Beranda / วาย / อลวนกวนเลิฟ / ตอนที่ 2.2 การกลับมา

Share

ตอนที่ 2.2 การกลับมา

Penulis: babybearry
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-24 04:57:31

          น่านฟ้ามองคนอายุน้อยกว่าด้วยสายตามันเขี้ยว เขาจึงขอแม่พาน้องเดินไปอีกด้านหนึ่ง รตีมองทั้งคู่ด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะพยักหน้าแล้วปล่อยพวกเขาไป ส่วนตัวเธอเดินไปยังโซนผัก ผลไม้ และเนื้อสด

          ชายหนุ่มผมบลอนด์ยืนมองสองข้างทางที่เต็มไปด้วยของขาย บอกได้เลยว่าวันนี้มีตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ใบหน้าสวยหันกลับมามองคนเด็กกว่า แม้ว่าน้องชายจะขึ้นมัธยมปลายตอนต้นแล้ว แต่ความสูงก็ไม่ได้ห่างจากเขามากนัก จะมีก็แต่สีผิวและรูปร่างแข็งแกร่งนั่น เขา เทียบ ไม่ ติด สัก นิด!

          “อยากกินอะไรเต็มที่เลยนะ มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง” แขนเพรียวยกขึ้นโอบไหล่กว้างจากนั้นก็ยักคิ้ว ถึงจะไม่มาดแมนเท่า แต่ก็เปย์เอ็งได้เหมือนกันล่ะวะ!

          “จริงดิพี่”

          น่านน้ำได้ยินแบบนั้นก็ยกมือขึ้นมาถูไปมา “งั้นน้ำไม่เกรงใจแล้วนะ”

          “ระดับนี้ เรียกเสี่ยยังได้” ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นลูบเคราทิพย์ ก่อนจะหันไปจ้องหน้าคนข้าง ๆ พร้อมกับพูดขู่ด้วยเสียงที่คิดว่าน่ากลัวที่สุด “แต่อย่าให้รู้ว่านัดพวกไอ้เปี๊ยกเอาไว้แล้วกัน ไม่งั้นบ้านแตกแน่”

          “…”

          มือเรียวหยิบธนบัตรในกระเป๋าออกมาแล้วยื่นออกไป น่านน้ำรีบยกมือไหว้รับ เจ้าตัวนับธนบัตรในมือพร้อมกับสีหน้าเบิกบานใจ ไล่หลังน้องชายเดินจากไป น่านฟ้าก็เดินแยกไปอีกทาง เท้าทั้งสองก้าวเดินไปข้างหน้า จนกระทั่งบรรยากาศรอบตัวเริ่มเปลี่ยนไปราวกับคนละโลก

          “หนู… หนูนั่นแหละ”

          “ครับ? ยายเรียกผมหรอครับ”

          คนตัวเล็กหันไปมองหญิงชราตรงน้าที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเก่า ๆ ขาด ๆ

          “ใช่จ้ะ ช่วยยายซื้อของหน่อยสิลูก ยายขายไม่ได้เลยวันนี้”

          ตลับกำมะหยี่ถูกยื่นมาวางไว้ตรงหน้า ของด้านในเต็มไปด้วยเครื่องประดับนานาพรรณ ดูแล้วคงจะมีมูลค่าสูงน่าดู มันเหมือนกับพวกของเก่าแก่ที่คนนิยมเก็บสะสมกัน

          “มีอันไหนที่หนูชอบไหมลูก ถ้าชอบยายจะลดให้”

          เสียงแหบแห้งของหญิงชราเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา

          "ถ้างั้นยายช่วยเลือกให้หน่อยได้ไหมครับ ว่าแบบไหนเหมาะกับผม”

          “อันนี้ดีไหมลูก?”

          “สร้อยนี้ยายได้มาแค่ครึ่งหนึ่ง น่าเสียดายที่อีกครึ่งมันหายไป”

          สร้อยพระจันทร์เสี้ยวปรากฎต่อสายตา มันสวยแถมน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก และเขาก็เองก็รู้สึกว่าอยากเป็นเจ้าของสร้อยเส้นนี้ด้วย

          “ราคาเท่าไหร่หรอครับ?”

