู่ห่าง ๆ จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ และความรู้สึกของนาง
ระหว่างนั้นอวิ่นเฟยหยวนก็นึกไปถึงพิธีปักปิ่นของอวิ่นซงถิงเมื่อปลายปีที่แล้ว...
ในพิธีปักปิ่นเขาสังเกตเห็นเหล่าบุรุษน่าตายจำนวนไม่น้อยที่ลอบมองนาง แล้วด้วยความที่เป็นบุรุษเช่นเดียวกัน พอได้เห็นสายตาของบุรุษเหล่านั้น! ยามนั้นอวิ่นเฟยหยวนแทบอยากจะพุ่งเข้าไปควักลูกตาของพวกมัน!!
แล้วในวันเดียวกันนั้น อวิ่นเฟยหยวนก็บังเอิญเดินผ่านไปได้ยินว่า เผิงจินเยว่หรือมารดาบุญธรรมคิดอยากจะให้อวิ่นซงถิงหมั้นหมาย และแต่งให้กับคุณชายใหญ่ตระกูลลู่
พอได้ยินเช่นนั้น จากแผนระยะยาว อวิ่นเฟยหยวนก็ตัดสินใจรวบรัด เขาเร่งดำเนินแผนการต่าง ๆ จนยามนี้แผนการทั้งหมดใกล้จะสำเร็จเต็มทีแล้ว
ในชั่วขณะนั้นอวิ่นเฟยหยวนก็นึกขึ้นได้ว่า ช่วงนี้ลู่เสี่ยนหรือคุณชายใหญ่ตระกูลลู่มักจะมาขอเยี่ยมเยือนอวิ่นซงถิงที่จวนนายอำเภออยู่บ่อยครั้ง
“อาถิง...หรือที่เจ้าไม่ยินดีมอบจุมพิตแรกให้กับข้า นั่นเป็นเพราะในใจของเจ้ามีบุรุษอื่นอยู่ในนั้นแล้ว?”
“ไม่มีเจ้าค่ะ”
อวิ่นเฟยหยวนจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตของสตรีตรงหน้า
“เช่นนั้นวันนี้เจ้าก็แลกเปลี่ยนจุมพิตแรกกับข้า วันข้างหน้าเจ้าก็แต่งให้กับข้าดีหรือไม่?”
“พี่ชาย ข้า...”
“อาถิง ที่ผ่านมาเจ้าก็รู้ เจ้าก็เห็นมาโดยตลอดว่า นอกจากเจ้า ข้าไม่เคยใกล้ชิดกับสตรีนางใด ไม่เคยมอบความรักให้กับใคร แม้แต่บ่าวอุ่นเตียงที่ท่านแม่ส่งมาให้ ข้าก็ยังไล่กลับไป” กล่าวมาถึงตรงนี้ อวิ่นเฟยหยวนกระชับอ้อมแขนที่กอดให้แน่นขึ้นอีกนิด แล้วขยับมือข้างที่เช็ดน้ำตาลงไปเชยปลายคางของสตรีตรงหน้า เขาใช้ปลายนิ้วโป้งลูบคลึงเบา ๆ ที่ริมฝีปากอิ่มทั้งบน และล่าง ก่อนจะค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงไปหา
“แล้วเหตุผลที่ข้าทำสิ่งเหล่านี้ นั่นก็เพราะจำได้ว่า อาถิงอยากได้สามีที่รักเพียงเจ้า และมีเจ้าเป็นภรรยาแค่คนเดียวอย่างไรล่ะ”
สัมผัสอ่อนโยน น้ำเสียงอ่อนนุ่ม คำพูดอ่อนหวานชักจูงทำเอาหัวใจดวงน้อย ๆ ของอวิ่นซงถิงสั่นสะท้านไปทั้งดวง แล้วในขณะที่ความรู้สึกถูก และความรู้สึกผิดต่อสู้กันอยู่ภายในใจ บุรุษผู้สร้างความหวั่นไหวก็กล่าวขึ้นมาอีกว่า
“อาถิงคนดี หากเจ้าเป็นกังวลเรื่องสถานะของพวกเรา และเรื่องงานแต่ง ขอเพียงเจ้าทำตามที่ข้าบอก และเชื่อมั่นในตัวข้า รับรองว่า...ข้าจะทำให้เราสองคนสามารถครองคู่กันได้อย่างถูกต้อง” อวิ่นเฟยหยวนใช้สองมือประคองดวงหน้างาม แล้วจุมพิตลงบนหยาดน้ำตาที่ข้างแก้ม ก่อนจะใช้ปลายจมูกคลอเคลียกับปลายจมูกของสตรีในอ้อมแขน
“ยามนี้ข้าอยากจุมพิตลงไปที่ริมฝีปากของเจ้า อยากขบกัด และอยากส่งลิ้นของข้าเข้าไปเกี่ยวรัดลิ้นเล็ก ๆ ของเจ้ายิ่งนัก แล้วอาถิงล่ะ ไม่อยากจุมพิตกับข้าบ้างเลยหรือไร?
