Beranda / วาย / อลวนกวนเลิฟ / ตอนที่ 2.1 การกลับมา

Share

ตอนที่ 2.1 การกลับมา

Penulis: babybearry
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-24 04:52:11

          ช่วงสายของวันใหม่มาเยือนพร้อมกับสองหนุ่มหัวแดงส้มยืนอยู่หน้าทางเข้า เจ้าของเรือนผมแดงผิวขาวผ่อง ร่างสูงโปร่ง แม้ว่าร่างกายจะไม่ได้กำยำแต่ก็ดูแข็งแรง ใบหน้าเรียวคมดูหยิ่งผยอง ทว่าอีกคนผิวแทน ร่างสูงใหญ่กำยำ ใบหน้าหล่อเหลาติดเย็นชา

          “ถอยไปหน่อยได้ไหม” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจ

          “จะให้กูถอยไปไหน อีกนิดคงได้สิงกับรั้วออกรากเป็นต้นตำลึงพอดี”

          “มองหน้าแบบนี้หมายความว่ายังไง?” วินมองหน้าอีกคนพร้อมกับยักคิ้วเป็นเชิงถาม แต่คนด้านข้างยิ่งชักสีหน้ามากกว่าเดิม

          “ยุ่ง” ข้าวจ้าวหันหน้าหนีไปอีกทาง ไม่รู้ว่าวันนี้เขาเผลอก้าวเท้าออกจากบ้านผิดข้างรึเปล่า ทำไมถึงได้ซวยมาเจอคนที่เหม็นขี้หน้าแบบนี้!

          วินไหวไหล่กลับไป เขาก็ไม่คิดว่าจะได้มาเจอคู่กัดเข้า ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะว่าเพื่อนก็ไม่เชิงเพื่อน เพื่อนที่ไหนเจอหน้ากันแล้วพร้อมเลาะฝีปากกันได้ตลอดเวลา เหมือนไม่ได้ด่าแล้วกินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับอย่างนั้น

          ในขณะนั้น รตีเดินออกมาเก็บผักหน้ารั้วก็บังเอิญเจอกับเพื่อนทั้งสองของลูกชาย เธอเข้าไปทักทายเด็กหนุ่มด้วยท่าทีเป็นกันเอง พร้อมกับตะกร้าสานในมือที่เตรียมไว้ใส่ผัก “อ้าว ไปไงมาไงกันลูก”

          “สวัสดีครับน้ารตี พอดีว่าผมเอาขนมมาฝากครับ” พูดจบข้าวจ้าวก็ชูตระกร้าขนมในมือขึ้น หางตาเหลือบมองคนตัวโตด้านข้าง ก่อนจะยักคิ้วใส่

          ทางด้านของวินได้แต่เม้มปากแอบหัวเราะคิกคักในใจ ไอ้ท่าทางยักคิ้วเหล่ตาของอีกคน เขาบอกได้เลยว่ามันตลก ไม่ได้ทำให้ดูเคืองหรือสลดใจแม้แต่น้อย

          “ขอบใจนะจ๊ะ เข้ามานั่งข้างในก่อนมา” หญิงวัยกลางคนลอบยิ้มให้กับท่าทางของทั้งคู่ลำพัง เธอก้มลงปลดล็อคกลอนประตูด้านล่าง และเปิดออกให้กับพวกเขา “ตามสบายเลยนะ เดี๋ยวน้าขอเก็บผักไปทำอาหารก่อนจ้ะ”

          “ครับ แล้วนี่ฟ้าตื่นรึยังครับ”

          เสียงทุ้มห้าวกล่าวขึ้น พลางช่วยดันประตูไปอีกฝั่ง

          “รายนั้นเข้าไปดูองุ่นในไร่ตั้งแต่เช้านู่น อีกเดี๋ยวก็คงมาน่ะจ้ะ”