          “ยายเอาแค่ร้อยเดียวพอ..”

          “ร้อยเดียว?” ของพวกนี้ราคามันน่าจะมากกว่าร้อยเดียวด้วยซ้ำ

          “ถ้าหนูชอบมันจริง ๆ ยายเอาแค่ร้อยเดียวก็พอแล้ว”

          น่านฟ้าลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบตกลงหญิงชราตรงหน้า “ขอบคุณนะครับ”

          ริมฝีปากชมพูอ้ายิ้มกว้าง นับว่าวันนี้โชคดีที่ได้ของสวย ๆ หายากแบบนี้มาเก็บไว้ หนำซ้ำยังได้มาในราคาไม่แพงด้วย มือเรียวยื่นธนบัตรสีแดงให้กับหญิงชรา ก่อนจะรีบลุกและเดินออกไป โดยไม่ได้ยินเสียงแหบแห้งของเธอพูดตามหลัง

          “อีกไม่นานหนูก็จะได้เจอกับเจ้าของสร้อยอีกครึ่งเอง…”

          ท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาภายในสนามบิน บริเวณประตูทางออกมีชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ หญิงสาวผิวเนียนขาวกระจ่าง ใบหน้าเรียวเล็ก เปลือกตาชั้นเดียวทว่าคมเรียวดูดุ รูปร่างเพรียวสวย เพียงมองปราดเดียว ด้วยภาพลักษณ์นี้ก็บ่งบอกถึงชาติตระกูลได้เป็นอย่างดี

          ส่วนชายหนุ่มด้านข้างร่างสูงกำยำ แผ่นหลังกว้างรับกับไหล่ที่หนั่นแน่น ผิวพรรณขาวสะอาดสะอ้าน ตาเรียวดุคมเข้ม จมูกโด่งได้รูป บริเวณหลังมือปรากฏเส้นเลือดนูนขึ้นมาเล็กน้อย เรียกได้ว่าใครเห็นจำต้องมองไม่หยุด

          “เฮีย เมื่อไหร่พวกเขาจะมารับเราสักที อั๊วยืนจนเมื่อยไปหมดแล้ว!”

          หงส์หยกพูดด้วยเสียงหงุดหงิด เธอยืนกอดอกแล้วเชิดหน้าขึ้นพร้อมกับย่ำเท้าไปมา ด้วยนิสัยที่อยู่นิ่งไม่ค่อยได้แก้ไม่หาย ขบคิดในใจอย่างหัวเสียว่าเมื่อไหร่ตนจะได้กลับไปพักผ่อนสักที

          “นี่ ลื้อเลิกย่ำเท้าไปมาได้ไหมอาหมวย ถ้าลื้อไม่รู้แล้วอั๊วจะรู้หรอ”

          เฟยหลงเอ็ดน้องสาวเสียงไม่ดังมากนัก พอให้ได้ยินแค่สองคน

          “เฮีย! ถ้าไม่ช่วยอะไรก็เงียบไปเลย คนยิ่งอารมณ์เสียอยู่”

          “แค่เท้าแตะพื้น อั๊วก็อยากบินกลับจีนแล้ว ไม่รู้ทำไมเตี่ยต้องให้มาอยู่ที่บ้านนอกแบบนี้ด้วย แอมนอทโอเค ยูโน๊ว!?”

          ตั้งแต่เล็กจนโต หงส์หยกใช้ชีวิตอยู่ที่จีนแผ่นดินใหญ่มาโดยตลอด จนใบหน้าของเธอแทบจะกลมกลืนกับผู้คนในประเทศนั้น เว้นก็แต่ชื่อ เพราะผู้เป็นแม่อยากให้ลูกของตนไม่ลืมความเป็นไทย ส่วนพี่ชายคนโตอย่างเฟยหลงเคยอยู่ที่ไทยช่วงหนึ่ง กระทั่งถูกส่งไปอยู่จีนกับน้องสาว นับว่าเป็นครั้งแรกที่เธอได้มาประเทศไทยก็ว่าได้

          เฟยหลงมองน้องสาวอย่างเอือมระอา ถึงจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแทบทุกวัน แต่เขาก็ไม่เคยชินกับนิสัยของผู้เป็นน้องสักที

