ผลั๊ว!!
“อึ่ก! ถุ๊ย!” ใบหน้าของชายหนุ่มหันไปตามแรงของหมัดที่ต่อยลงมาที่ใบหน้าของตัวเองก่อนจะพ่นของเหลวสีแดงออกมาจากริมฝีปาก ก่อนจะเงยหน้ามองเจ้านายของพวกมันที่นั่งอยู่เก้าอี้ตรงหน้ามองมาที่ตัวเอง
“ซ้อมกูให้ตายแม่มึงก็ไม่มีทางฟื้นกลับมาหามึงได้หรอกนะไอ้รัน หึหึ” ราเชนพูดขึ้นอย่างไม่แยแสว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานะที่จะตายอยู่รอมร่อ
“ปากดีไอสัตว์! เดี๋ยวมึงจะได้ตายตามแม่กูไป”
“ก็เอาสิถ้ากูตายไปแก๊งมึงก็คงจะได้ตายตามกูไปด้วย หึ”
“แล้วมึงคิดว่าคนอย่างกูจะยอมตายตามมึงไปมั้ยละ คนอย่างมึงก็เก่งแต่เห่าขู่คนนั้นคนนี้ไปทั่วแต่เดี๋ยวมึงก็จะไม่ได้เห่าขู่ใครไปตลอดชีวิตแล้วล่ะ” ราเชนที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าหวั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นลูกน้องของคีรันเดินมาพร้อมอุปกรณ์อะไรสักอย่างบนถาดสเตนเลส
“ง้างปากแล้วดึงลิ้นมันออกมา” คีรันบอกลูกน้องด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะเดินเข้าไปยืนตรงหน้าราเชน
“อื๊อๆ อ่อยอู๊!!” (ปล่อยกู) ราเชนมีสีหน้าอาการหวาดกลัวเมื่อลูกน้องของคีรันเดินเข้ามาจับใบหน้าของตัวเอง
มือของลูกน้องรันบีบที่แก้มทั้งสองข้างให้ราเชนอ้าปากออกกว้างๆ ก่อนจะใช้คีมหนีบลิ้นของราเชนอย่างแรงแล้วดึงให้มันยืดออกมา
“มึงจะบอกกูได้หรือยังว่ามึงไปรู้เรื่องของแม่กูมาจากใคร” มือหนาจิกที่เส้นผมของราเชนพร้อมออกแรงดึงให้มันเงยหน้าขึ้นมาสบตากับตัวเองทั้งๆ ที่ลูกน้องของคีรันยังใช้คีมก็ยังหนีบลิ้นของมันให้ยื่นออกมาอยู่อย่างนั้น
ราเชนเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บปวดตรงที่คีรันจิกผมที่หัว และลิ้นที่ลูกน้องของมันดึงยืดออกมา
“ถ้ามึงพูดกูจะพามึงไปส่งถึงบ้าน อ้อ ถึงห้องทำงานพ่อมึงด้วยเลยดีมั้ย” ลิ้นของราเชนถูกปล่อยให้เป็นอิสระเมื่อรันสั่งให้ลูกน้องปล่อย
“กูรู้มาจากพ่อกูว่าคนที่ฆ่าแม่มึงคือคนของแก๊งสิงห์” ตระกูลสิงห์เจ้าของบ่อนทางใต้ เกี่ยวอะไรกับการตายของแม่เขากัน
“กูรู้มาแค่นั้น” ดวงตาคมคล้ายเหยี่ยวจ้องไปที่ราเชนก่อนจะพยักหน้าบอกให้ลูกน้องพามันไปส่งที่บ้าน คีรันบอกให้บิคที่เป็นมือขวาของตัวเองติดต่อหามือขวาของพ่อทันที เพื่อบอกว่าเขาจะบินไปหาในอีก 2 วัน
#อลินตคีรัน
อลินตาเข้ามาที่บริษัทเพื่อเตรียมตัวเข้าประชุมโปรเจกต์กับผู้ถือหุ้น ซึ่งถ้าเขาเลี่ยงได้เขาก็อยากจะเลี่ยงไปตลอดเพราะไม่อยากเจอหน้าคนที่เขาเพิ่งเจอไปเมื่อวันก่อน
ระหว่างการประชุมคนตัวสูงก็ถามนั่นถามนี่ขึ้นมาจนอลินตาอยากจะหาอะไรไปอุดปากเขาเอาไว้ เพราะเขารู้เจตนาของคนตัวสูงดีที่ถามนั่นนี่เยอะๆ เพื่อที่จะให้เขาหงุดหงิดและหาเรื่องให้ลินคุยกับเขา หลังจบการประชุมก็ยังเป็นลินกับอีตาบ้านั่นที่ออกจากห้องเป็นสองคนสุดท้าย
“รีบไปไหนหรือเปล่า” คีรันเอ่ยถามขึ้นขณะที่กำลังเดินออกจากห้องประชุมพร้อมกับจับแขนรั้งอลินตาเอาไว้ ก่อนที่คนตัวเล็กจะหยุดยืนคุยกับรันอยู่หน้าห้องประชุม
“ปล่อยแขนผมด้วยครับ” คีรันปล่อยมือออกจากแขนเล็กตามที่เจ้าตัวบอก
“พี่อยากชวนไปกินข้าวข้างนอก”
“แล้วทำไมผมต้องไปกับคุณด้วย” อลินตาถามด้วยน้ำเสียงนิ่งพร้อมทำหน้าเชิดเล็กน้อย
“นี่ก็ใกล้จะค่ำแล้วถือว่ากินมื้อเย็นไปเลยโอเคมั้ยครับ” คีรันมองเวลาบนข้อมือก่อนจะพูดกับคนตัวเล็กตรงหน้า ร่างบางทำหน้าคิดอยู่สักพักก่อนจะเหลือบมองมาที่คีรัน
“ร้านไหน” เพราะรู้ถึงจะปฏิเสธไปยังไงคนอย่างคีรันก็ต้องตามตื๊อจนลินใจอ่อน สู้ตอบตกลงรีบกินรีบกลับคอนโดเสียยังดีกว่า เพราะจะได้ไม่ต้องทนเห็นหน้าอีกคน