          ทั้งสองพูดคุยกับหญิงวัยกลางคนสักพักแล้วเดินจากไป เงาร่างเล็กใหญ่เดินไล่เลี่ยกันมาจนถึงหน้าบ้าน บริเวณภายนอกถูกตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิด พวกมันพากันออกดอกเบ่งบานอย่างสวยงาม ข้าวจ้าววางตะกร้าลงบนโต๊ะไม้หน้าบ้าน เขาอดไม่ได้ที่จะเดินไปดูดอกไม้พวกนั้น มือเรียวยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ ส่วนวินได้แต่ยืนมองอยู่อย่างเงียบ ๆ

          ระหว่างนั้นก็มีเสียงหนึ่งพลันดังขึ้นด้านหลังพวกเขา

          “มาอะไรกันแต่เช้า” น่านฟ้าพึ่งเดินกลับมาจากในไร่ ก็เจอกับเพื่อนซี้คู่กัดอย่างวินกับข้าวจ้าว คนตัวเล็กเดินรุดเข้าไปหาทั้งสองอย่างรวดเร็ว

          เจ้าของเรือนผมแดงลุกพรวดขึ้น เขารีบยัดมือถือเข้ากระเป๋าทันควัน “กูเอาขนมมาให้ อีกเดี๋ยวก็จะกลับแล้ว”

          "แล้วแกล่ะ” ใบหน้าสวยหันไปมองเพื่อนอีกคน

          “มาเล่นด้วย รู้สึกว่าผิวพรรณเปล่งปลั่งเชียวนะมึง ไปแอบเข้าสปามาป่ะ”

          คนตัวโตพูดหยอกอย่างเช่นเคย เพราะเขารู้ดีว่าอีกคนไม่ถือสา ยกเว้นคนด้านข้างไว้คนหนึ่งแล้วกัน รายนี้แค่มองหน้าก็พร้อมจดชื่อลงบนบัญชีหนังหมา

          “มีแต่สปาปุ๋ยวัว จะเอาด้วยไหม?”

          น่านฟ้าตอบกลับ พร้อมกับแบมือทั้งสองข้างแล้วยื่นไปข้างหน้า ก็ถ้าอีกคนอยากสปาด้วยจริง เขาจะเดินย้อนกลับไปขุดดินขึ้นมาให้เอง

          ทั้งสามพูดคุยกันอย่างออกรส เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ น่านฟ้าชวนเพื่อนทั้งสองอยู่ทานข้าวเที่ยงด้วยกัน จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปดูองุ่นในไร่ ข้าวจ้าวชื่นชอบธรรมชาติเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็รู้สึกว่าเหมือนได้มาพักผ่อนและถูกบำบัดด้วยธรรมชาติไปในตัว แม้ว่าระหว่างทางจะมีมารหัวส้มคอยผจญก็ตาม

          “เดินดี ๆ ดิ๊ ขาเป๋หรือไง เดินเบียดกูอยู่ได้” ข้าวจ้าวมองค้อนใส่อีกคน ถ้ามีแค่พวกเขาสองคน รับรองเลยว่าไอ้หัวส้มนี่ต้องโดนเขาถลกหนังแน่นอน!

          “ก็ทางมันแคบ อย่างกับกูอยากแนบชิดอิงแอบมึงตายแหละ” วินไหวไหล่แล้วยักคิ้วหลิ่วตาใส่โดยไม่เกรงกลัว เขาไม่ได้ผิดสักหน่อย ทำไมต้องยอมด้วยล่ะ

          ข้าวจ้าวพยายามอดกลั้นไม่ให้พ่ายแพ้ต่อเสียงในหัวของตน ทว่าใบหน้าเรียวเริ่มขึ้นสี มือทั้งสองกำเข้าหากันแน่น ก่อนจะค่อย ๆ สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วคลายมือออก ส่วนน่านฟ้าทำได้เพียงส่ายหัวไปมา รอบหน้าถ้าเจอคู่นี้อีกเขาต้องหาอะไรมาอุดหูบ้างแล้วล่ะ