          “แฮ่ก ๆ มาแล้วครับ” เฉียบวิ่งมาหยุดยืนหอบ เขาเผลอหลับระหว่างวัน กว่าจะตื่นก็เลยเวลามารับนายน้อยของบ้านแล้ว มือหยาบยกขึ้นปาดเหงื่อบริเวณกรอบหน้าคมเข้ม

          “ลื้อใคร แล้วหรงเกอไปไหน?” เฟยหลงถามคนเบื้องหน้าที่กำลังหายใจหอบอยู่ เขาไม่เคยเห็นหน้าคร่าตาบุคคลนี้มาก่อน

          “ผมเฉียบครับ เข้ามาทำงานกับเฮียได้สามปีแล้วครับ ส่วนพี่หรงแกต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัด หน้าที่ในส่วนนี้เลยตกมาอยู่ที่เฉียบครับผม!”

          เฉียบรีบอธิบายด้วยเสียงหนักแน่นจริงจัง

          ชายร่างสูงจ้องเขม็งสำรวจอย่างละเอียด

          “จะมองอีกนานไหมเฮีย อั๊วอยากกลับไปอาบน้ำนอนตากแอร์จะแย่แล้ว”

          พูดเสร็จหญิงสาวก็ถูแขนทั้งสองข้างไปมา

          “รีบมากก็เดินไปนู่น เกิดมันไม่ใช่คนของเตี่ยขึ้นมาล่ะก็ ลื้อได้ตายก่อนได้บินกลับจีนแน่” ชายหนุ่มผมดำหันไปเอ็ดน้องสาว จากนั้นก็ตวัดสายตากลับมามองชายร่างใหญ่ตรงหน้า “เดินนำทางไป ถ้าตุกติกคงรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”

          “ครับนายน้อย”

          เฉียบหมุนตัวหันหลังเดินกลับไปยังทางที่จากมา ระหว่างกำลังก้าวเท้าเดิน ขนแขนทั้งสองข้างเริ่มชูตั้งเรียงกันเป็นแถบ เจ้าตัวยกมือลูบขนแขนทั้งสองข้างไปมา ก่อนจะพูดพึมพำกับตนเองเสียงเบา “ทำไมต้องมาปวดxตอนนี้ด้วยวะ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • อลวนกวนเลิฟ   ตอนที่ 11.1 ไม่เจอกันนานคิดถึงจังเลย

    ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวจากทิศตะวันออก กระทั่งย้ายไปอยู่ตำแหน่งเหนือศีรษะ ท่ามกลางท้องฟ้าสีครามที่ไร้เมฆบดบัง แสงเหลืองอมส้มทอประกายลงมาบนพื้นผิวด้วยอุณหภูมิที่ร้อนระอุ ส่งผลให้ชายผิวแทนถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก แต่กลับไม่สามารถเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาได้ เพราะดูเหมือนตอนนี้ผู้เป็นนายอารมณ์เสียผิดปกติ เฉียบลอบมองชายหนุ่มผิวขาวราวหยวกเป็นระยะ ทว่าเวลาโดนสายตาคมคู่นั้นมองกลับก็รีบเบือนหน้าหนี“เฮ้ย ลื้อเป็นอะไร?” เฟยหลงทนไม่ไหวจึงเอ่ยถาม เขาเห็นอีกคนเดี๋ยวก้มเดี๋ยวเงย เห็นแล้วเวียนหัวหัวแทน “คนนะเว้ยไม่ใช่ปลาทอง มองอยู่ได้”“แหมเสี่ย ถึงจะมองเสี่ยก็ไม่ท้องหรอกน่า”“เดี๋ยวปั๊ด ฮึ่ย” เฟยหลงยกแขนขึ้นทำท่าจะเหนี่ยวใส่อีกคน ก่อนจะเก็บแขนกลับเข้าที่เดิม เขาทำท่างฮึดฮัดเหมือนไม่มีอะไรดั่งใจเลยสักอย่าง“โธ่...วันนี้เสี่ยเป็นอะไร ทำไมใส่อารมณ์แปลก ๆ แล้วไหนจะพาผมมายืนตากแดดตากลมอยู่หลังร้านด้วย เป็นอะไร๊ เป็นอะไร” ถ้าพามายืนหลบแดดเขาจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่เล่นยืนอาบแดด เหงื่อไม่ไหลไคลไม่ย้อยก็ให้มันรู้กันไป“อั๊วไม่ได้ใส่อารมณ์”“งั้นแปลว่าเสี่ยมีอารมณ์”“ใช่ เฮ้ย ไม่ใช่!” เฟยหลงหันไปถลึงตาใส่คนด้านข้าง หัวเขา