“งั้นเดี๋ยวลินขับตามพี่ไปแล้วกัน” อลินตาพยักหน้าส่งให้คนตัวสูงก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องทำงาน ซึ่งก็มีคีรันเดินตามเข้าไปด้วย
พอถึงเวลาขับรถมาถึงร้านอาหารคีรันก็พาลินเดินไปที่โต๊ะที่เขาเป็นคนโทรมาจองเอาไว้ ระหว่างที่นั่งรออาหารลินก็ทำทีมองนั่นดูนี่ไปเรื่องเพราะไม่อยากสนใจสายตาของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับตัวเอง
“ลินดูโตขึ้นเยอะเลยนะ” แถมยังดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นผิดกับตอนที่อยู่กับเขาเมื่อก่อนไปมาก แต่ถ้าถามว่าเป็นเพราะอะไรก็น่าจะเดาได้ไม่ยาก
“เพราะมีเวลาอยู่กับตัวเองเยอะมั้งครับ” ลินตอบกลับคนตรงหน้าพร้อมกับแฝงไปด้วยคำพูดแซะคนตรงหน้า
“นั่นสินะ” คีรันหัวเราะในลำคอและไม่ได้ถามอะไรคนตรงหน้าออกมาอีกเพราะกลัวอีกฝ่ายจะอึดอัด
“พี่ขอโท……”
“ถ้าคุณจะพูดเรื่องนั้นกับผม งั้นผมจะกลับ”
"โอเคพี่ไม่พูดแล้ว" ร่างสูงยอมเงียบไม่ชวนเขาคุยอีก
ลินไม่อยากจะต้องมานั่งฟังอีกฝ่ายพูดขอโทษเขาโดยไม่อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นหรอกนะ เพราะมันเสียเวลา ถ้าเกิดเขายกโทษแล้วมันสามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้หรือยังไง
นั่งรอไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ ทั้งสองคนนั่งกินข้าวด้วยกันเงียบๆ โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็นั่งกินไปไม่มีใครพูดอะไรออกมา
กินข้าวด้วยกันเสร็จคีรันก็เป็นฝ่ายจ่ายค่าอาหารแม้ลินจะแย้งว่าให้หารกันเพราะไม่อยากติดค้างอะไรกับรัน แต่คนตัวสูงก็ไม่ยอมสุดท้ายลินก็ไม่ได้จ่าย
หลังจากนั้นลินก็ขับรถกลับคอนโด ระหว่างที่ขับรถกลับไปที่คอนโดรถของลินก็ดันมาดับไปเสียดื้อๆ อีก แถมเส้นทางที่เขาขับมายังเปลี่ยวเพราะเป็นทางลัดที่นานๆ ทีถึงจะมารถผ่านไปมา
โทรหาลูกน้องก็ไม่มีใครรับสักคนสงสัยประชุมกับทางแด๊ดอยู่แน่ๆ
แต่ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายเพราะตอนนี้มีรถคันหนึ่งขับมาจอดเทียบกับรถของเขา อีกฝ่ายลดกระจกลงเผยให้เห็นใบหน้าเจ้าของรถพอเห็นว่าเป็นใครลินก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย มันจะบังเอิญเกินไปมั้ยเนี่ย
“รถเป็นอะไรหรือเปล่า” คนตัวสูงลดกระจกรถลงก่อนจะเอ่ยถาม
“ไม่รู้ครับ เมื่อกี้ยังขับมาดีๆ อยู่เลย ตอนนี้ดันมาดับเสียนี่มันน่าเอาไปเผาทิ้งนัก” ลินพูดขึ้นเสียงเบาในตอนท้ายพร้อมด่าเจ้ารถเฮงซวยนี่ไปด้วย
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง ส่วนรถเดี๋ยวพี่โทรบอกให้ช่างมาเอาไปเข้าอู่ให้”
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมโทรบอกให้คนมารับเอง คุณกลับไปเถ…..”
ครื้นน~
และความซวยซ้ำสองเพราะเสียงฟ้าร้องพร้อมกับฟ้าแลบเมื่อกี้บ่งบอกว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าพายุฝนลูกใหญ่คงจะเทลงมาตรงนี้แน่ๆ
“ตกลงจะไปมั้ย”
“....” เอายังไงดีวะ
“มาเร็ว ฝนตกแล้วเนี่ย หรือจะต้องให้ลงไปอุ้มขึ้นรถ” ฝนตกปรอยๆ อย่างที่คนตัวสูงว่าก่อนอีกฝ่ายจะเร่งให้เขาวิ่งไปขึ้นรถของตัวเอง
“เออๆ ไปก็ได้” ร่างบางเก็บของก่อนจะเปิดประตูลงรถกดล็อกรถเฮงซวยแล้วเดินรีบไปขึ้นรถของคีรันทันที และหลังจากนั้นฝนห่าใหญ่ก็กระหน่ำตกลงมาอย่างหนักเหมือนแกล้งกันยังไงอย่างนั้น
“ยิ้มอะไร รีบขับไปสิ”
“อารมณ์ดีก็เลยยิ้ม” คีรันหันกลับไปมองทางตรงหน้าก่อนจะขับรถออกไป ระหว่างทางสายฝนก็เทลงมาเหมือนที่คีรันคิดเอาไว้ รถจอดคิดไฟแดงเขาหันไปมองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ ตอนนี้กำลังนั่งหันหน้าออกไปมองวิวข้างนอก
“หนาวหรือเปล่า”
พรึ่บ!