          จนเวลาบ่ายคล้อย วินและข้าวจ้าวจึงขอตัวแยกย้ายกลับไป

          ตลาดช่วงเย็นผู้คนพลุกพล่านหนาตาเป็นพิเศษ ทุก ๆ เดือนจะมีกิจกรรมที่จัดขึ้นสำหรับพ่อค้าแม่ขาย ให้พวกเขาได้เปิดโอกาสลองนำสินค้าใหม่ ๆ มาวางขาย ในหนึ่งเดือนจะมีเพียงหนึ่งวัน ซึ่งนั่นก็ตรงกับวันนี้พอดี เสียงเพลงถูกเปิดผ่านลำโพงขนาดใหญ่ ผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมาพลันขยับหัวไปตามจังหวะเพลงด้วยความครึกครื้น

          “อย่าวิ่งนะน้ำ ไม่งั้นแม่จะพากลับทันที”

          รตีชี้นิ้วดุลูกชายจอมซนด้วยท่าทีไม่จริงจังนัก ถึงลูกชายจะโตแค่ไหนแต่นิสัยดื้อซน ชอบอยากรู้อยากเห็นกลับทวีเพิ่มมากขึ้น

          “ครับ ทราบแล้วครับ” เด็กหนุ่มตอบรับด้วยท่าตะเบ๊ะอย่างกวน ๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • อลวนกวนเลิฟ   ตอนที่ 11.1 ไม่เจอกันนานคิดถึงจังเลย

    ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวจากทิศตะวันออก กระทั่งย้ายไปอยู่ตำแหน่งเหนือศีรษะ ท่ามกลางท้องฟ้าสีครามที่ไร้เมฆบดบัง แสงเหลืองอมส้มทอประกายลงมาบนพื้นผิวด้วยอุณหภูมิที่ร้อนระอุ ส่งผลให้ชายผิวแทนถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก แต่กลับไม่สามารถเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาได้ เพราะดูเหมือนตอนนี้ผู้เป็นนายอารมณ์เสียผิดปกติ เฉียบลอบมองชายหนุ่มผิวขาวราวหยวกเป็นระยะ ทว่าเวลาโดนสายตาคมคู่นั้นมองกลับก็รีบเบือนหน้าหนี“เฮ้ย ลื้อเป็นอะไร?” เฟยหลงทนไม่ไหวจึงเอ่ยถาม เขาเห็นอีกคนเดี๋ยวก้มเดี๋ยวเงย เห็นแล้วเวียนหัวหัวแทน “คนนะเว้ยไม่ใช่ปลาทอง มองอยู่ได้”“แหมเสี่ย ถึงจะมองเสี่ยก็ไม่ท้องหรอกน่า”“เดี๋ยวปั๊ด ฮึ่ย” เฟยหลงยกแขนขึ้นทำท่าจะเหนี่ยวใส่อีกคน ก่อนจะเก็บแขนกลับเข้าที่เดิม เขาทำท่างฮึดฮัดเหมือนไม่มีอะไรดั่งใจเลยสักอย่าง“โธ่...วันนี้เสี่ยเป็นอะไร ทำไมใส่อารมณ์แปลก ๆ แล้วไหนจะพาผมมายืนตากแดดตากลมอยู่หลังร้านด้วย เป็นอะไร๊ เป็นอะไร” ถ้าพามายืนหลบแดดเขาจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่เล่นยืนอาบแดด เหงื่อไม่ไหลไคลไม่ย้อยก็ให้มันรู้กันไป“อั๊วไม่ได้ใส่อารมณ์”“งั้นแปลว่าเสี่ยมีอารมณ์”“ใช่ เฮ้ย ไม่ใช่!” เฟยหลงหันไปถลึงตาใส่คนด้านข้าง หัวเขา