  • อลวนกวนเลิฟ   ตอนที่ 10.2 ที่ทำลงไปเพราะใจสั่งมา

    “เอาน่า รอบหน้าถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงนะลูก แม่ไม่อยากให้ฟ้ามีปัญหา ดูท่าแล้วคงเป็นลูกคนมีสตางค์แน่นอน” รตีทำหน้าเป็นกังวลอยู่กลาย ๆ เธอเพียงเป็นห่วงลูกชายว่าจะโดนทำร้าย ทุกวันนี้เงินมันมีค่ามากกว่าความเป็นคนเสียอีก“ครับแม่ ฟ้าเองก็ไม่อยากมีปัญหาหรอกครับ” ยิ่งคนมีสตางค์แต่ไม่มีสติแบบหมอนั่น ไม่รู้ว่ารอดมาถึงทุกวันนี้แบบครบ32ประการได้ยังไงข้าวจ้าวมองเพื่อนสนิทแล้วก็พูดขึ้นมาแทบจะทันควัน นาน ๆ ทีจะได้พูดแซวกลับบ้าง เพราะส่วนมากเป็นเขาที่โดนแซวเสียมากกว่า จังหวะดี ๆ แบบนี้ข้าวจ้าวจะพลาดได้อย่างไรเล่า “โบราณว่าเกลียดอะไรระวังได้แบบนั้นนะเว้ย”“อ๋อหรออออ เหมือนแกกับวินใช่ไหมล่ะ”“เหมือนนรกกับสวรรค์อะบอกเลย” ยิ่งคิดภาพว่าจากที่ตีกันมาจู๋จี๋กันมันไม่ได้! ไม่ได้แบบขีดเส้นผ่าชัด ๆ “กูยอมเป็นโสดจนตายดีกว่าได้กับมัน”“จ้า จำคำนี้ไว้แล้วกัน อย่าให้เห็นว่าลับหลังแอบไปนอนกอดกันบนเถียงนาน้อย” น่านฟ้าพูดแซวอีกคนกลับ ขณะเดียวกันก็กอดซบแม่ของตนด้วยท่าทางออดอ้อนน่าเอ็นดู“เรานี่นะ แกล้งน้องไม่พอยังจะแกล้งเพื่อนอีก ดูหน้าหนูจ้าวซินั่น”ใบหน้ายับยู่ยี่ของชายหนุ่มผมแดงเบื้องหน้า สร้างรอยยิ้มให้กับสองแม่ลูกไ

  • อลวนกวนเลิฟ   ตอนที่ 9.2 คงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำชาติที่ผ่านมา