“ไม่ครั.." เสื้อสูทตัวนอกสีดำถูกคนตัวสูงนำมันมาคลุมตัวของอลินตาเอาไว้ เมื่ออุณหภูมิภายในรถเริ่มเย็นมากขึ้น
“ขอบคุณครับ” ลินกระชับเสื้อเข้าหาตัวก่อนจะเอ่ยขอบคุณคนตัวสูง
รถเริ่มออกตัวเมื่อไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว คีรันหันไปมองกระจกหลังก่อนจะสังเกตเห็นว่ามีรถที่น่าสงสัยขับตามรถของตัวเองมาตั้งแต่ที่ตัวเองจอดรับคนตัวเล็ก พอขับเปลี่ยนเลนอีกคันก็ยังขับตามรันมาจนเขาแน่ใจว่ารถคันนั้นตามตัวเองมา
“เดี๋ยว นี่คุณจะพาผมไปไหน” อลินตาถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าคีรันขับรถพาเขาเลี้ยวไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางกลับคอนโดขอเขา
“มีรถสีดำไม่ติดป้ายทะเบียนขับตามเรามาตั้งแต่ตอนที่พี่จอดรับลิน เดี๋ยวพี่จะขับล่อมันไปอีกทาง” คีรันพูดพร้อมเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วขึ้นอีก
ให้เดาไม่ผิดไอ้คนที่กำลังขับรถไล่ตามเขาอยู่ก็คงเป็นคนของไอ้ราเชนที่มันส่งมาแก้แค้นเขาที่ทำให้มันเสียหน้า
คีรันขับรถวนไปมาเพื่อล่อให้อีกคันเข้ามาติดกับ เมื่อเห็นว่าไฟเขียวเหลืออีกไม่กี่วินาทีเขาก็เหยียบคันเร่งตีห่างจากรถอีกคันที่ตามอยู่ ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้แต่นั่งกำเสื้อสูทแน่นเพราะคนตัวสูงขับรถเร็วเกินไปจนตัวเองตกใจและกลัวไปด้วย
“พี่รันลินกลัว” อลินตาเผลอเอื้อมมือไปจับแขนของคีรันให้อีกฝ่ายลดความเร็วลงหลังจากที่เห็นว่ารถที่ตามมาจอดติดไฟแดงอยู่
ความเร็วของรถค่อยๆ ลดลงก่อนจะกลับมาเป็นความเร็วปกติ มือหนาเปลี่ยนมากุมมือเล็กเอาไว้เพื่อปลอบคนข้างๆ ให้หายตกใจกลัว
“พี่ขอโทษลินเป็นอะไรมั้ย” อลินตาส่ายหน้าไปมา แต่ภายในใจก็ยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อกี้ไม่หาย
รถหรูขับเข้ามาจอดหน้าคอนโดของอลินตาแต่คนที่นั่งอยู่ในรถก็ยังไม่ยอมปล่อยมือนุ่มนิ่มนั้น จนอีกฝ่ายต้องกำมือของคีรันแน่นเมื่อให้เขาปล่อยมือ
“ถึงคอนโดของผมแล้วก็ปล่อยมือผมสิครับ”
“ไม่ปล่อยได้มั้ย”
“อย่ามาเนียนครับ ปล่อย!” คนตัวเล็กพูดเสียงเข้มขึ้น จนคีรันยอมปล่อยมือของเขา
“เมื่อกี้ยังยอมให้พี่จับอยู่เลยทำไมตอนนี้ทำเสียงดุจังล่ะ” ร่างบางกลอกตามองบนให้กับความเจ้าเล่ห์ของคนตัวสูงก่อนจะเอ่ยขอบคุณที่มาส่งเขาที่คอนโด
“ขอบคุณที่มาส่งนะครับ”
คีรันนั่งมองคนตัวเล็กเดินหายเข้าไปในคอนโดพร้อมกับลูกน้องเดินตามเข้าไปในคอนโดเขาจึงขับรถกลับไปที่คอนโดของตัวเอง
#อลินตคีรัน
“เมื่อไหร่มึงจะว่างไปเที่ยวกับกูสักทีอะไอ้ลิน” สกายที่นั่งอยู่โซฟาในห้องทำงานร้องถามขึ้นพร้อมทำหน้าดื้อใส่เพื่อนเต็มที่ เพราะจำได้ว่าตั้งแต่ที่ลินกลับมาจากอิตาลีนี่ก็อาทิตย์กว่าแล้วที่เพื่อนของเขาเอาแต่ทำงานงกๆ ไม่ว่างไปเที่ยวไหนกับเขาสักที
“ทำหน้าเหมือนหมาโกเด้นอีกแล้ว งอแงอะไรนักหนาวะ” ลินเงยหน้ามองเพื่อนก่อนจะพูดขึ้นยิ้มๆ
“ก็มึงผิดสัญญากับกูอะ”
“เออๆ กูขอโทษ งั้นไถ่โทษด้วยการพามึงไปผับดีมั้ย”
“งั้นไปร้านประจำกู”
“กูตามใจมึง กูขอทำงานก่อน” สกายพยักหน้าส่งให้ก่อนจะนอนราบไปกับโซฟาพลางเล่นเกมในมือถือไปด้วย
อลินตามองเพื่อนพร้อมส่ายหัวเบาๆ ให้กับความเป็นเด็กในตัวเพื่อนของเขา เพราะคบกันอยู่สองคนสกายจึงติดเขามากเป็นพิเศษ ลินเคยบอกให้หาเพื่อนไว้คุยแก้เหงาแต่สกายก็ปฏิเสธเพราะคิดว่าไม่มีใครทนกับนิสัยตัวเองได้เท่าลิน
“กูเลิกกับแฟนกูแล้วนะ” จู่ๆ สกายก็พูดขึ้นมาขณะที่ลินกำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่
“ทำไมวะ”
“จับได้ว่านอกใจเลยเลิก”
“แล้วมึงเป็นไงบ้าง โอเคขึ้นหรือยัง” ลินถามด้วยความเป็นห่วง สกายถึงภายนอกจะดูเล่นๆ ไม่จริงจังกับอะไร แต่เรื่องความรักสกายทุ่มกับมันเต็มที่แต่ที่ผ่านๆ มาก็เห็นแล้วว่าทุกคนที่เข้ามาในชีวิตของมันล้วนแล้วแต่หวังผลประโยชน์กันมันทั้งนั้น