  • อลวนกวนเลิฟ   ตอนที่ 10.2 ที่ทำลงไปเพราะใจสั่งมา

    “เอาน่า รอบหน้าถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงนะลูก แม่ไม่อยากให้ฟ้ามีปัญหา ดูท่าแล้วคงเป็นลูกคนมีสตางค์แน่นอน” รตีทำหน้าเป็นกังวลอยู่กลาย ๆ เธอเพียงเป็นห่วงลูกชายว่าจะโดนทำร้าย ทุกวันนี้เงินมันมีค่ามากกว่าความเป็นคนเสียอีก“ครับแม่ ฟ้าเองก็ไม่อยากมีปัญหาหรอกครับ” ยิ่งคนมีสตางค์แต่ไม่มีสติแบบหมอนั่น ไม่รู้ว่ารอดมาถึงทุกวันนี้แบบครบ32ประการได้ยังไงข้าวจ้าวมองเพื่อนสนิทแล้วก็พูดขึ้นมาแทบจะทันควัน นาน ๆ ทีจะได้พูดแซวกลับบ้าง เพราะส่วนมากเป็นเขาที่โดนแซวเสียมากกว่า จังหวะดี ๆ แบบนี้ข้าวจ้าวจะพลาดได้อย่างไรเล่า “โบราณว่าเกลียดอะไรระวังได้แบบนั้นนะเว้ย”“อ๋อหรออออ เหมือนแกกับวินใช่ไหมล่ะ”“เหมือนนรกกับสวรรค์อะบอกเลย” ยิ่งคิดภาพว่าจากที่ตีกันมาจู๋จี๋กันมันไม่ได้! ไม่ได้แบบขีดเส้นผ่าชัด ๆ “กูยอมเป็นโสดจนตายดีกว่าได้กับมัน”“จ้า จำคำนี้ไว้แล้วกัน อย่าให้เห็นว่าลับหลังแอบไปนอนกอดกันบนเถียงนาน้อย” น่านฟ้าพูดแซวอีกคนกลับ ขณะเดียวกันก็กอดซบแม่ของตนด้วยท่าทางออดอ้อนน่าเอ็นดู“เรานี่นะ แกล้งน้องไม่พอยังจะแกล้งเพื่อนอีก ดูหน้าหนูจ้าวซินั่น”ใบหน้ายับยู่ยี่ของชายหนุ่มผมแดงเบื้องหน้า สร้างรอยยิ้มให้กับสองแม่ลูกไ

  • อลวนกวนเลิฟ   ตอนที่ 9.2 คงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำชาติที่ผ่านมา

    “น้ารตี! ผมเอาแตงโมมาฝากครับ” ข้าวจ้าวชูถุงแตงโมขนาดใหญ่ในมือ จากนั้นก็เดินเข้าไปหาสองแม่ลูกที่กำลังนั่งอยู่บนแคร่ไม้หน้าบ้าน“อ้าวหนูข้าวจ้าว มากับใครจ๊ะ”รตีวางของในมือลง แล้วรับแตงโมมาจากเด็กหนุ่มรุ่นลูก“มาคนเดียวครับ ผมมาทำธุระแถวนี้พอดี”“น้ากำลังเตรียมทำมื้อเที่ยงพอดีเลย รอเอากลับไปกินที่บ้านด้วยสิจ๊ะ”“จะดีหรอครับ ผมเกรงใจ” ชายหนุ่มผมแดงกล่าวพลางยิ้มส่งไป“ทำไมจะไม่ดีล่ะลูก ถ้างั้นเดี๋ยวน้าเอาแตงโมไปปั่นมากินเลยดีกว่า” เธอก้มมองแตงโมในมือแล้วระบายยิ้มเล็กน้อย ตามด้วยร่างสันทัดของหญิงวัยกลางคนลุกเดินเข้าไปในบ้าน จึงทำให้บนแคร่เหลือเพียงน่านน้ำแทน“ครับ ถ้างั้นรบกวนด้วยนะครับ” ข้าวจ้าวทรุดตัวนั่งลงบนแคร่ไม้ไผ่ เขานั่งฝั่งตรงข้ามกับคนอายุน้อยกว่า มือเรียวได้รูปหยิบตะกร้าสีขาวด้านหน้ามาสานต่ออีกแรง ขณะเดียวกันก็ชวนเด็กหนุ่มคุยไปด้วย “ไงเรา พี่อยู่บ้านรึเปล่า”“ไม่อยู่ครับ พี่ฟ้าไปทำงานในตลาดนู้น”“อ้าว แล้วไปนานรึยัง” พักหลังมาเขาไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนบ่อยเท่าไหร่พอได้ยินข่าวคราวก็ย่อมเกิดความอยากรู้เป็นธรรมดา“พึ่งไปได้สี่วันเอง แล้วพี่มาทำอะไรแถวนี้หรอ?”“พอดีเอาของมาให้คนรู้จัก