หรือว่า...การที่เจ้าไม่ยอมตอบ มันเป็นการตอบรับแบบอ้อม ๆ ว่า เจ้าก็อยากจุมพิตกับข้าเช่นกัน”
“ข้า...อื้อ!” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อริมฝีปากบางทาบทับลงบนริมฝีปากของนาง ใจหนึ่งอยากปฏิเสธ แต่ทว่าอีกใจก็อยากตอบรับ มือทั้งสองข้างที่เตรียมจะออกแรงผลัก ยามนี้ก็ได้แต่วางลงบนแผงอกของบุรุษตรงหน้า จากนั้นอวิ่นซงถิงก็ตัดสินใจปิดเปลือกตา
จุมพิตแรกของนางกับอวิ่นเฟยหยวนทั้งนุ่มนวล อ้อยอิ่ง และแช่มช้า มันก่อให้เกิดความรู้สึกหอมหวานกำจายสู่หัวใจดวงน้อย ๆ ของนาง
อวิ่นซงถิงไม่เคยคิดเลยว่า การที่คนสองคนหัวใจตรงกัน และการได้จุมพิตกับคนที่ตนรัก มันจะรู้สึกดี และมีรสชาติหวานล้ำปานน้ำผึ้งเช่นนี้
.......................................................................
ผู้เขียนขอขอบคุณทุกยอดวิว ยอดกดหัวใจ ยอดกดติดตาม และทุกข้อความของผู้อ่านทุกท่านมาก ๆ นะคะ ทุกยอดคือกำลังใจที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆของผู้เขียนเลยค่ะ
หลิวเฟยหยวนกัดฟันกรอด ตอนนี้เขาแทบจะควบคุมสติ และอารมณ์ปรารถนาของตนเอาไว้ไม่อยู่ เขาดึงตัวขึ้น แล้วแทรกเข้าไปยืนระหว่างขาของผู้เป็นภรรยา เขาจับแก่นกายใหญ่ถูไถดอกไม้งามขึ้นลงช้า ๆ จากนั้นก็ค่อย ๆ กดเข้าไปในช่องทางปล่อยน้ำหวาน “อื้อ...ท่านพี่!” อวิ่นซงถิงหยัดกายรับความเสียวซ่าน เนื้อตัวบิดเร่ายามที่หลิวเฟยหยวนลึกล้ำเข้ามา นางรู้สึกปั่นป่วนบริเวณช่องท้อง เมื่ออีกฝ่ายถอดถอน แล้วเติมเต็มกลับเข้ามาจนสุด หลิวเฟยหยวนโน้มตัวลงไปไล้เลียยอดอกของผู้เป็นภรรยา เขากัดฟันสูดลมหายใจเข้าลึก ด้วยคิดจะปล่อยให้อวิ่นซงถิงคุ้นชินกับแก่นกายใหญ่ของเขาสักพักก่อน เพราะเขากับนางห่างหายจากเรื่องพวกนี้มานาน แต่ทว่าหลิวเฟยหยวนยังไม่ทันจะสูดลมหายใจเข้าเป็นครั้งที่สาม ผู้เป็นภรรยาก็ขยับสะโพกเข้าออก จนส่วนล่างข
ดวงตาคู่คมเต็มเปี่ยมไปด้วยไฟปรารถนา แต่ทว่าก็แฝงความอ่อนโยน และผสมกับความพยายามอดทนอดกลั้น ทำเอาเหตุผลต่าง ๆ นานาที่อวิ่นซงถิงเตรียมจะนำออกมาใช้เอ่ยปฏิเสธปลิวหายไปในอากาศ ในขณะที่อวิ่นซงถิงทำอะไรไม่ถูก หลิวเฟยหยวนก็ค่อย ๆ โน้มใบหน้ารูปงามลงมา แตะริมฝีปากบางลงบนริมฝีปากของนาง จากนั้นก็งับเบา ๆ ราวกับต้องการยั่วยวน ก่อนจะผละออก “อาถิง