“กูโอเคขึ้นแล้วแค่อกหักไม่ได้ตายสักหน่อย”
“งั้นคืนนี้กูขอชวนพี่ศิลาไปด้วยนะ”
ได้ยินชื่อที่เพื่อนเอ่ยขึ้นลินก็จ้องหน้าเพื่อนนิ่งๆ ไม่รู้ว่าลืมหรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าพี่ศิลาเป็นเพื่อนกับอีตาคีรัน ถ้าชวนมาก็เท่ากับว่าคืนนี้ เห้อ~
สกายเห็นเพื่อนนั่งนิ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าพี่ศิลาเป็นเพื่อนกับพี่รัน
“เอาน่า แค่นั่งกินเหล้ากับแฟนเก่า โอ๊ะ! หรือไม่เคยเลิกกันนะ เฮ้ยๆ! ไอ้ลินกูพูดเล่นวางป้ายชื่อมึงลงก่อนมันอันใหญ่นะเว้ยเดี๋ยวกูตาย”
“น่ารำคาญ! นั่งเงียบไปเลยมึงอะกูจะทำงาน”
“ครับๆ”
สกายปล่อยให้เพื่อนทำงานต่อก่อนจะหันกลับมาสนใจมือถือตรงหน้าพร้อมพรมนิ้วพิมพ์ข้อความส่งหาใครสักคน
‘เรียบร้อย’
ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตขาวกางเกงขาสั้นเสมอเข่าสีดำเดินเข้ามาในผับพร้อมกับพี่กันต์ที่เดินตามหลังมา ทั้งสองคนตกเป็นเป้าสายตาของคนในผับคนหนึ่งตัวเล็กหน้าหวาน อีกคนตัวสูงใหญ่หน้านิ่งพร้อมเชือดทุกคนที่เข้ามายุ่งกับคนตรงหน้า“พี่กันต์เข้าไปนั่งด้วยกันข้างในก็ได้นะครับ” ลินเอ่ยบอกพี่กันต์หลังจากที่เดินมาส่งเขาถึงหน้าห้องวีไอพี“ไม่เป็นไรครับคุณหนู”“ถ้างั้นพี่กันต์อยากนั่งดื่มก็เต็มที่เลยนะครับ” พี่กันต์ก้มหัวให้คนเป็นนายเล็กน้อยก่อนลินจะเดินเข้าไปในห้องลินเปิดประตูเข้าไปในห้องก็พบว่าตัวเองมาเป็นคนสุดท้าย คนที่อยู่ในห้องจ้องมองมาที่อลินตาเป็นจุดเดียวก่อนสกายจะเดินมาหาเขาแล้วลากไปนั่งที่โซฟาตัวเดียวกัน“สวัสดีครับน้องลินไม่เจอกันนานเลยนะครับ” ศิลาเอ่ยทักทายเพื่อนของน้องชายที่ไม่ได้เจอกันนาน“ครับ
ดวงตาสีน้ำตาลกะพริบตาถี่ๆปรับสายตา เมื่อลืมตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลพร้อมขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะเบ้หน้าด้วยความเจ็บแผลตรงหน้าท้อง“อ่า เจ็บฉิบหาย” เสียงแหบแห้งพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองรอบๆ ห้องเพราะรู้สึกไม่คุ้นเคยกับห้องที่ตัวเองนอนอยู่ ก่อนดวงตาจะไปสะดุดเข้ากับร่างของใครสักคนที่นอนขดเหมือนลูกแมวอยู่ข้างๆ ตนมือหนาเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ปรกหน้าเนียนขาว เผลอยกยิ้มให้กับภาพตรงหน้า คีรันนอนมองใบหน้าของร่างเล็กที่นอนอยู่ข้างๆ ก่อนจะนึกไปถึงตอนที่คนตัวเล็กพูดความในใจของตัวเองออกมาตอนอยู่ที่ผับคีรันอยากจะพูดขอโทษคนตัวเล็กเป็นพันๆ ครั้งแต่ก็ไม่รู้ว่าจะสามารถหักล้างความผิดของตัวเองไปได้มากแค่ไหนเพราะเขาได้สร้างบาดแผลที่ยากจะรักษาให้มันหายขาดได้ง่ายๆ ให้กับคนตรงหน้าคีรันค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้อลินตาอย่างอยากลำบาก จนใบหน้าของทั้งสองคนอยู่ห่างกับไม่ถึงคืบรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของคนตรงหน้าใบหน้าห
คีรันมาอยู่ที่ฮ่องกงได้สองวันแล้ว นับตั้งแต่วันที่เขากอดลาคนตัวเล็กรันก็ไม่ได้ติดต่อไปหาคนตัวเล็กอีกเลย เพราะอยากจะตามสืบเรื่องที่ยังค้างคาในใจของตัวเองทั้งอยากจะสะสางเรื่องลูกค้าที่กู้เงินยังไม่ยอมจ่ายอีกเป็นสิบๆ คน“เดี๋ยววันนี้กูจะไปเยี่ยมคุณเซียวที่บ้านใหญ่เขา พวกมึงเตรียมของฝากไว้ให้เขาหรือยัง”“เตรียมแล้วครับ” คีรันสั่งลูกน้องให้หาของฝากไปฝากคนที่เขากำลังจะไปเยี่ยมที่บ้าน เมื่อถึงเวลารันก็ให้ลูกน้องขับรถพาไปที่บ้านของคุณเซียวทันที“อารัน ดีๆ มาๆ เข้ามานั่งข้างในก่อน” ชายหนุ่มสูงวัยอายุราวๆ หกสิบต้นๆ เรียกให้แขกคนสำคัญเข้ามานั่งดื่มน้ำชาในห้องรับแขก ชายหนุ่มเดินตามเข้าไปข้างในพร้อมกับถือของฝากในมือเข้าไปในห้องด้วย“สวัสดีครับคุณเซียว ไม่เจอกันตั้งนานสบายดีนะครับ” รันเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะด้วยใบหน้ายิ้ม และเดาว่าอีกฝ่ายก็