  • อลวนกวนเลิฟ   ตอนที่ 10.1 ที่ทำลงไปเพราะใจสั่งมา

    ภาพของไร่องุ่นขนาดใหญ่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า เฟยหลงและหงส์หยกเดินตามหลังหญิงวัยกลางคนเข้าไปด้านในไร่ สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นองุ่นเรียงรายกันเป็นแถว ผลองุ่นสีเขียวอ่อนตัดกับสีม่วงเข้ม ประกอบกับบนท้องฟ้าประดับด้วยเมฆก้อนเล็ก ๆ สีขาวนวล สภาพอากาศปลอดโปร่งทำให้มองเห็นวิวภูเขาชัดเจน เจ้าของเรือนร่างอรชรกวาดสายตามองทิวทัศน์โดยรอบ ใบหน้านวลฉีกยิ้มกว้าง นัยน์ตาของเธอดูสดใสมีชีวิตชีวาเฟยหลงลอบสูดอากาศบริสุทธิ์ นัยน์ตาคมดุจเหยี่ยวหันมองซ้ายขวาด้วยความสนใจ เจ้าของไร่มองทุกอย่างได้อย่างเฉียบขาด ไม่ได้ดีแค่ทำเลโดยรอบ แต่พื้นผิวของดินก็ยังดีอีกด้วย องุ่นทุกต้นนอกจากจะผ่านวิธีการดูแลเบื้องต้นแล้ว ดินก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญของมัน ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดไว้“เสี่ย” เฉียบเอ่ยเรียกเจ้านายเสียงเบา“เสี่ยดูองุ่นพวกนี้สิ น่ากินทั้งนั้นเลย” ชายหนุ่มผิวแทนว่าแล้วก็จ้องพวงองุ่นที่ย้อยลงมาอย่างไม่วางตา มีแต่ลูกใหญ่ ๆ น่ากินทั้งนั้น คิดแล้วก็อยากเด็ดกินสักลูก ถ้าเป็นองุ่นดองก็ยิ่งน่ากิน จิ้มกับพริกเกลือทีนึงถอดจิตขึ้นสวรรค์ได้เลย“อยากกินก็ซื้อ” เฟยหลงตอบแบบขอไปที ทั้งไม่ได้หันไปมองอีกคนด้วยซ้ำ“แหม เสี่ยจะจ่ายให้เฉี