    “น้ารตี! ผมเอาแตงโมมาฝากครับ” ข้าวจ้าวชูถุงแตงโมขนาดใหญ่ในมือ จากนั้นก็เดินเข้าไปหาสองแม่ลูกที่กำลังนั่งอยู่บนแคร่ไม้หน้าบ้าน“อ้าวหนูข้าวจ้าว มากับใครจ๊ะ”รตีวางของในมือลง แล้วรับแตงโมมาจากเด็กหนุ่มรุ่นลูก“มาคนเดียวครับ ผมมาทำธุระแถวนี้พอดี”“น้ากำลังเตรียมทำมื้อเที่ยงพอดีเลย รอเอากลับไปกินที่บ้านด้วยสิจ๊ะ”“จะดีหรอครับ ผมเกรงใจ” ชายหนุ่มผมแดงกล่าวพลางยิ้มส่งไป“ทำไมจะไม่ดีล่ะลูก ถ้างั้นเดี๋ยวน้าเอาแตงโมไปปั่นมากินเลยดีกว่า” เธอก้มมองแตงโมในมือแล้วระบายยิ้มเล็กน้อย ตามด้วยร่างสันทัดของหญิงวัยกลางคนลุกเดินเข้าไปในบ้าน จึงทำให้บนแคร่เหลือเพียงน่านน้ำแทน“ครับ ถ้างั้นรบกวนด้วยนะครับ” ข้าวจ้าวทรุดตัวนั่งลงบนแคร่ไม้ไผ่ เขานั่งฝั่งตรงข้ามกับคนอายุน้อยกว่า มือเรียวได้รูปหยิบตะกร้าสีขาวด้านหน้ามาสานต่ออีกแรง ขณะเดียวกันก็ชวนเด็กหนุ่มคุยไปด้วย “ไงเรา พี่อยู่บ้านรึเปล่า”“ไม่อยู่ครับ พี่ฟ้าไปทำงานในตลาดนู้น”“อ้าว แล้วไปนานรึยัง” พักหลังมาเขาไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนบ่อยเท่าไหร่พอได้ยินข่าวคราวก็ย่อมเกิดความอยากรู้เป็นธรรมดา“พึ่งไปได้สี่วันเอง แล้วพี่มาทำอะไรแถวนี้หรอ?”“พอดีเอาของมาให้คนรู้จัก

  • อลวนกวนเลิฟ   ตอนที่ 10.1 ที่ทำลงไปเพราะใจสั่งมา

    ภาพของไร่องุ่นขนาดใหญ่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า เฟยหลงและหงส์หยกเดินตามหลังหญิงวัยกลางคนเข้าไปด้านในไร่ สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นองุ่นเรียงรายกันเป็นแถว ผลองุ่นสีเขียวอ่อนตัดกับสีม่วงเข้ม ประกอบกับบนท้องฟ้าประดับด้วยเมฆก้อนเล็ก ๆ สีขาวนวล สภาพอากาศปลอดโปร่งทำให้มองเห็นวิวภูเขาชัดเจน เจ้าของเรือนร่างอรชรกวาดสายตามองทิวทัศน์โดยรอบ ใบหน้านวลฉีกยิ้มกว้าง นัยน์ตาของเธอดูสดใสมีชีวิตชีวาเฟยหลงลอบสูดอากาศบริสุทธิ์ นัยน์ตาคมดุจเหยี่ยวหันมองซ้ายขวาด้วยความสนใจ เจ้าของไร่มองทุกอย่างได้อย่างเฉียบขาด ไม่ได้ดีแค่ทำเลโดยรอบ แต่พื้นผิวของดินก็ยังดีอีกด้วย องุ่นทุกต้นนอกจากจะผ่านวิธีการดูแลเบื้องต้นแล้ว ดินก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญของมัน ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดไว้“เสี่ย” เฉียบเอ่ยเรียกเจ้านายเสียงเบา“เสี่ยดูองุ่นพวกนี้สิ น่ากินทั้งนั้นเลย” ชายหนุ่มผิวแทนว่าแล้วก็จ้องพวงองุ่นที่ย้อยลงมาอย่างไม่วางตา มีแต่ลูกใหญ่ ๆ น่ากินทั้งนั้น คิดแล้วก็อยากเด็ดกินสักลูก ถ้าเป็นองุ่นดองก็ยิ่งน่ากิน จิ้มกับพริกเกลือทีนึงถอดจิตขึ้นสวรรค์ได้เลย“อยากกินก็ซื้อ” เฟยหลงตอบแบบขอไปที ทั้งไม่ได้หันไปมองอีกคนด้วยซ้ำ“แหม เสี่ยจะจ่ายให้เฉี