ถึงวันที่อลินตาต้องเดินทางไปเที่ยวกับสกายที่เกาะแห่งหนึ่งทางใต้ที่มีโรงแรมของเขาตั้งอยู่ที่นั่นด้วย อลินตากับสกายใช้เวลาเดินทางครึ่งค่อนวันก็ถึงโรงแรมของลิน มาถึงเขากับสกายก็แยกกันพักคนละห้องก่อนจะพากันออกไปเดินเล่นที่ริมชายหาดร่างบางในเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีครีมเดินตามหลังเพื่อนลงมาที่ริมหาดหลังจากที่เดินไปบอกให้พนักงานเตรียมอาหารมื้อค่ำให้ และบอกให้พี่กันต์กับบรู๊คพักผ่อนได้ตามสบาย“อ่าา ไม่ได้มาเดินเล่นอยู่ที่ริมทะเลแบบนี้ก็นานแล้วนะ” สกายพูดขึ้น“กูก็ไม่ได้มาเที่ยวแบบนี้นานแล้วเหมือนกัน” สกายหันไปมองเพื่อนที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างตัวเองก่อนจะยิ้มออกมา แล้วหันไปมองทะเลตรงหน้า“เล่นน้ำกันมั้ยมึง” อลินตาหันไปมองหน้าเพื่อนก่อนจะส่ายหน้าออกมา ชวนเล่นน้ำไม่ได้ดูแดดประเทศไทยเลยสักนิดอีกนิดเขาเกรียมเหมือนไก่ย่างได้แล้วมั้ง“มึงดูแดดก่อนสิไอ้กาย ร้อนจะตายมึงจะเล่นก็เล่น
แผ่นหลังของอลินตาแตะลงบนเตียงพร้อมกับร่างของคีรันโน้มลงมาทาบทับอย่างไม่เต็มตัวนักเพราะกลัวอีกคนจะรับน้ำหนักของตัวเองไม่ไหว ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากบางอย่างกระหาย ลิ้นร้อนไล่กวาดชิมความหวานของริมฝีปากบางพร้อมดูดดึงปลายลิ้นของอีกฝ่ายจุ๊บ จ๊วบเสียงบดจูบ เสียงน้ำลายดังคละคลุ้งไปทั้งห้อง สองร่างนอนกอดเกี่ยวกันเมื่อทั้งสองต่างก็โหยหายกันและกันทั้งอีกฝ่ายยังมีแอลกอฮอล์ในร่างกายที่ดื่มมาเยอะพอสมควรอีกจึงมีความกล้าที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาอย่างไม่คิดอายคีรันผละใบหน้าออกห่างเล็กน้อยก่อนจะไล่จมูกลงบนซอกคอขาว อลินตาร้องขึ้นเบาๆ เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา ร่างหนามองรอยสีกุหลาบที่ตัวเองทำเมื่อกี้พร้อมยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจก่อนจะเริ่มปลดกระดุมของคนใต้ร่างออกจนร่างขาวโพลนปรากฏต่อหน้าคีรันพลิกให้อลินตานอนคว่ำยกตัวขึ้นในท่าคลานเข่า ก่อนจะไล้ริมฝีปากกดจูบไปทั่วแผ่นลงมาจนถึงสะโพกงอนที่ยังมีกางเกงขาสั้นปกปิดความ
“เรื่องสินค้าเอายังไงต่อดีครับป๊า” ราเชนเอ่ยถามกับผู้เป็นพ่อที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของเขาพร้อมกับเดินมานั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะจ้องมองไปที่ลูกชายที่กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่“ก็แค่รับของกับทางของไอ้ไท่น้อยลง แล้วไปซื้อกับทางคุณสายฟ้าแทนก็แค่นั้น”"แล้วทำไมป๊าไม่ยกเลิกไปเลยล่ะครับ""พวกมันยังมีประโยชน์กับเราอยู่ แล้วอีกอย่างของพวกนี้ทางฝั่งคุณสายฟ้ายังไงก็ต้องขายให้เราอยู่ดี" เซียวบอกลูกชายด้วยความมั่นใจ“ใช่คนที่ป๊าบอกให้ผมไปคุยด้วยรอบนั้นมั้ยครับ แต่คนที่ผมคุยด้วยวันนั้นชื่อลินนี่ครับ” ราเชนยิ้มมุมปากออกมา ภาพร่างกายขาวเนียนของอีกฝ่ายยังติดตาของตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้ ถ้าไอ้รันไม่เข้ามาขัดเขาซะก่อนของเล่นชิ้นนั้นก็คงไม่หลุดมือเขาไปไหนได้หรอก“ไม่ใช่ คนที่แกไปคุยกับเขารอบนั้นคือลูกชายของเขา ตัวจริงเขาอยู่ที่อิตาลีนู้น” เซี