  • อลวนกวนเลิฟ   ตอนที่ 9.1 คงเป็นเวรกรรมมที่ฉันเคยทำชาติที่ผ่านมา

    จากเหตุการณ์ก่อนหน้า ทำให้สองพี่น้องพร้อมกับคู่ขาอย่างเฉียบได้มายืนอยู่หน้าร้านขนส่ง น่านฟ้ายังคงทำหน้าที่ของตนเองโดยไม่ได้สนใจสายตาสามคู่ที่กำลังมองมา เฟยหลงเห็นอีกคนมองข้ามพวกตนเหมือนเป็นวิญญาณพลันรู้สึกฉุนฉิว เขาออกจะโดดเด่นขนาดนี้มองข้ามไปได้ยังไง ตาไม่ถึงจริง!“อีกนานไหม น้องสาวอั๊วรอนานแล้ว” คนตัวสูงยืนล้วงกระเป๋ากางเกง พร้อมกับวางมาดใส่เป็นนัยน์ว่าให้อีกคนรีบไปได้แล้วน่านฟ้าขมวดคิ้วหันไปมอง ก่อนจะหันกลับไปเช็คของในมือต่อ“ถามไม่ได้ยินรึไง” เฟยหลงยังคงถามย้ำอีกคน“ถ้ารีบมากไม่ไปตั้งแต่เมื่อวานล่ะครับคุณ” ถึงแม้คนตัวเล็กจะยอมตอบกลับไป แต่เขาก็ไม่ได้ผินหน้าขึ้นมองคู่สนทนาเลยสักนิด เสมือนพูดกับอากาศแล้วก็จบลงที่ความเงียบอีกเช่นเคย“นี่!” ร่างสูงราวร้อยเก้าสิบเดินอาด ๆ เข้าไปยืนจังก้าเบื้องหน้าเจ้าของเรือนผมบลอนด์ ใบหน้าหล่อเหลาก้มมองคนที่เตี้ยกว่า เขากำลังจะอ้าปากพูดแต่ดันช้ากว่าอีกฝ่าย ที่จู่ ๆ ก็พูดโพล่งออกมา“หลบหน่อย เกะกะ”ชายหนุ่มลูกครึ่งถึงกับกลืนคำพูดลงแทบจะไม่ทัน“เฮีย ดูเหมือนเขาจะไม่ชอบขี้หน้าเฮียเลยนะ” ร่างอรชรของหงส์หยกรุดเดินข้ามายืนเทียบข้างพี่ชาย เธอมองผู้เป็นพี่สล

  • อลวนกวนเลิฟ   ตอนที่ 8.2 ครั้งที่สี่นี่ไม่ควร

    “มานี่สิ” ศักดิ์ชัยกระดิกนิ้วเรียกลูกชายพายุลอบถอนหายใจแล้วเข้าไปหาผู้กุมบังเหียนของบ้าน บุคคลที่เขาไม่เคยต่อต้านได้เลยสักครั้ง เมื่อเดินไปถึงชายหนุ่มก็ถูกกดตัวลงกับพื้นจากด้านหลัง เขานั่งนิ่งไม่ไหวติง ราวกับเป็นรูปปั้น เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนกระทำแบบนี้“แกบอกว่าฉันขังแกเหมือนกับนกในกรงงั้นหรอ”“ฉันจะบอกอะไรให้นะ” เขาพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าลูกชายตนเอง ไม่ได้แยแสหรือสนใจสักนิด ว่าอีกคนจะทำหน้าตายังไง “นกที่โดนขังไว้ในกรง ถ้ามันไม่ตายมันก็ออกไปจากกรงไม่ได้ หรือถ้าเจ้าของมันตาย มันก็ออกไปไหนไม่ได้อยู่ดี”“เพราะชีวิตของมันถูกกำหนดมาแล้ว... ว่าต้องตายอยู่ในกรงเท่านั้น”“เข้าใจที่พ่อพูดไหมพายุ?”นัยน์ตาคมแดงก่ำ สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกสิ้นหวังอย่างที่สุด ความรู้สึกในใจพังยับเยินไม่เป็นชิ้นดี“ไปแต่งตัวให้มันดีกว่านี้ ได้เวลาทำหน้าที่ในฐานะลูกชายของฉันแล้ว”“ครับพ่อ...” เขาเค้นเสียงพูดผ่านไรฟันชายหนุ่มร่างแบบบางยืนมองโรงสีขนาดใหญ่ตรงหน้า รถคันใหญ่เทียวเข้าเทียวออกวนเวียนไปมา เขายืนอยู่หน้าทางเข้าได้สักพักหนึ่ง จู่ ๆ ก็เกิดความรู้สึกลังเล ราวกับถ้าก้าวขาข้างใดข้างหนึ่งไป จะมีเรื่อ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status