  • อลวนกวนเลิฟ   ตอนที่ 9.1 คงเป็นเวรกรรมมที่ฉันเคยทำชาติที่ผ่านมา

    จากเหตุการณ์ก่อนหน้า ทำให้สองพี่น้องพร้อมกับคู่ขาอย่างเฉียบได้มายืนอยู่หน้าร้านขนส่ง น่านฟ้ายังคงทำหน้าที่ของตนเองโดยไม่ได้สนใจสายตาสามคู่ที่กำลังมองมา เฟยหลงเห็นอีกคนมองข้ามพวกตนเหมือนเป็นวิญญาณพลันรู้สึกฉุนฉิว เขาออกจะโดดเด่นขนาดนี้มองข้ามไปได้ยังไง ตาไม่ถึงจริง!“อีกนานไหม น้องสาวอั๊วรอนานแล้ว” คนตัวสูงยืนล้วงกระเป๋ากางเกง พร้อมกับวางมาดใส่เป็นนัยน์ว่าให้อีกคนรีบไปได้แล้วน่านฟ้าขมวดคิ้วหันไปมอง ก่อนจะหันกลับไปเช็คของในมือต่อ“ถามไม่ได้ยินรึไง” เฟยหลงยังคงถามย้ำอีกคน“ถ้ารีบมากไม่ไปตั้งแต่เมื่อวานล่ะครับคุณ” ถึงแม้คนตัวเล็กจะยอมตอบกลับไป แต่เขาก็ไม่ได้ผินหน้าขึ้นมองคู่สนทนาเลยสักนิด เสมือนพูดกับอากาศแล้วก็จบลงที่ความเงียบอีกเช่นเคย“นี่!” ร่างสูงราวร้อยเก้าสิบเดินอาด ๆ เข้าไปยืนจังก้าเบื้องหน้าเจ้าของเรือนผมบลอนด์ ใบหน้าหล่อเหลาก้มมองคนที่เตี้ยกว่า เขากำลังจะอ้าปากพูดแต่ดันช้ากว่าอีกฝ่าย ที่จู่ ๆ ก็พูดโพล่งออกมา“หลบหน่อย เกะกะ”ชายหนุ่มลูกครึ่งถึงกับกลืนคำพูดลงแทบจะไม่ทัน“เฮีย ดูเหมือนเขาจะไม่ชอบขี้หน้าเฮียเลยนะ” ร่างอรชรของหงส์หยกรุดเดินข้ามายืนเทียบข้างพี่ชาย เธอมองผู้เป็นพี่สล

  • อลวนกวนเลิฟ   ตอนที่ 8.2 ครั้งที่สี่นี่ไม่ควร

    “มานี่สิ” ศักดิ์ชัยกระดิกนิ้วเรียกลูกชายพายุลอบถอนหายใจแล้วเข้าไปหาผู้กุมบังเหียนของบ้าน บุคคลที่เขาไม่เคยต่อต้านได้เลยสักครั้ง เมื่อเดินไปถึงชายหนุ่มก็ถูกกดตัวลงกับพื้นจากด้านหลัง เขานั่งนิ่งไม่ไหวติง ราวกับเป็นรูปปั้น เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนกระทำแบบนี้“แกบอกว่าฉันขังแกเหมือนกับนกในกรงงั้นหรอ”“ฉันจะบอกอะไรให้นะ” เขาพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าลูกชายตนเอง ไม่ได้แยแสหรือสนใจสักนิด ว่าอีกคนจะทำหน้าตายังไง “นกที่โดนขังไว้ในกรง ถ้ามันไม่ตายมันก็ออกไปจากกรงไม่ได้ หรือถ้าเจ้าของมันตาย มันก็ออกไปไหนไม่ได้อยู่ดี”“เพราะชีวิตของมันถูกกำหนดมาแล้ว... ว่าต้องตายอยู่ในกรงเท่านั้น”“เข้าใจที่พ่อพูดไหมพายุ?”นัยน์ตาคมแดงก่ำ สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกสิ้นหวังอย่างที่สุด ความรู้สึกในใจพังยับเยินไม่เป็นชิ้นดี“ไปแต่งตัวให้มันดีกว่านี้ ได้เวลาทำหน้าที่ในฐานะลูกชายของฉันแล้ว”“ครับพ่อ...” เขาเค้นเสียงพูดผ่านไรฟันชายหนุ่มร่างแบบบางยืนมองโรงสีขนาดใหญ่ตรงหน้า รถคันใหญ่เทียวเข้าเทียวออกวนเวียนไปมา เขายืนอยู่หน้าทางเข้าได้สักพักหนึ่ง จู่ ๆ ก็เกิดความรู้สึกลังเล ราวกับถ้าก้าวขาข้างใดข้างหนึ่งไป จะมีเรื่อ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status