สามร้อยสี่สิบแปดวันที่พวกเราไม่ได้ทำเรื่องดีงามระหว่างสามีภรรยา แล้วก็เป็นสามร้อยสี่สิบแปดวันที่ข้าทำตัวดีมาก ข้าพยายามอดทนอดกลั้น ไม่เรียกร้อง พึ่งพาเพียงกลิ่นกายจากชุดของเจ้ากับแม่นางทั้งห้า” พูดมาถึงตรงนี้ หลิวเฟยหยวนก็จับมือข้างซ้ายของอวิ่นซงถิงขึ้นมากัดเบา ๆ ลงไปที่ปลายนิ้ว พลางเลื่อนสายตามองดวงหน้างาม แล้วเอ่ยต่อว่า “ในช่วงที่ครรภ์ของเจ้ามั่นคงดีแล้ว ท่านหมอบอกกับข้าว่า พวกเราสามารถทำเรื่องดีงามระหว่างสามีภรรยาได้ แต่ต้องทำในท่าที่ถูกที่ควร แล
เมื่อการตั้งครรภ์เข้าสู่เดือนที่แปด อวิ่นซงถิงเจ็บท้องเตือนอยู่บ่อยครั้ง หลิวเฟยหยวนจึงสั่งให้หมอตำแยที่จองตัวเอาไว้มาพักอาศัยอยู่ที่เรือนตระกูลหลิวเป็นการชั่วคราว และสั่งให้เหล่าบรรดาบ่าวรับใช้สตรีในเรือนทุกคนแบ่งแยกหน้าที่ ซักซ้อมการวิ่งเตรียมของยามฉุกเฉิน และจัดเวรยามผลัดกันนอนผลัดกันตื่น เตรียมพร้อมได้ไม่ถึงครึ่งเดือน อวิ่นซงถิงก็เจ็บท้องคลอด ผู้เป็นสามีไม่ยินยอมออกไปจากห้อง และไม่ยอมอยู่ห่างจากนางเลยสักเสี้ยววินาที แม้หมอตำแยจะเดินเข้ามาเอ่ยเชิญหลิวเฟยหยวนให้ออกไปจากห้องเป็นระยะ โดยให้เหตุผลว่า ห้องคลอดเป็นสถานที่สกปรกบุรุษไม่เหมาะจะอยู่ด้านใน แต่ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่ยอมฟัง แล้วยังคงดื้อรั้นอยู่ข้างกายนางตลอดการทำคลอด โดยผู้เป็นสามีนั่งปักหลักพิงหัวเตียง แล้วให้อวิ่นซงถิงนั่งพิงแผ่นอกของเจ้าตัว ระหว่างเบ่งคลอดหลิวเฟยหยวนก็คอยช่วยโอบประคอง เอ่ยถ้อยคำปลอบโยน ช่วยซับเหงื่อ และยังคอยส่งเสียงช่วยนางออกแรงเบ่งเป็นระยะ
“ยินดีด้วยขอรับนายท่านหลิว ฮูหยินของท่านตั้งครรภ์ได้ห้าสัปดาห์แล้วขอรับ” สิ้นคำพูดของท่านหมอ อวิ่นซงถิงนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันขวับไปมองหลิวเฟยหยวนที่กำลังนั่งอาเจียนใส่กระโถนอยู่บนเตียง แล้วเมื่อเห็นอีกฝ่ายหันมามองนางด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความรู้สึกตกตะลึงไม่ต่าง นางก็รีบปรับลมหายใจ เพื่อรวบรวมสติของตนเองกลับมา หลังจากนั้นท่านหมอก็กล่าวคำแนะนำ กล่าวเตือนสิ่งที่ต้องพึงระวัง และส่งเทียบยาทั้งของผู้เป็นสามีกับเทียบยาบำรุงครรภ์ของนางให้ อวิ่นซงถิงรับมาตรวจสอบ ก่อนจะส่งไปให้อาต้าน ซึ่งยามนี้อาต้านได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นพ่อบ้านในเรือนตระกูลหลิวของพวกนางแล้ว อวิ่นซงถิงลุกขึ้นยืน พลางกล่าวขอบคุณ นางสั่งให้อาต้านตามออกไปส่งท่านหมอ และให้ออกไปซื้อยาทั้งสองเทียบกลับมาด้วย เมื่อภายในห้องพักเหลือเพียงแค่หลิวเฟยหย