คีรันพาคนตัวเล็กมาเดินเล่นที่ริมหาดในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว ทั้งสองคนจับมือกันเดินไปตามชายหายมองวิวไปด้วยและมองคนข้างๆ ไปด้วย“ถ้าร้อนหรือรู้สึกไม่สบายบอกพี่นะครับ” คนตัวเล็กพยักหน้าตอบก่อนที่ทั้งสองจะเดินจูงมือกันไปก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าหาดเมื่อพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า ดวงตาสีใสสะท้อนภาพที่พระอาทิตย์กำลังค่อยๆ เลื่อนลง อลินตากระชับมือข้างที่จับมือของคีรันเอาไว้แน่นจนไม่มีช่องให้อากาศลอดผ่าน ดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลาลับขอบฟ้าไปจนในที่สุดก็จมลงสู่ทะเลผืนกว้าง นั่นหมายถึงว่าเวลายามค่ำคืนกำลังคืบคลานเข้ามาแทนที่ยืนมองพระอาทิตย์ตกดินกันเสร็จทั้งสองคนก็เดินมานั่งที่โต๊ะอาหารหน้าหาดที่ศิลาจองเอาไว้ ทั้งสี่คนนั่งคุยกันรออาหารสักพักอาหารก็มาเสิร์ฟ นั่งกินข้าวกันจนอิ่มก็ตบท้ายด้วยของหวานมีแค่สกายกับลินเท่านั้นที่กิน ส่วนคีรันกับศิลาก็สั่งน้ำผลไม้ที่ลินกับสกายกินเมื่อคืนมากิน“หนูทำไมกินเลอะจังเลยหื้ม?” ร่างสูงพูดขึ้นอย่างเอ็นดูก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่ออกมาเพื่อเช็ดมุมปากที่เลอะขนมหวานให้คนรัก โดยมีอีกสองชีวิตที่นั่งร่วมวงอยู่มองทั้งคู่ตาปริบๆบทจะหวานกันก็หวานจนใจหาย บทจะเ
รถหรูสีดำขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านใหญ่หลังหนึ่ง ประตูรถเปิดออกกว้างตามมาด้วยร่างสูงก้าวลงมายืนเต็มความสูงอยู่ข้างรถและตามมาด้วยอีกคนที่เปิดประตูตามลงมา สองพ่อลูกมองหน้ากันนิ่งก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้นบ้านหลังใหญ่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น คีรันมองไปรอบๆ บ้านอย่างสำรวจเพราะไม่ได้มาที่นี่นาน สองขาวยาวก้าวเดินไปข้างหน้าช้าๆ ก่อนจะมีแม่บ้านออกมาต้อนรับและพาเดินไปพบกับเจ้าของบ้าน“คุณพ่อคุณแม่สวัสดีครับ” ไท่ยกมือไหว้สวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสองคนที่เปรียบเสมือนพ่อและแม่อีกคน ที่กำลังนั่งเล่นกันอยู่ที่สวนหลังบ้าน“คุณตาคุณยายสวัสดีครับ” คีรันไหว้ตากับยายทั้งสองท่านเช่นกัน“อ้าว! ไท่ รัน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่มาๆ มานั่งก่อนลูก"ทั้งสองคนมองมาที่ไท่กับคีรันอย่างตกใจปนดีใจก่อนจะเรียกให้ทั้งคู่มานั่งที่โต๊ะด้วยกัน“กลับมาเมื่อวานนี้ครับเลยเพิ่งจะได้แวะมาหาพ่อกับแม่ คุณพ่อคุณแม่สบายดีนะครับ” ไท่เอ่ยถามท่านทั้งสองผู้ใหญ่ทั้งสองมองหน้ากันก่อนคนเป็นพ่อจะหันไปตอบ“สบายดี แล้วทั้ง
เข้าสู่เดือนที่ 5 ร่างกายของคุณแม่ลูกแฝดก็เริ่มมีน้ำมีนวลขึ้น หน้าท้องที่เคยแบนราบตอนนี้กลับเริ่มนูนยื่นออกมาเพราะในท้องของคุณแม่มีเด็กๆ อยู่ด้วยกันตั้งสองคน“หนูระวังครับ!” คีรันสาวเท้ารีบเดินไปประคองคุณแม่ที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับโดนอลินตาเหวใส่เพราะเสียงดังจนเจ้าตัวสะดุ้งตกใจ“พี่รันจะเสียงดังทำไมครับ”“ก็ลินจะเดินลงมาจากชั้นบนทำไมไม่เรียกพี่ละครับพี่จะได้เดินขึ้นไปรับ”“แค่นี้เองลินเดินลงมาเองได้สบายมากครับ”“ดื้อ!!” คีรันดุคนรักอย่างไม่จริงจังมากนักพร้อมกับยกมือขึ้นบีบจมูกรั้นของอลินตาอย่างมันเขี้ยวคีรันพาอลินตาเดินไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นเพื่อรอสกายกับสายฟ้าที่โทรมาบอกเมื่อช่วงเช้าว่าจะเข้ามาหา อลินตานั่งกินมะม่วงกับคีรันรออยู่ไม่นานคนที
สกายเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ที่โรงจอดรถของบ้านสายฟ้า เมื่อเขากำลังปิดประตูก็มีมือหนามาจับเอาไว้ไม่ให้สกายปิดประตูรถได้“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” สายฟ้าเอ่ยกับสกายด้วยน้ำเสียงเรียบ“ไปส่งทำไมครับผมเอารถมา” สรรพนามที่เรียกผมแทนชื่อตัวเองบ่งบอกว่าเจ้าตัวดูจะไม่พอใจเอามากๆ จนสายฟ้ารู้สึกเจ็บจื๊ดๆ ที่อกข้างซ้ายเสียอย่างนั้น“พี่ขอโทษครับ”“ขอโทษทำไมครับพี่ฟ้าไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย ปล่อยด้วยครับผมจะกลับบ้าน”“ให้พี่ไปส่งนะครับคนดี พี่ฟ้าขอโทษต่อไปนี้พี่ฟ้าจะไม่แกล้งหนูแล้ว” สายฟ้าพูดพร้อมจับที่ข้อมือของสกายพร้อมออกแรงดึงให้อีกฝ่ายลงมาจากรถ“พี่ฟ้าจะพาผมไปไหนครับ”“ไปหาแด๊ดกับแม่พี่ครับ” พูดจบก็ลากคนตัวเล็กเดินกลับเข้าไปในบ้าน พอดีกับคีรันและอล
คุณหมออนุญาตให้คีรันออกจากโรงพยาบาลได้แต่ก็ต้องกลับไปให้หมอล้างแผลและรักษาบาดแผลที่เหลือให้หายต่อ คีรันเลือกกลับมาฟื้นฟูร่างกายที่บ้านแทนคอนโดเพราะอลินตาเสนอจะมาดูแลเขาหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล แม้จะค้านแต่คุณแม่ท้องอ่อนก็ดื้อดึงที่จะมาคีรันไม่อยากให้อีกฝ่ายเดินเหินเยอะเพราะท้องอ่อนอยู่จึงเลือกมาที่บ้านดีกว่าเพราะที่บ้านยังมีแม่บ้านที่พอจะเรียกใช้ได้“ค่อยๆ เดินนะครับ” คนตัวเล็กบอกคนเจ็บที่กำลังช่วยกันพยุงตัวมานั่งที่เก้าอี้อยู่ที่สวนหน้าบ้านในยามเช้าของวัน“หนูทำไมไม่หาผ้ามาคลุมด้วยครับอากาศเย็นๆ แบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ”“เดี๋ยวลินให้พี่แป้งไปหยิบให้ก็ได้ครับ” อลินตาหันไปบอกกับพี่เลี้ยงที่ตามมาดูแลเขาที่นี่ตามคำสั่งของแด๊ดให้พี่แป้งไปหยิบผ้าคลุมมาให้ตามที่คีรันบอก เมื่อได้ผ้าคลุมตัวเองแล้วอลินตาก็ถูกคนตัวสูงบังคับให้ไปนั่งข้างๆ กันก่อนที่แขนแกร่งจะกอดเขาไว้แน่น&ldq
“ไม่จริง…พ่อโกหก พ่อพูดโกหกไอ้รันเป็นคนบอกผมเองว่าเกาะนั่นเป็นชื่อของมันไม่ใช่ชื่อผม ไม่จริง! พ่อโกหก พ่อโกหกผม!!!”ภายในห้องเงียบสงัดเมื่อสิ้นประโยคที่พายุตะโกนออกมาทั้งน้ำตา ขาทั้งสองข้างก็พลันทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างแรงตรงหน้าผู้เป็นบิดาที่ยืนน้ำตาไหลด้วยความเสียใจที่เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคนคนเดียว“พะ อึก พ่อโกหก”“ทุกอย่างที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด”“อึก”“ยอมรับผิดเถอะนะพายุเรื่องทุกอย่างจะได้ทุเลาลง”“ผะ ผมขอโทษ พ่อผมขอโทษ” ณรงค์เดินเข้าไปหาลูกชายพลางทรุดตัวนั่งคุกเข่าข้างเดียวลงกับพื้นพร้อมเอื้อมมือไปแตะลงบนไหล่อันสั่นเทาของลูกชาย“ฉันไม่เคยโกรธเคยเกลียดแกเลยเพราะแกเป็นล
"ถ้าหนูไม่พูดพี่ฟ้าจะไม่ใจดีแล้วนะครับ"“....” สกายนั่งนิ่งไม่แม้แต่จะเอ่ยอะไรใด ๆ ออกมาเมื่อได้ยินที่คนตัวสูงพูดแบบนั้น“หมดฤทธิ์แล้วเหรอครับ” สายฟ้าพูดยิ้มๆ โดยที่คนบนตักไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากำลังถูกเขาต้อนให้จนมุมอยู่“เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้กับผมสักทีครับ”“พี่ทำอะไรเหรอครับ”“ก็ที่ทำอยู่นี่ไงครับ ผมไม่อยากรู้สึกกับพี่ไปมากกว่านี้แล้วพี่ฟ้าปล่อยผมไปได้มั้ยครับแล้วผมสัญญาว่าจะไม่มาให้พี่ฟ้าเจอหน้าผมอีกเลย” คนพูดพยายามเก็บอาการไม่ให้อีกฝ่ายจับน้ำเสียงของเขาได้ว่ามันกำลังสั่นแค่ไหน“พูดเหมือนจะไปที่ไหนเลยนะครับ” สายฟ้าเอ่ยถามคนบนตัก“ผมกำลังจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ผมกำลังจะตัดใจจากพี่ฟ้าและไปเริ่มต้นใหม่ที
ช่วงสายของวันอลินตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวเล็กน้อยเพราะเมื่อวานร้องไห้ไปเยอะ เปลือกตาสีไข่กะพริบตาขึ้นลงเพื่อปรับสายตากับแสงแดดที่ส่องเข้ามาภายในห้อง ภาพตรงหน้าของเขาตอนนี้คือฝ้าเพดานสีขาวสว่างก่อนที่รอบดวงตาจะรู้สึกร้อนผะผ่าวขึ้นมา หยดน้ำตาร่วงรินไหลลงมาข้างหางตาพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้เบาๆเสียงเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับหมอและพยาบาลที่เข้ามาตรวจอาการของลิน สายฟ้าที่นอนหลับอยู่ที่โซฟาในห้องพักกับสกายก็สะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงหมอและพยาบาลพูดคุยกับคนไข้บนเตียง“ตอนนี้คนไข้ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วถ้ายังไงหมออยากให้คุณระวังตัวให้มากขึ้นด้วยนะครับเพื่อตัวคุณแล้วก็เด็กในท้องครับ”“ครับ?” คนป่วยที่นั่งอยู่บนเตียงนั่งมึนอยู่กับคำพูดของหมอเมื่อครู่เขาท้องอย่างนั้นเหรอ?“อะไรนะครับหมอ” สายฟ้าที่ได้ยินหมอพูดเมื่อกี้ก