นานวันเข้า หลิวเฟยหยวนเริ่มรู้สึกอยากเป็นคนเดียวที่อวิ่นซงถิงใกล้ชิด และให้ความสนิทสนมด้วย แล้วเขาจะรู้สึกไม่ชอบใจทุกครั้งยามเห็นนางไปพูดคุย ไปให้ความสนิทสนม หรือส่งยิ้มให้กับผู้อื่น ไม่เว้นแม้แต่น้องชายแท้ ๆ เหล่าบรรดาน้องสาวกับน้องชายต่างมารดา และเหล่าบรรดาบ่าวสตรีรับใช้คนสนิทของนาง ช่วงแรก ๆ หลิวเฟยหยวนก็ยังไม่เข้าใจในความรู้สึกนี้ของตนเอง แล้วเขายังคิดเองเออเองไปว่า เพราะอวิ่นซงถิง คือ คนที่เขาให้ความสนิทสนมที่สุดจึงเผลอยึดติด หรือไม่...เขาก็อาจจะแค่หวงน้องสาวเท่านั้น ทว่ายิ่งพอเติบใหญ่ความรู้สึกเหล่านี้ก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และยังมีความรู้สึกอยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของ แล้วก็อยาก...เขาดันเกิดความคิดอยากจะทำเรื่องไม่ถูกไม่ควรกับน้องสาวบุญธรรม! จนบางครายามค่ำคืน หลิวเฟยหยวนถึงขั้นเก็บเอาความคิดไม่ถูกไม่ควรเหล่านั้นกับอวิ่นซงถิงไปฝัน!!&nbs
หลิวเฟยหยวนจ้องมองรอยยิ้มของผู้เป็นภรรยา เขาจำได้ว่า... วันนั้นเป็นวันหยุดของสำนักศึกษา หลิวเฟยหยวนกลับมาพักที่จวนนายอำเภอ ช่วงบ่ายวันนั้นอากาศค่อนข้างร้อน บริเวณรอบเรือนของเขาไม่มีต้นไม้ใหญ่พอจะใช้พึ่งพิงร่มเงาได้ แล้วอีกเพียงแค่สองวันเขาจะต้องเข้าสอบ หลิวเฟยหยวนจึงตัดสินใจก้าวเท้าออกจากเรือน แล้วเดินหาสถานที่เงียบ ๆ เพื่อนั่งทบทวนตำรา ในขณะที่หลิวเฟยหยวนเดินผ่านลานกว้างท้ายจวน เขาสังเกตเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ พอเห็นดวงหน้าของเด็กคนนั้น...! หลิวเฟยหยวนนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง เด็กคนนี้คือ คนที่ทำให้ชีวิตภายในจวนของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เลวร้าย แล้วก็ยังเป็นคนที่เขาไม่อยากเข้าใกล้ ไม่อยากพูดคุยด้วยและพยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด






![พันธะสวาทจอมเวทย์ [18+, พีเรียดอีโรติก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