ปัง!!เสียงปืนดังขึ้นมาจากทิศทางหน้าประตูห้องพร้อมกับการปรากฏร่างของสายฟ้ากับสกายและลูกน้อง ฝั่งของเสี่ยสิงห์เมื่อได้ยินเสียงปืนที่มาจากทิศทางอื่นลูกน้องก็รีบวิ่งไปคุ้มกันพร้อมทั้งยังพาไปหลบในมุมคีรันเมื่อเห็นว่าทุกคนวิ่งหาที่หลบก็รีบพาอลินตาวิ่งไปหาสายฟ้า“หลบ!” เสียงของสายฟ้าร้องขึ้นเมื่อเห็นพายุที่หลบอยู่หลังโซฟาตัวใหญ่เล็งปืนมาคีรัน คีรันดันให้คนรักก้มลงพร้อมทั้งใช้ตัวเองบังเอาไว้ ก่อนที่สายฟ้าจะส่งสัญญาณให้รีบวิ่งออกไปปัง!กระสุนจากพายุยิงมาโดนแขนของคีรันจนเลือดไหลย้อยลงมาตามแขนซึ่งเป็นช่วงที่ลูกน้องของสายฟ้ายิงสะกดพวกเสี่ยสิงห์เอาไว้ให้คีรันกับอลินตารีบหนีไปขณะที่กำลังจะวิ่งไปถึงหน้าลิฟต์ ประตูลิฟต์ก็เปิดออกพร้อมกับลูกน้องของเสี่ยสิงห์ที่ผู้เป็นนายเรียกให้ขึ้นม
คีรันตื่นขึ้นมาด้วยอาการเจ็บบริเวณท้ายทอยตรงที่โดนลูกน้องของเสี่ยสิงห์ใช้กระบอกปืนทุบเขา คีรันอยากจะเอื้อมมือไปจับตรงที่ปวดแต่ก็เหมือนจะยากยิ่งเพราะทั้งแขนและขาของเขาตอนนี้ถูกมัดติดกับเก้าอี้เอาไว้ดวงตาสีเปลือกไข่กะพริบตาถี่เพื่อปรับสายตาก่อนจะเห็นภาพเบื้องหน้าของตัวเอง เตียงนอนหลังใหญ่สีขาวตอนนี้มีร่างเล็กของอลินตานอนหลับอยู่พร้อมทั้งแขนทั้งสองข้างยังถูกมัดติดกันเอาไว้อีก“ฟื้นแล้วเหรอคุณคีรัน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอยู่เบื้องหลังของคีรัน พร้อมกับเสียงฝีเท้าของเสี่ยสิงห์เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างๆ เขา“ปล่อยเมียกู!” คีรันเอ่ยบอกคนที่ยืนอยู่ๆ ข้างๆ เขาด้วยน้ำเสียงเรียบโดยไม่ได้เกรงกลัวเลยสักนิดว่าตัวเองจะถูกอีกฝ่ายฆ่าทิ้ง“อ่า อย่าเพิ่งรีบร้อนสิครับ ผมยังไม่ได้เล่นอะไรสนุกๆ ให้คุณรันดูเลยนะครับ” ร่างสูงเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียงนอนหลังใหญ่ที่มีอลินต
คีรันก้าวเท้าลงมาจากรถหรูด้วยความเร็วก่อนจะโดนมือบางของใครบางคนคว้ารั้งเอาไว้ให้หยุดชะงักนิ่งอยู่กับที่ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่จับแขนตัวเอง“พี่รันอย่าเพิ่งไปครับ”และคนที่รั้งแขนของคีรันเอาไว้ก็คือสกายที่คีรันบอกให้รออยู่ที่โรงแรม“ทำไมไม่รออยู่ที่โรงแรมครับ” คีรันที่หันมาเห็นว่าใครเป็นคนคว้ารั้งตัวเขาเอาไว้ ก็หันมาเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจ“นี่ขิงเพื่อนของกายเองครับ พอดีขิงบอกว่าตอนนี้แฟนของขิงกำลังนั่งดื่มอยู่กับเสี่ยสิงห์อยู่บนชั้นสาม ซึ่งห้องนั้นกายจำได้ว่ามันเป็นกระจกคนคนในห้องอาจจะมองเห็นพี่รันได้ กายว่าพี่รันรออยู่ข้างนอกก่อนจะดีกว่านะครับ”“พี่รอไม่ได้ครับ”“งั้นพี่รันก็เข้าไปพร้อมกับกายแล้วก็ขิงนี่แหละครับส่วนลูกน้องของพี่รันก็ให้รออยู่ที่รถก่อน เพราะไม่งั้นลูกน้องของเสี่ยสิงห์ต้องสงสัยเราแน่ๆ ครับ” คีรันหันไปสั่งบิคให้รออยู่ด้านนอกแล้วตัวเขาก็เดินตามสกายเข้าไปด้านในดวงตาคมจ้องมองบรรยากาศภายในบ่อน สิ่งอบายมุขต่างๆ มีครบหมดทุกอย่างในที่แห่งนี้และสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดในวงการนี้คือการค้ามนุษย์ และที่นี่ก็มีเช่นพวกกระเป๋าหนักที่ชอบเรื่องนี้ก็จะมารวมตัวกันเพื่อประมูลคนสวยๆ งามๆ